Nanthawan Laithong

พาส่องเบิ่ง คนอีสาน แต่ละ Gen มีพฤติกรรมการบริโภคแตกต่างกันแค่ไหน?

ในโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การเข้าใจกลุ่มผู้บริโภค คือ กุญแจสำคัญที่จะนำพาแบรนด์ให้ประสบความสำเร็จในยุคดิจิทัลนี้   สำหรับ Customer Generation ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการแบ่งกลุ่มผู้บริโภคหรือลูกค้า (Segmentation) เพราะคนในแต่ละช่วงวัยหรือเจนเนอเรชัน พบอุปสรรคและความท้าต่างกัน ส่งผลให้คนแต่ละ เจน มีพฤติกรรมการบริโภคสินค้าแตกต่างกันออกไป การทำความเข้าใจกับ Customer Generation แต่ละกลุ่ม จะช่วยให้แบรนด์รู้ว่าควรจะออกผลิตภัณฑ์แบบไหน ทำการตลาดหรือควรมีปฏิสัมพันธ์กับพวกเขาอย่างไร    โดยอีสานอินไซต์จะขอยกมา 4 Generation ได้แก่   Baby Boomer (ปี 2489 – 2507) ในภาคอีสานมีจำนวน 3,678,219 คน หรือคิดเป็นสัดส่วนเพียง 1.4% ของคนอีสานเท่านั้น โซเซียลมีเดียที่ใช้บ่อย คือ Line, Facebook และ TikTok ตามลำดับ ซึ่งพฤติกรรมการบริโภคของคนกลุ่มนี้จะมัก (1)ซื้อสินค้าเพื่อสุขภาพ เช่น วิตามิน อาหารเสริม และ (2)ซื้อสินค้าที่ถูกและคุณภาพเหมาะสมที่สุด ที่สำคัญคือต้องเน้นการขายที่ให้ข้อมูลง่ายๆ ไม่ซับซ้อน พร้อมกับวิธีการสั่งซื้อสินค้าที่สะดวก เพื่อตอบโจทย์คน Gen Baby Boomer   Gen X (ปี 2508 – 2522) ในภาคอีสานมีจำนวน 5,255,024 คน หรือคิดเป็นสัดส่วน 28.4% ของคนอีสาน โซเซียลมีเดียที่ใช้บ่อย คือ Line, Facebook และ TikTok ตามลำดับ ซึ่งพฤติกรรมการบริโภคของคนกลุ่มนี้จะระมัดระวังการใช้จ่ายมากกว่าคนรุ่นอื่นๆ และเลือกซื้อสินค้าและบริการมีคุณภาพสูง โดยกลุ่มนี้มักจะชอบการสะสมแต้มแลกของ มีระบบ Membership หรือโปรโมชั่นต่างๆ ก็ถือว่าสามารถดึงดูดคนกลุ่มนี้ได้ดี   Gen Y (ปี 2523 – 2540) ในภาคอีสานมีจำนวน 5,636,604 คน หรือคิดเป็นสัดส่วน 26.1% ของคนอีสาน โซเซียลมีเดียที่ใช้บ่อย คือ Facebook, TikTok และ Line ตามลำดับ ซึ่งพฤติกรรมการบริโภคของคนกลุ่มนี้มักจะซื้อสินค้าตามการรีวิวของ “อินฟลูฯ” และให้ความสำคัญเรื่องสุขภาพ เช่น เครื่องดื่ม Non-Caffeine อีกทั้งยังสนใจเรื่องที่อยู่หรืออสังหาริมทรัพย์ โดยยึดหลัก  “Finding happiness in a rented home”   Gen Z (ปี 2541 – 2565) ในภาคอีสานมีจำนวน 6,136,918 […]

พาส่องเบิ่ง คนอีสาน แต่ละ Gen มีพฤติกรรมการบริโภคแตกต่างกันแค่ไหน? อ่านเพิ่มเติม »

🔎พาเปิดเบิ่ง ตัวอย่าง 8 ธุรกิจแดนอีสานที่เหมือนกัน ในตลาดหุ้น VS นอกตลาดหุ้น🏭💰

ภาคอีสานมีหลายบริษัทที่สามารถเข้าสู่ตลาดหุ้นได้ ซึ่งมีกว่า 17 บริษัท แต่อีสานอินไซต์จะขอยกตัวอย่างมาเพียง 8 ธุรกิจที่เหมือนกันทั้งในตลาดหุ้นและนอกตลาดหุ้น ซึ่งในภาคอีสานเองก็มีบริษัทใหญ่หลายบริษัทที่ยังไม่เข้าสู่ตลาดหุ้นและมีรายได้มากกว่าหลักร้อย-พันล้าน   จะเห็นได้ว่าประเภทธุรกิจอันดับที่ 1 – 6 บริษัทที่อยู่ในตลาดหุ้นก็จะมีรายได้รวมที่สูงกว่าบริษัทนอกตลาดหุ้น ซึ่งก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการที่บริษัทเข้าสู่ตลาดหุ้นนั้นก้เหมือนเป็นการเปิดประตูสู่โอกาสในการระดมเงินทุนจากนักลงทุนจำนวนมหาศาล ทั้งรายย่อยและสถาบัน ทำให้บริษัทมีเงินทุนเพียงพอในการลงทุนและทำให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด    และการที่บริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักหุ้นก็จะช่วยเสริมภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของบริษัท แสดงให้เห็นถึงความโปร่งใสและการกำกับดูแลกิจการที่ดี ซึ่งก็จะดึงดูดลูกค้า นักลงทุน และพันธมิตรทางธุรกิจให้เข้ามาร่วมงานกับบริษัทมากขึ้นอีกด้วย หรือแม้กระทั่ง​​เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนได้เสียในธุรกิจนั้น ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาเสนอแนะและปรับปรุงธุรกิจเดิมให้ดีขึ้น      แต่ก็ยังมีหลายบริษัทที่สามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องโดยที่ไม่ต้องเข้าสู่ตลาดหุ้น จะเห็นได้จากธุรกิจอันดับที่ 7 – 8 อย่าง    “บจก.ก้าวหน้าไก่สด” ที่มีรายได้มากกว่า 4,339 ล้านบาท และยังเป็นฟาร์มเลี้ยงไก่ที่มีรายได้มากเป็นอับดับที่ 5 ของประเทศเลยทีเดียว ก้าวหน้าไก่สดเป็นธุรกิจครอบครัวหลักพันล้านที่กว่าจะมาถึงวันนี้ ไม่ง่าย ผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านล้ม ผ่านลุก มานับไม่ถ้วน ซึ่งเป็นเรื่องของความตั้งใจจริงและไม่ล้มเลิกความฝัน คุณสุนีย์ ที่สู้ไม่ถอย สามารถพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส ในปี 40 ในช่วงฟองสบู่แตก นับเป็นจุดเปลี่ยน ที่ทำให้ขายได้เงินมากขึ้น และยังทำให้ก้าวหน้าไก่สดก็แข็งแรงขึ้น   และ “บจก.บ้านสาริน” ที่มีรายได้มากกว่า 912 ล้านบาท ถือว่าเป็นทุนท้องถิ่นยักษ์ใหญ่อสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดอุบลราชธานี ที่สามารถฟันฝ่าวิกฤต และเติบโตเป็นผู้นำตลาดบ้านจัดสรรอันดับต้นๆ ภายในจังหวัด ที่อยู่มานานกว่า 26 ปีแล้ว บ้านสารินมีโปรดักต์ตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่ม แต่ยังคงเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์แนวราบทั้งหมด คอนโดฯยังไม่มี ลูกค้าหลัก 60% ซื้อบ้านในราคาเฉลี่ย 2-4 ล้านบาท เป็นกลุ่มข้าราชการหรือพนักงานเงินเดือนประจำ ส่วนที่เหลือเป็นกลุ่มตลาดบนอย่างเจ้าของธุรกิจซึ่งมีอัตราการเติบโตอย่างเห็นได้ชัด     โดยทั้ง 2 บริษัทนี้ถือว่าเป็นบริษัทนอกตลาดหุ้นที่เติบโตอย่างมากเนื่องจากเป็นบริษัทใหญ่ที่มีสภาพคล่อง หรือมีความสามารถในการกู้ยืม เพียงพอต่อการขยายกิจการ อีกทั้งยังมีหลายปัจจัยภายในที่ยังไม่มีแพลนที่จะเข้าสู่ตลาดหุ้นในเร็วๆนี้     อ้างอิงจาก:  – ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย – กรมพัฒนาธุรกิจการค้า – Optiwise – เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ – ประชาชาติธุรกิจ   ติดตาม ISAN Insight & Outlook ทุกช่องทางได้ที่ https://linktr.ee/isan.insight   #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ISAN #อีสานอินไซต์ #Business #Economy #ธุรกิจ #เศรษฐกิจ #ธุรกิจอีสาน #เศรษฐกิจอีสาน #หุ้นในอีสาน #ตลาดหุ้น #ตลาดหลักทรัพย์ #บริษัทใหญ่ในอีสาน

🔎พาเปิดเบิ่ง ตัวอย่าง 8 ธุรกิจแดนอีสานที่เหมือนกัน ในตลาดหุ้น VS นอกตลาดหุ้น🏭💰 อ่านเพิ่มเติม »

🔎ชวนเบิ่ง ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ปี 2567 ในอีสานสูงกว่า 24,389 ล้านบาท

💸ภาคอีสานมีมูลค่าการจัดเก็บภาษีของกรมสรรพากรอยู่ 47,417 ล้านบาท โดยภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นประเภทภาษีที่มีมูลค่าการจัดเก็บภาษีได้มากที่สุดในอีสานกว่า 24,389 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนเกือบ 52% โดยเหตุผลที่ทำให้สามารถเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มได้มากที่สุด สาเหตุมาจากภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นภาษีทางอ้อมที่ผู้บริโภคทุกคนต้องจ่ายเพิ่ม เมื่อมีการซื้อสินค้าและบริการ จึงทำให้ภาษีมูลค่าเพิ่มมีการจัดเก็บได้มากที่สุด    5 อันดับจังหวัดที่มีการจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่มมากที่สุด – นครราชสีมา 5,410 ล้านบาท – ขอนแก่น 4,368 ล้านบาท – อุบลราชธานี 2,357 ล้านบาท – อุดรธานี 1,730 ล้านบาท – บุรีรัมย์ 1,236 ล้านบาท . จะเห็นได้ว่าจังหวัดที่มีการจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่มมากที่สุดจะอยู่ใน 2 จังหวัดหลักของอีสาน อย่างนครราชสีมาและขอนแก่น เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีประชากรหนาแน่นและมีรายได้เฉลี่ยค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับจังหวัดอื่นๆ ในภาคอีสาน ทำให้มีกำลังซื้อสินค้าและบริการสูงตามไปด้วย ซึ่งส่งผลให้เกิดการจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น   ทั้งยังเป็นศูนย์กลางการค้า การลงทุน และการคมนาคมขนส่ง ทำให้มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หลากหลายและเกิดการซื้อขายสินค้าและบริการจำนวนมาก ซึ่งเป็นฐานภาษีมูลค่าเพิ่มที่สำคัญ    อีกทั้งยังมีภาคอุตสาหกรรมที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร อุตสาหกรรมยานยนต์ และอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง การผลิตสินค้าในปริมาณมาก ส่งผลให้เกิดการจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่มในขั้นตอนการผลิตและการจำหน่ายสินค้า   นอกจากภาคอุตสาหกรรมแล้ว ภาคบริการในทั้ง 2 จังหวัดก็เติบโตอย่างรวดเร็ว เช่น ภาคการท่องเที่ยว ภาคการค้าปลีก และภาคบริการอื่นๆอซึ่งกิจกรรมเหล่านี้ล้วนแต่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายสินค้าและบริการที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม     อ้างอิงจาก: – กรมสรรพากร   ติดตาม ISAN Insight & Outlook ทุกช่องทางได้ที่ https://linktr.ee/isan.insight   #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ISAN #อีสานอินไซต์ #Business #Economy #ธุรกิจ #เศรษฐกิจ #ธุรกิจอีสาน #เศรษฐกิจอีสาน #ภาษีมูลค่าเพิ่ม #ภาษี #ภาษีเงินได้นิติบุคคล #ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา #สรรพากร

🔎ชวนเบิ่ง ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ปี 2567 ในอีสานสูงกว่า 24,389 ล้านบาท อ่านเพิ่มเติม »

🔎พาเปิดเบิ่ง ปี 2567 คนอีสานจ่ายภาษีกว่า 47,417 ล้านบาท มาจากจังหวัดไหนบ้าง💸

💸ภาคอีสานมีมูลค่าการจัดเก็บภาษีของกรมสรรพากรทั้งหมดรวมกัน อยู่ที่ 47,417 ล้านบาท โดยภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นประเภทภาษีที่มีมูลค่าการจัดเก็บภาษีได้มากที่สุดในอีสานกว่า 24,389 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนเกือบ 52% รองลงมาภาษีที่จัดเก็บได้ คือ ภาษีเงินได้นิติบุคคล 11,636 ล้านบาท และภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 8,913 ล้านบาท ตามลำดับ   5 อันดับจังหวัดที่มีการจ่ายภาษีมากที่สุด – นครราชสีมา 11,930 ล้านบาท – ขอนแก่น 7,664 ล้านบาท – อุบลราชธานี 4,228 ล้านบาท – อุดรธานี 3,289 ล้านบาท – บุรีรัมย์ 2,678 ล้านบาท   จะเห็นได้ว่าจังหวัดที่มีการจ่ายภาษีมากที่สุดจะกระจุกตัวอยู่ใน 5 จังหวัดหลักของอีสาน เนื่องจากจังหวัดเหล่านี้มีขนาดเศรษฐกิจเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดการจ้างงานและเพิ่มรายได้ให้กับคนในจังหวัด ซึ่งนำไปสู่การจ่ายภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ประชากรในจังหวัดเหล่านี้ยังมีจำนวนมากทำให้ฐานผู้เสียภาษีที่กว้างขึ้นตามไปด้วย   อีกทั้งยังมีทั้งภาคอุตสาหกรรม การค้า การบริการ และเกษตรกรรมที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมในจังหวัดนครราชสีมาที่มีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว และยังเป็นศูนย์กลางการคมนาคมที่สำคัญของภาคอีสาน ทำให้มีการขนส่งสินค้าและบริการจำนวนมาก ซึ่งส่งผลให้เกิดการจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องที่มากกว่าจังหวัดอื่นๆ   ซึ่งก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า อุตสาหกรรมในนครราชสีมา โดยเฉพาะอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร อุตสาหกรรมยานยนต์ และอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง    โดยศักยภาพของจังหวัดนครราชสีมาที่เป็นจังหวัดที่มีกำลังซื้อสูงและเป็นเมืองท่องเที่ยว เมืองแห่งอารยธรรมหลาย ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของประเทศไทย จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่นักลงทุนภาคเอกชนจะไม่ยอมปล่อยโอกาสให้เสียเปล่าไปแบบไร้ประโยชน์ โดยปัจจุบันนครราชสีมามีการลงทุนจากภาคเอกชนซึ่งได้ทุ่มเม็ดเงินจำนวนมากมายังจังหวัดหัวเมืองภาคอีสานอย่างนครราชสีมา และยังมีการลงทุนของกลุ่มทุนค่าปลีกต่างๆอีกมากมาย ซึ่งส่งผลให้เกิดการจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องมากกว่าจังหวัดอื่นๆ ถือเป็นแหล่งรายได้ภาษีที่สำคัญในภาคอีสานเลยทีเดียว     อ้างอิงจาก: – กรมสรรพากร – Terrabkk.com   ติดตาม ISAN Insight & Outlook ทุกช่องทางได้ที่ https://linktr.ee/isan.insight   #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ISAN #อีสานอินไซต์ #Business #Economy #ธุรกิจ #เศรษฐกิจ #ธุรกิจอีสาน #เศรษฐกิจอีสาน #ภาษีมูลค่าเพิ่ม #ภาษี #ภาษีเงินได้นิติบุคคล #ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา #สรรพากร

🔎พาเปิดเบิ่ง ปี 2567 คนอีสานจ่ายภาษีกว่า 47,417 ล้านบาท มาจากจังหวัดไหนบ้าง💸 อ่านเพิ่มเติม »

🔎พาเปิดเบิ่ง ผลประกอบการ “โรงพยาบาลเอกชน” ในกลุ่มจังหวัดนครชัยบุรินทร์🏥🩺

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีมูลค่ารายได้รวมโรงพยาบาลเอกชนรวมกว่า 14,300 ล้านบาท โดยกลุ่มจังหวัดนครชัยบุรินทร์มีมูลค่ารายได้รวมโรงพยาบาลเอกชนกว่า 4,543 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนกว่า 31.8% ของมูลมูลค่ารายได้รวมโรงพยาบาลเอกชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งถือว่ามีมูลค่ารายได้รวมมากที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 🏥จากข้อมูลผลประกอบการของกลุ่มจังหวัดจะเห็นได้ว่า “โรงพยาบาลกรุงเทพ ราชสีมา” เป็นโรงพยาบาลเอกชนที่มีรายได้รวมมากที่สุดในกลุ่มจังหวัดและยังมากที่สุดในภาคอีสานอีกด้วย นครราชสีมามีจำนวนประชากรที่เยอะที่สุดในภาคอีสานและยังถือว่าเป็นจังหวัดที่มีกำลังซื้อค่อนข้างมากซึ่งสอดคล้องกับรายได้ต่อหัวเฉลี่ยของจังหวัดที่สูงมากที่สุดในภาคอีสาน ทำให้ประชากรในจังหวัดเข้าถึงการบริการใน รพ.เอกชนได้มาก 🧑🏻‍⚕️🩺อีกทั้ง “โรงพยาบาลกรุงเทพ ราชสีมา” เป็นเครือข่ายของโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำของประเทศไทย ที่มีชื่อเสียงด้านมาตรฐานการรักษาและเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย ผู้คนจึงมีความเชื่อมั่นและไว้วางใจในการใช้บริการของโรงพยาบาล 🔎จากการสำรวจข้อมูลจำนวนโรงพยาบาลเอกชนในกลุ่มจังหวัดนครชัยบุรินทร์ ก็พบว่า นครราชสีมาเป็นจังหวัดที่มีโรงพยาบาลเอกชนมากที่สุดในกลุ่ม เนื่องจากนครราชสีมาเป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่ง ทำให้สามารถเข้าถึงได้ง่าย และเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างภาคกลางและภาคอีสานอีกด้วย ประชากรบริเวณจังหวัดหรือภูมิภาคใกล้เคียงจึงเลือกใช้บริการโรงพยาบาลที่นครราชสีมาเยอะ อีกทั้งนครราชสีมายังเป็นหนึ่งในจังหวัดที่มีการผลิตแพทย์มากที่สุดในอีสาน เป็นรองเพียงขอนแก่นเท่านั้น ซึ่งก็เป็นปัจจัยที่ส่งผลให้มีโรงพยาบาลเอกชนมีการลงทุนในนครราชสีมาเยอะเช่นกัน อ้างอิงจาก: – กรมพัฒนาธุรกิจการค้า – เว็บไซต์ของบริษัท ติดตาม ISAN Insight & Outlook ทุกช่องทางได้ที่ https://linktr.ee/isan.insight #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ISAN #อีสานอินไซต์ #Business #Economy #ธุรกิจ #เศรษฐกิจ #ธุรกิจอีสาน #เศรษฐกิจอีสาน #โรงพยาบาลเอกชน #โรงพยาบาลเอกชนในอีสาน #โรงพยาบาลกรุงเทพราชสีมา #โรงพยาบาลรวมแพทย์ #โรงพยาบาลบุรีรัมย์ราม #โรงพยาบาลชัยภูมิราม

🔎พาเปิดเบิ่ง ผลประกอบการ “โรงพยาบาลเอกชน” ในกลุ่มจังหวัดนครชัยบุรินทร์🏥🩺 อ่านเพิ่มเติม »

อีสานอินไซต์ พาเลาะเบิ่ง ตัวอย่าง “ปราสาทหิน” ถิ่นอีสานใต้ ร่องรอยแหล่งอารยธรรมขอมโบราณ

ภาคอีสานของเราถือว่ามีความโดนเด่นในเรื่องการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ ทั้งในแง่มุมของวิถีชีวิต วัฒนธรรม และอาหารการกิน หากมองในแง่เศรษฐกิจของท้องถิ่น ปราสาทหินถิ่นอีสานใต้สามารถสร้างเม็ดเงินจากการท่องเที่ยว โดยถือเป็นการกระจายของนักท่องเที่ยวและกระจายรายได้สู่ชุมชนและบริเวณใกล้เคียงได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังทำคนในชุมชนเกิดความคิดสร้างสรรค์ในการพัฒนาคุณภาพของสินค้าและบริการแก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังปราสาทหิน อย่างผลิตภัณฑ์ชุมชน อาหาร ขนมโบราณ เมนูอาหารดั้งเดิม และการแสดงชุมชน   ดินแดนอีสานใต้อันประกอบด้วย จังหวัดนครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่อารยธรรมขอมโบราณยังคงปรากฏมีร่องรอยอยู่ในปัจจุบัน โดยถูกถ่ายทอดออกมาในรูปแบบปราสาทหินและศาสนสถานต่าง ๆ ซึ่งสถานที่เหล่านั้นนอกจากจะเป็นแหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์ ศิลปะ และสถาปัตยกรรมชั้นดีแล้ว ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญจนก่อเกิดเป็นประเพณีและเทศกาลที่เกี่ยวข้อง   อีสานอินไซต์ พาเลาะเบิ่ง ตัวอย่าง “ปราสาทหิน” ถิ่นอีสานใต้ ร่องรอยแหล่งอารยธรรมขอมโบราณ   🪨ปราสาทหินพิมาย📍นครราชสีมา สร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 16 เป็นปราสาทหินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยมีลักษณะพิเศษ คือ ปราสาทประธานสร้างหันหน้าไปทางทิศใต้ ต่างจากปราสาทหินอื่น ๆ ที่มักหันไปทางทิศตะวันออก สันนิษฐานว่าเพื่อให้หันรับกับเส้นทางตัดมาจากเมืองยโศธรปุระ เมืองหลวงของอาณาจักรขอม โดยเป็นพุทธสถานในลัทธิมหายาน   🪨ปราสาทหินพนมรุ้ง📍บุรีรัมย์ ปราสาทหินพนมรุ้งสร้างขึ้นเพื่อถวายแด่องค์พระศิวะ เทพเจ้าสูงสุดในศาสนาฮินดู ลัทธิไศวนิกาย เขาพนมรุ้งและปราสาทบนยอดเขาจึงเปรียบเสมือนเขาไกรลาส อันเป็นที่ประทับของพระศิวะ และยังเป็นสัญลักษณ์ของศูนย์กลางจักรวาล โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบขอม สร้างด้วยศิลาแลงและหินทราย มีอาคารเรียงรายไปจนถึงปราสาทประธาน   นอกจากนี้ยังมีความมหัศจรรย์ที่ถือเป็นไฮไลต์ของที่นี่ คือ ปรากฏการณ์ดวงอาทิตย์ลอด 15 ช่องประตูปราสาทพนมรุ้ง ซึ่งปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้น 4 ครั้งต่อปีเท่านั้นอีกด้วย   🪨ปราสาทหินเมืองต่ำ📍ดบุรีรัมย์ สร้างขึ้นในราวปลายพุทธศตวรรษที่ 16 เป็นศาสนสถานในศาสนาฮินดู ลัทธิไศวนิกาย เนื่องจากได้มีการขุดพบศิวลึงก์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แทนองค์พระศิวะ เทพเจ้าสูงสุดในลัทธิไศวนิกาย ที่บริเวณปราสาทประธาน ส่วนพระวิษณุน่าจะได้รับการนับถือในฐานะเทพเจ้าชั้นรอง เพราะภาพสลักส่วนมากที่ปราสาทหลังนี้ สลักเรื่องเกี่ยวกับการอวตารของพระวิษณุ   มีลักษณะเป็นกลุ่มปราสาทอิฐ 5 องค์ ตั้งอยู่บนศิลาแลงอันเดียวกัน รอบล้อมด้วยระเบียงคดและซุ้มประตู, กำแพงแก้วและซุ้มประตู และบาราย (ทะเลเมืองต่ำ) หรืออ่างเก็บน้ำที่ขุดเพื่อใช้ในการอุปโภคบริโภคของชุมชนเมืองในสมัยโบราณ  . 🪨ปราสาทศีขรภูมิ📍สุรินทร์ สร้างขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ 17 เนื่องในศาสนาพราหมณ์ลัทธิไศวนิกาย (บูชาพระศิวะเป็นใหญ่) ต่อมามีการบูรณะส่วนยอดของปราสาทหลังทิศตะวันตกเฉียงใต้ ในราวพุทธศตวรรษที่ 22 สมัยศิลปะล้านช้าง ดังมีจารึกอักษรธรรมปรากฏอยู่ ณ ปราสาทแห่งนี้ ลักษณะทางสถาปัตยกรรมภายในประกอบด้วยปราสาทก่ออิฐที่ไม่สอปูน จำนวน 5 ห้อง องค์กลางเป็นปรางค์ประธาน ตั้งอยู่บนฐานศิลาแลงเดียวกัน มีคูน้ำล้อมรอบทั้ง 4 ด้าน และเว้นเป็นทางเข้าอยู่ทางทิศตะวันออก   🪨ปราสาทตาเมือน📍สุรินทร์ เป็นที่พักคนเดินทางแห่งหนึ่งใน 17 แห่ง ที่พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 มหาราช โปรดฯ ให้สร้างขึ้น มีลักษณะเป็นปรางค์เดียวมีห้องยาวเชื่อมต่อมาทางด้านหน้าผนังด้านหนึ่งปิด ทึบ แต่สลักเป็นหน้าต่างหลอก ส่วนอีกด้านมีหน้าต่างเรียงกันโดยตลอด   🪨ปราสาทตาเมือนโต๊ด

อีสานอินไซต์ พาเลาะเบิ่ง ตัวอย่าง “ปราสาทหิน” ถิ่นอีสานใต้ ร่องรอยแหล่งอารยธรรมขอมโบราณ อ่านเพิ่มเติม »

พาเปิดเบิ่ง “ฟาร์มหมูภูธรแดนอีสาน” มูลค่ากว่า 6,400 ล้านบาท กระจายอยู่กลุ่มจังหวัดไหนบ้าง

ในปี 2566 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีรายได้รวมจากธุรกิจการเลี้ยงหมูมากกว่า 6,430 ล้านบาท โดยกลุ่มจังหวัดที่มีรายได้รวมมากที่สุด คือ กลุ่มนครชัยบุรินทร์ มีมูลค่ากว่า 3,474 ล้านบาท รองลงมา คือ กลุ่มร้อยแก่นสารสินธุ์ มีมูลค่า 1,369 ล้านบาท และกลุ่มสบายดี มีมูลค่า 1,310 ล้านบาท ตามลำดับ   โดยบริษัทเสี้ยงหมูรายใหญ่ในอีสานก็จะอยู่ในกลุ่มนครชัยบุรินทร์เช่นกัน อย่างเช่น  – บจก.อาร์.เอ็ม.ซี.ฟาร์ม ที่มีรายได้กว่า 869 ล้านบาท – บจก.ฟาร์มพรประเสริฐ รายได้กว่า 650 ล้านบาท – บจก.ศรายุทธ ฟาร์ม รายได้กว่า 425 ล้านบาท – บจก.ส.ปศุสัตว์ รายได้กว่า 282 ล้านบาท   กลุ่มนครชัยบุรินทร์ไม่ได้มีเพียงรายได้รวมมากที่สุด แต่ยังมีจำนวนหมูและเกษตรกรที่เลี้ยงหมูมากที่สุดในภาคอีสานอีกด้วย เนื่องจากมีสภาพแวดล้อมและเงื่อนไขทางธรรมชาติที่เหมาะสมสำหรับการเลี้ยงหมูและการผลิตเนื้อหมูในพื้นที่นี้ อีกทั้งยังเป็นจังหวัดที่มีโครงสร้างทางเศรษฐกิจที่เหมาะสมในการทำธุรกิจฟาร์มหมูและยังมีการพัฒนาฐานพื้นที่สำหรับฟาร์มและอุตสาหกรรมการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้มีฟาร์มหมูจำนวนมากในพื้นที่นี้   แนวโน้มคาดว่าอุปทานเนื้อสุกรเพิ่มขึ้น ตามจำนวนสุกรเลี้ยงที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากต้นทุนหลักอย่างราคาอาหารสัตว์ปรับลดลง ทั้งรำสด ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ กากถั่วเหลือง และปลาป่น โดยอุปทานเนื้อสุกรจะมาจากผู้ผลิตสุกรรายกลาง-ใหญ่เป็นสำคัญ ขณะที่ผู้ผลิตสุกรรายย่อยจะลดบทบาทลง ขณะที่อุปสงค์เนื้อสุกรคาดว่าขยายตัวได้ตามราคาเนื้อสุกรที่ปรับลดลงเป็นหลัก ซึ่งช่วยหนุนความต้องการของผู้บริโภคไทย นอกจากนี้ การกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเพิ่มการบริโภคเนื้อสุกรในประเทศ     อ้างอิงจาก:. – KResearch Center – กรมพัฒนาธุรกิจการค้า – กรมปศุสัตว์   ติดตาม ISAN Insight & Outlook ทุกช่องทางได้ที่ https://linktr.ee/isan.insight   #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ISAN #อีสานอินไซต์ #Business #Economy #ธุรกิจ #เศรษฐกิจ #ธุรกิจอีสาน #เศรษฐกิจอีสาน #ธุรกิจฟาร์มหมู #ฟาร์มหมู #เลี้ยงหมู #สุกร #เลี้ยงสุกร

พาเปิดเบิ่ง “ฟาร์มหมูภูธรแดนอีสาน” มูลค่ากว่า 6,400 ล้านบาท กระจายอยู่กลุ่มจังหวัดไหนบ้าง อ่านเพิ่มเติม »

ชวนมาเบิ่ง ผลประกอบการ “โรงพยาบาลเอกชน” ในกลุ่มจังหวัดร้อยแก่นสารสินธุ์

ธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนเป็นธุรกิจที่มีการเติบโตแบบก้าวกระโดดในช่วงกว่า 10 ปีที่ผ่านมาจากโครงสร้างประชากรและอัตราการเจ็บป่วยที่เพิ่มขึ้น รวมถึงข้อบังคับทางกฎหมายที่กำหนดให้ผู้ประกอบการต้องขึ้นทะเบียนลูกจ้างเป็นผู้ประกันตน ส่งผลให้โรงพยาบาลมีรายได้เพิ่มจากระบบประกันสังคมโดยผู้ประกันตนที่มีสิทธิในการรักษาพยาบาลสูงถึง 13.7 ล้านคน รวมถึงสวัสดิการประกันกลุ่มที่บริษัทเอกชนมอบให้แก่พนักงานจำนวนกว่า 2.6 ล้านกรมธรรม์   โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีมูลค่ารายได้รวมโรงพยาบาลเอกชนรวมกว่า 14,300 ล้านบาทเลยทีเดียว โดยกลุ่มจังหวัดร้อยแก่นสารสินธุ์มีมูลค่ารายได้รวมโรงพยาบาลเอกชนรวมกว่า 4,471 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนกว่า 31.3% ของมูลมูลค่ารายได้รวมโรงพยาบาลเอกชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ   ธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนเริ่มเห็นสัญญาณการเติบโตที่มีข้อจำกัดมากขึ้นกว่าในอดีต จำนวนประชากรเริ่มลดลงประกอบกับกระแสการตื่นตัวในการดูแลสุขภาพที่สูงขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงการเจ็บป่วยจากการที่ตระหนักถึงค่ารักษาพยาบาลที่สูงเมื่อเทียบกับรายได้ ที่แม้จะมีสิทธิ์ค่ารักษาพยาบาลจากประกันสุขภาพแต่ก็ยังพบว่า หลายครั้งผู้ใช้บริการยังต้องชำระเงินส่วนเกินของค่ารักษา ทำให้อัตราการเข้าโรงพยาบาลในอนาคตอาจมีแนวโน้มลดลง ส่งผลให้ธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนในภาพรวมเริ่มประสบความท้าทาย     อ้างอิงจาก:  – ttb analyticsc – กรมพัฒนาธุรกิจการค้า – เว็บไซต์ของบริษัท   ติดตาม ISAN Insight & Outlook ทุกช่องทางได้ที่ https://linktr.ee/isan.insight   #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ISAN #อีสานอินไซต์ #Business #Economy #ธุรกิจ #เศรษฐกิจ #ธุรกิจอีสาน #เศรษฐกิจอีสาน #โรงพยาบาลเอกชน #โรงพยาบาลเอกชนในอีสาน #โรงพยาบาลราชพฤกษ์ #โรงพยาบาลจุรีเวชร้อยเอ็ด #โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ธนบุรี #โรงพยาบาลมหาสารคามอินเตอร์เนชั่นแนล

ชวนมาเบิ่ง ผลประกอบการ “โรงพยาบาลเอกชน” ในกลุ่มจังหวัดร้อยแก่นสารสินธุ์ อ่านเพิ่มเติม »

🔎พาเปิดเบิ่ง ตัวอย่าง “ฟาร์มหมู” รายใหญ่แห่งแดนอีสาน🐷

ภาคอีสานมีธุรกิจฟาร์มหมูธุรกิจฟาร์มหมูที่จดทะเบียนในกรมพัฒนาธุรกิจการค้ามากที่สุดในประเทศ อยู่ที่ 247 แห่ง คิดเป็นสัดส่วน 34.1% โดยธุรกิจฟาร์มหมู่รายใหญ่ส่วนมากจะอยู่ในภาคอีสานตอนล่าง อย่างจังหวัดบุรีรัมย์ ชัยภูมิ นครราชสีมา และอุบลราชธานี เนื่องจากมีสภาพแวดล้อมและเงื่อนไขทางธรรมชาติที่เหมาะสมสำหรับการเลี้ยงหมูและการผลิตเนื้อหมูในพื้นที่นี้ อีกทั้งยังเป็นจังหวัดที่มีโครงสร้างทางเศรษฐกิจที่เหมาะสมในการทำธุรกิจฟาร์มหมูและยังมีการพัฒนาฐานพื้นที่สำหรับฟาร์มและอุตสาหกรรมการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้มีฟาร์มหมูจำนวนมากในพื้นที่นี้   ซึ่งฟาร์มที่ใหญ่ที่สุดในภาคอีสานนั่นก็คือ บริษัท ทองอุไรพัฒนา จำกัด ทุนจดทะเบียนกว่า 880 ล้านบาท และรองลงมา คือ บริษัท อาร์.เอ็ม.ซี.ฟาร์ม จำกัด มีทุนจดทะเบียนกว่า 700 ล้านบาทนั่นเอง   ในประเทศไทยมีหมูทั้งหมดกว่า 12 ล้านตัว แล้วรู้หรือไม่ว่าหมูในภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีมากแค่ไหน?   ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีหมูมากกว่า 2.7 ล้านตัว หรือคิดเป็นสัดส่วน 22.1% ของจำนวนหมูทั้งหมดในประเทศ และมีเกษตรกรที่เลี้ยงหมูอยู่ทั้งหมด 68,617 คน หรือคิดเป็น 45.7% ของจำนวนเกษตรกรที่เลี้ยงหมูในประเทศ         5 อันดับจังหวัดที่หมูมากที่สุดในภาคอีสาน อันดับที่ 1 จังหวัดนครราชสีมา มีจำนวน 466,088 ตัว อันดับที่ 2 จังหวัดบุรีรัมย์ มีจำนวน 241,951 ตัว อันดับที่ 3 จังหวัดอุดรธานี มีจำนวน 227,451 ตัว อันดับที่ 4 จังหวัดชัยภูมิ มีจำนวน 186,673 ตัว อันดับที่ 5 จังหวัดอุบลราชธานี มีจำนวน 158,899 ตัว   ปัจจุบันจำนวนสุกรเลี้ยงในไทยยังคงไม่ฟื้นตัวจากผลกระทบของ ASF โดยคิดเป็นเพียง 86% ของภาวะปกติก่อนเกิดโรคระบาด โดยผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยบางส่วนยังเผชิญภาวะขาดทุนสะสมจากผลของ ASF จนต้องเลิกกิจการ ทำให้อุปทานสุกรส่วนใหญ่จะมาจากผู้เลี้ยงรายกลาง-ใหญ่มากขึ้น โดยมีสัดส่วนเพิ่มขึ้น จาก 72% ของผลผลิตสุกรในปี 2564 มาเป็น 74% ในปี 2566     ความเสี่ยงของอุตสาหกรรมเนื้อสุกรในระยะข้างหน้า   จำนวนประชากรไทยมีแนวโน้มลดลง โดยประชากรไทยได้ลดจำนวนลงตั้งแต่ปี 2563 มาอยู่ที่ 66.2 ล้านคน และลดต่อเนื่องมาในปี 2566 อยู่ที่ 66.1 ล้านคน ซึ่งระยะข้างหน้า คาดว่าจำนวนประชากรไทยมีแนวโน้มที่จะลดลงอีก กระทบต่อการบริโภคเนื้อสุกร โดยคาดว่าในอีก 5 ปีข้างหน้า การบริโภคเนื้อสุกรของไทยอาจโตได้ต่ำเฉลี่ยราว 0.6% ต่อปี   จำนวนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น ปัจจุบันไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ (Aged Society) และคาดว่าในปี

🔎พาเปิดเบิ่ง ตัวอย่าง “ฟาร์มหมู” รายใหญ่แห่งแดนอีสาน🐷 อ่านเพิ่มเติม »

🔎พาอัพเดตเบิ่ง แนวโน้มสถานการณ์น้ำในอีสาน☔️🌧️🌊

จังหวัดเชียงราย และหนองคาย รวมไปถึงจังหวัดในพื้นที่ริมแม่น้ำโขง ที่มีปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อตรวจสอบพบว่าต้นตอ มาจากซุปเปอร์ไต้ฝุ่นยางิ ที่พัดเข้าประเทศจีน พม่า และลาว โดยตรง น้ำท่วมหนัก ใน 3 ประเทศดังกล่าว ว่ากันว่า หนักสุดในรอบมากกว่า 30 ปี   🌧️โดยมีฝนตกในพื้นที่พม่า จีน และ สปป.ลาว ในปริมาณมาก โดย สปป.ลาวนั้น มีพื้นที่รับน้ำของแม่น้ำโขงมากที่สุด รองลงมาคือ ประเทศไทย และจีน 10% แต่ที่ท่วมที่เชียงราย คือ น้ำโขงที่มาจากประเทศพม่า ส่วนที่หนองคายนั้น มาจาก สปป.ลาว ซึ่งมีจำนวนมหาศาลเช่นเดียวกัน น้ำดังกล่าวนี้ ค่อยๆ ไหลเข้ามายังประเทศไทย เรียกน้ำนี้ว่า น้ำท่า   สาเหตุ “น้ำโขงล้น” มีสาเหตุมาจากอะไร?   การสร้างเขื่อนขวางโขงของจีนนั้นส่งผลในแทบทุกมิติตลอดทั้งพื้นที่ท้ายน้ำ ทั้งทางสังคม วัฒนธรรม ระบบนิเวศ ซึ่งเขื่อนขวางโขงอาจจะทำให้เกิดการเปลี่ยนและหลายอย่างจะไม่กลับมาเหมือนเดิม น้ำโขงก็จะค่อยๆ ไหลมาเรื่อยๆ ด้วยปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมามหาศาล ทั้งที่ลงในแม่น้ำโดยตรง และไหลลงมาหลังจากมีการตกลงข้างทาง น้ำโขงผ่าน หนองคาย น้ำก็เอ่อล้นเมือง จนเกิดน้ำท่วมหนัก เมื่อผ่านหนองคายไปแล้ว ก็จะไปยังบึงกาฬ นครพนม อำนาจเจริญ อุบลราชธานี และค่อยๆ ลดลงตามระยะทาง   🌳สาเหตุหนึ่งที่ทำให้น้ำท่วมหนักคราวนี้ นั้นคือ ปริมาณป่าไม้ในประเทศไทย ที่ทางมูลนิธิสืบออกมาเปิดเผยว่า 1 ปี ที่ผ่านมา ป่าไม้ในประเทศไทย ลดลง กว่า 3 แสนไร่ ถือเป็นการลดลงมากที่สุดในรอบ 30-40 ปี     ⚠️แจ้งเตือน!! ระดับน้ำในแม่น้ำโขงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ช่วงวันที่ 12 – 18 กันยายน 2567   📍เชียงราย บริเวณสถานีเชียงแสน อ.เชียงแสน ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ประมาณ 0.50 – 0.70 เมตร ยังคงต่ำกว่าตลิ่ง 3.40 เมตร 📍เลย บริเวณสถานีเชียงคาน อ.เชียงคาน ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ประมาณ 3.00 – 3.60 เมตร และคาดว่าระดับน้ำจะมีแนวโน้มสูงกว่าตลิ่ง 0.50 – 1.50 เมตร ในช่วงวันที่ 13 – 16 ก.ย. 67 📍หนองคาย บริเวณสถานีหนองคาย

🔎พาอัพเดตเบิ่ง แนวโน้มสถานการณ์น้ำในอีสาน☔️🌧️🌊 อ่านเพิ่มเติม »

Scroll to Top