Article

เครือซีพีส่งเสริมปลูกบักพร้าวน้ำหอม รายได้ดีกว่าเกษตรดั้งเดิม 5 เท่าตัว

เครือซีพีส่งเสริมปลูกบักพร้าวน้ำหอม รายได้ดีกว่าเกษตรดั้งเดิม 5 เท่าตัว   เครือซีพีช่วยเกษตรกรขอนแก่น ส่งเสริมปลูกมะพร้าวน้ำหอม รายได้ดีกว่าเกษตรดั้งเดิม 5 เท่าตัว   นายจอมกิตติ ศิริกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ด้านพัฒนาความยั่งยืนภาครัฐและกิจการสัมพันธ์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ เปิดเผยว่า พื้นที่ภาคอีสานโดยส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ที่ราบสูง ดินปนทราย และขาดแคลนแหล่งน้ำในการเพาะปลูก เกษตรกรส่วนใหญ่จึงทำการเกษตรเชิงเดี่ยว เช่น ข้าว อ้อย มันสำปะหลัง เป็นต้น ซึ่งผลผลิตจะมีความผันผวนสูงขึ้นอยู่กับสภาพภูมิอากาศ ประกอบกับราคาผลผลิตที่ขึ้นอยู่กับกลไกตลาดในแต่ละปี ทำให้เกษตรกรประสบปัญหาขาดทุนในบางปีและภาระหนี้สินครัวเรือนเพิ่มสูงขึ้น   จึงเป็นอีกหนึ่งความท้าทายของเครือซีพีในการเข้าไปร่วมพัฒนาเกษตรกรในพื้นที่ภาคอีสาน นำร่องที่ อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น โดยร่วมกับมูลนิธิปิดทองหลังพระฯ และภาคีอื่นๆ ในการศึกษาเชิงลึกด้านการเกษตรมูลค่าสูง ทั้งระบบชลประทาน การวิเคราะห์ดินและธาตุอาหารที่เหมาะสม การเพาะปลูก และการตลาด เพื่อที่จะให้เกษตรกรมีทางเลือกด้านการประกอบอาชีพเกษตรกรรมที่มากขึ้นและมีรายได้ที่มั่นคง เพียงพอต่อรายจ่าย สามารถประกอบอาชีพการเกษตรได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน   “มะพร้าวน้ำหอม” ถือเป็นพืชเศรษฐกิจมูลค่าสูง และเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ อีกทั้งสามารถเพาะปลูกและเจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่ภาคอีสาน เครือซีพีจึงพร้อมสนับสนุนและส่งเสริมอาชีพปลูกพืชทางเลือกให้แก่เกษตรกร เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรให้ดียิ่งขึ้น โดยทำงานร่วมกับมูลนิธิปิดทองหลังพระฯ ตั้งแต่ปี 2561 จนถึงปัจจุบัน กว่า 4 ปี เครือซีพีทำหน้าที่ถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการวางแผนและเทคนิคในการเพาะปลูก การดูแลบำรุงรักษา เชื่อมโยงตลาดผลักดันผลผลิตเข้าสู่แม็คโคร ตลอดจนการจัดตั้งวิสาหกิจชุมชนกลุ่มผู้ปลูกมะพร้าวน้ำหอมตำบลบ้านทุ่งโป่งขึ้น เพื่อให้ชุมชนพึ่งพาตนเองได้ พร้อมก้าวสู่การเป็นธุรกิจเพื่อสังคม (Social Enterprises) อย่างยั่งยืน   ปัจจุบันมีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 5 รุ่น จำนวน 90 ราย ในเนื้อที่ 242 ไร่ สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2566 คาดว่าสามารถสร้างรายได้ให้เกษตรกรกว่า 1,800,000 บาทต่อปี และมีปริมาณผลผลิตราว 80,000-100,000 ลูกต่อปี รวมถึงวางกลยุทธ์การตลาดขยายช่องทางการจัดจำหน่าย เพื่อเพิ่มมูลค่ามะพร้าวน้ำหอม ต.ทุ่งโป่ง ให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้มากขึ้น ตลอดจนการพัฒนาบุคลากรกลุ่มวิสาหกิจฯ ให้สามารถบริหารจัดการธุรกิจได้ด้วยตัวเอง พึ่งพาตนเองพร้อมก้าวสู่การเป็นธุรกิจเพื่อสังคม (Social Enterprises) อย่างยั่งยืน และในปี 2567 คาดว่าจะมีผลผลิตเพิ่มขึ้น และสามารถสร้างรายได้ให้เกษตรกรราวๆ 2 ล้านบาทต่อปี   นายบุญหยด นาเมืองรักษ์ เกษตรกรกลุ่มผู้ปลูกมะพร้าวน้ำหอมบ้านทุ่งโป่งรุ่นที่ 1 กล่าวว่า เดิมปลูกพืชเชิงเดี่ยว เช่น อ้อย มันสำปะหลัง และข้าว ซึ่งใน 1 ปี มันสำปะหลังให้ผลผลิตเฉลี่ย 3 ตัน/ไร่/ปี แต่เนื่องจากราคาในตลาดมีความผันผวนมาก จึงมีรายได้ไม่แน่นอน ตนจึงหันมาทดลองปลูกมะพร้าวตั้งแต่ปี 2561 ใช้ระยะเวลา 3 ปีครึ่งจึงเก็บผลผลิตในครั้งแรกได้ ให้ผลผลิตที่ดีเกินคาดและมีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกครั้งในการเก็บเกี่ยว โดยให้ผลผลิตสูงสุดถึง 1,200 ลูก …

เครือซีพีส่งเสริมปลูกบักพร้าวน้ำหอม รายได้ดีกว่าเกษตรดั้งเดิม 5 เท่าตัว อ่านเพิ่มเติม »

ชาวขอนแก่น เตรียมพร้อมละบ้อ มื้ออื่นแล้ว งานหมอลำเฟสติวัล 60 ปี มข.

งานหมอลำเฟสติวัล 60 ปี มข. พรุ่งนี้วันแรก งานมีตั้งแต่วันที่ 9-11 ต.ค. 2566 ณ บึงสีฐาน ม.ขอนแก่น คณะหมอลำ 24 คณะ จุกๆ ทั้ง 3 วัน 3 คืน บัตรรายวัน 60 บาท ซื้อหน้างานได้เลย หรือเหมา 3 วัน 150 บาท หมดเขตซื้อเหมาพรุ่งนี้ (วันที่ 9 ต.ค.) เวลา 18:00 น. ซื้อได้ที่ https://www.theconcert.com/concert/2607 งานหมอลำสุดเริ่ดพร้อมโซนเครื่องเล่นสวนสนุกมากมาย และยังมีถนนอาหารที่หลากหลาย สอบถามเพิ่มเติมเพจ Khon Kaen University – มหาวิทยาลัยขอนแก่น อ้างอิงจาก: – Khon Kaen University – รีวิวขอนแก่น ติดตาม ISAN Insight & Outlook ได้ที่ Instagram : https://www.instagram.com/isan.insight.and.outlook/ Website : https://isaninsight.kku.ac.th Youtube : https://youtube.com/@ISANInsightOutlook LINE Official : https://lin.ee/yIS5bdP #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์ #หมอลำ #หมอลำเฟสติวัล #มข #KKU

ปังหลาย ไทวัสดุ ประเดิมขยายสาขาไตรมาส 4  สาขาศรีสะเกษ สาขาที่ 76 ปลุกตลาดก่อสร้างและกำลังซื้อชายแดน

ปังหลาย ไทวัสดุ ประเดิมขยายสาขาไตรมาส 4  สาขาศรีสะเกษ สาขาที่ 76 ปลุกตลาดก่อสร้างและกำลังซื้อชายแดน   ไทวัสดุ ผู้นำธุรกิจค้าปลีกวัสดุก่อสร้างและสินค้าตกแต่งบ้าน ภายใต้ บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล เดินยุทธศาสตร์ขยายสาขารับไตรมาสที่ 4 ในพื้นที่ภาคอีสานตอนใต้ ทุ่มงบกว่า 340 ล้าน เปิดไทวัสดุ สาขาศรีสะเกษ ซึ่งเป็นสาขาที่ 76 ของประเทศและสาขาแรกของจังหวัด ตั้งอยู่บนถนนทางหลวงหมายเลข 221 สาย ศรีสะเกษ – อ.กันทรลักษ์    โดยรวบรวมสินค้าวัสดุก่อสร้างของตกแต่งบ้านและซ่อมแซมบ้านครบวงจรกว่า 38,000 รายการ บนพื้นที่กว่า 16,000 ตร.ม. รองรับดีมานด์การลงทุนของภาคอุตสาหกรรม และธุรกิจก่อสร้างที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงเศรษฐกิจภายในพื้นที่ การค้าชายแดนไทย – กัมพูชาที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง พร้อมชูความโดดเด่นด้วย 3 กลยุทธ์แห่งการตอบโจทย์ ได้แก่ ตอบโจทย์ทุกความต้องการเชิงลึก ตอบโจทย์ทุกกำลังซื้อ และตอบโจทย์ทุกการเข้าถึง   นายสุทธิสาร จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ในเครือเซ็นทรัลรีเทล กล่าวว่า ในไตรมาสที่ 4 ไทวัสดุได้ประเดิมการขยายสาขาไปยังจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อเสริมแกร่งธุรกิจฮาร์ดไลน์ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น ซึ่งปัจจุบันภาคอีสานเป็นภูมิภาคที่มีสาขามากที่สุดเป็นอับดับ 2 รองจากภาคกลาง เนื่องจากตลาดที่อยู่อาศัยยังคงเติบโตเพิ่มสูงขึ้น การลงทุนในภาคอุตสาหกรรมที่ใช้ความโดดเด่นจากลักษณะภูมิศาสตร์เป็นแหล่งผลิตและกระจายสินค้า – บริการ พรมแดนที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้านที่ทำให้เกิดธุรกิจการค้าในหลายประเภท   สำหรับไทวัสดุ สาขาศรีสะเกษ นับเป็นสาขาที่ 76 ของประเทศ และเป็นสาขาที่ 16 ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมีสาขาชัยภูมิ สาขาสุรินทร์ สาขาบุรีรัมย์ สาขาสกลนคร สาขาขอนแก่น สาขาอุบลราชธานี สาขาร้อยเอ็ด สาขามหาสารคาม สาขามุกดาหาร สาขาอุดรธานี สาขาหนองบัวลำภู สาขาเลย สาขานครราชสีมา สาขาปากช่อง และสาขานครราชสีมา (หัวทะเล) เปิดนำร่องไปก่อนหน้านี้    ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีในทุกพื้นที่ ด้วยความครบครันของสินค้าวัสดุก่อสร้างและสินค้าตกแต่งบ้าน เช่นเดียวกับสาขาศรีสะเกษที่ได้รวบรวมสินค้าแบรนด์ดัง คุณภาพดี ราคาคุ้มค่า เพื่อคนในพื้นที่ที่มีอยู่กว่า 160,000 ครัวเรือน รองรับความต้องการทั้งในกลุ่มสร้างบ้านและต่อเติมบ้าน กลุ่มตกแต่งบ้าน กลุ่มช่าง กลุ่มผู้รับเหมาที่ให้บริการก่อสร้างอาคารประเภทต่าง ๆ นอกจากนี้ยังชูความแตกต่าง และความโดดเด่นของสาขาใหม่ดังนี้   ตอบโจทย์ทุกความต้องการในเชิงลึก – ด้วยความเข้าใจกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ และทำการศึกษาพฤติกรรมตั้งแต่ก่อนเปิดบริการ เพื่อคัดสรรและส่งมอบสินค้า/บริการให้โดนใจลูกค้ามากที่สุด อีกทั้งยังทั้งมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญเรื่องบ้านช่างมือ 1 จากทีม vFIX คอยให้คำปรึกษา …

ปังหลาย ไทวัสดุ ประเดิมขยายสาขาไตรมาส 4  สาขาศรีสะเกษ สาขาที่ 76 ปลุกตลาดก่อสร้างและกำลังซื้อชายแดน อ่านเพิ่มเติม »

ซอมเบิ่ง ททท.อุดรฯ เปิดแผนตลาดปี 67 ชูขายท่องเที่ยว 3 นครนาคา

ซอมเบิ่ง ททท.อุดรฯ เปิดแผนตลาดปี 67 ชูขายท่องเที่ยว 3 นครนาคา   อุดรธานี – ททท.อุดรธานีชูทิศทางท่องเที่ยว 3 นครนาคา “นคราธานี” อุดรธานี หนองคาย และบึงกาฬ มุ่งสู่การท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์อันทรงคุณค่าอย่างยั่งยืน นำเสนอทิศทางและแผนการดำเนินงานในปี 2567   นางธนภร พูลเพิ่ม ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานอุดรธานี เปิดเผยว่า ททท.สำนักงานอุดรธานี รับผิดชอบพื้นที่ อุดรธานี หนองคาย และบึงกาฬ ในปี 2567 ถือเป็นปีแห่งการส่งมอบคุณค่าการท่องเที่ยวที่เข้มข้นขึ้นในทุกมิติ ททท.สำนักงานอุดรธานีจึงได้กำหนดโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวตามทิศทาง คือ    โครงการ “กินแล้วได้ ไหว้แล้วปัง” มีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นความถี่ในการเดินทางผ่านอาหารการกิน ไปยังกลุ่ม active senioir และวัยทำงาน ภายใต้แนวคิด มากกว่าอาหารคือประสบการณ์ ที่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสประสบการณ์อาหารเพื่อสุขภาพอาหารถิ่น อาหารรางวัลมิชลิน อาหารสดใหม่ในชุมชน ฯลฯ รวมถึงการร่วมกับกิจกรรม “รับพลังดี” ผ่านแหล่งท่องเที่ยว  โครงการ “เมืองรอง oce ต้องลอง @นคราธานี” ที่มุ่งนำเสนอประสบการณ์ที่เป็นอัตลักษณ์ของพื้นที่ผ่านประสบการณ์ 3 ธรรม “ธรรมะ ธรรมชาติ วัฒนธรรม” ไปยังนักท่องเที่ยวกลุ่ม silver age และ gen Y โครงการ “วันธรรมดา เที่ยวได้ไม่ธรรมดา @นคราธานี” ที่มุ่งกระจายช่วงเวลาในการเดินทาง ส่งเสริมการเดินทางในวันธรรมดา ไปยังกลุ่มประชุม สัมมนา mice และกลุ่ม coperate เพื่อส่งมอบคุณค่าของการเดินทางในวันธรรมดา พร้อมนำเสนอสิทธิพิเศษจากผู้ประกอบการในพื้นที่กระตุ้นการท่องเที่ยววันธรรมดา และ  โครงการ “365 วัน เที่ยวได้ทุกวัน @นคราธานี” ที่มุ่งเจาะกลุ่ม Multi-gen Famliy ให้ออกเดินทางสัมผัสประสบการณ์ในกิจกรรม งานประเพณีที่น่าสนใจในพื้นที่ พร้อมส่งเสริมเพิ่มวันพักของนักท่องเที่ยวด้วยกิจกรรมพิเศษหรือประสบการณ์ท่องเที่ยวที่ไม่เหมือนใคร   โครงการของ ททท.สำนักงานอุดรธานีดังกล่าว จะได้มีการร่วมบูรณาการกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน เพื่อให้การดำเนินงานเกิดประโยชน์สูงสุดแก่นักท่องเที่ยวและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกส่วนซึ่งคาดว่าจะช่วยสร้างรายได้และได้ขยายกลุ่มนักท่องเที่ยวศักยภาพเข้ามายังพื้นที่ได้มากขึ้นอีกด้วย   อ้างอิงจาก :  Khon Kaen Let’s Go, Khon Kaen University   ติดตาม ISAN Insight & Outlook ได้ที่ Instagram : https://www.instagram.com/isan.insight.and.outlook/ Website : https://isaninsight.kku.ac.th Youtube : https://youtube.com/@ISANInsightOutlook Line : …

ซอมเบิ่ง ททท.อุดรฯ เปิดแผนตลาดปี 67 ชูขายท่องเที่ยว 3 นครนาคา อ่านเพิ่มเติม »

ครูหนุ่มสกลนคร ไอเดียเริ่ดคัก น้ำมันดีเซลกลั่นจากยางพารา ต้นทุนการผลิตแค่ 4 บาท

นายทวีชัย ไกรดวง หรือ ครูน้อย อายุ 33 ปี นำนวัตกรรมยางพารามาสกัดเป็นดีเซล B100 โดยดีเซล 1 ลิตร ใช้ต้นทุนทำ 4 บาท ด้าน สส.ด่าง สกลนคร เขต 5 เตรียมผลักดันต่อยอดให้เป็นเชื้อเพลิงทางเลือก โดยหวังผลิตใช้งานในชุมชนเติมรถไถนา เครื่องสูบน้ำ ครูน้อยใช้เครื่องกรองน้ำในโรงเรียนรุ่นเก่าที่ไม่ใช้ มาประดิษฐ์เป็นเครื่องสกัดน้ำมัน ใช้ทุน 4,500 บาท ขั้นตอนการผลิตส่วนผสม 1 ลิตร โดยใช้ต้นทุน 4 บาทในการกลั่นยางพารา เพื่อออกมาเป็นน้ำมันดีเซล B100 ในช่วงแรกต้องการผลิตขายให้กับชุมชน เพื่อสร้างชุมชนแต่ละชุมชนให้เกิดความเข้มแข็งตามหลักทฤษฎีป่าล้อมเมือง แต่ยังไม่ขายให้กับเอกชนที่จะนำไปทำกำไร เพราะจะทำให้เกษตรกรเสียโอกาส ในการใช้น้ำมันที่มีราคาต่ำกว่าตลาด ถ้าหากขายเครื่องให้เอกชน เอกชนก็จะเอาเครื่องไปสร้างกำไร แล้วดึงราคาน้ำมันให้เท่ากัน หรือต่ำกว่าราคากลางเพียงเล็กน้อย แต่ถ้าเครื่องพวกนี้ไปอยู่ประจำในตัวจังหวัด จังหวัดละ 1 เครื่อง เป็นการจุดประกายเกษตรกรเล็กๆ โดยผู้ที่สนใจที่ต้องการศึกษาดูงาน ศึกษาเครื่อง ให้เข้าไปเรียนรู้ศึกษา และก็เป็นการส่งเสริมรัฐวิสาหกิจชุมชนอีกทางด้วย ในส่วนการจดสิทธิบัตรหรือไม่นั้น ยังไม่จดสิทธิบัตร แต่ก็เปิด open ให้กับนักพัฒนานักประดิษฐ์ของประเทศไทยได้ต่อยอด เพื่อเป็นการช่วยกันพัฒนาเทคโนโลยีนวัตกรรมยางพาราของประเทศไทยต่อไป ในยุคราคาตกต่ำ สามารถแก้ปัญหาให้เกษตรกร โดยก่อนหน้านี้ ครูน้อยใช้นวัตกรรมระบบ GPS กับรถไถนาเดินตาม เพื่อทดแทนการใช้แรงงานคน จากการบังคับรถไถนาเดินตามด้วยรีโมตคอนโทรล ซึ่งมีวิธีการทำงาน คือ การควบคุมด้วยระบบดาวเทียม เมื่อรถไถประสบปัญหาที่นาเป็นหลุมลึก 30 เซนติเมตรขึ้นไป หรือมีสิ่งกีดขวาง รถไถเดินตามก็จะหยุดทันที แล้วจะใช้รีโมตบังคับเลี้ยวหลบหลุม ปัจจุบันครูน้อยเป็นพนักงานราชการ สังกัดโรงเรียนบ่อน้อยประชาสรรค์ ต.เชียงยืน อ.เมือง จ.อุดรธานี สำนักงานเขตการศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 1 อ้างอิงจาก: https://www.thairath.co.th/…/agricultural…/2727671 ติดตาม ISAN Insight & Outlook ได้ที่ Instagram : https://www.instagram.com/isan.insight.and.outlook/ Website : https://isaninsight.kku.ac.th Youtube : https://youtube.com/@ISANInsightOutlook LINE Official : https://lin.ee/yIS5bdP #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์ #Business #ธุรกิจ #ธุรกิจอีสาน #ยางพารา #พลังงานทางเลือก #น้ำมัน #น้ำมันดีเซล #สกลนคร #ผลิตน้ำมัน

ชาวมักม่วนพร้อมละไป่ Update ผังเวทีงาน หมอลำเฟสติวัล 60ปี มข. ริมบึงศรีฐาน 4 เวทีใหญ่  3 วันจัดเต็ม 9 – 10 -11 ตุลาคม 66

#ชาวมักม่วนพร้อมละไป่ อัปเดตผังเวทีงาน หมอลำเฟสติวัล 60ปี มข. ริมบึงศรีฐาน 4 เวทีใหญ่ๆ จุกๆ ชอบวงไหนกะเลือกเอาโลด 3 วันจัดเต็ม 9 – 10 -11 ตุลาคม 66 พบกับ 20 สุดยอดหมอลำประเทศไทย ฉลองวาระครบรอบ 60 ปี มหาวิทยาลัยขอนแก่น ระเบียบวาทะศิลป์ แฟนเพจ , หมอลำประถมบันเทิงศิลป์ , เสียงอิสาน นกน้อย อุไรพร และอีกมากมาย บัตร #Earlybird 3 วัน 150 บาท จองผ่าน https://www.theconcert.com/concert/2607 บัตรรายวัน วันละ 60 บาท จองผ่าน Line OA หมอลำเฟสติวัล https://lin.ee/wSGHWqF ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยขอนแก่น KKU Art&Culture Center   อ้างอิงจาก :  Khon Kaen Let’s Go, Khon Kaen University   ติดตาม ISAN Insight & Outlook ได้ที่ Instagram : https://www.instagram.com/isan.insight.and.outlook/ Website : https://isaninsight.kku.ac.th Youtube : https://youtube.com/@ISANInsightOutlook Line : https://lin.ee/yIS5bdP   #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์ #ขอนแก่น #หมอลำเฟสติวัล #60ปีมหาวิทยาลัยขอนแก่น #บุญใหญ่ไทมข

ชาวอีสานรอลุ้น! ฟ้าวชงครม.เคาะผลศึกษา สร้างท่าเรือบกขอนแก่น-นครราชสีมา

ความคืบหน้าดำเนินโครงการพัฒนาท่าเรือบก (Dry Port) เบื้องต้นกทท.มีแผนนำร่องโครงการฯในพื้นที่ 2 จังหวัด ได้แก่ ขอนแก่น และ นครราชสีมา ปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษารูปแบบความเป็นไปได้ในการลงทุนของโครงการฯ โดยใช้ระยะเวลาการศึกษาประมาณ 7 เดือน คาดว่าจะศึกษาแล้วเสร็จภายในไตรมาส 1 ปี 2567 หรือภายในกลางปี 2567 ส่วนจะเสนอโครงการต่อกระทรวงคมนาคมและคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบได้เมื่อไรนั้น ขึ้นอยู่กับผลการศึกษาในครั้งนี้ ซึ่งจะพิจารณาจากการลงทุนในรูปแบบการเปิดประมูล PPP หรือเชิญภาคเอกชนร่วมลงทุนโดยมีกทท.เป็นแกนนำเพื่อดำเนินการ หลังจากนั้นจะเสนอผลการศึกษาของโครงการได้ภายในปี 2567 คาดว่าจะเปิดประมูลได้ภายในปี 2568 และเปิดให้บริการได้ภายในปี 2572 แนวโน้มของโครงการพัฒนาท่าเรือบก (Dry Port) จะใช้รูปแบบการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (PPP) หรือไม่นั้น ต้องพิจารณากรอบระยะเวลาด้วย เพราะต้องดำเนินการตามพ.ร.บ.ร่วมทุนฯ (PPP) เบื้องต้นมีภาคเอกชนส่วนใหญ่เล็งเห็นว่าการพัฒนาท่าเรือบกควรมีความยืดหยุ่นและมีความคล่องตัว โดยกทท.อาจเป็นผู้ดำเนินการและให้เอกชนเป็นผู้ลงทุน ซึ่งกทท.จะต้องพิจารณาข้อดีและข้อเสียรูปแบบในเรื่องนี้ รวมทั้งระยะเวลาการลงทุนให้สั้นลงเพื่อให้โครงการเกิดความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากที่สุด ส่วนสาเหตุที่กทท.ได้เลือกพื้นที่ จังหวัดขอนแก่น เนื่องจากพื้นที่ในจังหวัดขอนแก่นมีซับพพลายและดีมานด์ที่มีสินค้าเกษตรค่อนข้างมาก อีกทั้งเป็นจังหวัดที่เป็นจุดศูนย์กลางในการขนส่งสินค้าในภูมิประเทศที่สามารถเชื่อมโยงประเทศเพื่อนบ้าน เช่น สปป.ลาว การลงทุนท่าเรือบก จะต้องพิจารณาระยะทางในการลงทุนโครงการฯเพื่อเชื่อมต่อการขนส่งสินค้าด้วย ซึ่งควรมีระยะทางอยู่ที่ 300-500 กิโลเมตร (กม.) พบว่า ประเทศสปป.ลาวมีการพัฒนาท่าเรือบกแล้วเสร็จอยู่ที่บริเวณท่านาแร้ง มีระยะทางประมาณ 300 กิโลเมตร (กม.) ส่วนการพัฒนาท่าเรือบกในพื้นที่จังหวัดขอนแก่นเชื่อมต่อกับท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี มีระยะทางไม่เกิน 500 กิโลเมตร (กม.) ทำให้สภาพภูมิศาสตร์ของจังหวัดขอนแก่นสามารถยกระดับเป็นท่าเรือบกระหว่างประเทศ (International Dry Port) ได้ แต่หากพื้นที่การพัฒนาโครงการอยู่ใกล้เกินไปจะทำให้การลงทุนไม่เกิดความคุ้มค่า ขณะที่พื้นที่ในจังหวัดนครราชสีมานั้น กทท.มองว่า เป็นจังหวัดใหญ่มีพื้นที่สินค้าเกษตรค่อนข้างมาก อีกทั้งยังเป็นจังหวัดที่เป็นศูนย์รวมการขนส่งสินค้าในแถบภาคอีสานตอนใต้ สามารถเชื่อมต่อกับประเทศสปป.ลาวตอนใต้และเมียนมา ถือเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพและมีจุดแข็งที่สามารถดำเนินการโครงการฯได้ สำหรับท่าเรือบก จังหวัดขอนแก่น ตั้งอยู่ในพื้นที่บ้านโนนพยอม ต.ม่วงหวาน อ.นํ้าพอง จ.ขอนแก่น ใช้พื้นที่ 1,500-2,000 ไร่ ส่วน จ.นครราชสีมา อยู่ระหว่างการพิจารณาพื้นที่ที่มีความเหมาะสม ส่วนโครงการท่าเรือบก จังหวัดนครราชสีมา มีการเสนอทำเลที่ตั้งใหม่ คือ บริเวณสถานีรถไฟบ้านกระโดน ต.หนองไข่นํ้า อ.เมืองนครราชสีมา ซึ่งติดกับสถานีรถไฟและถนน รวมทั้งเป็นพื้นที่ที่ไม่เคยประสบปัญหานํ้าท่วมด้วย แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปว่า จะใช้พื้นที่เดิมหรือพื้นที่ใหม่ โดยต้องพิจารณาให้เหมาะสม เนื่องจาก จ.นครราชสีมา เป็นศูนย์กลางของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) ตอนล่าง มีการขนส่งสินค้าเกษตรจำนวนมาก อ้างอิงจาก: https://www.thansettakij.com/business/economy/576416 ติดตาม ISAN Insight & Outlook ได้ที่ Instagram : https://www.instagram.com/isan.insight.and.outlook/ Website : https://isaninsight.kku.ac.th Youtube : https://youtube.com/@ISANInsightOutlook LINE …

ชาวอีสานรอลุ้น! ฟ้าวชงครม.เคาะผลศึกษา สร้างท่าเรือบกขอนแก่น-นครราชสีมา อ่านเพิ่มเติม »

เปิดแล้วเด้อ! “หอศิลป์โคราช” ดัน Soft Power ศิลปวัฒนธรรม แหล่งรวมผลงานศิลปินชื่อดังเมืองย่าโม

เปิดแล้วเด้อ! “หอศิลป์โคราช” ดัน Soft Power ศิลปวัฒนธรรม แหล่งรวมผลงานศิลปินชื่อดังเมืองย่าโม   “สุวัจน์” ประธานเปิดหอศิลป์โคราช ดัน Soft Power ศิลปวัฒนธรรม เผยเป็นแหล่งรวมผลงานศิลปะของศิลปินแห่งชาติ ศิลปินที่มีชื่อเสียงและศิลปินท้องถิ่นเมืองย่าโม ชูเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของเมืองโคราช ดึงดูดนักท่องเที่ยวกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว   ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 15 ก.ย. ที่หอศิลป์โคราช ถ.สุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า เป็นประธานเปิด “หอศิลป์โคราช” จัดแสดงผลงานศิลปะของศิลปินแห่งชาติ ศิลปินชื่อดังและศิลปินท้องถิ่น จำนวนทั้งสิ้น 72 ภาพ โดยมี นายเทวัญ ลิปตพัลลภ ที่ปรึกษานายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี, นายศุภภิมิตร เปาริก รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา, นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคชาติพัฒนากล้า, นายประเสริฐ บุญชัยสุข นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา, นายวัชรพล โตมรศักดิ์ ประธานสโมสรฟุตบอลนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ,ศาสตราจารย์ ดร.สามารถ จับโจร ผู้ทรงคุณวุฒิด้านประติมากรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา พร้อมด้วยศิลปินแห่งชาติ ศิลปินชาวโคราช หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้แทนองค์กรเอกชน นักศึกษา และประชาชนชาวโคราช ร่วมแสดงความยินดีกันอย่างเนืองแน่น   โดย นายกำปั่น บ้านแท่น ศิลปินแห่งชาติ พ.ศ 2564 สาขาศิลปะการแสดง ได้สร้างบรรยากาศสนุกสนานครื้นเครงด้วยเพลงโคราช และ การแสดงดนตรี วงเชมเบอร์ โรงเรียนสุรนารีวิทยา จากนั้น ศาสตราจารย์ ดร.สามารถ จับโจร ผู้ทรงคุณวุฒิด้านประติมากรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ได้กล่าวถึงและสำคัญของเมืองที่ต้องมีหอศิลป์ และ นายประเสริฐ บุญชัยสุข นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา กล่าวรายงาน ความเป็นมาของหอศิลป์โคราช จากนั้น นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี พร้อมแขกผู้มีเกียรติ ร่วมลงสีพู่กันสร้างงานศิลปะบนผืนผ้าใบ เป็นภาพ “อาจารย์ศิลป์ พีระศรี” บิดาแห่งศิลปะสมัยใหม่ของไทย   ทั้งนี้ ด้วยเทศบาลนครนครราชสีมา ได้จัดตั้ง หอศิลป์โคราชขึ้น เพื่อรวบรวมและจัดแสดงผลงานศิลปะ ของศิลปินแห่งชาติ ศิลปินที่มีชื่อเสียง และศิลปินท้องถิ่น ให้นักท่องเที่ยวและประชาชนได้รับชม ซึ่งผลงานที่จัดแสดงถูกสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2546 โดยศิลปิน สร้างสรรค์ผลงานผ่านมุมมองของแต่ละท่าน ตามแนวคิดที่ว่าเมืองโคราชในความรู้สึกนึกคิดคืออะไร และถ้ามีคนเอ่ยถึงโคราชจะนึกถึงสิ่งใด มีจำนวนทั้งสิ้น 72 ภาพ หอศิลป์แห่งนี้ยังสร้างขึ้นเพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยว แห่งใหม่ของเมืองโคราช สร้างความน่าสนใจดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น …

เปิดแล้วเด้อ! “หอศิลป์โคราช” ดัน Soft Power ศิลปวัฒนธรรม แหล่งรวมผลงานศิลปินชื่อดังเมืองย่าโม อ่านเพิ่มเติม »

เริ่ดคักหลาย Audi ตั้งเป้าขาย 1,600 คัน ดึงกลุ่ม Car Hero เปิดตลาด “อาวดี้ โคราช”

เดินหน้ารุกตลาดรถหรูต่อเนื่อง สำหรับอาวดี้ ประเทศไทย ล่าสุดส่งดีลเลอร์เปิดโชว์รูม-ศูนย์บริการ “อาวดี้ โคราช” และรับจองรถรุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 10 ปี RS Q3 Sportback edition 10 จำนวนจำกัด 555 คัน ราคา 5,299,000 บาท ภาพรวมตลาดรถหรูในปีนี้ คาดว่าจะมียอดขายรวม 3 หมื่นคัน ในส่วนของ อาวดี้ ตั้งเป้ายอดขาย 1,600 คัน เติบโต 30% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยในช่วงปลายปีอาวดี้เตรียมเปิดตัวรถรุ่นใหม่ต่อเนื่อง 1-2 รุ่น พร้อมทั้งขยายโชว์รูมและศูนย์บริการให้ครบ 9 สาขาภายในปีนี้ ล่าสุด อาวดี้ ได้เปิดโชว์รูมและศูนย์บริการอาวดี้ โคราช จังหวัดนครราชสีมา โดยสาขานี้ใช้งบลงทุน 250 ล้านบาท (ดีลเลอร์คือกลุ่มทุน Car Hero ผู้ดำเนินธุรกิจรถมือสองรายใหญ่) ภายใต้พื้นที่ใช้สอยกว่า 1,500 ตารางเมตร จัดแสดงรถได้มากถึง 9 คัน ด้านบริการหลังการขาย ศูนย์บริการมีจำนวน 5 ช่องซ่อม และสามารถต่อขยายเพิ่มอีกกว่า 10 ช่องซ่อม ซึ่งสามารถรองรับลูกค้าได้กว่า 250 คัน/เดือน (3,000 คัน/ ปี) และอนาคตคาดว่าสามารถรองรับได้กว่า 700 คัน/เดือน เมื่อขยายเพิ่ม โดยจุดเด่นของโชว์รูมและศูนย์บริการอาวดี้ โคราช ดูแลครบวงจรตั้งแต่ขายรถใหม่ไปจนถึงการบริการหลังการขาย และด้วยทำเลที่ตั้ง อยู่ในพื้นที่ยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจ รองรับลูกค้าในจังหวัดนครราชสีมา และอีสานตอนล่าง ทั้ง ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์ อ้างอิงจาก: https://www.thansettakij.com/motor/motor/576153 ติดตาม ISAN Insight & Outlook ได้ที่ Instagram : https://www.instagram.com/isan.insight.and.outlook/ Website : https://isaninsight.kku.ac.th Youtube : https://youtube.com/@ISANInsightOutlook LINE Official : https://lin.ee/yIS5bdP #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์ #Business #ธุรกิจ #ธุรกิจอีสาน #Audi #อาวดี้โคราช

ลุ้นหลาย สมาคมพืชสวนโลกลุยตรวจความพร้อมโคราช  เป็นเจ้าภาพ 2029 จัดไซส์ใหญ่ ใช้งบกว่า 4,000 ล้าน

ลุ้นหลาย สมาคมพืชสวนโลกลุยตรวจความพร้อมโคราช  เป็นเจ้าภาพ 2029 จัดไซส์ใหญ่ ใช้งบกว่า 4,000 ล้าน   คณะกรรมการสมาคมพืชสวนโลกระหว่างประเทศ หรือ AIPH Sie inspection นำโดย Mr. Leonado Capitanio ประธานคณะกรรมการพืชสวนโลก พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่รับฟังข้อมูลจากตัวแทนหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา เพื่อพิจารณาการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก จ.นครราชสีมา พ.ศ. 2572 หรือ Korat Expo 2029   Mr. Leonado Capitanio ประธานคณะกรรมการพืชสวนโลก พร้อมคณะ ลงพื้นที่รับฟังข้อมูลจาก จ.นครราชสีมา เพื่อพิจารณาการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก จ.นครราชสีมา พ.ศ. 2572 หรือ Korat Expo 2029   มี นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ให้การต้อนรับ และมีผู้ร่วมประชุม ซึ่งเป็นตัวแทนจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนในพื้นที่ จ.นครราชสีมา เช่น นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา, นายชรินทร์ ทองสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา, นางอรจิรา ศิริมงคล นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา, นายสุรพันธ์ ศิลปะสุวรรณ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดนครราชสีมา, ปลัดจังหวัด, ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด, อธิการบดีมหาวิทยาลัย 4 แห่ง (ม.เทคโนโลยีสุรนารี, ม.ราชภัฏนครราชสีมา, มทร.อีสาน, ม.วงษ์ชวลิตกุล) สาธารณสุขจังหวัด, ที่ดินจังหวัด, เกษตรจังหวัด, โยธาธิการและผังเมืองจังหวัด, ชลประทานจังหวัด, พาณิชย์จังหวัด, หอการค้าจังหวัดนนครราชสีมา, อบจ.นครราชสีมา, สมาคมการท่องเที่ยวเขาใหญ่ และภาคเอกชนในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ร่วมประชุมกว่า 500 คน   คณะกรรมการสมาคมพืชสวนโลกระหว่างประเทศมีกำหนดการเดินทางมาตรวจสอบความพร้อมของ จ.นครราชสีมา ระหว่างวันที่ 12-14 ก.ย. 66 เพื่อนำข้อมูลไปประกอบการพิจารณาในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก พ.ศ. 2572  โดยวันนี้ (12 ก.ย.) จะเป็นการรับฟังข้อมูลจากหลายภาคส่วน  วันที่ 13 ก.ย. จะลงพื้นที่ Expo Site ที่ อ.คง จ.นครราชสีมา ซึ่งจะใช้เป็นสถานที่จัดงานมหกรรมพืชสวนโลก พ.ศ. 2572  และวันที่ 14 ก.ย. จะมาสรุปเนื้อหาการลงพื้นที่ตรวจสอบความพร้อมที่ อ.เมืองนครราชสีมา ก่อนนำเสนอรอบสุดท้ายร่วมกับประเทศต่างๆ ที่เสนอตัวจัดอีกครั้งในช่วงต้นปี 2567   สำหรับงานมหกรรมพืชสวนโลก พ.ศ. …

ลุ้นหลาย สมาคมพืชสวนโลกลุยตรวจความพร้อมโคราช  เป็นเจ้าภาพ 2029 จัดไซส์ใหญ่ ใช้งบกว่า 4,000 ล้าน อ่านเพิ่มเติม »

Scroll to Top