Infographic

สรุปเรื่อง น่ารู้ แดนอีสาน ทั้ง เศรษฐกิจ ธุรกิจ สังคม ศิลปะ วัฒนธรรม

ชวนเบิ่ง “สิริมงคลพร๊อพเพอร์ตี้” อาณาจักรอสังหาริมทรัพย์ จุดเริ่มต้นจากภูธรสู่เมืองกรุง

“ห้างหุ้นส่วนจำกัด สิริมงคล พร็อพเพอร์ตี้” นอกจากจะเป็นเจ้าตลาดอสังหาฯในศรีสะเกษแล้ว ยังเป็นนักพัฒนาอสังหาฯ น้อยรายในพื้นที่ ที่ลุยพัฒนาบ้านเดี่ยวอย่างต่อเนื่อง สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ กรรมการ ผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สิริมงคล พร็อพเพอร์ตี้ เล่าว่า จุดเริ่มต้นลุยธุรกิจ อสังหาฯ เพราะพ่อให้มาช่วยขายโครงการ “สิริมงคล1” ซึ่งตอนนั้นมีเพียง 60 ยูนิต มูลค่าโครงการ 80-90 ล้านบาท พอขายได้ พ่อจึงมอบที่ดินอีก 1 แปลงเนื้อที่ 30 ไร่ ไปปลุกปั้นโครงการถัดไปจนกระทั่งปัจจุบันมีบ้านเดี่ยว 7 โครงการ ในจังหวัดศรีสะเกษและอุบลราชธานี จำนวนราว 700 ยูนิต มูลค่าโครงการราว 1,300-1,400 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีที่ดินสะสมอีก 1,000 ไร่ รอการพัฒนาใน 3 จังหวัด ทั้งศรีสะเกษ อุบลราชธานี และอำนาจเจริญ ซึ่งแนวทางการพัฒนาโครงการจะค่อยเป็นค่อยไป เพราะยอมรับว่า บางตลาดแม้มีศักยภาพแต่ขนาดตลาดยังเล็ก ขณะที่ปลายปีนี้จะมีการพัฒนาบ้านเดี่ยวโครงการสิริมงคล 8 ที่ จังหวัดอุบลราชธานี และโครงการสิริมงคล 9 ที่ จังหวัดศรีสะเกษ บนเนื้อที่ราว 20 ไร่ รวมมูลค่าโครงการราว 1,000 ล้านบาท เพื่อสร้างยอดขายและรับรู้รายได้ต่อเนื่อง โดยบริษัทเน้นพัฒนาบ้านเดี่ยวหรู เจาะกลุ่มเป้าหมายที่มีกำลังซื้อสูง อย่างในศรีสะเกษฐานลูกค้าหลักเป็นข้าราชการ 60-70% ส่วนการขยับมาทำตลาดในอุบลราชธานี ต้องการชิมลางทำเลใหม่ๆ ซึ่งความยากในการบุกพื้นที่ใหม่มีความยากในการทำตลาดเจาะลูกค้า เพราะวัฒนธรรมของแต่ละพื้นที่ต่างกัน อีกทั้งอุบลฯ เป็นจังหวัดที่กำลังซื้อสูง การแข่งขันสูงจากทุนท้องถิ่นเจ้าตลาด แต่จุดแข็งบริษัทในการพัฒนาบ้านเดี่ยวให้ความสำคัญกับทำเล และสร้างแบรนด์ควบคู่กัน ซึ่งบริษัทยังมีแผนผุดบ้านเดี่ยว 1 โครงการ ในระยะ 2 ปี แนวทางการลงทุนจะเน้น จังหวัดที่ไม่ใหญ่มากนัก และมีเมืองบริวารหรือกำลังซื้อจากผู้บริโภคข้ามอำเภอมาซื้อที่อยู่อาศัย โดยเป้าหมายใน 3-5 ปี ต้องการขยายตลาดเจาะจังหวัดในภาคอีสานตอนใต้ให้ครอบคลุมมากขึ้น เช่น ร้อยเอ็ด ยโสธร มุกดาหาร เป็นต้น และต้องการผลักดันแบรนด์ สิริมงคลติดท็อป 3 ในตลาดท้องถิ่น” สิริมงคลพร๊อพเพอร์ตี้ เจาะตลาดท้องถิ่นมาราว 15 ปี เป็น “บิ๊กเพลเยอร์” ในศรีสะเกษแล้ว ก้าวต่อไป คือ “ชิมลาง”อสังหาฯ สังเวียนใหญ่ในกรุงเทพฯ ด้วยการผนึกผู้เล่นอสังหาฯรายสำคัญในตลาดหลักทรัพย์ (ยังไม่เปิดเผยชื่อ) ร่วมทุนกันตั้งบริษัทใหม่ ซึ่งบริษัทถือหุ้น 49% และซื้อที่ดินย่านพระราม 9 เนื้อที่ราว 10 ไร่ มูลค่ากว่า 500 ล้านบาท เพื่อพัฒนาบ้านเดี่ยวหรูแบรนด์ใหม่ ระดับราคา …

ชวนเบิ่ง “สิริมงคลพร๊อพเพอร์ตี้” อาณาจักรอสังหาริมทรัพย์ จุดเริ่มต้นจากภูธรสู่เมืองกรุง อ่านเพิ่มเติม »

พาซอมเบิ่ง “มดแดงมอเตอร์” ผู้นำบริการด้านเช่าซื้อ รถจักรยานยนต์ จักรยานไฟฟ้า และรถสามล้อ ครบวงจร

จุดเริ่มต้น เดิมมีชื่อ “อีฮง” ตั้งแต่รุ่นอากงของคุณสุรณัฐ โดยได้เริ่มก่อตั้งบริษัทที่จังหวัดมหาสารคาม เริ่มแรกได้ทำธุรกิจขายทอง ต่อมาได้ปรับเปลี่ยนธุรกิจมาเป็นขายรถจักรยานยนต์ คุณสุรณัฐได้สืบทอดธุรกิจจากคุณพ่อ และหลังจากนั้นได้เปลี่ยนชื่อเป็น “อีฮงมดแดงมอเตอร์” . . . อ้างอิงจาก: https://data.creden.co/company/general/0445555000355 https://ehongmd.com https://youtu.be/4PDdbC1iCBc #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีฮง #มหาสารคาม #จำหน่ายรถจักรยานยนต์ #อีฮงมดแดงมอเตอร์

ชวนเบิ่ง “ก.เจริญคอนกรีต กาฬสินธุ์”

อาณาจักรขายปลีกวัสดุก่อสร้าง ระดับสิบล้าน . . . อ้างอิงจาก: https://data.creden.co/company/general/0465549000071 https://datawarehouse.dbd.go.th/…/profile/5/0465549000071 #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #เจริญคอนกรีต #กาฬสินธุ์ #ขายปลีกวัสดุก่อสร้าง #ธุรกิจระดับสิบล้าน

เมืองย่าโม จ.นครราชสีมา  อุตสาหกรรมมันสำปะหลัง เป็นจั้งใด๋?

เมืองย่าโม จ.นครราชสีมา  อุตสาหกรรมมันสำปะหลัง เป็นจั้งใด๋?   ภาพรวมเกษตรกรรมมันสำปะหลังในจังหวัดนครราชสีมา มีพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญที่ปลูกมาก 4 อันดับแรก คือ ข้าว มันสำปะหลัง อ้อยโรงงาน และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ โดยมีเนื้อที่ปลูกมันสำปะหลัง 1,676,987 ไร่ ทำให้โคราชมีปริมาณผลผลิตมันสำปะหลังรวมรายปีมากที่สุดในประเทศ โดยปริมาณการใช้พื้นที่แบ่งเป็น พื้นที่เพาะปลูกศักยภาพสูง S1 และ พื้นที่เพาะปลูกศักยภาพปานกลาง S2 ให้ผลผลิตที่มีคุณภาพสูงตามความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ ซึ่ง อ.ครบุรี เป็นอําเภอที่มีปริมาณผลผลิตสูงที่สุด อยู่ที่ 718,654 ตัน ด้านปริมาณผลผลิตนั้น มีความสอดคล้องกับการผลิตเอทานอลอีกด้วย มันสำปะหลังเป็นวัตถุดิบที่มีความเหมาะสมในการผลิตเอทานอลมากที่สุดในประเทศไทย เนื่องจากมีพื้นที่เพาะปลูกและผลผลิตมาก โดยเฉพาะใน จ.นครราชสีมา โดยมันสำปะหลัง 1 ตัน สามารถผลิตเอทานอลได้ประมาณ 280 ลิตร    โอกาสและความเป็นไปได้ของอุตสาหกรรม  ด้านพื้นที่เพาะปลูกควรส่งเสริมให้มีการปลูกมันสำปะหลังเพิ่มขึ้น เป็นอำเภอที่มีการใช้พื้นที่เพาะปลูกศักยภาพสูงถึงปานกลาง โดยมี 3 อำเภอ คือ อ.ด่านขุนทด มีพื้นที่คงเหลือ 285,199 ไร่ อ.สีคิ้ว พื้นที่คงเหลือ 259,288 ไร่ และ อ.ปากช่อง 437,148 ไร่ หากจัดสรรพื้นที่เพาะปลูกให้ดีขึ้นอาจทําให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพสูงเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งการส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังของประเทศไทยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งจีนหรือยูเครน เนื่องจากภาวะสงครามรัสเซีย-ยูเครน ส่งผลให้เกิดการกักตุนเมล็ดธัญพืช ซึ่งเป็นหนึ่งในวัตถุดิบที่ใช้ผลิตเอทานอล จึงมีการนำเข้ามันสำปะหลังจากประเทศไทยเพิ่มขึ้นเพื่อทดแทนธัญพืช ส่งผลให้ราคาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอีกด้วย   อ้างอิงจาก: กรมพัฒนาที่ดิน สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร สำนักเศรษฐกิจการเกษตรและกระทรวงพลังงาน กรมโรงงานอุตสาหกรรม   #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ภาคอีสาน #นครราชสีมา #โคราช #มันสำปะหลัง

ชวนเบิ่ง เส้นทาง “คิงส์ยนต์” อาณาจักรจำหน่ายรถยนต์อีซูซุ ระดับร้อยล้าน

วันที่ 12 มกราคม 2512 คิงส์ยนต์ เริ่มต้นขึ้น ณ ถนนประจักษ์ ด้วยกิจการขายอะไหล่รถยนต์ของคุณเหรียญ จึงวิวัฒนาภรณ์ ต่อมาด้วยความสามารถและประสบการณ์ การขายรถที่มีอยู่เดิม คุณเหรียญได้รับโอกาสการเป็นผู้จําหน่ายรถยนต์อีซูซุอีกแห่งหนึ่ง ในจังหวัดนครราชสีมา คิงส์ยนต์ ดําเนินธุรกิจมาแล้วกว่า 4 ทศวรรษ ทศวรรษแรก คือช่วงเวลาของการวางรากฐานจากการจําหน่ายอะไหล่รถยนต์ มาสู่การเป็นตัวแทนจําหน่ายรถด้วยปัจจัยเอื้อคือสภาพความเปลี่ยนแปลงของสังคมเศรษฐกิจ อันตามมากับการเกิดของถนนมิตรภาพ เส้นทางเปิดประตูสู่ภาคอีสาน และปี 2516 คิงส์ยนต์ได้มีการขยายสาขาแห่งแรก คือ สาขาบุรีรัมย์ ทศวรรษที่สอง ช่วงเวลาของการพัฒนาความเป็นปึกแผ่นและเติบใหญ่ของกิจการ ความเป็นมืออาชีพในการบริหาร ความเป็นผู้ประกอบการที่ชื่อสัตย์ จริงใจ น่าคบค้า พิสูจน์ได้จาก ปี 2526 การเปิดโชว์รูมพร้อมสํานักงานใหญ่แห่งใหม่ บนถนนมิตรภาพ ปี 2530 เปิดศูนย์บริการตรวจสภาพและซ่อมบํารุงเต็มรูปแบบ บนถนนมิตรภาพและช่างเป็นโอกาสเหมาะเหลือเกินที่ศูนย์บริการได้ตั้งอยู่ ตรงข้ามกับโชว์รูมซึ่งเป็นสํานักงานใหญ่ พอดิบพอดีเพียงข้ามถนนก็ถึงกัน จึงเป็นที่สังเกตุได้ง่ายดายว่ามีอีซูซุคิงส์ยนต์พร้อมให้บริการทั้งสองฝั่งของถนนมิตรภาพ ปี 2530 เปิดสาขาปากช่อง บนถนนมิตรภาพ อําเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ปี 2531 เปิดสาขานางรอง บนถนนสายโชคชัย – เดชอุดม อําเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ ปี 2531 เปิดสาขาพิมาย บนถนนบายพาส อําเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา ทศวรรษที่สาม คิงส์ยนต์ยังคงเติบใหญ่ ขยายสาขาไปไม่หยุดยั้ง ปี 2533 เปิดสาขาสีดา บนถนนมิตรภาพ อําเภอสีดา จังหวัดนครราชสีมา ทศวรรษที่สี่ ช่วงเวลาแห่งการเพิ่มสมรรถนะพัฒนาธุรกิจ คิงส์ยนต์ เปิดธุรกิจเข้าสู่ตลาดเมืองหลวงพร้อมกับการปรับรูปแบบบทบาทการทําธุรกิจของสาขาต่างๆที่มีอยู่ทั้งหมดให้เป็นระดับมาตรฐาน ทศวรรษที่ห้านี้ คิงส์ยนต์รับทศวรรษใหม่ด้วยการเปิดสาขาสามแยกปักธงชัย บนถนนมิตรภาพบริเวณสามแยกปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา ในปี 2552 เพื่อเพิ่มจุดบริการแก่ลูกค้าให้ได้รับความสะดวกสบายยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการซ่อมบํารุงรถขนาดกลางและใหญ่ ซึ่งต้องการพื้นที่กว้างขวางและไม่ต้องฝ่าการจราจรเข้าสู่ตัวเมือง นอกจากนี้ คิงส์ยนต์ยังเตรียมให้ทศวรรษที่ห้าเป็นยุคแห่งการต่อยอดการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงโฉมหน้าคิงส์ยนต์ ให้มีเอกลักษณ์เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันทั่วทุกแห่ง โดยเน้นความร่วมสมัยเต็มไปด้วยเทคโนโลยี ตามจุดมุ่งหมายของการตลาดสมัยใหม่ โดยทีมงานของคนรุ่นใหม่ที่ผ่านระบบพัฒนาบุคคลากรอย่างเชี่ยวชาญ มีความตรงไปตรงมาเพื่อให้ลูกค้าได้รู้สึกประทับใจในการเป็นเจ้าของและใช้งาน รถยนต์อีซูซุทุกประเภทอย่างสูงสุด เหล่านี้เป็นการสานต่อปรัชญาและวิสัยทัศน์ของ “คิงส์ยนต์ “ที่ดําเนินมาอย่างชัดเจนและมั่นคงตลอดระยะเวลากว่า 50 ปี จะเห็นได้ว่าการเติบโตของคิงส์ยนต์นั้น คิงส์ยนต์จะปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างธรรมชาติที่สุด ตามจังหวะและเวลาของมันเอง แต่คิงส์ยนต์ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า ความเปลี่ยนแปลงก็เป็นสิ่งจําเป็น ทําให้คิงส์ยนต์ต้องมองสิ่งต่างๆด้วยมุมมองใหม่ๆตลอดเวลา การให้ความรู้สึกที่เรียบง่าย แต่เคลื่อนไหว ในขณะเดียวกันการมีจังหวะที่พอเหมาะพอดี ทําให้คิงส์ยนต์นําเสนอได้มากกว่า ความฉาบฉวย และนี่ทําให้คิงส์ยนต์เป็นสิ่งพิเศษ อ้างอิงจาก: https://isuzukingyont.com/ https://datawarehouse.dbd.go.th/…/profile/3/0303511000464 #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #คิงส์ยนต์ #นครราชสีมา #จำหน่ายรถยนต์อีซูซุ #ธุรกิจระดับร้อยล้าน

การฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวไทย ในภาคอีสานเป็นจั้งใด๋ ? (ม.ค – ก.ย 2565)

การฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวไทย ในภาคอีสานเป็นจั้งใด๋ ? (ม.ค – ก.ย 2565) ในเดือน กันยายน ปี 2565 ภาคอีสานมีจำนวนนักท่องเที่ยว 2,789,487 คน แบ่งเป็นนักท่องเที่ยวคนไทย 2,680,022 คน และนักท่องเที่ยวจากต่างชาติ 109,465 คน อีกทั้งยังมีรายได้จากการท่องเที่ยวอยู่ที่ 4,829.9  ล้านบาท โดยรายได้หลักยังคงมาจากคนในประเทศ 3 จังหวัดภาคอีสาน ที่มีการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวไทยสูงสุด ในปี 2565 เทียบกับ ปี 2562 (ก่อนเกิดเหตุการณ์ COVID-19) อันดับ 1. นครพนม ฟื้นตัว 132% จำนวนนักท่องเที่ยวปัจจุบัน 144,267 คน อันดับ 2. บุรีรัมย์     ฟื้นตัว 130% จำนวนนักท่องเที่ยวปัจจุบัน 256,030 คน อันดับ 3. บึงกาฬ     ฟื้นตัว 123% จำนวนนักท่องเที่ยวปัจจุบัน 58,687   คน เนื่องจากสถานการณ์ต่างๆดีขึ้น คนเริ่มหันมาท่องเที่ยวมากขึ้นโดย ในจังหวัดนครพนม มีแหล่งท่องเที่ยวที่มากขึ้นไม่ว่าจะเป็นพระธาตุพนม พระธาตุเรณูนคร พญาศรีสัตตนาคราช อีกทั้งยังมีร้านกาแฟ ร้านอาหารแหล่งใหม่และด้านโรงแรมมีการปรับตัวให้เข้ากับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ จึงดึงดูดนักท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น  ทางด้านจังหวัดบุรีรัมย์ก็มีการแข่งขันฟุตบอล ณ ช้างอารีนา บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด โดยในเดือนกันยายน มีการแข่งไฮลักซ์ รีโว่ ไทยลีก 3 คู่ อีกทั้งยังมีการแข่งโออาร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์  ทางด้านจังหวัดบึงกาฬ ก็เป็นที่โด่งดังอยู่แล้วสำหรับถ้ำนาคา หรือจะเป็นหินสามวาฬ ภูสิงห์ และน้ำตกต่างๆ ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบธรรมชาติได้เป็นอย่างมาก จึงส่งผลให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวไทยเพิ่มมากขึ้น ผู้ประกอบการในทุกภูมิภาคของประเทศคาดว่าในไตรมาส 4 นี้สถานการณ์การท่องเที่ยวจะปรับตัวดีขึ้นทั่วประเทศ เนื่องจากเป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว (peak season) และการส่งเสริมกิจกรรมใหม่ ๆ ที่น่าสนใจจาก ททท. โดยผู้ประกอบการในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คาดว่าสถานการณ์การท่องเที่ยวจะดีขึ้นมากกว่าภูมิภาคอื่น ๆ รองลงมาคือภาคใต้ และกรุงเทพฯ หากมองเป็นรายธุรกิจพบว่า ผู้ประกอบการร้านอาหาร คาดว่าผลประกอบการในไตรมาส 4 นี้จะดีกว่าไตรมาส 3 ที่ผ่านมา รองลงมาคือ ธุรกิจที่พักแรม และร้านขายของฝาก/ของที่ระลึก อ้างอิงจาก:  กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ประชาชาติ #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ภาคอีสาน #นักท่องเที่ยว #จำนวนนักท่องเที่ยว #นครพนม #บุรีรัมย์ #บึงกาฬ

พาส่องเบิ่ง ป้อมพลัง VS ป้อมกิจ

พาส่องเบิ่ง ผลประกอบการ 2 อาณาจักรขายส่งเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ รายใหญ่ในภาคอีสาน       อ้างอิงจาก: https://datawarehouse.dbd.go.th/company/profile/5/0405552000559 https://datawarehouse.dbd.go.th/company/profile/5/0305536000559   #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ป้อมพลัง #ขอนแก่น #ป้อมพลัง #นครราชสีมา #ขายส่งเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์  

ปังหลายเด้อ ! เปิดลิสต์ร้านใหม่ ร้านเด็ด คว้า ‘มิชลิน ไกด์ 2023’  บุกอีสาน ‘ขอนแก่น-อุบลฯ-โคราช-อุดรฯ’

ปังหลายเด้อ ! เปิดลิสต์ร้านใหม่ ร้านเด็ด คว้า ‘มิชลิน ไกด์ 2023’  บุกอีสาน ‘ขอนแก่น-อุบลฯ-โคราช-อุดรฯ’   มิชลิน ไกด์ (Michelin Guide) จับมือการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ออกเดินทางเข้าสู่ประตูอีสาน เพื่อคัดสรรร้านอาหารจาก 4 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา, อุบลราชธานี, อุดรธานี และขอนแก่น สำหรับการจัดทำคู่มือมิชลิน ไกด์ ประจำปี 2566 สำหรับภาคอีสานของประเทศไทย ถือเป็นพื้นที่ที่น่าสนใจทางด้านอาหาร เพราะเป็นพื้นที่ที่เหมาะแก่การทำปศุสัตว์ อีกทั้งยังเป็นแหล่งเพาะปลูกข้าวคุณภาพสูง และยังมีปลาน้ำจืดให้เลือกเป็นวัตถุดิบประกอบอาหารได้อีกด้วย รวมถึงเทคนิคการถนอมอาหารที่รู้จักกันดีอย่างปลาร้า ซึ่งเป็นจุดเด่นที่สำคัญมากของวัฒนธรรมด้านอาหารของชาวอีสาน มานูเอล มอนทานา ประธานกลุ่มมิชลิน ประจำภาคพื้นเอเชียตะวันออกและออสเตรเลีย เปิดเผยว่า นี่เป็นช่วงเวลาที่ดีของการเปิดตัวมิชลิน ไกด์ ประจำปี 2566 เนื่องจากเวลานี้ ประเทศไทยกำลังเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทำให้เกิดการกระตุ้นการเดินทางอีกครั้งหนึ่ง ทั้งในรูปแบบการท่องเที่ยวเชิงอาหาร ควบคู่ไปกับการท่องเที่ยวทางธรรมชาติและวัฒนธรรม นอกจากนี้ การจัดอันดับร้านอาหารในมิชลิน ไกด์ ในแต่ละปีก็มีคู่มือของแต่ละจังหวัดเพิ่มมากขึ้น จากเดิมที่เคยมีแค่เฉพาะเขตกรุงเทพมหานคร กระทั่งครอบคลุมไปในภูมิภาคอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นภาคอีสาน หรือจากจังหวัดในภาคอื่นๆ เช่น พระนครศรีอยุธยา, เชียงใหม่, ภูเก็ต และพังงา อ้างอิงจาก: เว็บไซต์มิชลินไกด์ มติชน ไทยรัฐ #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ภาคอีสาน #ขอนแก่น #อุบลราชธานี #นครราชสีมา #อุดรธานี #MichelinGuide #มิชลินไกด์ #ร้านอาหารอีสาน #ร้านอาหารมิชลิน  #ร้านอาหารมิชลินไกด์

ชวนเบิ่ง ศึกอาณาจักรจำหน่ายรถยนต์ รายใหญ่ในภาคอีสาน

จุดเริ่มต้นของ “โตโยต้าดีเยี่ยม”    “คุณสมชาย” ตัดสินใจลาออกจากโรงเรียน ไปทำงานตามร้านขายของชำ ขายหนังสือพิมพ์ ฯลฯ ทำทุกอย่างที่ได้เงิน เขาเป็นคนสู้งาน ทำงานที่ไหนเถ้าแก่ก็รัก วันหนึ่งเขาไปทำงานที่บริษัทเสริมสุข ส่ง “เป๊ปซี่” ตามร้านต่างๆ ในจังหวัดอุบลฯ ทำงานไม่กี่เดือน เขาก็ได้เป็น “พนักงานขายดีเด่น” ที่ทำยอดขายสูงสุดในประเทศไทย 1,200 กว่าลังต่อวัน           3 ปีผ่านไป เขาก็ยังรักษาสถิตินักขายดีเด่นเอาไว้ได้ ซึ่งตามหลักเขาควรจะได้รับการโปรโมตในตำแหน่งที่สูงขึ้น แต่ “คุณสมชาย” ไม่ได้ ด้วยเหตุผลว่าตำแหน่งผู้จัดการนั้นต้องมีอายุ 36 ปีขึ้นไป “คุณสมชาย” ตัดสินใจลาออกและเดินตามความฝันในวัยเด็กของเขา เขาชอบ “รถยนต์” “คุณสมชาย” เดินไปสมัครงานที่ “โตโยต้าอุบลราชธานี” ดีลเลอร์ขายรถโตโยต้าเก่าแก่ในเมืองอุบลฯ “เถ้าแก่” ตัดสินใจรับ “คุณสมชาย” เข้าทำงาน เริ่มต้นงานแรกด้วยการปัดกวาดรถและทำทุกอย่างที่ “เถ้าแก่” ใช้ จนวันหนึ่ง “เถ้าแก่” สั่งให้เขาไปส่งรถให้ลูกค้าที่ยโสธร    เมื่อโชว์รูมที่ยโสธรมีปัญหา “เถ้าแก่” จึงส่ง “คุณสมชาย” ไปดูแล 3 เดือนแรกเขาขายไม่ได้เลยสักคันเดียว แต่สิ่งหนึ่งที่ “คุณสมชาย” ค้นพบก็คือ คนที่มีรถเก่า ส่วนใหญ่อยากซื้อรถคันใหม่ แต่จะซื้อได้ก็ต้องขายรถเก่าให้ได้ก่อน “คุณสมชาย” จึงใช้กลยุทธ์หาพ่อค้ารถมือสองมารับซื้อรถ พอขายรถเก่าได้ เขาก็จะมาซื้อรถใหม่กับ “คุณสมชาย” ยอดขายรถโตโยต้าที่ยโสธรพุ่งขึ้นเรื่อยๆ สิ้นปี “เถ้าแก่” จัดงานปีใหม่ และบอกกับพนักงานทุกคนว่าสาขาอุบลฯ นั้นอยู่รอดได้เพราะสาขายโสธร “หนู” ช่วย “ราชสีห์”   “คุณสมชาย” ทำงานที่ “โตโยต้าอุบลฯ” 15 ปี เมื่อ “เถ้าแก่” เสียชีวิต เขาก็ตัดสินใจลาออก เลิกเป็น “ลูกจ้าง” และเริ่มต้นชีวิต “เถ้าแก่โตโยต้าดีเยี่ยม”    ย้อนถึงเหตุการณ์เมื่อครั้งต้องฝ่าฟันมรสุม “ต้มยำกุ้ง” เมื่อครั้งปี 2540 ช่วงเวลานั้นสถาบันการเงิน 65 แห่งต้องปิดตัวลง นักธุรกิจแทบทุกวงการ ล้วนตกอยู่ในสภาพย่ำแย่ไม่เว้นแม้แต่ตัวเขา แต่หากมัวพร่ำบ่นว่าแย่ คงหมดกำลังใจไปนานแล้ว  “คุณสมชายไม่เคยท้อ เพราะท้อแล้วไม่มีประโยชน์ ท้อแล้วมันทำให้หมดกำลังใจ ต้องเติมกำลังใจให้ตัวเองใหม่ เพราะคนเราขาดกำลังใจไม่ได้ ปัญหาคือความสำเร็จปลอมตัวมาทดสอบเรา เหมือนข้อสอบ”    “ช่วง เศรษฐกิจไม่ดี หลายคนคิดว่าไม่มีโอกาสเพราะตลาดเต็ม แต่คุณสมชายไม่คิดอย่างนั้น กลับกัน คือ ต้องเร่งขยายงาน เพราะคู่แข่งก็คือคู่แข่งอยู่ดี จึงต้องแตกต่างทำงานให้มากกว่าคนอื่น เมื่อมีคนตกงานมาสมัครงานกันมาก เลยสามารถคัดคนได้” คุณสมชาย ยังบอกอีกว่า “คนที่ประสบความสำเร็จมักฉกฉวยโอกาสจากโชคร้าย แต่คนที่ประสบความสำเร็จมากกว่าจะฉกฉวยในทุกโอกาส”     …

ชวนเบิ่ง ศึกอาณาจักรจำหน่ายรถยนต์ รายใหญ่ในภาคอีสาน อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง “โค้วยู่ฮะมอเตอร์” หนึ่งในผู้จำหน่ายอีซูซุรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

หากกล่าวถึง “โค้วยู่ฮะ” คงไม่มีใครในที่นี้ไม่รู้จัก และคงไม่เป็นที่รู้จัก หากปราศจากบุคคลผู้สร้างตำนานแห่งความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ที่ชื่อ ดร.วิญญู คุวานันท์ นับถอยหลังไป เมื่อปีพุทธศักราช 2500 ที่ อ.พล จ.ขอนแก่น ดร.วิญญู คุวานันท์ ในขณะนั้นอยู่ในวัยที่สำเร็จการศึกษาจากกรุงเทพฯ ได้เข้ามารับช่วงกิจการค้าขายสินค้าพื้นเมือง น้ำมันก๊าซและสินค้าพืชไร่ ต่อจากบิดาและมารดา ต่อมาได้เข้าพิธีมงคลสมรสกับคุณมาลิน คุวานันท์ ภรรยาคู่ชีวิต ผู้ที่เป็นกำลังสำคัญยิ่ง ให้คำปรึกษาและเป็นแรงผลักดันในการดำเนินธุรกิจแก่ ดร.วิญญู อีกทั้งด้วยที่ ดร.วิญญู มีนิสัยใฝ่ที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ โดยเฉพาะในเรื่องที่เกี่ยวกับเครื่องจักร เครื่องยนต์ จึงก้าวมาสู่นักธุรกิจค้าขายรถยนต์   ในช่วงแรก เป็นไปด้วยความยากลำบาก แต่ก็ประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ และในปีพุทธศักราช 2502 โค้วยู่ฮะได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้จำหน่ายรถยนต์อีซูซุอย่างเป็นทางการ จาก บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ด้วยวิสัยทัศน์อันกว้างไกลของ ดร.วิญญู จึงตัดสินใจขยายกิจการเข้าสู่เมืองใหญ่ คือ จังหวัดขอนแก่น และได้เปลี่ยนชื่อจาก ห้างหุ้นส่วนจำกัด เป็น บริษัท โค้วยู่ฮะมอเตอร์ จำกัด โดยดำเนินธุรกิจรถยนต์อีซูซุ ทั้งในด้านการจำหน่าย การบริการหลังการขายและอะไหล่ แบบครบวงจร   บริษัท โค้วยู่ฮะมอเตอร์ จำกัด ได้ก่อตั้งขึ้นด้วยทุนจดทะเบียน 1.5 ล้านบาท ในขณะนั้นมีพนักงานเพียง 20 คน โดยหนึ่งในนั้น คือ คุณประยูร อังสนันท์ ซึ่งปัจจุบันนี้ ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ ต่อมาได้ขยายกิจการไปยังกรุงเทพฯ ในปีพุทธศักราช 2510 ด้วยความเพียรพยายามของผู้บริหาร และความตั้งใจของทีมงานทุกคน ทำให้ธุรกิจขยายตัวอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันกลุ่มโค้วยู่ฮะ มีทุนจดทะเบียน 1,600 ล้านบาท ถือว่าเป็นหนึ่งในผู้จำหน่ายอีซูซุรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย       อ้างอิงจาก: https://datawarehouse.dbd.go.th/company/profile/5/0405507000022 https://www.kow.co.th/about-us   #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #โค้วยู่ฮะมอเตอร์ #ขอนแก่น #ผู้จำหน่ายอีซูซุ #ธุรกิจระดับพันล้าน #โค้วยู่ฮะ  

Scroll to Top