คุณเพิ่ม โมรินทร์ (แซ่เตีย) เป็นชาวจีนที่อพยพเข้ามาหาโอกาสในชีวิตที่ดีกว่าในเมืองไทยโดยเขาเริ่มต้นธุรกิจด้วยการนำเงินและทรัพย์สินที่มีติดตัวมาร่วมหุ้นกับเพื่อนเปิดร้านขายของชำที่ย่านคลองเตย ต่อมาได้ย้ายถิ่นฐานมาจังหวัดนครราชสีมา โดยในปี 2501 ได้เปิดร้านสาขาพลล้าน จากการสังเกตเห็นว่าชาวบ้านนิยมเลี้ยงหมูเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นสินค้าที่มีมูลค่าสูง ด้วยวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลมองว่าจังหวัดนครราชสีมาเปรียบเสมือนประตูสู่อีสาน ซึ่งน่าจะมีการพัฒนาได้อีกมาก เขาจึงแปรรูปเนื้อหมูเป็นหมูหยองและหมูแผ่น พร้อมทั้งพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลาย จนกลายเป็นสินค้ายอดนิยมในปัจจุบัน
หากพิจารณาสัดส่วนของรายได้ จะพบว่า 3 อันดับแรกของรายได้หลักมาจาก ข้าวตัง ซึ่งทำยอดขายสูงสุดที่ 471 ล้านบาท ในปี 2566 คิดเป็น 31.5% ของรายได้จากการขายสินค้า ข้าวตังเป็นสินค้ายอดนิยมของเจ้าสัวที่ผู้บริโภคคุ้นเคยเป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นขนมที่เข้าถึงได้ทุกเพศทุกวัย สามารถรับประทานเล่นหรือทานคู่กับอาหารอื่นก็ได้ อีกทั้งยังหาซื้อได้ง่าย ทำให้ข้าวตังของเจ้าสัวครองใจผู้บริโภคมายาวนาน
ถัดมาคือ ขนมขบเคี้ยวแปรรูปจากเนื้อหมู ซึ่งทำรายได้ 297 ล้านบาท คิดเป็น 20% ของรายได้จากการขายสินค้า และมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง สาเหตุหนึ่งมาจากการพัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์พฤติกรรมของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ใช้ชีวิตเร่งรีบมากขึ้น ทำให้ขนมประเภทนี้เป็นทางเลือกที่เข้าถึงง่ายและได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
อันดับที่สามคือ แครกเกอร์ธัญพืช ซึ่งทำรายได้ 232 ล้านบาท คิดเป็น 15.5% ของรายได้จากการขายสินค้า จุดเด่นของแครกเกอร์ธัญพืชคือการเป็นขนมขบเคี้ยวที่สอดคล้องกับเทรนด์รักสุขภาพ ซึ่งกำลังได้รับความนิยมมากขึ้น ส่งผลให้สินค้ากลุ่มนี้มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องในทุกๆ ปี
นอกจากรายได้จากการขายสินค้าแล้ว การดำเนินธุรกิจย่อมมาพร้อมกับ ต้นทุนและค่าใช้จ่ายต่างๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกบริษัทต้องบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ทั้งนี้ ต้นทุนขายและค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นตามการเติบโตของรายได้ในแต่ละปี อย่างไรก็ตาม ในปี 2566 บริษัทสามารถสร้าง กำไรสุทธิที่เติบโตสูงถึง 614.7% ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดี สะท้อนถึงประสิทธิภาพในการบริหารต้นทุนและการดำเนินธุรกิจที่แข็งแกร่ง ทั้งนี้ ผลประกอบการที่ดีขึ้นไม่เพียงส่งผลเชิงบวกต่อนักลงทุนในตลาดหุ้น แต่ยังสะท้อนถึงการขยายตัวของฐานผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ขนมขบเคี้ยวไทยยังมีน้อยเมื่อเทียบกับแบรนด์ต่างประเทศ แต่เจ้าสัวมองเห็นโอกาสในการพัฒนา Local Snack จากวัตถุดิบไทยแท้ เช่น ข้าวตังหมูหยองและ Meat Snack ที่มีเอกลักษณ์และคุณค่าโภชนาการสูง เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ ทั้งในไทยและตลาดต่างประเทศ โดยเน้นสร้างมูลค่าให้วัตถุดิบไทยและขยายตลาดขนมขบเคี้ยวไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน ปัจจุบันแบรนด์เจ้าสัวมีทั้งอาหารและขนมรวมกันกว่าสามร้อยชนิด ในแต่ละปีจะมีสินค้าออกใหม่แปดถึงสิบตัว สินค้าตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายและ lifestyle ที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ของผู้บริโภค ทั้งของทานเล่น และอาหารพร้อมปรุงพร้อมทาน ตอบโจทย์ทั้ง Ready to Eat & Ready to Cook
พาซอมเบิ่ง “เจ้าสัว” แบรนด์ของฝากเจ้าดังโคราช ว่าที่หุ้นใหม่ภาคอีสาน
อ้างอิงจาก
เว็บไซต์ของบริษัท, แบบ 56-1 One Report, รายงานข้อมูลสรุปของการเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชน, ลงทุนแมน, The Cloud