November 2021

ตลาดเกษตรออนไลน์ยุคใหม่

ปฏิเสธไม่ได้ว่าปัจจุบัน “สื่อออนไลน์” ได้เข้ามามีอิทธิพลต่อเราในทุกขณะ ตั้งแต่ตื่นเช้าจนกระทั่งเข้านอน สถิติผู้เข้าถึงอินเตอร์เน็ตมีค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นในทุก ๆ ปี สูงถึง 47.5 ล้านคน จากจำนวนประชากรทั้งหมด 66.4 ล้านคน ซึ่งมีกิจกรรมการซื้อขายผ่านบริการออนไลน์มากถึง 57 % เลยทีเดียว . “การตลาดออนไลน์” กำลังเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย วัตถุประสงค์หลักก็เพื่อทำให้สินค้าเป็นที่รู้จักมากขึ้น โดยเฉพาะในสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 เช่นนี้ที่คนส่วนใหญ่หลีกเลี่ยงการเดินทางออกนอกบ้านเพื่อลดความเสี่ยงในการสัมผัสเชื้อ ทำให้ยุคนี้เป็นยุคทองของการค้าขายออนไลน์อย่างแท้จริง . อาชีพเกษตรกรเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะชาวไร่ ชาวนา ชาวสวน ที่ต้องประสบปัญหาราคาพืชผลตกต่ำ จึงก่อให้เกิดปัญหาความเดือดร้อนกระทบเป็นวงกว้างทั่วทุกภูมิภาค แม้จะมีผลผลิตเพิ่มขึ้น แต่หลายรายไม่สามารถนำออกสู่ตลาดเพื่อจัดจำหน่ายได้ . ข้อดีของการนำผลผลิตทางการเกษตรเข้าสู่ตลาดออนไลน์ คือ เกษตรกรสามารถนำผลผลิตที่ได้สู่ตลาดและผู้บริโภคได้โดยตรง ไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง และยังสามารถวิเคราะห์การตลาดที่เกี่ยวกับผลผลิตได้มากขึ้น . ในขณะเดียวกันผู้บริโภคก็ได้รับผลผลิตจากเกษตรกร เป็นการการันตีเรื่องคุณภาพได้อีกทางหนึ่ง นับได้ว่าเกษตรกรออนไลน์นั้นลงมือเพาะปลูกเอง ขายเอง สามารถกำหนดราคาสินค้าเองได้ โดยไม่ผ่านตลาดหรือพ่อค้าคนกลาง เป็นการลดต้นทุนเพิ่มกำไร ได้ตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง . . 4 เว็บไซต์ที่น่าสนใจในการซื้อขายสินค้าเกษตรออนไลน์ . 1. DGTFarm เป็นตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรออนไลน์ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อผลักดันให้เกษตรชุมชนเติบโต และยังเป็นช่องทางขายสินค้าเกษตรปลอดสารพิษด้วย ซึ่งเกษตรกรสามารถนำสินค้ามาวางขายบน DGTFarm ได้ 9 ประเภท ได้แก่ ข้าวและธัญพืช ผัก ผลไม้ สินค้าแปรรูป ไข่ ประมง ปศุสัตว์ เครื่องสำอาง และพืชสมุนไพร Website : https://www.dgtfarm.com . 2. FarmTo เป็นชุมชนสินค้าเกษตรออนไลน์ที่ส่งเสริมเกษตรกรให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และยังเป็นพื้นที่ให้เกษตรกรได้มาเจอกัน และช่วยให้เกษตรกรตามชุมชนต่าง ๆ ได้มีพื้นที่ขายสินค้าเกษตรให้เข้าถึงผู้บริโภคได้โดยตรง Website : https://farmto.co.th . 3. ตลาดเกษตรกรออนไลน์.com เป็นสื่อกลางในการนำสินค้าเกษตรคุณภาพดี มุ่งเน้นให้เกษตรกร และสหกรณ์ที่มุ่งเน้นให้เกษตรกรสามารถวางแผนการผลิตให้ตรงตามความต้องการของตลาด มีช่องทางการตลาดที่เหมาะสมกับสินค้า และกลุ่มผู้บริโภค Website : https://www.xn--12ca9cdcza1fboh6b4ca0evmxcuh.com/ . 4. Seedforest เป็นแหล่งซื้อขายสินค้าเกษตรที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นไม้ยืนต้น เมล็ดพันธุ์ ผลไม้ ผักสวนครัว สมุนไพร พืชหายาก พืชกินแมลง เป็นต้น นอกจากเกษตรกรแล้ว Seedforest ยังเป็นเว็บไซต์ที่เปิดกว้างให้คนทั่วไปทุกคนสามารถนำสินค้าเกษตรอะไรก็ได้มาวางขายบนเว็บไซต์ ซึ่งถือว่าเป็นช่องทางในการหารายได้เสริม กับกลุ่มคนทั่วไปที่ชอบปลูกพืชผลทางเกษตรไว้ที่บ้านอีกด้วย Website : https://seedforest.co.th . อย่างไรก็ตามการเปิดตลาดออนไลน์จะช่วยส่งเสริมศักยภาพการทำตลาดสินค้าเกษตรให้มีความหลากหลาย ทันสมัย ทั้งยังพัฒนาขีดความสามารถด้านการค้าแก่เกษตรกรมากขึ้น ผู้บริโภคเองก็ได้รับความสะดวกสบาย ในการเลือกซื้อสินค้าเกษตรและสินค้าแปรรูปได้ทุกที่ทุกเวลา . #ISANInsightAndOutlook . . อ่านเพิ่มเติม https://www.tot.co.th/blogs/detail/ดิจิทัลทิปส์/2020/08/26/farmer-online https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/937367 https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/821402

“ดนตรีอีสาน” ศิลปะพื้นบ้านสืบสานความเป็นอมตะ

“ละพอแต่เปิดผ้าม่านกั้ง ผ้าม่านกั้ง! สาวหมอลำสิพาม่วนนน” ดนตรีที่คุ้นหูผสมผสานกับเนื้อร้องที่ใช้ภาษาอันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว คงบ่งบอกได้แน่ชัดว่าเพลงนี้แฝงไปด้วยศิลปะพื้นบ้านที่มีต้นกำเนิดมาจากภาคอีสาน ที่หากใครได้ฟังคงไม่เป็นอันนั่งติดอยู่กับพื้น ที่นอกจากจะช่วยปลดปล่อยอารมณ์ ให้รู้สึกสนุนสนาน ผ่อนคลาย ให้กับผู้ที่ได้ฟังแล้วนั้น ยังช่วยถ่ายทอดความคิด ความรู้สึกของผู้แต่ง สะท้อนความเป็นอยู่ในชีวิตประจำวัน อีกทั้งยังเป็นภาษากลางที่เป็นตัวช่วยในการสื่อสารกันไปทั่วโลกได้ดีอีกภาษาหนึ่ง . ดนตรีอีสานก็เช่นกัน ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะของท่วงทำนองที่เปล่งออกมาผ่านทางเครื่องดนตรี พิณ โหวต แคน โปงลาง เนื้อร้องหรือแม้แต่ลักษณะสำเนียงในการขับร้อง ล้วนสะท้อนให้เห็นถึงความสนุกสนาน ความอุดมสมบูรณ์ของข้าวปลาอาหาร ความมีชีวิตชีวา ความคิดถึงห่วงหาอาวรณ์ ส่งผลให้สิ่งนี้แฝงอยู่ในชีวิตประจำวัน . รวมถึงการเล่าเรื่องราวหรือนิทานต่าง ๆ ให้น่าสนใจ สนุกสนาน ประกอบกับดนตรีทำนองอีสานที่สอดแทรกเสียงแคนเข้าไปเป็นจังหวะที่ผู้เล่าเป็นผู้ที่ชำนาญในการขับร้อง สามารถเรียกรูปแบบนี้ได้ว่า “หมอลำ” ชื่อที่หลายคนรู้จักกันดี . ในช่วงต้นหมอลำเป็นการเล่าเรื่องตามพงศาวดาร ประวัติศาสตร์ นิยายปรัมปรา เช่น เล่าเรื่องพื้นเพบ้านของตน พัฒนาต่อยอดจนสามารถแตกแขนงออกเป็นหมอลำหลายประเภท ทั้งลำกลอน ลำเพลิน ลำชิงชู้ ฯลฯ และเริ่มนำหมอลำเข้ามาเล่าเรื่องราวความทุกข์ การต่อต้านผู้ปกครอง ผ่านทำนองที่มีเนื้อหาไพเราะ ลึกซึ้ง คมคาย ทั้งนี้โอกาสที่จะมีการแสดงหมอลำ คือ งานบุญต่าง ๆ งานศพ งานรื่นเริงในหมู่บ้าน และงานฉลองช่วงออกพรรษา เป็นต้น . สิ่งหนึ่งที่ทำให้ดนตรีอีสานยังคงอยู่ได้ คงหนีไม่พ้นการปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยต่าง ๆ ที่ได้รับอิทธิพลมาจากตะวันตก จนเกิดเป็นแนวเพลงไทยสากลหรือที่รู้จักกันในนาม “เพลงลูกทุ่ง” . เพลงลูกทุ่งเป็นการนำการร้องรำทำเพลงของไทยดั้งเดิม มาดัดแปลงใส่กับดนตรีที่ใช้กับวงสตริงคอมโบเล่น ผสมผสานด้วยท่วงทำนองเพลงสากลเพื่อให้เข้ากับทำนองเพลงพื้นบ้าน โดยเนื้อเพลงที่ใช้จะมีการสอดแทรกความเป็นท้องถิ่นพื้นบ้านลงไปในคำร้อง ทำนอง และการใช้ลูกเอื้อน ลูกเล่น ลีลาของการลำที่มีเฉพาะท้องถิ่น ทำให้เกิดเป็นลูกทุ่งในหลายภูมิภาคตามมา เช่น ลูกทุ่งปักใต้ ลูกทุ่งล้านนา ลูกทุ่งเพื่อชีวิต ลูกทุ่งหมอลำ และลูกทุ่งอีสาน . โดยภาษาที่เพลงแนวลูกทุ่งอีสานใช้ในการร้อง มีคำอีสานปะปนอยู่กับภาษากลาง ประกอบกับสำเนียงในการเอื้อนเสียง คงต้องยอมรับว่าแม้จะใช้เครื่องดนตรีสากลเป็นตัวบรรเลงควบคู่กัน แต่สำเนียงที่ปรากฏออกมาก็ยังคงความเป็นทำนองอีสานบ้านเฮาเช่นเดิม ทั้งนี้เพลงลูกทุ่งอีสานมีการพัฒนากันอย่างต่อเนื่อง และได้นำเอา ทำนองลำ เครื่องดนตรีอีสาน มาใช้เข้ากับเพลง จนเป็นที่มาของ “ลูกทุ่งหมอลำ” ที่ช่วยให้ความบันเทิง ความสนุกสนานเป็นมหรสพในงานประเพณี งานรื่นเริง อีกทั้งยังสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับศิลปิน นักร้อง นักประพันธ์ นักเรียบเรียง และนักดนตรี นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งบทบาทสำคัญที่ช่วยผลักดัน ดนตรีอีสานให้เป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายเลยก็ว่าได้ . เพลงลูกทุ่งหมอลำ จากลำนำสู่ความนิยมในวงกว้าง . อย่างที่ได้เล่าไปก่อนหน้านี้ว่า เพลงลูกทุ่งหมอลำมีส่วนสำคัญในการแพร่กระจาย ดนตรีอีสานให้ไปสู่ภูมิภาคอื่น ๆ เหตุเพราะเนื้อเพลงที่ฟังง่าย ฟังครั้งเดียวก็จำและร้องตามได้ ประกอบกับการขยายตัวของอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีตามเมืองที่เปรียบเสมือนศูนย์รวมเศรษฐกิจต่าง ๆ ส่งผลให้การเข้าไปอยู่ในแหล่งนั้น ๆ สามารถสร้างรายได้ และมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ก่อให้เกิดการโยกย้ายแรงงานไปยังที่ที่มีความเจริญมากกว่า นักร้องอีสานที่เข้ามาในเมืองจึงมีโอกาสในการทำผลงานเพลงในค่ายใหญ่มากขึ้นโดยสิ่งหนึ่งที่ติดตัวมาพร้อมกับกระเป๋าเดินทาง เพื่อปลอบโยนหัวใจในวันที่เหนื่อยที่ท้อสิ้นหวังให้สู้ต่อไป คือ ดนตรี . สิ่งนี้เองที่เป็นตัวนำพาให้ …

“ดนตรีอีสาน” ศิลปะพื้นบ้านสืบสานความเป็นอมตะ อ่านเพิ่มเติม »

ศึก Food Delivery สู่การขยายพื้นที่ให้บริการในภาคภาคอีสาน

ปัจจุบันการแข่งขันอันดุเดือดของธุรกิจ Food delivery เจ้าดังอย่าง Grab, LINE MAN x Wongnai และ Food Panda เรียกได้ว่า สามารถสร้างเครือข่ายพื้นที่ให้บริการส่งอาหารได้ครอบคลุมเกือบครบหรือครบทั้ง 77 จังหวัดแล้ว ส่วน Robinhood แพลตฟอร์ม Food Delivery น้องใหม่สัญชาติไทย ก็ไม่น้อยหน้า ล่าสุดมีแผนที่จะขยายพื้นที่ให้บริการไปต่างจังหวัด โดยเป้าหมายแรกจะเป็นพื้นที่เศรษฐกิจของภาคอีสาน อย่าง “นครราชสีมา” และ “ขอนแก่น” . แน่นอนว่าไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะแต่ละเจ้ายังคงงัดไม้เด็ดมาประชันกันอย่างไม่มีใครออมมือ ทั้งในด้านโปรโมชันส่วนลดกับผู้ใช้บริการและร้านอาหารจากการเข้ามาของผู้ประกอบการรายใหม่, การเพิ่มรูปแบบการให้บริการในห่วงโซ่อุปทานอาหาร และการขยายบริการไปในด้านอื่น ๆ นอกเหนือจากส่งอาหาร เช่น การซื้อสินค้า การขนส่งสินค้า การเงิน และการท่องเที่ยว . การประเมินของ EIC คาดว่า มูลค่าตลาด Food delivery ของไทยในปี 2021 จะเติบโต 62%YOY จนมีมูลค่า 1.05 แสนล้านบาท เป็นการขยายตัวต่อเนื่องแม้ในอัตราที่ชะลอลงจากปี 2020 ที่เติบโตแบบก้าวกระโดดเกือบ 3 เท่าตัว จากการใช้งานที่เพิ่มขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการจัดโปรโมชันส่วนลดของแพลตฟอร์มเพื่อดึงดูดผู้ใช้บริการ และอีกส่วนมาจากมาตรการล็อกดาวน์และห้ามรับประทานอาหารภายในร้านในช่วงที่ผ่านมา . ทั้งนี้ในระยะ 2-3 ปีข้างหน้า รูปแบบการแข่งขันจะเป็น Super App มากยิ่งขึ้น ทั้งจากแพลตฟอร์ม Food delivery ที่ขยายบริการไปด้านอื่น ๆ และจากแพลตฟอร์มที่เน้นบริการด้านอื่น จะหันมาให้บริการ Food delivery มากขึ้นหลังจากสถานการณ์แพร่ระบาดของ COVID-19 คลี่คลาย . โดยมีปัจจัยสนับสนุนจาก 1. การขยายตัวของฐานผู้ใช้บริการใหม่จากความต้องการความสะดวกสบายในการใช้บริการที่ยังมีต่อเนื่อง 2. การเพิ่มขึ้นของการใช้บริการของฐานลูกค้าเดิมจากพฤติกรรมที่เคยชิน และ 3. การขยายตลาดการให้บริการไปในธุรกิจในห่วงโซ่อุปทานร้านอาหาร . อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์สำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจ Food delivery สามารถเติบโตอย่างยั่งยืน คือแพลตฟอร์ม Food delivery ต้องให้ความสำคัญกับการรักษาฐานผู้ใช้บริการ พาร์ทเนอร์ร้านอาหาร และไรเดอร์, การสร้างพันธมิตรทางธุรกิจ และการจัดการด้านกฎระเบียบและด้านสิ่งแวดล้อม . ส่วนแนวทางที่พาร์ทเนอร์ร้านอาหารควรนำไปปรับใช้เพื่อช่วยดึงดูดลูกค้า ได้แก่ การมีสินค้าที่เจาะกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ, การสื่อสารกับผู้บริโภคอย่างสม่ำเสมอ และการมีช่องทางการจำหน่ายหลากหลายเพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคอย่างครอบคลุมมากขึ้น . สุดท้าย ภาครัฐอาจเข้ามาช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการร้านอาหารและไรเดอร์ให้สามารถเข้าสู่แพลตฟอร์ม Food delivery ได้ง่ายยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการร่วมมือกับแพลตฟอร์มในการสนับสนุนหรือช่วยลดต้นทุนต่าง ๆ ทั้งในด้านกฎระเบียบและแนวทางในการเข้าร่วม, ด้านอัตราค่าบริการและผลตอบแทน, สวัสดิการที่เหมาะสมและเป็นธรรม และด้านการจัดทำบัญชีและภาษี ตลอดจนการกำกับดูแลการแข่งขันระหว่างแพลตฟอร์ม Food delivery เอง เพื่อการค้าอย่างเสรีและเป็นธรรม …

ศึก Food Delivery สู่การขยายพื้นที่ให้บริการในภาคภาคอีสาน อ่านเพิ่มเติม »

ส่องเทรนด์ธุรกิจที่น่าจับตามองในยุค Aged Society

ปัจจุบันทั่วโลกกำลังเผชิญกับภาวะสังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) ในสัดส่วนที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ ประเทศไทยเองก็มีจำนวนผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้นทุกปี และได้ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ (Aged Society) ในปี 2564 นี้ คาดว่าประชากรสูงอายุจะเพิ่มขึ้นถึง 1 ใน 5 หรือ 25% ของจำนวนประชากรทั้งหมด . โดยสังคมผู้สูงอายุนั้นถูกกำหนดให้มี 3 ระดับด้วยกัน ซึ่งจะแบ่งตามสัดส่วนของประชากรในประเทศ ประกอบด้วย . 1. ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) สังคมที่มีคนอายุ 60 ปีขึ้นไปมากกว่า 10% หรือมีคนอายุ 65 ปีขึ้นไปมากกว่า 7% ของจำนวนประชากรทั้งประเทศ 2. สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ (Aged Society) สังคมที่มีคนอายุ 60 ปีขึ้นไปมากกว่า 20% หรือมีคนอายุ 65 ปีขึ้นไปมากกว่า 14% ของจำนวนประชากรทั้งประเทศ 3. สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มที่ (Super-Aged Society) สังคมที่มีคนอายุ 65 ปีขึ้นไปมากกว่า 20% ของจำนวนประชากรทั้งประเทศ . สำหรับภาคอีสาน ถือเป็นภาคที่มีประชากรผู้สูงอายุมากที่สุด ที่ 3.53 ล้านคน รองลงมาคือ ภาคกลาง 3.22 ล้านคน ภาคเหนือ 2.29 ล้านคน ภาคใต้ 1.38 ล้านคน และภาคตะวันออก 0.72 ล้านคน ตามลำดับ . เมื่อผู้สูงอายุเพิ่มจำนวนมากขึ้น สวนทางกับอัตราการเกิดที่น้อยลง ไทยเรามีแนวโน้มจะประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานวัยหนุ่มสาว ซึ่งจะทำให้โครงสร้างประชากรไทยเปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิง ซึ่งส่งผลต่อเศรษฐกิจและสังคมค่อนข้างมาก . การมองหาช่องทางแห่งโอกาสในการสร้างรายได้ และการเจาะธุรกิจเข้าไปในสังคมสูงวัยถือว่าน่าสนใจไม่น้อย โดยขั้นตอนแรกจะต้องเข้าใจเทรนด์ผู้สูงอายุยุคใหม่ก่อน เพื่อทราบถึงความต้องการของคนกลุ่มนี้และนำข้อมูลใหม่ ๆ ที่ได้ไปปรับใช้กับธุรกิจในอนาคต . แล้วเทรนด์ธุรกิจที่ว่ามีอะไรกันบ้าง ? . ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มักจะมองหาทำเลในการตั้งคอมมูนิตี้สำหรับผู้สูงอายุเพื่อใช้ชีวิตหลังเกษียณ พร้อมออกแบบบ้านพักอาศัยให้มีอุปกรณ์ช่วยเหลืออย่างครบครัน ซึ่งทำให้ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ของแต่งบ้านเติบโตขึ้นตามไปด้วย . โดยแต่ละคอมมูนิตี้ยังสามารถเปิดให้บริการทางการแพทย์สำหรับดูแลผู้สูงอายุในยามฉุกเฉิน ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ซูเปอร์มาร์เก็ต และสถานที่ออกกำลังกายที่เหมาะกับคนวัยเกษียณ . ธุรกิจด้านการวางแผนทางการเงินหลังเกษียณ ผู้คนจำนวนมากเลือกที่จะทำงานหนัก เก็บเงินตั้งแต่วันทำงาน เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีหลังเกษียณ หลายคนเลือกที่จะอยู่เป็นโสด โดยไม่กังวลว่าจะมีลูกหลานมาดูแลในอนาคตหรือไม่ . ธุรกิจวางแผนการเงินจึงเป็นอีกธุรกิจที่น่าจับตามองและมีแนวโน้มการเติบโตสูง ทั้งด้านการให้คำปรึกษา การลงทุนแบบกองทุนรวมระยะยาว หรือบัญชีเงินฝากที่พ่วงประกันสุขภาพเอาไว้ . ธุรกิจด้านการดูแลผู้สูงอายุ เมื่ออายุเพิ่มขึ้น การดูแลรักษาสุขภาพให้ห่างไกลจากโรคร้ายนั้นนับเป็นเรื่องที่ควรทำมากที่สุด การเปิดคอร์สบริการดูแลสุขภาพที่มีการติดตามผลอย่างต่อเนื่อง ทั้งในรูปแบบการดูแลสุขภาพทั่วไป หรือการรักษาอาการเจ็บป่วย . ตลอดจนบริการประเภทโฮมแคร์ที่มีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญมาคอยให้การดูแลถึงบ้าน แต่ยังคงได้รับการรักษามาตรฐานเดียวกับสถานพยาบาล …

ส่องเทรนด์ธุรกิจที่น่าจับตามองในยุค Aged Society อ่านเพิ่มเติม »

แบรนด์ของฝากขึ้นชื่อ “โคราช บ้านเอ๋ง”

หากพูดถึงของกินของฝากของเมืองโคราช หลายคนคงจะนึกถึงสองแบรนด์เก่าแก่อย่าง “เจ้าสัว” และ “ปึงหงี่เชียง” แต่รู้ไหมว่า แม้สินค้าของทั้งคู่จะสามารถครองใจผู้บริโภคทั้งเก่าและใหม่มาได้ตลาดหลายปีที่ผ่านมา แต่พวกเขาก็ไม่หยุดพัฒนา โดยเฉพาะความท้าทายครั้งใหญ่หลังภาคการท่องเที่ยวชะลอตัวจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 จนส่งผลให้ธุรกิจที่พึ่งพาการท่องเที่ยวจำนวนมากได้รับผลกระทบตามไปด้วย . ครั้งนี้เราชาว ISAN Insight & Outlook จึงอยากพาทุกคนไปดูว่าช่วงที่ผ่านมา “เจ้าสัว” และ “ปึงหงี่เชียง” มีวิธีรับมืออย่างไรกับความเปลี่ยนแปลงนี้ . . เริ่มที่ “เจ้าสัว” ในปี 2563 หันมาปรับกลยุทธ์รองรับ จากเดิมที่เน้นเพิ่มสาขา เปลี่ยนมาเป็นบุกโมเดิร์นเทรด (Modern Trade) ร้านสะดวกซื้อ ร้านขายของชำต่าง ๆ ทำให้ยอดขายรวมของปีที่แล้วโตขึ้น 15% ยังไม่รวมไปถึงการลงทุนกับเครื่องจักรภายในโรงงานและระบบหลังบ้านเพื่อให้ทันยุคดิจิทัลในช่วงที่ผ่านมา จนสามารถสร้างรายได้รวมเกือบพันล้านบาทเป็นครั้งแรก . ประกอบกับการที่ผู้คนมีไลฟ์สไตล์เร่งรีบ เเละคนรุ่นใหม่หันมาใส่ใจเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์มากขึ้น แม้จะเป็นอาหารทานเล่นหรือของขบเคี้ยวอย่าง “เนื้อสัตว์แปรรูป” ซึ่งในไทยมีผู้เล่นไม่กี่ราย . ปี 2564 จึงทรานส์ฟอร์มธุรกิจ ปรับภาพลักษณ์ ไม่เป็นเเค่ร้านขายของฝากที่รอให้คนมาซื้อ เเต่พยายามเข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันของผู้บริโภค ด้วยการบุกตลาดสแน็ก, Ready to eat และ Ready to cook meal อย่างเต็มตัว อีกทั้งใช้พรีเซ็นเตอร์เป็นครั้งเเรกในรอบ 63 ปี . ปัจจุบัน เจ้าสัวมีจำนวน 100 กว่าสาขาทั่วประเทศ เเบ่งเป็นร้านค้าของตัวเอง (Stand Alone) ประมาณ 15 สาขา และแฟรนไชส์ประมาณ 90 สาขา กระจายอยู่ในปั๊มนำ้มัน ปตท. ส่วนการส่งออกไปต่างประเทศจะเน้นที่ตลาดเอเชียเป็นหลัก เช่น ฮ่องกง จีน เวียดนาม สิงคโปร์ ฯลฯ . . ต่อกันด้วย “ปึงหงี่เชียง” ที่ก็มีสินค้ากลุ่มของทานเล่นเช่นเดียวกับเจ้าสัว ปี 2564 นี้ ได้รับรางวัลการออกแบบบรรจุภัณฑ์เชิงสร้างสรรค์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จากโครงการ “ต้นกล้า ทู โกล” ของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่สามารถยืดอายุอาหารให้นานขึ้นได้ . ยกตัวอย่าง “กุนเชียง” จากเดิมที่มีระยะเวลาขายอยู่ 3 เดือน เมื่อพัฒนาเป็น “กุนเชียงพร้อมทาน” ก็ช่วยยืดอายุสินค้าไปได้นานถึง 6 เดือน ซึ่งเหมาะกับการขยายช่องทางการตลาดไปสู่ห้างฯ หรือโมเดิร์นเทรดต่าง ๆ ในอนาคต รวมไปถึงการส่งออกต่างประเทศที่มากขึ้น . ปัจจุบัน ปึงหงี่เชียง มีแฟรนไชส์ที่อยู่ตามปั๊มน้ำมัน ปตท. 130 สาขาทั่วประเทศ …

แบรนด์ของฝากขึ้นชื่อ “โคราช บ้านเอ๋ง” อ่านเพิ่มเติม »

Scroll to Top