Chairman & CEO: Dirk Van De Put
Mondelēz International บริษัทสัญชาติอเมริกันที่แยกตัวออกมาจาก Kraft Foods ในปี 2555
ชื่อบริษัท: บริษัท มอนเดลีซ อินเตอร์เนชันแนล (ประเทศไทย) จำกัด
- ปีที่จดทะเบียน: พ.ศ. 2507
- ทุนจดทะเบียน: 104 ล้านบาท
- สถานที่ตั้ง: เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร
- ส่วนแบ่งการตลาดทั่วประเทศ: 50% ในกลุ่มผลิตลูกกวาดและขนม
- รายได้ปี 2566: 6,226 ล้านบาท (+17%)
- กำไรปี 2566: 328 ล้านบาท (+110%)
โรงงานลาดกระบังก่อตั้งในปี 2550 เป็นศูนย์กลางการผลิตที่ใหญ่ที่สุดสำหรับหมากฝรั่งและลูกอมในภูมิภาค AMEA โดยมีการส่งออกผลิตภัณฑ์ไปยังกว่า 10 ประเทศ
ชื่อบริษัท: บริษัท มอนเดลีซ (ประเทศไทย) จำกัด
- ปีที่จดทะเบียน: พ.ศ. 2532
- ทุนจดทะเบียน: 150 ล้านบาท
- สถานที่ตั้ง: อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น
- ส่วนแบ่งการตลาดทั่วประเทศ: 18% ในกลุ่มผลิตลูกกวาดและขนม
- รายได้ปี 2566: 2,254 ล้านบาท (+7%)
- กำไรปี 2566: 707 ล้านบาท (+28%)
โรงงานขอนแก่นก่อตั้งในปี 2543 เป็นศูนย์กลางที่ใหญ่ที่สุดสำหรับผลิตและส่งออกเครื่องดื่มชนิดผงในภูมิภาค AMEA (Asia, Middle East, Africa) ผลิตภัณฑ์ของโรงงานถูกส่งออกไปยัง 36 ประเทศ โดยฟิลิปปินส์และจีนเป็นตลาดหลัก คิดเป็นสัดส่วน 80% ของการส่งออกทั้งหมด นอกจากนี้ โรงงานขอนแก่นยังได้รับการยอมรับว่าเป็นสถานที่แห่งแรกของ Mondelēz ที่เปลี่ยนมาใช้พลังงานหมุนเวียน 100% ได้สำเร็จ
ตัวอย่างสินค้าที่ขายในไทย
- Cadbury DAIRY MILK
- HALLS
- Clorets
- Dentyne
- OREO
- RITZ
- TOBLERONE
ไม่ว่าจะเป็น ‘บิด ชิมครีม จุ่มนม’ สโลแกนติดหูจากโฆษณาของโอรีโอที่หลายคนคุ้นเคยและทำตาม หรือ TOBLERONE ช็อกโกแลตที่โดดเด่นด้วยรูปทรงสามเหลี่ยม อันได้รับแรงบันดาลใจจากภูเขา Matterhorn ในสวิตเซอร์แลนด์ รวมถึงขนมชื่อดังอีกมากมาย ทั้งหมดล้วนอยู่ภายใต้การบริหารของ Mondelēz International (มอนเดลีซ) บริษัทข้ามชาติสัญชาติอเมริกันที่หลายคนคุ้นชื่อจากฉลากขนมที่เราหยิบทานกันอยู่บ่อยๆ
Mondelēz International ถือกำเนิดขึ้นในปี 2555 หลังจากแยกตัวออกจาก Kraft Foods เพื่อเพิ่มความคล่องตัวและขยายตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น การตัดสินใจครั้งนี้ช่วยให้ Mondelēz สามารถมุ่งเน้นการเติบโตในอุตสาหกรรมขนมขบเคี้ยวระดับโลกได้อย่างเต็มที่ และยังคงเป็นผู้นำในตลาดมาจนถึงปัจจุบัน
ปัจจุบันประเทศไทยมีโรงงานของ Mondelēz อยู่ 2 แห่ง ได้แก่ โรงงานขอนแก่น ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2543 และเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกเครื่องดื่มชนิดผงที่ใหญ่ที่สุดของบริษัท โดยส่งออกไปยัง 36 ประเทศ โดยเฉพาะฟิลิปปินส์และจีน ซึ่งเป็นตลาดหลัก คิดเป็น 80% ของการส่งออกทั้งหมด และ โรงงานลาดกระบัง ก่อตั้งขึ้นในปี 2550 เป็นศูนย์กลางการผลิตหมากฝรั่งและลูกอมที่ใหญ่ที่สุดของบริษัท ส่งออกผลิตภัณฑ์ไปยังกว่า 10 ประเทศ โดยการผลิตจากโรงงานในประเทศไทยเน้นการส่งออกไปยังภูมิภาค AMEA (Asia, Middle East, Africa) นอกจากนี้ โรงงานขอนแก่นยังเป็นโรงงานแห่งแรกของ Mondelēz ที่ประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนมาใช้พลังงานหมุนเวียน 100% ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนของบริษัท
นอกจากการตั้งฐานการผลิตในประเทศไทยแล้ว หากพิจารณาปัจจัยด้านพฤติกรรมผู้บริโภค จะพบว่าแนวโน้มการบริโภคขนมขบเคี้ยว โดยเฉพาะของหวานในหมู่คนไทยมีเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการสำรวจของกรมอนามัยและสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ในปี 2563 พบว่า คนไทยบริโภคน้ำตาลเฉลี่ยสูงถึงวันละ 20 ช้อนชา ซึ่งมากกว่าปริมาณที่แนะนำถึง 3 เท่า ทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีอัตราการบริโภคน้ำตาลสูงเป็นอันดับ 3 ของอาเซียน รองจากมาเลเซียและสิงคโปร์ ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำว่า ปริมาณน้ำตาลที่เติมในอาหารไม่ควรเกินร้อยละ 10 ของปริมาณพลังงานทั้งหมดที่ได้รับในแต่ละวัน เพื่อช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) และส่งเสริมสุขภาพที่ดีในระยะยาว
จากการวิจัยของ Marketbuzzz พบว่า ภายหลังสถานการณ์โควิด-19 สังคมไทยต้องเผชิญกับค่าครองชีพที่สูงขึ้น ส่งผลให้ครัวเรือนมีความเปราะบางทางการเงินมากขึ้น นอกจากนี้ ปัญหาด้านเศรษฐกิจยังส่งผลกระทบเชิงลบต่อสุขภาพจิตของประชาชน ก่อให้เกิดความเครียดและความวิตกกังวลในวงกว้าง โดยเฉพาะในกลุ่มคนเมืองที่ใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบและเต็มไปด้วยความกดดัน เพื่อลดความเครียดและดูแลสุขภาพทางอารมณ์ หลายคนจึงหันมาเลือกวิธีที่ง่ายและเข้าถึงได้ อย่างเช่น การรับประทานขนมกรุบกรอบ งานวิจัยผู้บริโภคของ Mintel Global ในปี 2564 ชี้ให้เห็นว่าคนไทยบริโภคขนมขบเคี้ยวและเครื่องดื่มแทนอาหารมื้อหลักมากเป็นอันดับสองของเอเชียแปซิฟิก รองจากชาวอินเดีย สะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมการบริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปในยุคที่ความเครียดกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน
อ้างอิงจาก
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์, เว็บไซต์ของบริษัท, Britannica, Marketeer, มหาวิทยาลัยรามคำแหง, MarketingOops