Nanthawan Laithong

อีสานใต้เริ่ดคักหลาย ‘เซ็นทาราอุบล’ ชูอัตลักษณ์ท้องถิ่น บูมศก.ท่องเที่ยว ฮับไลฟ์สไตล์อีสานใต้

เคลื่อนทัพสร้างอาณาจักรมิกซ์ยูส “เซ็นทรัล อุบล” ที่มีเรือธงศูนย์การค้าเซ็นทรัลอุบล และ คอนโด ESCENT ปักหมุดเป็นแลนด์มาร์กศูนย์กลางแห่งการใช้ชีวิต สำหรับยักษ์ใหญ่อสังหาริมทรัพย์ครบวงจร “เซ็นทรัลพัฒนา” เดินหน้าขยายธุรกิจโรงแรม “เซ็นทารา อุบล” (Centara Ubon) จุดหมายปลายทางแห่งประสบการณ์การพักผ่อนและท่องเที่ยว หนึ่งในแม่เหล็กและจิ๊กซอว์สำคัญของ Hub of Lifestyle แห่งอีสานตอนใต้ กระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ภูมิ จิราธิวัฒน์ Head of Hotel Property บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวว่า การพัฒนาโรงแรม “เซ็นทารา อุบล” เป็นการเปิดมิติใหม่การท่องเที่ยวและพักผ่อนตอบโจทย์ทั้ง Business & Leisure ยกระดับไลฟ์สไตล์การพักผ่อนด้วยห้องพักหรู เอ็นจอยไนท์ไลฟ์ที่บาร์ TEENS OF THAILAND พร้อมจับมือกับ “Local Hero” ร้านกาแฟ GODFATHER ยกคาเฟ่สุดคูลแห่งอีสานมาไว้ถึงที่ นับเป็นการยกระดับเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และสร้างความสุขให้กับจังหวัดอุบลราชธานี รวมถึงนักเดินทางจากจังหวัดใกล้เคียงทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ อำนาจเจริญ และยโสธร และเพื่อนบ้านจากลาว และ เวียดนามอีกด้วย สุรางค์ จิรัฐิติกาลโชติ Head of Hotel Development กล่าวเสริมว่า โรงแรมเซ็นทารา อุบล จะเป็น Top of Mind Destination ของจังหวัดและศูนย์กลางของอีสานตอนใต้ เป็น “ห้องรับแขก” รอต้อนรับผู้คนทั้งในจังหวัดและประเทศเพื่อนบ้าน ด้วยการนำเอกลักษณ์ท้องถิ่นของจังหวัดอุบลและภาคอีสานมาร้อยเรียงเรื่องราวผ่านงานดีไซน์และงานศิลปะที่นำเสนอในพื้นที่และมุมต่างๆ ของโรงแรม ซึ่งได้มีการจัดวางผลงาน Art Piece ดึง Local Essence มานำเสนออย่างมีเอกลักษณ์ โดยมีโรงแรม “เซ็นทารา อุบล” จุดหมายปลายทางแบบ All-In-One ตอบโจทย์ทุกความต้องการของนักเดินทางทั้งสำหรับผู้ที่มาท่องเที่ยวพักผ่อนและติดต่อธุรกิจ เซ็นทารา อุบล ยังมีพื้นที่จัดงานในส่วนกลางของโรงแรม รวมถึงห้องประชุมและอบรมสัมนา และห้องแกรนด์บอลรูม รองรับการจัดงานประชุม สัมมนา งานแต่งงาน งานเลี้ยงสังสรรค์ อีกทั้งโดดเด่นและแตกต่างด้วยดีไซน์กลิ่นอายอุบลและอีสานซ่อนอยู่ในทุกมุม เริ่มจากการเลือกวัสดุและสีที่มีความเฉพาะตัวของ “ก้อนอิฐ” หนึ่งในวัสดุที่อยู่คู่กับสถาปัตยกรรมไทยมาช้านาน โดยเฉพาะในภาคอีสาน เกิดจากการนำดินแดงผสมกับแกลบเผาไฟเพื่อให้กลายเป็นก้อน เชื่อมประสานกันด้วยปูน มีความแข็งแรง และเรียงก่อเป็นรูปได้หลากหลาย ซึ่งก้อนอิฐทุกก้อนที่นำมาเรียงรังสรรค์เป็นเซ็นทารา อุบล ล้วนเป็นฝีมือของช่างพื้นเมืองทั้งสิ้น การตกแต่งโรงแรมเซ็นทารา อุบล เลือกใช้งานหัตถกรรมของชาวอุบลและชาวอีสาน อาทิ ผ้าฝ้ายและผ้าไหมลวดลายเฉพาะถิ่น โดยเฉพาะ “ลายกาบบัว” ลายผ้าเฉพาะของจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมงานจักรสานด้วยวัสดุจากธรรมชาติ และงานประติมากรรมอันโดดเด่น ที่ออกแบบให้เป็น Masterpiece หนึ่งเดียวในโลก เพื่อให้โรงแรมแห่งนี้มีกลิ่นอายของความเป็นชุมชนท้องถิ่นอย่างลงตัว …

อีสานใต้เริ่ดคักหลาย ‘เซ็นทาราอุบล’ ชูอัตลักษณ์ท้องถิ่น บูมศก.ท่องเที่ยว ฮับไลฟ์สไตล์อีสานใต้ อ่านเพิ่มเติม »

ชวนเบิ่ง อันดับธุรกิจที่มีมูลค่าจดทะเบียนใหม่เดือนมีนาคม 2566 เปลี่ยนไปส่ำใด๋แหน่จากเดือนก่อนหน้า

ประเภทของกิจการที่มีธุรกิจทุนจดทะเบียนจดทะเบียนใหม่ในอีสานมากที่สุดในเดือนนี้เปลี่ยนจากภาคการค้าเป็นภาคเกษตรกรรม การจดทะเบียนใหม่ภาคการเกษตรที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก มาจากการจัดตั้งฟาร์มไก่เนื้อขนาดใหญ่ในจังหวัดบุรีรัมย์เป็นหลัก คือ บริษัท ชูวิทย์ฟาร์ม (2019) จำกัด (มหาชน) โดยได้ทำการลงทุนเพียงบริษัทเดียว 580 ล้านบาท จาก 586 ล้านบาท หรือคิดเป็นอยู่ 95% ของมูลค่าเงินลงทุนประเภทการเกษตรในจังหวัดบุรีรัมย์ ในขณะที่การเพิ่มขึ้นของภาคการค้า เริ่มสะท้อนแนวโน้มการลงทุนภายนอกเขตเมืองมากขึ้น สะท้อนภาพการฟื้นตัวของกำลังชื้อในพื้นที่ของนอกเขตอำเภอเมือง โดยกลุ่มธุรกิจที่มีการใช้เงินจดทะเบียนใหม่ล่าสุดในภาคการค้า เป็นการค้าปลีกเป็นหลัก อ่านบทวิเคราะห์เพิ่มเติมได้ที่ https://isaninsight.kku.ac.th/outlook อ้างอิงจาก: กรมพัฒนาธุรกิจการค้า #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ธุรกิจจดทะเบียนใหม่ #มูลค่าจดทะเบียนใหม

พามาเบิ่ง มูลค่าจดทะเบียนใหม่เดือนมีนาคม 2566 ภาคอีสานเป็นจั่งใด๋แหน่

ธุรกิจจดทะเบียนใหม่ในอีสานยังอยู่ในจังหวัดหลักอย่างนครราชสีมาและขอนแก่นเป็นหลัก โดยประเภทของกิจการที่มีทุนจดทะเบียนมากที่สุดในเดือนนี้เปลี่ยนจากภาคการค้าเป็นภาคเกษตรกรรม และร้อยเอ็ดเป็นอันดับที่ 3 ของภาคที่มีมูลค่าทุนจดทะเบียนใหม่มากที่สุด จากการจดทะเบียนเพิ่มทุนของธุรกิจร้านทอง 3 ลำดับจังหวัดที่มีมูลค่าทุนจดทะเบียนนิติบุคคลใหม่มากที่สุดในภาคอีสาน อันดับที่ 1 ขอนแก่น โดยธุรกิจที่มีการจดทะเบียนมากที่สุด การก่อสร้างอาคารที่ไม่ใช่ที่พักอาศัย การก่อสร้างอาคารที่พักอาศัย การขายปลีกทางอินเทอร์เน็ต ร้านขายปลีกวัสดุก่อสร้าง อันดับที่ 2 นครราชสีมา โดยธุรกิจที่มีการจดทะเบียนมากที่สุด ร้านขายปลีกวัสดุก่อสร้าง การขายส่งปุ๋ยและเคมีภัณฑ์ทางการเกษตร กิจกรรมการให้เงินทุนนอกเหนือจากการให้กู้ยืมเงิน การบริการด้านเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์เป็นหลักในร้าน อันดับที่ 3 ร้อยเอ็ด โดยธุรกิจที่มีการจดทะเบียนมากที่สุด ร้านขายปลีกเครื่องประดับ การขายยานยนต์ใหม่ชนิดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลรถกระบะ รถตู้ และรถขนาดเล็กที่คล้ายกัน การให้สินเชื่อ ร้านขายวัสดุก่อสร้าง อ่านบทวิเคราะห์เพิ่มเติมได้ที่ https://isaninsight.kku.ac.th/outlook อ้างอิงจาก: กรมพัฒนาธุรกิจการค้า #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ทุนจดทะเบียนใหม่ #มูลค่าจดทะเบียนใหม่

พามาฮู้จัก มหาเศรษฐีอันดับ 2 แห่งภาคอีสาน อดิศักดิ์ และนาตยา ตั้งมิตรประชา สองผู้ก่อตั้ง “ดูโฮม” มหาเศรษฐีอันดับ 38 ของไทย

วันนี้ ISAN Insight & Outlook จะพามาทำความรู้จักมหาเศรษฐีอันดับ 2 ของภาคอีสาน ปี 2565 นี้ อดิศักดิ์ และคุณนาตยา ตั้งมิตรประชา สองผู้ก่อตั้ง “ดูโฮม” ติดอันดับ 38 ของตระกูลมหาเศรษฐีไทย ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 825 ล้านดอลลาร์ หรือ 29,714 ล้านบาท คุณอดิศักดิ์จบจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และในปี 2526 เขาและภรรยาได้มาเปิดห้องแถวเล็กๆ ในอำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ขายสินค้าวัสดุก่อสร้าง เช่น เหล็ก วัสดุมุงหลังคา ไม้อัด และเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ก่อนที่จะย้ายมาที่ อ.วารินชำราบ พัฒนาเป็นร้านค้าขนาดใหญ่ และจดทะเบียนจัดตั้งขึ้นภายใต้ชื่อบริษัท อุบลวัสดุ จำกัด หลังจากนั้นก็ขยายสาขาขนาดใหญ่ประมาณ 22,000 – 65,000 ตารางเมตร เข้าไปในจังหวัดใหญ่ๆ เช่น อุดรธานี ขอนแก่น เชียงใหม่ ค่อยๆรุกคืบมายังภาคกลาง ยึดหัวหาดในทำเลสำคัญล้อมรอบกรุงเทพฯ เช่น สมุทรสาคร ฉะเชิงเทรา นนทบุรี ปทุมธานี และพร้อมชนกับรายใหญ่ของธุรกิจวัสดุก่อสร้างอย่างจริงจังด้วยการเข้าไประดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เมื่อปี 2562 ก่อนจะบุกเปิดสาขาเล็กๆ พื้นที่เฉลี่ยต่อสาขาประมาณ 300 – 1,000 ตารางเมตร ภายใต้แบรนด์ Dohome ToGo ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ในพื้นที่ศูนย์การค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต และไฮเปอร์มาร์เก็ต ในปัจจุบัน บริษัทฯ มีสาขาที่เปิดดำเนินการแล้วทั้งสิ้น 17 สาขา และศูนย์กระจายสินค้า (Distribution Center) 1 แห่ง วิกฤตโควิดที่เกิดขึ้นทำให้คนหันมาดูแลซ่อมแซมบ้านมากขึ้น เป็นผลดีกับดูโฮม ด้วยยอดรายได้และผลกำไรที่เพิ่มขึ้น ทำให้ในปี 2564 อดิศักดิ์ยังวางแผนขยายสาขาขนาดใหญ่เพิ่มอีก 4 แห่ง ที่เปิดไปแล้วคือที่สาขาแหลมฉบัง และสาขาบ่อวิน ในจังหวัดชลบุรี อีก 2 สาขาที่ทยอยเปิดในขณะนั่น ได้แก่ สาขาอมตะนคร ชลบุรี ในไตรมาส 3/2564 และสาขาในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ในไตรมาส 4/2564 นโยบายในการเติบโตของดูโฮมที่ คุณอดิศักดิ์ วางไว้ และเป็นสโลแกนมาโดยตลอดคือ “ครบ ถูก ดี” และแนวคิดในการเพิ่มรายได้ของสินค้า Housebrand ซึ่งปัจจุบันมีมากกว่า 20,000 SKU เช่น เครื่องมือช่าง ฮาร์ดแวร์ ประตู-หน้าต่าง วัสดุปูพื้น ผนัง เกษตร สวน-อุปกรณ์ประปา …

พามาฮู้จัก มหาเศรษฐีอันดับ 2 แห่งภาคอีสาน อดิศักดิ์ และนาตยา ตั้งมิตรประชา สองผู้ก่อตั้ง “ดูโฮม” มหาเศรษฐีอันดับ 38 ของไทย อ่านเพิ่มเติม »

พามาฮู้จัก “อุบลซันฟลาวเวอร์” อาณาจักรผลิตและส่งไฟฟ้า อันดับ 1 ของภาคอีสาน

อุบลซันฟลาวเวอร์ เป็นผู้ผลิตแป้งมันสำปะหลังออร์แกนิกรายใหญ่ของโลก และเป็นผู้ผลิตแป้งฟลาวมันสำปะหลังออร์แกนิก Gluten-free รายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยโรงงานผลิตแป้งมันสำปะหลังคุณภาพดีภายใต้เครื่องหมายการค้า “อุบลซันฟลาวเวอร์” โดยผลิตแป้งมันสำปะหลังได้ 2 เกรด ได้แก่ เกรดอาหาร และเกรดอุตสาหกรรม มีกำลังการผลิตแป้ง 700 ตันต่อวัน โรงงานผลิตฟลาวมันสำปะหลังคุณภาพดีภายใต้เครื่องหมายการค้า “Tasuko” กำลังการผลิต 100 ตันต่อวัน อีกทั้งยัง เป็นผู้นำด้านการส่งออกแป้งมันสำปะหลังออร์แกนิคไปยังตลาดอเมริกา และยุโรปเป็นอันดับ 1 บริษัทฯ ประเดิมทุนครั้งแรกด้วยจำนวนเพียง 1 ล้านบาท ซึ่งในปัจจุบันมีการเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 1,440 ล้านบาท ปี 2561 มีรายได้รวม 70 ล้านบาท และมีกำไรรวม -1 ล้านบาท ปี 2562 มีรายได้รวม 108 ล้านบาท และมีกำไรรวม 36 ล้านบาท ปี 2563 มีรายได้รวม 190 ล้านบาท และมีกำไรรวม 1 ล้านบาท ปี 2564 มีรายได้รวม 2,432 ล้านบาท และมีกำไรรวม -15 ล้านบาท หากพิจารณาจากข้อมูลการเพิ่มทุนจดทะเบียน และรายได้รวม จะพบว่ามีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะรายได้จากปี 2563 ที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดจากหลักร้อยล้าน พุ่งไปสูงถึงหลักพันล้าน อย่างไรก็ตาม ในการทำธุรกิจต่าง ๆ ต้องมีการจัดการกับความเสี่ยงที่ต้องเจอให้เหมาะสม ซึ่งต้องทําการศึกษาและวิเคราะห์ความเป็นไปได้ในการลงทุน โดยพิจารณาพื้นที่ที่มีศักยภาพในเชิงเศรษฐกิจที่เหมาะสมให้สอดคล้องกับธุรกิจ อ้างอิงจาก: เว็บไซต์ของบริษัท กรมพัฒนาธุรกิจการค้า #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อุบลซันฟลาวเวอร์ #ธุรกิจผลิตและส่งไฟฟ้า #อุบลราชธานี #UBS

อีสานเริ่ดคักหลาย ศุภาลัยทุ่มเงิน 1,000 ล้าน ผุดปาล์มวิลล์ สันตพลชิงแชร์ จ.อุดรธานี

นายราชัย ปิยวาจานุสรณ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาคธุรกิจของจ.อุดรธานีมีทิศทางดีขึ้นมากเมื่อเทียบกับ 2-3 ปีก่อน อุดรฯ ยังคงมีความแข็งแกร่งในด้านการเป็นศูนย์การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางในการคมนาคมขนส่งและโลจิสติกส์ของภาคอีสานตอนบน ซึ่งในอนาคตจะพัฒนาไปสู่รถไฟความเร็วสูงสามารถเชื่อมโยงการค้าการลงทุนและการท่องเที่ยวไปยังประเทศในภูมิภาคลุ่มน้ำโขงได้อย่างสะดวก ขณะที่ความต้องการด้านอสังหาริมทรัพย์ของชาวอุดรฯและจังหวัดใกล้เคียงก็ยังคงขยายตัวไปในแนวโน้มที่ดี บริษัทจึงเดินหน้าปักหมุดโครงการใหม่ มูลค่า 1,000 ล้านบาทภายใต้โครงการ “ศุภาลัย ปาล์มวิลล์ สันตพล” ซึ่งเป็นโครงการที่ 8 ในจ.อุดรธานี ที่ประกอบด้วยบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ซีรีส์ล่าสุดสไตล์ Modern Tropical และบ้านแฝดรุ่นใหม่ ให้ลูกค้าได้เลือกสรรที่อยู่อาศัยได้ตรงใจกับการใช้ชีวิต “ศุภาลัย ปาล์มวิลล์ สันตพล” เชื่อมต่อทุกเส้นทางได้สะดวกสบายกว่าใคร ผ่านแนวคิด ‘Connect All Journeys Dignify All Perspective เชื่อมติดชีวิตทุกการเดินทาง สง่างามทุกมุมมอง’ กับทำเลศักยภาพใจกลางเมืองอุดรธานี ใกล้แหล่งช้อปปิ้ง สถานศึกษา แหล่งชุมชน อาทิ บิ๊กซี สันตพล, UD TOWN, เซ็นทรัลพลาซา อุดรธานี, มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี, โรงเรียนอุดรพิทยานุกูล และทุ่งศรีเมือง พร้อมทั้งทางเข้า-ออกสะดวกได้ 2 ทาง จากถนนเลี่ยงเมือง และถนนนิตโย อีกพื้นที่สำหรับคนไม่ชอบเปียก กับการจัดกิจกรรมตามวิถีไทย โดยเปิดให้สรงน้ำพระพุทธรูปจาก 9 วัดดังทั่วประเทศไทย และกิจกรรมก่อเจดีย์ทราย เป็นต้น ซึ่งประเมินจะมีกลุ่มคนเข้าร่วมงานกว่า 1 แสนคน สร้างเม็ดเงินสะพัดมากกว่า 100 ล้านบาทมากสุดในรอบ 3 ปี ซึ่งมีกลุ่มลูกค้าเข้ามาร่วมงานทั้งคนไทย และกลุ่มลูกค้าจากประเทศเพื่อนบ้านคือ ลาว เวียดนาม และจีน รวมถึงลูกค้าจากยุโรป ที่เดินทางข้ามประเทศมาร่วมงานเทศกาลสงกรานต์ในครั้งนี้เช่นกัน เติมเต็มทุกไลฟ์สไตล์แห่งการใช้ชีวิตบนพื้นที่โครงการ 42 ไร่ ที่มาพร้อมแบบ บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ซีรีส์ล่าสุดสไตล์ Modern Tropical ถึง 4 แบบ พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 162 – 261 ตร.ม. ขนาด 4 ห้องนอน 3-4 ห้องน้ำ 2-3 ที่จอดรถ และบ้านแฝด 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 126-151 ตร.ม. ขนาด 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน พร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการครบครัน …

อีสานเริ่ดคักหลาย ศุภาลัยทุ่มเงิน 1,000 ล้าน ผุดปาล์มวิลล์ สันตพลชิงแชร์ จ.อุดรธานี อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง 8 อันดับอาณาจักรผลิตและส่งไฟฟ้า แห่งภาคอีสาน .

จากกระแสค่าไฟแพงในช่วงนี้ มื้อนี้ ISAN Insight & Outlook สิพามาเบิ่งธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตและการส่งไฟฟ้าในภาคอีสาน ว่ามีบริษัทใด๋แหน่ อยู่จังหวัดใด๋ และมีรายได้ส่ำใด๋ อันดับที่ 1 อุบลซันฟลาวเวอร์ จำกัด จังหวัดอุบลราชธานี รายได้รวม 2,432 ล้านบาท อันดับที่ 2 ผลิตไฟฟ้าครบุรี จำกัด จังหวัดนครราชสีมา รายได้รวม 1,311 ล้านบาท อันดับที่ 3 เอราวัณ เพาเวอร์ จำกัด จังหวัดหนองบัวลำภู รายได้รวม 1,122 ล้านบาท อันดับที่ 4 บัวใหญ่ ไบโอ เพาเวอร์ จำกัด จังหวัดนครราชสีมา รายได้รวม 983 ล้านบาท อันดับที่ 5 แอ๊ดวานซ์ อะโกร เพาเวอร์ แพลนท์ จำกัด จังหวัดสุรินทร์ รายได้รวม 575 ล้านบาท อันดับที่ 6 ขอนแก่นกรีนพาวเวอร์ จำกัด จังหวัดขอนแก่น รายได้รวม 505 ล้านบาท อันดับที่ 7 บุรีรัมย์พลังงาน จำกัด จังหวัดบุรีรัมย์ รายได้รวม 497 ล้านบาท อันดับที่ 8 บุรีรัมย์เพาเวอร์ จำกัด จังหวัดบุรีรัมย์ รายได้รวม 491 ล้านบาท จะเห็นได้ว่า อันดับที่ 1 คือ “อุบลซันฟลาวเวอร์” ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มบริษัทอุบลไบโอเอทานอล โดยก๊าซชีวภาพที่บริษัทฯผลิตได้ส่วนหนึ่งจะนำไปผลิตไฟฟ้าขนาด 5.6 เมกะวัตต์ เพื่อใช้หมุนเวียนในโรงงานเพื่อลดต้นทุนการผลิต และผลิตกระแสไฟฟ้าขนาด 1.9 เมกะวัตต์ จำหน่ายให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่งสามารถช่วยเพิ่มรายได้ให้กับบริษัท อ้างอิงจาก: – CredenData – เว็บไซต์ของบริษัท #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อาณาจักรผลิตและส่งไฟฟ้า #ธุรกิจผลิตและส่งไฟฟ้า #ไฟฟ้า

พามาฮู้จัก มหาเศรษฐีแห่งภาคอีสาน วิทูร สุริยวนากุล มหาเศรษฐีอันดับ 31 ของไทย ผู้ก่อตั้งธุรกิจค้าปลีกวัสดุก่อสร้างรายใหญ่

วันนี้ ISAN Insight & Outlook จะพามาทำความรู้จักมหาเศรษฐีอันดับ 31 ของไทย และเป็นอันดับ 1 ของภาคอีสาน คุณวิทูร สุริยวนากุล เป็นชาวจังหวัดร้อยเอ็ดโดยกำเนิด ได้ถูกจัดให้อยู่ในบัญชี 50 บุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศไทยหลายปีซ้อน โดยในปี 2565 คุณวิทูรติดอันดับมหาเศรษฐีไทยอันดับที่ 31 โดยมีมูลค่าทรัพย์สิน 1,050 ล้านดอลลาร์ หรือ 37,817 ล้านบาท 25 ปีที่แล้ว อดีตนายช่างรับเหมาก่อสร้างแห่ง ร้อยเอ็ด เปลี่ยนแนวคิดการค้าวัสดุก่อสร้างแบบดั้งเดิมให้กลายเป็นห้างสรรพสินค้าที่สะดวกและให้ราคายุติธรรม จนธุรกิจค้าวัสดุก่อสร้างแนวใหม่ “โกลบอลเฮ้าส์” ได้กระจายโมเดลธุรกิจไปทั่วอีสาน โดยตั้งเป้ารุกสู่ทุกหัวเมืองของไทยและประเทศเพื่อนบ้าน เส้นทางของมหาเศรษฐีคนนี้มีความเป็นมาอย่างไร? คุณวิทูร สุริยวนากุล จบการศึกษาระดับปริญญาตรี วิศวกรรมโยธา จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และปริญญาโทบริหารธุรกิจมหาบัญฑิต (MBA) มหาวิทยาลัยขอนแก่น เดิมพื้นเพครอบครัวของนายวิทูรประกอบอาชีพค้าปลีก-ส่งอาหารสัตว์ หลังจากเรียนจบมหาวิทยาลัย เขาประกอบอาชีพวิศวกรและผู้รับเหมาก่อสร้าง ในปี 2531 คุณวิทูรได้ขยับขยายมาสร้างกิจการร้านขายสุขภัณฑ์และฮาร์ดแวร์ในชื่อ “ร้อยเอ็ดฟาร์ม” กระทั่งปี 2538 ที่วิทูรมองว่าร้านร้อยเอ็ดฟาร์มเริ่มมีการเติบโตชะลอลง ขณะเดียวกันก็เริ่มสังเกตเห็นห้างค้าปลีกแบบโมเดิร์นเทรด เช่น makro, Tesco Lotus เริ่มแพร่หลายไปตามหัวเมืองต่างจังหวัด และได้รับความนิยมมากขึ้นในหมู่ผู้บริโภค จึงเล็งเห็นว่าตนเองควรจะพัฒนาร้านให้ทันสมัย จากนั้นได้พัฒนาธุรกิจจากร้านค้าปลีกธรรมดาให้กลายเป็นร้านขายวัสดุก่อสร้างและของตกแต่งบ้านในรูปแบบโมเดิร์นเทรดเป็นแห่งแรกใน จังหวัดร้อยเอ็ด ด้วยเงินลงทุน 150 ล้านบาท ในปี 2540 ท่ามกลางความห่วงใยจากซัพพลายเออร์และสถาบันการเงินว่าเมืองไทยในยามนั้นกำลังเผชิญวิกฤตฟองสบู่แตก การตัดสินใจปักหมุดโกลบอลเฮ้าส์ร้านแรกในภาคอีสานนับเป็นอาวุธลับ เพราะขณะที่เกิดวิกฤตต้มยำกุ้ง ลูกจ้างจำนวนมากถูกให้ออกจากงานและบางส่วนบ่ายหน้าคืนมายังบ้านเกิดทางอีสานซึ่งไม่ได้รับผลกระทบทางลบจากค่าเงินบาทลอยตัว ในทางตรงข้ามราคาข้าวสารและราคาทองคำต่างพุ่งขึ้นเท่าตัว ส่งผลให้ผู้บริโภคมีกำลังซื้อสูงขึ้น โกลบอลเฮ้าส์ ร้อยเอ็ด มียอดขายทะลุมากกว่าเป้าไปถึง 1 ล้านบาทต่อเดือนภายในเวลา 3 เดือนเท่านั้น ทำให้ในปี 2541 รายได้ของบริษัทเติบโต 27% และปี 2542 เติบโตมากกว่า 30% จนกระทั่งปี 2552 คุณวิทูรนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เป็นครั้งแรกในนาม บริษัท สยามโกลบอลล์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) (GLOBAL) และปัจจุบันสามารถขยายสาขาภายในประเทศได้ 78 สาขา อีกทั้งยังมีบริษัทย่อยในประเทศกัมพูชา หลังจากนั้นได้ขยายไปยังลาวและเมียนมาร์ อ้างอิงจาก: Forbes Forbes Thailand #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #คุณวิทูร #สุริยวนากุล #มหาเศรษฐีแห่งภาคอีสาน #อันดับมหาเศรษฐีของไทย #โกลบอลเฮ้าส์

พาส่องเบิ่งศูนย์การค้า ยูดีทาวน์ จัด ‘สงกรานต์’ ที่ผ่านมาเล่นสาดน้ำในศูนย์การค้าสุดอะเมซิ่ง

สำรวจบรรยากาศเทศกาลสงกรานต์ 2566 ในพื้นที่ศูนย์การค้าต่างๆ ทั่วประเทศ ผู้ประกอบการต่างจัดงานในรูปแบบที่เปิดพื้นที่ให้เล่นน้ำสงกรานต์ พร้อมจัดกิจกรรมฟรีคอนเสิร์ตที่ทุกคนสามารถเข้าชมได้ และคอนเสิร์ตที่ต้องจ่ายตั๋วในการเข้าชม เพื่อร่วมกระตุ้นกลุ่มลูกค้าเข้ามาทำกิจกรรมและใช้จ่ายในพื้นที่ ขณะเดียวกันได้มีการจัดกิจกรรมสำหรับลูกค้าที่อยากหนีร้อนมาสัมผัสสงกรานต์ในศูนย์การค้าแบบไม่ต้องเปียก จึงมีการจัดให้มีพื้นที่สำหรับเสริมความมงคลสรงน้ำพระดังทั่วไทย เพิ่มความพลังความมูทุกพื้นที่ ทำให้บรรยากาศโดยรวมของศูนย์การค้าทั่วไทย ตั้งแต่การจัดงานวันที่ 13 เม.ย.จนถึงวันที่ 15 เม.ย. จึงมีความคึกคักมากสุดในรอบกว่า 3 ปี ศูนย์การค้า ยูดีทาวน์ จังหวัดอุดรธานี ไฮไลท์สำคัญของการจัดงานในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้จัดสงกรานต์เฟสใหญ่สุด “UDON SONGKRAN FESTIVAL 2023” เป็นการจัดงานผสมวัฒนธรรมอีสานและเทศกาลดนตรีไว้ด้วยกัน มีการจัดเทศกาลดนตรี EDM ที่ใหญ่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พร้อมดึงดีเจระดับโลกมาร่วมงานอาทิ Mike William ดีเจชื่อดัง จากเนเธอร์แลนด์, Gammer จากสหราชอาณาจักร, Bonka จากโคลอมเบีย และดีเจชั้นนำระดับประเทศ กว่า 40 ชีวิต รวมถึงศิลปินจากไทยวง Paradise Bangkok หมอลำอินเตอร์เนชั่นแนล เป็นต้น อีกพื้นที่สำหรับคนไม่ชอบเปียก กับการจัดกิจกรรมตามวิถีไทย โดยเปิดให้สรงน้ำพระพุทธรูปจาก 9 วัดดังทั่วประเทศไทย และกิจกรรมก่อเจดีย์ทราย เป็นต้น ซึ่งประเมินจะมีกลุ่มคนเข้าร่วมงานกว่า 1 แสนคน สร้างเม็ดเงินสะพัดมากกว่า 100 ล้านบาทมากสุดในรอบ 3 ปี ซึ่งมีกลุ่มลูกค้าเข้ามาร่วมงานทั้งคนไทย และกลุ่มลูกค้าจากประเทศเพื่อนบ้านคือ ลาว เวียดนาม และจีน รวมถึงลูกค้าจากยุโรป ที่เดินทางข้ามประเทศมาร่วมงานเทศกาลสงกรานต์ในครั้งนี้เช่นกัน “หลายคนอาจไม่รู้มาก่อนคืออุดรธานี อยู่ใกล้กับจังหวัดบึงกาฬ ซึ่งเป็นจังหวัดที่นักท่องเที่ยวชาวจีนนิยมมาขอพร โดยจะโดยสารเครื่องบินมาลงที่อุดรธานี ต่อไปที่บึงกาฬ ซึ่งกลุ่มชาวจีนให้ความสนใจเรื่องการไหว้ขอพรไม่แพ้คนไทย ทำให้สงกรานต์ในแต่ละปีที่อุดรธานีจะมีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางมาร่วมงานเช่นกัน” ​​อ้างอิงจาก: https://www.bangkokbiznews.com/business/1063247 #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์#อุดร #ยูดีทาวน์ #สงกรานต์อุดร #สงกรานต์

Scroll to Top