ข้าวโพดหวานแดงราชินีทับทิมสยาม (Siam Ruby Queen) เป็นข้าวโพดสายพันธุ์กินฝักสดชนิดแรกของโลก ที่มี ดร.ทวีศักดิ์ ภู่หลำ นักปรับปรุงพันธุ์พืชชั้นนำของไทยเป็นผู้คิดค้น โดยเกิดจากการนำข้าวโพดข้าวเหนียวแดงไปผสมกับข้าวโพดหวานสีเหลืองจนได้ออกมาเป็นข้าวโพดหวานแดงราชินีทับทิมสยามเมื่อปี 2555 ซึ่งเป็นการผสมสายพันธุ์แบบดั้งเดิม (Conventional Breeding) ไม่ใช่การตัดแต่งพันธุกรรม
.
ข้าวโพดหวานแดงสายพันธุ์นี้มีสารแอนโทไซยานิน (anthocyanin) ที่มีความสามารถในการต่อต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยยับยั้งเซลล์มะเร็ง บำรุงสายตา บำรุงหัวใจ แต่จะสูญเสียไปหากนำไปต้ม จึงแนะนำให้กินเมล็ดจากฝักสด เพราะจะอร่อย (หวานกรอบในตัว) มีกลิ่นหอม และได้ประโยชน์มากกว่า ส่วนไหมกับซังที่คนนิยมทิ้งก็สามารถนำมาต้มเพื่อสกัดสารตัวนี้เก็บไว้ดื่มได้เช่นกัน
.
ปา ไชยปัญหา ปราชญ์เกษตรบ้านกุดปลาเข็ง ต.โนนค่า อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา เจ้าของไร่อรหันต์ เล่าต่อไปถึงสูตรสำเร็จการปลูกข้าวโพดหวานแดงราชินีทับทิมสยาม ข้าวโพดกินฝักสดที่อร่อย แถมอุดมไปด้วยคุณประโยชน์
.
ข้าวโพดชนิดนี้ระยะเวลาปลูกถึงเก็บเกี่ยวผลผลิต 65-70 วันนับตั้งแต่หยอดเม็ด ระยะห่างระหว่างหลุม 30 ซม. ส่วนระยะห่างระหว่างแถว แล้วแต่ความสะดวกและพื้นที่ของผู้ปลูก การเตรียมหลุมปลูกเหมือนการปลูกข้าวโพดปกติทั่วไป ขุดหลุม 1 หน้าจอบ ขนาด 30×30×30 ซม. ใส่อินทรียวัตถุหรือมูลสัตว์ที่หมักแล้ว (ที่นี่ใช้มูลไส้เดือนกับแกลบดำ) คลุกเคล้ากับดิน รดน้ำให้ชุ่ม แล้วหยอดเมล็ดลงหลุมละ 2 เมล็ด ไม่เกิน 5 วัน เมล็ดจะงอก
.
ตั้งแต่สัปดาห์ที่ 2 เป็นต้นไป ให้หมั่นดูแลและระมัดระวังเรื่องของหนอนที่เข้ามาเจาะข้าวโพด โดยที่นี่จะเน้นที่การเดินดูแลแปลงอยู่เสมอ โดยเฉพาะช่วงกลางคืน ให้ใช้ไฟส่องดูต้น ถ้ามีหนอนเมื่อหนอนเจอแสงมันจะขยับตัว ให้ใช้ไม้คีบหนอนออกจากกอต้นข้าวโพดไปทำลาย พร้อมกับใช้น้ำหมักชีวภาพบำรุงและป้องกันร่วมไปด้วย
.
ผ่านเข้าสัปดาห์ที่ 3 ต้นจะเริ่มสูงประมาณ 1 ฟุต เริ่มให้ปุ๋ยยูเรียหลุมละครึ่งช้อนโต๊ะ สัปดาห์ที่ 4 และ 5 เพิ่มปุ๋ยเป็นหลุมละ 1 ช้อนโต๊ะ เข้าสัปดาห์ที่ 6 เปลี่ยนเป็นปุ๋ยสูตรเสมอ และพอถึงสัปดาห์ที่ 7 และ 8 เปลี่ยนเป็นปุ๋ยสูตร 8-24-24 ปริมาณเท่าเดิมเพื่อเพิ่มความหวาน จนถึงวันเก็บเกี่ยว
.
สำหรับเคล็ดลับการปลูกให้ได้ผลผลิตดีมีคุณภาพ ควรรดน้ำข้าวโพดอย่างสม่ำเสมอ หมั่นรดน้ำให้ชุ่มแต่อย่าแฉะ ต้นละ 1-2 ฝักเท่านั้น เพื่อให้ต้นนำสารอาหารไปหล่อเลี้ยงฝักที่เก็บเอาไว้ได้อย่างเต็มที่ ที่สำคัญหมั่นดูแลต้นข้าวโพดป้องกันหนอนเจาะข้าวโพดอย่างสม่ำเสมอ ตั้งแต่สัปดาห์ที่ 2 ไปจนถึงเก็บเกี่ยวผลผลิต
.
ทั้งนี้ หากคำนวณง่าย ๆ 1 ไร่ หยอดเมล็ดหลุมละ 2 เมล็ด จะได้ต้นข้าวโพดทั้งหมด 9,600 ต้น ประมาณการเสียหายในการปลูก 10% ไว้ต้นละ 1 ฝัก จะได้ผลผลิตทั้งสิ้น 8,640 ฝัก ขายฝักละ 10 บาท ได้เงินทั้งสิ้น 86,400 บาท หักค่าใช้จ่ายต้นทุนค่าเมล็ดพันธุ์ ปุ๋ย มูลไส้เดือน แกลบ รวมทั้งสิ้น 16,400 บาท (ไม่รวมค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าแรงงาน) การปลูกข้าวโพดชนิดนี้จะสร้างรายได้ไร่ละไม่น้อยกว่า 70,000 บาท ส่วนช่องทางการตลาดโดยเฉพาะออนไลน์ ก็เรียกได้ว่ากระแสตอบรับดี ปัจจุบันมีออเดอร์การสั่งจองแทบทุกวัน
.
อย่างไรก็ตาม ได้มีผู้ประกอบการเริ่มนำข้าวโพดสายพันธุ์นี้ไปต่อยอดในเชิงอุตสาหกรรมมากขึ้น เช่น อาหารและเครื่องดื่ม (ซาลาเปาทับทิมสยาม น้ำนมข้าวโพด) ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และเครื่องสำอาง (ครีมทาผิว แชมพู)
.
ที่มาจาก : https://kku.world/cjl84
https://kku.world/hgwk3
https://kku.world/myutb
.
#ข้าวโพดหวานแดงราชินีทับทิมสยาม #Siam Ruby Queen