Rujimaphat Korchitwisarn

เรื่องของ “วัวเนื้อ” กับข้อได้เปรียบจากการเลี้ยงเพื่อการส่งออกของอีสาน

 จำนวนโคเนื้อ . ในปี 2564 ประเทศไทยมีโคเนื้อกว่า 7.58 ล้านตัว โดยภูมิภาคที่เลี้ยงโคเนื้อมากที่สุด คือ ภาคอีสาน 3.97 ล้านตัว (52.32%) รองลงมาเป็น ภาคกลาง 1.31 ล้านตัว (17.26%) ภาคเหนือ 1.21 ล้านตัว (15.97%) และภาคใต้ 1.10 ล้านตัว (14.45%) ส่วนจังหวัดที่เลี้ยงโคเนื้อมากที่สุดในประเทศ ได้แก่ สุรินทร์ นครราชสีมา อุบลราชธานี บุรีรัมย์ และศรีสะเกษ .  สถานการณ์การนำเข้า-ส่งออกโคเนื้อ . ก่อนอื่นต้องรู้ว่า การนำเข้า-ส่งออก สินค้าที่เกี่ยวข้องกับโคเนื้อ จะแบ่งเป็น 3 หมวดใหญ่ ดังนี้ . 1. โคเนื้อมีชีวิต ประกอบด้วย โคมีชีวิตสำหรับทำพันธุ์ และโคมีชีวิตอื่น ๆ . 2. เนื้อโคและส่วนอื่นที่กินได้ ประกอบด้วย เนื้อโคสดแช่เย็น เนื้อโคสดแช่แข็ง และเครื่องในโคเนื้อและส่วนอื่นที่บริโภคได้ . 3. ผลิตภัณฑ์เนื้อโค เช่น เนื้อโคแปรรูป .  สำหรับการนำเข้า ปี 2564 ไทยนำเข้าเนื้อโคและผลิตภัณฑ์มากที่สุด (93.82%) เป็นจำนวน 48,678 ตัน มูลค่า 5,628.40 ล้านบาท โดยประเทศที่ไทยนำเข้ามากที่สุด ได้แก่ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และญี่ปุ่น .  ส่วนการส่งออก ปี 2564 ไทยส่งออกโคเนื้อมีชีวิตมากที่สุด (99.43%) เป็นจำนวน 198,134 ตัว มูลค่า 3,527.24 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโคเนื้อมีชีวิตสำหรับทำพันธุ์ จำนวน 40,178 ตัว มูลค่า 621.95 ล้านบาท โดยประเทศที่ไทยส่งออกมากที่สุด ได้แก่ สปป. ลาว เวียดนาม และมาเลเซีย . ทั้งนี้ การส่งออกโคเนื้อมีชีวิตไป สปป. ลาว จะเป็นการส่งออกไปจีนผ่าน สปป.ลาว เป็นหลัก เนื่องจากต้องถูกกักเพื่อตรวจสอบโรค โดยเฉพาะโรคปากและเท้าเปื่อย และลัมปีสกิน ที่กำลังระบาดในประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้ไม่มีตัวเลขการส่งออกไปจีนที่เป็นตลาดใหญ่ของไทย . โดยจีนกำหนดคุณสมบัติโคที่จะรับซื้อว่า จะต้องเป็นลูกผสมอเมริกันบราห์มัน หรือลูกผสมยุโรปทุกสายพันธุ์ น้ำหนักไม่ต่ำกว่า 350 – 400 กิโลกรัม ราคากิโลกรัมละ 100 บาท ส่งออกวันละ …

เรื่องของ “วัวเนื้อ” กับข้อได้เปรียบจากการเลี้ยงเพื่อการส่งออกของอีสาน อ่านเพิ่มเติม »

ไม้เศรษฐกิจที่น่าสนใจแต่ละภาค มีอิหยังแหน่?

ไม้มีค่าทางเศรษฐกิจ คือไม้ยืนต้นทุกชนิดที่ปลูกหรือเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติรวมถึงไผ่ ซึ่งอยู่นอกเขตป่าอนุรักษ์ที่มีการใช้ประโยชน์จากเนื้อไม้ ในการสร้างมูลค่าให้กับผู้ปลูก ทั้งขายโดยตรงและแปรรูป นอกจากนี้ยังสามารถนำมาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันได้ด้วย . การส่งเสริมให้ประชาชนปลูกไม้ยืนต้นนั้น มีความจำเป็นที่ต้องสร้างแรงจูงใจและต้องการกลไกทางการเงินเข้ามาช่วยสนับสนุน รวมทั้งการปลดล็อกข้อจำกัดด้านกฎหมายให้การปลูกไม้ยืนต้นที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจสามารถตัด จำหน่าย ทำไม้ได้อย่างสะดวก การให้องค์ความรู้ทางวิชาการในเรื่องการปลูก การเลือกพันธุ์ไม้ และพื้นที่ปลูกก็ถือเป็นปัจจัยที่สำคัญ . ภาคเหนือ ไม้เศรษฐกิจที่น่าสนใจ ได้แก่ สัก ประดู่ป่า พะยูง แดง และยางนา . ภาคอีสาน ไม้เศรษฐกิจที่น่าสนใจ ได้แก่ ประดู่ป่า พะยูง ยางนา และสัก . ภาคใต้ ไม้เศรษฐกิจที่น่าสนใจ ได้แก่ ไม้วงศ์ยาง จำปาป่า หลุมพอ สะเดาเทียม และกันเกรา . ภาคกลาง ภาคตะวันตก และภาคตะวันออก ไม้เศรษฐกิจที่น่าสนใจ ได้แก่ ยางนา ประดู่ป่า พะยอม สักและกฤษณา . และไม้เศรษฐกิจที่สามารถปลูกได้ทุกภาค ได้แก่ ตะเคียนทอง ไผ่ ยูคาลิปตัส และกระถินเทพา . . การแยกประเภทไม้ตามประเภทการเจริญเติบโต โดยวัดจากเส้นผ่านศูนย์กลางและรอบตัดฟัน สามารถแยกได้ทั้งหมด 3 กลุ่ม ดังนี้ . กลุ่มที่ 1 ไม้โตไว เป็นไม้ที่มีอัตราการเจริญเติบของเส้นผ่านศูนย์กลางโตไวเฉลี่ย 1.5 – 2 เซนติเมตร/ปี หลังจากนั้นอัตราการหยุดเจริญเติบโตจะหยุดอย่างรวดเร็ว รอบตัดฟันไม้ยู่จึงที่ 5 – 15 ปี เช่น สะเดาเทียม กระถินเทพา กระถินณรงค์ ยูคาลิปตัส เลี่ยน สะเดา ขี้เหล็ก โกงกาง สนทะเล สนประดิพัทธ์ รวมถึงไผ่ ชนิดต่าง ๆ เป็นต้น ไม้ประเภทนี้เนื้องานจึงเหมาะกับการใช้สร้างบ้านเรือน หรืองานก่อสร้างต่าง ๆ เครื่องเรือนท้องถิ่น หรือในอุตสาหกรรมเยื่อไม้ ชิ้นไม้สับ ราคาเฉลี่ยที่ 80 – 360 บาท/ต้น ขึ้นอยู่กับอายุของไม้ . กลุ่มที่ 2 ไม้โตปานกลาง เป็นไม้ที่มีอัตราการเจริญเติบของเส้นผ่านศูนย์กลางโตไวเฉลี่ย 0.8 – 1.5 เซนติเมตร/ปี ซึ่งโตช้ากว่ากลุ่มที่ 1 แต่มีระยะการเจริญเติบโตนาน รอบตัดฟันไม้อยู่ที่ 15-20 ปี เช่น สัก ประดู่ ยางนา แดง สะตอ เป็นต้น …

ไม้เศรษฐกิจที่น่าสนใจแต่ละภาค มีอิหยังแหน่? อ่านเพิ่มเติม »

สถานการณ์ ‘เงินเฟ้อ’ ภาคอีสานเป็นยังไง เมื่อของไทย เดือน ก.พ. 65 สูงสุดในรอบ 13 ปี

อัตราเงินเฟ้อของภาคอีสาน เดือน กุมภาพันธ์ 2565 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน สูงขึ้น 4.55% (YoY) เป็นการขยายตัวต่อเนื่องจากเดือนมกราคมที่สูงขึ้น 2.89% (YoY) . สาเหตุหลักยังคงมาจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ที่ปรับตัวสูงขึ้นตามราคาน้ำมันในตลาดโลก และค่ากระแสไฟฟ้าผันแปร (Ft) จากฐานในปีที่ผ่านมาต่ำ (มีมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพด้านสาธารณูปโภค) รวมไปถึงราคาเนื้อสุกร ที่สูงขึ้นเนื่องจากสถานการณ์โรคระบาด . สำหรับแนวโน้มเงินเฟ้อทั่วไป เดือนมีนาคม 2565 ยังคงอยู่ในระดับสูงตามราคาพลังงานที่ยังสูง (น้ำมันเชื้อเพลิง ค่ากระแสไฟฟ้า) เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งถือเป็นต้นทุนการผลิตที่ส่งผลให้ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย อย่างไรก็ตาม สินค้าที่เริ่มปรับตัวลดลง เช่น ข้าวสารเจ้า ข้าวสารเหนียว กลุ่มอาหารสด โดยเฉพาะเนื้อสุกร ผักสด (พริกสด ขิง) และผลไม้ (ส้มเขียวหวาน มะม่วง) . . ที่มา: กระทรวงพาณิชย์

สินค้าที่มีศักยภาพในการส่งออกของอีสานผ่านรถไฟจีน-ลาว

เส้นทาง “รถไฟจีน-ลาว” ช่วยให้การขนส่งสินค้าข้ามแดนไทย-จีน ผ่านภาคอีสานทางบกมีบทบาทสำคัญมากขึ้น แม้เบื้องต้นไทยต้องเผชิญกับความท้าทายของ “สินค้านำเข้าจากจีนที่จะมีมากกว่าสินค้าส่งออกจากไทย” ซึ่งสินค้าจากจีนจะเข้ามาไทยผ่านทางรางเพิ่มขึ้น จากที่ไม่เคยขนส่งผ่านทางรางมาก่อน . แต่ในทางกลับกันไทยก็มีโอกาสขายสินค้าได้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการขยายตลาดไปยังมณฑลยูนนาน (ปลายทางฝั่งจีน) รวมทั้งมณฑลใกล้เคียง จากเดิมที่สินค้าไทยส่วนใหญ่จะนิยมขนส่งไปทางจีนตะวันออกผ่านเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงทางถนน รวมถึงมณฑลกวางตุ้ง และอื่น ๆ ทางเรือ . สำหรับภาคอีสาน สินค้าที่มีศักยภาพในการส่งออกจะเป็นกลุ่มผลผลิตทางการเกษตรและปศุสัตว์ รวมถึงเกษตรแปรรูป เนื่องจากมีความต้องการนำเข้าจากจีนมาก และอีสานก็มีจุดแข็งด้านการเป็นแหล่งผลิตสินค้าทางการเกษตรและปศุสัตว์ที่สำคัญของประเทศ โดยภาคอีสานจะมีกลุ่มสินค้าที่มีศักยภาพในการส่งออกมากที่สุด ดังนี้ . 1. อาหารแปรรูป ได้แก่ ผลไม้แปรรูป เช่น สัปปะรดแปรรูป ซึ่งได้ประโยชน์เพิ่มเติมจากข้อตกลงความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) และอาหารแปรรูปพร้อมทาน (Ready to Eat) โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ฮาลาล เนื่องจากคนจีนด้านตะวันตกเป็นชาวมุสลิมกว่า 22 ล้านคน จึงเป็นโอกาสในการเปิดตลาดใหม่ด้านนี้มากขึ้น . 2. ปศุสัตว์แปรรูป เช่น เนื้อไก่แปรรูป และเนื้อโคขุน ซึ่งมีอัตราการเติบโตของตลาดเฉลี่ย 5 ปี ย้อนหลังในจีนสูงถึงกว่าร้อยละ 2,000 อย่างไรก็ดี ปัจจุบันอีสานยังไม่ได้ส่งออกเนื้อโคประเภทนี้มากนัก จึงเหมาะกับการพัฒนามาตรฐานการผลิตเพื่อคว้าโอกาสจากความต้องการนำเข้าของจีนที่มากขึ้น . 3. สินค้าของที่ระลึก โดยพัฒนาต่อยอดกับสินค้า OTOP ที่มีอยู่เดิมให้มีรูปลักษณ์ที่ทันสมัยมากขึ้น โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์จากผ้าไหม ผ้าฝ้าย ของใช้ทำจากยางพารา สินค้าความงาม ประเภทสปา ครีมขัดผิวที่ทำจากสมุนไพร เนื่องจากชาวจีนนิยมใช้สินค้าที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติมากขึ้น . 4. ผลไม้สด ได้แก่ ทุเรียนภูเขาไฟ มะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง แต่ปัจจุบันอีสานมีปริมาณผลไม้น้อย ซึ่งเป็นโอกาสให้เกษตรกรที่เดิมทีปลูกพืชไร่ เช่น ข้าว อ้อย มันสำปะหลัง ที่มีความผันผวนด้านราคา ศึกษาการปลูกผลไม้เพื่อการส่งออกมากขึ้น . อย่างไรก็ตาม เพื่อไม่ให้เกิดการทะลักเข้ามาของสินค้าจีนจนกระทบความสามารถด้านการแข่งขันของผู้ประกอบการไทย ภาครัฐไทยควรมีกฎระเบียบหรือมาตรฐานในการควบคุมสินค้าที่เข้ามา โดยเฉพาะสินค้าเกษตรจากจีนที่ไทยก็ผลิตเช่นกัน รวมไปถึงการสร้างความร่วมมือด้านการค้า และการลงทุนในการผลิตสินค้าร่วมกับ สปป. ลาว เพราะจะเป็นข้อต่อสำคัญที่ช่วยสนับสนุนให้การค้าผ่านเส้นทางนี้เติบโตไปด้วยกัน . . อ้างอิง: บทความ คว้าโอกาสให้การค้าไทย จากรถไฟจีน-ลาว Regional Letter ฉบับที่ 1/2565 ธนาคารแห่งประเทศไทย และ https://www.bbc.com/thai/60248500

ฮู้จักอีสาน ผ่านการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจครั้งสำคัญของภูมิภาค

ท่ามกลางกระแสความเปลี่ยนแปลง หากคุณเป็นคนที่สนใจธุรกิจในภาคอีสานก็อาจต้องทำความรู้จักเศรษฐกิจของภูมิภาคตั้งแต่อดีต ว่ามีพัฒนาการและจุดเปลี่ยนสำคัญ (Journey) อะไร ที่ทำให้เห็นเป็นโครงสร้างอย่างในปัจจุบัน เพื่อเป็นแนวทางหรือโอกาสในการต่อยอดธุรกิจไปพร้อมกับการพัฒนาเศรษฐกิจภูมิภาคที่จะเกิดขึ้นในอนาคต . . ⏲︎ 2504-2517: ยุคส่งเสริมการปลูกพืชเศรษฐกิจ . นโยบายส่งเสริมให้ปลูกพืชเศรษฐกิจเพื่อการส่งออกและการเข้ามาของเทคโนโลยีการเกษตร ทำให้พื้นที่ป่าในภาคอีสานลดลงเหลือเพียง 30% ของพื้นที่ทั้งภาค โดยเปลี่ยนเป็นพื้นที่ทำการเกษตรเพื่อการค้ามากขึ้น . ช่วงระหว่างปี 2514-2517 มีการปฏิวัติพืชไร่ครั้งใหญ่ ภาครัฐได้ส่งเสริมให้ปลูกพืชเศรษฐกิจ เช่น มันสำปะหลัง และอ้อย ทำให้ตั้งแต่ปี 2514 เกิดโรงงานแปรรูปมันสำปะหลัง และโรงงานน้ำตาล กระจายตามแหล่งเพาะปลูกสำคัญ อีกทั้งเริ่มมีการศึกษาทุ่งกุลาร้องไห้บริเวณอีสานตอนใต้ ซึ่งเป็นทุ่งโล่ง แห้งแล้ง และดินเค็ม เพื่อพัฒนาให้เป็นแหล่งผลิตข้าวหอมมะลิคุณภาพดีสำหรับการส่งออก . . ⏲︎ 2518-2538: การค้า บริการ และอุตสาหกรรมเติบโตดี . ตั้งแต่ปี 2518-2538 เศรษฐกิจอีสานเติบโตดีต่อเนื่อง โดยเฉพาะภาคการค้า . ปี 2531 ได้รับประโยชน์จากนโยบายเปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้า ทำให้เกิดการค้าขายกับประเทศในกลุ่มอินโดจีน (ค้าชายแดน) มากขึ้น . แต่ปี 2538 เกิดการเปลี่ยนแปลงจากที่เคยพึ่งพาภาคเกษตรในสัดส่วนสูงถึงประมาณ 50% เหลือเพียง 20% ของเศรษฐกิจอีสาน โดยภาคการค้าและภาคบริการเริ่มมีบทบาทสำคัญ ขณะเดียวกันภาคอุตสาหกรรมก็เริ่มขยายตัว จากนโยบายส่งเสริมการลงทุนของ BOI ที่ให้สิทธิประโยชน์กับเขตอุตสาหกรรมในภูมิภาคมากขึ้น โดยมีจำนวนโรงงานเพิ่มขึ้นกว่า 23 เท่าจากปี 2518 . นอกจากนี้ การตั้งเขตอุตสาหกรรมสุรนารีที่ จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นนิคมอุตสาหกรรมแห่งแรกในอีสาน ทำให้โครงสร้างการผลิตเปลี่ยน จากโรงงานเกษตรขั้นพื้นฐานอย่างโรงสีข้าว โรงงานแป้งมัน และโรงงานปอ เป็นโรงงานแปรรูปเกษตรที่มีเครื่องจักรทันสมัยมากขึ้น รวมถึงอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานเข้มข้นและอุตสาหกรรมที่รับช่วงการผลิตจากส่วนกลางเพิ่มขึ้น เช่น อุตสาหกรรมเสื้อผ้าสำเร็จรูป อุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และอุตสาหกรรมชิ้นส่วนรถยนต์ เป็นต้น . . ⏲︎ 2539-2550: สะพานมิตรภาพ 1-2 หนุนการค้ากับลาว ภาคอุตสาหกรรมทันสมัยขึ้น และยางพาราเป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ . การสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 จ.หนองคาย ในปี 2537 และแห่งที่ 2 จ.มุกดาหาร ในปี 2549 ส่งผลให้การค้าชายแดนกับลาวเพิ่มขึ้น และยังพัฒนาอุตสาหกรรมแปรรูปเกษตรให้ทันสมัย โดยเปลี่ยนมาใช้เครื่องจักร และผลิตเพื่อการส่งออกมากขึ้น เช่น โรงงานแปรรูปมันสำปะหลังที่หันมาผลิตมันเส้นที่มีคุณภาพ รวมทั้งแป้ง Modified Starch ที่มีมูลค่าเพิ่มสูง และโรงสีข้าวที่เปลี่ยนมาผลิตข้าวคุณภาพดี เป็นต้น . นอกจากนี้ ยังมีการย้ายฐานการผลิตโรงงานน้ำตาลจากภาคกลางและตะวันออกมายังอีสานมากขึ้น เนื่องจากมีพื้นที่ปลูกอ้อยได้อีกมาก . ปี 2548 นิคมอุตสาหกรรมนวนครที่ จ.นครราชสีมา เปิดดำเนินการแห่งที่ 2 ซึ่งเน้นผลิตชิ้นส่วนยานยนต์เป็น …

ฮู้จักอีสาน ผ่านการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจครั้งสำคัญของภูมิภาค อ่านเพิ่มเติม »

ชวนมาเบิ่ง 6 นวัตกรรมอาหารเปลี่ยนโลก

ไม่ว่าโลกใบนี้เผชิญการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วแค่ไหน การวิจัยและค้นคว้าเทคโนโลยีด้านอาหารก็ยังคงเดินหน้าให้เท่าทันเสมอ แถมหลายต่อหลายนวัตกรรมกลายมาเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานได้จริงและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอาหารอยู่ด้วย มาดูกันว่า นวัตกรรมอาหารมาแรงตอนนี้มีอะไรกันบ้าง . 1. Edible Material แพ็กเกจจิ้งกินได้ลดขยะ . ทีมวิจัยแห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด คิดค้น WikiCell บรรจุภัณฑ์ 2 ชั้น ที่สามารถรับประทานได้ โดยชั้นในทำหน้าที่ห่อหุ้มและพยุงอาหารหรือของเหลว ด้วยการนำส่วนผสมจากธรรมชาติ เช่น ช็อกโกแลต ผลไม้ ถั่ว เมล็ดธัญพืช ฯลฯ มาผสมเข้ากับแคลเซียมและ Chitosan (ไบโอโพลิเมอร์ธรรมชาติจากเปลือกหอย หรือกุ้ง) หรือ Alginate (สารสกัดจากสาหร่าย) เพื่อให้เกิดการจับตัวเป็นเปลือกนิ่ม ๆ . ส่วนบรรจุภัณฑ์ชั้นนอกจะปกป้องเปลือกชั้นใน โดยมี 2 ชนิดให้เลือกขึ้นอยู่กับการใช้งาน ชนิดแรกผลิตจาก Isomalt หรือสารให้ความหวานชนิดหนึ่ง สามารถรับประทานได้โดยนำไปล้างก่อน คล้ายกับการล้างแอปเปิล ส่วนชนิดที่สองผลิตจากชานอ้อย หรือมันสำปะหลัง ซึ่งกินไม่ได้แต่ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ และสามารถนำมาใช้ทดแทนบรรจุภัณฑ์กระดาษแข็งที่ใช้บรรจุอาหารในปัจจุบันได้ เพียงแกะออกแล้วทิ้งคล้ายเปลือกส้ม . 2. Biofilm อวสานพลาสติกหุ้มอาหาร . ธุรกิจค้าปลีกหรือร้านขายของชำต่าง ๆ เป็นต้นตอสำคัญในการยื่นพลาสติกไปสู่มือผู้บริโภคในรูปแบบของหีบห่อบรรจุภัณฑ์ แม้ลูกค้าจะนำถุงผ้ามาชอปปิงแล้ว แต่ก็ต้องหยิบแพ็กเกจจิ้งพลาสติกกลับบ้านไปอยู่ดี . Ekoplaza ซูเปอร์มาร์เก็ตในกรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ จึงได้ร่วมมือกับกลุ่ม A Plastic Planet ออกแคมเปญรณรงค์เกี่ยวกับสินค้าพลาสติก โดยเริ่มจากการตั้งเชล์ฟวางสินค้าไร้แพ็คเกจจิ้งพลาสติก อย่างสินค้าประเภทอาหารก็จะถูกห่อหุ้มด้วยวัสดุทางชีวภาพที่ทำจากต้นไม้และย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ Biofilm . 3. Food Structure Design ศิลปะแห่งการออกแบบโครงสร้างอาหาร . การพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ในการออกแบบโครงสร้างอาหาร เพื่อให้ได้อาหารที่ดีและน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น นอกจากจะทำให้อาหารดูดีแล้ว ยังสามารถให้กลิ่น รสชาติ และสารอาหารที่ครบถ้วน . เช่น งานวิจัยไส้กรอกไขมันต่ำของศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) สวทช. ที่ทำร่วมกับบริษัทเบทาโกร ได้พัฒนาไส้กรอกที่มีปริมาณไขมันต่ำกว่า 5% (ปกติแล้วไส้กรอกทั่วไปจะมีไขมันอยู่ประมาณ 20-30%) โดยไม่ทำให้รสสัมผัสของไส้กรอกเปลี่ยนแปลง การใช้สารทดแทนไขมันนอกจากช่วยลดไขมันแล้ว ยังช่วยเพิ่มเส้นใยอาหารที่ดีต่อสุขภาพด้วย . นอกจากนี้ยังมีขนมปังแซนด์วิชและครัวซ็องปราศจากกลูเตน โดยใช้ฟลาวข้าวเป็นองค์ประกอบหลัก ซึ่งในสูตรต้นแบบที่ได้พัฒนาขึ้นจะมีการเติมส่วนผสม Starch ธรรมชาติ Starch ดัดแปร และไฮโดรคอลลอยด์ เพื่อให้แป้งที่พัฒนาขึ้นมามีสมบัติวิสโคอิลาสติกที่เหมาะสม ทำให้ขนมปังขึ้นฟูขณะหมักและไม่ยุบตัวเมื่ออบ . 4. Mycoprotein โปรตีนสายพันธุ์ใหม่ไร้ไขมัน และคอเลสเตอรอล . ในยุคที่ผู้คนหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น เราจึงได้เห็นการกินที่เน้นผัก ผลไม้ และหลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์ แต่ยังมีวิธีอื่นที่ดีไม่แพ้กัน คือ โปรตีนทางเลือก หรือมัยคอโปรตีน (Mycoprotein) ที่เกิดขึ้นจากการหมักบ่มจุลินทรีย์ประเภทฟังกัส (Fungus) และนำมาขึ้นรูปเป็นผลิตภัณฑ์อาหารต่าง …

ชวนมาเบิ่ง 6 นวัตกรรมอาหารเปลี่ยนโลก อ่านเพิ่มเติม »

10 เทรนด์ธุรกิจเกษตรจากต่างประเทศ ทำรายได้รวมมากกว่า 3.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ

สํานักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) คาดการณ์ว่า ปี 2565 นี้ ภาพรวมจีดีพีภาคเกษตรจะขยายตัว 2.0-3.0% โดยสาขาพืชขยายตัวมากสุด 2.7-3.7% รองลงมาคือสาขาปศุสัตว์ ขยายตัว 0.7-1.7% สาขาบริการทางการเกษตร ขยายตัว 3.0-4.0% สาขาป่าไม้ ขยายตัว 1.5-2.5% และสาขาประมง ขยายตัว 0.2-1.2% . พร้อมประกาศยกระดับปฏิรูปภาคเกษตรร่วมกับภาคเอกชน booster เกษตรไทย สู่เกษตรมูลค่าสูง เนื่องจากการสร้างความมั่นคงทางอาหาร คือความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจในอนาคต . วันนี้เราจึงพาส่อง 10 อันดับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเกษตรที่ทำรายได้มากที่สุดในตลาดโลก โดยบริษัท Research and Markets เผยว่า ปี 2564 ที่ผ่านมา ธุรกิจเกษตรในตลาดโลกมีมูลค่ากว่า 3.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และก่อให้เกิดการจ้างงานราว 1,400 ล้านคนทั่วโลก

คนอีสานเรียนสูงขึ้น ทำไมยังตกงาน?

หลายคนคงเคยได้ยินคำสอนที่ว่า “เรียนให้สูงไว้ จะได้หางานได้และมีรายได้ดี” แต่จากสถานการณ์ตลาดแรงงานอีสาน ปี 2564 กลับพบว่า ตลาดแรงงานกำลังติดกับดัก Skills Mismatch คือ ผลิตปริญญาตรีเป็นสัดส่วนที่สูง แต่นายจ้างต้องการจ้างงานสายวิชาชีพมากกว่า ส่งผลให้มีการว่างงานสูงในกลุ่มปริญญาตรี . โดยอาจเกิดได้จากความรู้ของแรงงานที่สูงเกินความต้องการของตลาด หรือไม่ก็สาขาที่เรียนไม่ตรงกับสาขาอาชีพที่ตลาดต้องการ ทำให้เกิดความไม่สอดคล้องกันของระดับการศึกษาและอาชีพในตลาดแรงงาน (Labour Market Mismatch) . ดังนั้น ผู้ที่มีบทบาทสำคัญอย่างสถาบันการศึกษา อาจต้องคิดต่อว่า จะสร้างทักษะแห่งอนาคตให้ผู้เรียนได้อย่างไร เพราะในทางเศรษฐศาสตร์ การเรียนสูงเกินความจำเป็น หรือเรียนไม่ตรงกับเทรนด์ความต้องการของตลาดแรงงานสร้างต้นทุนและค่าเสียโอกาสให้กับแรงงานอย่างมาก ทั้งเงินค่าเล่าเรียน เวลาในการศึกษา รวมไปถึงเสียโอกาสในการหารายได้และประสบการณ์ในช่วงระยะเวลาที่ศึกษา

ไผเศร้า..? ให้ไพรช่วย ผลวิจัยเผย 4 สมุนไพรไทย ต้านซึมเศร้า

“โรคซึมเศร้า” ภัยเงียบทางอารมณ์ของคนยุคใหม่ที่ไม่ควรมองข้าม โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร แนะนำ 4 สมุนไพรไทย มีผลวิจัยต้านซึมเศร้า ได้แก่ ขมิ้นชัน บัวบก น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว และฟักทอง ซึ่งหาซื้อได้ง่าย ราคาไม่แพง ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการป้องกัน หรือบรรเทาอาการได้

24 Hours Lifestyle ธุรกิจเพื่อคนนอนดึกที่น่าสนใจมีอะไรบ้าง

ปัจจุบันโลกดิจิทัลทำให้วิถีชีวิตของคนเราเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะคนเมือง คนรุ่นใหม่ที่ไลฟ์สไตล์มีความยืดหยุ่น จากแต่ก่อนที่ทำงานประจำ ต้องนอนเร็ว ตื่นแต่เช้าไปทำงาน ผันตัวมาเป็นฟรีแลนซ์ เนื่องจากการพัฒนาของเทคโนโลยีและความพร้อมของสาธารณูปโภคที่สามารถทำงานหรือติดต่อสื่อสารกันได้ตลอดเวลา จนทำให้ Sleepless Society หรือสังคมคนนอนดึกขยายตัวอย่างรวดเร็ว . บริษัทวิจัยการตลาด The Nielsen Company ชี้ว่าผู้บริโภคในภาคอีสานมีรูปแบบของครอบครัวเดี่ยวเพิ่มสูงขึ้นกว่าภาคอื่น จากการขยายตัวของสัดส่วนที่พักอาศัยขนาดเล็กอย่าง คอนโดมิเนียม อะพาร์ตเมนต์ และทาวน์เฮ้าส์ รวมไปถึงธุรกิจของตกแต่งบ้าน ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับกรุงเทพฯ สะท้อนถึงความต้องการที่เปลี่ยนไปเป็นแบบคนเมือง . ครั้งนี้เราจึงอยากพามาทำความรู้จักกับธุรกิจ 24 ชั่วโมงที่เข้ามาตอบโจทย์ผู้บริโภคกลุ่มคนนอนดึก ซึ่งหลายธุรกิจไม่ได้มีแค่ในกรุงเทพฯ แต่ภาคอีสานเองก็เริ่มมีบ้างแล้วเช่นกัน มาดูกันว่ามีธุรกิจอะไรบ้าง . 1. ร้านสะดวกซื้อ ปัจจุบันผู้บริโภคมองว่า ความสะดวกสบายกลายเป็นพื้นฐานในการดำรงชีวิตไปแล้ว ตัวอย่างหนึ่งในผู้นำธุรกิจนี้คือ 7-Eleven, FamilyMart, Mini Big C และ Tesco Lotus Express ที่ได้ขยายสาขาและพัฒนาให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคอยู่ตลอด . 2. ร้านอาหาร เพราะทำงานดึกเรื่องกินจึงสำคัญ ร้านอาหารหลายร้านเริ่มหันมาเปิดให้บริการทั้งกลางวันและกลางคืน หรือเป็นแบบเดลิเวอรี่ ตัวอย่างเช่น ร้านถูกและดี Foodland, เจ๊เกียง โจ๊กกองปราบ, McDonald’s, Little Hong Kong และ Salmonzing . 3. ร้านสะดวกซัก ที่สามารถซักได้ทุกเวลา มีเครื่องอบแห้งที่ทำให้ผ้าบางประเภทแห้งสนิท สวมใส่ได้ทันที ช่วยประหยัดเวลาได้มาก ปัจจุบันมีธุรกิจร้านสะดวกซักอยู่ประมาณ 300 สาขาในไทย และคาดว่าในอีกไม่เกิน 5 ปี ข้างหน้า ธุรกิจนี้มีแนวโน้มจะขยายตัวเพิ่มถึง 500-600 สาขา . 4. ฟิตเนสเซ็นเตอร์ เพื่อรองรับวิถีชีวิตคนทำงานในเมืองที่เลิกงานดึก ไม่สามารถไปออกกำลังกายตามสวนสาธารณะหรือฟิตเนสที่มีเวลาเปิดให้บริการตายตัวได้ จึงเป็นโอกาสของฟิตเนสที่เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง โดยตัวอย่างของฟิตเนสที่เปิดบริการ 24 ชม. เช่น Jetts Fitness ซึ่งได้ประเดิมที่ภาคอีสานตั้งแต่ปี 2019, Fitness 24 Seven และ Fitwhey Gym . 5. Co-Working Space เมื่อมีคนชอบทำงาน นั่งจิบกาแฟ และรับประทานอาหารในช่วงเวลาดึกมากขึ้น จึงต้องมีพื้นที่รองรับคนกลุ่มนี้ ทำให้เกิด Co-Working Space ที่ให้บริการ 24 ชั่วโมง เช่น Samyan CO-OP, NapLab Chula, และ Spaces จามจุรี สแควร์ เพื่อให้ผู้คนมานั่งทำงานและนั่งเล่นพักผ่อนได้ . 6. …

24 Hours Lifestyle ธุรกิจเพื่อคนนอนดึกที่น่าสนใจมีอะไรบ้าง อ่านเพิ่มเติม »

Scroll to Top