Infographic

หนี้สินกับความกังวลของคนอีสานเป็นจั้งใด๋ ? มาเบิ่งคำตอบได้ใน  งานวิจัยความสัมพันธ์ของระบบเศรษฐกิจชุมชนกับทิศทางการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชน

หนี้สินกับความกังวลของคนอีสานเป็นจั้งใด๋ ? มาเบิ่งคำตอบได้ใน  งานวิจัยความสัมพันธ์ของระบบเศรษฐกิจชุมชนกับทิศทางการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชน   โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศิวาพร ฟองทอง และคณะ สำรวจข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง 4 พื้นที่ โดยใช้กลุ่มตัวแทน ครัวเรือนใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบตามสะดวก จำนวนทั้งสิ้น 1,067 ครัวเรือน ประกอบด้วย  จ.ขอนแก่น จำนวน 406 ครัวเรือน  จ.มหาสารคาม จำนวน 113 ครัวเรือน  จ.อุดรธานี จำนวน 277 ครัวเรือน  จ.นครราชสีมา จำนวน 271 ครัวเรือน    จากการสำรวจพบว่า สัดส่วนรายจ่ายของครัวเรือนหมุนเวียนส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ โดยเฉพาะรายจ่าย ด้านค่าอาหารและเครื่องดื่มที่บริโภคในครัวเรือน กิจกรรมทางศาสนา (เงินทำบุญ/ซองผ้าป่า) รวมไปถึงค่าซื้อสลากกินแบ่ง/หวย/การพนันอื่นๆ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่มากกว่า 90 % โดยในพื้นที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครอบคลุมไม่ว่าจะเป็นร้านค้า ตลาดสด ร้านสะดวกซื้อ รวมไปถึง โรงพยาบาล  ซึ่งทางด้านค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการศึกษาเกิดขึ้นทั้งในพื้นที่และนอกพื้นที่ไม่ต่างกันมาก ในบางครัวเรือน จะให้บุตรหลานเข้าเรียนระดับประถมศึกษาโรงเรียนในพื้นที่ และเข้าเรียนระดับมัธยมศึกษาในตัวอำเภอหรือโรงเรียนนอกพื้นที่ เนื่องจากโรงเรียนที่เปิดสอนระดับมัธยมศึกษามักกระจุกตัวในตัวอำเภอและเป็นโรงเรียนที่มีชื่อเสียงในเขตพื้นที่นั้น ๆ ทางด้านหนี้สินกับความกังวลของครัวเรือนในพื้นที่ จ.อุดรธานี และ จ.นครราชสีมา ที่มีความกังวลหนี้สินที่นำมาลงทุนด้านการเกษตร จากการสัมภาษณ์บางครัวเรือนให้เหตุผลว่า ที่มีความกังวลเนื่องจาก “ผลผลิตไม่เป็นไปตามคาด ไหนจะแล้งบ้าง น้ำท่วมข้าวบ้าง” “ราคาผลผลิตตกต่ำ” “ต้นทุนพวกน้ำมัน ปุ๋ย ยาฆ่าแมลงแพง ขายข้าวได้ก็ไม่พอที่จะใช้หนี้” ในขณะที่ครัวเรือนที่มีความกังวลด้านหนี้สินที่กู้ยืมเพื่อมาใช้จ่ายในครัวเรือนทั่วไป ในพื้นที่ จ.ขอนแก่น และ จ.มหาสารคาม ส่วนใหญ่จะประกอบอาชีพค้าขาย/ธุรกิจส่วนตัว หลายครัวเรือนให้เหตุผลว่า “บางช่วงที่รายได้ไม่พอกับรายจ่ายทำให้ต้องกู้ยืมมาเพื่อมาใช้จ่ายในแต่ละวัน” บางครัวเรือนกู้นอกระบบทำให้มีความกังวลเป็นอย่างมาก เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยนอกระบบสูงกว่าในระบบมาก แต่ด้วยความจำเป็นทำให้ต้องกู้ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 20 ต่อวัน   อ้างอิงจาก: งานวิจัยความสัมพันธ์ของระบบเศรษฐกิจชุมชนกับทิศทางการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชน โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศิวาพร ฟองทอง และคณะ สนับสนุนโดย สำนักสนับสนุนสุขภาวะชุมชน (สำนัก 3) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)   #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์ #ขอนแก่น #มหาสารคาม #อุดรธานี #นครราชสีมา#มข #เศรษฐศาสตร์มข #สสส

พามาเบิ่ง อาณาจักรโรงสีข้าว รายใหญ่แห่งภาคอีสาน

ใกล้ถึงวันพืชมงคลแล้ว มื้อนี้ ISAN Insight & Outlook สิพามาเบิ่งธุรกิจโรงสีข้าวในภาคอีสาน ว่ามีบริษัทใด๋แหน่ อยู่จังหวัดใด๋ และมีรายได้ส่ำใด๋ อันดับที่ 1 เกษตรวิสัย ไรซ์ อินเตอร์เทรด จำกัด จังหวัดร้อยเอ็ด รายได้รวม 1,730 ล้านบาท อันดับที่ 2 กล้าทิพย์ จำกัด จังหวัดหนองบัวลำภู รายได้รวม 1,307 ล้านบาท อันดับที่ 3 โรงสีทรัพย์อนันต์ จำกัด จังหวัดสุรินทร์ รายได้รวม 1,139 ล้านบาท อันดับที่ 4 ย่งฮวดอินเตอร์ไรซ์ จำกัด จังหวัดร้อยเอ็ด รายได้รวม 1,090 ล้านบาท อันดับที่ 5 อีสเทิร์นไรซ์มิลล์ จำกัด จังหวัดกาฬสินธุ์ รายได้รวม 1,080 ล้านบาท อันดับที่ 6 โรงสีข้าว ป.ณัฐตพล จำกัด จังหวัดขอนแก่น รายได้รวม 1,046 ล้านบาท อันดับที่ 7 โรงสีแสงทองไรซ์กรุ๊ป จำกัด จังหวัดอุดรธานี รายได้รวม 965 ล้านบาท จังหวัดที่มีโรงสีข้าวมากที่สุดในภาคอีสาน คือ จังหวัดร้อยเอ็ด โดยมีจำนวนโรงสีข้าว 27 แห่ง เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับการปลูกข้าว อีกทั้งยังมีที่ดินและสภาพอากาศที่เหมาะสมสำหรับการเพาะปลูกข้าว ทำให้มีการผลิตข้าวอย่างต่อเนื่องและมีปริมาณผลผลิตที่สูง ซึ่งข้าวที่ปลูกในร้อยเอ็ดมีคุณภาพที่ดีและแตกต่างจากพื้นที่อื่น โดยเฉพาะข้าวกล้อง ข้าวหอมมะลิ และข้าวเหนียว ที่มีความนิยมในตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ร้อยเอ็ดยังมีการลงทุนในโรงสีข้าวอย่างต่อเนื่อง โรงสีข้าวในจังหวัดมีการใช้เทคโนโลยีและอุปกรณ์ที่ทันสมัยในกระบวนการผลิต ทำให้ข้าวที่ผลิตมีคุณภาพและมีความสามารถในการส่งออกข้าวในปริมาณมาก อีกทั้งโรงสีข้าวในพื้นที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ และมีการสร้างรายได้สูงจากการส่งออกข้าว อ้างอิงจาก: – กรมพัฒนาธุรกิจการค้า #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์#โรงสีข้าว #ธุรกิจ #ร้อยเอ็ด

มาฮู้จัก  KICE ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ ขอนแก่น ที่พร้อมเป็นส่วนร่วมสร้างประตูสู่ MICE CITY

มาฮู้จัก  KICE ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ ขอนแก่น ที่พร้อมเป็นส่วนร่วมสร้างประตูสู่ MICE CITY    ศูนย์ประชุมฯ ไคซ์ (KICE) สถาปัตยกรรมทันสมัย ระดับนานาชาติขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ใจกลางจังหวัดขอนแก่น อันเป็นศูนย์กลางภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ศูนย์ประชุมฯ ไคซ์ ก่อสร้างด้วยระบบหลังคาแบบ Long-Span ทำให้ตัวอาคารแสดงสินค้าปราศจากเสากลาง    ภายในศูนย์ประชุมฯ ไคซ์ ประกอบด้วย  1.Indoor Exhibition Hall จำนวน 3 ฮอลล์  2.ห้องประชุม สัมมนา 7 ห้อง  3.Pre-function Zone  4.Food Hall  5.Outdoor Exhibition ปรับเปลี่ยนเป็นลานจอดรถได้ 1,500 คัน   ศูนย์ประชุมฯ ไคซ์ จึงเป็นสถานที่ที่เหมาะสมกับการจัดงานแสดงสินค้าทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น อุตสาหกรรม แสดงนิทรรศการ เครื่องจักรหนัก งานประชุม สัมมนาขนาดใหญ่ งานแต่งงาน ไปจนถึงคอนเสิร์ต ของนักร้อง ศิลปินระดับนานาชาติ ได้เป็นอย่างดี ประกอบไปด้วย    ด้วยศักยภาพของภาคตะวันออกเฉียงเหนือและประเทศเพื่อนบ้าน (CLMV) ที่กำลังก้าวไปข้างหน้า ทำให้ขอนแก่นเป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ใจกลางความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างแท้จริง อีกทั้งขอนแก่น เป็นเมืองแม่เหล็ก (ไมซ์ซิตี้ หรือ MICE City) ลำดับที่ 5 ของไทย เป็นศูนย์กลางการจัดประชุมและงานแสดงสินค้าระดับสากล สามารถรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจของอาเซียนได้อย่างมีมาตรฐาน   อ้างอิงจาก:  เว็บไซต์บริษัท  https://www.prachachat.net/property/news-13734  https://www.bangkokbiznews.com/news/773643    #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์ #ขอนแก่น #KICE #KICEขอนแก่น #ศูนย์ประชุมไคซ์ #MICECity

พามาเบิ่ง โรงสีข้าวแต่ละจังหวัดในภาคอีสาน

ในปี 2564 ภาคอีสานมีรายได้รวมจากโรงสีข้าว อยู่ที่ 53,782 ล้านบาท และมีจำนวนโรงสีข้าว 320 แห่ง เรียกได้ว่า “ทั้งรายได้รวมและจำนวนโรงสีเป็นอันดับที่ 2 ของประเทศไทยเลยทีเดียว” เนื่องจาก โรงสีข้าวในภาคอีสานมีการผลิตข้าวสีที่เป็นที่นิยม ซึ่งเป็นสินค้าที่มีความต้องการสูงทั้งในตลาดในประเทศและต่างประเทศ ข้าวสีมักถูกนำมาใช้ในอาหารและสินค้าอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น ขนม น้ำสี และเครื่องดื่ม ซึ่งทำให้มีการนำข้าวไปแปรรูปในโรงสีข้าวมากขึ้น อีกทั้งโรงสีข้าวในภาคอีสานมีความสามารถในการผลิตข้าวได้อย่างมีคุณภาพ เช่น การเลือกใช้ข้าวพันธุ์ดี การควบคุมกระบวนการผลิต การบรรจุภัณฑ์ และการตรวจสอบคุณภาพข้าว ซึ่งทำให้โรงสีข้าวเป็นที่นิยมในการทำธุรกิจและรับซื้อข้าว 5 อันดับจังหวัดที่มีรายได้รวมของโรงสีข้าวมากที่สุด อันดับที่ 1 ร้อยเอ็ด มีรายได้รวม 7,822 ล้านบาท อันดับที่ 2 สุรินทร์ มีรายได้รวม 7,520 ล้านบาท อันดับที่ 3 ศรีสะเกษ มีรายได้รวม 6,525 ล้านบาท อันดับที่ 4 ขอนแก่น มีรายได้รวม 5,474 ล้านบาท อันดับที่ 5 อุบลราชธานี มีรายได้รวม 5,231 ล้านบาท จะเห็นได้ว่า ร้อยเอ็ด มีรายได้รวมมากที่สุด เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีพื้นที่เหมาะสมสำหรับการปลูกข้าว อีกทั้งยังมีที่ดินที่อุดมสมบูรณ์และสภาพอากาศที่เหมาะสมสำหรับการเพาะปลูกข้าว ทำให้การผลิตข้าวมีคุณภาพและปริมาณผลผลิตที่สูง โดยโรงสีข้าวในร้อยเอ็ดมีการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัยในกระบวนการผลิตข้าว โดยมีการใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ทันสมัยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพของข้าวที่สีให้มีคุณภาพ อีกทั้งยังมีการส่งออกข้าวที่กว้างขวางที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ และมีความสามารถในการทำธุรกิจส่งออกข้าวในปริมาณมาก อ้างอิงจาก: – กรมพัฒนาธุรกิจการค้า #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์#โรงสีข้าว #ธุรกิจ

พาส่องเบิ่ง ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการ SMEs เป็นจั่งใด๋แหน่

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการ SMEs อยู่ที่ 53.2 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 0.8 แนวโน้มธุรกิจ SME ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คือกลุ่มไหน? กลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับอาหารทั้งผลิตอาหาร และร้านอาหารมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องจากคำสั่งซื้อในรูปแบบขายส่งของอาหารอีสานที่สามารถเก็บได้หลายวัน เช่น กุนเชียง แหนม และปลาร้า รวมถึงผลดีจากต้นทุนวัตถุดิบที่มีแนวโน้มปรับตัวลดลง ภาคตะวันออก ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการ SMEs อยู่ที่ 53.6 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 1.5 แนวโน้มธุรกิจ SME ภาคตะวันออก เป็นอย่างไร? ภาคธุรกิจยังขยายตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว รวมถึงผู้ประกอบการเริ่มมีการสต็อกสินค้าคงคลังเพิ่มมากขึ้น เพื่อรองรับ การท่องเที่ยวในช่วงสงกรานต์ ซึ่งเป็นผลดีกับกลุ่มค้าส่งรวมถึงภาคการผลิตที่ส่งสินค้าขายให้กับผู้ค้ารายอื่น เช่น การผลิตไม้และเฟอร์นิเจอร์ รวมถึงผลิตภัณฑ์จากโลหะ ภาคใต้ ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการ SMEs อยู่ที่ 59.1 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 1.4 แนวโน้มธุรกิจ SME ภาคใต้ เป็นอย่างไร? จํานวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากรัสเซีย สิงคโปร์ และจีน อีกทั้งนักท่องเที่ยวไทยที่ได้อานิสงส์จากโครงการเราเกี่ยวด้วยกับเฟส 5 มากระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่อย่างมาก ส่งผลดีกับธุรกิจภาคการผลิตทั้งกลุ่มอาหารและเสื้อผ้า รวมถึงกลุ่มบริการนวดและสปา กรุงเทพฯ และปริมณฑล ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการ SMEs อยู่ที่ 54.2 แนวโน้มธุรกิจ SME กรุงเทพฯ และปริมณฑล เป็นอย่างไร? ภาคการท่องเที่ยวยังขยายตัวต่อเนื่องและมีการจองล่วงหน้าในช่วงเทศกาลในช่วงสงกรานต์รวมถึงธุรกิจก่อสร้างและร้านค้าวัสดุก่อสร้างขยายตัวจากความต้องการปรับปรุงและขยายสถานที่เพื่อรับรองการขยายตัวของการท่องเที่ยว ภาคเหนือ ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการ SMEs อยู่ที่ 56.3 ลดลงจากเดือนก่อนหน้า -1.5 แนวโน้มธุรกิจ SME ภาคเหนือ เป็นอย่างไร? จากปัจจัยฤดูกาลร้อนจัด รวมถึงปัญหาฝุ่น PM 2.5 ส่งผลลบต่อการท่องเที่ยวโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวคนไทย และเศรษฐกิจในพื้นที่ อย่างไรก็ตามพื้นที่ยังมีกำลังซื้อเสริมจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ยังคงเพิ่มขึ้นอยู่ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวคนจีน ภาคกลาง ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการ SMEs อยู่ที่ 52.3 ลดลงจากเดือนก่อนหน้า -1.9 แนวโน้มธุรกิจ SME ภาคกลาง เป็นอย่างไร? แม้ความเชื่อมั่นฯ จะปรับตัวลดลง เป็นผลมาจากภาคการผลิต โดยเฉพาะกลุ่มผลิตอาหารรวมถึงผลิตภัณฑ์จากโลหะและยาง ที่ชะลอตัวลงหลังจากที่ปรับตัวพุ่งสูงอย่างมากในเดือนก่อนหน้า แต่สถานการณ์ด้านต้นทุนในพื้นที่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น แม้จะยังอยู่ในระดับสูงก็ตาม อ้างอิงจาก: – สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #SMEs #ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการSMEs #ธุรกิจ #ดัชนีความเชื่อมั่น

พามาเบิ่ง ข้อมูลที่น่าสนใจของนิติบุคคล ในภาคอีสาน 

5 อันดับจังหวัดที่มีนิติบุคคลจัดตั้งใหม่ อันดับที่ 1 นครราชสีมา 599 ราย อันดับที่ 2 ขอนแก่น 549 ราย อันดับที่ 3 อุบลราชธานี 335 ราย อันดับที่ 4 อุดรธานี 308 ราย อันดับที่ 5 บุรีรัมย์ 186 ราย   จะเห็นได้ว่า นครราชสีมา เป็นอันดับที่ 1 ของภาคอีสาน เนื่องจากนครราชสีมาเป็นเมืองหลักและศูนย์กลางของภาคอีสาน ซึ่งมีความสำคัญทางเศรษฐกิจและการค้าของภาคอีสาน    อีกทั้งยังเป็นทำเลทางธุรกิจที่ดี เนื่องจากนครราชสีมามีตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ที่เชื่อมต่อธุรกิจระหว่างภาคตะวันตกและภาคตะวันออก เป็นทางผ่านสำคัญระหว่างกรุงเทพฯ กับภาคอื่นๆ ทำให้ธุรกิจในนครราชสีมาสามารถเข้าถึงตลาดและลูกค้าได้ง่ายขึ้น และยังเป็นเมืองที่มีสถานที่ธุรกิจและการค้าที่เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้าใหญ่ ศูนย์การค้า และตลาดส่งสินค้าต่างๆ ทำให้ธุรกิจสามารถทำการซื้อขายและการค้าส่งได้สะดวกและมีความสะดวกสบาย     5 อันดับจังหวัดที่มีนิติบุคคลที่เลิกกิจการ อันดับที่ 1 ขอนแก่น 127 ราย อันดับที่ 2 นครราชสีมา 92 ราย อันดับที่ 3 อุดรธานี 52 ราย อันดับที่ 4 นครพนม 50 ราย อันดับที่ 5 สกลนคร 46 ราย   จะเห็นได้ว่า ขอนแก่น เป็นอันดับที่ 1 ของภาคอีสาน เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำอาจส่งผลให้ธุรกิจบางกิจกรรมไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ อีกทั้งสภาพการแข่งขันในตลาดธุรกิจบางกลุ่มในขอนแก่นมีจำนวนที่เพิ่มขึ้น ทำให้บางธุรกิจไม่สามารถทนทานและดำเนินกิจการต่อไปได้ อาจจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนแผนกลยุทธ์หรือเลิกกิจการเพื่อลดความเสี่ยง     อ้างอิงจาก: – กรมพัฒนาธุรกิจการค้า #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #นิติบุคคลที่เลิกกิจการ #นิติบุคคลจัดตั้งใหม่ #นิติบุคคล

พามาเบิ่ง สถานการณ์ เงินเฟ้อ ภาคอีสาน  เดือน เม.ย. 2566 แตะ 2.63% (YoY)

พามาเบิ่ง สถานการณ์ เงินเฟ้อ ภาคอีสาน  เดือน เม.ย. 2566 แตะ 2.63% (YoY)   เมื่อพิจารณาเป็นรายสินค้า พบว่า สินค้าสำคัญที่ราคาปรับตัวสูงขึ้นในทุกภาค ได้แก่ ค่ากระแสไฟฟ้า อาหารเช้า อาหารกลางวัน (ข้าวราดแกง) อาหารเย็น (อาหารตามสั่ง) และกับข้าวสำเร็จรูป ส้าหรับสินค้าสำคัญที่ราคาลดลงในทุกภาค ได้แก่ น้ำมันพืช น้ำมัน เชื้อเพลิง ผักสด อาทิ ผักกาดขาว ผักบุ้ง และมะนาว เป็นต้น    คาดว่าอัตราเงินเฟ้อเดือน พฤษภาคม แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะมีแนวโน้มชะลอตัว และคาดว่าจะอยู่ในกรอบเป้าหมายที่กำหนด แต่ยังมีปัจจัยที่อาจทำให้ เงินเฟ้อขยายตัวมากกว่าที่คาดไว้ อาทิ ราคาก๊าซหุงต้มที่ยังอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นต้นทุนการผลิตสำคัญ ปัญหาภัยแล้ง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อปริมาณและราคาสินค้าเกษตร อุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อ เนื่องจากภาคการท่องเที่ยว และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ของภาครัฐ ซึ่งจะต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด   อ้างอิงจาก : สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์   #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์ #เงินเฟ้อ #เงินเฟ้ออีสาน #ดัชนีราคาผู้บริโภค 

ค่าใช้จ่ายครัวเรือน เดือนเมษายน 2566 หลายปานใด๋ ?

ค่าใช้จ่ายครัวเรือน เดือนเมษายน 2566 หลายปานใด๋ ?   อ้างอิงจาก : สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์   #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์ #เงินเฟ้อ #เงินเฟ้ออีสาน #ดัชนีราคาผู้บริโภค #ค่าใช้จ่ายครัวเรือน

พามาเบิ่ง ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมภาคอีสาน เดือนมีนาคม

ภาคอีสาน มีดัชนีความเชื่อมั่นในเดือนมีนาคม 2556 อยู่ที่ระดับ 103.9 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 100.7 ในเดือนกุมภาพันธ์ ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นฯคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 104.5 ปรับตัวเพิ่มขึ้น จากระดับ 101.4 ในเดือนมกราคม โดยปัจจัยบวก เกิดจากอุปสงค์ในประเทศขยายตัวต่อเนื่อง จาการบริโภคและการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว และกำลังซื้อในภูมิภาคที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากการขยายตัวของรายได้ภาคเกษตร ในขณะที่ปัจจัยลบ เกิดจากต้นทุนการผลิตสูงขึ้นจากการปรับขึ้นค่าไฟฟ้า และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ที่ส่งผลต่อต้นทุนทางการเงินของ SMEs อุตสาหกรรมในภาคอีสานที่ส่งผลด้านบวก มีอะไรบ้าง?? 1. อุตสาหกรรมเครื่องจักรกลการเกษตร (เครื่องจักรกลการเกษตร เครื่องเกี่ยวข้าว และอุปกรณ์ การเกษตร มียอดขายเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า ด้านการส่งออกมีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นจากคลาก CLMV และ แอฟริกา) 2. อุตสาหกรรมน้ำตาล (ผลิตภัณฑ์น้ำตาลทราย มีคำสั่งซื้อในประเทศเพิ่มขึ้น ตามการขยายตัว ของอุปสงค์ในประเทศ และความต้องการใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม ขณะที่ อุปสงค์ในตลาดโลกเพิ่มสูงขึ้นโดยเฉพาะตลาดอาเซียน) 3. อุตสาหกรรมแกรนิตและหินอ่อน (ผลิตภัณฑ์แกรนิตและหินอ่อน มียอดขายในประเทศ เพิ่มขึ้น จากความต้องการใช้ในภาคการก่อสร้างที่อยู่อาศัย และอสังหาริมทรัพย์) อ้างอิงจาก: สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์#ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมภาคอีสาน #ดัชนีความเชื่อมั่น #ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม#อุตสาหกรรมภาคอีสาน

เงินเฟ้อทั่วไป ภาคอีสาน เป็นจั้งใด๋ ? เดือนเมษายน 2566

เงินเฟ้อทั่วไป ภาคอีสาน เป็นจั้งใด๋ ?  เดือนเมษายน 2566 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน สูงขึ้น 2.63% (YoY)     ดัชนีราคาผู้บริโภค  เป็นตัวชี้วัดการเปลี่ยนแปลงราคาสินค้าและบริการ  โดยเฉลี่ยที่ผู้บริโภคจ่ายไป   สำหรับกลุ่มสินค้าและบริการที่กำหนด ดัชนีราคาผู้บริโภคของไทยเดือนเมษายน 2566 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน สูงขึ้น 2.63% (YoY)   แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อพฤษภาคม 2566 คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะชะลอตัวลงค่อนข้างมาก โดยสาเหตุสำคัญมาจากฐานราคาในเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ใช้คำนวณเงินเฟ้อค่อนข้างสูง และราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่อยู่ในระดับต่ำกว่าปีที่ผ่านมา ขณะที่ราคาสินค้าและบริการบางรายการชะลอตัว และบางรายการเริ่มทรงตัวแล้ว  ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังคงตัวเลขคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อทั่วไป ปี 2566 อยู่ที่ระหว่างร้อยละ 1.7 – 2.7 (ค่ากลาง 2.2) และหากสถานการณ์เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยส้าคัญจะมีการทบทวนอีกครั้ง   อ้างอิงจาก : สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์   #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์ #เงินเฟ้อ #เงินเฟ้ออีสาน #ดัชนีราคาผู้บริโภค   

Scroll to Top