Infographic

ชวนเบิ่ง “ข้าวไดโนเสาร์” สุดยอดแบรนด์ข้าวหอมมะลิของคนอีสาน

“ข้าวไดโนเสาร์” เป็นชื่อที่ถูกพูดถึงมากที่สุดบนโลกโซเชียลในขณะนี้ ซึ่งหาไม่ได้ง่าย ๆ ตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป วันนี้ ISAN Insight & Outlook จะพามาดูจุดเริ่มต้นและความลับของข้าวไดโนเสาร์ว่ามีอะไรบ้าง?? จุดเริ่มต้นของ “ข้าวไดโนเสาร์” คุณจำนงค์ รุ่งโรจน์นิมิตชัย เล่าว่า “สมัยก่อนคุณพ่อเคยเป็นหลงจู๊หรือเป็นผู้จัดการโรงสีให้คนอื่นเขา ตั้งแต่เด็กๆ เราก็ได้ช่วยงานพ่อ เป็นเสมียนคอยดูข้าว ชั่งข้าว ทำให้เราซึมซับมาเรื่อย ๆ และกลายเป็นงานที่เราถนัด จนกระทั่งเรียนจบ เราก็มาซื้อโรงสีเก่าขนาดเล็กๆ ต่อจากเค้า แล้วก็ปรับปรุงมาเรื่อย ๆ จากโรงสีขนาดเล็กก็ค่อยๆ เติบโตขึ้นมาทีละนิด จนตอนนี้ก็ทำมา 30 ปีแล้วครับ” จากโรงสีเก่าขนาดเล็กในอำเภอเลิงนกทา จังหวัดยโสธร ก็ค่อย ๆ เติบโตและกลายเป็นโรงสีพงษ์ชัยธัญญาพืช ต้นกำเนิดข้าวไดโนเสาร์” ซึ่ง “ข้าวไดโนเสาร์” จะใช้ข้าวหอมมะลิเป็นหลัก ชื่อเต็มของข้าวหอมมะลิคือข้าวขาวดอกมะลิ ปลูกในนาปี คือปลูกได้เฉพาะฤดูฝนเพราะเป็นพันธุ์ข้าวที่ไวต่อแสง ข้าวนาปีต้องปลูกให้ตรงตามฤดูถึงจะได้คุณภาพ พอเข้าสู่ฤดูหนาวที่ช่วงแสงสั้นลง ข้าวมันจะรู้เองอัตโนมัติว่าถึงเวลาต้องออกรวงแล้ว แม้จะปลูกต่างกัน 10 วัน ก็เกี่ยวพร้อมกัน ซึ่งโดยปกติข้าวหอมมะลิจะใช้เวลา 170-175 วัน โดยจะแตกต่างจากข้าวนาปรังที่ปลูกได้ทั้งปี ครบ 90-100 วันแล้วก็เกี่ยว คุณจำนงค์ยังเล่าด้วยว่า เรื่องของดินก็มีผลต่อข้าวเหมือนกัน “ข้าวหอมมะลิจะปลูกดีในนาทราย อย่างข้าวที่ปลูกในนาทรายแถบภาคอีสานเม็ดจะเรียวและขาวใสกว่า จะไม่อ้วนเท่ากับข้าวหอมมะลิที่ปลูกทางภาคกลางซึ่งเป็นนาดินเหนียว แต่ว่าความหอมเนี่ยจะขึ้นอยู่กับอายุของข้าว ถ้าเก็บเกี่ยวในช่วงที่เหมาะสมตามฤดูกาล ในขณะที่ข้าวไม่สุกจนเกินไป ก็จะได้ความหอมขึ้นมา รวงของเขาจะเป็นสีเหลืองพลับพลึง เหลืองเหมือนกล้วยอมเขียวนิด ๆ แสดงว่าเริ่มเกี่ยวได้แล้ว ถ้าปล่อยให้ข้าวกลายเป็นสีเหลืองน้ำตาลมันจะสุกเกินไป แต่ชาวบ้านหลายคนเกี่ยวในช่วงนี้เพราะจะได้ปริมาณแป้งและได้น้ำหนักที่มากขึ้น” สิ่งที่ทำให้ข้าวไดโนเสาร์พิเศษกว่าข้าวอื่น ๆ คือ กระบวนการคัดเลือกวัตถุดิบคุณภาพดีอย่างพิถีพิถัน โดยเริ่มจากวัตถุดิบที่ดีก่อน เวลาชาวบ้านขายข้าวเปลือกมาให้ สิ่งแรกที่ต้องดูคือเป็นข้าวหอมมะลิแท้หรือไม่ มีข้าวพันธุ์อื่นปนมามั้ย จากนั้นก็จะทำการคัดเกรดข้าว โดยคุณสมบัติ 2 ข้อที่ขาดไม่ได้คือความหอมและความนุ่ม โดยใช้หม้อหุงข้าวเล็ก ๆ หุงชิมตรงนั้นเลย ชิมเองบ้าง เสมียนชิมบ้าง แม่บ้านชิมบ้าง เพราะในสายพันธุ์ข้าวหอมไม่ได้มีแค่ข้าวหอมมะลิ ข้าวปทุมก็หอม ข้าวกข79 ก็หอม ทุกสายพันธุ์จะมีเอกลักษณ์ของตัวเอง ทีมงานจะจำรสชาติข้าวหอมมะลิได้เพราะชิมทุกวัน ชิมแล้วรู้เลยว่าตัวนี้ผ่านหรือไม่ผ่าน พอคัดข้าวเปลือกดีแล้ว อีกขั้นตอนที่สำคัญก็คือการจัดเก็บ โดยจะนำข้าวเปลือกไปเก็บไว้ในถังไซโลแล้วอัดอากาศเย็นและแห้งขึ้นไปจากด้านล่าง เพื่อรักษาอุณหภูมิให้ต่ำกว่า 25-28 องศา ให้ข้าวคงความหอมนุ่ม พอมีออเดอร์มาแล้ว จะมีการปล่อยข้าวจากถังไซโลออกมาสี ซึ่งจะไม่สีแล้วกองทิ้งไว้ เพราะการเก็บเป็นข้าวเปลือกจะคงคุณภาพได้ดีกว่า พอสีเสร็จแล้วก็แพ็กขายย่อยทุกวัน วันละ 1-2 คันรถเท่านั้น เหตุผลที่ไม่มีขายในห้าง จนกลายเป็น Rare item หลายคนพยายามเสิร์ชหาในกูเกิลว่าข้าวไดโนเสาร์ซื้อได้ที่ไหน เพราะมันไม่ได้วางขายตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป ซึ่งจะเกี่ยวกับปริมาณวัตถุดิบที่ปีนึงโรงสีจะซื้อข้าวคุณภาพดีมาได้เท่านี้ มีห้างมาชวนหลายเจ้า แต่ด้วยปริมาณของของโรงสีมีจำกัด โดยในขณะนี้ก็ยังคงขายอยู่ในร้านค้าแบบดั้งเดิม บางร้านก็นำไปขายบนออนไลน์อย่าง Shopee หรือ LAZADA ซึ่งก็สะดวกกับผู้บริโภค …

ชวนเบิ่ง “ข้าวไดโนเสาร์” สุดยอดแบรนด์ข้าวหอมมะลิของคนอีสาน อ่านเพิ่มเติม »

พามาฮู้จัก BWILD Isan พื้นที่รวมนักออกแบบความเป็นอีสาน

การทำ BWILD Isan ไม่ได้มุ่งหากำไรอย่างเดียว แต่นึกถึงผู้คนและสังคม จึงเกิดคอมมูนิตี้ที่รวบรวมนักออกแบบและช่างฝีมือในท้องถิ่น อยากให้พื้นที่นี้เป็นเวทีสำหรับคนรุ่นใหม่ในอีสาน ได้ทำสิ่งที่ตัวเองถนัด ได้อยู่กับครอบครัว จนเกิดความภูมิใจและเห็นคุณค่าในตัวเอง   หน้าที่สำคัญ คือ การออกแบบ แต่ต้องไม่กำหนดวิธีการทำงานของช่างฝีมือ โดย ไม่มีกรอบ ไม่มีถูก และไม่มีผิด ไม่ว่าจะถัก ทอ หรือย้อมสีผ้า เป็นตัวเองได้เต็มที่   ‘ Wild in The City ’ เป็นคอลเลกชันแรกที่ปรับตัวเรียนรู้ ทดลอง และสร้างงานร่วมกัน โดยมีแรงบันดาลใจหลัก คือ ความมุ่งมั่น ความกล้า ความเชื่อ ความศรัทธา และการปกป้อง สิ่งเหล่านั้นถูกนำมาเป็นธีมหลักในการออกแบบ จนกลายเป็นลายผ้าไหมมัดหมี่ เสื้อผ้า ภาพวาดบนผ้า พันคอ น้ำหอม กระเป๋าและเซรามิก ซึ่งได้รับรางวัล Best Collection Award จาก Qurated Fashion Incubation Project 2020   ต่อด้วยคอลเลกชันที่สอง ‘Ant Colony’ พูดถึงความงามของอีสานหน้าร้อน นั่นคือ ดอกจาน (ทองกวาว) และการแหย่ไข่มดแดง ที่นำมาปรุงให้เป็นอาหารรสแซ่บ และออกแบบเป็นผ้าไหมมัดหมี่ลายใบตองกุงและผ้าพันคอลายไข่มดแดงและแม่เป้ง (มดแดงนางพญา) จนได้รับรางวัลชนะเลิศจาก Thai Designer Academy 2021   จนสุดท้ายเกิดเป็นกระเป๋าไก่บ้าน (Kai Baan Bag) ออกนอกกรอบ สนุก และสะท้อนคุณค่าของชีวิตคนท้องถิ่นจริง ๆ ซึ่งใช้แรงบันดาลใจใกล้ตัว ความบ้าน ๆ ต่างจังหวัด ที่ตื่นมาก็เห็นคนอุ้มไก่ อาบน้ำไก่ ชนไก่ ตีไก่ จนเป็นสินค้าที่ทำให้คนรู้จักแบรนด์นี้มากยิ่งขึ้น   อ้างอิงจาก : เว็บไซต์บริษัท, Readthecloud   #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #กระเป๋าไก่บ้าน #BWILDIsan #KaiBaanBag  

พาส่องเบิ่ง เส้นทาง Class Café

“สตาร์บัคส์แห่งภาคอีสาน” จะเป็นของใครไปไม่ได้ นอกจาก “ร้านกาแฟสัญชาติไทย Class Café” ขวัญใจชาวอีสาน จากร้านกาแฟที่มีขนาดพื้นที่เล็ก ๆ ในจังหวัดนครราชสีมา ทำยอดขายได้วันละไม่กี่สิบแก้ว ผ่านมากว่า 8 ปี Class Café ประสบความสำเร็จอย่างมาก พร้อมขึ้นแท่นร้านกาแฟขวัญใจ Youth Generation ที่มีดีไซน์เฉพาะตัว เรียบง่าย ทันสมัย และมีความเป็น Co-working Space ที่กำลังเป็นที่นิยมในหมู่นักเรียน นักศึกษา และคนทำงานฟรีแลนซ์ จุดเริ่มต้น Class Café คุณกอล์ฟ มารุต ชุ่มขุนทด หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท คลาส คอฟฟี่ จำกัด เจ้าของร้านกาแฟ Class Café เคยทำงานในสายเทคโนโลยีมาตลอด แต่เมื่อประมาณ 10 ปีก่อน ธุรกิจร้านกาแฟยังไม่เป็นที่นิยมมากในเมืองไทย ทำให้เริ่มมองเห็นช่องว่างทางการตลาดเลยตัดสินใจลาออกจากงานประจำในบริษัท แล้วชักชวนญาติอีก 2 ท่าน มาทำร้านกาแฟด้วยกัน โดยมีเป้าหมายเดียวกัน คือ สร้างคาแรกเตอร์ของร้านกาแฟที่สมบูรณ์แบบและแตกต่างจากร้านอื่น โดยผมรับหน้าที่ดูแลเรื่องมาร์เก็ตติ้ง ส่วนผู้ร่วมก่อตั้งอีก 2 ท่าน ดูแลเรื่องอาหาร และวัตถุดิบ ปัจจุบันผมและร่วมผู้ก่อตั้งบริษัทถือหุ้นรวมกันประมาณ 75% คุณกอล์ฟ เล่าว่า ในช่วงปีแรกที่มียอดขายเยอะ มีการวางแผนเปิดสาขาใหม่ สัปดาห์ละ 1 สาขา เพราะอยากมีสาขาให้มากที่สุด เคยวางเป้าหมายไว้ว่า จะต้องมีสาขา 50-100 สาขา ภายใน 3 ปีข้างหน้า (ปี 2562-2564) พร้อมกับวางแผนระยะยาวว่า จะต้องสร้างเชนร้านกาแฟใหญ่ ๆ แต่เมื่อเกิด Covid-19 ทำให้ต้องกลับมาทบทวนโมเดลธุรกิจกันใหม่ เพราะธุรกิจทั่วโลกต้องเผชิญหน้ากับอุปสรรคครั้งใหญ่ ในช่วงเกิด Covid-19 ในเมื่อ Class Café ทำธุรกิจแบบ Open Coffee Platform ฉะนั้นอาจไม่จำเป็นต้องขยายสาขาใหม่ถี่ ๆ เหมือนแต่ก่อน แต่ควรจะหันมาใช้ประโยชน์จากการมี Platform ของตัวเองมากกว่า เช่น ไม่จำกัดตัวอยู่เพียงเครื่องดื่มกาแฟ แต่กระจายตัวไปสู่สินค้าประเภทอื่น ๆ เช่น น้ำผลไม้, โยเกิร์ต, เบเกอรี่, หูฟัง, ลูวิ่ง, โลชั่นทาผิวที่ทำมาจากชาเขียว รวมถึงการเปลี่ยนคู่แข่งให้เป็นคู่ค้า ด้วยการขายโปรดักส์ของเราให้กับคู่แข่ง เพื่อให้สินค้าถึงมือลูกค้าเร็วขึ้น เป็นต้น ปัจจุบัน Class Café มีทั้งหมด 21 สาขา กระจายตัวอยู่ในพื้นที่ตามต่างจังหวัดและกรุงเทพฯ ในส่วนของต่างจังหวัดจะเน้นเปิดสาขาตามแนวรถไฟฟ้าความเร็วสูง เช่น นครราชสีมา, ขอนแก่น, อุดรธานี, …

พาส่องเบิ่ง เส้นทาง Class Café อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง  แพทย์ แต่ละจังหวัดในภาคอีสาน  รับภาระ มาก – น้อย แค่ไหน ? 

พามาเบิ่ง  แพทย์ แต่ละจังหวัดในภาคอีสาน  รับภาระ มาก – น้อย แค่ไหน ?    ตามรายงานทรัพยากรสาธารณสุข ที่มีการรวบรวมข้อมูลจำนวนแพทย์ทั้งภาครัฐและเอกชนทั่วประเทศในปี 2564 พบว่า ไทยมีจำนวนแพทย์ทั้งสิ้น 38,820 ราย  ในปี 2563 มีจำนวนแพทย์ทั้งสิ้น 36,472  รายจะเห็นได้ว่าส่วนใหญ่มีจำนวนแพทย์ที่มากขึ้น และ ในปี 2564 ขณะที่ประชากรไทยมีจำนวน 66 ล้านคน ทำให้ไทยมีสัดส่วนประชากร 1,680  คน ต่อแพทย์ 1 คน    โดยหากดูเฉพาะในภาคอีสาน จะพบว่า 3 จังหวัดที่แพทย์มีภาระต้องแบกรับมากที่สุดนั้น คือ  บึงกาฬ (ประชากร 6,018 คน ต่อแพทย์ 1 คน)  หนองบัวลำภู (ประชากร 4,710 คน ต่อแพทย์ 1 คน) กาฬสินธุ์ (ประชากร 4,081 คน ต่อแพทย์ 1 คน) ซึ่งเมื่อนำไปเทียบกับจังหวัดที่แพทย์มีภาระต้องแบกรับน้อยที่สุดอย่าง ขอนแก่น (ประชากร 1,157 คน ต่อแพทย์ 1 คน) จะพบว่าห่างกันถึง 5 เท่าตัว   อ้างอิงจาก : รายงานข้อมูลทรัพยากรสาธารณสุข ประจำปี 2564  กองยุทธศาสตร์และแผนงาน สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข   #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #จำนวนแพทย์ #แพทย์อีสาน   

ชวนเบิ่ง อาณาจักร Mongni Cafe ชานมไข่มุกรายใหญ่ในภาคอีสาน

ถ้าพูดถึงเครื่องดื่มที่ฮิตและปังที่สุดในตอนนี้ ก็คงจะหนีไม่พ้น “ชานมไข่มุก” โดยวันนี้เราจะพามาที่ร้าน “Mongni Cafe” ร้านชานมไข่มุกขอนแก่น ที่ฮอตฮิตจนขยายแฟรนไชส์ไปแล้วหลายจังหวัด ! Mongni cafe เดิมทีเป็นร้านคาเฟ่ธรรมดา ๆ ในย่านกังสดาล ม.ขอนแก่น Mongni Cafe ชื่อภาษาอังกฤษ อ่านว่า “หม่อง-นี่ คาเฟ่” ร้านชานมขนาดเล็ก โดยชื่อออกเสียงเข้ากับสไตล์คาเฟ่ดูเป็นญี่ปุ่น แต่ที่แท้เป็นภาษาอีสาน บ่งบอกที่มา ก่อตั้งขึ้นที่จังหวัดขอนแก่น โดยชาวอีสาน ก่อนจะขยายเครือข่ายทั่วประเทศ ราว ๆ 60 แห่งแล้ว รวมทั้งที่ ภูเก็ต เชียงใหม่ และกรุงเทพฯ ต่อมาชานมไข่มุกกำลังดังในช่วงนั้นพอดี ทางร้านจึงได้เดินทางไปไต้หวัน เพื่อไปลองชิมไข่มุกลาวา และได้นำมาดัดแปลงสูตร จนได้นำไปออกบูธของทางร้าน แถมได้รับกระแสตอบรับที่ดีมาก ลูกค้าต่างชื่นชอบและติดใจ จึงมีการเรียกร้องให้นำมาขายที่ Mongni Cafe ทำให้ชานมไข่มุกลาวา ถือกำเนิดขึ้นในชื่อติดปากว่า “ชานมหม่องนี่” Mongni Cafe มีสไตล์การตกแต่งแบบโทนสีเหลืองสดใส มีโลโก้ที่เป็นเอกลักษณ์และจำง่าย ความพิเศษไม่เหมือนใครอยู่ที่ตัวไข่มุกหวานอุ่น กับน้ำที่รสจืดทั้งหมด โดยไข่มุกลาวาที่เป็นไข่มุกสูตรเฉพาะของทางร้าน Mongni Cafe ที่นำมาเคี่ยวกับน้ำตาล ทำให้มีรสชาติหอมหวานและมีกลิ่นไหม้นิด ๆ อันเป็นเสน่ห์ของไข่มุกลาวา แล้วนำมาใส่ในเครื่องดื่มเพื่อชูรสหวาน อ้างอิงจาก: https://data.creden.co/company/general/0413562002358 https://data.creden.co/company/general/0405562005260 https://food.trueid.net/detail/yGQgayk1QdN7 https://marketeeronline.co/archives/209512 https://www.wongnai.com/articles/mongni-cafe-khonkaen #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ชานมไข่มุก #MongniCafe #Mongni #หม่องนี่ #ขอนแก่น

พาส่องเบิ่ง ศึกธุรกิจน้ำปลาร้า ของเหล่าคนดังในภาคอีสาน

หากมองเข้ามาที่ตลาดน้ำปลาร้าของบ้านเราที่มีมูลค่าประมาณ 10,000 ล้านบาทแล้ว จะพบว่า การเข้าตลาดนี้มีอุปสรรคในการเข้าค่อนข้างต่ำ เพราะนอกจากจะมีโรงงานที่ผลิตสินค้าทำ OEM เพื่อนำไปติดแบรนด์ของตัวเองกระจายอยู่ทั่วประเทศเป็นจำนวนมากแล้ว หากคนที่จะเข้ามาทำตลาดเป็นคนที่มีชื่อเสียง หรือเป็นดารา นักร้อง ที่สามารถเอา Personal Brand ของตัวเองไป Endorse เพื่อทำแบรนด์น้ำปลาร้าของตัวเองเข้าทำตลาด ก็จะทำให้ทุกอย่างเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น ทำให้ตลาดน้ำปลาร้าในปัจจุบัน มีแบรนด์อยู่ในตลาดถึง 200 – 300 แบรนด์เลยทีเดียว ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจก็คือเหล่าบรรดาคนที่มีชื่อเสียงเหล่านั้น ต่างก็เข้ามาทำแบรนด์ของตัวเองเพื่อลุยตลาด ไม่ว่าจะเป็นน้ำปลาร้าแบรนด์แซ่บไมค์ ของนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง “ไมค์ ภิรมย์พร” น้ำปลาร้าแบรนด์หม่ำ จ๊กม๊ก หรือแม้แต่น้ำปลาร้าสุนารี ไม่เว้นแม้แต่นักมวยดังอย่าง “บัวขาว บัญชาเมฆ” ก็มีน้ำปลาร้า แบรนด์บัญชาเมฆ กับเขาด้วย อย่างไรก็ตาม แม้การเข้าตลาดนี้จะทำได้ค่อนข้างง่าย แต่การจะทำให้ประสบความสำเร็จ เป็นเรื่องที่ดูเหมือนง่าย แต่ทำออกมาค่อนข้างยาก เพราะแม้จะมีชื่อเสียงของตัวเองเข้ามา Endorse ไปกับแบรนด์ แต่หากไม่มีกลยุทธ์การตลาดที่ดีเข้ามาประกอบ โดยเฉพาะเรื่องของการจัดจำหน่าย โอกาสที่จะสามารถสร้างสเกลให้เป็นแมสตามคุณสมบัติของสินค้าตัวนี้ก็มียากขึ้นตามไปด้วย อ้างอิงจาก: https://www.brandage.com/article/20910/ZAB-MIKE https://data.creden.co/company/general/0125562012391 https://data.creden.co/company/general/0105562115165 https://data.creden.co/company/general/0105560011401 https://data.creden.co/company/general/0405560004169 https://www.nationtv.tv/entertainment/378862786 #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ธุรกิจน้ำปลาร้า #น้ำปลาร้า #น้ำปลาร้าแซ่บไมค์ #น้ำปลาร้าสุนารี #น้ำปลาร้าเอ็มยูเอ็มรสชาตินัว #น้ำปลาร้าบัญชาเมฆ

พามาฮู้จัก Medical Hub  แผนพัฒนาเศรษฐกิจไทย 

พามาฮู้จัก Medical Hub  แผนพัฒนาเศรษฐกิจไทย    การระบาดของไวรัส COVID-19 ได้ส่งผลกระทบในวงกว้าง แนวคิดการรักษาสุขภาพและความเป็นอยู่ดีนั้นจึงกำลังเป็นที่สนใจของประชากรทั่วโลก การเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ หรือ Medical Hub เป็นหนึ่งในเป้าหมายของภาครัฐ ที่ต้องการให้เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 จึงมีแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) (พ.ศ.2560-2569)   อีกทั้งมีการยกระดับและเพิ่มมูลค่าให้แก่สมุนไพรไทย แพทย์แผนไทย และภูมิปัญญาในการดูแลรักษาสุขภาพแบบไทย ทั้งยังสนับสนุนความร่วมมือและเชื่อมโยงผู้ประกอบการธุรกิจสุขภาพและการแพทย์ของไทยกับผู้ประกอบการธุรกิจสุขภาพทั่วโลกอีกด้วย   อย่างไรก็ดี การจะผลักดันให้อุตสาหกรรมการแพทย์ของไทยขึ้นแท่นผู้นำในอุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจรจนกลายเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) อย่างยั่งยืนนั้น ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งนโยบายสนับสนุนจากภาครัฐที่เอื้อให้เกิดการลงทุน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยและ พัฒนาด้านการแพทย์ควบคู่กับการลงทุนจากภาคเอกชนที่มีความพร้อมท้ังด้านองค์ความรู้ ทรัพยากร และเงินลงทุน เพื่อให้เกิดการพัฒนาและการลงทุนอย่างบูรณาการ และเป็นไปในทิศทางเดียวกันท้ัง Ecosystem   อ้างอิงจาก :  https://www.khonkaenuniversity.in.th/95518/  https://rmuti.ac.th/main/news180365-2/  https://hss.moph.go.th/fileupload/2560-102.pdf https://krungthai.com/Download/economyresources/EconomyResourcesDownload_467Medical_Hub.pdf  #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #MedicalHub #แผนพัฒนาเศรษฐกิจไทย #ศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ

พามาเบิ่ง ศึกอาณาจักรโรงน้ำแข็ง รายใหญ่ในภาคอีสาน

อ้างอิงจาก: https://data.creden.co/company/general/0453544000187 https://data.creden.co/company/general/0335547000105 https://www.facebook.com/ejan2016/videos/370209933581379/ https://www.youtube.com/watch?v=VnqHL47TQVU #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #โรงน้ำแข็ง #กรเดช #วารีเทพ

คนอีสาน มีหนี้ต่อครัวเรือน จากอิหยังบ้าง ?

คนอีสาน มีหนี้ต่อครัวเรือน จากอิหยังบ้าง ?   อ้างอิงจาก :  สำนักงานสถิติแห่งชาติ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม   #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #คนอีสาน #หนี้ครัวเรือน #หนี้ครัวเรือนอีสาน

พาซอมเบิ่ง เงินเฟ้อภาคอีสาน เดือนสิงหาคมเป็นจั่งใด๋ ? เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้า สูงขึ้น 7.34% (YoY)

สถานการณ์ “เงินเฟ้อ” ประจำเดือน สิงหาคม 2565 สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) แถลงข้อมูลการปรับตัวลดลงของเงินเฟ้อถึง 7.86% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า (ส.ค. 64) ดัชนีราคาผู้บริโภคของไทย (CPI) เดือนสิงหาคม 2565 เท่ากับ 107.4 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนนี้อยู่ที่ 7.86% (YoY) เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ดัชนีราคาผู้บริโภคจำแนกรายภาค พบว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคในทุกภาคเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้าขยายตัวในอัตราเพิ่มขึ้น โดยในเดือนนี้อัตราเงินเฟ้อของภาคเหนือสูงกว่าภูมิภาคอื่น ๆ โดยสูงขึ้น 8.24% รองลงมาได้แก่ กรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคกลาง และภาคใต้ สูงขึ้น 7.98% 7.94% และ 7.88% ตามลำดับ ในขณะที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือสูงขึ้นในอัตราท่ีต่ำกว่าภูมิภาคอื่น ๆ ที่ 7.34% เมื่อพิจารณาเป็นรายสินค้า พบว่า สินค้าสำคัญที่ราคาปรับตัวสูงขึ้นในทุกภาค ได้แก่ ค่ากระแสไฟฟ้า น้ำมันเชื้อเพลิง กับข้าว สำเร็จรูป และอาหารกลางวัน (ข้าวราดแกง) สำหรับสินค้าสำคัญที่ราคาลดลงในทุกภาค ได้แก่ ค่าส่งพัสดุไปรษณีย์ ผักและผลไม้ อาทิ ขิง มะนาว และสับปะรด อัตราการเปลี่ยนแปลงสำคัญของภาคอีสานที่ทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้นในอัตราที่ต่ำกว่าภูมิภาคอื่น 1. กลุ่มอาหารสดและพลังงาน สูงขึ้น 14.9% โดยเฉพาะพลังงานสูงขึ้นถึง 28.4% เนื่องจากต้นทุนการนำเข้าจากการอ่อนค่าของเงินบาท และความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 2. หมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ สูงขึ้น 8.5% โดยเฉพาะน้ำมันและไขมันสูงขึ้นถึง 29% 3. หมวดพาหนะ การขนส่ง และการสื่อสาร สูงขึ้น 8.4% โดยเฉพาะราคาน้ำมันเชื้อเพลิงสูงขึ้นถึง 21.4% ปรับสูงขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมันในตลาดโลก 4. หมวดเคหสถาน สูงขึ้น 7.7% โดยเฉพาะค่ากระแสไฟฟ้าสูงขึ้น 62.7% ตามการปรับขึ้นค่าไฟฟ้าผันแปร หรือ ค่าเอฟที (FT) ประจำเดือน กันยายน-ธันวาคม 2565 แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อทั่วไป เดือนกันยายน ปี 2565 อัตราเงินเฟ้อยังคงมีแนวโน้มขยายตัวแต่ในอัตราท่ีชะลอลง จากราคาสินค้าในกลุ่มพลังงาน อาหาร และสินค้าและบริการอื่น ๆ ที่ปรับสูงขึ้นตามต้นทุน ซึ่งยังอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อน และอุปสงค์ในประเทศปรับตัวดีขึ้น จากการท่องเที่ยวในประเทศ และการส่งออก ประกอบกับค่าเงินบาทอ่อนค่า ส่งผลต่อต้นทุนการน้าเข้าสินค้า อย่างไรก็ตาม ฐานราคาที่เพิ่มสูงขึ้นในเดือนเดียวกันปีก่อน จะเป็นปัจจัยทอนต่อการสูงขึ้นของเงินเฟ้อ และราคาน้ำมันดิบท่ีมีความผันผวน จะเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ท้าให้ทิศทางของอัตราเงินเฟ้อมีความไม่แน่นอน นอกจากนั้น มาตรการลดค่าไฟฟ้าของรัฐ ที่คาดว่าจะออกมาในช่วงที่เหลือของปีจะมีส่วนชะลอการสูงขึ้นของอัตราเงินเฟ้อ ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้คาดการณ์อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปี 2565 อยู่ท่ีระหว่างร้อยละ 5.5 – …

พาซอมเบิ่ง เงินเฟ้อภาคอีสาน เดือนสิงหาคมเป็นจั่งใด๋ ? เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้า สูงขึ้น 7.34% (YoY) อ่านเพิ่มเติม »

Scroll to Top