พามาสำรวจ ผ่านมา 10 ปี ชนกลุ่มน้อยที่ได้รับใบอนุญาตทำงานในอีสานเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว

การเปลี่ยนแปลงของชนกลุ่มน้อยในภาคอีสาน ความเคลื่อนไหวที่สะท้อนถึงภาคเศรษฐกิจ

.

ภาคอีสาน กำลังเดินหน้าเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงอย่างมากในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นด้านการลงทุนและการพัฒนาทางโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงการเพิ่มขึ้นของแรงงานชนกลุ่มน้อยที่เข้ามามีบทบาทสำคัญในเศรษฐกิจของภูมิภาค ตัวเลขล่าสุดเผยว่า จำนวนชนกลุ่มน้อยที่ได้รับใบอนุญาตทำงานทั่วประเทศเพิ่มขึ้นจากเพียง 10,882 คนในปี พ.ศ. 2558 เป็น 32,608 คนในปี พ.ศ. 2567 เพิ่มขึ้น 3 เท่า เฉพาะอีสานเพิ่มจาก 343 คน ในปี พ.ศ. 2588 มาเป็น 837 คน ในปัจจุบัน ซึ่งถือว่าเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลในระยะเวลาเพียง 10 ปี 

 

ชนกลุ่มน้อยในบริบทนี้ หมายถึงกลุ่มประชากรที่มีลักษณะทางชาติพันธุ์ ภาษา วัฒนธรรม หรือวิถีชีวิตที่แตกต่างจากคนส่วนใหญ่ในพื้นที่ และผู้ที่ไม่มีสัญชาติ พวกเขามักทำงานในอุตสาหกรรมที่ต้องใช้แรงงานเข้มข้น เช่น ภาคเกษตร อุตสาหกรรมการผลิต และบริการ ซึ่งล้วนเป็นส่วนสำคัญของเศรษฐกิจในภูมิภาคอีสาน

 

เมื่อพิจารณาตัวเลขสถิติ พบว่าในจังหวัดนครราชสีมา จำนวนชนกลุ่มน้อยที่ได้รับใบอนุญาตทำงานเพิ่มขึ้นจาก 252 คนในปี พ.ศ. 2558 เป็น 490 คนในปี พ.ศ. 2567 ส่วนจังหวัดขอนแก่นที่เคยมีเพียง 7 คนในปี พ.ศ. 2558 ก็เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดเป็น 107 คนในปี พ.ศ. 2567 ข้อมูลนี้ชี้ให้เห็นถึงสร้างเศรษฐกิจของอีสาน ที่ได้รับแรงผลักจากโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ เช่น โครงการรถไฟ การลงทุนในนิคมอุตสาหกรรม และการเติบโตของเมืองขนาดใหญ่ ทำให้แรงงานชนกลุ่มน้อยได้กลายเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ขับเคลื่อนการขยายตัวนี้ 

 

ข้อสังเกตุในการเพิ่มขึ้นของแรงงานชนลุ่มน้อยนอกจากจะสะท้อนถึงการขยายตัวของเศรษฐกิจของการจ้างงานในภาคอีสานแล้ว อาจตั้งข้อสังเกตุได้ว่าภาคอีสานของอาจกำลังขาดการพัฒนาในอุตสาหกรรมหนัก หรืออุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงอยู่หรือไม่ นี่เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจที่ควรถามกับภูมิภาคของเรา การตั้งคำถามในมุมต่างๆเช่นนี้จะช่วยให้นำไปสู่การพัฒนาที่ดีขึ้นได้

 

แต่อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้นของชนกลุ่มน้อยในตลาดแรงงานไม่ได้ปราศจากความท้าทาย การสร้างระบบที่สามารถตรวจสอบสถานะและคุ้มครองสิทธิแรงงานได้อย่างเหมาะสมจะช่วยลดความเสี่ยงจากการใช้แรงงานผิดกฎหมาย รวมถึงส่งเสริมให้แรงงานเหล่านี้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย  

 

ในอนาคตภาคอีสานจะยังคงเผชิญกับความต้องการแรงงานที่หลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคการเกษตร อุตสาหกรรม และบริการ รัฐบาลกับภาคเอกชนต้องร่วมมือกันวางแผนและดำเนินนโยบายที่ส่งเสริมความเท่าเทียมและการพัฒนาความสามารถของชนกลุ่มน้อยและแรงงานต่างด้าวอย่างเป็นระบบจะสามารถทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเราเติบโตได้อย่างยั่งยืน

 

เมื่องานที่ใช้แรงงานคนไทยไม่ทำหรือมีแรงงานไม่เพียงพอ

ในสถานการณ์ปัจจุบันไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย และอัตราการเกิดต่ำ และอาจขาดแรงงานในอนาคต

การที่ประเทศไทยรับแรงงานต่างด้าวและแรงงานชนกลุ่มน้อยเข้ามาทำงานมีทั้งผลดีและผลเสีย ซึ่งสามารถสรุปได้ดังนี้:

ผลดี:

  • ช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน: ในปัจจุบันประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย ทำให้อัตราการเกิดลดลงและขาดแคลนแรงงานในหลายภาคส่วน โดยเฉพาะงานที่ต้องใช้ทักษะต่ำและงานหนัก การรับแรงงานต่างด้าวและชนกลุ่มน้อยเข้ามาทำงานจะช่วยเติมเต็มช่องว่างนี้ได้
  • ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ: แรงงานต่างด้าวและชนกลุ่มน้อยมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรม การก่อสร้าง การเกษตร และการบริการ พวกเขาช่วยให้ภาคธุรกิจเหล่านี้ดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ
  • เพิ่มความหลากหลายทางวัฒนธรรม: การมีแรงงานต่างด้าวและชนกลุ่มน้อยเข้ามาทำงานในประเทศไทย ทำให้เกิดความหลากหลายทางวัฒนธรรม ซึ่งอาจนำไปสู่การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวัฒนธรรมและภูมิปัญญาที่เป็นประโยชน์

ผลเสีย:

  • ผลกระทบต่อตลาดแรงงาน: การเข้ามาของแรงงานต่างด้าวและชนกลุ่มน้อยจำนวนมาก อาจส่งผลกระทบต่อตลาดแรงงานของคนไทย โดยเฉพาะกลุ่มแรงงานที่มีทักษะต่ำ อาจมีการแข่งขันด้านค่าจ้างที่สูงขึ้น หรืออาจถูกแย่งงาน
  • ปัญหาทางสังคม: การเข้ามาของแรงงานต่างด้าวและชนกลุ่มน้อยอาจนำไปสู่ปัญหาทางสังคม เช่น ปัญหาการหลบหนีเข้าเมือง ปัญหาการค้ามนุษย์ ปัญหาการเลือกปฏิบัติ และปัญหาความขัดแย้งทางวัฒนธรรม
  • ผลกระทบต่อความมั่นคง: การเข้ามาของแรงงานต่างด้าวและชนกลุ่มน้อยจำนวนมาก อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศได้ หากไม่มีการบริหารจัดการที่ดี อาจเกิดปัญหาอาชญากรรม หรือปัญหาความมั่นคงอื่น ๆ ตามมา

แนวทางการแก้ไข:

  • การบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวอย่างเป็นระบบ: รัฐบาลควรมีนโยบายและมาตรการที่ชัดเจนในการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวและชนกลุ่มน้อย เช่น การขึ้นทะเบียน การตรวจสอบ การควบคุม และการให้สิทธิและสวัสดิการที่เหมาะสม
  • การส่งเสริมการพัฒนาทักษะแรงงานไทย: รัฐบาลควรให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะของแรงงานไทย เพื่อให้แรงงานไทยมีทักษะที่สูงขึ้นและสามารถแข่งขันกับแรงงานต่างด้าวได้
  • การสร้างความเข้าใจและยอมรับ: รัฐบาลและสังคมควรส่งเสริมความเข้าใจและความยอมรับในความหลากหลายทางวัฒนธรรม เพื่อลดปัญหาการเลือกปฏิบัติและความขัดแย้งทางวัฒนธรรม

การรับแรงงานต่างด้าวและชนกลุ่มน้อยเข้ามาทำงานในประเทศไทยเป็นเรื่องที่มีทั้งผลดีและผลเสีย การแก้ไขปัญหาและใช้ประโยชน์จากแรงงานเหล่านี้อย่างมีประสิทธิภาพ จะต้องมีนโยบายและการบริหารจัดการที่ดี รวมถึงความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในสังคม

พามาเบิ่ง🧐 “แรงงานต่างด้าวในอีสาน มีมากแค่ไหน”👨‍🎓

หมายเหตุ: 1. ข้อมูลเดือน พฤศจิกายน ปี 2558, 2563 และ 2567

  1. แรงงานชนกลุ่มน้อยเป็นหนึ่งในแรงงานต่างด้าวข้อมูลนี้ไม่ได้แสดงถึงแรงงานต่างด้าวทั้งหมด
  2. ชนกลุ่มน้อย หมายถึง กลุ่มชาติพันธุ์ที่ยังไม่ได้สัญชาติ
  3. ภาคกลาง รวมสถิติของ กรุงเทพฯและปริมณฑล ด้วย

ที่มา:  สำนักงานบริหารแรงงานต่างด้าว

ติดตาม ISAN Insight & Outlook ทุกช่องทางได้ที่

https://linktr.ee/isan.insight

 

#ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ISAN #อีสานอินไซต์ #Business #Economy #ธุรกิจ #เศรษฐกิจ #ธุรกิจอีสาน #เศรษฐกิจอีสาน #ชาติพันธุ์ #คนอีสาน #ชนกลุ่มน้อย #แรงงานต่างด้าว #แรงงานอีสาน

Leave a Comment

Your email address will not be published.

Scroll to Top