เทือกเขาในภาคอีสาน มรดกธรรมชาติและโอกาสเศรษฐกิจการท่องเที่ยว
ภาคอีสานไม่ได้มีเพียงวัฒนธรรมประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์ แต่ยังซ่อนความงดงามทางธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ โดยเฉพาะเทือกเขาต่างๆ ที่ถือเป็น “ขุนเขาแห่งอีสาน” และเป็นพื้นที่ที่ถูกบันทึกไว้ในมรดกโลก รวมถึงประวัติศาสตร์ชาติ และแสดงให้เห็นถึงศักยภาพเชิงเศรษฐกิจที่สามารถขับเคลื่อนการท่องเที่ยวในระดับสากลได้
5 เทือกเขาในภาคอีสานมีอะไรบ้าง⁉️
- เทือกเขาเพชรบูรณ์ จุดสูงสุดแห่งอีสาน
ภูหินร่องกล้าและภูเขาสูงตระหง่าน อย่างเช่น ภูหินขาว มีความสูงจากระดับน้ำทะเลถึง 1,820 เมตร ทำให้เทือกเขาเพชรบูรณ์กลายเป็นพื้นที่ชมวิวที่โดดเด่นของภาคอีสาน การพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวเชิงผจญภัย อย่างเช่น การปีนเขา เดินป่า และแคมป์ปิ้ง ก็สามารถเชื่อมโยงกับกระแสสุขภาพและธรรมชาติบำบัดได้เป็นอย่างดี ซึ่งในขณะนี้กำลังได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวกลุ่มคนรุ่นใหม่และกลุ่มครอบครัวที่แสวงหาความเงียบสงบ ขณะเดียวกันยังเป็นพื้นที่ที่เหมาะแก่การลงทุนธุรกิจโฮมสเตย์เชิงนิเวศและรีสอร์ตที่เน้นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์อีกด้วย
- เทือกเขาภูพญาเย็น-สันกำแพง มรดกโลกที่ใหญ่กว่ากรุงเทพฯ 4 เท่า
มีขนาดพื้นที่กว่า 6,155 ตารางกิโลเมตรของกลุ่มป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ ถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกด้านธรรมชาติ ซึ่งสะท้อนถึงคุณค่าความหลากหลายทางชีวภาพ ธุรกิจการท่องเที่ยวในพื้นที่นี้สามารถต่อยอดในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนากิจกรรมดูนก การจัดทริปศึกษาธรรมชาติ ไปจนถึงการท่องเที่ยวเชิงการเรียนรู้สำหรับเยาวชน การได้รับเป็นมรดกโลกนั่น ยังเพิ่มมูลค่าให้กับการแหล่งท่องเที่ยวอีกด้วย ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศมองว่าเป็นจุดหมายที่ต้องมาเยือนสักครั้งในชีวิต
- เทือกเขาพนมดงรัก รอยต่อประวัติศาสตร์ไทย-กัมพูชา
พนมดงรักไม่เพียงเป็นเทือกเขาที่เต็มไปด้วยโบราณสถานสำคัญ อย่างเช่น ปราสาทเขาพระวิหาร และปราสาทหินพนมรุ้ง แต่ยังเป็นสะพานเชื่อมเศรษฐกิจการท่องเที่ยวระหว่างไทยและกัมพูชา การท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์-วัฒนธรรมที่ผสานเข้ากับเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ซึ่งสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติที่สนใจประวัติศาสตร์อารยธรรมขอมโบราณ ขณะเดียวกันยังส่งเสริมธุรกิจชุมชน เช่น งานหัตถกรรมและอาหารพื้นถิ่น ที่สามารถเป็นสินค้าที่ระลึกและเพิ่มรายได้ให้แก่คนท้องถิ่นนั่นเอง
- เทือกเขาภูพาน แหล่งอาหารป่าและพืชสมุนไพรของอีสาน
ภูพานไม่ใช่เพียงเทือกเขาของอีสาน แต่คือพื้นที่ที่รวมคุณค่าหลายมิติ ทั้งรอยเท้าไดโนเสาร์และฟอสซิลที่ภูกุ้มข้าว-ภูแฝก ซึ่งสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยว อาหารป่าและพืชสมุนไพรที่ทำให้ภูพานถูกขนานนามว่า “ตู้กับข้าวธรรมชาติ”ฃ สามารถต่อยอดสู่การท่องเที่ยวเชิงอาหารและสุขภาพ ขณะเดียวกันยังมีประวัติศาสตร์การเมืองในฐานะอดีตที่มั่นของพรรคคอมมิวนิสต์ ที่สามารถพัฒนาเป็นเส้นทางเรียนรู้ทางสังคมและวัฒนธรรมได้อย่างแตกต่าง หากมีการบูรณาการเชิงกลยุทธ์ ภูพานจะกลายเป็น “จุดหมายปลายทางแห่งหลายประสบการณ์” ที่ช่วยสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและรายได้ให้แก่ชุมชนรอบข้างได้อย่างยั่งยืน
เทือกเขาในภาคอีสานจึงไม่ใช่เพียง “ขุนเขา” ที่เงียบสงบ แต่คือ “ทุนทางธรรมชาติและวัฒนธรรม” ที่สามารถเปลี่ยนเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจการท่องเที่ยวได้อย่างมหาศาล การบูรณาการเส้นทางท่องเที่ยวหลายมิติ (ธรรมชาติ-วัฒนธรรม-อาหาร) และการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างประเทศ เทือกเขาอีสานจะไม่เพียงเป็น “ภูเขาแห่งความงาม” แต่ยังเป็น “ภูเขาแห่งโอกาส” ที่ยกระดับเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตของคนท้องถิ่นได้ในระยะยาวนั่นเอง
อ้างอิงจาก:
– กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
– กรมทรัพยากรธรณี
– องค์การบริหารส่วนตำบลภูลานจัง
– แผนที่พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย
– ศูนย์ข้อมูลการวิจัย สกว.
– สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์
ติดตาม ISAN Insight & Outlook ทุกช่องทางได้ที่
https://linktr.ee/isan.insight
#ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ISAN #อีสานอินไซต์ #Business #Economy #ธุรกิจ #เศรษฐกิจ #ธุรกิจอีสาน #เศรษฐกิจอีสาน #เทือกเขาในภาคอีสาน #เทือกเขา #มรดกโลก #ประวัติศาสตร์ #มรดกธรรมชาติ #การท่องเที่ยว