“LONG STAY” Talk ศักยภาพของอีสานสู่การเป็นจุดหมายใหม่ที่ใครก็อยากมา “ลองอยู่”

บทความนี้ ISAN Insight พามาเบิ่ง ประเด็นที่น่าสนใจจาก “LONG STAY” Talk ยุทธศาสตร์การเปลี่ยนผู้มาเยือนให้เป็น “ผู้สนับสนุน” และผู้อยู่อาศัย ในงาน*️⃣ เทศกาลอีสานสร้างสรรค์ 2568

🟨 : ศักยภาพของอีสานสู่การเป็นจุดหมายใหม่ที่ใครก็อยากมา “ลองอยู่”

โดย Xiaokun Gao, Country Manager – Sanook, Image Future (Thailand) Ltd / Tencent

 

โอกาสใดที่อีสานมีเพื่อดึงดูดนักลงทุนและนักท่องเที่ยวจีนให้มาลองอยู่ระยะยาว?

อีสานมีศักยภาพและโอกาสหลายประการในการดึงดูดนักลงทุนและนักท่องเที่ยวจีนให้มาลองพำนักระยะยาว โดยสิ่งสำคัญที่ตลาดจีนมองหาคือ การบริการและผู้คน ผลิตภัณฑ์ และประสบการณ์

โอกาสสำหรับนักลงทุนและผู้ประกอบการจีน:

  • ผลิตภัณฑ์เกษตรกรรม: ตลาดจีนกำลังมองหา ผลิตภัณฑ์ที่มีความแตกต่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร เนื่องจากผู้บริโภคชาวจีนต้องการสินค้าพรีเมียม คุณภาพดี ในราคาที่สมเหตุสมผล อีสานมี ศักยภาพทางเศรษฐกิจและการเกษตรที่แข็งแกร่งมาก ทำให้เป็นตลาดขนาดใหญ่สำหรับผลิตภัณฑ์เกษตรที่จะเข้าสู่จีน
    • การสร้างแบรนด์: การสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งสำหรับผลิตภัณฑ์ เช่น ข้าวหอมมะลิ สามารถเพิ่มมูลค่าและราคาได้อย่างมากในหมู่ผู้บริโภคชาวจีน แทนที่จะผ่านกระบวนการค้าส่งเพียงอย่างเดียว
    • ปัจจุบันยังไม่มีแบรนด์จากอีสานที่เป็นที่จดจำในตลาดจีนเท่ากับแบรนด์เครื่องสำอาง Mistine หรือน้ำมะพร้าว IF ที่มาจากไทย
  • การใช้ประโยชน์จากชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยขอนแก่น: มหาวิทยาลัยขอนแก่นเป็นที่รู้จักและ มีชื่อเสียงอย่างมากในหมู่นักศึกษาจีน ซึ่งอาจเป็นจุดเริ่มต้นในการนำเสนอเสน่ห์ของอีสานให้กับนักธุรกิจจีน โดยเฉพาะผู้ที่มองหาโอกาสด้านการศึกษา
  • การเชื่อมโยงผ่านชุมชนอีสานในกรุงเทพฯ: แทนที่จะให้นักลงทุนเดินทางมาอีสานโดยตรง วิธีที่รวดเร็วกว่าคือ การสร้างช่องทางและระบบนิเวศสำหรับคนอีสานในเมืองใหญ่ เช่น กรุงเทพฯ เพื่อให้นักธุรกิจจีนสามารถเข้าถึงและเชื่อมโยงกับคนอีสานในกรุงเทพฯ ได้ง่ายขึ้น ซึ่งคนเหล่านี้สามารถช่วยประสานงานธุรกิจในอีสานได้

โอกาสสำหรับนักท่องเที่ยวจีนที่มาพำนักระยะยาว (Long Stay):

  • การสร้างชุมชน: ปัจจุบันเชียงใหม่ยังเป็นจุดหมายปลายทางหลักสำหรับการพักระยะยาวของชาวจีน เนื่องจากมีชุมชนชาวจีนที่พักอาศัยอยู่แล้วหลายหมื่นคน สำหรับอีสาน สิ่งสำคัญคือการ ดึงดูดผู้คนให้เข้ามาและสร้างชุมชนขึ้นก่อน เพื่อให้เกิดการแบ่งปันข้อมูลและประสบการณ์ ซึ่งจะช่วยดึงดูดผู้คนได้มากขึ้น
  • การตอบสนองความต้องการของกลุ่มนักศึกษา/คนวัยทำงานที่พักจากการเรียน/ทำงาน (Experienced Children):
    • กลุ่มนี้มองหาการพำนักระยะยาวเพื่อหลีกหนีชีวิตประจำวัน และคาดหวัง ความสะดวกสบายในการเข้าถึงข้อมูล อาหาร ที่พัก และบริการต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย
    • ขอนแก่นมีศักยภาพสูงสำหรับกลุ่มนี้ สิ่งที่ต้องทำคือการ สร้างข้อมูลเป็นภาษาจีนที่เข้าถึงได้ง่าย และเผยแพร่บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของจีน เพื่อให้พวกเขารู้ว่าสามารถใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ได้อย่างง่ายดายในอีสาน
  • การตอบสนองความต้องการของกลุ่มนักท่องเที่ยวแบบครอบครัว (Family Stays):
    • กลุ่มนี้มักมาเที่ยวในช่วงวันหยุดยาว เช่น ตรุษจีน โดยใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์
    • จุดหมายปลายทางจะต้อง เป็นมิตรกับผู้สูงอายุ (เช่น มีป้ายหรือข้อมูลภาษาจีนที่อ่านง่าย เพราะผู้สูงอายุส่วนใหญ่พูดภาษาอื่นไม่ได้นอกจากจีน)
    • ต้อง เป็นมิตรกับเด็ก (เช่น มีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับเด็ก และสถานที่ที่เข้าถึงได้สะดวกสำหรับเด็ก)
  • การสร้างจุดเด่นหรือ Flagship Product/Experience:
    • ควรมี หนึ่งหรือสองสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์หรือเป็นจุดขายสำคัญ ที่ทำให้ผู้คนจดจำอีสานหรือขอนแก่นได้
    • เทศกาลสงกรานต์ในขอนแก่น เป็นเทศกาลขนาดใหญ่และน่าสนใจ ที่สามารถเป็นจุดขายที่ง่ายที่สุดในการสื่อสารกับนักท่องเที่ยวจีน
    • ผลิตภัณฑ์เด่น เช่น ข้าวหอมมะลิ หรือน้ำตาลอ้อยที่ต้องมีการสร้างแบรนด์และโปรโมทให้เป็นที่จดจำ
    • วัฒนธรรมที่โดดเด่น เช่น หมอลำ ก็สามารถผลักดันให้เป็นที่จดจำในหมู่ชาวจีนได้เช่นกัน

สิ่งที่ต้องเตรียมพร้อมและข้อควรระวัง:

  • โครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคม: เที่ยวบินจากเมืองใหญ่ในจีน (เช่น ปักกิ่งหรือเซี่ยงไฮ้) มายังอีสาน (โดยต้องแวะกรุงเทพฯ) ใช้เวลานานกว่า 10 ชั่วโมง ซึ่งเหนื่อยล้ามาก จึงควร มุ่งเน้นตลาดในประเทศจีนที่ใกล้กับประเทศไทยมากขึ้น เช่น ยูนนาน กวางตุ้ง กวางสี ซึ่งใช้เวลาบินเพียง 2-3 ชั่วโมง
  • ข้อมูลที่เป็นภาษาจีน: จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับกลุ่มนักศึกษาที่ต้องการใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์ และสำหรับผู้สูงอายุในกลุ่มครอบครัวที่ไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้
  • ความปลอดภัย: ความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญที่สุด หากเกิดประเด็นเกี่ยวกับความปลอดภัย นักท่องเที่ยวจีนจะหายไปอย่างแน่นอน

แพลตฟอร์มดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพในการทำการตลาดในจีน:

  • สำหรับการสร้างการรับรู้ในวงกว้าง (Mass Publicity): แนะนำ แพลตฟอร์มสตรีมมิง เช่น Tencent Video เพื่อสร้างรายการหรือสารคดีแนะนำอีสานให้เป็นที่คุ้นเคยในหมู่ผู้ชมชาวจีน
  • สำหรับการสื่อสารระดับบุคคล (Personal Level): ควรใช้ แพลตฟอร์มที่ใช้ระบบอัลกอริทึมแนะนำ เช่น Douyin (TikTok ในจีน) และ Xiaohongshu ซึ่งจะนำเสนอข้อมูลตามความสนใจของผู้ใช้ และเหมาะสำหรับการสร้างแรงบันดาลใจให้คนมาติดตาม
  • สำหรับการแปลงเป็นการกระทำจริง (Conversion): แนะนำ WeChat เนื่องจากมีฟังก์ชันที่สามารถรองรับการให้ข้อมูลที่ตรงตามความต้องการ และสร้างกลุ่มเฉพาะสำหรับผู้สนใจอีสาน (เช่น กลุ่มผู้ที่อยากมาเที่ยวอีสาน หรือกลุ่มผู้ที่อยากลงทุนในอีสาน) เพื่อนำไปสู่การตัดสินใจจริง

ตัวอย่างแบรนด์ไทยครองใจผู้บริโภคจีนที่ผู้ประกอบการอีสานทำตามได้

จากการตรวจสอบแหล่งข้อมูล แบรนด์ไทยที่ประสบความสำเร็จในการดึงดูดผู้บริโภคชาวจีนและเป็นที่จดจำในกลุ่มผู้บริโภคชาวจีนในปีนี้ มีอยู่ 2 แบรนด์หลัก ได้แก่:

  • มิสทิน (Mistine): เป็นแบรนด์เครื่องสำอางที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่ผู้บริโภคชาวจีน
  • น้ำมะพร้าวแบรนด์ IF (IF Coconut Water): แบรนด์นี้ได้ครองใจผู้บริโภคในเมืองใหญ่ๆ ของจีนไปแล้ว โดยผู้บริโภคชาวจีนมองว่าน้ำมะพร้าว IF มาจากประเทศไทยและมีรากฐานแบบออร์แกนิกมาก

ผู้ให้ข้อมูลยังระบุเพิ่มเติมว่า แบรนด์ที่ประสบความสำเร็จเหล่านี้ยังไม่ได้มาจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร แต่มาจากกลุ่มเครื่องสำอางและเครื่องดื่ม

 

จับชีพจรจีน: ท่องเที่ยว ลงทุน อีสาน

ชาวจีนพิจารณาเลือกสถานที่สำหรับการท่องเที่ยวและการลงทุน มีหลายปัจจัยสำคัญที่พวกเขาให้ความสนใจ ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็นหลายด้าน ดังนี้:

สิ่งที่ตลาดจีนมองหาโดยรวม:

  1. การบริการและผู้คน (Service and People)
  2. ผลิตภัณฑ์ (Product)
  3. ประสบการณ์ (Experience)

 

โอกาสสำหรับนักลงทุนและผู้ประกอบการชาวจีน:

  1. ความแตกต่างของผลิตภัณฑ์ (Product Differentiations): ตลาดจีนมองหาผลิตภัณฑ์ที่มีจุดเด่นเฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร โดยเฉพาะสินค้าเกษตรกรรม ซึ่งอีสานมีศักยภาพทางเศรษฐกิจและการเกษตรที่แข็งแกร่งมาก
  2. การสร้างแบรนด์ (Branding): การสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากจะช่วยเพิ่มมูลค่าและราคาของผลิตภัณฑ์ได้อย่างมาก ตัวอย่างเช่น ข้าวหอมมะลิที่สามารถสร้างแบรนด์ให้เป็นที่จดจำในหมู่ผู้บริโภคชาวจีนได้
  3. บุคลากร (People): คนไทยที่เคยศึกษาที่จีน หรือคนจีนในประเทศไทย เป็นปัจจัยที่สำคัญ นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยขอนแก่นเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่นักเรียนจีน ซึ่งอาจเป็นช่องทางในการดึงดูดนักธุรกิจจีนได้
  4. การเชื่อมโยงผ่านกรุงเทพฯ (Connecting via Bangkok): สำหรับนักลงทุน การสร้างระบบนิเวศน์หรือช่องทางให้อีสานสามารถเชื่อมโยงกับชุมชนชาวอีสานในกรุงเทพฯ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการติดต่อธุรกิจ จะเป็นวิธีที่รวดเร็วกว่าการให้นักลงทุนเดินทางมาอีสานโดยตรง

ปัจจัยดึงดูดสำหรับการท่องเที่ยวแบบ “ลองอยู่” (Long Stay Tourism):

  1. การสร้างชุมชน (Community Building): ปัจจัยที่สำคัญที่สุดคือการสร้างชุมชนของชาวจีนที่มาพักระยะยาว ตัวอย่างเช่น เชียงใหม่มีชาวจีนที่มาลองอยู่เป็นหลักหมื่นคน ซึ่งทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูลและช่วยเหลือกัน สำหรับอีสาน สิ่งแรกที่ต้องทำคือดึงดูดผู้คนให้เข้ามาและสร้างชุมชนขึ้น
  2. ความสะดวกในการเข้าถึงข้อมูล (Information Accessibility):
    • สำหรับนักท่องเที่ยวกลุ่มนักเรียนหรือคนวัยทำงานที่ต้องการพักจากชีวิตประจำวัน (Experienced Travelers): พวกเขาต้องการความสะดวกสบายในการเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับอาหาร การเดินทาง ที่พัก และข้อมูลทั่วไปในชีวิตประจำวันได้อย่างง่ายดาย เพื่อให้ได้สัมผัสชีวิตแบบ “สโลว์ไลฟ์” ที่แท้จริง
    • สำหรับครอบครัว (Family Trips): สถานที่ท่องเที่ยวต้องเป็นมิตรกับผู้สูงอายุและเด็ก ผู้สูงอายุส่วนใหญ่พูดภาษาอื่นไม่ได้นอกจากภาษาจีน ดังนั้นป้ายหรือข้อมูลในภาษาจีน (เช่นในสิงคโปร์หรือญี่ปุ่น) จะเป็นจุดแข็ง และต้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับเด็ก
    • กิจกรรมร่วมกัน (Activities and Engagement): การจัดกิจกรรมหรือสมาคมที่ช่วยให้นักท่องเที่ยวจีนสามารถเชื่อมต่อและมีปฏิสัมพันธ์กับคนจีนด้วยกันหรือมีส่วนร่วมกับกิจกรรมท้องถิ่นได้
  3. โครงสร้างพื้นฐานและการคมนาคม (Infrastructure and Transportation):
    • การเดินทางที่สะดวก (Convenient Travel): การเดินทางจากจีนมายังอีสานโดยเฉพาะจากเมืองใหญ่เช่นปักกิ่งหรือเซี่ยงไฮ้ ใช้เวลานานมาก (กว่า 10 ชั่วโมง) และเหนื่อยล้า
    • เน้นตลาดในมณฑลที่ใกล้กว่า (Focus on Closer Provinces): การมุ่งเน้นการทำการตลาดในมณฑลของจีนที่อยู่ใกล้ประเทศไทยมากขึ้น เช่น ยูนนาน กวางตุ้ง กวางสี ซึ่งใช้เวลาเดินทางโดยเครื่องบินเพียง 2-3 ชั่วโมง จะเป็นแนวทางที่รวดเร็วกว่าในการดึงดูด
  4. การสร้างจุดเด่นและแบรนด์ (Branding and Flagship Products/Events):
    • ผลิตภัณฑ์/เทศกาลที่เป็นเอกลักษณ์ (Signature Products/Festivals): การมีผลิตภัณฑ์หรือเทศกาลที่โดดเด่นเพียงหนึ่งหรือสองอย่างที่สามารถเชื่อมโยงกับอีสานหรือขอนแก่นได้ง่าย ตัวอย่างเช่น เทศกาลสงกรานต์ที่ขอนแก่นซึ่งเป็นงานใหญ่และน่าประทับใจ
    • ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น (Local Products): เช่น ข้าวหอมมะลิ หรือน้ำตาลอ้อย ที่สามารถสร้างแบรนด์ให้เป็นที่จดจำได้
    • วัฒนธรรม (Culture): เช่น หมอลำ ที่สามารถผลักดันให้เป็นที่รู้จักและจดจำในกลุ่มผู้บริโภคชาวจีนได้
    • แบรนด์ที่ประสบความสำเร็จในปัจจุบัน: แม้จะยังไม่มีแบรนด์จากอีสานที่เป็นที่จดจำในจีน แต่แบรนด์ไทยที่ประสบความสำเร็จในจีนแล้วคือเครื่องสำอาง Mistine และน้ำมะพร้าว IF
  5. ช่องทางการสื่อสารและการตลาดดิจิทัล (Digital Marketing Platforms):
    • ระดับ Mass (Mass Publicity): หากต้องการสร้างความคุ้นเคยกับชื่อ “อีสาน” ในวงกว้าง ควรใช้แพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง (เช่น Tencent Video) หรือแพลตฟอร์มข่าว โดยอาจทำเป็นสารคดีหรือซีรีส์เพื่อสร้างภาพจำ
    • ระดับบุคคลและการแนะนำ (Personal Level / Recommendation): สำหรับการสร้างความคุ้นเคยในระดับบุคคล ควรใช้แพลตฟอร์มที่ใช้ระบบ Algorithm ในการแนะนำ เช่น Douyin (TikTok ในจีน) และ Xiaohongshu ซึ่งจะช่วยให้ข้อมูลเข้าถึงผู้ที่สนใจได้โดยตรง
    • ระดับการซื้อขาย/การเปลี่ยนแปลง (Conversion): หากต้องการให้เกิดการซื้อจริงหรือการเดินทางจริง ควรใช้ WeChat ซึ่งมีฟังก์ชันที่รองรับการสร้างกลุ่มที่สนใจ เช่น กลุ่มคนสนใจอีสาน, กลุ่มนักลงทุนในอีสาน เพื่อให้สามารถสื่อสารข้อมูลที่ตรงกับความต้องการและสร้างยอดผู้ติดตามที่แข็งแกร่งได้

สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง (Things to Avoid):
◦ ความปลอดภัย (Safety): ปัจจัยที่สำคัญที่สุดและเป็น “ข้อห้าม” คือเรื่องของความปลอดภัย หากมีประเด็นเกี่ยวกับความปลอดภัยเกิดขึ้น นักท่องเที่ยวจีนจะหายไปอย่างแน่นอน

 

“LONG STAY” Talk ยุทธศาสตร์การเปลี่ยนผู้มาเยือนให้เป็น “ผู้สนับสนุน” และผู้อยู่อาศัย

“LONG STAY” Talk : “ลอง STAY” Khon Kaen New Destination

 

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Scroll to Top