April 2025

‘โดนแฮก’ ไปรษณีย์ไทย ยอมรับ ข้อมูลผู้ใช้ 19 ล้านรายหลุดจริง มีทั้งชื่อ เบอร์ อีเมล และข้อมูลในระบบ CRM

ไปรษณีย์ไทยชี้แจงกรณีพบมีผู้ละเมิดข้อมูลผู้ใช้บริการโดยไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับธุรกรรมการเงิน ไปรษณีย์ไทยออกมายอมรับว่าข้อมูลรั่วไหล หลังจากแฮกเกอร์ประกาศขายข้อมูลบน BreachForum เมื่อวันเสาร์ 29 มีนาคมที่ผ่านมา ข้อมูลที่คนร้ายประกาศขาย มีทั้งหมด 19 ล้านรายการ น่าจะเป็นข้อมูลระบบ CRM โดยระบุ ชื่อ, นามสกุล, อีเมล, วันเกิด, ข้อมูลติดต่อ, สาขาที่ใช้บริการบ่อย, คะแนนสะสม, ข้อมูลการใช้บริการ ทางไปรษณีย์ไทยระบุว่าได้ปิดช่องทางเข้าถึงข้อมูลนี้ จากนั้นแจ้งสำนักงานคณะกรรมการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) และสำนักงานคณะกรรมการข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) ตลอดจนดำเนินการทางด้านกฎหมายแล้ว   บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด โพสต์ได้ระบุว่า “บริษัท ไปรษณีย์ ไทย จำกัด ตรวจพบการเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้บริการ ประกอบด้วย ชื่อ – นามสกุล ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล โดยไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับธุรกรรมการเงินใดๆ และนำไปเผยแพร่อยู่บน Dark Web ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ดังกล่าวไปรษณีย์ไทยขออภัยและได้ดำเนินการ ปิดช่องทางการเข้าถึงข้อมูลทันที พร้อมคุมเข้มยกระดับมาตรการการเก็บรักษาข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้บริการ รวมถึงได้ประสานความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) และสำนักงานคณะกรรมการข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) เพื่อรายงานและร่วมดำเนินมาตรการป้องกันอย่างรัดกุม พร้อมทั้งมีการดำเนินการทางด้านกฎหมายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไปรษณีย์ไทยให้ความสำคัญสูงสุดกับมาตรฐานความปลอดภัยของข้อมูลผู้ใช้บริการ โดยจะทำการตรวจสอบระบบความปลอดภัยของฐานข้อมูลผู้ใช้บริการอย่างเข้มงวด ครอบคลุมและต่อเนื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้อีกในอนาคต ทั้งนี้ หากผู้ใช้บริการพบปัญหาหรือมีข้อสงสัยสามารถ ติดต่อได้ที่ THP Contact Center 1545” โดยเบื้องต้นมีการค้นพบการขายข้อมูลที่หลุดจาก ไปรษณีย์ไทย ที่ BreachForums ซึ่งเป็น dark web บริการและขายข้อมูล ใน Hidden Service     กฎหมาย PDPA ระบุผู้บริโภคมีสิทธิ์ฟ้องได้  ตามกฎหมายแล้ว เมื่อมีข้อมูลรั่วไหล กระทบสิทธิเสรีภาพ ต้องแจ้งให้ #ผู้บริโภค ทราบภายใน 72 ชั่วโมง และหากเกิดความเสียหาย ผู้บริโภคต้องได้รับการเยียวยา | ใครที่ได้รับผลกระทบจากกรณีข้อมูลรั่วไหล ร้องเรียนได้ที่ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) หรือปรึกษา – ร้องเรียนมาที่ สภาองค์กรของผู้บริโภค #สภาผู้บริโภค โทร 1502  อย่าอ้างว่า…โดนแฮ็ก ข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหล องค์กรที่ทำข้อมูลหลุดต้องแสดงความรับผิดชอบ กฎหมาย PDPA ต้องบังคับใช้จริง   ทางด้าน ดร. อุดมธิปก ไพรเกษตร ผู้ก่อตั้งสื่อ PDPA Thailand กล่าวว่า “ฟ้องได้เลยตาม พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 สามารถไปที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคศ.) แต่กฎหมายยังมีอุปสรรคว่ายังเปิดให้ร้องเรียนเป็นรายบุคคลไป การร้องเรียนแบบกลุ่มยังไม่มี แต่นอกจากช่องทางนี้ ยังสามารถฟ้องอาญาได้ […]

‘โดนแฮก’ ไปรษณีย์ไทย ยอมรับ ข้อมูลผู้ใช้ 19 ล้านรายหลุดจริง มีทั้งชื่อ เบอร์ อีเมล และข้อมูลในระบบ CRM อ่านเพิ่มเติม »

‘เครือซีคอน’ เตรียมบุก ‘เซ็นทรัลอุดรฯ’ เปิดสวนสนุก “โยโย่แลนด์” พื้นที่ความสุขของครอบครัว สวนสนุกในร่มที่ใหญ่ที่สุดในแดนอีสาน

เครือซีคอน เตรียมบุก อุดรฯ เปิดสวนสนุกที่ใหญ่ที่สุดในอีสาน ณ เซ็นทรัล อุดรฯ หลายคนอาจจะคุ้นชื่อกับ “ซีคอน” แบรนด์ที่เป็นที่รู้จักในฐานะผู้สร้างสรรค์ความสุขและความสะดวกสบายให้กับคนไทยมาอย่างยาวนาน ธุรกิจของ เครือซีคอน ขยายเติบโตไปหลายหลากสาขธุรกิจ เริ่มต้นจากธุรกิจก่อสร้างที่มั่นคง ก่อนจะขยายอาณาจักรของตนเองไปยังธุรกิจที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้าที่คุ้นเคยของชาวไทยอย่าง ศูนย์การค้าซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์, โยโย่แลนด์ สวนสนุกที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ, รองเท้านันยาง ที่นักเรียนทุกคนต้องรู้จัก, และแม้แต่ผงชูรสที่ช่วยเพิ่มรสชาติให้กับอาหารอย่างผงชูรสตราชฎา แต่สิ่งที่ทำให้ “เครือซีคอน” โดดเด่นไม่เหมือนใคร คือความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้กับลูกค้า ไม่เพียงแค่การแสวงหาผลกำไร แต่เป็นการสร้างคุณค่าให้กับสังคม และในวันนี้ “เครือซีคอน” กำลังจะเดินทางไปยังจังหวัดอุดรธานี ดินแดนที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมและธรรมชาติที่สวยงาม พวกเขาตั้งใจที่จะนำความสุขและความสนุกสนานไปสู่ชาวอีสาน โดยการเปิดตัวสวนสนุก “โยโย่แลนด์” สวนสนุกแห่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่สถานที่พักผ่อนหย่อนใจ แต่เป็นแหล่งแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของชาวอุดรธานีอีกด้วย การเดินทางครั้งนี้เต็มไปด้วยความท้าทาย จะสามารถสร้าง “โยโย่แลนด์” ให้กลายเป็นสถานที่ที่สร้างความสุขและความทรงจำที่ดีให้กับชาวอุดรธานีและผู้มาเยือนจากทั่วทุกสารทิศ ISAN Insight พามาเบิ่ง สวนสนุกโยโย่แลนด์ พื้นที่ความสุขของครอบครัวสู่แดนอีสาน สวนสนุกโยโย่แลนด์ เป็นสวนสนุกที่อยู่ภายใต้การดูแลของ บริษัท ซีคอน ดีลเวลลอปเม้น จำกัด มหาชน เป็นสวนสนุกในร่มที่เปิดให้บริการมายาวนาน โดยตั้งอยู่ภายใน ศูนย์การค้าซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ ให้บริการความสนุกแก่เด็กๆ และครอบครัวมายาวนานถึง 30 ปี เดิมทีสวนสนุกโยโย่แลนด์ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อให้เป็นจุดดึงดูดให้ครอบครัวได้มาทำกิจกรรมร่วมกันในพื้นที่ของตัวห้าง สวนสนุกโยโย่แลนด์ให้ความสำคัญกับการเป็นพื้นที่แห่งความสุขและการเรียนรู้สำหรับเด็ก ๆ โดยมีเครื่องเล่น และโซนกิจกรรมที่ออกแบบให้เหมาะสำหรับเด็กอายุ 3-12 ปีและครอบครัวพัฒนาการของสวนสนุกโยโย่แลนด์ ยุคแรกเริ่ม: เปิดตัวเป็นสวนสนุกแบบ OUTDOOR ขนาดใหญ่ มีเครื่องเล่น มีเวทีทำการสำแสดงเปิดพื้นที่ให้เด็กๆ ได้มาโชว์ความสามารถ ปรับโซนสวนสนุกจาก OUTDOOR เป็น INDOOR และเครื่องเล่น: มีการเพิ่มเครื่องเล่นหลากหลาย ประเภท เช่น รถไฟเหาะ, บั๊มเปอร์คาร์, บ้านผีสิง และเครื่องเล่นแนวผจญภัย ฉลองครบรอบ 30 ปี : มีการปรับภาพลักษณ์และแนวคิดสวนสนุกให้ทันสมัยมากขึ้น โดยเน้นการสร้างประสบการณ์ที่ทำให้ครอบครัวได้ใช้เวลาร่วมกันอย่างมีคุณค่า ทำไม โยโย่แลนด์ ถึงเลือก อุดรฯ เป็นหมุดหมายแรกในการลงทุนในอีสาน อุดรธานีตั้งอยู่ในภาคอีสานตอนบน และมีเขตติดต่อกับจังหวัดชายแดนลุ่มแม่น้ำโขง ซึ่งถือว่าใกล้กับประเทศลาว อีกทั้งอุดรธานี ยังเป็นจังหวัดที่สามารถเดินทางได้สะดวก ทั้งทางถนน ราง และทางเครื่องบิน จึงถือว่ามีศักยภาพสูงในการเป็นศูนย์กลางคมนาคมเชื่อมโยงกับกลุ่มประเทศอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง โดยเฉพาะการลงทุนจากภาครัฐในโครงการ “รถไฟความเร็วสูงสายแรกของไทย กรุงเทพฯ – โคราช – หนองคาย” โครงการรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ – หนองคาย ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง แบ่งออกเป็นทั้งหมด 2 ระยะด้วยกัน ระยะที่ 1 กรุงเทพฯ – นครราชสีมา ระยะทางประมาณ 253

‘เครือซีคอน’ เตรียมบุก ‘เซ็นทรัลอุดรฯ’ เปิดสวนสนุก “โยโย่แลนด์” พื้นที่ความสุขของครอบครัว สวนสนุกในร่มที่ใหญ่ที่สุดในแดนอีสาน อ่านเพิ่มเติม »

แม่น้ำชี จากเส้นเลือดใหญ่ของภาคอีสาน สู่ความเปลี่ยนแปลงหลังการสร้างเขื่อน

หากจะกล่าวถึง สายน้ำหลักที่หล่อเลี้ยงผู้คนในดินแดนอีสาน ก็คงหมายถึง น้ำโขง น้ำชี น้ำมูล แม่น้ำสายดังกล่าวนี้ ทำให้เกิดลุ่มน้ำที่มีความอุดมสมบูรณ์ และเป็น 3 ลุ่มน้ำหลักในอีสาน โดยเฉพาะ“ลุ่มน้ำชี” ซึ่งมีพื้นที่กว่า 49,000 ตารางกิโลเมตร ประกอบด้วย 27 ลุ่มน้ำสาขา มีพื้นที่ต้นน้ำอยู่ใน จ.ชัยภูมิ และเป็นหนึ่งในแม่น้ำสำคัญที่จะไหลไปรวมกับแม่น้ำมูล และส่งสู่แม่น้ำโขงที่ จังหวัดอุบลราชธานี แม่น้ำชี มาจากภาษาอีสาน ซึ่งคำว่า “ซี” ซึ่งหมายถึงการเจาะทะลุเป็นรู โดยลักษณะต้นกำเนิดของน้ำชีนั้น มีสายน้ำที่ไหลผ่านลอดใต้เทือกเขาหินปูน ที่เรียกว่า “ซีดั้น” และไหลทะลุลอดผ่านมาอีกฝั่งหนึ่งของเทือกเขา เรียกว่า “ซีผุด” จึงทำให้เรียกลำน้ำสายนี้ ตามลักษณะพิเศษที่ลำน้ำไหลซีลอดผ่านใต้เทือกเขานั้นว่า “ลำน้ำซี” ในภาษาถิ่น หรือ ลำนำชี ในภาษากลาง นั่นเอง   ต้นกำเนิด “แม่น้ำชี” แม่น้ำชี มีต้นกำเนิดจากที่ราบด้านตะวันออกของเทือกเขาเพชรบูรณ์ นับตั้งแต่เขาสันปันน้ำ เขาแปปันน้ำ เขาเสลียงตาถาด เขาอุ้มน้ำ เขายอดชี เขาครอก จนถึงเขาเทวดา ซึ่งเป็นแนวภูเขาชายเขตแดนด้านตะวันตกเฉียงเหนือของจังหวัดชัยภูมิ พามาเบิ่ง 5  แนวเทือกเขาในภาคอีสาน แม่น้ำชี มีต้นกำเนิดอยู่ในพื้นที่เขตอำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ ไหลผ่าน 9 จังหวัดในภาคอีสาน ได้แก่ จังหวัดชัยภูมิ จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดขอนแก่น จังหวัดมหาสารคาม จังหวัดกาฬสินธุ์ จังหวัดร้อยเอ็ด จังหวัดยโสธร จังหวัดศรีสะเกษ และไหลไปรวมกับแม่น้ำมูลที่บ้านวังยาง ตำบลบุ่งหวาย อำเภอวารินชำราบ ที่จังหวัดอุบลราชธานี โดยมีความยาวกว่า 765 กิโลเมตร แม่น้ำชี จึงถูกยกให้เป็นแม่น้ำที่ยาวที่สุดในประเทศไทย มีลำน้ำสาขาหลัก 5 ลำน้ำ ซึ่งประกอบไปด้วย ลำน้ำพรม ลำน้ำพอง ลำน้ำเซิน ลำน้ำปาว และลำน้ำยัง ลุ่มน้ำชี มีพื้นที่ลุ่มน้ำประมาณ 49,130 ตร.กม. หรือ 30,706,169 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 9.56 ของพื้นที่ทั้ง ประเทศ ลุ่มน้ำชียังมีลุ่มน้ำสาขาย่อยที่กระจายอยู่ในพื้นที่ภาคอีสาน หล่อเลี้ยงชุมชน ทำให้เกิดวีถีชีวิตการดำรงชีพการใช้ประโยชน์จากลุ่มน้ำชี โดยสาขาย่อยของลุ่มน้ำชี ประกอบไปด้วย ลุ่มน้ำสาขาลำน้ำชีตอนบน มีพื้นที่ลุ่มน้ำ 2,551 ตร.กม. หรือ 1,594,250 ไร่ ลุ่มน้ำสาขาลำสะพุง มีพื้นที่ลุ่มน้ำ 742 ตร.กม. หรือ 463,944 ไร่ ลุ่มน้ำสาขาลำกระจวน มีพื้นที่ลุ่มน้ำ 893 ตร.กม. หรือ 558,556 ไร่ ลุ่มน้ำสาขาลำคันฉู

แม่น้ำชี จากเส้นเลือดใหญ่ของภาคอีสาน สู่ความเปลี่ยนแปลงหลังการสร้างเขื่อน อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง🧐ระดับความสูงของระดับน้ำทะเลของภาคอีสาน ทำไม อีสาน ถึงถูกเรียกว่า ดินแดนแห่งที่ราบสูง?

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ภาคอีสาน” มีลักษณะภูมิประเทศที่โดดเด่นและแตกต่างจากภูมิภาคอื่นของประเทศ หนึ่งในคำเรียกขานที่คุ้นหูคือ “ดินแดนที่ราบสูง” ซึ่งสะท้อนถึงลักษณะทางภูมิศาสตร์ของภูมิภาคนี้. ภาคอีสานมีลักษณะเป็นที่ราบสูงขนาดใหญ่ ครอบคลุมพื้นที่กว่า 168,854 ตารางกิโลเมตร ลักษณะเด่นคือมีแอ่งขนาดใหญ่ 2 แอ่ง ได้แก่ แอ่งโคราช ครอบคลุมพื้นที่ทางตอนล่างของอีสาน เช่น นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ขอนแก่น และมหาสารคาม แอ่งสกลนคร ครอบคลุมพื้นที่ทางตอนบนของอีสาน เช่น อุดรธานี หนองคาย สกลนคร นครพนม และกาฬสินธุ์. จุดสูงสุดของภาคอีสาน หากพูดถึงพื้นที่ที่สูงที่สุดของภาคอีสาน มีสองจุดที่น่าสนใจ ได้แก่ “ภูหมันขาว” (1,820 เมตร) ตั้งอยู่ในจังหวัดเลย เป็นจุดสูงสุดของภูมิภาค มีทัศนียภาพที่งดงามและเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาเพชรบูรณ์ “ภูลมโล” (1,664 เมตร) ตั้งอยู่บริเวณรอยต่อระหว่างจังหวัดเลยและพิษณุโลก เป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังที่เต็มไปด้วยต้นนางพญาเสือโคร่งหรือซากุระเมืองไทย ยอดภูขวาง ป่าภูหลวง จังหวัดเลย ความสูง 1,571 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล เนิน 1408 จังหวัดเลย ความสูง 1,408 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล. จุดต่ำสุดของอีสาน อำเภอเขื่องใน และอำเภอเมืองอุบลราชธานี ความสูงประมาณ 110-130 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ทุ่งกุลาร้องไห้ ความสูงประมาณ 110-140 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ซึ่งพื้นที่ ลุ่มแม่น้ำมูล หรือ ทุ่งกุลาร้องไห้ เป็นทุ่งกว้างใหญ่ของภาคอีสาน มีเนื้อที่ประมาณ 847,000 ไร่ มีอาณาเขตครอบคลุมถึง 5 จังหวัด คือ ในแนวทิศเหนือนั้นครอบคลุมอำเภอปทุมรัตต์ อำเภอเกษตรวิสัย อำเภอสุวรรณภูมิ และอำเภอโพนทราย ของจังหวัดร้อยเอ็ด . . ภูมิศาสตร์กายภาพ ภาคอีสานเป็นที่ราบสูงแบบแอ่งแผ่นดินตื้น (Shallow Basin) เรียกกันโดยรวมว่า ที่ราบสูงโคราช(Khorat Plateau) มีรูปร่างคล้ายถ้วยเป็นแอ่งอยู่ตรงกลาง ลาดเอียงจากทางตะวันตกไปทางตะวันออก บริเวณชายขอบเป็นภูเขาสูง พื้นที่ส่วนใหญ่ปกคลุมด้วยหิน มีชั้นหินกรวดมน หินดินดาน และเกลือหิน แทรกอยู่เป็นตอนๆ จากลักษณะทางธรณีวิทยาและอายุของหิน ทำให้ทราบว่าแผ่นดินอีสานอยู่ในช่วงตอนปลายของมหายุคเมโสโซอิก ที่ราบสูงแห่งนี้เป็นที่ราบสูงขนาดใหญ่ของทวีปเป็นแอ่งทีมีการทับถมของตะกอน บางช่วงได้ยุบจมลง เป็นทะเลตื้น ๆ และเมื่อน้ำทะเลระเหย จึงตกตะกอนเป็นชั้นของเกลือหินแทรกอยู่ทั่วทั้งบริเวณที่ราบต่อมาในมหายุคซีโนโซอิก เกิดการบีบตัวของเปลือกโลกทำให้เกิดรอยเลื่อนของเปลือกโลกขึ้นทางด้านตะวันตกและด้านใต้ของภาค เป็นเทือกเขาเพชรบูรณ์ ดงพญาเย็น สันกำแพง และพนมดงรัก ขณะเดียวกันตอนกลางของที่ราบก็เกิดการโค้งตัวขึ้นเป็นสัน จากทิศตะวันตกเฉียงเหนือไปยังทิศตะวันออกเฉียงใต้ เป็นเทือกเขาภูพานแบ่งแอ่งที่ราบต่ำตอนกลางของภาคออกเป็น 2 ส่วน ส่วนที่อยู่ตอนเหนือเรียกว่า “แอ่งสกลนคร” ส่วนที่อยู่ทางใต้เรียกว่า “แอ่งโคราช”. 1.แอ่งโคราช พื้นที่ราบเป็นแอ่งแผ่นดินขนาดใหญ่

พามาเบิ่ง🧐ระดับความสูงของระดับน้ำทะเลของภาคอีสาน ทำไม อีสาน ถึงถูกเรียกว่า ดินแดนแห่งที่ราบสูง? อ่านเพิ่มเติม »

พาย้อนเบิ่ง สถิติแผ่นดินไหวใหญ่รอบประเทศไทย ในช่วง 125 ปีที่ผ่านมา

แผ่นดินไหวเป็นภัยธรรมชาติที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อโครงสร้างพื้นฐาน เศรษฐกิจ และการดำเนินธุรกิจในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงและทางอ้อม จากข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับแผ่นดินไหวขนาด 8.2 ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 และข้อมูลทางสถิติแผ่นดินไหวในช่วง 125 ปีที่ผ่านมา  พบว่าประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้านต้องเผชิญกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ   จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวดันกล่าวส่งผลให้ประเทศไทยได้รับผลกระทบจากแรงสั่นสะเทือนรุนแรง โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ และเชียงใหม่ ก่อให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินจำนวนมาก ศูนย์วิจัยกสิกรไทย (KResearch) ประเมินความเสียหายเบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านบาท ซึ่งกระทบกิจกรรมทางเศรษฐกิจอย่างชัดเจน มาจากการหยุดชะงักหรือเลื่อนกิจกรรมทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะผลกระทบต่อภาคบริการและภาคอสังหาริมทรัพย์   นอกจากนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย (KResearch) มองว่าตลาดนักท่องเที่ยวเป็นอีกกลุ่มที่มีความเสี่ยงในระยะสั้นเพิ่มขึ้น และอาจมีการทบทวนประมาณการใหม่อีกครั้ง     ผลกระทบต่อโครงสร้างพื้นฐานและอสังหาริมทรัพย์ หนึ่งในผลกระทบหลักของแผ่นดินไหวคือความเสียหายต่ออาคาร บ้านเรือน โครงสร้างพื้นฐาน และเส้นทางคมนาคม โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง หากแผ่นดินไหวรุนแรงพอ อาจทำให้ตึกสูงหรือโครงสร้างเก่าแก่ถล่มลงมา ซึ่งนำไปสู่ต้นทุนการซ่อมแซมและการฟื้นฟูที่สูงขึ้น อุตสาหกรรมก่อสร้างและวัสดุก่อสร้างจะได้รับผลกระทบทั้งในด้านลบและด้านบวก โดยบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการซ่อมแซมและก่อสร้างใหม่อาจได้รับอานิสงส์จากความต้องการที่เพิ่มขึ้น    ผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยว ภาคการท่องเที่ยวเป็นหนึ่งในภาคเศรษฐกิจที่มีความอ่อนไหวต่อภัยพิบัติทางธรรมชาติเป็นอย่างมาก แผ่นดินไหวรุนแรงสามารถทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวลดลง เนื่องจากความกังวลด้านความปลอดภัย รีสอร์ต โรงแรม และสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบอาจต้องปิดตัวลงชั่วคราวเพื่อซ่อมแซม ส่งผลให้รายได้จากการท่องเที่ยวลดลงอย่างมาก   ผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมและการผลิต โรงงานและศูนย์การผลิตที่ตั้งอยู่ในเขตแผ่นดินไหวอาจได้รับความเสียหายจากการสั่นสะเทือน ซึ่งอาจทำให้เครื่องจักรเสียหาย การผลิตต้องหยุดชะงัก หรือแม้แต่ต้องย้ายฐานการผลิต ส่งผลกระทบต่อซัพพลายเชนทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ ภาคอุตสาหกรรมที่ต้องพึ่งพาการผลิตและโลจิสติกส์อาจเผชิญกับปัญหาต้นทุนที่สูงขึ้นและการจัดส่งสินค้าที่ล่าช้า     แม้ว่าแผ่นดินไหวจะสร้างผลกระทบด้านลบอย่างมาก แต่ในระยะยาว ธุรกิจและเศรษฐกิจสามารถปรับตัวได้เพื่อรองรับความเสี่ยงในอนาคต บริษัทที่ให้บริการด้านการก่อสร้าง วิศวกรรม และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างต้านแผ่นดินไหวอาจมีโอกาสเติบโต ธุรกิจด้านการประกันภัยอาจพัฒนาแพ็กเกจคุ้มครองภัยพิบัติที่ตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้น นอกจากนี้ ภาครัฐสามารถใช้โอกาสนี้ในการปรับปรุงมาตรฐานการก่อสร้างและโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับภัยพิบัติในอนาคต   แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเท่านั้น แต่ยังมีผลกระทบเชิงลึกต่อธุรกิจและเศรษฐกิจในหลายภาคส่วน ทั้งโครงสร้างพื้นฐาน การท่องเที่ยว อุตสาหกรรม การเงิน และการลงทุน อย่างไรก็ตาม การวางแผนรับมือและการปรับตัวที่ดีจะช่วยให้เศรษฐกิจสามารถฟื้นตัวและเติบโตต่อไปได้ในอนาคต     อ้างอิงจาก: – ศูนย์วิจัยกสิกรไทย – U.S. Geological Survey   ติดตาม ISAN Insight & Outlook ทุกช่องทางได้ที่ https://linktr.ee/isan.insight   #ISANInsightAndOutlook #อีสานอินไซต์ #แผ่นดินไหว #แผ่นดินไหมพม่า #รอยเลื่อนสะกาย #แผ่นดินไหวเมียนมา #เมืองมัณฑะเลย์

พาย้อนเบิ่ง สถิติแผ่นดินไหวใหญ่รอบประเทศไทย ในช่วง 125 ปีที่ผ่านมา อ่านเพิ่มเติม »

🇲🇲พม่า เกิดภัยพิบัติ เอาเงินที่ไหนซ่อมประเทศ เมื่อเศรษฐกิจพังไม่แพ้กัน ประชาชนช่วยกันเอง ยอดผู้เสียชีวิตทะลุ 2.7 พันราย มินอ่องลาย ห้ามนักข่าวต่างประเทศเข้าทำข่าว

พม่า เกิดภัยพิบัติ เอาเงินที่ไหนซ่อมประเทศ เมื่อเศรษฐกิจพังไม่แพ้กัน ประชาชนช่วยกันเอง ยอดผู้เสียชีวิตทะลุ 2.7 พันราย มินอ่องลาย ห้ามนักข่าวต่างประเทศเข้าทำข่าว . ISAN Insight พาไปดู เศรษฐกิจของเมียนมาว่าน่าเป็นห่วงขนาดไหน . จากข้อมูลของธนาคารโลกพบว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของเมียนมาในปีงบประมาณที่สิ้นสุดในเดือนมีนาคม 2568 คาดว่าจะหดตัวลง 1% จากที่เคยคาดการณ์ว่าจะเติบโต 1% โดยสาเหตุก็เพราะเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว เมียนมาก็เจอพายุไต้ฝุ่นยางิพัดถล่มซ้ำเติมสถานการณ์ให้เลวร้ายลงไปอีก . ขณะที่รัฐบาลทหารเมียนมายังคงประเมินว่าเศรษฐกิจจะเติบโตที่ 3.8% อย่างไรก็ตาม หลังเกิดแผ่นดินไหว คาดว่าจะต้องมีการประเมินใหม่อีกครั้ง . ธนาคารโลกยังคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจเมียนมาจะหดตัวในปีงบประมาณปัจจุบัน เนื่องจากภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ซึ่งอัตราเงินเฟ้อจะยังคงอยู่ในระดับสูงเฉลี่ยที่ 26% ต่อปี โดยตัวเลขคาดการณ์ล่าสุดยังชี้ให้เห็นว่า ผลผลิตทางเศรษฐกิจของเมียนมาในปี 2025 จะลดลงประมาณ 11% เมื่อเทียบกับปี 2019 และการหดตัวของเศรษฐกิจส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากรัฐประหารในปี 2021 ซึ่งนำไปสู่สงครามกลางเมืองที่รุนแรงขึ้นทั่วประเทศ . ในขณะที่สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐฯ คาดการณ์ความเสียหายทางเศรษฐกิจของเมียนมาจากแผ่นดินไหวอาจสูงถึง 10,000-100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งคิดเป็นความเสียหายสูงสุด 70% ของ GDP เมียนมาเลยทีเดียว และความเสียหายเหล่านี้ ต้องใช้งบประมาณมหาศาลเข้ามาดูแล . แต่รัฐบาลทหารเมียนมาจะมีความสามารถมากน้อยเพียงใด ในเมื่อเวลานี้ เศรษฐกิจของเมียนมาก็ตกอยู่ในสภาพ “พังพินาศ” ไม่ได้ต่างจากโครงสร้างพื้นฐานหรืออาคารบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหว พามาฮู้จัก รอยเลื่อนสะกาย ยักษ์หลับกลางเมืองพม่า ต้นเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ สะเทือนแรงถึงไทย สถานการณ์หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวในประเทศเมียนมา ยังคงอยู่ในระดับวิกฤต ยอดผู้เสียชีวิตพุ่งทะลุ 2,700 ราย ขณะที่ผู้ได้รับบาดเจ็บก็เกิน 4,500 คน โดยบริเวณที่ได้รับความเสียหายมากที่สุดอยู่ที่เมืองมัณฑะเลย์ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับที่ 2 ของประเทศ มีประชากรมากกว่า 1.7 ล้านคน เนื่องจากเป็นพื้นที่ศูนย์กลางการเกิดแผ่นดินไหวที่ของรอยเลื่อนสะกาย และมีการคาดการณ์ว่ายอดผู้เสียชีวิตอาจสูงมากกว่า 10,000 คน เนื่องจากยังมีอาคารมากมายที่ยังไม่สามารถกู้ซากปรักหักพังได้ . สำหรับในเมืองมัณฑะเลย์ ผู้คนมากมายต่างต้องอาศัยท้องถนนเพื่อการพักพึง และอยู่ด้วยความหวาดผวา อีกทั้งยังต้องเผชิญหน้ากับอนาคตที่ไม่แน่นอน เนื่องจากอาหารกำลังขาดแคลน และไม่มีไฟฟ้าและน้ําประปา . นอกจากนี้ถุงศพมีความจำเป็นอย่างสูงที่ต้องการเพิ่มเติมสําหรับบรรจุศพที่เหล่ากู้ภัยกําลังดึงร่างของผู้เสียชีวิตจากซากอาคาร ซึ่งผู้คนที่อยู่ในประเทศเมียนมาตอนนี้ให้ข้อมูลว่ากองทัพไม่ได้ทําอะไรเพื่อช่วยเหลือประชาชนเลย . ขณะที่ความช่วยเหลือจากนานาชาติทั้ง จีน อินเดีย ไทย มาเลเซีย รัสเซีย และสิงคโปร์ก็เริ่มมาถึงเช่นกัน แต่ยังคงมีคําถามว่ากองทัพเมียนมาจะแจกจ่ายความช่วยเหลือที่จําเป็นมากนี้ให้ถึงมือประชาชนได้อย่างไร ซึ่งส่วนหนึ่งของทีมกู้ภัยและเสบียงอาหารจากสิงคโปร์และอินเดีย ได้ส่งไปยังกรุงเนปิดอว์ ซึ่งเป็นเมืองหลวง ซึ่งเป็นที่ที่นายพลของกองทัพอาศัยอยู่และได้รับผลกระทบน้อยกว่ามัณฑะเลย์ ความหนาแน่นของประชากรในแต่ละพื้นที่และพีระมิดประชากรพม่า🇲🇲   รัฐบาลทหารพม่าออกคำสั่ง ห้ามสื่อต่างชาติเข้าไปรายงานข่าวแผ่นดินไหว วันที่ 1 เมษายน 2568 นายพลจัตวาซอ มิน ตุน โฆษกรัฐบาลทหารเมียนมา (พม่า) แถลงว่า

🇲🇲พม่า เกิดภัยพิบัติ เอาเงินที่ไหนซ่อมประเทศ เมื่อเศรษฐกิจพังไม่แพ้กัน ประชาชนช่วยกันเอง ยอดผู้เสียชีวิตทะลุ 2.7 พันราย มินอ่องลาย ห้ามนักข่าวต่างประเทศเข้าทำข่าว อ่านเพิ่มเติม »

🇺🇸สหรัฐฯ ขึ้นภาษีนำเข้าไทย🇹🇭 ใครกระทบ? และภาษี 36% คำนวณจากอะไร? สินค้าส่งออกการเกษตรจากอีสานจะกระทบหรือไม่❓

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ระบุในวันพุธ(2เม.ย.) แถลงจะรีดภาษีพื้นฐาน 10% กับสินค้าทั้งหมดที่นำเข้าสู่สหรัฐฯ และเรียกเก็บภาษีสูงกว่านั้นกับประเทศอื่นๆอีกหลายสิบชาติ ในนั้นรวมถึงบรรดาคู่หูทางการค้าหลักของอเมริกาบางส่วน ยกระดับสงครามการค้าที่เขาเริ่มขึ้นตั้งแต่กลับเข้าสู่ทำเนียบขาว มาตรการรีดภาษีอย่างครอบคลุมครั้งนี้จะเป็นการตั้งกำแพงใหม่รอบๆเศรษฐกิจผู้บริโภครายใหญ่ที่สุดของโลกแห่งนี้ กลับลำจากนโยบายเปิดเสรีทางการค้าที่ยึดถือมานานหลายทศวรรษและเป็นตัววางทรวดทรงระเบียบโลก ในขณะที่คาดหมายว่าบรรดาคู่หูการค้าของอเมริกา จะมีมาตรการตอบโต้ของตนเอง ที่อาจทำให้ราคาข้าวของแพงขึ้นอย่างน่าตกตะลึง ไล่ตั้งแต่จักรยานไปจนถึงไวน์ “นี่คือการประกาศเอกราชของเรา” ทรัมป์ กล่าว ณ กิจกรรมหนึ่ง ณ สวนกุหลาบของทำเนียบขาว ทรัมป์ได้แสดงแผนภูมิขณะกล่าวที่ทำเนียบขาว โดยระบุว่าสหรัฐฯจะเก็บภาษีนำเข้า 34% จากจีน, 20% จากสหภาพยุโรป, 25% จากเกาหลีใต้, 24% จากญี่ปุ่น และ 32% จากไต้หวัน เพื่อตอบโต้ภาษีที่ประเทศเหล่านี้เก็บกับสินค้าของสหรัฐฯ ตัวอย่างประเทศที่ถูกประกาศขึ้นภาษี เวียดนาม: 46% ไต้หวัน: 32% ญี่ปุ่น: 24% ไทย: 36% สวิตเซอร์แลนด์: 31% อินโดนีเซีย: 32% มาเลเซีย: 24% กัมพูชา: 49% สหราชอาณาจักร: 10% แอฟริกาใต้: 30% บราซิล: 10% บังกลาเทศ: 37% สิงคโปร์: 10% อิสราเอล: 17% ฟิลิปปินส์: 17% ชิลี: 10% ออสเตรเลีย: 10% ปากีสถาน: 29% ตุรกี: 10% ศรีลังกา: 44% โคลอมเบีย: 10% สหรัฐฯ ขึ้นภาษีนำเข้าไทย ใครกระทบ? มาตรการนี้จะกระทบสินค้าส่งออกไทย ไปสหรัฐฯ หลายประเภท ตั้งแต่สินค้าเกษตร ยันสินค้าอุตสาหกรรม โดยหากย้อนดู 10 อันดับสินค้าส่งออก ช่วง 6 เดือนแรกของปี 2567 (มกราคม – มิถุนายน) ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ มูลค่า 4,740 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 32.56% เครื่องโทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ มูลค่า 2,142 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 33.11% ผลิตภัณฑ์ยาง มูลค่า 2,123 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 9.67% อุปกรณ์กึ่งตัวนำ ทรานซิสเตอร์ และไดโอด มูลค่า 1,561 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 8.68% อัญมณีและเครื่องประดับ มูลค่า 973 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 8.63%

🇺🇸สหรัฐฯ ขึ้นภาษีนำเข้าไทย🇹🇭 ใครกระทบ? และภาษี 36% คำนวณจากอะไร? สินค้าส่งออกการเกษตรจากอีสานจะกระทบหรือไม่❓ อ่านเพิ่มเติม »

ความหนาแน่นของประชากรในแต่ละพื้นที่และพีระมิดประชากรพม่า🇲🇲

🇲🇲 จากแผนที่ประชากรของพม่า มีความหนาแน่นประชากรเฉลี่ย 196.8 คนต่อตารางไมล์ (76.0 คนต่อตารางกิโลเมตร) เราจะเห็นว่าประชากรไม่ได้กระจายตัวอย่างสม่ำเสมอทั่วประเทศ แต่มีการกระจุกตัวอยู่ในบางพื้นที่ เช่น ย่างกุ้ง , มัณฑะเลย์ และพื้นที่ลุ่มแม่น้ำอิรวดี เพราะมีดินอุดมสมบูรณ์ เหมาะกับการเพาะปลูกข้าวและเกษตรกรรม ทำให้ผู้คนตั้งถิ่นฐานและพัฒนาเป็นเมืองใหญ่ ซึ่งมีประชากรหนาแน่นที่สุด โดยบางจุดมีประชากรมากกว่า 600 คนต่อตารางไมล์ (230 คนต่อตารางกิโลเมตร) ในขณะที่พื้นที่ภูเขาทางเหนือและตะวันออกของประเทศมีประชากรเบาบางมาก เนื่องจากพื้นที่เหล่านี้มีสภาพอากาศที่ยากลำบาก การคมนาคมเข้าถึงยาก และไม่เหมาะกับการเกษตรขนาดใหญ่ ในด้านของพีระมิดประชากรจะเห็นได้ว่า มีลักษณะของ ประชากรอายุน้อยและกำลังเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนผ่าน ไปสู่สังคมสูงวัย ซึ่งไทยของเรามีโอกาสได้รับผลดีจากโครงสร้างประชากรพม่าที่เป็นแบบนี้ในหลายด้านไม่ว่าจะเป็น แรงงานจากพม่าจะยังไหลเข้าสู่ ไทย และภาคอีสานมากขึ้น, การค้าชายแดนขยายตัว เมืองชายแดน เช่น เชียงราย ตาก แม่ฮ่องสอน ระนอง เป็นต้น มีโอกาสเพิ่มการค้าและการลงทุนกับฝั่งพม่า เพราะคนวัยแรงงานยังมีกำลังซื้อ   ปัจจัยที่มีผลต่อการกระจุกตัวของประชากร สภาพภูมิศาสตร์ – พื้นที่ราบลุ่มแม่น้ำอิรวดีเป็นศูนย์กลางของเกษตรกรรมและเศรษฐกิจมาช้านาน ทำให้มีประชากรหนาแน่น เศรษฐกิจและโครงสร้างพื้นฐาน – เมืองใหญ่อย่าง ย่างกุ้งและมัณฑะเลย์ เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ การค้า และการคมนาคม จึงดึงดูดประชากรจากชนบท ประวัติศาสตร์และการปกครอง – อดีตอาณานิคมอังกฤษพัฒนาเมืองย่างกุ้งให้เป็นศูนย์กลางการปกครองและการค้าระหว่างประเทศ ทำให้เมืองนี้ยังคงเป็นเมืองที่มีประชากรหนาแน่นที่สุด   พีระมิดประชากรของพม่า ประชากรวัยเด็กและเยาวชนยังเยอะ ประมาณ 40% ของประชากรพม่าอายุต่ำกว่า 20 ปี แสดงให้เห็นว่าประเทศยังมีอัตราการเกิดสูง แต่แนวโน้มเริ่มลดลง วัยแรงงานเป็นกลุ่มใหญ่ที่สุด ช่วงอายุ 20-49 ปี มีจำนวนมากกว่า 40% ของประชากรทั้งหมด ทำให้พม่ายังมีศักยภาพด้านแรงงานสูง และเป็นกลุ่มที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แนวโน้มเข้าสู่สังคมสูงวัยในอนาคต กลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไปเริ่มเพิ่มขึ้น แม้ตอนนี้จะยังไม่มาก แต่หากอัตราการเกิดลดลง อาจนำไปสู่ปัญหาขาดแคลนแรงงานในอนาคต 11 จุดผ่านแดน ไทย-พม่า 1. กิ่วผาวอก 2. บ้านเปียงหลวง 3. บ้านห้วยผึ้ง 4. บ้านห้วยต้นนุ่น 5. บ้านเสาหิน 6. บ้านริมเมย 7. ด่านเจดีย์สามองค์ 8. พุน้ำร้อน 9. บ้านสบวก 10. ปากน้ำระนอง 11. ท่าเทียบเรือสะพานปลา 10 จังหวัดชายแดนไทย-พม่า 1. เชียงราย 2. แม่ฮ่องสอน 3. เชียงใหม่ 4. ตาก 5. กาญจนบุรี 6. ราชบุรี 7. เพชรบุรี

ความหนาแน่นของประชากรในแต่ละพื้นที่และพีระมิดประชากรพม่า🇲🇲 อ่านเพิ่มเติม »

หวยออนไลน์ครองเมือง พาเปิดเบิ่ง สถิติคนไทยเสี่ยงโชคผ่านแอปฯ เว็บฯ พุ่งแรง วงเงินหมุนเวียนทะลุแสนล้าน

ฮู้บ่ว่า? คนไทยกว่า 21.9 ล้านคน หรือ 40.1% ของคนไทยเล่นพนันหวยใต้ดิน โดยมีวงเงินหมุนเวียนในตลาดพนันหวยใต้ดิน 164,069 ล้านบาท สลากกินแบ่งรัฐบาล คนไทยกว่า 27.5 ล้านคน หรือ 50.3% ของคนไทยเล่นพนันสลากกินแบ่งรัฐบาล วงเงินหมุนเวียนในตลาดพนันสลากกินแบ่งรัฐบาล 160,239 ล้านบาท แผงขายสลาก คนเร่ขาย 138,295 ล้านบาท แอปจำหน่ายสลากเว็บไซต์ 18,020 ล้านบาท ไลน์ แอปแชทต่างๆ 3,650 ล้านบาท เฟซบุ๊ก TikTok โซเชียลมีเดีย 274 ล้านบาท สัดส่วนผู้เล่น (เล่นได้มากกว่า 1 ช่องทาง) แผงขายสลาก คนเร่ขาย 96.4% ไลน์ แอปแชทต่างๆ 2.3% เฟซบุ๊ก TikTok โซเชียลมีเดีย 0.3% แอปจำหน่ายสลากเว็บไซต์ 12.0%   หวยใต้ดิน คนไทยกว่า 21.9 ล้านคน หรือ 40.1% ของคนไทยเล่นพนันหวยใต้ดิน วงเงินหมุนเวียนในตลาดพนันหวยใต้ดิน 164,069 ล้านบาท เล่นกับเจ้ามือโดยตรง คนรับแทง คนเดินโพย 68.9% 113,040 ล้านบาท ไลน์ แอปแชทต่างๆ 17.0% 27,934 ล้านบาท เฟซบุ๊ก TikTok โซเชียลมีเดีย 3.0% 4,889 ล้านบาท เล่นโดยตรงกับเว็บไซต์ แอปพนัน 11.1% 18,206 ล้านบาท สัดส่วนผู้เล่น (เล่นได้มากกว่า 1 ช่องทาง) เล่นกับเจ้ามือโดยตรง คนรับแทง คนเดินโพย 80.2% ไลน์ แอปแชทต่างๆ 16.1% เฟซบุ๊ก TikTok โซเชียลมีเดีย 3.5% เล่นโดยตรงกับเว็บไซต์ แอปพนัน 11.6%   คนที่ซื้อสลากฯ ผ่านแอป/เว็ปไซต์ 28.1 % ระบุว่าการจำหน่ายผ่านแอป/เว็บไซต์ ส่งผลให้ซื้อสลากฯ เพิ่มขึ้น เฉลี่ย +337 บาท/เดือน สูงสุด +6,000 บาท/เดือน หมายเหตุ: เป็นข้อมูลสถานการณ์การพนันในสังคมไทย ปี 2566   การเติบโตของตลาดการพนันหวยในไทย กับการเปลี่ยนแปลงเชิงเศรษฐกิจและพฤติกรรมผู้บริโภค ตลาดการพนันในประเทศไทยกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ โดยเฉพาะในกลุ่ม “หวย” ซึ่งเป็นการพนันที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศ ข้อมูลสถานการณ์การพนันในสังคมไทย ปี

หวยออนไลน์ครองเมือง พาเปิดเบิ่ง สถิติคนไทยเสี่ยงโชคผ่านแอปฯ เว็บฯ พุ่งแรง วงเงินหมุนเวียนทะลุแสนล้าน อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง Top 5 อุตสาหกรรม แรงงานนอกระบบของไทย

จำนวนแรงงานในตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้ง 9,712,273 คน โดยมีแรงงานในระบบ 2,290,872 คน แต่กลับมีแรงงานนอกระบบสูงถึง 7,421,401 คน จะพบว่าภาคอีสานมีแรงงานนอกระบบมากที่สุดอันดับ 1 ของประเทศ โดยเมื่อนำมาคิดสัดส่วนแรงงานนอกระบบในแต่ละภูมิภาคเทียบกับจำนวนแรงงานนอกระบบทั้งประเทศที่ 20,957,666 คน จะได้ ดังนี้ อีสาน 7,421,401 คน (35.4%) กลาง 4,918,196 คน (23.5%) เหนือ 4,295,682 คน (20.5%) ใต้ 2,937,453 คน (14.0%) กทม. 1,384,934 คน (6.6%) ภาคกลาง อุตสาหกรรม  จำนวนแรงงานนอกระบบ (คน) %เทียบกับทั้งภาค  เกษตรกรรม การป่าไม้และการประมง        1,711,268 26% การขายส่ง การขายปลีก การซ่อมยานยนต์        1,608,275 25% ที่พักแรมและบริการด้านอาหาร        1,104,113 17% การขนส่ง สถานที่เก็บสินค้าฯ            538,041 8% การผลิต            482,232 7%   ภาคเหนือ   อุตสาหกรรม  จำนวนแรงงานนอกระบบ (คน)  %เทียบกับทั้งภาค  เกษตรกรรม การป่าไม้และการประมง            2,779,065 65% การขายส่ง การขายปลีก การซ่อมยานยนต์              530,865 12% ที่พักแรมและบริการด้านอาหาร              251,482 6% การผลิต              221,281 5% การก่อสร้าง         

พามาเบิ่ง Top 5 อุตสาหกรรม แรงงานนอกระบบของไทย อ่านเพิ่มเติม »

Scroll to Top