Siree Jamsuwan

กฎหมายความเร็วรถใหม่ 2566 มีผลบังคับใช้แล้ว ทำผิดกฎจะโดนอิหยังแหน่ ?

กฎหมายความเร็วรถใหม่ 2566 มีผลบังคับใช้แล้ว ทำผิดกฎจะโดนอิหยังแหน่ ?   อัปเดตกฎหมายความเร็วรถยนต์ 2566 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศกฎกระทรวง กฎหมายความเร็ว 2566 กำหนดอัตราความเร็วของยานพาหนะบนทางหลวงแผ่นดินหรือทางหลวงชนบท โดยกำหนดความเร็วบนทางหลวงแผ่นดิน ทางหลวงชนบน ที่มีทางเดินรถแบบจัดแบ่งช่องเดินรถในทิศทางเดียวกันไว้ตั้งแต่ 2 ช่องเดินรถ มีเกาะกลางถนนแบบกำพงกั้น  (Barrier Median) และไม่มีจุดกลับรถเสมอระดับถนน    กฎกระทรวงดังกล่าว มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 11 มีนาคม 2564 เป็นต้นไป แต่ไม่ได้บังคับใช้กับถนนทุกสาย หากพบว่าเส้นทางใดมีเครื่องหมายจราจรกำหนดความเร็วต่ำกว่าที่กำหนดไว้ ให้ขับรถไม่เกินความเร็วที่ป้ายนั้น ๆ กำหนด เว้นแต่จะไม่สามารถปฏิบัติได้ เนื่องจากรถในช่องทางเดินรถมีมากเกินไป หรือเหตุขัดข้องอื่น ๆ อันถือเป็นเหตุผลสมควรแก่กรณี   หากไม่อยากโดนใบสั่งความเร็ว 2566 ผู้ใช้รถไม่ควรขับเกินกว่าที่กําหนดความเร็วรถ 2566 หากฝ่าฝืนขับรถเร็วเกินกฎกระทรวง จะมีโทษปรับสูงสุด 1,000 บาท (หรือแล้วแต่ดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่)   ละเมิดกฎหมายจราจร มีโทษอะไรบ้าง ? ▪️ ใช้ความเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด ปรับไม่เกิน 4,000 บาท ▪️ ขับรถฝ่าไฟแดง ปรับไม่เกิน 4,000 บาท ▪️ ไม่หยุดรถหลังเส้นให้รถหยุดเมื่อมีสัญญาณไฟแดงปรับไม่เกิน 1,000 บาท ▪️ ขับรถย้อนศร ปรับไม่เกิน 2,000 บาท ▪️ ขับขี่บนทางเท้าโดยไม่มีเหตุอันควร ปรับตั้งแต่ 400 – 1,000 บาท ผู้แจ้งเบาะแสได้รับเงินส่วนแบ่งกึ่งหนึ่งของค่าปรับ ▪️ ไม่หยุดรถให้คนข้ามทางม้าลาย ปรับไม่เกิน 4,000 บาท ▪️ ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ปรับไม่เกิน 2,000 บาท ▪️ ผู้โดยสาร “ตอนหลัง” ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท ▪️ ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยต่อชีวิตหรือร่างกายผู้อื่น จำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับ 5,000 – 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ   อ้างอิงจาก: กฏกระทรวง กำหนดอัตราความเร็วของยานพาหนะบนทางหลวงแผ่นดินหรือทางหลวงชนบทที่กำหนด พ.ศ. 2564 pptvhd, Chobrod, one2car   ติดตาม ISAN Insight & Outlook ได้ที่  Instagram : https://www.instagram.com/isan.insight.and.outlook/  Website : https://isaninsight.kku.ac.th  …

กฎหมายความเร็วรถใหม่ 2566 มีผลบังคับใช้แล้ว ทำผิดกฎจะโดนอิหยังแหน่ ? อ่านเพิ่มเติม »

ปี 2565 ที่ผ่านมา อีสานเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนหลายปานใด๋ ? 

ปี 2565 ที่ผ่านมา อีสานเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนหลายปานใด๋ ?    อ้างอิงจาก : กลุ่มสถิติการขนส่ง กองแผนงาน กรมการขนส่งทางบก  https://web.dlt.go.th/statistics/    ติดตาม ISAN Insight & Outlook ได้ที่  Instagram : https://www.instagram.com/isan.insight.and.outlook/  Website : https://isaninsight.kku.ac.th    #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์ #อุบัติเหตุบนท้องถนน #จราจร

พามาฮู้จัก“ทุเรียนเสิงสาง” ราชาผลไม้ของดีที่คนจีนแห่ซื้อ

พามาฮู้จัก“ทุเรียนเสิงสาง” ราชาผลไม้ของดีที่คนจีนแห่ซื้อ   ขึ้นชื่อว่า “ทุเรียน” ราชาแห่งผลไม้ ที่เชื่อว่าทุกคนต่างชอบทุกเรียน ผลไม้ที่มีเอกลลักษณ์เฉพาะตัว และ 1 ปีก็มีให้หารับประทานเพียงช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น แม้ว่าปัจจุบันจะมีการทำทุเรียนนอกฤดูกันบ้างแล้วในหลายพื้นที่แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค ล่าสุดทุเรียนเสิงสาง ซึ่งกำลังมาแรงและได้รับความนิยมจากกลุ่มคนจีนและคนไทยที่ชื่นชอบรับประทานทุเรียนเป็นอย่างมากจนแทบไม่พอขาย บางต้นมีการลงชื่อจับจองตั้งแต่ทุเรียนยังไม่แก่เลยก็มี สร้างรายได้ให้กับชาวสวนทุเรียนเป็นอย่างมาก   เรามาทำความรู้จักทุเรียนเสิงสางกัน  ทุเรียนเป็นทุเรียนของอำเภอเสิง จ.นครราชสีมา นั้นมีการปลูกมากนานแล้ว เพียงแต่อาจจะรู้จักกันเฉพาะกลุ่มเท่านั้น ทั้งนี้เอกลักษณ์ที่สำคัญของทุเรียนเสิงสาง คือ เนื้อละเอียดเป็นครีม และกลิ่นไม่แรง แตกต่างจากทางภาคใต้ ภาคตะวันออก เนื่องจากมีกรดกำมะถันน้อย ก่อให้เกิดความร้อนน้อยกว่าทุเรียนทางภาคอื่นๆ เพราะฉะนั้นเวลาที่รับประทานเข้าไปก็จะมีอาการเรอได้น้อย ทำให้ทุเรียนของอำเภอเสิงสางกำลังได้รับความนิยมอย่างมาก ราคาจำหน่ายทุเรียนเสิงสาง ที่สวน จะอยู่ที่กิโลกรัมละ 140 บาท   และล่าสุดที่อำเภอเสิงสาง มีเกษตรกรหันมาปลูกทุเรียนเป็นพืชหลักในพื้นที่ 6 ตำบล กำลังให้ผลผลิตออกสู่ท้องตลาดแล้วกว่า 100 ไร่ และขณะนี้ทางอำเภอเตรียมที่จะผลักดันการปลูกทุเรียนให้มีคุณภาพเพิ่มขึ้นในรูปแบบของเกษตรแปลงใหญ่ ซึ่งคาดการณ์ว่าอีก 3-5 ปีข้างหน้าทุเรียนเสิงสาง จะสร้างรายได้เข้าพื้นที่ปีละประมาณ 80-100 ล้านบาท   อย่างเช่นที่บ้านดงเย็น ตำบลเสิงสาง อำเภอเสิงสาง จังหวัดนครราชสีมา สวนทุเรียนของนายธวัชชัย สายทองทิพย์ อายุ 60 ปี ผู้อำนวยการโรงเรียนที่รอเกษียณ ได้ปลูกทุเรียนเอาไว้เป็นจำนวนมาก บนเนื้อที่ 15 ไร่ โดยทำสวนทุเรียนแบบเบญจพรรณหลากหลายสายพันธุ์ และในช่วงนี้ทุเรียนของอำเภอเสิงสางกำลังออกผลผลิตพอดี ทำให้มีเข้ามากว้านซื้อทุเรียนในเขตอำเภอเสิงสางเป็นจำนวนมาก ซึ่งปัจจุบันอำเภอเสิงสางมีพื้นที่ปลูกทุเรียนไม่ต่ำกว่า 2,000 ไร่   ซึ่งปีนี้อากาศค่อนข้างร้อนจัด ทำให้ทุเรียนไม่ค่อยติดผล จึงมีผลผลิตออกสู่ท้องตลาดไม่มากและยิ่งประเทศจีนมีความต้องการทุเรียนไทยสูง ราคาจำหน่ายจึงค่อนข้างสูงตามไปด้วย ซึ่งล่าสุดเข้ามาติดต่อขอซื้อทุเรียนไปแล้ว ชุดแรกเกือบ 1 ตัน สร้างรายได้ให้อย่างงดงาม แต่ทางสวนก็ยังเหลือทุเรียนไว้อีก 1 ชุด เพื่อเอาไว้ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่สนใจอยากชิมทุเรียนเสิงสางได้มาชิมลิ้มลองกันอีกด้วย   ทางด้าน นางอมรรัตน์ ขอนพุทรา เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรของสำนักงานเกษตรอำเภอเสิงสาง ได้ส่งเสริมและสนับสนุนให้เกษตรกรในพื้นที่ปรับเปลี่ยนชนิดพืชที่จะนำมาปลูก ซึ่งเดิมเกษตรกรเคยปลูกแต่มันสำปะหลัง และเมื่อประสบปัญหาเรื่องโรคใบด่างระบาด เกษตรกรส่วนใหญ่จึงเริ่มหันมาปลูกทุเรียนในไร่มันสำปะหลังเพิ่มเติม จนปัจจุบันนี้สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้แล้ว    ทั้งนี้ สำนักงานเกษตรอำเภอเสิงสางได้จัดการอบรมให้ความรู้ในเรื่องการตัดทุเรียนด้วย โดยกำชับทุกสวนที่จะตัดทุเรียนไปจำหน่าย ให้ตัดเฉพาะที่แก่จัดเท่านั้นเพื่อตัดปัญหาการร้องเรียนเรื่องทุเรียนอ่อน รับประทานไม่ได้ ถือเป็นการรักษาคุณภาพมาตรฐานทุเรียนเสิงสางเอาไว้ด้วย   อ้างอิงจาก:  ฐานเศรษฐกิจ, ผู้จัดการออนไลน์   ติดตาม ISAN Insight & Outlook ได้ที่  Instagram : https://www.instagram.com/isan.insight.and.outlook/  Website : https://isaninsight.kku.ac.th    #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์ #ทุเรียน #ทุเรียนไทย #ทุเรียนเสิงสาง

พามาฮู้จัก “ เหล้าอีสาน ” ขายหมดโรงงาน 

พามาฮู้จัก “ เหล้าอีสาน ” ขายหมดโรงงาน    เช็กชื่อ ‘เหล้าไทย’ ขายหมดโรงงาน พิธา เอฟเฟค ‘สุราก้าวหน้า’ การผลักดัน “สุราก้าวหน้า” ของพรรคก้าวไกล ทำ #สุราก้าวหน้า ขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์ ติดต่อกันหลายวัน โดยเฉพาะเมื่อ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เอ่ยถึงสุราพื้นบ้านไทย จนกลายเป็นไวรัลในเสี้ยววินาที ดันให้ขายเกลี้ยงในพริบตา     หลังจากนั้นเป็นต้นมา “เหล้าไทย” จากท้องถิ่นในจังหวัดต่างๆ เริ่มตื่นตัว เพจเฟซบุ๊ก ประชาชนเบียร์ อัปเดตสถานการณ์ สุราพื้นบ้าน ที่พบว่า ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ขายหมดแทบจะทุกโรงงาน อัปเดตรายชื่อ เหล้าอีสานกันเด้อจ้า   และเมื่อไม่นานมานี้ที่ร้านฮ็อปเบียร์ ซึ่งเป็นโรงเบียร์ขนาดเล็ก ตั้งอยู่ที่ ถนนสืบศิริ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ได้มีกลุ่มผู้ประกอบการคราฟต์เบียร์จากหลายพื้นที่ทั่วประเทศ เกือบ 30 ราย เดินทางมาเรียนรู้การทำคราฟเบียร์ อย่างมืออาชีพ กับโรงเบียร์ ฮอบเบียร์ ภายหลังจากที่ พรรคร่วมรัฐบาลชุดใหม่ ได้มีการลงนาม MOU ผลักดัน นโยบายสุราก้าวหน้า ลดการผูกขาดจากกลุ่มทุนใหญ่ กระจายรายได้ สู่ผู้ประกอบการรายย่อยให้มีการแข่งขันอย่างเป็นธรรม   โดยมี ดร.ลำไพร ศรีธรรมมา เจ้าของโรงเบียร์ ฮอบเบียร์ และนายธนากร โพธิโต สรรพสามิตพื้นที่นครราชสีมา มาให้ความรู้ทั้งเรื่องของวิชาการด้านการทำคราฟต์เบียร์อย่างถูกวิธี และเรื่องการคำนวณภาษี อย่างถูกต้องตามกฎหมาย นอกจากนี้ยังมีการสอนภาคปฏิบัติ การทำคราฟต์เบียร์ และการทำสุราพื้นเมืองอย่างถูกวิธีอีกด้วย   นายนฤพนธ์ ทิพวงษ์ อายุ 27 ปี ชาว จ.น่าน หนึ่งในผู้สนใจลงทุนทำร้านคราฟเบียร์ กล่าวว่า สิ่งที่ทำให้ตนเองสนใจทำคราฟเบียร์ เนื่องจากที่บ้านก็มีอาชีพทำนา ปลูกข้าว แต่ผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำมาก จึงมีความคิดว่าถ้าสามารถนำข้าวมาแปรรูปเป็นเบียร์ได้ ก็จะสามารถช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิตทางการเกษตรได้มาก  ส่วนเรื่องที่หลายฝ่ายกังวลว่า เยาวชนจะเข้าถึงได้ง่าย และเกิดนักดื่มรายใหม่เพิ่มขึ้นนั้น มองว่าทุกวันนี้ก็มีกฎหมายควบคุมไม่ให้จำหน่ายให้กับเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี อยู่แล้ว   ขณะที่นายธนากร โพธิโต สรรพสามิตพื้นที่นครราชสีมา กล่าวว่า สำหรับผู้ที่ให้ความสนใจเรื่องการทำโรงเบียร์ขนาดเล็ก ก็ต้องศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับเรื่องของกฎหมายด้วย โดยเฉพาะ พ.ร.บ.สรรพสามิต พ.ศ.2560 และกฎหมายลูก ที่เป็นกฎกระทรวงการผลิตสุรา พ.ศ.2565 ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้สนใจสามารถผลิตสุรา หรือเบียร์ จำหน่ายที่บ้านหรือในร้านได้ ตามเงื่อนไขที่กำหนด ส่วนเรื่อง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ตอนนี้ยังไม่มีการประกาศบังคับใช้ตามกฎหมาย เพราะต้องมีอีกหลายขั้นตอน  หากรัฐบาลมีการออกกฎหมายประกาศใช้อย่างเป็นทางการแล้ว ทางกรมสรรพสามิตก็พร้อมที่จะปฏิบัติตามกฎหมายที่รัฐบาลกำหนดทุกประการ   อ้างอิงจาก: ประชาชนเบียร์ pptvhd36 …

พามาฮู้จัก “ เหล้าอีสาน ” ขายหมดโรงงาน  อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง สุราก้าวหน้าคืออิหยัง ? ไผได้ประโยชน์ ?

พามาเบิ่ง สุราก้าวหน้าคืออิหยัง ? ไผได้ประโยชน์ ?   สุราก้าวหน้า หรือ ร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า คือ เงื่อนไขในการขออนุญาตผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 2560 ตาม พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต ปี 2560 โดย พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ร่างกฎหมายฉบับนี้จะเป็นตัวกำหนดกฎเกณฑ์ที่จะช่วยกระจายรายได้ให้ครอบคลุมไปถึงผู้ประกอบการขนาดย่อยทุกราย และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการผูกขาดรายได้แก่กลุ่มนายทุนใหญ่เพียงกลุ่มเดียว   ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ ‘สุรา’ หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกประเภทถูกผูกขาดการผลิตอยู่กับทุนรายใหญ่ เนื่องจากพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2560 กำหนดให้เพียงผู้ที่มีกำลังการผลิตปริมาณมากเท่านั้นที่จะสามารถขออนุญาตผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้    โดยการ “ร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า” ที่นำเสนอโดย ส.ส.เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ซึ่งเป็นร่างกฎหมายที่พยายามเปิดช่องให้ผู้ประกอบการรายย่อยสามารถขออนุญาตผลิตและจำหน่ายสุราได้ เนื่องจากกฎหมายเดิม มีการกำหนดขั้นต่ำทำให้ผู้ประกอบการรายย่อยไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขได้ อาทิ การผลิตเบียร์ต้องจัดตั้งบริษัทที่มีทุนจดทะเบียนไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท และต้องมีปริมาณการผลิตไม่ต่ำกว่า 1 แสนลิตร การผลิตสุราขาว ซึ่งต้องผลิตจากโรงอุตสาหกรรมที่ใช้เครื่องจักรที่มีกำลังรวมต่ำกว่า 5 แรงม้าหรือใช้คนงานน้อยกว่า 7 คน ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่ไม่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการรายเล็กเข้าสู่วงจรธุรกิจ    ประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับจาก พ.ร.บ.สุราก้าวหน้าจึงมีดังนี้ เพิ่มรายได้เกษตรกร เบียร์-สุราหมักจากข้าว ไวน์ หมักจากพืชพรรณผลไม้ต่างๆ กฎหมายสุราก้าวหน้าจะทำให้สามารถเพิ่มมูลค่าผลผลิตทางการเกษตร ช่วยให้เสริมศักยภาพและความสร้างสรรค์ ให้นักปรุงสุราจากพื้นที่ต่างๆ สามารถคิดค้นวิธีการของตัวเองให้เป็นสินค้ามูลค่าสูง กระตุ้นการท่องเที่ยว ช่วยให้แต่ละท้องถิ่นดึงเอกลักษณ์ของตัวเอง กระจายความน่าค้นหาของประเทศไทยไปสู่พื้นที่ต่างๆ กระจายรายได้ให้ผู้ประกอบการรายย่อย ในตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขนาดเท่ากัน ประมาณ 400,000 ล้านบาท/ปี ประเทศญี่ปุ่นมีผู้ประกอบการมากกว่า 20,000 ราย ในขณะที่ไทยแบ่งผลประโยชน์กันในผู้ประกอบการเพียง 7 รายใหญ่เท่านั้น ถ้าสามารถกระจายผลประโยชน์ไปสู่รายย่อยจะเสริมเศรษฐกิจฐานรากของประเทศให้เติบโต สร้างประเทศที่ไม่ผูกขาด พลังของประชาชนสามารถเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอำนาจ เอาชนะกลุ่มทุนผูกขาดได้ ผ่านกลไกสภาตามระบอบประชาธิปไตย   อ้างอิงจาก: กรุงเทพธุรกิจ, ไทยรัฐออนไลน์ https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/2541371    ติดตาม ISAN Insight & Outlook ได้ที่  Instagram : https://www.instagram.com/isan.insight.and.outlook/  Website : https://isaninsight.kku.ac.th    #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #สุราก้าวหน้า #สุราพื้นบ้าน #เหล้าไทย #สุราพื้นบ้านไทย  

มาเด้อ “วันข้าวและชาวนาปี 66”  จ.นครราชสีมา วันที่ 22 – 23 มิถุนายน 2566  ลุยโปรโมททำนายุคใหม่ ขายคาร์บอนเครดิต 

มาเด้อ “วันข้าวและชาวนาปี 66”  จ.นครราชสีมา วันที่ 22 – 23 มิถุนายน 2566  ลุยโปรโมททำนายุคใหม่ ขายคาร์บอนเครดิต    กรมการข้าว พร้อมจัดใหญ่ งาน “วันข้าวและชาวนาแห่งชาติ” 3 จังหวัด ขนทัพงานวิชาการทั่วประเทศ พร้อมเสิร์ฟถึงมือชาวนา เสวนาลดต้นทุนสู้ปุ๋ยแพง ทำนายุคใหม่ขายคาร์บอนเคดิต การใช้เทคโนโลยี-นวัตกรรมเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม   นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว เปิดเผยว่า กรมฯพร้อมจัดงาน “วันข้าวและชาวนาแห่งชาติ” ประจำปี 2566 ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค รวม 3 จังหวัด โดยไฮไลท์งานปีนี้ กรมการข้าวจะมีการรณรงค์ถ่ายทอดเทคโนโลยีลดต้นทุนการผลิตด้านการเกษตร สำหรับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว   โดยในจังหวัดนครราชสีมา จัดขึ้นที่ Korat Hall ชั้น 4 ห้างสรรพสินค้า เซ็นทรัล นครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา ในวันที่ 22 – 23 มิถุนายน 2566  นายอานนท์ นนทรีย์ รองอธิบดีกรมการข้าว กล่าวเสริมว่า ภายในงานจะมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย อาทิ นิทรรศการเทิดพระเกียรติสถาบันพระมหากษัตริย์ และพระบรมวงศานุวงศ์ , นิทรรศการเชิดชูเกียรติชาวนาและสถาบันชาวนา , นิทรรศการวิชาการ จากหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน , การจัดเวทีเสวนาข้าวและชาวนาในหัวข้อเวทีเสวนา เรื่อง การลดต้นทุนการผลิตข้าวโดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม   นอกจากนี้จะมีการจำหน่ายสินค้าข้าวและผลิตภัณฑ์ โดยเป็นสินค้าประเภทข้าวสารและสินค้าแปรรูป , การแสดงวัฒนธรรมและภูมิปัญญาด้านข้าวและชาวนาและการแสดงวัฒนธรรม 4 ภาค กิจกรรมสาธิตและแข่งขันส่งเสริมงานวิชาการในข้าวไทย ตลอดจนกิจกรรมการประกวดวาดภาพสีโปสเตอร์ ภายใต้หัวข้อข้าวและชาวนาไทย ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น , การประกวดงานศิลปะเรียงเมล็ดพันธุ์ข้าว ภายใต้หัวข้อ กสิกรรมนำไทยยั่งยืน ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย     นางเนตรนภา หัตถ์ฐาปนวัฒน์ ผู้อำนวยการศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวนครราชสีมา กล่าวว่า สำหรับการจัดงานที่จังหวัดนครราชสีมา ในวันที่ 22 – 23 มิถุนายน 2566 ภายในงานจะมีกิจกรรมที่น่าสนใจ อาทิ นิทรรศการเทิดพระเกียรติ 91 พรรษา , ขบวนแห่อัญเชิญพระแม่โพสพ , การแสดงเปิดงานชุด ยอน้อมวันทา บูชาพระแม่โพสพ , การสาธิตจัดแสดงนวัตกรรมข้าวในรูปแบบต่าง ๆ , นิทรรศการและการสาธิตด้านการลดต้นทุนการผลิตข้าว , กิจกรรมการประกวดหนุ่มข้าวเหนียว สาวข้าวหอม ปี 2566 , กิจกรรมการแข่งขันกินข้าว ตลอดจนเปิดให้ช้อป ชม ชิม ผลิตภัณฑ์ข้าวจากกลุ่มชาวนาทุกภาค …

มาเด้อ “วันข้าวและชาวนาปี 66”  จ.นครราชสีมา วันที่ 22 – 23 มิถุนายน 2566  ลุยโปรโมททำนายุคใหม่ ขายคาร์บอนเครดิต  อ่านเพิ่มเติม »

ซิน จ่าว พาส่องเบิ่ง  การค้าชายแดนไทย-เวียดนาม  4 จังหวัด และ 3 สินค้านำเข้า-ส่งออก ในปี 2566 (ม.ค. – เม.ย.)

ซิน จ่าว พาส่องเบิ่ง  การค้าชายแดนไทย-เวียดนาม  4 จังหวัด และ 3 สินค้านำเข้า-ส่งออก ในปี 2566 (ม.ค. – เม.ย.)   อ้างอิงจาก: กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์   ติดตาม ISAN Insight & Outlook ได้ที่  Instagram : https://www.instagram.com/isan.insight.and.outlook/  Website : https://isaninsight.kku.ac.th    #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์ #สินค้านำเข้า #สินค้าส่งออก #เวียดนาม

สินค้าหยัง ? นำเข้า-ส่งออก ปัง ! 5 อันดับ สินค้าชายแดนไทย – สปป.ลาว ปี 2566 (มกราคม – เมษายน)

สินค้าหยัง ? นำเข้า-ส่งออก ปัง ! 5 อันดับ สินค้าชายแดนไทย – สปป.ลาว ปี 2566 (มกราคม – เมษายน)   อ่านบทวิเคราะห์เพิ่มเติมได้ที่ https://isaninsight.kku.ac.th/outlook   อ้างอิงจาก: กรมการค้าต่างประเทศ   ติดตาม ISAN Insight & Outlook ได้ที่  Instagram : https://www.instagram.com/isan.insight.and.outlook/  Website : https://isaninsight.kku.ac.th    #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์ #สินค้านำเข้า #สินค้าส่งออก #สปปลาว #ลาว

รายได้จากการท่องเที่ยวในภาคอีสาน เป็นจั้งใด๋ ? ปี 2566 (มกราคม-เมษายน)

รายได้จากการท่องเที่ยวในภาคอีสาน เป็นจั้งใด๋ ? ปี 2566 (มกราคม-เมษายน) ภาคอีสานมีจำนวนนักท่องเที่ยวประมาณ 14 ล้านคน และมีรายได้จากการท่องเที่ยวอยู่ที่ 24,728.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 56.89% จากปี 2565 (มกราคม-เมษายน) ที่มีรายได้ 15,761.7 ล้านบาท โดยรายได้หลักยังคงมาจากคนในประเทศ    5 จังหวัดภาคอีสาน ที่มีรายได้จากการท่องเที่ยวสูงสุด ปี 2566 เทียบกับ ปี 2565 อันดับ 1. นครราชสีมา 4,298 ล้านบาท | 2,991 ล้านบาท อันดับ 2. ขอนแก่น 3,567 ล้านบาท | 2,574 ล้านบาท อันดับ 3. อุดรธานี 3,169 ล้านบาท | 1,693 ล้านบาท อันดับ 4. บุรีรัมย์ 2,363 ล้านบาท | 1,673 ล้านบาท อันดับ 5. อุบลราชธานี 1,910 ล้านบาท | 916 ล้านบาท จะเห็นว่า ปี 2566 การท่องเที่ยวในภาคอีสานมีทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เนื่องจากรัฐบาลเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ ขณะที่สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศที่แนวโน้มดีขึ้น ทั้งนี้ ททท. คาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศโดยเฉพาะจีนเดินทางเข้าไทยมากเป็นอันดับ 1 จำนวนไม่น้อยกว่า 5 ล้านคน และมีแนวโน้มจะสูงถึงที่ 7-8 ล้านคน ขึ้นอยู่กับปริมาณเที่ยวบินในช่วงตารางบินฤดูหนาว 2566/2567 รองลงมาคือตลาดมาเลเซีย วางเป้าหมายไว้ที่ 4 ล้านคน อินเดีย 2 ล้านคน ส่วนรัสเซียและเกาหลีใต้ คาดมีไม่น้อยกว่า 1 ล้านคน   อ้างอิงจาก: กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา  https://www.mots.go.th/news/category/705  https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230406132620675    ติดตาม ISAN Insight & Outlook ได้ที่  Instagram : https://www.instagram.com/isan.insight.and.outlook/  Website : https://isaninsight.kku.ac.th    #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #รายได้ท่องเที่ยวอีสาน #ท่องเที่ยวอีสาน #เที่ยวอีสาน

Pride Month 2023  ปักหมุดไพรด์อีสาน จัดที่ใด๋บ้าง ? 

Pride Month 2023  ปักหมุดไพรด์อีสาน จัดที่ใด๋บ้าง ?    “Pride Month” คืออะไร ทำไมตรงกับเดือนมิถุนายนและสำคัญกับ “LGBTQIAN+” พามาเบิ่งที่มาของ “Pride Month” ทำไมตรงกับเดือนมิถุนายนและสัญลักษณ์ของวันสำคัญนี้ทำไมถึงเป็นธงสีรุ้ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ ชาว “LGBTQIAN+” ให้ความสนใจ จุดเริ่มต้นของเดือนแห่งความภาคภูมิใจ เกิดขึ้นครั้งแรกในปี 1960 ซึ่งยุคที่สังคมยังไม่เปิดรับผู้มีความหลากหลายทางเพศเหมือนในวันนี้ ส่งผลให้เกิดการเลือกปฏิบัติต่อกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ บางคนถึงขับไล่ออกจากบ้าน พวกเขาจำต้องหลบปิดบังตัวตนไม่ให้ใครได้รู้ เมื่อยุคนั้นไม่มีใครยอมรับ สถานที่ปลอดภัยของพวกเขาจึงมีเพียงแค่ “บาร์เกย์” เอาไว้เป็นที่นัดไปรวมตัวกันเพื่อสังสรรค์ และเป็นที่พักสำหรับใครก็ตามที่ถูกบ้านขับไล่มา ด้วยการเลือกปฏิบัติ บาร์เกย์ในยุคแรกๆ จึงยังไม่ได้รับการยอมรับทางกฎหมาย พอจะไปจดทะเบียน เจ้าหน้าที่ก็ไม่ให้จด เพียงเพราะว่าเป็นเกย์  ดังนั้นคนกลุ่มนี้จึงมักจะเปิดบาร์เกย์เถื่อน    กระทั่งเกิดเหตุการณ์ในวันที่ 28 มิถุนายน 1969 คือ ตำรวจบุกจับกุมผู้ใช้บริการในบาร์เกย์  “สโตนวอลล์ อิน”  (Stonewall Inn)ซึ่งเป็นแหล่งรวมตัวกันของผู้มีความหลากหลายทางเพศ ไม่ว่าจะเป็นทรานส์ เกย์ และอื่นๆ แต่พวกเขาไม่ยอม สุดท้ายเหตุการณ์จึงบานปลาย มีการใช้ความรุนแรงในการปราบปราม เหตุการณ์ในครั้งนั้นจึงกลายเป็นชนวนให้ผู้มีความหลากหลายทางเพศออกมาเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องสิทธิ ความเท่าเทียม และต่อสู้เพื่อเสรีภาพในการแสดงออกทางตัวตน แต่ยิ่งตำรวจปราบปรามมากเท่าไร ฝูงชนก็ยิ่งเดินทางมารวมตัวกันมากขึ้น จนนำไปสู่การเดินขบวนประท้วง ขบวนพาเหรด และการจัดกิจกรรมต่างๆ ที่สื่อถึง “ไพรด์” (Pride) หรือความภาคภูมิใจในตัวเอง   โดยพวกเขาเริ่มจากการเคลื่อนไหวในมหานครนิวยอร์ก ก่อนจะขยายไปยังเมืองใหญ่อื่นๆ ในสหรัฐอเมริกา และกระจายไปทั่วโลก  นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ทุกวันที่ 28 มิถุนายน  จึงเป็นวันที่ทั่วโลกร่วมกันรำลึกถึงเหตุการณ์จลาจลสโตนวอลล์ (Stonewall Riots) อันเป็นจุดเริ่มต้นให้เกิดการเคลื่อนไหวเรียกร้องสิทธิและความเท่าเทียมให้แก่กลุ่มความหลากหลายทางเพศมาจนถึงปัจจุบัน  แต่การระลึกถึงเหตุการณ์จราจลในวันนั้น ได้ขยายใหญ่ออกไปเรื่อยๆ จนกระทั่งสุดท้าย กลายเป็นเรียกร้องแบบทั้งเดือนยาวต่อเนื่อง เพื่อแสดงถึงตัวตนของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ เป็นที่มาของเทศกาล “Pride Month” เดือนแห่งความภาคภูมิใจที่ยาวนานตลอดทั้งเดือนมิถุนายนนั่นเอง   สำหรับความหมายของ “LGBTQIAN+” นั้นย่อมาจากคำเรียกเพศวิถีต่างๆ ที่มีความหลากหลาย จากเดิมที่มีตัวอักษร “LGBT” แค่ 4 ตัว แต่ต่อมาได้ใส่ + เข้าไป เพื่อสื่อถึงความหลากหลายที่เพิ่มเข้ามา กระทั่งได้เพิ่มตัวอักษรเข้าไปอีก 4 ตัว กลายเป็น “LGBTQIAN+” ในปัจจุบันโดยมีความหมายดังนี้ “LGBTQIAN+” L : Lesbian คือ ผู้หญิงที่รักผู้หญิง G : Gay คือ ผู้ชายที่รักผู้ชาย B : Bisexual คือ คนที่ชื่นชอบได้ทั้งเพศเดียวกันและเพศตรงข้าม T : Transgender คือ …

Pride Month 2023  ปักหมุดไพรด์อีสาน จัดที่ใด๋บ้าง ?  อ่านเพิ่มเติม »

Scroll to Top