พาเปิดเบิ่ง ความจริงที่น่าตกใจ! “พยาบาลอีสาน” แบกรับภาระหนักสุดในประเทศ

ในปี 2567 สัดส่วนพยาบาลต่อประชากรภาคอีสาน อยู่ที่พยาบาล 1 คนต่อจำนวนประชากร 434 คน ซึ่งสัดส่วนจำนวนพยาบาลในภาคอีสานแต่ละจังหวัดกลับมีตัวเลขที่น่าเป็นห่วงเป็นอย่างมาก เพราะ WHO หรือองค์การอนามัยโลกได้แนะนำสัดส่วนมาตรฐานเอาไว้ โดยกำหนดว่าสัดส่วนที่เหมาะสมคือ พยาบาล 1 คนต่อจำนวนประชากร 200 คน นั่นเอง

โดย 5 จังหวัดแรกที่พยาบาลแบกรับภาระมากที่สุด

  1. หนองบัวลำภู มีสัดส่วนพยาบาล 1 คนต่อจำนวนประชากร 679 คน
  2. บึงกาฬ มีสัดส่วนพยาบาล 1 คนต่อจำนวนประชากร 574 คน
  3. ชัยภูมิ มีสัดส่วนพยาบาล 1 คนต่อจำนวนประชากร 553 คน
  4. นครพนม มีสัดส่วนพยาบาล 1 คนต่อจำนวนประชากร 537 คน
  5. ศรีสะเกษ มีสัดส่วนพยาบาล 1 คนต่อจำนวนประชากร 536 คน

สำหรับในจังหวัดที่พยาบาลแบกรับภาระน้อยที่สุดนั้น คือ จังหวัดขอนแก่น โดยมีสัดส่วนพยาบาล 1 คนต่อจำนวนประชากรเพียงแค่ 258 คน ซึ่งถือว่ามีสัดส่วนพยาบาลที่ไม่ห่างจากสัดส่วนมาตรฐานมากนัก

 

🩺พยาบาลอีสาน แบกรับภาระหนักสุดในประเทศ

จังหวัดในภาคอีสานจำนวนมากกำลังเผชิญ “วิกฤตบุคลากรทางการแพทย์” อย่างรุนแรง หนึ่งในนั้นคือพยาบาล จังหวัดหนองบัวลำภูแบกรับประชาชนต่อพยาบาลสูงสุดถึง 679:1 บึงกาฬ 574:1 และชัยภูมิ 553:1 ซึ่งนับเป็นสัดส่วนที่หนักที่สุดในประเทศ สะท้อนปัญหาเชิงโครงสร้างของภาคอีสาน ที่แม้ประชากรจะมีจำนวนมากแต่กลับขาดการกระจายทรัพยากรอย่างเท่าเทียมนั่นเอง

สาเหตุสำคัญที่ทำให้พยาบาลในจังหวัดเหล่านี้ต้องแบกรับภาระคนไข้จำนวนมาก มาจากความเหลื่อมล้ำเชิงเศรษฐกิจที่เรื้อรัง จังหวัดที่มีภาระสูงมักเป็นจังหวัดที่มีรายได้เฉลี่ยต่อหัวต่ำ อย่างเช่น หนองบัวลำภูและบึงกาฬ ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมและยังพึ่งพาระบบสาธารณสุขของรัฐเป็นหลัก ภาระของโรงพยาบาลรัฐจึงพุ่งสูง ขณะที่งบประมาณและจำนวนบุคลากรกลับไม่ขยายตัวตามจำนวนประชากร 

นอกจากนี้ ยังเกิดภาวะ “สมองไหล” ของบุคลากรทางการแพทย์จากพื้นที่ชนบทเข้าสู่จังหวัดใหญ่ เช่น ขอนแก่น หรืออุบลราชธานี ซึ่งมีโรงพยาบาลศูนย์ มหาวิทยาลัยแพทย์ และโอกาสทางอาชีพที่มั่นคงกว่า พยาบาลในพื้นที่ห่างไกลจึงต้องทำงานเกินกำลังจนส่งผลต่อคุณภาพชีวิตและคุณภาพการบริการในระยะยาวนั่นเอง

ในอีกด้านหนึ่ง ความอ่อนแอของโครงสร้างเศรษฐกิจท้องถิ่นยังมีผลโดยตรงต่อระบบสุขภาพ เมื่อเศรษฐกิจจังหวัดไม่เติบโต โรงพยาบาลก็ขาดงบประมาณ ขาดเครื่องมือแพทย์ และขาดแรงจูงใจให้คนรุ่นใหม่กลับมาทำงานในบ้านเกิด ปัญหานี้จึงไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของสาธารณสุข แต่เป็นภาพสะท้อนความไม่เท่าเทียมทางการพัฒนา ระหว่างเมืองศูนย์กลางกับเมืองรองในภาคอีสาน

ขณะที่จังหวัดขอนแก่นกลับตรงข้าม ด้วยอัตราประชาชนต่อพยาบาลเพียง 258:1 เพราะเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ การศึกษา และการแพทย์ของภูมิภาค มีโรงเรียนพยาบาลและสถาบันฝึกอบรมจำนวนมาก จึงดึงดูดบุคลากรคุณภาพสูงและงบประมาณได้มากกว่า

อย่างไรก็ตาม การที่พยาบาลอีสานจำนวนมากยังคงทำงานหนักภายใต้ทรัพยากรจำกัด ถือเป็นพลังเชิงบวกที่น่าชื่นชม พวกเขาไม่เพียงรักษาผู้ป่วยเท่านั้น โดยเฉพาะช่วงหลังโควิด-19 พยาบาลท้องถิ่นมีบทบาทสำคัญในการดูแลผู้สูงอายุ การรณรงค์วัคซีน และการให้ความรู้ด้านสุขภาพอีกด้วย

ปัญหาพยาบาลขาดแคลนในอีสานไม่ใช่เพียงตัวเลขเท่านั้น แต่คือภาพสะท้อนของ “ความไม่เท่าเทียมเชิงโครงสร้าง” ที่ยังฝังลึกในระบบเศรษฐกิจและสังคมไทย จังหวัดที่พยาบาลต้องดูแลประชาชนหลายร้อยชีวิตต่อคน มักเป็นจังหวัดที่ขาดโอกาสทางเศรษฐกิจ ขณะที่จังหวัดที่มีฐานเศรษฐกิจมั่นคงย่อมมีระบบสุขภาพที่เข้มแข็งกว่า ดังนั้น หากประเทศไทยต้องการสร้างความยั่งยืนอย่างแท้จริง สุขภาพของคนอีสานต้องไม่ถูกมองเป็นเพียงภาระงบประมาณ แต่ต้องถูกยกระดับให้เป็นทุนมนุษย์ที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจภูมิภาคในอนาคต

 

อ้างอิงจาก:

– สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข

– Agenda

 

ติดตาม ISAN Insight & Outlook ทุกช่องทางได้ที่

https://linktr.ee/isan.insight

 

#ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ISAN #อีสานอินไซต์ #Business #Economy #ธุรกิจ #เศรษฐกิจ #ธุรกิจอีสาน #เศรษฐกิจอีสาน #หมออีสาน #พยาบาลในอีสาน #สัดส่วนพยาบาล #พยาบาล #วิกฤตสาธารณสุข #อีสาน #บุคลากรทางการแพทย์ #สุขภาพคนอีสาน 

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Scroll to Top