Article

บทความ จากบทวิเคราะห์เศรษฐกิจอีสาน ทั้ง ISAN Outlook และข้อมูลต่างๆ ที่เปิดเผยสู่สาธารณะ รวบรวมให้คุณรู้ทันทุกข้อมูล เศรษฐกิจ การเมือง สังคม อีสาน

มหาลัยศูนย์เหรียญ การเข้ามาของทุนจีน ในแวดวงอุดมศึกษาของไทย

ฮู้บ่ว่า? ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา วงการอุดมศึกษาไทย โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยเอกชน กำลังเผชิญกับการเข้ามาของ “ทุนจีน” ซึ่งโดยมากอาจไม่ได้เป็นการร่วมมือในด้านวิชาการ แต่เป็นการเข้าซื้อกิจการโดยตรง และอาจเป็นการถือหุ้นผ่านบริษัทนอมินี . ข้อมูลจากกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม สะท้อนให้เห็นถึงการเข้ามาของทุนจีน ผ่านการถือหุ้นในมหาวิทยาลัยเอกชน ถึง 3 แห่ง  ได้แก่ มหาวิทยาลัยชินวัตร, มหาวิทยาลัยเกริก และมหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด ซึ่งการเข้าซื้อกิจการของทุนจีนมีแนวโน้มที่จะไม่ได้ดำเนินการอย่างเปิดเผยทั้งหมด บางรายใช้วิธีตั้งบริษัทในสิงคโปร์หรือฮ่องกง ก่อนย้อนเข้ามาลงทุนในไทย ผ่านตัวกลางคนไทยหรือบริษัทนอมินี และมีการถือหุ้นทางอ้อมข้ามไปมา จึงทำให้ยากต่อการตรวจสอบแหล่งที่มาของทุนและจุดประสงค์ที่แท้จริงในการเข้ามาถือหุ้นจากจีน . แนวโน้มการเข้ามาของทุนจีนในธุรกิจการศึกษาของไทย อาจสะท้อนผ่าน แนวโน้มการลดลงของประชากรวัยเรียน และอัตราการเกิดที่ลดลงของไทย ที่เป็นผลให้มหาวิทยาลัยเอกชนหลายแห่ง อาจเสี่ยงต่อการขาดรายได้ และเป็นผลทำให้ต้องปิดกิจการหรือมีการปรับตัว อีกทั้งกระแสการเข้ามาของตลาดนักศึกษาจีนขาออก ที่เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ จีนจะเป็นประเทศอันดับหนึ่ง ที่มีนักศึกษาเข้ามาในประเทศไทยมากที่สุด . ข้อสังเกตอีกอย่างที่เกิดขึ้นในประเด็นของการเข้ามาของทุนจีนในมหาวิทยาลัยเอกชนของไทย อาจเป็นการขายวุฒิการศึกษา เหมือนกรณีที่เคยเกิดขึ้นมาก่อนหน้า ในช่วงต้นปี 2568 หรือแม้กระทั่ง การเข้ามาทำงานผิดกฎหมายผ่านการใช้วีซ่าในรูปแบบนักศึกษา อย่างไรก็ตามการเข้ามาในรูปแบบนี้ยังเป็นเพียงการตั้งข้อสังเกตุเพียงเท่านั้น ซึ่งหากเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริงอาจส่งผลกระทบต่อการแข่งขันด้านแรงงาน และความมั่นคงในด้านระบบการศึกษาของประเทศ จึงควรเร่งให้มีการตรวจสอบเพื่อหาข้อเท็จจริง และหารือเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาดังกล่าวขึ้น รายการ News digest ได้สรุปข่าว มหาวิทยาลัยศูนย์เหรียญไว้ดังนี้  

มหาลัยศูนย์เหรียญ การเข้ามาของทุนจีน ในแวดวงอุดมศึกษาของไทย อ่านเพิ่มเติม »

🐼 Food Panda ประกาศยุติกิจการ ยุติเส้นทาง 13 ปี หลัง ขาดทุนสะสม 1.3 หมื่นล้าน

FoodPanda เลิกกิจการ 13 ปีขาดทุน 1.3 หมื่นล้าน ตกงานทันทีนับไม่ถ้วน มีธุรกิจในเครือ 6 บริษัทไม่รอด Foodpanda Thailand ขอแจ้งยุติการให้บริการแอปพลิเคชัน foodpanda มีผลตั้งแต่วันที่ 23 พ.ค. 2568 ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เราภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้ขับเคลื่อนธุรกิจร่วมจัดส่งความสุข ผ่านทุกๆ ออเดอร์ให้แก่ลูกค้าทุกท่านในประเทศไทย เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับใช้ลูกค้าที่รักยิ่งของเรา และได้รับการสนับสนุนที่ดีมาโดยตลอดจากร้านค้า พารท์เนอร์ และไรเดอร์ทุกท่าน ที่ร่วมเป็นผู้ขับเคลื่อนความสำเร็จที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสภาพตลาดในปัจจุบันไม่สอดคล้องกับกลยุทธ์ระยะยาวของฟู้ดแพนด้าอีกต่อไป เรามีความเสียใจอย่างยิ่งที่การเดินทางของเราต้องสิ้นสุดลง และเราขอขอบพระคุณลูกค้าทุกๆ ท่านที่เชื่อมั่นในฟู้ดแพนด้าเสมอมา ขอแสดงความนับถือ ฟู้ดแพนด้า ประเทศไทย . ที่มา: https://www.facebook.com/share/p/1UmsZqchAb/

🐼 Food Panda ประกาศยุติกิจการ ยุติเส้นทาง 13 ปี หลัง ขาดทุนสะสม 1.3 หมื่นล้าน อ่านเพิ่มเติม »

10 ปีข้างหน้า ‘หนองคาย’ จะกลายเป็น ‘ประตูสู่ยูนนาน’ สำรวจโอกาสของจังหวัด จากโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมลาว-จีน

หนองคาย เป็นจังหวัดในภาคอีสานตอนบน ที่มีสภาพภูมิประเทศเป็นเอกลักษณ์คือมีทอดยาวตามแม่น้ำโขงกว่า 210.6 กิโลเมตร  มีอาณาเขตติดตอกับประเทศลาว คือ แขวงเวียงจันทน์ นครหลวงเวียงจันทน์ และแขวงบอลิคําไซ โดยมีจุดผ่านแดนได้แก่ 1. ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 2. ด่านพรมแดนทาเรือหนองคาย 3. ด่านตรวจคนเขาเมือง ณ สถานีรถไฟหนองคาย นอกจากนั้นยังมีจุดผ่อนปรนทางการค้าอีก 4 แห่ง  ด้วยเหตุนี้จึงทำให้จังหวัดหนองคาย มีความโดดเด่นด้านการค้าชายแดนเป็นอย่างมาก ทำไมหนองคายจึงเป็นจังหวัดที่มีโอกาสเติบโตได้ในระยะยาว? ปัจจัยที่ทำให้หนองคายดูน่าดึงดูดที่จะลงทุน คือการที่ในอนาคต หนองคายกำลังจะมี รถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ – หนองคาย โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างในระยะที่ 1 (กรุงเทพฯ – นครราชสีมา) และเพิ่งมีการอนุมัติจาก ครม. ในการเริ่มโครงการระยะที่ 2 (นครราชสีมา – หนองคาย) รวมระยะทางทั้ง 2 โครงการ 606.17 กิโลเมตร แม้ว่าการก่อสร้างในระยะที่ 1 จะมีความล่าช้า แต่คาดการณ์ว่าโครงการรถไฟความเร็วสูงนี้จะแล้วเสร็จภายในปี 2575 หรืออีก 10 ปีต่อจากนี้ การเดินทางโดยใช้รถไฟความเร็วสูงจากระหว่างหนองคายไปกรุงเทพฯ จะใช้เวลาเพียง 3 ชั่วโมงเศษๆ เพิ่มตัวเลือกด้านการคมนาคมนอกเหนือจากการเดินทางด้วยรถยนต์หรือเครื่องบิน สร้างความสะดวกสบายแก่ชาวหนองคายและผู้เยี่ยมเยือน รถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ – หนองคาย เชื่อมโยงภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง รถไฟกรุงเทพฯ – หนองคายมีความพิเศษที่สำคัญต่อประเทศไทยอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเส้นทางรถไฟความเร็วสูงของไทย จะสามารถเชื่อมต่อกับเส้นทางรถไฟลาว-จีน ที่ได้เปิดให้บริการไปแล้วในปี 2564 มีสถานีต้นทาง-ปลายทางคือ สถานีคุนหมิงใต้ของจีน และสถานีนครหลวงเวียงจันทน์ ของ สปป. ลาว มีสถานีรวม 32 สถานี ที่มารูปภาพ: กรมการขนส่งทางราง กระทรวงคมนาคม โดยการเชื่อมรถไฟความเร็วสูงจากไทย-ลาว-จีนนั้น จะถูกเชื่อมโยงโดย สะพานมิตรภาพสะพานมิตรภาพไทย-ลาว (หนองคาย-เวียงจันทน์) แห่งที่ 2 เป็นสะพานรถไฟข้ามแม่น้ำโขงแห่งใหม่ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในไตรมาส 3 ปี 2569 และคาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 2572 โดยสถานีรถไฟหนองคาย จะเป็นจุดตรวจหนังสือเดินทางของประเทศไทย ซึ่งในแนวเส้นทางรถไฟความเร็วสูง จะมีจุดตรวจ 4 แห่ง ดังนี้ สถานีรถไฟหนองคาย ประเทศไทย สถานีรถไฟเวียงจันทน์ สปป.ลาว สถานีรถไฟบ่อเต็น สปป.ลาว สถานีรถไฟโม่ฮาน ประเทศจีน ที่มารูปภาพ: Shutterstocks และจากคนจีนที่เดินทางเข้าในภาคอีสานของไทย ปี 2567 พบว่าจุดผ่านแดนสะพานมิตรภาพ 1 จังหวัดหนองคาย เป็นจุดที่ได้รับความนิยมสูงสุดในการเดินทางเข้ามาทางบกของชาวจีน โดยมีจำนวนกว่า 24,000 ราย (ข้อมูล

10 ปีข้างหน้า ‘หนองคาย’ จะกลายเป็น ‘ประตูสู่ยูนนาน’ สำรวจโอกาสของจังหวัด จากโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมลาว-จีน อ่านเพิ่มเติม »

จากคดี ร่วมกันยักยอกทรัพย์ สู่ผลตัดสิน ‘เอกราช ช่างเหลา’ และการถูกขับออกจาก ภูมิใจไทย

เอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น และอีกบทบาทหนึ่งคือ พ่อนายก อบจ. ป้ายแดงของชาว #ขอนแก่น ถูกศาลสั่งจำคุก 5 ปี คดีโกงเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูจังหวัดขอนแก่น 431 ล้านบาท ที่ยีดเยื้อมานาน ศาลพิพากษาตัดสินแล้วศาลสั่งจำคุก 5 ปี 93 เดือน “เอกราช” สส.ภูมิใจไทย ขอนแก่น 17 เม.ย.-ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย พร้อมสั่งชดใช้เงินกว่า 405 ล้านบาท คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น 1,275 ล้านบาท ที่ห้องพิจารณาคดี 6 ศาลจังหวัดขอนแก่น นัดอ่านคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการ และนายสุธน สอนคำแก้ว ทนายความ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย เป็นจำเลยในฐานความผิดร่วมกันยักยอกทรัพย์ ร่วมกันปลอมเอกสาร และร่วมกันใช้เอกสารสิทธิปลอม กรณีทุจริตเงิน 1,275 ล้านบาทของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น ระหว่างปี 2554-2563 ขณะดำรงตำแหน่งเป็นผู้จัดการสหกรณ์ฯ โดยนายเอกราช เคยเซ็นหนังสือรับสภาพหนี้ และให้การรับสารภาพมาตลอด เพิ่งขอยื่นกลับคำให้การ วันที่ 7 ตุลาคม 2567 หลังสืบพยานเสร็จสิ้นแล้ว ให้เหตุผลว่า ทนายความชุดเก่าหลอกให้รับสารภาพ โดยเงินที่นำออกไป ได้ซื้อที่ดินมาจดจำนองเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันหนี้จากการซื้อลอตเตอรี่ให้สหกรณ์ฯ แต่ศาลไม่อนุญาตให้ยื่นคำให้การใหม่ เชื่อว่า เป็นการประวิงคดี ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยทำผิดตามฟ้องจริง โดยปลอมเอกสารยืนยันยอดเงินฝาก เงินคงเหลือ ทั้งฉบับ และบางส่วนรวม 35 ครั้ง เพื่อให้ ผู้พบเห็นชื่อว่าเป็นเอกสารที่แท้จริงโดยประการที่น่าจะทำให้เกิดความเสียหายแก่ธนาคาร ผู้สอบ ผู้ตรวจบัญชีและประชาชนทั่วไป รวมจำนวน เงินยักยอก 1275 ล้านบาทชดใช้คืนแล้วเกือบ 900 ล้านบาทคงเหลือกว่า 405 ล้านบาท โดยจำเลยกระทำความผิดหลายกรรมต่างกัน พิพากษาจำคุก ข้อหายักยอก 5 กระทง กระทงละ 3 ปี ข้อหาใช้เอกสารสิทธิ์ปลอม 21 กระทง กระทงละ 6 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดี มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่ง คงจำคุกข้อหายักยอก 5 ปี 30 เดือน ข้อหาใช้เอกสารสิทธิปลอม 63 เดือน รวมจำคุก 5 ปี 93

จากคดี ร่วมกันยักยอกทรัพย์ สู่ผลตัดสิน ‘เอกราช ช่างเหลา’ และการถูกขับออกจาก ภูมิใจไทย อ่านเพิ่มเติม »

หนี้ข้าราชการไทย 1 ใน 3 ของหนี้ครัวเรือน ยอดกู้กว่า 5 ล้านล้านบาท เสี่ยงถูกยื่นล้มละลาย 1.4 หมื่นคน

ฮู้บ่ว่าข้าราชการไทย กู้รวมกันกว่า 5 ล้านล้าน เป็นหนี้ในระบบ 3 ล้านล้าน และกู้สหกรณ์อีก 2 ล้านล้านเสี่ยงล้มละลายพุ่ง 1.4 หมื่นคน, ‘ครู’ ครองแชมป์มากที่สุด วิกฤตหนี้ครัวเรือนไทย’ จากข้อมูลบัญชีลูกหนี้ที่ไม่สามารถระบุตัวตนมากกว่า 84 ล้านบัญชี คิดเป็นยอดหนี้คงค้างกว่า 13.6 ล้านล้านบาท พบคนไทยก่อหนี้วนลูป จนกลายเป็นหนี้พอกเรื้อรังไปตลอดชีวิต ที่น่ากังวลไม่ต่างกันคือ มากกว่า 1 ใน 3 หรือมากกว่า 5 ล้านล้านบาท นั้นเป็นหนี้ครัวเรือนของข้าราชการไทย . ด้าน ดร.ณรินทร์ ชำนาญดู นายกสมาคมผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งประเทศไทย (ส.บ.ม.ท.) เปิดเผยว่า “ตัวเลขข้าราชการ’ล้มละลายพุ่ง 1.4 หมื่น ‘ครู’ ครองแชมป์เสี่ยงถูกให้ออกมากสุด” . ปัจจุบันมีจำนวนเพิ่มขึ้นถึง 14,000 คน หรือเพิ่มขึ้น 2 เท่า และในจำนวนนี้เป็นข้าราชการครูกว่า 5,000 คน ซึ่งหากถูกฟ้องล้มละลายก็จะถูกให้ออกจากราชการ ไม่มีอาชีพทำให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมาจึงมีการเร่งถก’ก.พ.’เปิดช่องให้โอกาสทำงานต่อ เพื่อให้ครูและบุคลากรทางการศึกษา ที่ถูกฟ้องล้มละลาย ไม่ต้องออกจากราชการ เนื่องจากเป็น ‘คดีทางแพ่ง’ ไม่ใช่การทุจริตหรือเป็นคดีอาญาแผ่นดิน เพราะหากถูกบังคับออกจากราชการก็จะเสียช่องทางการหารายได้เป็นการสร้างภาระเพิ่ม“จากนี้จะต้องหารือกับทางคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.)ซึ่งเป็นผู้แลภาพรวมของข้าราชการทั่วประเทศ รวมไปถึงหารือกับคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ปยป.) เพื่อยกก่อนจะนำเรื่องนี้เข้าเสนอที่ประชุมครม.ต่อไปซึ่งเป็นขั้นตอนปกติของการผลักดันร่างกฎหมาย ส่วนสหกรณ์ที่เข้าระบบมีเพียง 7 แห่งเท่านั้น ทำให้เกิดการกู้ทั้งซ้ำซ้อน จนไม่สามารถใช้คืนหนี้ได้ โดยรายชื่อสหกรณ์ออมทรัพย์ที่สมัครเข้าร่วมเครดิตบูโรแล้ว ได้แก่ สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด สหกรณ์ออมทรัพย์สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม จำกัด (สอ.สป.) สหกรณ์อิสลามอิบนูอัฟฟาน จำกัด สหกรณ์ออมทรัพย์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จำกัด สหกรณ์ออมทรัพย์พนักงานธนาคารแห่งประเทศไทย จำกัด สหกรณ์ออมทรัพย์กรมป่าไม้ จำกัด สหกรณ์ออมทรัพย์มหาวิทยาลัยมหิดล จำกัด   พามาเบิ่ง🧐 “อีสาน” ครองแชมป์มีข้าราชการมากสุด🏦 ชวนมาเบิ่ง จังหวัดไหน “ข้าราชการ” แน่นที่สุด. เวียดนามจ่อลดขนาดหน่วยงานรัฐ ท่ามกลางเป้าหมายในการเติบโตทางเศรษฐกิจที่มากขึ้น

หนี้ข้าราชการไทย 1 ใน 3 ของหนี้ครัวเรือน ยอดกู้กว่า 5 ล้านล้านบาท เสี่ยงถูกยื่นล้มละลาย 1.4 หมื่นคน อ่านเพิ่มเติม »

Big 4 อีสานติดโผ! 15 จังหวัดที่มีการพัฒนาที่อยู่อาศัยมากที่สุดในประเทศไทย

ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) สำรวจตลาดที่อยู่อาศัยในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2537 จนถึง 2567 รวม 31 ปี และโดยเฉพาะในจังหวัดภูมิภาค ทั้งหมด 40 หลักจังหวัดที่มีโครงการทั่วประเทศ ซึ่งได้คัด 15 จังหวัดหลักที่มีการพัฒนาที่อยู่อาศัย โดยไม่นับ6 จังหวัดในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อันดับ 1 และอันดับ 2 คือจังหวัดชลบุรีและระยอง ซึ่งเติบโตด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัยมาก เนื่องจากเป็นจังหวัดหลักในระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) นอกจากนั้นยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของประเทศ โดยจังหวัดชลบุรี ณ ปี 2567 ยังมีหน่วยขายรอผู้มาซื้ออยู่ 45,470 หน่วย หรือเหลืออยู่ 15% มีมูลค่ารวม 159,738 ล้านบาท ในส่วนของจังหวัดระยอง ยังมีหน่วยที่อยู่อาศัยรอขายอยู่  23,092 หน่วย หรือ 25% ของที่อยู่อาศัยทั้งหมด รวมมูลค่า 58,563 ล้านบาท อันดับที่ 3 เป็นจังหวัดใหญ่ของภาคเหนือ นั่นคือ จังหวัดเชียงใหม่ ยังมีหน่วยขายรอขายอยู่ 11,900 หน่วย ถือเป็นเพียง 14% ของหน่วยขายทั้งหมด โดยมีมูลค่ารวมกัน 54,218 ล้านบาท และอันดับที่ 4 เป็นอีกเมืองท่องเที่ยวระดับโลกและจังหวัดสำคัญของภาคใต้ คือจังหวัดภูเก็ต มีหน่วยที่อยู่อาศัยรอขายอยู่ 11,607 หน่วย คิดเป็น 15% ของปริมาณทั้งหมด มีมูลค่ารวมสูงถึง 142,796 ล้านบาท ข้ามฝั่งมายังอีสาน พบว่ามีจังหวัดในภาคอีสานติดอยู่ในลำดับจังหวัดที่มีการพัฒนาที่อยู่อาศัยมากที่สุด ซึ่งได้แก่จังหวัดกลุ่ม Big 4 อย่าง นครราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานี และ อุบลราชธานี โดยมีข้อมูลดังต่อไปนี้ นครราชสีมา หน่วยขายรอขาย: 8,336 หน่วย คิดเป็น 21% ของหน่วยขายทั้งหมด มูลค่าที่รอขายรวม 26,458 ล้านบาท   ขอนแก่น หน่วยขายรอขาย: 5,642   หน่วย คิดเป็น 95% ของหน่วยขายทั้งหมด มูลค่าที่รอขายรวม 19,484  ล้านบาท   อุดรธานี หน่วยขายรอขาย: 2,530 หน่วย คิดเป็น 16% ของหน่วยขายทั้งหมด มูลค่าที่รอขายรวม 9,229 ล้านบาท   อุบลราชธานี หน่วยขายรอขาย:

Big 4 อีสานติดโผ! 15 จังหวัดที่มีการพัฒนาที่อยู่อาศัยมากที่สุดในประเทศไทย อ่านเพิ่มเติม »

บุรีรัมย์ โมโตจีพี มหกรรมความเร็วระดับโลก เเรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจ 25,000 ล้านบาท

ศึกจักรยานยนต์ทางเรียบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกหรือ MotoGP ฤดูกาล 2025 ก็จะเริ่มเปิดสนามอย่างเป็นทางการกันแล้ว และสนามแรกก็ประเดิมที่บ้านเราเลยกับ ‘พีที กรังด์ปรีซ์ ออฟ ไทยแลนด์’ ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ถึง 2 มีนาคมนี้ ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ แถมในปีนี้แฟนกีฬามอเตอร์สปอร์ตไทยก็มีเรื่องราวให้น่ายินดีมากขึ้นไปอีกเพราะเราจะได้เชียร์ ‘คิงคองก้อง’ สมเกียรติ จันทรา นักบิดไทยคนแรกที่ได้ลงแข่ง MotoGP ไปกันยาวๆ ในซีซั่นนี้  โดยมีแข่งขันสนามแรกประจำฤดูกาลที่บุรีรัมย์ โดยประเทศไทยเป็นเจ้าภาพปีที่ 6 ซึ่งดอร์นา สปอร์ต เปิดเผยว่า ทั้ง 3 อีเวนต์ที่เกิดขึ้นที่ประเทศไทย ใช้เงินลงทุนไปมากกว่า 23 ล้านยูโร หรือประมาณ 819 ล้านบาท ไม่รวมกับงบประมาณจัดงานจากฝั่งการกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ กกท. ซึ่งบทบาทในปีนี้ถือเป็นโอกาสทองจาก 22 สนามที่จะถูกจัดขึ้นทั้งปีทั่วโลก เนื่องจากได้รับความสนใจจากทั้งสื่อมวลชนและแฟนความเร็วมากที่สุด เพราะจะได้เห็นนักแข่งกับการวางแผนทำงานของทีมแข่ง ภายใต้รถแข่งในเทคโนโลยีใหม่, ผลงานภายใต้สนามนี้ เรียกว่าเป็นสนามที่จะชี้ชะตาของฤดูกาล 2025 เลยก็ว่าได้ และการได้รับโอกาสเหล่านี้ล้วนชี้ให้เห็นถึงศักยภาพของ “สนามประเทศไทย” ที่โดดเด่นมากที่สุดสนามหนึ่งของโลก โมโตจีพี MotoGP ในปีนี้เป็นปีที่ทุบสถิติในแทบทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องมูลค่าทางเศรษฐกิจเเละตัวเลขผู้ชมที่มากเป็นประวัติการณ์ในปี 2568 . กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเผยข้อมูลสำคัญ PT Grand Prix of Thailand 2025 ระหว่างวันที่ 28 ก.พ.-2 มี.ค. 2025 ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ผู้เข้าร่วมงานรวมกว่า 224,634 คน เป็นคนไทย 172,565 คน ชาวต่างชาติ 52,069 คน มูลค่าทางเศรษฐกิจรวม 5,043 ล้านบาท กระตุ้นการใช้จ่ายกว่า 4,268 ล้านบาท ใช้งบจัดงาน 775 ล้านบาท สร้างงาน 7,772 ตำแหน่ง ภาษีที่รัฐเก็บได้กว่า 318 ล้านบาท ที่มา : กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา . .   Motorsports: กีฬาความเร็วกับผลกระทบทางเศรษฐกิจ Motorsports หรือกีฬาแข่งขันความเร็วที่ใช้ยานพาหนะขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ เป็นหนึ่งในกีฬาที่ได้รับความนิยมทั่วโลก การแข่งขันรายการใหญ่ เช่น Formula 1, MotoGP, Nascar และ IndyCar  ดึงดูดแฟนกีฬาจำนวนมาก และมีการจัดแข่งขันในหลายประเทศ ทำให้ Motorsports

บุรีรัมย์ โมโตจีพี มหกรรมความเร็วระดับโลก เเรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจ 25,000 ล้านบาท อ่านเพิ่มเติม »

ทำไมศรีสะเกษ ถึงเป็นแดน ทุเรียนภูเขาไฟ เปิดเบื้องหลังขุมทรัพย์ทางธรณีดินภูเขาไฟ

Key Points “ทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ (Lava Durian Sisaket)” หมายถึง ทุเรียนพันธุ์หมอนทอง พันธุ์ชะนี พันธุ์ก้านยาว ทุเรียนที่มีรสชาติหวานมัน มีกลิ่นหอมปานกลาง เนื้อละเอียด แห้ง สีเนื้อเหลืองสม่ำเสมอทั้งผล ซึ่งปลูกในพื้นที่อำเภอขุนหาญ อำเภอกันทรลักษ์ และอำเภอศรีรัตนะ ของจังหวัดศรีสะเกษ “ทุเรียนภูเขาไฟ” ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียน สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ตั้งแต่ปี 2562 ทุเรียนชนิดนี้มีลักษณะเฉพาะตัวที่แตกต่างจากทุเรียนที่ปลูกในภาคอื่น เนื่องจากสภาพดินภูเขาไฟในศรีสะเกษ ซึ่งอุดมไปด้วยแร่ธาตุที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของพืช เช่น แมกนีเซียมออกไซด์ (MgO), แคลเซียมออกไซด์ (CaO) และโพแทสเซียมออกไซด์ (K₂O) ซึ่งช่วยให้ทุเรียนมีรสชาติที่เข้มข้นและเนื้อสัมผัสที่เป็นเอกลักษณ์ ภาคตะวันออก (จันทบุรี ตราด ระยอง) ผลิตมากที่สุด 1,045,410 ตัน หรือคิดเป็น เกือบ 75% ของผลผลิตทั้งประเทศ ส่วนภาคอีสาน นำโดย ทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ ผลิต ประมาณ 14,000 ตัน และยังเน้นตลาดผู้บริโภคภายในประเทศ การผลักดันจากทางจังหวัด และภาครัฐ ในการเป็นจุดยุทธศาสตร์อีสานใต้ ภาครัฐได้ดำเนินโครงการ “เกษตรแปลงใหญ่” โดยสนับสนุนให้เกษตรกรรวมกลุ่มกันเพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิต ลดต้นทุน และเพิ่มอำนาจต่อรองทางการตลาด นอกจากนี้ ศูนย์วิจัยและพัฒนา “ทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ” ยังมีบทบาทสำคัญในการศึกษาพันธุ์ทุเรียนและพัฒนาเทคนิคการปลูก เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพตรงตามมาตรฐาน GAP (Good Agricultural Practices) และรองรับตลาดส่งออก ศรีสะเกษ: เมืองเกษตรกรรมแห่งอีสานใต้ และบทบาทของทุเรียนภูเขาไฟในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ   จังหวัดศรีสะเกษเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญของภาคอีสานตอนล่าง ด้วยโครงสร้างทางเศรษฐกิจที่พึ่งพาการเกษตรเป็นหลัก โดยเฉพาะ ทุเรียนภูเขาไฟ ซึ่งเป็นสินค้าที่สร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดในระดับประเทศและกำลังขยายสู่ตลาดต่างประเทศอย่างมีศักยภาพ ด้วยพื้นที่เกษตรกรรมกว่า 3.71 ล้านไร่ หรือเกือบ 68% ของพื้นที่ทั้งหมด ศรีสะเกษจึงกลายเป็นศูนย์กลางการผลิตสินค้าเกษตรที่สำคัญของภาคอีสาน โดยมีพืชเศรษฐกิจที่ได้รับความนิยมสูง ได้แก่ หอมแดง กระเทียม พริก และทุเรียนภูเขาไฟ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นสินค้าหลักที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ   .    ทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ: สินค้า GI ที่สร้างชื่อเสียงระดับประเทศ “ทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ (Lava Durian Sisaket)” หมายถึง ทุเรียนพันธุ์หมอนทอง พันธุ์ชะนี พันธุ์ก้านยาว ทุเรียนที่มีรสชาติหวานมัน มีกลิ่นหอมปานกลาง เนื้อละเอียด แห้ง สีเนื้อเหลืองสม่ำเสมอทั้งผล ซึ่งปลูกในพื้นที่อำเภอขุนหาญ อำเภอกันทรลักษ์ และอำเภอศรีรัตนะ ของจังหวัดศรีสะเกษ หนึ่งในจุดเด่นของศรีสะเกษที่ได้รับการกล่าวถึงมากที่สุดคือ “ทุเรียนภูเขาไฟ” ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียน สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ตั้งแต่ปี 2562 ทุเรียนชนิดนี้มีลักษณะเฉพาะตัวที่แตกต่างจากทุเรียนที่ปลูกในภาคอื่น ๆ โดยมี

ทำไมศรีสะเกษ ถึงเป็นแดน ทุเรียนภูเขาไฟ เปิดเบื้องหลังขุมทรัพย์ทางธรณีดินภูเขาไฟ อ่านเพิ่มเติม »

ศรีสะเกษเมืองหนังแดนอีสาน ไทบ้าน สตูดิโอ เดินหน้าหนังใหม่ 3 เรื่องรวดทั้ง 🎬สัปเหร่อ 2 🎬ผีเข้า 🎬เทยไทบ้าน ผลักดันอุตสาหกรรมภาพยนตร์

เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2568 ที่บริเวณหน้าศาลหลักเมือง ถนนเทพา อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นางสาวชนมณัฐ รอดบุญธรรม รองผู้ว่าราชจังหวัดศรีสะเกษ นายรัฐวิทย์ อังคสกุลเกียรติ ประธานหอการค้าจังหวัดศรีสะเกษ ทีมงานไทบ้าน สตูดิโอ ประกอบพิธีบวงสรวงเปิดกล้องภาพยนตร์จำนวน 3 เรื่อง ประกอบด้วย “เรื่อง จักรวาลไทบ้าน เทยไทบ้าน เรื่อง สัปเหร่อ 2 โลกหลังความตาย และ เรื่อง ผีเข้า” เพื่อความเป็นสิริมงคล ให้การถ่ายทำให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยสำเร็จ โดยมีทีมงานผู้จัด ผู้กำกับภาพยนตร์ ดารา นักแสดงภาพยนตร์ ร่วมประกอบพิธีบวงสรวงในครั้งนี้อย่างคึกคัก ไทบ้านสตูดิโอและกลุ่มพันธมิตร ตอกย้ำความเป็นเมืองภาพยนตร์ของศรีสะเกษ เดินหน้าหนังใหม่ 3 เรื่องรวด พร้อมประกอบพิธีบวงสรวงเปิดกล้องหนังใหม่ วานนี้ บริเวณศาลหลักเมืองศรีสะเกษ โดยมีภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาคมเมืองศรีสะเกษ ร่วมพิธีพร้อมหน้า สัปเหร่อ 2 ผีเข้า เทยไทบ้าน ศรีสะเกษ เมืองภาพยนตร์-ดนตรี แดนอีสาน ซึ่งทำรายได้เป็นอันดับ 1 ของภูมิภาค จากอุตสาหกรรมภาพยนตร์และธุรกิจบันเทิงที่เกี่ยวข้อง จากจักรวาลไทบ้าน สู่ปรากฏการณ์สัปเหร่อ และกวาดหลายรางวัลสุพรรณหงส์ทองคำ ปี 2567 ที่ผ่านมา นายธิติ ศรีนวล หรือ ต้องเต ผู้กำกับหนังสัปเหร่อ เปิดเผยว่า กล่าวว่า นักแสดงเรื่องสัปเหร่อ 2 รอบนี้จะเป็นนักแสดงทั้งกลุ่มใหม่ และกลุ่มเดิม ในเรื่องคนที่รับบทเป็นนางเอกใหม่ คือ น้องอุ้ม นักแสดงจากช่อง 3 และ โจอี้ ภูวศิษฐ์ นักร้องนักแสดง โดยความคาดหวังกับ เรื่องสัปเหร่อภาค 2 ผู้จัดคาดหวังว่าขอให้รายได้เท่าทุน หรือไม่เจ๊งก็เพียงพอแล้ว จะให้ยอดทะลุ 800 ล้านบาท เหมือนภาคแรก ทางตนก็ไม่ได้คาดหวังขนาดนั้น ตนอยากฝากหนังเรื่องสัปเหร่อ 2 ให้มาชมกันเยอะๆหนังจะเข้าประมาณวันที่ 6 พฤศจิกายน 2568 นี้ ไปดูไปชมกันถ้าไม่ดีไม่สนุกด่าได้ ด้าน น้องอุ้ม อิษยา ฮอสุวรรณ เปิดเผยว่า รอบนี้ตนได้รับบทแสดงเป็นนางเอก ในเรื่องสัปเหร่อ 2 ตนรู้สึกตื่นเต้นและดีใจ ในครั้งนี้ที่ได้โอกาสมาร่วมแสดงในหนัง สัปเหร่อ 2 แล้วรู้สึกสนุกมาก ตนหวังว่าจะได้รับประสบการณ์ใหม่ๆกับหนังเรื่องนี้ นอกจากนี้ยังได้ร่วมแสดงในหนังเรื่อง ผีเข้า ทั้งนี้ตนขอฝากภาพยนตร์เรื่องสัปเหร่อ 2 เรื่องผีเข้า และเรื่องเทยไทบ้าน ทั้ง 3 เรื่อง ที่มีทั้ง 3 รสชาติให้แฟนภาพยนต์ได้ติดตามชมกันด้วย

ศรีสะเกษเมืองหนังแดนอีสาน ไทบ้าน สตูดิโอ เดินหน้าหนังใหม่ 3 เรื่องรวดทั้ง 🎬สัปเหร่อ 2 🎬ผีเข้า 🎬เทยไทบ้าน ผลักดันอุตสาหกรรมภาพยนตร์ อ่านเพิ่มเติม »

ผู้ประกอบการ กุมขมับ🥊สงครามการค้า ขึ้นภาษีรัวๆ ราวกับประมูล Apple จำเป็นต้องย้ายฐานการผลิต! หรือไม่?

ถ้าจะถามว่าใคร คือ ผู้ประกอบการ หรือ บริษัทที่เจ็บหนักที่สุดในเวลานี้คงนี้ไม่พ้น บริษัท แอปเปิ้ล นั่นเอง ที่ผลจากภาษีทำให้สินค้าเรือธงของบริษัทอย่าง iPhone ราคาพุ่งขึ้นทันที 3-4 เท่า สวนทางกับราคาหุ้นร่วงทันทีสูญมูลค่าหลายล้านเหรียญ Apple จำเป็นต้องย้ายฐานการผลิต! หรือไม่? เตรียมตั้งโรงงานนอกจีน เล็งสหรัฐฯ หลังโดนภาษีนำเข้ากระทบ — Luxshare ผู้ผลิตรายใหญ่ของ Apple ที่ประกอบ iPhone และ AirPods กำลังพิจารณาย้ายสายการผลิตบางส่วนออกจากจีนไปยังประเทศอื่น รวมถึงสหรัฐอเมริกา หลังเจอแรงกดดันจากภาษีนำเข้าชุดใหม่ของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่เพิ่งเริ่มมีผลเมื่อวันพุธที่ผ่านมา คุณ Wang Laichun ประธานบริษัท Luxshare เผยกับนักวิเคราะห์ว่า ภาษีใหม่นี้แทบไม่กระทบกำไรหรือรายได้ เพราะสินค้าส่วนใหญ่ไม่ได้ส่งออกไปสหรัฐฯ โดยตรง แต่บริษัทก็ยังต้องปรับตัว เช่น ชะลอลงทุนในจีน และอาจเพิ่มกำลังการผลิตในต่างประเทศแทน Luxshare บอกว่ามีลูกค้าติดต่อมาเพื่อขอให้ไปตั้งฐานการผลิตในอเมริกา โดยเฉพาะสายการผลิตที่ใช้ระบบอัตโนมัติสูง ซึ่งบริษัทก็ยินดีพิจารณา แต่ขอความชัดเจนจากลูกค้าก่อน ว่าคุ้มค่ากับการลงทุนระยะยาวหรือไม่ — ปัจจุบัน Luxshare มีโรงงานทั้งในมาเลเซีย ไทย เวียดนาม สหรัฐฯ และเม็กซิโก โดยคุณ Wang ก็แย้มว่ามีแผนจะขยายในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต่อด้วย แม้เวียดนามจะโดนภาษีสูงถึง 46% (มากกว่ามาเลเซียที่ 24% และไทยที่ 36%) แต่ก็ยังถือว่าเป็นฐานการผลิตที่มั่นคง เพราะโครงสร้างพื้นฐานและแรงงานพร้อม ส่วนอินเดียยังไม่มีแผนเข้าไปตอนนี้ แต่ถ้าลูกค้ารายใหญ่เรียกร้องก็คงต้องพิจารณา เพราะการตั้งไลน์การผลิตใหม่ในโรงงานที่มีอยู่เดิมก็ใช้เวลาราว 1-1.5 ปี ด้านผลกระทบเรื่องต้นทุน คุณ Wang บอกว่า ตอนนี้บริษัทฮาร์ดแวร์ยังไม่ได้จ่ายภาษีหรือค่าขนส่งเอง แต่อย่างไรก็ตาม ก็มีแรงกดดันจากลูกค้าให้ลดราคาลง ซึ่งการร่วมมือกับซัพพลายเออร์เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันก็เป็นสิ่งที่ทำกันอยู่แล้ว — แม้จะไม่ได้เอ่ยชื่อ Apple โดยตรง (ตามธรรมเนียมของซัพพลายเออร์) แต่ทั้งหมดนี้ก็สะท้อนว่าห่วงโซ่อุปทานของ Apple เองก็กำลังเจอศึกหนักจากนโยบายการค้าสหรัฐฯ เช่นกัน คิดว่า Apple ควรย้ายฐานการผลิตมาไทยมากขึ้นมั้ย? หรือไปประเทศอื่นดีกว่า?  — ที่มา: iclarified https://www.iclarified.com/…/apple-supplier-luxshare…

ผู้ประกอบการ กุมขมับ🥊สงครามการค้า ขึ้นภาษีรัวๆ ราวกับประมูล Apple จำเป็นต้องย้ายฐานการผลิต! หรือไม่? อ่านเพิ่มเติม »

Scroll to Top