Infographic

ชวนเบิ่ง อาณาจักร Mongni Cafe ชานมไข่มุกรายใหญ่ในภาคอีสาน

ถ้าพูดถึงเครื่องดื่มที่ฮิตและปังที่สุดในตอนนี้ ก็คงจะหนีไม่พ้น “ชานมไข่มุก” โดยวันนี้เราจะพามาที่ร้าน “Mongni Cafe” ร้านชานมไข่มุกขอนแก่น ที่ฮอตฮิตจนขยายแฟรนไชส์ไปแล้วหลายจังหวัด ! Mongni cafe เดิมทีเป็นร้านคาเฟ่ธรรมดา ๆ ในย่านกังสดาล ม.ขอนแก่น Mongni Cafe ชื่อภาษาอังกฤษ อ่านว่า “หม่อง-นี่ คาเฟ่” ร้านชานมขนาดเล็ก โดยชื่อออกเสียงเข้ากับสไตล์คาเฟ่ดูเป็นญี่ปุ่น แต่ที่แท้เป็นภาษาอีสาน บ่งบอกที่มา ก่อตั้งขึ้นที่จังหวัดขอนแก่น โดยชาวอีสาน ก่อนจะขยายเครือข่ายทั่วประเทศ ราว ๆ 60 แห่งแล้ว รวมทั้งที่ ภูเก็ต เชียงใหม่ และกรุงเทพฯ ต่อมาชานมไข่มุกกำลังดังในช่วงนั้นพอดี ทางร้านจึงได้เดินทางไปไต้หวัน เพื่อไปลองชิมไข่มุกลาวา และได้นำมาดัดแปลงสูตร จนได้นำไปออกบูธของทางร้าน แถมได้รับกระแสตอบรับที่ดีมาก ลูกค้าต่างชื่นชอบและติดใจ จึงมีการเรียกร้องให้นำมาขายที่ Mongni Cafe ทำให้ชานมไข่มุกลาวา ถือกำเนิดขึ้นในชื่อติดปากว่า “ชานมหม่องนี่” Mongni Cafe มีสไตล์การตกแต่งแบบโทนสีเหลืองสดใส มีโลโก้ที่เป็นเอกลักษณ์และจำง่าย ความพิเศษไม่เหมือนใครอยู่ที่ตัวไข่มุกหวานอุ่น กับน้ำที่รสจืดทั้งหมด โดยไข่มุกลาวาที่เป็นไข่มุกสูตรเฉพาะของทางร้าน Mongni Cafe ที่นำมาเคี่ยวกับน้ำตาล ทำให้มีรสชาติหอมหวานและมีกลิ่นไหม้นิด ๆ อันเป็นเสน่ห์ของไข่มุกลาวา แล้วนำมาใส่ในเครื่องดื่มเพื่อชูรสหวาน อ้างอิงจาก: https://data.creden.co/company/general/0413562002358 https://data.creden.co/company/general/0405562005260 https://food.trueid.net/detail/yGQgayk1QdN7 https://marketeeronline.co/archives/209512 https://www.wongnai.com/articles/mongni-cafe-khonkaen #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ชานมไข่มุก #MongniCafe #Mongni #หม่องนี่ #ขอนแก่น

พาส่องเบิ่ง ศึกธุรกิจน้ำปลาร้า ของเหล่าคนดังในภาคอีสาน

หากมองเข้ามาที่ตลาดน้ำปลาร้าของบ้านเราที่มีมูลค่าประมาณ 10,000 ล้านบาทแล้ว จะพบว่า การเข้าตลาดนี้มีอุปสรรคในการเข้าค่อนข้างต่ำ เพราะนอกจากจะมีโรงงานที่ผลิตสินค้าทำ OEM เพื่อนำไปติดแบรนด์ของตัวเองกระจายอยู่ทั่วประเทศเป็นจำนวนมากแล้ว หากคนที่จะเข้ามาทำตลาดเป็นคนที่มีชื่อเสียง หรือเป็นดารา นักร้อง ที่สามารถเอา Personal Brand ของตัวเองไป Endorse เพื่อทำแบรนด์น้ำปลาร้าของตัวเองเข้าทำตลาด ก็จะทำให้ทุกอย่างเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น ทำให้ตลาดน้ำปลาร้าในปัจจุบัน มีแบรนด์อยู่ในตลาดถึง 200 – 300 แบรนด์เลยทีเดียว ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจก็คือเหล่าบรรดาคนที่มีชื่อเสียงเหล่านั้น ต่างก็เข้ามาทำแบรนด์ของตัวเองเพื่อลุยตลาด ไม่ว่าจะเป็นน้ำปลาร้าแบรนด์แซ่บไมค์ ของนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง “ไมค์ ภิรมย์พร” น้ำปลาร้าแบรนด์หม่ำ จ๊กม๊ก หรือแม้แต่น้ำปลาร้าสุนารี ไม่เว้นแม้แต่นักมวยดังอย่าง “บัวขาว บัญชาเมฆ” ก็มีน้ำปลาร้า แบรนด์บัญชาเมฆ กับเขาด้วย อย่างไรก็ตาม แม้การเข้าตลาดนี้จะทำได้ค่อนข้างง่าย แต่การจะทำให้ประสบความสำเร็จ เป็นเรื่องที่ดูเหมือนง่าย แต่ทำออกมาค่อนข้างยาก เพราะแม้จะมีชื่อเสียงของตัวเองเข้ามา Endorse ไปกับแบรนด์ แต่หากไม่มีกลยุทธ์การตลาดที่ดีเข้ามาประกอบ โดยเฉพาะเรื่องของการจัดจำหน่าย โอกาสที่จะสามารถสร้างสเกลให้เป็นแมสตามคุณสมบัติของสินค้าตัวนี้ก็มียากขึ้นตามไปด้วย อ้างอิงจาก: https://www.brandage.com/article/20910/ZAB-MIKE https://data.creden.co/company/general/0125562012391 https://data.creden.co/company/general/0105562115165 https://data.creden.co/company/general/0105560011401 https://data.creden.co/company/general/0405560004169 https://www.nationtv.tv/entertainment/378862786 #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ธุรกิจน้ำปลาร้า #น้ำปลาร้า #น้ำปลาร้าแซ่บไมค์ #น้ำปลาร้าสุนารี #น้ำปลาร้าเอ็มยูเอ็มรสชาตินัว #น้ำปลาร้าบัญชาเมฆ

พามาฮู้จัก Medical Hub  แผนพัฒนาเศรษฐกิจไทย 

พามาฮู้จัก Medical Hub  แผนพัฒนาเศรษฐกิจไทย    การระบาดของไวรัส COVID-19 ได้ส่งผลกระทบในวงกว้าง แนวคิดการรักษาสุขภาพและความเป็นอยู่ดีนั้นจึงกำลังเป็นที่สนใจของประชากรทั่วโลก การเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ หรือ Medical Hub เป็นหนึ่งในเป้าหมายของภาครัฐ ที่ต้องการให้เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 จึงมีแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) (พ.ศ.2560-2569)   อีกทั้งมีการยกระดับและเพิ่มมูลค่าให้แก่สมุนไพรไทย แพทย์แผนไทย และภูมิปัญญาในการดูแลรักษาสุขภาพแบบไทย ทั้งยังสนับสนุนความร่วมมือและเชื่อมโยงผู้ประกอบการธุรกิจสุขภาพและการแพทย์ของไทยกับผู้ประกอบการธุรกิจสุขภาพทั่วโลกอีกด้วย   อย่างไรก็ดี การจะผลักดันให้อุตสาหกรรมการแพทย์ของไทยขึ้นแท่นผู้นำในอุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจรจนกลายเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) อย่างยั่งยืนนั้น ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งนโยบายสนับสนุนจากภาครัฐที่เอื้อให้เกิดการลงทุน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยและ พัฒนาด้านการแพทย์ควบคู่กับการลงทุนจากภาคเอกชนที่มีความพร้อมท้ังด้านองค์ความรู้ ทรัพยากร และเงินลงทุน เพื่อให้เกิดการพัฒนาและการลงทุนอย่างบูรณาการ และเป็นไปในทิศทางเดียวกันท้ัง Ecosystem   อ้างอิงจาก :  https://www.khonkaenuniversity.in.th/95518/  https://rmuti.ac.th/main/news180365-2/  https://hss.moph.go.th/fileupload/2560-102.pdf https://krungthai.com/Download/economyresources/EconomyResourcesDownload_467Medical_Hub.pdf  #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #MedicalHub #แผนพัฒนาเศรษฐกิจไทย #ศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ

พามาเบิ่ง ศึกอาณาจักรโรงน้ำแข็ง รายใหญ่ในภาคอีสาน

อ้างอิงจาก: https://data.creden.co/company/general/0453544000187 https://data.creden.co/company/general/0335547000105 https://www.facebook.com/ejan2016/videos/370209933581379/ https://www.youtube.com/watch?v=VnqHL47TQVU #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #โรงน้ำแข็ง #กรเดช #วารีเทพ

คนอีสาน มีหนี้ต่อครัวเรือน จากอิหยังบ้าง ?

คนอีสาน มีหนี้ต่อครัวเรือน จากอิหยังบ้าง ?   อ้างอิงจาก :  สำนักงานสถิติแห่งชาติ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม   #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #คนอีสาน #หนี้ครัวเรือน #หนี้ครัวเรือนอีสาน

พาซอมเบิ่ง เงินเฟ้อภาคอีสาน เดือนสิงหาคมเป็นจั่งใด๋ ? เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้า สูงขึ้น 7.34% (YoY)

สถานการณ์ “เงินเฟ้อ” ประจำเดือน สิงหาคม 2565 สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) แถลงข้อมูลการปรับตัวลดลงของเงินเฟ้อถึง 7.86% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า (ส.ค. 64) ดัชนีราคาผู้บริโภคของไทย (CPI) เดือนสิงหาคม 2565 เท่ากับ 107.4 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนนี้อยู่ที่ 7.86% (YoY) เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ดัชนีราคาผู้บริโภคจำแนกรายภาค พบว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคในทุกภาคเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้าขยายตัวในอัตราเพิ่มขึ้น โดยในเดือนนี้อัตราเงินเฟ้อของภาคเหนือสูงกว่าภูมิภาคอื่น ๆ โดยสูงขึ้น 8.24% รองลงมาได้แก่ กรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคกลาง และภาคใต้ สูงขึ้น 7.98% 7.94% และ 7.88% ตามลำดับ ในขณะที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือสูงขึ้นในอัตราท่ีต่ำกว่าภูมิภาคอื่น ๆ ที่ 7.34% เมื่อพิจารณาเป็นรายสินค้า พบว่า สินค้าสำคัญที่ราคาปรับตัวสูงขึ้นในทุกภาค ได้แก่ ค่ากระแสไฟฟ้า น้ำมันเชื้อเพลิง กับข้าว สำเร็จรูป และอาหารกลางวัน (ข้าวราดแกง) สำหรับสินค้าสำคัญที่ราคาลดลงในทุกภาค ได้แก่ ค่าส่งพัสดุไปรษณีย์ ผักและผลไม้ อาทิ ขิง มะนาว และสับปะรด อัตราการเปลี่ยนแปลงสำคัญของภาคอีสานที่ทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้นในอัตราที่ต่ำกว่าภูมิภาคอื่น 1. กลุ่มอาหารสดและพลังงาน สูงขึ้น 14.9% โดยเฉพาะพลังงานสูงขึ้นถึง 28.4% เนื่องจากต้นทุนการนำเข้าจากการอ่อนค่าของเงินบาท และความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 2. หมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ สูงขึ้น 8.5% โดยเฉพาะน้ำมันและไขมันสูงขึ้นถึง 29% 3. หมวดพาหนะ การขนส่ง และการสื่อสาร สูงขึ้น 8.4% โดยเฉพาะราคาน้ำมันเชื้อเพลิงสูงขึ้นถึง 21.4% ปรับสูงขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมันในตลาดโลก 4. หมวดเคหสถาน สูงขึ้น 7.7% โดยเฉพาะค่ากระแสไฟฟ้าสูงขึ้น 62.7% ตามการปรับขึ้นค่าไฟฟ้าผันแปร หรือ ค่าเอฟที (FT) ประจำเดือน กันยายน-ธันวาคม 2565 แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อทั่วไป เดือนกันยายน ปี 2565 อัตราเงินเฟ้อยังคงมีแนวโน้มขยายตัวแต่ในอัตราท่ีชะลอลง จากราคาสินค้าในกลุ่มพลังงาน อาหาร และสินค้าและบริการอื่น ๆ ที่ปรับสูงขึ้นตามต้นทุน ซึ่งยังอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อน และอุปสงค์ในประเทศปรับตัวดีขึ้น จากการท่องเที่ยวในประเทศ และการส่งออก ประกอบกับค่าเงินบาทอ่อนค่า ส่งผลต่อต้นทุนการน้าเข้าสินค้า อย่างไรก็ตาม ฐานราคาที่เพิ่มสูงขึ้นในเดือนเดียวกันปีก่อน จะเป็นปัจจัยทอนต่อการสูงขึ้นของเงินเฟ้อ และราคาน้ำมันดิบท่ีมีความผันผวน จะเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ท้าให้ทิศทางของอัตราเงินเฟ้อมีความไม่แน่นอน นอกจากนั้น มาตรการลดค่าไฟฟ้าของรัฐ ที่คาดว่าจะออกมาในช่วงที่เหลือของปีจะมีส่วนชะลอการสูงขึ้นของอัตราเงินเฟ้อ ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้คาดการณ์อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปี 2565 อยู่ท่ีระหว่างร้อยละ 5.5 – …

พาซอมเบิ่ง เงินเฟ้อภาคอีสาน เดือนสิงหาคมเป็นจั่งใด๋ ? เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้า สูงขึ้น 7.34% (YoY) อ่านเพิ่มเติม »

ย้อนเบิ่ง  จำนวนวัดในภาคอีสานมีท่อใด๋ ในปี 2564

ย้อนเบิ่ง  จำนวนวัด  ภาคอีสานมีท่อใด๋ ในปี 2564 เมื่อลองดูสถิติจำนวนวัดในภาคอีสานแล้ว จะเห็นได้ว่าภาคอีสานมีจำนวนวัดมากที่สุดในประเทศเลยทีเดียว อีกทั้งคนไทยหันมาหาที่พึ่งทางจิตใจเยอะมากขึ้นเนื่องจากมีสถานการณ์โควิด-19 จากงานวิจัยของ นายบุญยิ่ง คงอาชาภัทร หัวหน้าสาขาการตลาด มหาวิทยาลัยมหิดล หัวข้อการตลาด ซึ่งสำรวจความคิดเห็นจากกลุ่มตัวอย่างกว่า 1,200 ตัวอย่าง พบว่า ปัจจัยที่ทำให้คนไทยเกิดความกังวล ได้แก่ การแพร่ระบาดของโควิด-19 คิดเป็น 76.8% จากความกังวลและความไม่แน่นอนดังกล่าว ประกอบกับสถานการณ์การเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ทำให้คนไทยต้องหาวิธีจัดการกับความรู้สึก จนเกิดปรากฏการณ์ 3 อย่าง หนึ่งในนั้นคือหันหน้าพึ่งสายมูเตลู หรือมีความเชื่อโชคลาง จึงเป็นโอกาสที่ดีสำหรับธุรกิจด้านนี้ ส่งผลให้ธุรกิจที่เกี่ยวกับการวัด การทำบุญ หรือ มูเตลู ได้รับความสนใจมากขึ้น อีกทั้งเหล่าผู้ประกอบการน้อยใหญ่ต่างปรับกลยุทธ์การตลาดให้เท่าทันไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น เพื่อให้สามารถประคองตัวผ่านพ้นช่วงวิกฤตไปได้ อ้างอิงจาก : สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ https://www.prachachat.net/social-media-viral/news-732999 #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ภาคอีสาน #วัดอีสาน #วัด

พาส่องเบิ่ง “ขอนแก่นแหอวน” จาก Family Business สู่ธุรกิจแหอวนระดับโลก

วันนี้ ISAN Insight & Outlook จะพามาดูเส้นทาง “ขอนแก่นแหอวน” ว่ามีความเป็นมาอย่างไร?? จุดเริ่มต้นจากร้านโชห่วยในรุ่นพ่อ ที่ช่วยกันพัฒนาจากพี่น้องสามคนของตระกูล ‘เสรีโยธิน’ จนขยายกิจการเป็นบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายแห อวน ตาข่าย และอุปกรณ์การประมง การเกษตร ภายใต้แบรนด์สินค้าตรา ‘เรือใบ’ หรือ SHIP ในนามบริษัทขอนแก่นแหอวน จำกัด หรือ KKF ที่ผงาดสู่ระดับโลกได้สำเร็จ จากแนวคิด Family Business ของ คุณบวร เสรีโยธิน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ขอนแก่นแหอวน จำกัด หนึ่งในผู้ก่อตั้งธุรกิจแหอวนระดับโลกจากสามพี่น้องตระกูลเสรีโยธิน คุณบวร เล่าว่า ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2520 โดยเริ่มจากที่อยากพัฒนาบ้านเกิดตนเอง ซึ่งเป็นการทำธุรกิจที่เริ่มจากรับสินค้าจากชาวบ้านในจังหวัดขอนแก่น ที่ถักแหอวนด้วยมือ แล้วส่งไปขายต่อ จากนั้นเมื่อเข้าสู่ยุคสั่งสินค้า semi product จากญี่ปุ่น ก็มีการสั่งสินค้านำมาแปรรูปใส่ตะกั่วใส่ทุ่นเพิ่มทำให้อวนสำเร็จรูปมากขึ้น แล้วส่งขายไปทั่วภาคอีสาน เมื่อมีปริมาณการซื้อเพิ่มมากขึ้น จึงขยายตลาดไปภาคอื่นๆ ทั่วประเทศ จุดพลิกผันด้านกำแพงภาษี ก่อนแจ้งเกิดระดับโลก จุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ครอบครัวเสรีโยธินต้องพัฒนาสินค้าขึ้นเอง ตั้งแต่กระบวนการผลิตเส้นใย ด้วยเหตุที่ญี่ปุ่นตั้งกำแพงภาษีสำหรับสินค้าเส้นใย ทำให้ต้นทุนมีราคาที่สูงขึ้น จนหันมาตั้งโรงงานและเป็นผู้ผลิตแทนการนำเข้า โดยเริ่มจากการซื้อเครื่องจักรมือสองของไต้หวัน 10 เครื่อง ปัจจุบันยังมีการปรับใช้ Know-how ต่างๆ เข้าไปเพื่อให้เครื่องจักรทำงานได้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น เป็นระบบออโตเมชั่น ทำให้การใช้แรงงานคนลดน้อยลง วิกฤตสร้างโอกาส ขยายตลาดไม่หยุดยั้ง ปี 2540 เกิดวิกฤตต้มยำกุ้งทำให้ธุรกิจต้องหยุดชะงัก ส่งผลให้ต้องมีการกู้เงินตราต่างประเทศเพื่อขยายกิจการ จึงเป็นที่มาทำให้ขอนแก่นแหอวนหันไปบุกตลาดต่างประเทศอย่างจริงจัง เพื่อนำเงินสกุลต่างประเทศมาชดเชยกับค่าเงินบาทที่อ่อนค่าในช่วงนั้น หลังจากที่เติบโตมาได้ระดับหนึ่ง ทำให้มองเห็นช่องทางโอกาสในการเติบโตที่มากขึ้น จึงค่อยๆ ขยายโรงงานเพิ่มขึ้น จนปัจจุบันมีโรงงานอยู่ในประเทศไทยทั้งหมด 6 แห่ง ประเทศจีน 2 แห่ง และประเทศเมียนมา 2 แห่ง ซึ่งกว่า 60% กระจายไปในตลาดต่างประเทศเป็นหลัก ส่วนอีก 40% กระจายอยู่ในประเทศไทย สร้างจุดแข็งด้วยกลยุทธ์ Holding Company นอกจากมีการจัดตั้งธรรมนูญครอบครัว ขอนแก่นแหอวนยังมีกลยุทธ์ในการวางแผนบริหารธุรกิจโดยการจัดตั้ง Holding Company โดยผู้บริหารมาจากคนในตระกลูทั้งหมด โดยแบ่งหน้าที่ให้สอดคล้องกับความชำนาญของแต่ละบุคคล ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ธุรกิจครอบครัวมักที่จะใช้ในการวางแผนบริหารธุรกิจ แนวคิด ‘ธรรมนูญครอบครัว’ เพื่อความสำเร็จอย่างยั่งยืน ขอนแก่นแหอวนถือเป็นต้นแบบการบริหารจัดการธุรกิจครอบครัวที่ดีเยี่ยมมากว่า 44 ปี โดยมีการบริหารจัดการธุรกิจแบบ ‘ธรรมนูญครอบครัว’ ซึ่งเป็นการสร้างข้อตกลงร่วมกันระหว่างสมาชิกในครอบครัว โดยสมาชิกที่เกี่ยวข้องจะมีส่วนร่วม มีสิทธิและเสียงในการสร้างข้อตกลงต่างๆ ขึ้นมา สำหรับธรรมนูญครอบครัวของขอนแก่นแหอวน คุณบวรเล่าว่า เนื่องจากเป็นธุรกิจครอบครัวและมีหลายเจนเนอเรชั่น จึงจำเป็นต้องสร้างหลักเกณฑ์ที่เป็นธรรมให้กับทุกคนในครอบครัว เพื่อให้ธุรกิจครอบครัวประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน โดยมีการประชุมกงสีทุกไตรมาส ไม่น้อยกว่า 2 ครั้งต่อปี เพื่อให้แต่ละเจนเนอเรชั่นเรียนรู้ซึ่งกันและกันให้มากขึ้น เชื่อว่าถ้ามีความสามัคคีกันจะทำให้แข็งแกร่งและอยู่ได้อย่างยั่งยืน …

พาส่องเบิ่ง “ขอนแก่นแหอวน” จาก Family Business สู่ธุรกิจแหอวนระดับโลก อ่านเพิ่มเติม »

4 งาน Craft ของใช้สุดปัง  จากการต่อยอดของท้องถิ่นแดนอีสาน 

4 งาน Craft ของใช้สุดปัง  จากการต่อยอดของ ท้องถิ่นแดนอีสาน  แนวโน้มของงานคราฟต์ในอนาคตจะเป็นอย่างไร  • เน้นที่การใช้งานมากขึ้น การออกแบบจะต้องแก้ปัญหาไม่ใช่เพียงแค่ผู้ใช้ แต่ต้องคำนึงถึงตัวชุมชนด้วย • มุมมองของการทำงานคราฟต์ หลังจากนี้จะเพื่อการฟื้นฟูเยียวยาทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจมากขึ้น ตลาดตรงนี้ยังมีที่ว่างให้สร้างสรรค์ผลงานได้หลากหลายรูปแบบ • การสื่อสารจึงไม่ใช่แค่พยายามเน้นการขายสินค้าอย่างเดียว แต่คือการใส่เรื่องราวลงในสินค้า เพื่อสร้างคุณค่าและสร้างความเข้าใจว่าทำไมถึงราคานี้ • สิ่งหนึ่งที่กำลังเกิดปัญหาในวงการแฟชั่นตอนนี้คือสินค้าค้างสต็อก เพราะ Fast Fashion มันขึ้นกับฤดูกาล แต่งาน คราฟต์ มันไม่มีเก่า ไม่มีตกรุ่น จึงเป็นช่วงเวลาที่ดีมากๆที่จะนำเสนอคุณค่าเหล่านั้นของงานคราฟต์ ออกมา ในช่วงเวลาที่ทุกคนกำลังมองหาความคุ้มค่าในรูปแบบตัวตนเฉพาะของตัวเอง อ้างอิงจาก: https://readthecloud.co/isan-craft-products/ https://www.prachachat.net/spinoff/lifestyle/news-333386 https://www.cea.or.th/…/single…/crafts-industry-covid-19 #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #Craftอีสาน #คราฟต์อีสาน #อำนาจเจริญ #Thorr #สกลนคร #ดอนหมูดิน #มหาสารคาม #LITIN #เลย #FolkCharm

มาทำความฮู้จัก  เหล้าอุ สุราแช่พื้นเมืองอีสาน 

มาทำความฮู้จัก  เหล้าอุ สุราแช่พื้นเมืองอีสาน  จังหวัดนครพนม พื้นที่ที่อุดมไปด้วยความหลากหลายทางชาติพันธุ์และวัฒนธรรมพื้นถิ่น จึงไม่แปลกนักหากจะมีประเพณีการต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองอันแตกต่างหลากหลาย หนึ่งในนั้นคือเมนูเครื่องดื่มพื้นเมือง ที่ภายหลังถูกยกให้เป็นของฝากของดีและมีการจดทะเบียนเป็นผลิตภัณฑ์ OTOP ประจำอำเภอเรณูนคร อ้างอิงจาก : http://www2.nakhonphanom.go.th/otop/detail/4 https://www.silpa-mag.com/culture/article_36143 https://craftnroll.net/craft-insight/ . #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #เหล้าอุ #นครพนม #เรณูนคร #เหล้าสาโท #เหล้าโท

Scroll to Top