November 2024

🤨เพราะอะไร? ผลผลิตข้าวต่อไร่ของอีสานถึงน้อยกว่าเวียดนามถึงเกือบ 3 เท่า

สิพามาเบิ่ง🧐ทำไมการปลูกข้าวของเวียดนามให้ผลผลิตมากกว่าอีสานมาก👩‍🌾 . 🤨เพราะอะไร? ผลผลิตข้าวต่อไร่ของอีสานถึงน้อยกว่าเวียดนามถึงเกือบ 3 เท่า   🇹🇭#อีสาน ปลูกข้าวเป็นพืชเศรษฐกิจหลักทั้งสำหรับการค้าและการบริโภค โดยที่มีพื้นที่เก็บเกี่ยวคิดเป็นร้อยละ 55 ของพื้นที่การเก็บเกี่ยวข้าวทั้งหมดของประเทศไทย ให้ผลผลิตต่อปีมากถึงร้อยละ 43 ของผลผลิตข้าวจากทั้งประเทศ ในพื้นที่ภาคอีสานิยมปลูกข้าวแบบนาปี เนื่องจากเป็นที่ราบสูงและมีความแห้งแล้ง ทำให้ผลผลิตต่อไร่ไม่สูงนักเมื่อเทียบกับภาคอื่น ๆในประเทศไทย โดยมีข้าวที่เป็นที่นิยมของตลาดต่างประเทศอย่าง ข้าวหอมมะลิและข้าวดอกมะลิ ที่นับเป็นข้าวที่มีคุณภาพสูงและเป็นที่ต้องการของตลาดโลก ด้วยเหตุนี้ภาคอีสานจึงนับเป็นภาคที่มีความสำคัญในการเป็นแหล่งผลิตข้าวที่สำคัญที่สุดในประเทศไทย   🇻🇳#เวียดนาม ประเทศเวียดนามให้ความสำคัญกับการปลูกข้าวด้วยเช่นกัน โดยเป็นประเทศที่มีการส่งออกข้าวเป็นอันดับ 3 รองจากอินเดียและไทย อีกทั้งยังมีข้อได้เปรียบหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นสภาพภูมิประเทศที่เอื้อต่อการเพาะปลูก การลงทุนในด้านโครงสร้างพื้นฐาน และการวิจัยและพัฒนาจากรัฐบาล ทำให้ข้าวของเวียดนามเริ่มมีชื่อเสียงและได้รับรางวัลระดับโลก อย่างข้าว ST25 ที่เป็นการผสมระหว่างข้าวหอมมะลิ ข้าวบาสมาตี และข้าวญี่ปุ่น นอกจากนี้เวียดนามยังนิยมปลูกข้าวที่ให้ผลผลิตสูง แม้ในบางสายพันธุ์จะคุณภาพไม่ดีนักเมื่อเทียบกับข้าวจากอีสาน แต่สามารถปลูกได้หลายครั้งในหนึ่งปี ทำให้ผลผลิตต่อไร่ของเวียดนามนั้นสูงมาก   . เมื่อเปรียบเทียบผลผลิตข้าวต่อไร่ของอีสานและเวียดนามจะพบว่า ผลผลิตต่อไร่ของประเทศเวียดนามคิดเป็น 2.7 เท่าของผลผลิตต่อไร่ในภาคอีสาน นับว่าแตกต่างกันมากอย่างมีนัยยะสำคัญ และวันนี้ ISAN Insight สิพามาเบิ่งว่า ปัจจัยในด้านใดบ้างที่ทำให้ผลผลิตข้าวต่อไร่ของอีสานและเวียดนามต่างกันมากขนาดนี้   . 🌾ปัจจัยด้านสายพันธุ์ข้าว   🇹🇭#อีสาน นิยมปลูกข้าวที่คุณภาพสูงเช่น ข้าวหอมมะลิ ข้าวดอกมะลิ ซึ่งนับว่าเป็นข้าวที่มีคุณภาพดีและเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ นับว่าเป็นข้าวออแกนิกที่มีความต้องการสูงและเป็นสินค้าพรีเมียม แต่ก็ยังมีข้อจำกัดด้านการให้ผลผลิตที่ไม่สูงมากนัก   🇻🇳#เวียดนาม นิยมปลูกข้าวพันธุ์พื้นเมืองที่ให้ผลผลิตสูงในเชิงพาณิชย์ และสามารถปลูกได้หลายครั้งต่อปี แต่คุณภาพข้าวบางสายพันธุ์ยังไม่ดีมากนัก ทำให้ราคาถูกลงมา ตอบโจทย์การบริโภคในตลาดกลาง นอกจากนี้เวียดนามยังมีการพัฒนาสายพันธุ์ข้าวเพื่อตอบโจทย์ในตลาดพรีเมียม อย่างข้าว ST25 ที่ได้รับรางวัลระดับโลกในปี 2023 และข้าวจัสมินที่มีความใกล้เคียงกันกับข้าวหอมมะลิของไทย   . 💧ปัจจัยด้านระบบการจัดการน้ำ   🇹🇭#อีสาน มีระบบชลประทานที่ไม่ได้ครอบคลุมทุกพื้นที่ และด้วยสภาพแวดล้อมที่ค่อนข้างแห้งแล้ง ทำให้การปลูกข้าวของคนในภาคอีสานส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 95 ของพื้นที่เพาะปลูก เป็นการปลูกข้าวแบบนาปีที่สามารถทำได้เพียงปีละ 1 ครั้งเท่านั้น   🇻🇳#เวียดนาม เนื่องจากเวียดนามมีสภาพภูมิประเทศในพื้นที่ปลูกข้าวเป็นที่ราบลุ่มแม่น้ำ และมีการลงทุนด้านระบบชลประทานที่สูงและเข้าถึงทุกพื้นที่ โดยเฉพาพื้นที่ในแถบสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงและแม่น้ำแดง ทำให้สามารถปลูกข้าวได้ 2-3 ครั้งต่อปี เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ผลผลิตต่อไร่ของเวียดนามสูงกว่าอีสานมาก   . 🏦ปัจจัยด้านเทคโนโลยีและการสนับสนุนจากภาครัฐ   🇹🇭#อีสาน มีการใช้เทคโนโลยีเพื่อช่วยในการผลิตข้าวบ้างในบางพื้นที่ แต่เนื่องจากการคาดแคลนเงินทุนและการเข้าถึงเทคโนโลยี ทำให้คนในภาคอีสานส่วนใหญ่ยังใช้วิธีแบบดั้งเดิม ด้านการสนับสนุนจากภาครัฐ มีการด้านการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและระบบชลประทาน แต่ยังคงไม่สามารถครอบคลุมได้ในทุกพื้นที่   🇻🇳#เวียดนาม มีการใช้เทคโนโลยีเพื่อพัฒนาสายพันธุ์ข้าวและลดต้นทุนการผลิต และรัฐบาลเวียดนามมีการลงทุนเพื่อพัฒนาการผลิตข้าวของประเทศในด้านต่างๆ เช่น การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ระบบชลประทาน เครื่องจักร รวมไปถึงการลงทุนด้านฐานข้อมูลเพื่อควบคุมและวางแผนการผลิต   . 🍃ปัจจัยด้านภูมิศาสตร์และสภาพแวดล้อม   🇹🇭#อีสาน พื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในที่ราบสูง และมีความแห้งแล้ง ทำให้การปลูกข้าวจึงต้องพึ่งพาน้ำฝนเป็นหลัก เนื่องจากระบบชลประทานยังไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ …

🤨เพราะอะไร? ผลผลิตข้าวต่อไร่ของอีสานถึงน้อยกว่าเวียดนามถึงเกือบ 3 เท่า อ่านเพิ่มเติม »

IPO พลิกชีวิต? สำรวจ 5 บริษัทยักษ์ใหญ่ภาคอีสานหลังเข้าตลาดหุ้น

ในวันนี้จะพามาดู 5 บริษัทยักษ์ใหญ่ในภาคอีสานที่เข้าตลาดหุ้นว่านับตั้งแต่วันที่เข้าตลาดวันแรกจนถึงปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยเพียงใด   เป็นที่ทราบกันดีว่าบริษัทขนาดใหญ่เมื่อทำกิจการมาซักระยะหนึ่งก็จะมีความต้องการในการขยายกิจการไปยังพื้นที่ต่างๆ หรือการขยายสาขาเพื่อการเติบโตทางธุรกิจ โดยแน่นอนอยู่แล้วว่าการขยายกิจการไม่ว่าจะในรูปแบบใดก็ตามสิ่งที่ตามมาด้วยเป็นเงาตามตัวนั่นคือ “เงิน” ที่จำเป็นต้องใช้ในการขยายกิจการ ซึ่งแหล่งที่มาของเงินทุนนั้นมีหลากหลายช่องทางไม่ว่าจะเป็นการใช้เงินของกิจการเดิมของตัวเองมาขยายกิจการใหม่เพิ่ม การเข้าไปขอกู้เงินกับทางธนาคาร และการเข้าตลาดหุ้นเพื่อระดมทุน โดยในแต่ละวิธีนั้นไม่มีคำจำกัดความว่าบริษัทไหนต้องใช้รูปแบบไหนขึ้นอยู่กับความเห็นของตัวผู้บริหาร หรือบอร์ดบริหาร ณ ช่วงเวลานั้นว่ามองเห็นอะไรที่เป็นจุดที่น่าสนใจในแต่ละวิธี โดยการนำบริษัทเข้าสู่ตลาดหุ้นนั้นถือว่าเป็นการหาแหล่งระดมเงินทุนในระยะยาวก็สามารถพูดได้ว่าเป็นเช่นนั้น โดยข้อดีของการระดมทุนในตลาดหุ้นคือการปราศจากดอกเบี้ยและภาระการชำระคืนเงินต้น ซึ่งต่างจากการไปกู้ธนาคารที่จะมีดอกเบี้ยในอัตราที่สูง อีกทั้งส่วนหนึ่งยังเป็นสิ่งที่เพิ่มความน่าเชื่อถือของตัวบริษัทด้วย แต่หากมิงดูดีๆแล้วจะพบว่าโกลบอลเฮ้าส์นั้นเป็นบริษัทเจ้าเดียวที่ไม่มีสาขาในกรุงเทพมหานครเลยแม้แต่สาขาเดียว ขณะที่บริเวณปริมณฑลนั้นมีสาขาอยู่ล้อมรอบซึ่งอาจจะสามารถมองได้ว่าเป็นกลยุทธหรือวิธีการทางธุรกิจบางอย่างที่บริษัทพิจารณามาแล้วว่าจะไม่ทำตลาดในกรุงเทพมหานครเลย   สำหรับบริษัทแรกเป็นที่รู้จักกันดีสำหรับคนไทยไม่ใช่เพียงแค่คนอีสานเท่านั้น บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) (Global House) ก่อตั้งโดย คุณวิทูร สุริยวนากุล โกลบอลเฮ้าส์เริ่มแรกที่จังหวัดร้อยเอ็ด ในวันที่ 14 พ.ย. 2540 ปัจจุบันผ่านมาแล้วเกือบ 27 ปี โกลบอลเฮ้าส์ได้มีการขยายสาขาถึงเกือบ 80 สาขา โดยในปี 2566 ที่ผ่านมาโกลบอลเฮ้าส์มีรายได้รวมจากการประกอบกิจการอยู่ที่ 33,013.75 ล้านบาท คิดเป็นกำไรสุทธิ 2,671.43 ล้านบาท แม้ว่าตัวเลขจะปรับตัวสูงขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมาแต่ในด้านของรายได้รวมและกำไรสุทธิของปี 2566 นั้นกลับต่ำกว่าปี 2564 และ 2565 ที่ผ่านมาผลจากการชะลอตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ทั่วประเทศ แต่ว่าหากมองในฝั่งของตลาดหุ้นนั้นจะพบว่าโกลบอลเฮ้าส์ได้เข้าตลาดหุ้นตั้งแต่ 19 ส.ค. 2552 ปัจจุบันผ่านมาแล้ว 15 ปีจากเดิมที่ IPO ในราคาต่อหุ้นที่ 2.55 บาท ปัจจุบันราคาหุ้นพุ่งขึ้นไปอยู่ที่ 15.80 บาท เพิ่มขึ้น 519.61% แสดงถึงความน่าเชื่อถือและความไว้ใจจากหลายฝ่ายที่ทำให้หุ้นโตมาได้ถึงขนาดนี้ หากมองย้อนกลับไปตั้งแต่วันแรกที่มีการเข้าตลาดหุ้นมานั้นถือว่ากระแสตอบรับของโกลบอลเฮ้าส์เป็นไปในทิศทางที่ดี นับว่าเป็นบริษัทที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากหลังจากมีการเข้าตลาดหุ้นมา   สำหรับบริษัทในลำดับถัดมายังคงอยู่ในหมวดค้าวัสดุก่อสร้างที่รู้จักกันทั่วประเทศนั่นคือ บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) (DoHome) ก่อตั้งโดย คุณอดิศักดิ์ ตั้งมิตรประชา และคุณนาตยา ตั้งมิตรประชา เดิมทีในตอนตั้งบริษัทตอนแรกนั้นไม่ได้มีชื่อว่าดูโฮมแต่เป็น “ศ. อุบลวัสดุ” ในปี 2526 โดยได้มีการเปลี่ยนชื่อเป็น “ดูโฮม” ในปี 2539 หรือหลังจากนั้น 13 ปี โดยในปัจจุบันดูโฮมมีสาขาทั้งสิ้น 25 สาขา และ 1 ศูนย์กระจายสินค้า ในปี 2566 ที่ผ่านมาบริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 31,615.25 ล้านบาท คิดเป็นกำไรสุทธิ 526.40 ล้านบาท หากดูในด้านของตัวเลขรายได้รวมนั้นไม่มีความแตกต่างจากโกลบอลเฮ้าส์มากซักเท่าไหร่ แต่ในด้านของกำไรนั้นกลับพบว่ามีการปรับลดลงในช่วงสองปีที่ผ่านมาสวนทางกับรายได้ที่มีการเพิ่มขึ้นในแต่ละปี อาจสรุปได้ว่ามีเหตุผลที่คล้ายกับทางโกลบอลเฮ้าส์ที่ภาวะความผันผวนของภาคอสังหาในด้านราคาส่งผลกระทบต่อความต้องการในการสร้างและซื้อบ้าน ขณะที่ในด้านของราคาหุ้นนั้นจะพบว่า ณ วันที่ 6 ส.ค. 2562 ซึ่งเป็นวัน IPO เปิดราคาหุ้นที่ 7.80 บาท …

IPO พลิกชีวิต? สำรวจ 5 บริษัทยักษ์ใหญ่ภาคอีสานหลังเข้าตลาดหุ้น อ่านเพิ่มเติม »

พาสำรวจเบิ่ง “เด็กน้อยอีสาน” ตกหล่น จากการระบบศึกษามากแค่ไหน

พาสำรวจเบิ่ง “เด็กน้อยอีสาน” ตกหล่น จากการระบบศึกษามากแค่ไหน . . ในปี 2565 ประเทศไทยมีเด็กและเยาวชนอายุตั้งแต่ 3-18 ปี ที่อยู่นอกระบบการศึกษามีมากกว่า 1.02 ล้านคน ในจำนวนนี้ยังมีหลายคนกำลังตกอยู่ในภาวะวิกฤต โดยเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษามีความเสี่ยงที่จะเข้าสู่วงจรอันตราย 3 เรื่อง คือ (1) แรงงานรายได้ต่ำ เสี่ยงอันตรายต่อชีวิตและสุขภาพ (2) ค้าประเวณีหรือถูกล่วงละเมิดทางเพศโดยเฉพาะเด็กผู้หญิง และ (3) ยุวอาชญากรที่ตกอยู่ในวังวนยาเสพติด และลักขโมย . แล้วเคยรู้หรือไม่ว่า ในภาคอีสานมีเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษามากแค่ไหน? . โดยในภาคอีสานมีเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษาอยู่มากกว่า 211,692 คน หรือคิดเป็นสัดส่วนอยู่ 20.64% ของเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษาทั้งหมดในประเทศ . และเมื่อนำสัดส่วนเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษามาเปรียบกับจำนวนเด็กและเยาวชนทั้งหมดในภาคอีสาน ก็พบว่า มีสัดส่วนอยู่ที่ 5.34% . จังหวัดที่มีสัดส่วนเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษามากที่สุด คือ จังหวัดหนองคาย มีสัดส่วนอยู่ที่ 7.40% ของจำนวนเด็กและเยาวชนทั้งหมดในจังหวัด . . อะไรคือสาเหตุที่ทำให้เด็กออกนอกระบบการศึกษา? . กสศ.ได้พัฒนางานวิจัยเชิงสํารวจเพื่อศึกษาข้อมูลของเด็กนอกระบบการศึกษาภายใต้ “โครงการการสนับสนุนและพัฒนากลไกการขับเคลื่อนครูและเด็กนอกระบบการศึกษา” ประกอบด้วยข้อมูลที่เก็บรวบรวมได้จากองค์กรเครือข่าย ทั้งสิ้น 67 องค์กร จากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม มีจำนวนเด็กนอกระบบการศึกษาที่ให้ข้อมูลความต้องการ 35,003 คน โดย 3 อันดับสาเหตุของการออกนอกระบบการศึกษาหลัก ได้แก่ ความยากจนมากที่สุด 46.70% รองลงมาคือ มีปัญหาครอบครัว 16.14% และออกกลางคัน/ถูกผลักออก 12.03% ตามลำดับ . เมื่อวิเคราะห์สาเหตุอื่นๆ ของการ “ออกกลางคัน” จากการตอบคำถามปลายเปิดจากจำนวนคำตอบทั้งสิ้น 5,270 คำตอบพบว่า เหตุผลที่ปรากฏบ่อย ได้แก่ ไม่อยากเรียน ต้องการทำงาน ตั้งครรภ์ในวัยเรียน มีครอบครัว ไม่มีสัญชาติไทย ไม่มีบัตรประชาชน พิการ ยาเสพติด เป็นต้น . . อ้างอิงจาก: – กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) – กรมการปกครอง ติดตาม ISAN Insight ทุกช่องทางได้ที่ https://linktr.ee/isan.insight #ISANInsight #อีสาน #ISAN #อีสานอินไซต์ #Business #Economy #ธุรกิจ #เศรษฐกิจ #ธุรกิจอีสาน #เศรษฐกิจอีสาน #เด็กออกนอกระบบการศึกษา #เด็กนอกระบบการศึกษา

ทำไม ‘บึงกาฬ’ จึงเป็นจังหวัดที่มี ‘ผลิตภาพภาคการเกษตร’ ที่สูงที่สุดในอีสาน?

ทำไม ‘บึงกาฬ’ จึงเป็นจังหวัดที่มี ‘ผลิตภาพภาคการเกษตร’ ที่สูงที่สุดในอีสาน   ‘ผลิตภาพของแรงvานเกษตร’ คือมูลค่าของผลผลิตทางการเกษตรที่เกิดจากแรงvานทางการเกษตร 1 หน่วย บ่งบอกถึง ความมีประสิทธิภาพในการผลิตของภาคการเกษตรซึ่งยิ่งมากยิ่งดี โดยจากแผนภูมิจะแสดงถึงผลิตภาพของครัวเรือนที่ทำเกษตร จำนวนครัวเรือนที่ทำการเกษตร และมูลค่าทางเศรษฐกิจจากภาคเกษตรใน GPP แบบลูกโซ่ของจังหวัดในภาคอีสาน โดยจังหวัดในภาคอีสานที่มีผลิตภาพภาคการเกษตรสูงที่สุด 3 ลำดับแรก ได้แก่   บึงกาฬ ครัวเรือนทำการเกษตร 63,183 ครัวเรือน มีผลิตภาพ 315,053 บาท/ครัวเรือน บุรีรัมย์ ครัวเรือนทำการเกษตร 222,283 ครัวเรือน มีผลิตภาพ 260,000 บาท/ครัวเรือน หนองคาย ครัวเรือนทำการเกษตร 59,388 ครัวเรือน มีผลิตภาพ 98,480 บาท/ครัวเรือน   จะเห็นได้ว่า บึงกาฬ จังหวัดน้องใหม่ของประเทศไทยที่ตั้งอยู่แถบภาคอีสานตอนบน มีผลิตภาพการเกษตรต่อครัวเรือนที่สูงโดดเด่นที่สุดในภาคอีสาน แม้ว่าจะมีจำนวนครัวเรือนทำการเกษตรจำนวนน้อยแต่กลับก่อให้เกิดมูลค่าภาคการเกษตรใน GPP ที่สูงเป็นอันดับ 3 ของภาค โดยมีมูลค่า 19,906 ล้านบาท ทำไมจึงเป็นเช่นนี้? มีปัจจัยอะไรที่ส่งเสริม? วันนี้ Isan Insight and Outlook สิพามาเจาะเบิ่ง   ปัจจัยที่ 1 : สัดส่วนภาคการเกษตรที่ใหญ่ จังหวัดบึงกาฬ เป็นจังหวัดที่เศรษฐกิจมีการพึ่งพิงภาคการเกษตรมากที่สุดในอีสาน โดยภาคการเกษตรมีสัดส่วนเป็น 34% ของ GPP จังหวัด มีพื้นที่ทำการเกษตร 1,614,458 ไร่ หรือ เกือบ 60% ของพื้นที่ทั้งหมดของจังหวัด นอกจากนั้นแรงvานสัดส่วน 74% ก็ทำงานอยู่ในภาคเกษตร    ปัจจัยที่ 2 : ‘ยางพารา’ พืชตัวแบกแห่งภาคเกษตร ยางพารา เป็นพืชเกษตรอันดับ 1 ของบึงกาฬ มีพื้นที่ปลูกกว่า 847,095 ไร่ มากเป็นอันดับที่ 1 ในภาคอีสาน มีปริมาณผลผลิตในปี 2565 รวม 21,977 ตัน คิดเป็น 15% ของปริมาณทั้งภาค ซึ่งในช่วงหลังๆ ราคายางได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นผลมาจากความต้องการในอุตสาหกรรมยางรถยนต์และผลิตภัณฑ์ยางพาราในตลาดโลกขยายตัว ส่งผลให้มูลค่าผลผลิตยางพาราในบึงกาฬขยายตัวแม้ว่าจะมีจำนวนเกษตรกรที่ไม่มาก จากปัจจัยด้านความได้เปรียบและโอกาสทางเศรษฐกิจนี้ ส่งผลให้ผลิตภาพภาคการเกษตรของบึงกาฬพุ่งสูงเป็นอันดับ 1   ปัจจัยที่ 2 : มีการพัฒนาจุดแข็งอย่างต่อเนื่อง สิ่งสำคัญที่ทำให้ภาคเกษตรโดยเฉพาะยางพาราในบึงกาฬบูมได้ขนาดนี้ เป็นผลมาจากการพัฒนาที่ไม่หยุดนิ่ง ไม่ว่าจะเป็นการใช้ ระบบส่งเสริมการเกษตร หรือ T&V System และมีการแปรรูปจากยางพาราก้อนเป็นผลิตภัณฑ์ยางพาราแบบแผ่นเพื่อเพิ่มมูลค่า …

ทำไม ‘บึงกาฬ’ จึงเป็นจังหวัดที่มี ‘ผลิตภาพภาคการเกษตร’ ที่สูงที่สุดในอีสาน? อ่านเพิ่มเติม »

“คนเยอะ พื้นที่ใหญ่” เปิดศักยภาพ “3 จังหวัดอีสานใต้” ดันเศรษฐกิจสู้ Big 4

  อีสานใต้ ประกอบด้วย 5 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ซึ่งเพียง 4 จังหวัดนี้มีขนาดเศรษฐกิจรวมกันเป็น 43% ของมูลค่าเศรษฐกิจของทั้งภาคอีสาน โดยหากไม่นับรวมจังหวัด นครราชสีมา และ อุบลราชธานี ที่เป็นจังหวัดกลุ่ม Big 4 แห่งอีสานที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ก็ยังพบว่า อีก 3 จังหวัดที่เหลือก็มีขนาดเศรษฐกิจที่ไม่ธรรมดา โดยมี มีมูลค่าเศรษฐกิจจังหวัด(GPP) ดังต่อไปนี้    บุรีรัมย์ 104,961 ล้านบาท (อันดับที่ 5 ของภาค) สุรินทร์ 88,660 ล้านบาท (อันดับที่ 6 ของภาค) ศรีสะเกษ 80,437 ล้านบาท (อันดับที่ 8 ของภาค)   จะเห็นได้ว่ามูลค่าเศรษฐกิจของทั้ง 3 จังหวัดอีสานใต้นี้ตามหลังกลุ่ม Big 4 มาแบบติดๆ อย่างมีนัยยะสำคัญ โดยบทความนี้ ISAN Insight and Outlook สิพามาแกะเหตุผลที่ส่งผลให้จังหวัดในโซนนี้มีเศรษฐกิจที่ใหญ่และมาแรงกว่าโซนอื่นในภาคอีสาน   รากฐานสำคัญของเศรษฐกิจโซนอีสานใต้ คือ “ภูมิศาสตร์ที่ดี” ปัจจัยด้านภูมิศาสตร์ถือได้ว่าเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจ ขนาดและพิกัดพื้นที่แต่ละจังหวัดสะท้อนถึงประวัติศาสตร์ของพื้นที่นั้นๆที่ส่งผลมายังปัจจุบัน ซึ่งกลุ่มจังหวัดอีสานใต้ก็ถือได้ว่ามีภูมิศาสตร์ที่ดีซึ่งส่งผลการพัฒนาอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่อดีต ดังนี้ ขนาดพื้นที่ที่ใหญ่ จังหวัดกลุ่ม Big 4 มีพื้นที่จังหวัดเฉลี่ย 14,713.72 ตารางกิโลเมตร และขนาดพื้นที่ในจังหวัดในภาคอีสานเมื่อไม่รวม Big 4 มีขนาดเฉลี่ยประมาณ  6,875.01 ตารางกิโลเมตร ซึ่งจังหวัดในอีสานใต้มีขนาดพื้นที่ที่จัดได้ว่ามีกว้างขวางและเกินกว่าขนาดพื้นที่เฉลี่ยของจังหวัดในภาคเมื่อไม่รวม Big 4 โดย 3 จังหวัดอีสานอีสานใต้มีขนาดพื้นที่รวม  27,286.917 ตารางกิโลเมตร ดังนี้   บุรีรัมย์ 10,322.885 ตารางกิโลเมตร (อันดับที่ 17 ของประเทศ) ศรีสะเกษ 8,839.976 ตารางกิโลเมตร (อันดับที่ 21 ของประเทศ) สุรินทร์ 8,124.056  ตารางกิโลเมตร (อันดับที่ 24 ของประเทศ) ซึ่งการมีขนาดพื้นที่ใหญ่จะเป็นข้อได้เปรียบด้านการมีพื้นที่ใช้สอยและทรัพยากรที่มาก ทั้งเพื่อการเกษตรและนอกภาคเกษตร เช่น ธุรกิจหรือโรงงาน โดยจะเห็นได้ว่าจังหวัดกลุ่ม Big 4 แห่งอีสานก็มีขนาดพื้นที่ของแต่ละจังหวัดที่ใหญ่เช่นเดียวกัน นอกจากนั้นทั้ง 3 จังหวัดอีสานใต้ยังมีพื้นที่ชายแดนติดกับกัมพูชา ซึ่งเป็นผลดีในด้านค้าและอุปสงค์จากชาวต่างชาติ   จำนวนประชากรมาก ปัจจัยด้านจำนวนประชากรก็เป็นสิ่งสำคัญต่อเศรษฐกิจ เนื่องจากจำนวนประชากรเป็นทั้งอุปสงค์และอุปทานในระบบเศรษฐกิจ โดยจะพบได้ว่าค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ระหว่างจำนวนประชากรและมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวม …

“คนเยอะ พื้นที่ใหญ่” เปิดศักยภาพ “3 จังหวัดอีสานใต้” ดันเศรษฐกิจสู้ Big 4 อ่านเพิ่มเติม »

“เฉียงเหนือเฟส 3” กับ 3 เวทียิ่งใหญ่ บขส.ขอนแก่น ชวนมาซิ่งกันมั๊ยหล้าให้ม่วนสมการรอคอย

ศิลปินที่มาปีนี้ครั้งแรกสิในงานนี้ ต่อให้อุกกาบาตชน ไดโน่ต้องได้ดู GMM SHOW ตอกย้ำความยิ่งใหญ่ “เฉียงเหนือเฟส 3” ชวนมาซิ่งกันมั๊ยหล้าให้ม่วนสมการรอคอย กับเทศกาลดนตรีที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ! เตรียมรับมือกับความสนุกทุกตารางเมตร พร้อมไปมันไปม่วนให้ทะลุขีดสุดทุกโมเมนต์ กับเทศกาลดนตรีที่ใหญ่ที่สุดและม่วนที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ Chang Music Connection Presents “เฉียงเหนือเฟส 3” งานที่เป็นความภูมิใจของชาวอีสาน ปีนี้ยกระดับความม่วนจัดเป็นครั้งที่ 3 พร้อมเดินหน้าเป็น “MUSIC DESTINATION OF E-SAN” ที่จะพาทุกคนเข้าสู่จุดหมายปลายทางทางดนตรีของภาคอีสานที่ทุกคนต้องมาม่วนกันที่งานนี้ การันตีคุณภาพจากทีมผู้จัดโดยผู้จัดทีม ALL AREA ภายใต้หน่วยงาน GMM SHOW ทีมที่มากประสบการณ์จัดงานมิวสิคเฟสติวัลใหญ่ของทุกภาค ปีนี้รวมตัววัยรุ่นสุดซิ่งครั้งใหญ่ ชวนเพื่อนเก่าไปม่วนซิ่งไป และเฮจอยกับเพื่อนใหม่ 1 วัน 26 ศิลปิน 3 เวที จัดเต็มยกทัพศิลปินเบอร์ท็อป และศิลปินสายเลือดอีสานที่การันตีความฮิต มาครบจากทุกแนวดนตรีมาไว้ในที่เดียว นำโดย TAITOSMITH / THREE MAN DOWN / PALMY / BODYSLAM / BIG ASS/ JEFF SATUR / POTATO / JOEY PHUWASIT / THE TOYS / ONLY MONDAY / POLYCAT / MANUTSAWEE / SAFEPLANET / VIOLETTE WAUTIER / 4EVE / LOMOSONIC / THE PARKINSON / RÉJIZZ / ALEC ORACHI / PUN / MIRRR / YENTED / FELLOW FELLOW / PURPEECH / TELEVISION OFF และปีนี้เพิ่มเติมความสนุกชวนมาร่วมสัมผัสประสบการณ์รีมิกซ์อีสานสมัยใหม่ ที่โคตรมัน กับ EDM หรือ “E-SAN DANCE MUSIC” จาก DJ.FARMER ROCKET ดีเจสไตล์รำซิ่งขนานแท้ ที่จะมากระตุกทุก DNA ความม่วนให้สุด ในงานพบกับ3เวทีที่ห้ามพลาด!เวทีเหนือ เวทีซิกเนเจอร์ที่ใหญ่ที่สุดของงาน โดยในปีนี้จะมาในรูปโฉมใหม่ที่อลังการขึ้น ให้สมกับเวทีที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จัดเต็มด้วยสเปเชี่ยลเอฟเฟคที่จัดหนัก จัดเต็มกว่าปีก่อนๆ เวทีมิตรภาพ …

“เฉียงเหนือเฟส 3” กับ 3 เวทียิ่งใหญ่ บขส.ขอนแก่น ชวนมาซิ่งกันมั๊ยหล้าให้ม่วนสมการรอคอย อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง✈“สนามบิน” ไกลจาก “ตัวเมือง” ปานได๋🛬

พามาเบิ่ง“สนามบิน” ไกลจาก “ตัวเมือง” ปานได๋ . . การเดินทางไปต่างจังหวัดนั้นมีหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการขับรถยนต์ส่วนตัว นั่งรถบัส หรือแม้กระทั่งโดยสารรถไฟ แต่สำหรับการเดินทางข้ามจังหวัดในระยะทางที่ไกล การใช้เวลาเดินทางก็นับเป็นสิ่งสำคัญ การเดินทางด้วยเครื่องบินจึงกลายเป็นทางเลือกที่ช่วยประหยัดเวลาและสะดวกสบายสำหรับหลายๆ คน . ในภาคอีสานของเรา มีสนามบินกระจายอยู่หลายแห่ง แม้ว่าจะไม่ได้มีทุกจังหวัด แต่ก็ถือว่าครอบคลุมเป็นอย่างดี เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางสะดวกและรวดเร็ว แล้วเคยสงสัยกันไหมว่าสนามบินแต่ละแห่งในอีสานนี้ อยู่ห่างจากตัวเมืองมากน้อยแค่ไหน? วันนี้เรารวบรวมข้อมูลระยะทางจากตัวเมืองถึงสนามบินในภาคอีสานมาให้ได้รู้กันค่ะ . 1.สนามบินอุบลราชธานี ตั้งอยู่ที่ ต.ในเมือง อ.เมือง ห่างจากตัวเมืองเพียง 2.5 กิโลเมตร 2.สนามบินเลย ตั้งอยู่ที่ ต.นาอาน อ.เมือง ห่างจากตัวเมือง 5.4 กิโลเมตร 3.สนามบินอุดรธานี ตั้งอยู่ที่ ต.หมากแข้ง อ.เมือง ห่างจากตัวเมือง 5.6 กิโลเมตร 4.สนามบินขอนแก่น ตั้งอยู่ที่ ต.บ้านเป็ด อ.เมือง ห่างจากตัวเมือง 9 กิโลเมตร 5.สนามบินสกลนคร ตั้งอยู่ที่ ต.ธาตุนาเวง อ.เมือง ห่างจากตัวเมือง 11.5 กิโลเมตร 6.สนามบินนครพนม ตั้งอยู่ที่ ต.นาทราย อ.เมืองนครพนม ห่างจากตัวเมือง 17.8 กิโลเมตร 7.สนามบินร้อยเอ็ด ตั้งอยู่ที่ ต.หนองพอก อ.ธวัชบุรี ห่างจากตัวเมือง 18.1 กิโลเมตร 8.สนามบินบุรีรัมย์ ตั้งอยู่ที่ ต.ร่อนทอง อ.สตึก ห่างจากตัวเมือง 32.3 กิโลเมตร . ทุกท่านเคยไปใช้สนามบินที่ไหนกันบ้างคะ คอมเมนต์มาแชร์ประสบการณ์การเดินทางขากสนามบินเข้าไปในตัวเมืองกันหน่อยค่ะ . ที่มา: กรมท่าอากาศยาน, Google Maps หมายเหตุ: 1.ระยะทาง ใช้ศาลหลักเมืองเป็นจุดอ้างอิงในการวัด เนื่องจากศาลหลักเมืองสามารถเป็นจุดอ้างอิงของตัวเมืองของแต่ละจังหวัดได้ . ติดตาม ISAN Insight & Outlook ทุกช่องทางได้ที่ https://linktr.ee/isan.insight #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ISAN #อีสานอินไซต์ #Business #Economy #ธุรกิจ #เศรษฐกิจ #ธุรกิจอีสาน #เศรษฐกิจอีสาน #สนามบิน #สนามบินในอีสาน #สนามบินอีสาน #ท่าอากาศยาน

โอ้กะจู๋ บุกอีสาน สลัด 1000 ล้าน ทำอย่างไร? จากแปลงผัก สู่บริษัทมหาชน ถอดบทเรียนธุรกิจ ฟรี!! 22 พ.ย.67 ณ โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น

โอ้กะจู๋ บุกอีสาน สลัด 1000 ล้าน จากแปลงผัก สู่บริษัทมหาชน . หากพูดถึงร้านอาหารออร์แกนิกในเวลา คงไม่มีใครไม่รู้จักร้าน “โอ้กะจู๋” ธุรกิจที่เริ่มจากแปลงผักหลังบ้าน ที่ปัจจุบันก้าวเข้าสู่บริษัทยอดขายกว่า 1000 ล้าน และเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว . ISAN Insight and Outlookสิพามาเบิ่ง เส้นทางธุรกิจ จากแปลงผัก สู่บริษัทมหาชน และ อะไรทำให้ “โอ้กะจู๋” เลือก ‘ขอนแก่น’ เป็นสาขาแรกในการบุกอีสาน . มาฮู้จัก “โอ้กะจู๋” เริ่มจากปลูกผักสวนครัวทั่วไป และผักสลัดบางชนิด บนพื้นที่ปลูกที่มีไม่มากนัก โรงเรือนขนาด 180 ตารางเมตร ซึ่งผลผลิตที่ได้ก็นำไปประกอบอาหารรับประทานในครอบครัว ด้วยเหตุผลที่ว่า “อยากให้คนในครอบครัวมีสุขภาพดี ทานผักที่ไร้สารพิษและสารเคมีตกค้าง” จึงเป็นที่มาของสโลแกน “ปลูกผักเพราะรักแม่” เพราะแม่เปรียบเสมือนตัวแทนความรักของครอบครัว ส่วนชื่อของแบรนด์ “โอ้กะจู๋” ก็มาจากการผวน “อู๋” กับ “โจ้” นั่นเอง . สำหรับบริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ดำเนินกิจการร้านอาหารเพื่อสุขภาพภายใต้แบรนด์ “โอ้กะจู๋” ปัจจุบันได้ระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์เพื่อลงทุนการขยายสาขาแบรนด์ “โอ้กะจู๋“, ขยายแบรนด์ร้านอาหารใหม่ๆ , พัฒนาแฟลตฟอร์มรองรับการขาย และขยายฟาร์มเพื่อให้เพียงพอกับการเติบโต . ณ ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ เดือนมีนาคม ปี 2567) โอ้กะจู๋ มีทั้งหมด 34 สาขา โดยอยู่ภายใต้บริษัทจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพประเภทต่างๆ เช่น สลัด สเต๊ก ซุป สปาเกตตี อาหารจานเดียว ขนมหวาน น้ำผักผลไม้ เบเกอรี่ ขนมขบเคี้ยว เป็นต้น . รวมถึงนำผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์โอ้กะจู๋ เช่น ผัก ผลไม้สด แซนวิช แร็พ ได้มีการนำไปวางขายยังช่องทางต่างๆ รวมถึงการให้บริการจัดเลี้ยง โดยธุรกิจบริการและจำหน่ายของบริษัทฯ สามารถแบ่งรูปแบบและช่องทางการจำหน่ายได้เป็น 4 ช่องทางหลัก ได้แก่ 1.Full-service Restaurant 2.Delivery and Kiosk 3.Cafe Amazon และ 4.Supermarket ด้วยผลผลิตจากสวน 5 แห่งในจังหวัดเชียงใหม่ พื้นที่รวมประมาณ 380 ไร่ . หากดูในแง่ของผลประกอบการจะพบว่า ปี 64 บริษัทมีรายได้ 803 ล้านบาท ปี 65 บริษัทมีรายได้ 1,215 …

โอ้กะจู๋ บุกอีสาน สลัด 1000 ล้าน ทำอย่างไร? จากแปลงผัก สู่บริษัทมหาชน ถอดบทเรียนธุรกิจ ฟรี!! 22 พ.ย.67 ณ โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น อ่านเพิ่มเติม »

พาสำรวจเบิ่ง “ราคาที่ดินต่ำสุด-สูงสุด” แต่จังหวัดในภาคอีสาน

พาสำรวจเบิ่ง “ราคาที่ดินต่ำสุด-สูงสุด” แต่จังหวัดในภาคอีสาน . . ราคาที่ดินที่แพงสุดส่วนใหญ่ราคาที่ดินในอำเภอเมืองมักจะสูงกว่าพื้นที่อื่นๆ เนื่องจากเป็นศูนย์กลางของการคมนาคมขนส่ง มีถนนหนทางที่เชื่อมต่อกับพื้นที่อื่นๆ ได้สะดวก มีระบบสาธารณูปโภคที่ครบครัน (ไฟฟ้า น้ำประปา โทรคมนาคม) ทำให้มีประชากรที่อาศัยอยู่ในเมืองจำนวนมากขึ้น ความต้องการด้านที่อยู่อาศัยก็เพิ่มขึ้น ยิ่งในปัจจุบันคนต้องการมีพื้นที่ส่วนตัวและต้องการมีครอบครัวเดี่ยวด้วยแล้ว ราคาที่ดินจึงลดลงได้ยาก เมื่อ Demand กับ Supply มาเจอกัน ราคาที่ดินย่อมดีดตัวสูงขึ้น เนื่องจากทรัพยากรมีจำกัด . สังคมเมืองมีการขยายตัว มีห้างสรรพสินค้า รถไฟฟ้า และการขนส่งสาธารณะที่สะดวกสบาย ราคาที่ดินในละแวกนั้นย่อมสูงขึ้นตามไปด้วย ยิ่งใกล้สถานที่ที่เป็นทำเลทองมากเท่าไร แปลว่าคนที่อาศัยอยู่บนที่ดินนั้นจะสะดวกสบายในการใช้ชีวิตมากขึ้น ดังนั้น ที่ดินบริเวณนั้นจึงแพงและมิอาจประเมินราคาที่ดินได้ โดยส่วนมากคนที่ซื้อต่อจึงเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ . ในขณะที่ดินที่ถูกสุดส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่ห่างจากตัวเมือง เนื่องจากความสะดวกในการเดินทางและสิ่งอำนวยความสะดวกอาจจะยังไม่ครบครัน อีกหนึ่งสาเหตุที่สำคัญนั้นก็คือ ที่ดินที่มีข้อจำกัด เช่น ที่ดินติดลำธาร ที่ดินลาดชัน หรือที่ดินที่มีปัญหาเรื่องเอกสารสิทธิ์ จะมีราคาถูกกว่าที่ดินที่มีสภาพดี . . อ้างอิงจาก: – DDproperty – Bangkok CitiSmart – กรมธนารักษ์   ติดตาม ISAN Insight & Outlook ทุกช่องทางได้ที่ https://linktr.ee/isan.insight   #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ISAN #อีสานอินไซต์ #Business #Economy #ธุรกิจ #เศรษฐกิจ #ธุรกิจอีสาน #เศรษฐกิจอีสาน #ราคาที่ดิน #ราคาประเมินที่ดิน

พาส่องเบิ่่ง จังหวัดไหนในอีสาน มีก๊าซโอโซน มากที่สุด

“ฮู้บ่ว่า?โอโซนในอีสานมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี ส่งผลต่อสุขภาพเรามากกว่าที่คิด จากปัญหาระบบทางเดินหายใจสู่โรคร้ายแรง . โอโซน เป็นก๊าซชนิดหนึ่งที่สามารถพบได้ทั้งในชั้นบรรยากาศและใกล้พื้นผิวโลก แต่โอโซนที่ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพคือโอโซนใกล้พื้นดิน (Ground-level ozone) ซึ่งเกิดจากปฏิกิริยาเคมีระหว่างสารมลพิษที่ปล่อยออกจากยานพาหนะ โรงงานอุตสาหกรรม และแหล่งเผาไหม้อื่น ๆ กับแสงแดด โอโซนใกล้พื้นดินมีผลกระทบต่อสุขภาพอย่างมาก โดยเฉพาะในภาคอีสานของประเทศไทยที่พบว่าปริมาณโอโซนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี . ภาคอีสานเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากมลพิษทางอากาศทั้งจากการขนส่งทางบกและการเผาไหม้ในพื้นที่เกษตรกรรม เมื่อโอโซนสะสมมากขึ้นในบรรยากาศ มันสามารถส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจโดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคปอดหรือโรคหัวใจอยู่แล้ว การสัมผัสกับโอโซนในระดับสูงเป็นเวลานานสามารถทำให้เกิดอาการระคายเคืองในระบบทางเดินหายใจ อาการหายใจถี่ แน่นหน้าอก หรืออาการไออย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ โอโซนยังสามารถทำให้การทำงานของปอดลดลงและทำให้เกิดโรคปอดเรื้อรัง เช่น โรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง และหืด . เมื่อดูปริมาณก๊าซโอโซนในรายจังหวัดจะพบว่าจังหวัด มุกดาหารที่มีค่าก๊าซโอโซนมากที่สุด มีเพียง 42 PPB ที่เทียบเป็นรายปี ซึ่งถือได้ว่ามีค่าไม่ได้สูงมากนัก ตามมาตราฐานที่ประเทศไทยกำหนดที่อยู่ในระดับอันตรายนั้นจะต้องมีค่าใกล้กับ 70 PPB เทียบรายเฉลี่ย8ชั่วโมง . โดยสามารถตรวจสอบค่าก๊าซและฝุ่นละออง ด้วยตัวเองได้ทาง ลิงก์เว็บไซต์ Click . ที่มา สำนักงานสถิติแห่งชาติ . ติดตาม ISAN Insight & Outlook ทุกช่องทางได้ที่ #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ISAN #อีสานอินไซต์ #Business #Economy #ธุรกิจ #เศรษฐกิจ #ธุรกิจอีสาน #เศรษฐกิจอีสาน #แวดล้อมอีสาน

Scroll to Top