ผลสำรวจพฤติกรรม การใช้จ่ายของคนไทย
Valentine’s Day เดือนแห่งความฮัก
ม.หอการค้าไทย เผยผลโพลวาเลนไทน์ ปี 66 คึกคัก คาดเม็ดเงินสะพัดเกือบ 2.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.5% จากปี 65 โดยมูลค่าการใช้จ่ายต่อคนเฉลี่ย 1,848 บาท สูงสุดในรอบ 4 ปีนับตั้งแต่ปี 63
ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายช่วงวาเลนไทน์ ปี 2566 โดยคาดว่าวาเลนไทน์ปีนี้ จะมีเม็ดเงินสะพัด 2,389 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 15.5% โดยบรรยากาศคึกคักสุดในรอบ 3 ปีนับตั้งแต่ปี 2563 ที่ประเทศไทยเริ่มมีการระบาดของโรคโควิด-19
เมื่อถามถึงเหตุผลในการใช้จ่ายช่วงวาเลนไทน์ปีนี้ เทียบกับปี 2565 กลุ่มตัวอย่างที่ตอบว่ามีการใช้จ่ายเพิ่มสูงขึ้น เพราะสินค้า-บริการแพงขึ้น รองลงมาคือ ค่าครองชีพสูงขึ้น และความต้องการสินค้ามีมากขึ้น ในขณะที่กลุ่มตัวอย่างที่ตอบว่ามีการใช้จ่ายลดลง เพราะรายได้ลดน้อยลง รองลงมาคือ ประหยัดการใช้จ่าย และสินค้าแพงขึ้น เศรษฐกิจไม่ดี
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ผลสำรวจพบว่า บรรยากาศการฉลองวาเลนไทน์ปีนี้ถือว่าคึกคัก แต่อาจจะไม่คึกคักเต็มที่ เนื่องจากวันที่ 14 ก.พ.ปีนี้ ตรงกับวันอังคาร ซึ่งเป็นวันธรรมดา ไม่ใช่ช่วงวันหยุด โดยภาพรวมบรรยากาศการใช้จ่ายช่วงวาเลนไทน์ปีนี้ คาดว่าเม็ดเงินจะสะพัดมากกว่าในปีที่ผ่านมา มูลค่าการใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนสูงสุดในรอบ 4 ปี อย่างไรก็ดี ยังไม่รวมเม็ดเงินที่นักท่องเที่ยวต่างชาติจะเข้ามาฉลองวาเลนไทน์ในประเทศไทย
โดยวาเลนไทน์ปีนี้ ถือว่าคึกคักในระดับหนึ่ง และมากกว่าปี 2565 แต่คึกคักได้ไม่เต็มที่ เพราะตรงกับวันอังคาร ทำให้โดนกลบไปด้วยบรรยากาศของวันธรรมดาที่เป็นต้นสัปดาห์ แต่เราคาดว่าวาเลนไทน์ปีหน้า (2567) จะคึกคักมากกว่านี้ เนื่องจากโครงสร้างเศรษฐกิจที่ดีขึ้น
อ้างอิงจาก:
สยามรัฐออนไลน์
สำนักข่าวอินโฟเควสท์
ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
#ISANInsightAndOutlook #อีสาน #สถิติคู่สมรส #Valentine #คู่สมรส #คู่รัก