Infographic

สรุปเรื่อง น่ารู้ แดนอีสาน ทั้ง เศรษฐกิจ ธุรกิจ สังคม ศิลปะ วัฒนธรรม

“สินภูฮ่อม” พบก๊าซธรรมชาติเพิ่ม 30 ล้าน ลบ.ฟุต/วัน 🔎ชวนมาเบิ่ง ตัวอย่าง “แหล่งปิโตรเลียม” อยู่ที่ไหนบ้าง⛽️💡⚡️

“สินภูฮ่อม” พบก๊าซธรรมชาติเพิ่ม 30 ล้าน ลบ.ฟุต/วัน  ชวนมาเบิ่ง ตัวอย่าง “แหล่งปิโตรเลียม” อยู่ที่ไหนบ้าง . . หากพูดถึงการสำรวจและผลิตปิโตรเลียม ซึ่งเป็น “ต้นน้ำ” ของ อุตสาหกรรมพลังงาน นั้น ยุคบุกเบิก ปิโตรเลียม ในไทยปี 2514 รัฐบาลได้ออกพระราชบัญญัติปิโตรเลียม เพื่อให้เอกชนทำการสำรวจแหล่งปิโตรเลียมอย่างกว้างขวางยิ่งขึ้น หลังจากนั้นได้ก้าวเข้าสู่ยุคโชติช่วงของการสำรวจและผลิตปิโตรเลียม  . โดยเริ่มผลิตก๊าซธรรมชาติได้ในปี 2524 จากแหล่งก๊าซเอราวัณในอ่าวไทย และเริ่มผลิตน้ำมันดิบได้ในปี 2526 จากแหล่งสิริกิติ์ จังหวัดกำแพงเพชร ทำให้ประเทศไทยสามารถผลิตก๊าซธรรมชาติและน้ำมันดิบในเชิงพาณิชย์ได้นับแต่นั้นมา . ประเทศไทยมีแหล่งปิโตรเลียมที่เป็นน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติ ซึ่งมีทั้งแหล่งในทะเลอ่าวไทย และแหล่งบนบก โดยก๊าซธรรมชาติมีแหล่งผลิตในทะเล เช่น แหล่งเอราวัณ แหล่งบงกช แหล่งอาทิตย์ เป็นต้น และมีแหล่งผลิตก๊าซธรรมชาติบนบก เช่น แหล่งก๊าซธรรมชาติสินภูฮ่อม จังหวัดอุดรธานี และแหล่งก๊าซธรรมชาติน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น ในภาคอีสานบ้านเรานั่นเอง . . แหล่งก๊าซสินภูฮ่อม ตั้งอยู่บนแปลงสัมปทาน EU1 และ E5N ขนาดพื้นที่ 232.2 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดอุดรธานีและขอนแก่น . เริ่มผลิตก๊าซธรรมชาติเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2549 ชนิดของปิโตรเลียมที่ได้ คือ ก๊าซธรรมชาติ และก๊าซธรรมชาติเหลว โดยมีอัตราการผลิตก๊าซธรรมชาติ คิดเป็นสัดส่วน 3% ของปริมาณการผลิตก๊าซธรรมชาติทั้งประเทศ โดยมีอัตราการผลิตก๊าซธรรมชาติเฉลี่ย 95 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และก๊าซธรรมชาติเหลว (Condensate) เฉลี่ย 200 บาร์เรลต่อวัน (ข้อมูลเดือนพฤษภาคม 2567) . ในช่วง 3 ปี 2560 – 2563 มีการจัดเก็บค่าภาคหลวงจากแหล่งก๊าซธรรมชาติสินภูฮ่อมรวม 2,425.2 ล้านบาท แบ่งเป็นการจัดสรรรายได้แผ่นดิน 970.1 ล้านบาท และจัดสรรรายได้ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรวม 1,455.1 ล้านบาท . เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2567 ได้ขุดเจาะพบก๊าซธรรมชาติ โดยมีการประเมินอัตราการไหลของก๊าซธรรมชาติได้ที่ประมาณ 30 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ซึ่งส่งผลดีต่อประเทศที่มีแหล่งพลังงานเพิ่ม สามารถพึ่งพาตนเองด้านพลังงานได้ท่ามกลางสภาวะความไม่แน่นอนของสถานการณ์พลังงานโลกในปัจจุบัน . . แหล่งก๊าซน้ำพอง ก่อตั้งขึ้นในปี 2522 และในปี 2533 เริ่มผลิตก๊าซธรรมชาติเป็นครั้งแรก โดยมีพื้นที่ผลิตปิโตรเลียมจำนวน 34.4 ตารางกิโลเมตร ซึ่งครอบคลุมพื้นที่อำเภอน้ำพอง และอำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น​ ก๊าซธรรมชาติที่ผลิตจากแหล่งดังกล่าวประมาณวันละ 15 ล้านลูกบาศก์ฟุต และถูกส่งไปเป็นเชื้อเพลิงเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าให้ประชาชนกว่าล้านครัวเรือนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นอกจากนี้ ยังสร้างรายได้ให้แก่รัฐ รวมทั้งสิ้นประมาณ […]

“สินภูฮ่อม” พบก๊าซธรรมชาติเพิ่ม 30 ล้าน ลบ.ฟุต/วัน 🔎ชวนมาเบิ่ง ตัวอย่าง “แหล่งปิโตรเลียม” อยู่ที่ไหนบ้าง⛽️💡⚡️ อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง “แรมซาร์ไซต์”  พื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระหว่างประเทศในภาคอีสาน🏔️🌳🍃

“พื้นที่ชุ่มน้ำ” ว่าคืออะไร? มื้อนี้ ISAN Insight & Outlook สิมาเว้าสู่ฟัง …    แรมซาร์ไซต์หรือพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระหว่างประเทศนี้ ถือเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่เป็นตัวแทนหายากหรือมีลักษณะพิเศษเฉพาะ ซึ่งพบในเขตชีวภูมิศาสตร์ที่เหมาะสม มีความสำคัญระหว่างประเทศสำหรับการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพที่เกี่ยวข้องกับชนิดพันธุ์และชุมชนประชากรทางนิเวศของนกน้ำและปลา ภายใต้อนุสัญญาแรมซาร์ (Ramsar Convention) หรืออนุสัญญาว่าด้วยพื้นที่ชุ่มน้ำ ซึ่งเป็นอนุสัญญาที่จัดขึ้นที่เมืองแรมซาร์ ประเทศอิหร่านในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2514    อนุสัญญาฯ นับเป็นข้อตกลงระหว่างรัฐบาลเพื่อกำหนดกรอบการทำงานสำหรับความร่วมมือระหว่างประเทศ ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อปี 2518 และเพื่อให้เกิดความตระหนักถึงคุณค่าและความสำคัญของพื้นที่ชุ่มน้ำ มีการกำหนดให้ทุกวันที่ 2 กุมภาพันธ์ของทุกปีเป็นวันพื้นที่ชุ่มน้ำโลก (World Wetlands Day)   ในประเทศไทยมีพื้นที่ชุ่มน้ำกว่า 15 พื้นที่ที่มีความสำคัญระหว่างประเทศ (Ramsar Sites) โดยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอยู่ทั้งหมด 3 แห่งด้วยกัน ได้แก่   พื้นที่ชุ่มน้ำเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงโขงหลง📍จังหวัดบึงกาฬ ขึ้นทะเบียนเมื่อ 5 กรกฎาคม 2544 ซึ่งขึ้นทะเบียนเป็นลำดับที่ 1,098 ของโลก เป็นบึงน้ำจืดธรรมชาติขนาดใหญ่ ที่มีขนาดพื้นที่รวมกว่า 13,837.5 ไร่ ตั้งแต่ตำบลบ้านต้อง, ตำบลโสกก่าม อำเภอเซกา และ ตำบลบึงโขงหลง, ตำบลโพธิ์หมากแข้ง อำเภอบึงโขงหลง มีลักษณะแคบยาวเกิดจากลำห้วยหลายสายไหลมารวมกันน้ำมีความยาวประมาณ 13 กิโลเมตร ความกว้าง 2 กิโลเมตร ในบึงมีความลึกโดยเฉลี่ยประมาณ 0.5 – 1 เมตร โดยส่วนที่ลึกสุดประมาณ 6 เมตร บึงโขงหลงเป็นส่วนที่ราบน้ำท่วมถึงของแม่น้ำสงคราม น้ำจากบึงไหลลงสู่แม่น้ำสงครามก่อนออกแม่น้ำโขง   ปัจจุบันพื้นที่การเกษตรโดยรอบมีการเปลี่ยนแปลงเป็นสวนยางพารา ไร่ยาสูบ และสถานที่ท่องเที่ยว ซึ่งสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้มากกว่า 3.12 ล้านบาท/ปี โดยจำแนกเป็นมูลค่าจากการประมง 1.73 ล้านบาท/ปี การท่องเที่ยว 0.19 ล้านบาท/ปี และการบริการ 1.20 บาท/ปี     พื้นที่ชุ่มน้ำกุดทิง📍จังหวัดบึงกาฬ ขึ้นทะเบียนเมื่อ 19 มิถุนายน 2552 ซึ่งขึ้นทะเบียนเป็นลำดับที่ 1,926 ของโลก ตั้งอยู่ในอำเภอเมือง ที่มีขนาดพื้นที่รวม 13,750 ไร่ เป็นแหล่งธรรมชาติที่มีความสำคัญมีคุณค่าการใช้ประโยชน์ด้านเป็นแหล่งประกอบอาชีพและการท่องเที่ยว ได้แก่ ด้านการประมง จัดเป็นแหล่งประมงปลาน้ำจืดขนาดใหญ่ที่สุดของชาวบึงกาฬ สามารถสร้างรายได้ให้ชุมชนปีละจำนวนมาก ด้านการปศุสัตว์ เนื่องจากเป็นแหล่งที่อุดมสมบูรณ์ของพืชอาหารและน้ำเหมาะสำหรับการเลี้ยงโคและกระบือด้วยวิธีธรรมชาติ ด้านการเกษตร พื้นที่เป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่เหมาะสมต่อการเพาะปลูกพืชเศรษฐกิจชนิดต่างๆ ปัจจุบันพื้นที่โดยรอบบางส่วนมีการทำสวนยางพารามากขึ้น และด้านการท่องเที่ยว มีสถานที่ท่องเที่ยวบริเวณโดยรอบ ได้แก่ หลวงพ่อใหญ่ วัดโพธาราม ศาลเจ้าแม่สองนาง หาดทรายตามริมน้ำโขง หนองกุดทิง และหนองบึงกาฬ

พามาเบิ่ง “แรมซาร์ไซต์”  พื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระหว่างประเทศในภาคอีสาน🏔️🌳🍃 อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง🥇🥈🥉ความภูมิใจของคนไทยทั้งประเทศ 🇹🇭 สุดยอดนักกีฬาผู้พิชิตเหรียญ โอลิมปิก 2024 และ สรุปผลการแข่งขัน #โอลิมปิก2024

พามาเบิ่ง🥇🥈🥉ความภูมิใจของคนไทยทั้งประเทศ 🇹🇭สุดยอดนักกีฬาผู้พิชิตเหรียญ โอลิมปิก 2024 . สรุปผลการแข่งขัน #โอลิมปิก2024 ขอขอบคุณนักกีฬาไทย ผู้ฝึกสอน และผู้อยู่เบื้องหลังทุกคน ที่สร้างผลงานและชื่อเสียงให้ประเทศไทยในมหกรรมโอลิมปิก 2024 ทุกคนเก่งมาก 👏👏 🥇1 เหรียญทอง 🥈3 เหรียญเงิน 🥉2 เหรียญทองแดง ยินดีกับนักกีฬาทุกคนที่คว้าเหรียญรางวัล 🥇🥈🥉และส่งกำลังใจให้นักกีฬาที่ไม่ได้เหรียญรางวัล คุณเก่งมากๆ เดินหน้าพัฒนาต่อไป เพื่อคนที่คุณรักและแฟนกีฬาทุกคน . 🥋เทควันโด 🥇พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ // เหรียญทอง 👏บัลลังก์ ทับทิมแดง // ตกรอบ 16 คนสุดท้าย 👏ศศิกานต์ ทองจันทร์ // ตกรอบชิงเหรียญทองแดง รอบแรก _____________________________________________________________________ 🥊มวยสากล 🥉จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง (66 กก.หญิง) // เหรียญทองแดง 👏ธิติสรรณ์ ปั้นโหมด (51 กก.ชาย) // ตกรอบ 16 คนสุดท้าย 👏บรรจง สินศิริ (63 กก.ชาย) // ตกรอบ 8 คนสุดท้าย 👏วีระพล จงจอหอ (80 กก.ชาย) // ตกรอบ 32 คนสุดท้าย 👏จุฑามาศ รักสัตย์ (50 กก.หญิง) // ตกรอบ 8 คนสุดท้าย 👏จุุฑามาศ จิตรพงศ์ (54 กก.หญิง) // ตกรอบ 16 คนสุดท้าย 👏ธนัญญา สมนึก (60 กก.หญิง) // ตกรอบ 32 คนสุดท้าย 👏ใบสน มณีก้อน (75 กก.หญิง) // ตกรอบ 16 คนสุดท้าย _____________________________________________________________________ 🏋️‍♂️ยกน้ำหนัก 🥈ธีรพงศ์ ศิลาชัย (61 กก.ชาย) // เหรียญเงิน 🥈วีรพล วิชุมา (73 กก.ชาย) // เหรียญเงิน 🥉สุรจนา คำเบ้า (49 กก.หญิง) // เหรียญทองแดง 👏ดวงอักษร ใจดี (+81 กก.หญิง)

พามาเบิ่ง🥇🥈🥉ความภูมิใจของคนไทยทั้งประเทศ 🇹🇭 สุดยอดนักกีฬาผู้พิชิตเหรียญ โอลิมปิก 2024 และ สรุปผลการแข่งขัน #โอลิมปิก2024 อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง “สุราท้องถิ่นแดนอีสาน” มีมากแค่ไหนในแต่ละจังหวัด

“สุรา” ก้าว(หน้า)ไปทางไหน ? . “สุราก้าวหน้า” เป็นโยบายที่หวังสร้างรายได้ขยายการเติบโตของ SME รายย่อยของไทย โดยการแก้ พ.ร.บ.สรรพสามิต เปิดทางให้การผลิตเหล้าเบียร์ทำได้อย่างเปิดกว้างมากขึ้น ลดการผูกขาดของกลุ่มทุนขนาดใหญ่ ซึ่งอาจจะช่วยสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับผู้ประกอบการรายย่อย สร้างเม็ดเงินให้กับประเทศ และสามารลดการผูกขาดธุรกิจสุราในกลุ่มนายทุนใหญ่เพียงไม่กี่กลุ่ม . . สุรากลั่นท้องถิ่นในภาคอีสาน . รายได้และการจำหน่ายสุรากลั่นท้องถิ่นมีความสัมพันธ์อย่างมากกับการท่องเที่ยว เนื่องจากรูปแบบการจัดจำหน่ายที่ยังถูกจำกัดอยู่ในพื้นที่ผู้ผลิตเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการจำหน่ายหน้าร้านโดยตรง การจำหน่ายในลักษณะนี้จำกัดโอกาสในการเข้าถึงตลาดกว้างขวาง อีกทั้งการผลิตสุรากลั่นท้องถิ่นยังคงไม่สามารถผลิตในปริมาณมากและมีราคาที่ถูกกว่าสุรากลั่นจากแบรนด์ใหญ่ในตลาดได้ ส่งผลให้ตลาดสุรากลั่นท้องถิ่นยังไม่สามารถสร้างรายได้ที่มั่นคงได้ในเร็ว ๆ นี้ รายได้ของสุรากลั่นท้องถิ่นจึงยังคงขึ้นอยู่กับกระแสการบริโภคของนักดื่มเป็นหลัก นอกจากนี้ ความจำเป็นในการพัฒนารสชาติและการตลาดอย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องทำเพื่อรักษาความน่าสนใจในตลาด แตกต่างจากแบรนด์ใหญ่ที่มีโอกาสติดตลาดได้ง่ายกว่าและสามารถจัดจำหน่ายได้อย่างทั่วถึง ซึ่งส่งผลให้แบรนด์ใหญ่มีรายได้ที่มั่นคงและสามารถคาดการณ์ได้มากกว่าสุรากลั่นท้องถิ่น . โดยสินค้าเกษตรที่นิยมนำไปใช้ผลิตสุรากลั่นในภาคอีสาน ได้แก่ ข้าวเหนียว และ อ้อย ซึ่งเป็นผลผลิตที่นิยมปลูกเป็นอย่างมากในภาคอีสาน ถ้าหากนำผลผลิตทางการเกษตรที่ไม่ได้ก่อให้เกิดมูลค่าส่งให้แก่โรงกลั่นเพื่อผลิตสุรากลั่นท้องถิ่นจะเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกร . และธุรกิจสุรากลั่นท้องถิ่นจะส่งผลในทางบวกต่อ supply chian ทั้งต้นน้ำอย่างเกษตรกร และปลายน้ำอย่างร้านอาหารที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นหลัก . . ในปัจจุบันอุตสาหกรรมเบียร์ในบ้านเราเกือบทั้งหมดถูกครอบครองโดยผู้ผลิตรายใหญ่เพียง 2 รายเท่านั้น คือ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) โดยมีส่วนแบ่งตลาดรวมกันราว 95% ของปริมาณจำหน่ายเบียร์ทั้งหมดในประเทศ  . ในขณะที่อุตสาหกรรมสุรา มีการแข่งขันที่น้อยกว่าเบียร์มาก เนื่องจากมีข้อจำกัดของกฎหมายที่ส่งผลให้ผู้ผลิตรายใหม่เข้าสู่ธุรกิจได้ยาก และถึงแม้จะเข้ามาได้ก็ไม่สามารถที่จะแข่งขันได้ ตลาดจึงถูกผูกขาดโดย บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ซึ่งครองส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 80% ซึ่งบริษัทดังกล่าวมีผลิตภัณฑ์สุราสำหรับตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคทุกระดับกว่า 30 แบรนด์ . ปัจจุบัน ทิศทางของนโยบายสุราก้าวหน้ายังไม่แน่ชัดว่า ท้ายที่สุดจะไปทางไหน แต่ข้อกังวลและความท้าทายที่ละเลยไม่ได้ คือ การควบคุมการบริโภค โดยเฉพาะในเยาวชน รวมทั้งการติดตามและเฝ้าระวังพฤติกรรมเสี่ยงของการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของคนไทย โดยเฉพาะการดื่มในระดับอันตราย การดื่มแล้วขับขี่ยานพาหนะ และผลกระทบทางสุขภาพระยะยาวที่อาจจะเป็นผลเกิดขึ้นตามมา จากการเปลี่ยนแปลงทิศทางนโยบายในเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นผลกระทบทางสุขภาพกาย สุขภาพจิตและภาวะทางอารมณ์ รวมไปถึงสุขภาพสังคมด้วยเช่นกัน . . ในปัจจุบันสุราท้องถิ่นแดนอีสานมีการกระจายอยู่ทั่วภาคอีสาน ดังนี้ 📍กาฬสินธุ์ – พัวร์ (PUR) – สุราตรางูทอง 📍ขอนแก่น – คูน (Koon) 📍ชัยภูมิ – The Spirit of Chaiyaphum  – ไร่ฟ้าเปลี่ยนสี เหล้าเตยหอม  – Spirit of Laen kha 📍นครพนม – เหล้าอุเรณูนคร 📍นครราชสีมา – Red jungle  📍บุรีรัมย์

พามาเบิ่ง “สุราท้องถิ่นแดนอีสาน” มีมากแค่ไหนในแต่ละจังหวัด อ่านเพิ่มเติม »

เทียบโครงสร้างประชากรไทย ในอีก 20 ปีข้างหน้า ในวันที่คนไทยเหลือ 60 ล้านคน

ฮู้บ่ว่าในอีก 20 ปีข้างหน้า ประเทศไทยจะเหลือประชากรเพียง 60 ล้านคนเท่านั้น . #โลกในขณะที่ประชากรโลกกำลังเพิ่มช้าลง จำนวนและสัดส่วนของประชากรสูงอายุกลับเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในปี พ.ศ.2565 ทั่วทั้งโลกมีประชากรสูงอายุ (อายุ 60 ปีขึ้นไป) มากถึง 1,109 ล้านคนคิดเป็นร้อยละ 14 ของประชากรโลก 8,000 ล้านคน . #อาเซียน ในปี พ.ศ.2565 มี 7 ใน 10 ของประเทศสมาชิกอาเซียนที่ก้าวเข้าสู่ “สังคมผู้สูงอายุ” ที่มีสัดส่วนของประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปเกินกว่าร้อยละ 10 เหลือเพียง 3 ประเทศได้แก่ลาวกัมพูชาและฟิลิปปินส์เท่านั้นที่ยังไม่เป็นสังคมผู้สูงอายุ . #ประเทศไทย ปี 2564 เป็นครั้งแรกที่อัตราการเกิดของเด็กไทยต่ำกว่าอัตราการตาย และอัตราการเกิดมีเเนวโน้มลดลงในทุกๆ ปีเเละคาดการณ์ว่าจะลดลงโดยไม่มีทีท่าจะเพิ่มขึ้น ผนวกกับอัตราการตายที่ลดลง ทำให้อัตราการเปลี่ยนเเปลงของประชากรตามธรรมชาติมีเเนวโน้มลดลงตามไปด้วย ซึ่งการที่อัตราการเปลี่ยนเเปลงของประชากรตามธรรมชาตินี้ลดลง ทำให้ประชากรในอนาคตจะมีอายุเฉลี่ยที่มากขึ้นเรื่อยๆ . จากวิถีชีวิตของหนุ่มสาวที่เปลี่ยนไป สถานะภาพทางสังคม และการศึกษาที่สูงขึ้น ผู้หญิงอยู่เป็นโสดมากขึ้น ทำงานนอกบ้านมากขึ้น แต่งงานช้าลง ความต้องการมีบุตรลดลง และผู้หญิงในวัยเจริญพันธุ์มีจำนวนน้อยลง ทำให้อัตราการเกิดลดต่ำลง และก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยอย่างสมบูรณ์ #สังคมคนโสด โดยสัดส่วนคนโสดของประชากรวัยเจริญพันธุ์(อายุ 15-49 ปี) เป็นโสดกว่า 40.5% และหากเจาะจงเฉพาะ ช่วงอายุ 15-25 ปี เป็นโสดมากถึง 50.9% . ปัจจุบันสัดส่วนผู้สูงอายุของภาคกลาง และภาคเหนือ อยู่ในระดับสูง บางจังหวัดอยู่ในภาวะสังคมผู้สูงอายุ เกิน 25% ของประชากร . #อีสาน 𝗜𝗦𝗔𝗡 𝗣𝗼𝗽𝘂𝗹𝗮𝘁𝗶𝗼𝗻 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือภาคอีสานมีประชากรมากถึง 21.7 ล้านคน หรือคิดเป็น 1 ใน 3 ของประเทศ โดยภาคอีสานมีสัดส่วนเฉลี่ยรวมผู้สูงอายุกว่า 17.80% ของประชากรทั้งหมด และหากมองเทียบในระดับภูมิภาค ภาคอีสานมีสัดส่วนผู้สูงอายุน้อยเป็นรองเพียงภาคใต้เท่านั้น . ประเทศที่มีประชากรลดลง และเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ เผชิญกับ ผลกระทบ ดังนี้ ด้านเศรษฐกิจ แรงงานลดลง: ส่งผลต่อภาคการผลิต ภาคบริการ เศรษฐกิจโดยรวมชะลอตัว ขาดแคลนแรงงานทักษะสูง: ส่งผลต่อการแข่งขันทางเศรษฐกิจ ภาระค่าใช้จ่ายภาครัฐเพิ่มขึ้น: เงินบำนาญ สวัสดิการผู้สูงอายุ การบริโภคภายในประเทศลดลง: กำลังซื้อลดลง การออมและการลงทุนลดลง: กระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ . ด้านสังคม ปัญหาครอบครัว: ผู้สูงอายุอยู่คนเดียว ภาระดูแลผู้สูงอายุตกอยู่กับคนรุ่นหลัง ปัญหาสุขภาพ: โรคเรื้อรัง อุบัติเหตุ ปัญหาช่องว่างระหว่างวัย: ความเข้าใจ ความสัมพันธ์ ปัญหาอาชญากรรม:

เทียบโครงสร้างประชากรไทย ในอีก 20 ปีข้างหน้า ในวันที่คนไทยเหลือ 60 ล้านคน อ่านเพิ่มเติม »

ชวนมาเบิ่ง ตัวอย่าง “ของฝากสุดแซ่บขึ้นชื่อ” แต่ละจังหวัดในภาคอีสาน และ ตลาดของฝากไทย Gift Industry

ชวนมาเบิ่ง ตัวอย่าง “ของฝากสุดแซ่บขึ้นชื่อ” แต่ละจังหวัดในภาคอีสาน . . ของฝากเด็ดจากดินแดนอีสาน แซ่บถึงใจ! ภาคอีสานของเรานั้นขึ้นชื่อเรื่องความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติและวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งสะท้อนออกมาในรูปแบบของสินค้าหัตถกรรมและอาหารพื้นเมืองที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ถ้าใครมีโอกาสได้ไปเที่ยวภาคอีสานแล้วล่ะก็ ไม่ควรพลาดที่จะนำของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้านไปฝากคนที่คุณรักกันนะคะ . วันนี้ ISAN Insight and Outlook จะพาไปตะลุยของฝากเด็ดจากแต่ละจังหวัดในภาคอีสานกัน กาฬสินธุ์ หมูทุบ, หมูสวรรค์ ขอนแก่น หม่ำเมืองพล, ไก่ย่างเขาสวนกวาง ชัยภูมิ หม่ำตำนานรัก นครพนม กะละแม, เหล้าอุเรณูนคร นครราชสีมา ผัดหมี่โคราช, ข้าวตัง บึงกาฬ ขนมเบื้องกรอบ บุรีรัมย์ กุ้งจ่อม, กุนเชียง มหาสารคาม โหน่งปลาร้าบอง มุกดาหาร ปอเปี๊ยะสด ยโสธร ถั่วคั่วทราย, ไข่มดแดงกระป๋อง ร้อยเอ็ด กุนเชียง, แหนม เลย มะพร้าวแก้วเชียงคาน, มะขามหวาน ศรีสะเกษ ทุเรียนภูเขาไฟ สกลนคร โคขุนโพนยางคำ, น้ำหมากเม่า สุรินทร์ กุนเชียง, กะละแมสุรินทร์ หนองคาย แหนมเนือง, หมูยอ หนองบัวลำภู ปลาส้ม อำนาจเจริญ ปลาทูหอมสมุนไพร, หมู-เนื้อแผ่น อุดรธานี แหนมเนือง, ไส้กรอกอีสาน อุบลราชธานี หมูยออุบล, ก๋วยจั๊บอุบล . นี่เป็นเพียงตัวอย่างของของฝากจากภาคอีสานเท่านั้น ยังมีอีกมากมายให้คุณได้เลือกกัน หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ในการเลือกของฝากจากภาคอีสานนะคะ . นอกจากของฝากแดนอีสานแล้ว อีสาน อินไซต์ จะพามาเบิ่ง วัฒนธรรมการให้และรับของขวัญ (Gift Giving) ถือเป็นธรรมเนียมเก่าแก่ที่เกิดมาควบคู่กับมนุษยชาติ และมีวิวัฒนาการไปตามแต่ละยุคสมัย เป็นขนบนิยมสากลทั่วโลกเพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกัน เพราะนัยสำคัญคือการแสดงมิตรไมตรีจิตและการขอบคุณตอบแทนกลับ จะแตกต่างกันก็เพียงรูปแบบและวิธีการ ซึ่งยึดโยงกับประเพณีในพื้นถิ่นนั้น ๆ   แม้ว่าการให้ของขวัญจะไม่จำเป็นต้องตอบแทนกลับในรูปแบบ “สิ่งของ” เสมอไป แต่ตามธรรมเนียมปฏิบัติในหลายประเทศทั่วโลกนั้น การให้และได้รับคืนกลับ คือหลักที่พึงปฏิบัติเสมอ ไม่ว่าจะเป็นในรูปของธรรมเนียมตามปกติ หรือเป็นประเพณีตามเทศกาลโอกาสพิเศษต่าง ๆ และได้กลายเป็นระบบ “เศรษฐกิจของขวัญ” (Gift Economy) ซึ่งมีมูลค่ามากกว่า 6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ไปแล้วทั่วโลก ในขณะที่ตลาดอุตสาหกรรมของขวัญของไทย (ล้านบาท) ของที่ระลึกขายนักท่องเที่ยว 28,000 ล้านบาท คิดเป็น 43.8% ส่งออกต่างประเทศ 24,000 ล้านบาท คิดเป็น 37.5% ของชำร่วยส่งเสริมการขาย 10,000 ล้านบาท คิดเป็น 15.6% ของขวัญ 2,000 ล้านบาท คิดเป็น

ชวนมาเบิ่ง ตัวอย่าง “ของฝากสุดแซ่บขึ้นชื่อ” แต่ละจังหวัดในภาคอีสาน และ ตลาดของฝากไทย Gift Industry อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง การเข้าถึงและค่าใช้จ่ายของอาหารเพื่อสุขภาพ ของประเทศในกลุ่ม GMS

พามาเบิ่ง การเข้าถึงและค่าใช้จ่ายของอาหารเพื่อสุขภาพ ของประเทศในกลุ่ม GMS . ภูมิภาคเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง Greater Mekong Subregion (GMS) นั้นขึ้นชื่อเรื่องความหลากหลายทางวัฒนธรรมและอาหารการกิน ซึ่งอาหารแต่ละประเทศก็มีเอกลักษณ์และวัตถุดิบเฉพาะตัวที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตและภูมิประเทศ แต่ถึงแม้จะมีความแตกต่าง อาหารอาเซียนส่วนใหญ่ก็มีส่วนประกอบที่คล้ายคลึงกัน นั่นคือ วัตถุดิบจากธรรมชาติ เช่น ผัก ผลไม้ สมุนไพร และข้าว ซึ่งล้วนมีประโยชน์ต่อสุขภาพทั้งสิ้น   อาหารในภูมิภาคนี้ที่ควรลอง: ข้าว: เป็นอาหารหลักของหลายประเทศในอาเซียน มีทั้งข้าวกล้อง ข้าวเหนียว และข้าวหอมมะลิ ซึ่งให้คาร์โบไฮเดรตที่เป็นพลังงานหลักแก่ร่างกาย ผัก: ผักใบเขียว ผักสีส้ม และผักหลากสีสัน อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น ผักบุ้ง ผักกาดขาว ผักกาดเขียว กะหล่ำปลี แตงกวา มะเขือเทศ ผลไม้: ผลไม้ตามฤดูกาล เช่น มะม่วง มังคุด ทุเรียน ลองกอง ส้ม กล้วย ซึ่งอุดมไปด้วยวิตามินและใยอาหาร ช่วยในการขับถ่าย โปรตีน: ได้จากเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ปลา ถั่ว และไข่ ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในการสร้างและซ่อมแซมเซลล์ในร่างกาย สมุนไพร: ขมิ้นชัน กระเทียม พริกไทยดำ มีสรรพคุณทางยา ช่วยต้านอนุมูลอิสระและเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน อาหารในกลุ่มประเทศ GMS นั้นไม่เพียงแต่มีรสชาติอร่อยและหลากหลาย แต่ยังอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการที่จำเป็นต่อร่างกาย การเลือกทานอาหารอาเซียนที่ปรุงอย่างถูกสุขลักษณะและมีส่วนผสมที่หลากหลาย จะช่วยให้คุณได้รับสารอาหารครบถ้วนและมีสุขภาพที่ดี ตัวอย่างอาหารสุขภาพจากประเทศต่างๆ กลุ่มประเทศ GMS: ไทย: แกงเขียวหวานไก่, ต้มยำกุ้ง, ส้มตำ, ผัดไทย เวียดนาม: ก๋วยจั๊บญวน, ผัดซีอิ้ว, ส้มตำ, ปอเปี๊ยะสด ลาว: ลาบ, ส้มตำ, แหนมเนือง, ไส้อั่ว กัมพูชา: อามก, สัมลอร์ค็อก, น้ำพริก, ขนมจีน จีน: เต้าหู้, ซุปเห็ด, ผัดผักรวมมิตร, ปลาอบซีอิ๊ว วิเคราะห์ข้อมูลการเข้าถึงและค่าใช้จ่ายของอาหารเพื่อสุขภาพในกลุ่มประเทศ GMS จากการรวบรวมข้อมูลของ ISAN Insight ที่แสดงให้เห็นถึงค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อวันสำหรับอาหารเพื่อสุขภาพ และสัดส่วนประชากรที่เข้าถึงอาหารเพื่อสุขภาพในแต่ละประเทศสมาชิกกลุ่มประเทศ GMS (Greater Mekong Subregion) นั้น สามารถวิเคราะห์ได้ดังนี้ ภาพรวม ค่าใช้จ่ายแตกต่างกัน: ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อวันสำหรับอาหารเพื่อสุขภาพในแต่ละประเทศมีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด โดยประเทศจีนแผ่นดินใหญ่มีค่าใช้จ่ายต่ำสุด ขณะที่ประเทศไทยมีค่าใช้จ่ายสูงสุด การเข้าถึงแตกต่างกัน: สัดส่วนประชากรที่เข้าถึงอาหารเพื่อสุขภาพในแต่ละประเทศก็มีความแตกต่างกันอย่างมาก โดยประเทศลาวมีสัดส่วนประชากรที่เข้าถึงสูงสุด ขณะที่ประเทศเวียดนามมีสัดส่วนประชากรที่เข้าถึงต่ำสุด การวิเคราะห์รายประเทศ กัมพูชา: มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อวันค่อนข้างสูง แต่ข้อมูลเกี่ยวกับสัดส่วนประชากรที่เข้าถึงยังไม่มีการเก็บรวบรวมหรือเผยแพร่อย่างชัดเจน โดยอาหาร และสินค้าโภคภัณฑ์หลายอย่างมีการนำเข้าจากต่างประเทศ ทำให้ค่าใช้จ่ายต่อวันสูง ในขณะที่ค่าเงินอ่อน จีนแผ่นดินใหญ่:

พามาเบิ่ง การเข้าถึงและค่าใช้จ่ายของอาหารเพื่อสุขภาพ ของประเทศในกลุ่ม GMS อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง🥼จำนวนแพทย์และพยาบาลแต่ละประเทศในกลุ่ม GMS 👩‍⚕

พามาเบิ่ง🧐จำนวนแพทย์และพยาบาลแต่ละประเทศในกลุ่ม GMS 🥼👩‍⚕ จำนวนแพทย์ต่อประชากรเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญอย่างยิ่งในการประเมินสถานการณ์ด้านสุขภาพของประเทศหนึ่งๆ โดยสามารถบ่งบอกถึงปัจจัยต่างๆ ได้ดังนี้ 🥼การเข้าถึงบริการทางการแพทย์: จำนวนแพทย์ที่มากขึ้นจะส่งผลให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์ได้ง่ายขึ้น ลดระยะเวลาในการรอคิว และเพิ่มโอกาสในการได้รับการรักษาพยาบาลที่ทันท่วงที 🥼คุณภาพของการดูแลสุขภาพ: การมีแพทย์เพียงพอจะช่วยให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลที่ละเอียดรอบคอบมากขึ้น แพทย์จะมีเวลาให้คำปรึกษาและตรวจรักษาผู้ป่วยได้อย่างเต็มที่ การกระจายตัวของทรัพยากรบุคคล: การเปรียบเทียบจำนวนแพทย์ในแต่ละพื้นที่ จะช่วยให้เห็นภาพการกระจายตัวของทรัพยากรบุคคลทางการแพทย์ ว่ามีความสม่ำเสมอหรือไม่ และพื้นที่ใดบ้างที่ขาดแคลนแพทย์ 🥼ประสิทธิภาพของระบบสุขภาพ: จำนวนแพทย์ที่เหมาะสมจะช่วยให้ระบบสุขภาพทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดภาระงานของแพทย์ และป้องกันไม่ให้เกิดการทำงานหนักเกินไป การพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคม: ประเทศที่มีจำนวนแพทย์ต่อประชากรสูง มักจะมีสภาพเศรษฐกิจและสังคมที่ดีกว่า เนื่องจากประชาชนมีสุขภาพที่ดีขึ้น สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีอายุขัยที่ยาวนานขึ้น . ปัจจัยที่ส่งผลต่อจำนวนแพทย์ต่อประชากร: 🥼นโยบายด้านสาธารณสุข: รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมการผลิตแพทย์และการกระจายแพทย์ไปยังพื้นที่ห่างไกลหรือไม่ 🥼งบประมาณด้านสาธารณสุข: การลงทุนด้านสาธารณสุขที่เพียงพอจะช่วยเพิ่มจำนวนแพทย์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ 🥼สภาพการทำงานของแพทย์: สภาพการทำงานที่น่าพอใจ เช่น เงินเดือนที่ดี สวัสดิการที่ดี จะดึงดูดให้แพทย์เข้ามาทำงานในระบบสาธารณสุขมากขึ้น 🥼การขาดแคลนแพทย์เฉพาะทาง: บางสาขาแพทย์อาจขาดแคลนบุคลากร ซึ่งส่งผลต่อการเข้าถึงบริการทางการแพทย์เฉพาะทาง . มาตรฐานจำนวนแพทย์ต่อประชากร: 🥼องค์การอนามัยโลก (WHO) กำหนดมาตรฐานจำนวนแพทย์ต่อประชากรไว้ที่แพทย์ 1 คนต่อประชากร 1,000 คน แต่ค่ามาตรฐานนี้เป็นเพียงตัวเลขที่ใช้เป็นแนวทางเท่านั้น เนื่องจากความต้องการแพทย์จะแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น โรคระบาด อายุเฉลี่ยของประชากร และสภาพทางภูมิศาสตร์ . สถานการณ์จำนวนแพทย์ต่อประชากรในกลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขง (GMS): ภาพรวมสถานการณ์ระบบการดูแลสูขภาพของจีน แพทย์ 25.18 ต่อ ประชากร 10,000 คน พยาบาล 35.20 ต่อ ประชากร 10,000 คน ระบบการรักษาพยาบาลแห่งชาติของประเทศจีนเป็นระบบหลายระดับ โดยมีประกันสุขภาพพื้นฐาน (BMI) เป็นส่วนสำคัญ และมีความช่วยเหลือทางการแพทย์เป็นระบบสำรอง รวมถึงมีประกันสุขภาพเชิงพาณิชย์ การบริจาคการกุศล และกิจกรรมช่วยเหลือทางการแพทย์ร่วมเป็นบริการเสริม ระบบ BMI ครอบคลุมสองกลุ่มหลักคือพนักงานที่ลงทะเบียนในโปรแกรมประกันสุขภาพพื้นฐานของพนักงาน (EBMI) และประชาชนทั่วไปที่ลงทะเบียนในโปรแกรมประกันสุขภาพพื้นฐานของประชาชน (RBMI) โดยในเดือนกันยายน 2020 มีประชาชนมากกว่า 1.35 พันล้านคน หรือกว่า 95% ของประชากรทั้งหมดได้รับการคุ้มครองจากโปรแกรม BMI ซึ่งนับเป็นเครือข่ายความปลอดภัยทางการแพทย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีจำนวน 337 ล้านคนที่ได้รับการคุ้มครองจาก EBMI และ 1.014 พันล้านคนได้รับการคุ้มครองจาก RBMI ระบบประกันสุขภาพพื้นฐานมีความยั่งยืนและเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2019 มีรายได้จากกองทุนประกันสุขภาพพื้นฐานแห่งชาติ (รวมประกันการคลอด) มูลค่า 2.44 ล้านล้านหยวน และมีค่าใช้จ่ายมูลค่า 2.09 ล้านล้านหยวน นอกจากนี้ ระบบความช่วยเหลือทางการแพทย์ยังมีบทบาทสำคัญในการประกันความมั่นคงทางการแพทย์ให้กับประชาชน โดยเฉพาะประชาชนที่มีรายได้น้อย ด้วยการสนับสนุนให้ประชาชนกลุ่มนี้สามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์พื้นฐานได้ตั้งแต่ปี 2018 ความช่วยเหลือทางการแพทย์นี้ได้ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ให้กับประชาชนที่มีรายได้น้อยประมาณ 480 ล้านคน รวมมูลค่าประมาณ 330 พันล้านหยวน และได้ดำเนินมาตรการลดความยากจนโดยเฉพาะสำหรับผู้คนที่เจ็บป่วยร้ายแรงกว่า

พามาเบิ่ง🥼จำนวนแพทย์และพยาบาลแต่ละประเทศในกลุ่ม GMS 👩‍⚕ อ่านเพิ่มเติม »

พาส่อง 4 ชุดประจำชาติจากแดนอีสาน 4 ใน 10 ชุดประจำชาติยอดเยี่ยม MUT 2024

“มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2024” ในรอบ “ชุดประจำชาติ” หัวข้อ “งามล้ำหัตถศิลป์-ศิลปาชีพ” สัมผัสกับความวิจิตรงดงามของงานหัตถศิลป์และศิลปะชุดไทย โดยกองประกวดคาดหวังชุดที่ให้คุณค่าทางศิลปวัฒนธรรมไทย ส่งเสริมสุนทรียะ ความงามของสตรี และให้ความสำคัญกับการสวมใส่ได้จริง สะท้อนคุณค่าความสำคัญของงานเบื้องหลังให้ปรากฏบนเวทีการประกวด ชุดประจำชาติในการประกวดปีนี้ ไม่จัดอยู่ในประเภท แฟนตาซี คาร์นิวัล พาเหรด.โดยมี 10 ชุดที่ได้รับคัดเลือกให้ได้รับรางวัล “10 Best National Costume Presented by The Mall Group” และจะได้ไปจัดแสดงโชว์ในงาน The Mall Lifestore Women Inspired Textile in Bloom ในวันที่ 8 สิงหาคมนี้ ซึ่งมีถึง 4 ชุดที่มาจากแดนอีสานกันเลยทีเดียว จากจังหวัดอะไรกันบ้าง มาดูกันเลยค่ะ. มหาสารคาม ศรีษะเกษ MUT 16 อังคณา ศรีสุวรรณชื่อชุด กินรีรดน้ำ เมื่อรดน้ำยาให้หลุดออกจึงพลันปรากฏลวดลายกินรีสีทองอร่าม เยื่องย่างออกกรีดกรายโผผินบินเริงระบำอ่อนช้อยงดงาม ดั่งปรากฏในจิตรกรรมไทย ชุดนี้ได้แรงบันดาลใจจากงานประณีตศิลป์ชั้นสูง ลายรดน้ำรูปกินรีอมนุษย์ครึ่งบนเป็นคนครึ่งล่างนก ผสมผสานเข้ากับแฟชั่นตามยุคสมัย ถือเป็นการยกระดับงานประณีตศิลป์ชั้นสูงในอีกมิตินึง ผ่านชุดแต่งกายประจำชาติไทย สืบทอดเป็นมรดกและเอกลักษณ์ด้านศิลปกรรมไทยอย่างแท้จริงออกแบบและตัดเย็บโดยธีรภัทรคชพันธ์. ศรีษะเกษ MUT 16 อังคณา ศรีสุวรรณชื่อชุด จักรีศิลป์กลิ่นลำดวน แรงบันดาลใจจากดอกลำดวนและชุดไทยจักรี ที่รังสรรค์ขึ้นด้วยงานจักสาน ภูมิปัญญาหัตถศิลป์ของไทยอันงดงาม สะท้อนวัฒนธรรมไทยที่เป็นเอกลักษณ์ ผ่านลวดลายที่ประณีตและวัสดุธรรมชาติ ที่แสดงถึงความอ่อนช้อยของศิลปะแบบไทยผลิตโดยภาณุวัฒน์จันทร์ศิริห้องเสื้อ Haus of Whatanup เฮาส์ ออฟ วาทะนับ. อุบลราชธานี MUT 08 กานต์ฤทัย ทัศบุตรชื่อชุด ศาสตร์ศิลป์ (สาด-สิน) Ubon candle fest ofthailand ขบวนเทียนพรรษาของจังหวัดอุบลราชธานี ถือได้ว่าเป็นงานหัตถศิลป์ที่วิจิตรงดงามตระการตา โดยใช้ทั้งศาสตร์ความรู้ความชำนาญและศิลปะ เข้ามาผสมผสานกันเพื่อให้เกิดเป็นผลงานต้นเทียนในแต่ละคุ้มวัด โดยฝีมือสกุลช่างเทียนที่สืบทอดกันมารุ่นต่อรุ่น ขบวนเทียนส่วนมากจะเล่าเรื่องราวทางพระพุธศาสนาพุทธชาดกและมีสัตว์ป่าหิมพานต์ต่างๆ มากมาย จะถูกนำมาอยู่ในขบวนเทียนออกแบบโดยนายกรกฤตโกยกิจเจริญและนายกีรติทองสุขตัดเย็บโดย KORRATI (กอ-ระ-ติ). สกลนคร MUT 33 มาลินดา พุกทองชื่อชุด “รจนารีศรีคราม” สกลนครนครแห่งหัตถศิลป์ สีครามธรรมชาติสมบัติล่ำค่า แห่งวัฒนธรรมระดับโลก นำเสนอความงดงามผ่านอาภรณ์ของ “นางรจณา” และมาลัยครามเสี่ยงคู่ นางละครแห่งวรรณกรรมสยามประเทศ ที่ชาวโลกจะถูกสะกดตะลึงและประทับใจมิรู้ลืมออกแบบและตัดเย็บ โดยทีมนะกะวี ด่านลาพล และครูคหกรรม SNRU.อ้างอิงจาก : ผู้จัดการออนไลน์, dailynews..ติดตาม ISAN Insight & Outlook ได้ที่https://linktr.ee/isan.insight.#ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ISAN #อีสานอินไซต์ #Business #Economy #ธุรกิจ #เศรษฐกิจ #ธุรกิจอีสาน #MUT2024 #MissUniverseThailand2024

พาส่อง 4 ชุดประจำชาติจากแดนอีสาน 4 ใน 10 ชุดประจำชาติยอดเยี่ยม MUT 2024 อ่านเพิ่มเติม »

🔎พามาเบิ่ง ข้าว GI แดนอีสาน กระจายอยู่ไหนบ้าง👨🏻‍🌾🌾🍚

🔎พามาเบิ่ง ข้าว GI แดนอีสาน กระจายอยู่ไหนบ้าง👨🏻‍🌾🌾🍚 . . 👨🏻‍🌾🌾ทำความรู้จัก “ข้าวอีสาน” หลากหลายสายพันธุ์ ที่เพาะปลูกในภาคอีสาน มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแตกต่างกันไปในแต่ละท้องถิ่น เกิดเป็น “ของดี” สะท้อนวิถีชีวิต วัฒนธรรม และภูมิปัญญาในพื้นที่ สู่การได้รับเครื่องหมาย “สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์” หรือ “GI” ที่มาจากแหล่งผลิตเฉพาะเจาะจง ซึ่งไม่เพียงสร้างความภาคภูมิใจและสร้างรายได้ให้เกษตรกรและชุมชน แต่ยัง “ผงาด” เป็นสินค้าข้าวที่สามารถสร้างชื่อไกลในระดับโลก . 🌾🍚ข้าวฮางหอมทองสกลทวาปี ปลูกในพื้นที่อำเภอวาริชภูมิ อำเภอพังโคน และอำเภออากาศอำนวย จังหวัดสกลนคร โดยนำมาผ่านกรรมวิธีเฉพาะตามหลักประเพณีการทำข้าวฮางที่สืบต่อกันมาในพื้นที่ดังกล่าว ข้าวกล้อง มีสีน้ำตาลอ่อนจนถึงน้ำตาลคล้ำ (เหลืองทอง) เมล็ด หอม เรียว แกร่ง ใส . 🌾🍚ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ ปลูกในฤดูนาปี ในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ 5 จังหวัด คือ ร้อยเอ็ด ยโสธร สุรินทร์ มหาสารคาม และศรีสะเกษ เมล็ดข้าวยาว เรียว มีกลิ่นหอมตามธรรมชาติ ข้าวสารมีเมล็ดใสและแกร่ง ข้าวสุกมีความหอมและนุ่ม ด้วยความที่พื้นที่มีความอุดมสมบูรณ์ต่ำ ส่งผลให้ข้าวเกิดความเครียดจึงหลั่งสารหอม ทำให้มีความหอมมากกว่าข้าวหอมมะลิในพื้นที่อื่น . 🌾🍚ข้าวเหนียวเขาวงกาฬสินธุ์ ปลูกได้เฉพาะฤดูนาปี ในเขตพื้นที่อำเภอเขาวง อำเภอกุฉินารายณ์ (เฉพาะตำบลนาโก และตำบลหนองห้าง) และกิ่งอำเภอนาคู (เฉพาะตำบลนาดูและตำบลบ่อแก้ว) จังหวัดกาฬสินธุ์ เมื่อนึ่งสุกจะหอมและนุ่มไม่แฉ ติดมือ และข้าวที่นึ่งแล้วเมื่อเก็บไว้ในภาชนะที่ปิดหลายชั่วโมงจนข้าวเย็น ยังคงรักษาความอ่อนนุ่มไว้ได้ . 🌾🍚ข้าวหอมมะลิอุบลราชธานี ปลูกในเขตพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ในฤดูนาปีข้าวมีเมล็ดเรียวยาว ถ้าเป็นข้าวขาวจะมีสีขาวใส เป็นเงา มันวาว มีท้องไข่น้อยกว่า 6% เมื่อนำมาหุงสุกจะมีกลิ่นหอมและมีความเหนียวนุ่ม . 🌾🍚ข้าวหอมมะลิสุรินทร์ ปลูกในจังหวัดสุรินทร์ในฤดูนาปี และมีกลิ่นหอมตามธรรมชาติ เมล็ดข้าวขาว เรียวยาวขาวใส เป็นเงา เลื่อมมัน เมื่อหุงสุกมีลักษณะอ่อนนุ่ม ชุ่มลิ้น กินอร่อย จนได้คำขนานนามว่า “ข้าวหอมมะลิสุรินทร์ หอม ยาว ขาว นุ่ม” . 🌾🍚ข้าวหอมมะลิทุ่งสัมฤทธิ์ ปลูกในฤดูนาปี บนพื้นที่ทุ่งสัมฤทธิที่มีชั้นหินเกลือรองรับอยู่ด้านล่างของพื้นที่ ครอบคลุมพื้นที่ 14 อำเภอของจังหวัดนครราชสีมา ทำให้ข้าวมีเมล็ดเรียวยาว มีกลิ่นหอมตามธรรมชาติ . 🌾🍚ข้าวหอมมะลิดินภูเขาไฟบุรีรัมย์ ปลูกในฤดูนาปี บนพื้นที่ที่มีแร่ธาตุจากดินภูเขาไฟบุรีรัมย์ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะ ทำให้เมล็ดข้าวเรียวยาวเลื่อมมัน มีท้องไข่น้อย เมื่อหุงสุกจะเหนียวนุ่มไม่แข็งกระด้าง ครอบคลุมพื้นที่ 7 อำเภอ ของจังหวัดบุรีรัมย์ได้แก่ อำเภอเมืองบุรีรัมย์ อำเภอละหานทราย อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอห้วยราช อำเภอประโคนชัย อำเภอปะคำ และอำเภอนางรอง

🔎พามาเบิ่ง ข้าว GI แดนอีสาน กระจายอยู่ไหนบ้าง👨🏻‍🌾🌾🍚 อ่านเพิ่มเติม »

Scroll to Top