June 2023

พามาเบิ่ง เป็นหยังคือเอิ้นว่า “ทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ 2566”

“ทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ” เริ่มมีการปลูกอย่างจริงจัง เมื่อปี 2531 ทุเรียนให้ผลผลิตครั้งแรกในปี 2537 จังหวัดศรีสะเกษเป็นจังหวัดเดียวในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างมีการนำ ตันพันธุ์ทุเรียนพันธุ์หมอนทองมาทดลองปลูก โดยปลูกครั้งแรกปี 2528 ที่อำเภอขุนหาญ ซึ่งปรากฏว่า ได้ผลดี ทุเรียนเจริญเติบโต ให้ผลผลิตสูงและคุณภาพดี เนื่องจากดินบริเวณนี้เป็นดินที่เกิดมาจากภูเขาไฟโบราณผุพังมาจากหินบะซอลล์ มีธาตุอาหารชนิดต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อพืชปริมาณสูง อำเภอขุนหาญคือ แหล่งกำเนิดการปลูกไม้ผล โดยเฉพาะทุเรียนของจังหวัดศรีสะเกษ จากนั้นก็มีการปลูกไม้ผลชนิดอื่น ๆ ตามมาก่อนขยายพื้นที่ปลูกไปยังอำเภอกันทรลักษ์ และอำเภอศรีรัตนะในเวลาต่อมา ปัจจุบันศรีสะเกษเป็นแหล่งเพาะปลูกไม้ผลมากมายหลายชนิดในภาคอีสาน จนได้รับการเรียกขานว่าเป็นดินแดนมหัศจรรย์ และทุเรียนศรีสะเกษ เป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของจังหวัดอีกด้วย คุณสมบัติพิเศษ คือ เนื้อทุเรียนแห้ง นุ่มเหนียว เส้นใยละเอียด มีกลิ่นหอมไม่ฉุนมาก รสซาติค่อนข้างหวาน ลักษณะภูมิอากาศ โดยทั่วไปอากาศจะร้อนจัดในช่วงฤดูร้อน และค่อนข้างหนาวในช่วงฤดูหนาว ส่วน ฤดูฝนจะมีฝนตกหนักในเดือนกันยายน จะตกหนักในพื้นที่ตอนกลางและตอนใต้ของจังหวัด สำหรับการเก็บเกี่ยว ช่วงระยะประมาณปลายเดือนพฤษภาคม – ต้นเดือนมิถุนายน แล้วแต่สภาพภูมิอากาศของแต่ละปี โดยจะออกช้ากว่าทุเรียนภาคตะวันอก 1 เดือน และก่อนทุเรียนภาคใต้จะออกสู่ตลาด 1 เดือนเช่นกัน นอจากนี้”ทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ”เป็น “ทุเรียนภูเขาไฟ GI” สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ เป็นทุเรียนที่อัตลักษณ์เฉพาะ กล่าวคือ มีอัตลักษณ์ไม่เหมือนใคร อ้างอิงจาก: – สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร – ฐานเศรษฐกิจ ติดตาม ISAN Insight & Outlook ได้ที่ Instagram : https://www.instagram.com/isan.insight.and.outlook/ Website : https://isaninsight.kku.ac.th Youtube : https://youtube.com/@ISANInsightOutlook #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์#Business #ธุรกิจ #ธุรกิจอีสาน #ทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ #ทุเรียนภูเขาไฟ #ทุเรียน #GI

พามาฮู้จัก “ตำมั่ว” จากร้านอาหารข้างทาง เติบโตจนขายบนห้าง ขยายไปไกลถึงต่างประเทศ

หลายคนน่าจะรู้จัก “ตำมั่ว” ร้านนี้ คือ ร้านอาหารไทยสไตล์อีสาน ที่เมื่อก่อนเริ่มจากการเป็นร้านอาหารข้างทาง วันนี้ “ตำมั่ว” เติบโตจนมาขายบนห้างสรรพสินค้า แถมยังขยายไปไกล ถึงต่างประเทศ แล้วเจ้าของร้านนี้ ทำได้อย่างไร ? จุดเริ่มต้นของร้านตำมั่ว เกิดมาตั้งแต่ปี 2532 โดยชื่อเดิมของร้าน ชื่อว่า “นครพนมอาหารอีสาน” โดยผู้ที่เป็นเจ้าของร้านก็คือ คุณแม่ของ คุณศิรุวัฒน์ ชัชวาลย์ แม่ทัพของร้านคนปัจจุบัน สมัยที่ยังใช้ชื่อร้านว่า นครพนมอาหารอีสาน คุณศิรุวัฒน์ เล่าว่าถึงร้านของคุณแม่จะขายดีแค่ไหน แต่ปัญหาคือลูกค้าหลายคนก็ยังจำชื่อร้านไม่ค่อยได้ และร้านเองก็ไม่ใช่แบรนด์แรก ๆ ที่ลูกค้านึกถึง พอเป็นแบบนี้ เขาจึงเริ่มปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง เริ่มตั้งแต่ – เน้นสร้างแบรนด์ให้เป็นที่น่าจดจำ ทำการตลาดมากขึ้น คุณศิรุวัฒน์ รีแบรนด์ใหม่ด้วยชื่อว่า ร้าน “ตำมั่ว” พร้อมทั้งใช้กลยุทธ์การตลาดที่เรียกว่า Music marketing เพื่อทำการโปรโมตร้านอาหารของตนเองผ่านเพลง บ่เป็นหยัง ของ ก้อง ห้วยไร่ เมื่อ 5 ปีที่แล้ว ซึ่งจนถึงวันนี้มีผู้เข้ามารับชมกว่า 72 ล้านครั้ง ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้คนรู้จักร้านตำมั่วมากขึ้นไปอีก – วิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย เพื่อจะได้เสนอสินค้าและบริการที่ตรงใจมากขึ้น คุณศิรุวัฒน์ บอกว่า สิ่งสำคัญแรก ๆ คือ รู้ว่าเรากำลังจะขายอาหารให้ใคร ? เพราะการที่เรารู้ว่าลูกค้าคือใคร จะช่วยให้เราวิเคราะห์ต่อไปได้ว่า ลูกค้ามีกำลังจ่ายได้เท่าไร และอะไรคือสิ่งที่พวกเขาต้องการ ซึ่งทางร้านก็พบว่ากลุ่มลูกค้าของร้านตำมั่วนั้นมีหลากหลาย ทุกเพศ ทุกวัย และมีตั้งแต่กลุ่มรายได้น้อยไปจนถึงรายได้สูง หรือพูดง่าย ๆ คือ อาหารที่ร้านนั้นอยู่ในตลาดแมส นั่นคือ ทุกคนสามารถเข้ามาทานได้ตั้งแต่คนรายได้น้อย มนุษย์เงินเดือนรายได้ปานกลาง ไปจนถึงคนรวย เขาบอกว่า เมื่อรู้แล้วว่า กลุ่มลูกค้าคือกลุ่มแมส ดังนั้นจึงค่อยคิดเรื่องอื่น ๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็นราคาอาหาร การตกแต่งร้าน อุปกรณ์ภายในร้าน – เลือกพันธมิตรดี ๆ เวลาต้องขยายธุรกิจไปในสถานที่ที่เราไม่รู้จักดีพอ เช่น การไปเติบโตในต่างประเทศของตำมั่ว ในลาว เมียนมา และกัมพูชา จะทำผ่านการลงทุนกับพันธมิตรด้วยการขายแฟรนไชส์ ดังนั้นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้เงินลงทุนคือ ทัศนคติของผู้ที่ต้องการมาร่วมธุรกิจ คุณศิรุวัฒน์บอกว่า ถ้าคนที่ต้องการเป็นพันธมิตรรายไหนบอกว่า รสชาติอาหารของตำมั่วอร่อย แต่เขาจะขอปรับรสชาติ ปรับวัตถุดิบตามแบบของตนเองได้ไหม ถ้าเป็นแบบนี้ คุณศิรุวัฒน์จะไม่คุยต่อเลย เพราะเขามองว่า รสชาติและคุณภาพของตำมั่วไม่ว่าทานที่ไหน จะต้องเหมือนกันหมด นี่คือจุดยืนของทางร้าน การเติบโตของตำมั่ว ทำให้ในปี 2559 ตำมั่ว ได้เซ็นสัญญาร่วมธุรกิจกับบริษัทภายในเครือร้านอาหารยักษ์ใหญ่ ที่ชื่อว่า บริษัท เซ็น แอนด์ สไปซี่ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ บริษัท เซ็น …

พามาฮู้จัก “ตำมั่ว” จากร้านอาหารข้างทาง เติบโตจนขายบนห้าง ขยายไปไกลถึงต่างประเทศ อ่านเพิ่มเติม »

เริ่มแล้วเด้อ งานทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษปี 66  23 มิ.ย.-2 ก.ค. 66. ชวนชิมความกรอบนอก นุ่มใน

เริ่มแล้วเด้อ งานทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษปี 66  23 มิ.ย.-2 ก.ค. 66. ชวนชิมความกรอบนอก นุ่มใน   เปิดแล้วอย่างยิ่งใหญ่ งานเทศกาลทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษปี 2566 ชวนนักท่องเที่ยวมาเลือกชิม และซื้อ ทุเรียนภูเขาไฟ GI จากสวนหนึ่งเดียวของไทย เนื้อกรอบนอกนุ่มใน เปรียบดังหัวขบวนรถไฟของดีศรีสะเกษ ณ สนามหน้าศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เดินทางมาเป็นประธานเปิดงาน “เทศกาลทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ” ประจำปี 2566 เพื่อสนับสนุนส่งเสริมเกษตรกร ชาวสวนนำผลผลิตมาจำหน่ายให้กับผู้บริโภคโดยตรง เป็นการสร้างโอกาสทางการตลาด และยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัด มีการให้บริการท่องเที่ยวเชิงเกษตร เพื่อนำนักท่องเที่ยวเข้าชมสวนทุเรียน เลือกชิมและเลือกซื้อ ทุเรียนจากสวน ซึ่งทำให้เกิดรายได้ต่อชาวสวน และสร้างรายได้เข้าจังหวัดศรีสะเกษ โดยมี นายสำรวย เกษกุล ผวจ.ศรีสะเกษ พร้อมหัวหน้าส่วนราชการให้การต้อนรับ   การจัดงานในปี 2566 นี้ ได้จัดขึ้นภายใต้แนวคิดที่เปรียบทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษเสมือนหัวขบวนรถไฟที่ลากตู้ขบวนของดีเมืองศรีสะเกษไปสู่ผู้บริโภค จังหวัดศรีสะเกษด้วยความร่วมมือจากภาครัฐ เอกชน เกษตรกร และชาวจังหวัดศรีสะเกษทุกท่าน จึงได้กำหนดจัดงาน “เทศกาลทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ ปี 2566” ในระหว่างวันที่ 23 มิ.ย.-2 ก.ค. 66 รวมระยะเวลาการจัดงานสิ้น 10 วัน โดยภายในงานจะมีการจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตรโดยเฉพาะทุเรียน และผลไม้อื่นๆ จากกลุ่มแปลงใหญ่และกลุ่มวิสาหกิจชุมชม โดยไม่ต้องกลัวทุเรียนหมดหรือไม่พอขาย นอกจากนี้ยังมีสินค้าเกษตรแปรรูป และผลิตภัณฑ์ชุมชน (OTOP) ตลอดจนการจัดนิทรรศการของหน่วยงานทั้งภาครัฐ และภาคเอกชนเพื่อให้ความรู้แก่ผู้ที่สนใจ รวมทั้งสิ้นกว่า 200 ร้าน   นอกจากภายในงานแล้วนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจังหวัดศรีสะเกษ ยังสามารถเดินทางไปยังสวนที่ผลิตทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ ที่ได้มีการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ได้อีกด้วย ขณะที่ทางจังหวัดศรีสะเกษยังได้มีมาตรการป้องปรามทุเรียนด้อยคุณภาพ โดยจังหวัดศรีสะเกษ ได้มีการปล่อยแถวสารวัตรทุเรียน เพื่อให้ผู้บริโภคได้มั่นใจว่าทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ มีคุณภาพได้มาตรฐานทุกลูก ซึ่งหากประชาชนผู้บริโภค ท่านใดพบเห็นร้านมีการจำหน่วยแอบอ้างนำทุเรียนอื่นมาขายโดยอ้างว่าเป็นทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ หรือ จำหน่วยทุเรียนอ่อนให้ สามารถโทร. เข้ามาแจ้ง หรือ ร้องเรียนได้ที่ 1567 สายด่วนร้องเรียน ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งหากสามารถจับกุมผู้ขายได้จะมีการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดให้ถึงที่สุดทั้งทางแพ่ง และทางอาญา.   อ้างอิงจาก: ไทยรัฐออนไลน์   ติดตาม ISAN Insight & Outlook ได้ที่  Instagram : https://www.instagram.com/isan.insight.and.outlook/  Website : https://isaninsight.kku.ac.th    #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์ #สินค้าGI #ทุเรียนภูเขาไฟ #ศรีสะเกษ  

ไทวัสดุ เร่งบุกอีสาน ลุยเปิดสาขา “เลย” ตลาดอสังหาริมทรัพย์และวัสดุก่อสร้างกำลังมาแฮง

ไทวัสดุ ผู้นำค้าปลีกวัสดุก่อสร้างและสินค้าตกแต่งบ้าน ภายใต้ บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ประกาศแผนการขยายสาขาร้านค้าปลีกวัสดุก่อสร้างในปี 2566 รวมจำนวน 10 สาขา โดยในช่วงครึ่งปีแรกได้มีการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง และล่าสุดในเดือน มิ.ย.นี้ ได้มีการเปิดสาขาใหม่ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ปักหมุด “จังหวัดเลย” เป็นครั้งแรก สำหรับการเปิดสาขาใหม่ที่”เลย” ถือเป็นสาขาที่ 72 ของบริษัท โดยสาขาแห่งนี้มีขนาดพื้นที่กว่า 16,000 ตร.ม โดยรวบรวมสินค้าวัสดุก่อสร้างและของตกแต่งบ้านแบรนด์ดัง มุ่งนำเสนอราคาเป็นมิตร เพื่อขยายตลาดแก่กลุ่มลูกค้าชาวจังหวัดเลยและจังหวัดใกล้เคียง อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ “นายสุทธิสาร จิราธิวัฒน์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ในเครือเซ็นทรัลรีเทล กล่าวว่า การขยายสาขาใหม่ของ ร้านไทวัสดุในปีนี้ จำนวน 10 สาขา เน้นสาขา ทั้งรูปแบบมาตรฐาน (Red Format) และแบบไฮบริด ฟอร์แมท (Hybrid Format) ทำเลยุทธศาสตร์จะเป็นตลาดเมืองเมืองท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ซึ่งบริษัทตั้งเป้าหมายว่า ในสิ้นปีนี้ ไทวัสดุ มีสาขารวม 80 สาขาทั่วประเทศ พร้อมประเมินยอดขายรวมในปีนี้จะเติบโต 15% จากปีก่อน ทั้งนี้หากมาประเมินตลาดการค้าปลีกในจังหวัดเลยมีแนวโน้มขยายตัวดีต่อเนื่อง จากแรงหนุนการเป็นจังหวัดท่องเที่ยวเมืองรองที่สำคัญของประเทศไทย ตามที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้ระบุไว้ และเป็นเมืองที่เดินทางท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี รวมถึงถูกจัดทำเป็นยุทธศาสตร์ท่องเที่ยวเชื่อมโยงไปยังประเทศลาว และต่อไปยังจีน ทั้งนี้ ททท. ระบุว่า นักท่องเที่ยวชาวจีน สามารถเดินทางด้วยรถไฟความเร็วสูงจากคุณหมิง เมืองหลวงของมณฑลยูนนาน ในภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน มายังนครหลวงเวียงจันทน์ สปป. ลาว พร้อมข้ามด่านชายแดนจังหวัดหนองคาย เดินทางเข้าสู่อําเภอปากชม และอําเภอเชียงคาน จังหวัดเลย หรือเลือกผ่านด่านชายแดนท่าลี่ หรือด่านบ้านนากระเซ็งได้เช่นกัน ขณะที่สาขารวมของไทวัสดุในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในปัจจุบันมีจำนวน 14 สาขา รวมใน 12 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดสุรินทร์ บุรีรัมย์ สกลนคร ขอนแก่น อุบลราชธานี ร้อยเอ็ด มหาสารคาม มุกดาหาร อุดรธานี หนองบัวลำภู นครราชสีมา และล่าสุดที่ จังหวัดเลย โดยจังหวัดที่มีสาขามากสุดคือ นครราชสีมา จำนวน 3 สาขา อ้างอิงจาก: https://www.bangkokbiznews.com/business/1075442 ติดตาม ISAN Insight & Outlook ได้ที่ Instagram : https://www.instagram.com/isan.insight.and.outlook/ Website : https://isaninsight.kku.ac.th …

ไทวัสดุ เร่งบุกอีสาน ลุยเปิดสาขา “เลย” ตลาดอสังหาริมทรัพย์และวัสดุก่อสร้างกำลังมาแฮง อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง 7 อันดับอาณาจักรขายปลีกเครื่องประดับที่มีรายได้รวมมากที่สุดในภาคอีสาน .

อันดับที่ 1 บริษัท ห้างทองทองสวย จำกัด จังหวัด ขอนแก่น รายได้รวม 15,680 ล้านบาท กำไรรวม 7,809,214 บาท . อันดับที่ 2 บริษัท เอ็มทีพี บูลเลี่ยน จำกัด จังหวัด ขอนแก่น รายได้รวม 4,624 ล้านบาท กำไรรวม 959,833 บาท . อันดับที่ 3 บริษัท ห้างทองแม่ทองพูล จำกัด จังหวัด ขอนแก่น รายได้รวม 3,073 ล้านบาท กำไรรวม 2,318,411 บาท . อันดับที่ 4 บริษัท ทองกรุงเทพ จำกัด จังหวัด นครราชสีมา รายได้รวม 1,016 ล้านบาท กำไรรวม 325,084 บาท . อันดับที่ 5 บริษัท ห้างทองเยาวราช จำกัด จังหวัด ร้อยเอ็ด รายได้รวม 876 ล้านบาท กำไรรวม 5,053,659 บาท . อันดับที่ 6 บริษัท แสงมณี โคราช จำกัด จังหวัด นครราชสีมา รายได้รวม 752 ล้านบาท กำไรรวม 253,488 บาท . อันดับที่ 7 บริษัท เอ็มทีพี โกลด์ จำกัด จังหวัด ขอนแก่น รายได้รวม 737 ล้านบาท กำไรรวม 780,714 บาท หมายเหตุ: เป็นข้อมูลนิติบุคคล เฉพาะประเภทธุรกิจร้านขายปลีกเครื่องประดับ (รหัสประเภทธุรกิจ 47732) อ้างอิงจาก: – กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ติดตาม ISAN Insight & Outlook ได้ที่ Instagram : https://www.instagram.com/isan.insight.and.outlook/ Website : https://isaninsight.kku.ac.th #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์#Business #ธุรกิจ #ธุรกิจอีสาน #อาณาจักรขายปลีกเครื่องประดับ #ร้านขายปลีกเครื่องประดับ

ชวนเบิ่ง ราคากัญชงที่คนทำธุรกิจเกี่ยวกับกัญชงต้องฮู้

อ้างอิงจาก: – สมาคมการค้าอุตสาหกรรมกัญชงไทย ติดตาม ISAN Insight & Outlook ได้ที่ Instagram : https://www.instagram.com/isan.insight.and.outlook/ Website : https://isaninsight.kku.ac.th #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์ #Business #ธุรกิจ #ธุรกิจอีสาน #กัญชง #ธุรกิจกัญชง

สถานการณ์ยาเสพติดอีสาน เป็นจั้งใด๋ ? 

สถานการณ์ยาเสพติดอีสาน เป็นจั้งใด๋ ?    เมื่อเรามารู้จำนวนคดียาเสพติดกันแล้ว มาดูกันว่า 5 อันดับ ชนิดยาเสพติดที่มีจำนวนคดียาเสพติดสูงสุดมีอะไรกันบ้าง ? และ  พามาดูผลการดำเนินงานด้านการบำบัดยาเสพติด ของสำนักงานเลขานุการคณะกรรมการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด จากกระทรวงสาธารณะสุข    โดยขั้นตอนการบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด แบ่งเป็น 4 ขั้นตอน คือ ขั้นเตรียมการ (Pre-Admission) ความหมาย เป็นการศึกษาประวัติข้อมูล และภูมิหลังผู้ติดยาเสพติด ทั้งจากผู้ขอรับการรักษาและครอบครัว เพื่อชักจูงให้คำแนะนำ และกระตุ้นให้ผู้ติดยาเสพติด มีความตั้งใจในการรักษา การดำเนินการ การสัมภาษณ์ การลงทะเบียนและวิธีการทางการแพทย์ ได้แก่ การตรวจร่างกาย เอกซเรย์ ตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ ชั่งน้ำหนัก ขั้นถอนพิษยา (Detoxification) ความหมาย การบำบัดอาการทางกาย ที่เกิดจากการใช้ยาเสพติด การดำเนินการ การให้ยาชนิดอื่นทดแทน เช่น เมธาโดน ยาสมุนไพรหรือให้เลิกเสพทันทีที่เรียกว่า หักดิบ แบ่งเป็นการถอนพิษแบบผู้ป่วยนอก คือ ไม่ต้องค้างคืนในสถานพยาบาล แต่ต้องรับประทานยาตามเวลาที่กำหนด และแบบผู้ป่วยใน คือ การค้างคืนในสถานพยาบาล ซึ่งนอกจากจะถอนพิษยาแล้ว ยังมีการรักษาโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ รวมทั้งการให้ความรู้ด้วย เช่น การดูแลสุขภาพ การป้องกันโรค เป็นต้น ขั้นตอนการฟื้นฟูสมรรถภาพ (Rehabillitation) ความหมาย เป็นการปรับสภาพร่างกายและจิตใจ ของผู้เลิกยาให้มีความเข้มแขง ปรับเปลี่ยนบุคคลิกภาพและพฤติกรรม ให้สามารถกลับคืนสู่สังคมได้อย่างปกติ การดำเนินการ ใช้กิจกรรมต่าง ๆ ได้แก่ การให้คำแนะนำปรึกษา ทั้งเป็นรายบุคคลและเป็นกลุ่ม การอบรมธรรมะ การสันทนาการ การฝึกอาชีพ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีรุปแบบอื่น ๆ เช่น การฟื้นฟูสมรรถภาพแบบ “ชุมชนบำบัด” ซึ่งเป็นการสร้างชุมชน หรือสังคมจำลองให้ผู้เลิกยาเสพติดมาอยู่รวมกัน เพื่อให้การช่วยเหลือกกันเลียนแบบแปลงพฤติกรรม ฝึกความรับผิดชอบการรู้จักตนเอง และแก้ไขปัญหาอย่างเหมาะสม เพื่อกลับไปดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างปกติ และการฟื้นฟูจิตใจ โดยใช้หลักศาสนา ได้แก่ การนำผู้เลิกยาเสพติดเข้ารับการอุปสมท การศึกษาหลักธรรมทางศาสนา เป็นต้น ขั้นการติดตามดูแล (After-Care) ความหมาย เป็นการติดตามดูแลผู้เลิกยาเสพติดที่ผ่านการบำบัดรักษา ทั้ง 3 ขั้นตอน เพื่อให้คำแนะนำปรึกษา ให้กำลังใจ ทั้งนี้เพื่อมิให้หวนกลับไปเสพยาซ้ำอีก การดำเนินการ การเยี่ยมเยียน โทรศัพท์ นัดพบ ใช้แบบสอบถามและการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด   อ้างอิงจาก:  สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กระทรวงยุติธรรม สำนักงานเลขานุการคณะกรรมการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด กระทรวงสาธารณะสุข    ติดตาม ISAN Insight & Outlook ได้ที่  Instagram : https://www.instagram.com/isan.insight.and.outlook/  …

สถานการณ์ยาเสพติดอีสาน เป็นจั้งใด๋ ?  อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง สถิติคดียาเสพติดของอีสาน

พามาเบิ่ง สถิติคดียาเสพติดของอีสาน   เนื่องจากใกล้ช่วง วันต่อต้านการใช้ยาเสพติดและการลักลอบค้ายาเสพติดสากล หรือ วันยาเสพติดโลก  ถูกกำหนดขึ้นในวันที่ 26 มิ.ย. ทุกปี เพื่อเสริมสร้างการดำเนินการและความร่วมมือในการบรรลุโลกที่ปราศจากยาเสพติด   มื้อนี่ ISAN Insight พามาเบิ่ง สถิติคดียาเสพติดอีสานว่าเป็นจั้งใด๋ ?   อ้างอิงจาก:  สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กระทรวงยุติธรรม   ติดตาม ISAN Insight & Outlook ได้ที่  Instagram : https://www.instagram.com/isan.insight.and.outlook/  Website : https://isaninsight.kku.ac.th    #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์ #คดียาเสพติด #คดียาเสพติดอีสาน   

พามาฮู้จัก “Satom Organic Farm (แซตอม ออร์แกนิก ฟาร์ม)” เกษตรอินทรีย์สุดเริ่ด แห่งอีสาน

“แซตอม” เป็นภาษาของชนพื้นเมืองชาว กวย หรือ กูย ในจังหวัดสุรินทร์ แปลว่า นาที่ตั้งอยู่ริมห้วยบริเวณทุ่งแซตอม ซึ่งเป็นที่ราบลุ่มแม่น้ำลำชีอุดมสมบูรณ์เหมาะสำหรับการเพาะปลูก ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการทำเกษตรกรรมในดินแดนแห่งนี้ คุณสุแทน สุขจิตร ลูกหลานชาวนาแห่งเมืองสุรินทร์ได้พลิกฟื้นผืนดินนี้ไปสู่วิถีเกษตรอินทรีย์ทั้งหมด ที่นี่ปลูกเฉพาะข้าวเมืองสุรินทร์ที่หากินที่อื่นได้ยาก เช่น ข้าวผกาอำปึล หรือ ข้าวดอกมะขาม มีรสชาติเหมือนข้าวโพดข้าวเหนียว หุงแล้วพองตัวเหมือนลูกเดือย ข้าวมะลินิลสุรินทร์ หรือ มะลิดำ มีจุดเด่นที่สัมผัสนุ่ม หุงง่ายไม่ต่างจากข้าวหอมมะลิขาว ข้าวมะลิโกเมนสุรินทร์ หรือ ข้าวมะลิแดง และ ข้าวเหนียวแดง ที่ได้รับรางวัลข้าวเหนียวอร่อย ประจำปี 2563 จากกรมการข้าว อีกทั้ง คุณสุแทนยังได้นำข้าวที่เหลือไปผลิตสุราแช่พื้นเมือง หรือสาโท ซึ่งสาโทของวิสาหกิจชุมชนแซตอม ออร์แกนิก ฟาร์ม สุรินทร์นี้มาทั้งในรูปแบบของสาโทโบราณ รสชาติหวานซ่าสดชื่นและฟิวชั่นสาโท ที่หยิบเอาเทคนิคการทำไวน์องุ่นมาประยุกต์เข้ากับการทำสาโทโบราณ นอกจากจะเก็บไว้ได้นานกว่าแล้วยังมีรสชาติหลากหลายที่ทำมาจากข้าวนานาสายพันธุ์ เช่น ระรื่น ทำจากข้าวเหนียวแดง จุติ ทำจากข้าวเหนียวดำ และ เดอะ แบล็ค จัสมิน ทำจากข้าวมะลินิลสุรินทร์ รวมถึงไวน์ผลไม้ที่หมักจากมะม่วงกะล่อนและกล้วย อ้างอิงจาก: – เว็บไซต์ของบริษัท – Gourmet and cuisine #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์ #Satom #แซตอม #ธุรกิจอีสาน #ธุรกิจ #Business #แซตอมออร์แกนิกฟาร์ม #เกษตรอินทรีย์ #วิสาหกิจชุมชนแซตอม

ปี 2565 มีผู้ใช้รถไฟฟ้าหลายปานใด๋ ? 

ปี 2565 มีผู้ใช้รถไฟฟ้าหลายปานใด๋ ?    กระแสความนิยมเลือกใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบันนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่ภาครัฐออกมาตรการสนับสนุน และมีการลงนามเซ็น MOU ก่อนที่งานจะเริ่ม ทำให้ราคาขายของรถยนต์ไฟฟ้ามีความชัดเจน บางแบรนด์มีราคาถูกลงไปตั้งแต่ 1.6-2.4 แสนบาท   โดยภาครัฐมีเป้าหมายสูงสุดในอุตสาหกรรมรถพลังงานไฟฟ้า คือการผลักดันให้ประเทศไทยติด Top 10 ผู้ผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าระดับโลก และคาดว่าปี 2030 จะผลิตรถพลังงานไฟฟ้า เพื่อขายในประเทศและส่งออก 750,000 คัน คาดว่าจะมีรถพลังงานไฟฟ้าวิ่งอยู่บนนท้องถนนราว 2 ล้านคัน หากทุกอย่างเป็นไปตามแผน   เมื่อรถยนต์ไฟฟ้าขยายตัวมากขึ้น สิ่งที่เติบโตควบคู่เพื่อรองรับความต้องการ คือ สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Charging Station) ซึ่งปัจจุบันในประเทศไทย โดยเฉพาะภาคอีสานยังอยู่ในระดับต่ำ เมื่อเทียบกับรถยนต์ไฟฟ้าที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต   ซึ่งภาคอีสานมีสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าเพียง 122 แห่ง จากกว่า 1,200 แห่งทั่วประเทศ มากที่สุด ที่จังหวัดนครราชสีมา รองลงมาเป็น ขอนแก่น อุดรธานี และบุรีรัมย์ ที่มีมากกว่า 10 แห่ง    ธุรกิจสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าเป็นหนึ่งในธุรกิจที่น่าสนใจในขณะนี้ เนื่องจากความกังวัลหลักของผู้บริโภคไม่ใช่เรื่องของราคารถยนต์พลังงานไฟฟ้าอีกต่อไป แต่กังวลในเรื่องของสถานีชาร์จที่ยังไม่ครอบคลุม รวมถึงระยะเวลาในการชาร์จแต่ละครั้ง ทำให้การเดินทางระยะไกลต้องวางแผน และคำนวณระยะทางก่อน ซึ่งค่อนข้างใช้เวลาในการเตรียมตัว   การดำเนินธุรกิจนี้คงเกิดขึ้นได้ยาก หากขาดการผลักดันและสนับสนุนจากรัฐบาล เนื่องจากตู้ชาร์จและระบบต่าง ๆ ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ส่งผลให้ยังมีต้นทุนค่อนข้างสูง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรตั้งสถานีชาร์จนำร่องเพื่อเป็นตัวอย่าง รวมถึงไปการร่วมมือกับพันธมิตรต่าง ๆ ในการสร้าง Ecosystem ของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ด้วยการผลิตและจัดจำหน่ายด้วยตัวเอง ทำให้ต้นทุนมีราคาถูกลง และสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น   อ้างอิงจาก:  กรมการขนส่งทางบก   ติดตาม ISAN Insight & Outlook ได้ที่  Instagram : https://www.instagram.com/isan.insight.and.outlook/  Website : https://isaninsight.kku.ac.th    #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #รถยนต์ไฟฟ้า #สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า

Scroll to Top