Infographic

พามาเบิ่ง 8 อันดับอาณาจักรผลิตและส่งไฟฟ้า แห่งภาคอีสาน .

จากกระแสค่าไฟแพงในช่วงนี้ มื้อนี้ ISAN Insight & Outlook สิพามาเบิ่งธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตและการส่งไฟฟ้าในภาคอีสาน ว่ามีบริษัทใด๋แหน่ อยู่จังหวัดใด๋ และมีรายได้ส่ำใด๋ อันดับที่ 1 อุบลซันฟลาวเวอร์ จำกัด จังหวัดอุบลราชธานี รายได้รวม 2,432 ล้านบาท อันดับที่ 2 ผลิตไฟฟ้าครบุรี จำกัด จังหวัดนครราชสีมา รายได้รวม 1,311 ล้านบาท อันดับที่ 3 เอราวัณ เพาเวอร์ จำกัด จังหวัดหนองบัวลำภู รายได้รวม 1,122 ล้านบาท อันดับที่ 4 บัวใหญ่ ไบโอ เพาเวอร์ จำกัด จังหวัดนครราชสีมา รายได้รวม 983 ล้านบาท อันดับที่ 5 แอ๊ดวานซ์ อะโกร เพาเวอร์ แพลนท์ จำกัด จังหวัดสุรินทร์ รายได้รวม 575 ล้านบาท อันดับที่ 6 ขอนแก่นกรีนพาวเวอร์ จำกัด จังหวัดขอนแก่น รายได้รวม 505 ล้านบาท อันดับที่ 7 บุรีรัมย์พลังงาน จำกัด จังหวัดบุรีรัมย์ รายได้รวม 497 ล้านบาท อันดับที่ 8 บุรีรัมย์เพาเวอร์ จำกัด จังหวัดบุรีรัมย์ รายได้รวม 491 ล้านบาท จะเห็นได้ว่า อันดับที่ 1 คือ “อุบลซันฟลาวเวอร์” ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มบริษัทอุบลไบโอเอทานอล โดยก๊าซชีวภาพที่บริษัทฯผลิตได้ส่วนหนึ่งจะนำไปผลิตไฟฟ้าขนาด 5.6 เมกะวัตต์ เพื่อใช้หมุนเวียนในโรงงานเพื่อลดต้นทุนการผลิต และผลิตกระแสไฟฟ้าขนาด 1.9 เมกะวัตต์ จำหน่ายให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่งสามารถช่วยเพิ่มรายได้ให้กับบริษัท อ้างอิงจาก: – CredenData – เว็บไซต์ของบริษัท #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อาณาจักรผลิตและส่งไฟฟ้า #ธุรกิจผลิตและส่งไฟฟ้า #ไฟฟ้า

ผลไม้หน้าฮ้อน มาฮู้จัก ทุเรียนภูเขาไฟ VS ทุเรียนโอโซน ราชาผลไม้ไทยดินแดนอีสาน

ผลไม้หน้าฮ้อน มาฮู้จัก ทุเรียนภูเขาไฟ VS ทุเรียนโอโซน ราชาผลไม้ไทยดินแดนอีสาน   ทุเรียนได้รับฉายาว่าเป็น “ราชาแห่งผลไม้” (King of fruits) ด้วยรสชาติที่หวาน มัน และกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ เป็นที่ชื่นชอบของทั้งคนไทยและคนต่างชาติ  ปัจจุบัน จังหวัดศรีสะเกษเป็นแหล่งปลูกทุเรียนที่ใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน “ทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ” ถือเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญมีชื่อเสียง ที่กรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ประกาศขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) เป็นการยกระดับมาตรฐานของสินค้า สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค ผู้ค้า ในด้านของคุณภาพและความปลอดภัย สำหรับ “ทุเรียนโอโซน” ต.บ้านไร่ อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ นั้นเน้นการรวมกลุ่มการผลิต และให้เกษตรกรเป็นผู้บริหารจัดการแบบครบวงจร ทั้งด้านการผลิต แปรรูปและการตลาด เพื่อให้ได้สินค้าเกษตรที่ให้ผลตอบแทนสูง  แม้ภาคอีสานจะไม่ใช่พื้นที่เพาะปลูกหลัก แต่มีแนวโน้มขยายพื้นที่ปลูกเพิ่มขึ้น เนื่องจากตลาดทุเรียนยังเปิดกว้าง และผลผลิตยังไม่เพียงพอกับความต้องการของผู้บริโภค   ที่มา: สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร และกรมทรัพย์สินทางปัญญา   #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ทุเรียนภูเขาไฟ #ทุเรียนโอโซน #ศรีสะเกษ #ชัยภูมิ

10 อันดับ สินค้า OTOP อีสาน  ไตรมาสแรก 2566 ทำรายได้เท่าใด๋ ?

10 อันดับ สินค้า OTOP อีสาน  ไตรมาสแรก 2566 ทำรายได้เท่าใด๋ ?   ส่องยอดขายสินค้า OTOP อีสานสูงสุด 10 อันดับ ในไตรมาสแรก ของปี 2566 สินค้า OTOP (One Tambon One Product) เป็นสินค้าที่ผลิตและจำหน่ายในท้องถิ่น ในแต่ละตำบล สะท้อนเอกลักษณ์และวัฒนธรรมของแต่ละพื้นที่ได้อย่างชัดเจน ซึ่งมีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องปีละ 10-20% ตั้งแต่ปี 2546 ในอนาคต สินค้าโอทอปหรือผลิตภัณฑ์ชุมชนจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงไปพร้อมกับสถานการณ์ของโลก โดยเฉพาะหลังโควิด-19 ซึ่งผู้บริโภคให้คุณค่ากับสิ่งต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความยั่งยืน ความเท่าเทียม ความแท้จริง ความหลากหลาย และสุขภาพที่ดี คุณค่าเหล่านี้จะต้องเข้าไปอยู่ในผลิตภัณฑ์โอทอปยุคใหม่   นอกจากนี้ โลกได้เข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ ช่องทางออนไลน์และการชำระเงินแบบ cashless มีความสะดวกง่ายดาย โอกาสจึงเปิดขึ้นมาก โดยเฉพาะหากได้คนรุ่นใหม่ที่มีความรู้และคล่องเทคโนโลยี มีความคิดสร้างสรรค์ ได้มีโอกาสกลับบ้านเกิด ภาครัฐจึงควรมีโครงการจูงใจให้คนกลับบ้าน สร้าง OTOP Academy เพื่อให้คนรุ่นใหม่เหล่านี้กลับเข้าไปชุบชีวิตผลิตภัณฑ์เดิม ต่อยอดผลิตภัณฑ์ให้สอดรับกับเทรนด์การบริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป    อ้างอิงจาก: กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย https://www.bangkokbiznews.com/columnist/1013822    #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #OTOP #สินค้าOTOP #ขอนแก่น #นครราชสีมา #ศรีสะเกษ #อุบลราชธานี #อุดรธานี #ร้อยเอ็ด #กาฬสินธุ์ #สกลนคร #สุรินทร์ #มหาสารคาม

พามาฮู้จัก มหาเศรษฐีแห่งภาคอีสาน วิทูร สุริยวนากุล มหาเศรษฐีอันดับ 31 ของไทย ผู้ก่อตั้งธุรกิจค้าปลีกวัสดุก่อสร้างรายใหญ่

วันนี้ ISAN Insight & Outlook จะพามาทำความรู้จักมหาเศรษฐีอันดับ 31 ของไทย และเป็นอันดับ 1 ของภาคอีสาน คุณวิทูร สุริยวนากุล เป็นชาวจังหวัดร้อยเอ็ดโดยกำเนิด ได้ถูกจัดให้อยู่ในบัญชี 50 บุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศไทยหลายปีซ้อน โดยในปี 2565 คุณวิทูรติดอันดับมหาเศรษฐีไทยอันดับที่ 31 โดยมีมูลค่าทรัพย์สิน 1,050 ล้านดอลลาร์ หรือ 37,817 ล้านบาท 25 ปีที่แล้ว อดีตนายช่างรับเหมาก่อสร้างแห่ง ร้อยเอ็ด เปลี่ยนแนวคิดการค้าวัสดุก่อสร้างแบบดั้งเดิมให้กลายเป็นห้างสรรพสินค้าที่สะดวกและให้ราคายุติธรรม จนธุรกิจค้าวัสดุก่อสร้างแนวใหม่ “โกลบอลเฮ้าส์” ได้กระจายโมเดลธุรกิจไปทั่วอีสาน โดยตั้งเป้ารุกสู่ทุกหัวเมืองของไทยและประเทศเพื่อนบ้าน เส้นทางของมหาเศรษฐีคนนี้มีความเป็นมาอย่างไร? คุณวิทูร สุริยวนากุล จบการศึกษาระดับปริญญาตรี วิศวกรรมโยธา จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และปริญญาโทบริหารธุรกิจมหาบัญฑิต (MBA) มหาวิทยาลัยขอนแก่น เดิมพื้นเพครอบครัวของนายวิทูรประกอบอาชีพค้าปลีก-ส่งอาหารสัตว์ หลังจากเรียนจบมหาวิทยาลัย เขาประกอบอาชีพวิศวกรและผู้รับเหมาก่อสร้าง ในปี 2531 คุณวิทูรได้ขยับขยายมาสร้างกิจการร้านขายสุขภัณฑ์และฮาร์ดแวร์ในชื่อ “ร้อยเอ็ดฟาร์ม” กระทั่งปี 2538 ที่วิทูรมองว่าร้านร้อยเอ็ดฟาร์มเริ่มมีการเติบโตชะลอลง ขณะเดียวกันก็เริ่มสังเกตเห็นห้างค้าปลีกแบบโมเดิร์นเทรด เช่น makro, Tesco Lotus เริ่มแพร่หลายไปตามหัวเมืองต่างจังหวัด และได้รับความนิยมมากขึ้นในหมู่ผู้บริโภค จึงเล็งเห็นว่าตนเองควรจะพัฒนาร้านให้ทันสมัย จากนั้นได้พัฒนาธุรกิจจากร้านค้าปลีกธรรมดาให้กลายเป็นร้านขายวัสดุก่อสร้างและของตกแต่งบ้านในรูปแบบโมเดิร์นเทรดเป็นแห่งแรกใน จังหวัดร้อยเอ็ด ด้วยเงินลงทุน 150 ล้านบาท ในปี 2540 ท่ามกลางความห่วงใยจากซัพพลายเออร์และสถาบันการเงินว่าเมืองไทยในยามนั้นกำลังเผชิญวิกฤตฟองสบู่แตก การตัดสินใจปักหมุดโกลบอลเฮ้าส์ร้านแรกในภาคอีสานนับเป็นอาวุธลับ เพราะขณะที่เกิดวิกฤตต้มยำกุ้ง ลูกจ้างจำนวนมากถูกให้ออกจากงานและบางส่วนบ่ายหน้าคืนมายังบ้านเกิดทางอีสานซึ่งไม่ได้รับผลกระทบทางลบจากค่าเงินบาทลอยตัว ในทางตรงข้ามราคาข้าวสารและราคาทองคำต่างพุ่งขึ้นเท่าตัว ส่งผลให้ผู้บริโภคมีกำลังซื้อสูงขึ้น โกลบอลเฮ้าส์ ร้อยเอ็ด มียอดขายทะลุมากกว่าเป้าไปถึง 1 ล้านบาทต่อเดือนภายในเวลา 3 เดือนเท่านั้น ทำให้ในปี 2541 รายได้ของบริษัทเติบโต 27% และปี 2542 เติบโตมากกว่า 30% จนกระทั่งปี 2552 คุณวิทูรนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เป็นครั้งแรกในนาม บริษัท สยามโกลบอลล์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) (GLOBAL) และปัจจุบันสามารถขยายสาขาภายในประเทศได้ 78 สาขา อีกทั้งยังมีบริษัทย่อยในประเทศกัมพูชา หลังจากนั้นได้ขยายไปยังลาวและเมียนมาร์ อ้างอิงจาก: Forbes Forbes Thailand #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #คุณวิทูร #สุริยวนากุล #มหาเศรษฐีแห่งภาคอีสาน #อันดับมหาเศรษฐีของไทย #โกลบอลเฮ้าส์

พามาฮู้จัก “ตงฮั้วบัวใหญ่” อาณาจักรโรงสีข้าวรายใหญ่ประดับประเทศ

‘ตงฮั้ว บัวใหญ่’ เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายข้าวที่มีการเข้าถึงตั้งแต่กระบวนการต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ จึงทำให้การผลิตข้าวสารในแต่ละขั้นตอนถูกคัดสรรและควบคุมเป็นอย่างดี ด้วยจุดเริ่มต้นจากการรับซื้อวัตถุดิบ ข้าวเปลือกจากเกษตรกรโดยตรง พร้อมกระบวนการตรวจสอบคุณภาพในแต่ละขั้นตอนตามหลักมาตรฐาน และการผ่านกระบวนการผลิตด้วยเครื่องจักรที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย ข้าวสาร ‘ตงฮั้ว’ จึงนับได้ว่าเป็นหนึ่งในข้าวสารที่มีคุณภาพดีที่สุดในระดับสากล เส้นทางของ ‘ตงฮั้ว บัวใหญ่’ ปี 2500 ก่อตั้ง หจก.โรงสีไฟตงฮั้วบัวใหญ่ ด้วยกำลังการผลิต 40 ตัน/วัน ปี 2518 ขยายงาน โดยก่อสร้างโรงสีเพิ่มเติม (โรงที่ 2) ด้วยกำลังการผลิต 160 ตัน/วัน ปี 2537 ก่อตั้ง บริษัท ตงฮั้วบัวใหญ่ 1994 จำกัด กำลังการผลิต 300 ตัน/วัน (ซึ่งใช้เครื่องจักรที่ ทันสมัยที่สุดในช่วงในเวลานั้น) ปี 2539 ก่อตั้ง บริษัท ตงฮั้วไร้ซ จำกัด เพื่อประกอบธุรกิจส่งออกข้าว ปี 2545 ขยายกำลังการผลิตเพิ่มเติมอีก 300 ตัน/วัน เป็น 600 ตัน/วัน ปี 2547 ก่อตั้ง บริษัทบัวใหญ่ไบโอเพาเวอร์ จำกัด ประกอบธุรกิจผลิตกระแสไฟฟ้า กำลังการผลิต 7.5 MW ปี 2552 ขยายกำลังการผลิตเพิ่มเติมอีก 300 ตัน/วัน เป็น 900 ตัน/วัน อ้างอิงจาก: เว็บไซต์ของบริษัท กรมพัฒนาธุรกิจการค้า #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ตงฮั้วบัวใหญ่#โรงสีข้าว #นครราชสีมา #ธุรกิจโรงสีข้าว

สถิติโรงเรียนสอนขับรถ ปี 2565  เป็นจั้งใด๋ ? 

สถิติโรงเรียนสอนขับรถ ปี 2565  เป็นจั้งใด๋ ?    โรงเรียนสอนขับรถที่กรมการขนส่งทางบกให้การรับรอง ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565 มีจำนวน 314 แห่ง  โดยมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด เนื่องจากกรมการขนส่งทางบกได้มีมาตรการแนะนำ ส่งเสริมพร้อมให้คำปรึกษากับเอกชนที่มีความพร้อม เปิดโรงเรียนสอนขับรถที่ได้มาตรฐาน ภายใต้การกำกับดูแลของกรมการขนส่งทางบก    อ้างอิงจาก : สำนักสวัสดิภาพการขนส่ง   #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์ #โรงเรียนสอนขับรถ #ขับรถ #รถยนต์ #รถจักรยานยนต์ #รถมอเตอร์ไซต์ 

มาฮู้จัก 10 เทรนด์ EdTech in 2023 เทคโนโลยีการศึกษาเพื่อการเรียนรู้ยุคใหม่

มาฮู้จัก 10 เทรนด์ EdTech in 2023 เทคโนโลยีการศึกษาเพื่อการเรียนรู้ยุคใหม่ . . 1. Personalized Learning การเรียนการสอนให้มีความเฉพาะบุคคล เลือกเรียนได้ตามความสนใจ เมื่อผู้เรียนแต่ละคนมีอัตราการเรียนรู้หรือความสนใจเนื้อหาที่ต่างกันออกไป การสอนด้วยวิธีการเดียวอาจไม่ได้ผลดีเท่าที่ควรเพราะบทเรียนไม่ได้สนองตอบต่อผู้เรียนเป็นรายบุคคล ดังนั้น การเรียนการสอนยุคใหม่จึงถูกปรับให้มีความเฉพาะบุคคลมากขึ้นยกตัวอย่างแพลตฟอร์มความบันเทิงต่าง ๆ ที่ต้องนำเสนอคอนเทนต์ที่น่าสนใจสำหรับผู้ชมแต่ละคน การนำเสนอบทเรียนเฉพาะบุคคลจะช่วยให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมกับการเรียนรู้ได้ดีกว่า การนำเสนอบทเรียนเดียวแก่ผู้เรียนหลายคน . ผู้พัฒนาโปรแกรมการเรียนรู้หรือออกแบบการเรียนการสอนจึงอาศัยการเก็บข้อมูลเพื่อนำมาวิเคราะห์ผู้เรียนสำหรับการออกแบบบทเรียนที่เหมาะสมกับความสามารถของนักเรียนแต่ละคน ซึ่งผู้เรียนสามารถเลือกเรียนวิชาได้ตามความสนใจ ติดตามความคืบหน้า และโฟกัสไปที่จุดอ่อนของตัวเองได้อย่างตรงจุดมากขึ้นจึงถือว่าเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่จะเข้ามามีอิทธิพลมากขึ้นในช่วงปีนี้ . 2. Subscription-based Model for Learning การเรียนรู้แบบสมาชิกรายเดือนหรือรายปี และเรียนกี่วิชาก็ได้ภายในระยะเวลาที่เป็นสมาชิกอยู่ ซึ่งต่างจากการเรียนออนไลน์แบบเดิมที่ผู้เรียนต้องเลือกชำระเงินเรียนทีละรายวิชาและต้องเรียนให้จบเพื่อรับใบประกาศนียบัตร จึงเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ลองเรียนหลาย ๆ วิชา และเข้าถึงเนื้อหาสื่อการเรียนรู้ของคอร์สหรือหลักสูตรได้ทั้งหมด และผู้เรียนมีสิทธิ์ที่จะสามารถเปลี่ยนไปเรียนคอร์สอื่นกลางคันหรือข้ามไปยังบทเรียนอื่นได้ ซึ่งถือว่าผู้เรียนมีความยืดหยุ่นและตัวเลือกในการเรียนมากขึ้นกว่าเดิม . 3. Hybrid Learning / Blended Learning การเรียนแบบผสมผสานรูปแบบใหม่ ยืดหยุ่นและปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ สถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ส่งผลให้เทคโนโลยีการศึกษาบูมขึ้นมา ทำให้สถานศึกษาทั่วโลกต่างต้องหันมาสอนทางออนไลน์กันมากขึ้น และเมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดคลี่คลาย หลาย ๆ โรงเรียนก็เริ่มใช้การสอนแบบ Hybrid Learning ที่ครูอาจารย์สอนในห้องที่มีนักเรียนอยู่ที่โรงเรียน พร้อมกับถ่ายทอดสดไปยังผู้เรียนออนไลน์ที่อยู่ทางบ้าน ลักษณะการเรียนการสอนรูปแบบนี้จึงเป็นที่นิยมอย่างมากเพราะความยืดหยุ่นที่ไม่ยึดติดกับข้อจำกัดเรื่องสถานที่ . 4. Nano Learning / Bite-sized Learning การให้เด็กเรียนรู้ในระยะเวลาเพียงสั้นๆ ต่อครั้ง แบ่งย่อยเนื้อหาเป็นส่วน ๆ เพื่อให้ผู้เรียนสามารถรับข้อมูลขนาดกำลังพอดีผ่านสื่อการเรียนรู้ในเวลาที่จำกัดได้ในช่วงเวลาตั้งแต่ 2 – 10 นาที ทำให้ผู้เรียนเข้าใจและเรียนรู้เนื้อหาได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากกว่าการถ่ายทอดบทเรียนเป็นชั่วโมงซึ่งอาจทำให้เกิดความเหนื่อยล้าจากการใช้สมาธิต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานได้ . เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะช่วง Gen Z ที่คุ้นเคยกับการเสพสื่อคอนเทนต์สั้น ๆ อาจเนื่องด้วยค่าเฉลี่ยระยะเวลาความสนใจของคนที่ลดลง ดังนั้น ในปี 2023 นี้คาดว่าน่าจะมีคนที่หันมาเรียนในรูปแบบ Nano Learning หรือ Bite-sized Learning กันมากขึ้น . 5. Gamification ฝึกทักษะแก้โจทย์ปัญหา พัฒนาทักษะและเรียนรู้ผ่านเกม เพื่อให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมเพิ่มขึ้น พัฒนาทักษะและเรียนรู้ผ่านเกมได้อย่างมีประสิทธิผลสูงสุด อีกทั้งยังช่วยทบทวนความจำและทำให้เรื่องยาก ๆ เข้าใจได้ง่าย ตอบโจทย์วัตถุประสงค์การเรียนรู้ กระตุ้นผู้เรียนให้บรรลุเป้าพร้อมกับได้รับฟีดแบ็กทันที . การใช้เกมกับการเรียนรู้ไม่ได้ใช้แค่ในเฉพาะกลุ่มนักเรียนในสถานศึกษา แต่ยังรวมไปถึงการใช้ฝึกพนักงานตามบริษัทด้วย เพราะโดยธรรมชาติแล้วคนทุกช่วงวัยต่างชอบเล่นเกมด้วยความรู้สึกท้าทายอยากเอาชนะในแต่ละด่าน เมื่อเกมเข้ามาเป็นตัวกลาง ก็ทำให้ผู้เรียนรู้สึกสนุกเพลิดเพลิน และรู้สึกมีส่วนร่วมกับบทเรียนมากยิ่งขึ้นไปด้วย . 6. Augmented Reality & Virtual Reality ใช้ AR และ VR จำลองบทเรียนหรือแนวคิดที่ซับซ้อนให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น …

มาฮู้จัก 10 เทรนด์ EdTech in 2023 เทคโนโลยีการศึกษาเพื่อการเรียนรู้ยุคใหม่ อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง 5 อันดับ ต่างชาติมาเรียนในอีสาน หลายปานใด๋ ?

พามาเบิ่ง 5 อันดับ  ต่างชาติมาเรียนในอีสาน หลายปานใด๋ ?    อ้างอิงจาก : กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)   #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์ #ต่างชาติ #นักเรียนต่างชาติ #นักเรียนแลกเปลี่ยน #อาเซียน 

ชวนเบิ่ง ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมภาคอีสาน

ภาคอีสาน มีดัชนีความเชื่อมั่นในเดือนกุมภาพันธ์ 2556 อยู่ที่ระดับ 100.7 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 98.1 ในเดือนมกราคม ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นฯคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 101.4 ปรับตัวเพิ่มขึ้น จากระดับ 99.7 ในเดือนมกราคม โดยปัจจัยบวก เกิดจากอุปสงค์ในประเทศขยายตัวต่อเนื่อง จาการบริโภคและการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว อีกทั้งยังมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ และการขยายตัวของภาคการก่อสร้าง ในขณะที่ปัจจัยลบ เกิดจากต้นทุนการผลิตสูงขึ้นจากการปรับขึ้นค่าไฟฟ้า และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ที่ส่งผลต่อต้นทุนทางการเงินของ SMEs อุตสาหกรรมในภาคอีสานที่ส่งผลด้านบวก มีอะไรบ้าง?? 1.อุตสาหกรรมน้ำตาล (ผลิตภัณฑ์น้ำตาลทราย มีคำสั่งซื้อในประเทศเพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของอุปสงค์ในประเทศและความต้องการใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม ขณะที่อุป สงค์ในตลาดโลกเพิ่มสูงขึ้น) 2.อุตสาหกรรมแกรนิตและหินอ่อน (ผลิตภัณฑ์แกรนิตและหินอ่อน มียอดขายในประเทศ เพิ่มขึ้น จากความต้องการใช้ในภาคการก่อสร้างที่อยู่อาศัย และอสังหาริมทรัพย์) 3.อุตสาหกรรมการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ (ผลิตภัณฑ์กล่องกระดาษลูกฟูก บรรจุภัณฑ์กระดาษมี ยอดขายในประเทศเพิ่มขึ้นด้านการส่งออกมีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นจากตลาดอาเซียน) อ้างอิงจาก: – สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์#ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมภาคอีสาน #ดัชนีความเชื่อมั่น #ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม#อุตสาหกรรมภาคอีสาน

Scroll to Top