Article

บทความ จากบทวิเคราะห์เศรษฐกิจอีสาน ทั้ง ISAN Outlook และข้อมูลต่างๆ ที่เปิดเผยสู่สาธารณะ รวบรวมให้คุณรู้ทันทุกข้อมูล เศรษฐกิจ การเมือง สังคม อีสาน

อสังหาฯ อีสาน ลงทุนเพิ่ม แต่ยอดขายไม่พุ่ง คนอยากมีบ้าน ติดกับดักหนี้ครัวเรือน ดอกเบี้ยสูง

REIC เผย อสังหาอีสานปี 67 คาดฟื้นตัว  ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (REIC) รายงานสถานการณ์ภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยที่ยังอยู่ระหว่างขายในช่วงครึ่งหลังปี 2566 ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  ตลาดที่อยู่อาศัยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ(อีสาน)ของประเทศไทยได้แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 โดยมีจังหวัดหลักที่มีการเคลื่อนไหวอย่างชัดเจน 5จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา ขอนแก่น อุบลราชธานี อุดรธานี และมหาสารคาม เราจะพบว่าการศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลในช่วงเวลานี้จะช่วยให้เรานั้นเห็นภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในภูมิภาคอีสาน และสามารถคาดการณ์แนวโน้มในปี 2567 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภาพรวมของ ธุรกิจอสังหา(ในอีสาน) เศรษฐกิจในภาพรวมที่ชะลอตัวลง และปัจจัยลบต่างๆ ได้ส่งผลกระทบต่อภาวะของตลาดที่อยู่ อาศัยของประเทศไทย ทั้งด้านอุปสงค์ที่มีความสามารถในการซื้อที่อยู่อาศัยลดลง และในด้านอุปทานที่มีการชะลอตัวลง ของอุปทานตามการชะลอตัวของอุปสงค์ จึงส่งผลต่อธุรกิจภาค อสังหาริมทรัพย์ ในภาคอีสานเป็นอย่างมาก 1.1) สถานการณ์ด้านอุปทานที่อยู่อาศัย(ไตรมาสที่1 ปี 2567) ในไตรมาส 1 ปี 2567 มีโครงการที่อยู่อาศัยที่ได้รับอนุญาตจัดสรรที่ดินทั่วประเทศ รวมจำนวน 141 โครงการ จำนวน 16,362 หน่วย โดยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีใบอนุญาตจัดสรรที่ดินจำนวน 8 โครงการ จำนวน 803 หน่วย โดยมีสัดส่วนร้อยละ 4.9 ซึ่งลดลงร้อยละ 55.3 เมื่อเทียบกับปีที่แล้วในไตรมาสเดียวกันของจำนวนโครงการ และเมื่อเปรียบจำนวนของโครงการ และหน่วยของการสร้างที่อยู่อาศัยของภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็น YoY% จะพบว่ามีการลดลง 75% และ 55.3% ตามลำดับ ซึ่งสามารถสะท้อนถึงสภาพเศรษฐกิจของประเทศ ว่านักลงทุนนั้นยังไม่กล้าที่จะลงทุนใน ภาคอสังหาริมทรัพย์มากนัก เนื่องจากหลายปัจจัย ส่งผลให้แนวโน้มการเติบโตของ อสังหาริมทรัพย์ ในอีสานนั้นยังแสดงทีท่าที่ชะลอตัวลงอยู่เมื่อเปรียบเทียบYoY กับปี2566 ในไตรมาสที่1 1.2) พื้นที่อนุญาตก่อสร้างที่อยู่อาศัย ในช่วงไตรมาส 1 ปี 2567 มีพื้นที่อนุญาตก่อสร้างที่อยู่อาศัยทั่วประเทศประมาณ 8,878,735 ตารางเมตร ทั้งนี้ สามารถแบ่งออกเป็นพื้นที่อนุญาตก่อสร้างที่อยู่อาศัยประเภทแนวราบประมาณ 8,288,604 ตารางเมตร และอาคารชุด ประมาณ 590,131 ตารางเมตร  ในส่วนของ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีจำนวนพื้นที่ประมาณ 1,515,879 ตารางเมตร ที่มีการอนุญาตก่อสร้างที่อยู่อาศัย โดยคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 17.1ของทั้งประเทศ ซึ่งลดลงร้อยละ 3.1 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว2566 ในส่วนของที่อยู่อาศัยแนวราบของภาคตะวันออกเฉียงเหนือลดลง ร้อยละ 2.8 ซึ่งไม่พบพื้นที่อนุญาตก่อสร้างอาคารชุดในไตรมาสนี้ และทั่วประเทศนั้นที่อยู่อาศัยแนวราบหรือบ้านเดียว,บ้าน,แฝด มีการก่อสร้างลดลงมาเรื่อยๆตั้งแต่ปี2566 Q1 แสดงให้เห็นดังกราฟด้านล่างนี้ เมื่อพิจารณารายจังหวัดที่มีพื้นที่อนุญาตก่อสร้างที่อยู่อาศัยมากที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือไตรมาส 1 ปี 2567 นครราชสีมา มีสัดส่วนจำนวนพื้นที่ร้อยละ 4.1 ลดลงร้อยละ 17.1 ซึ่งไม่พบพื้นที่อนุญาตก่อสร้างอาคารชุดในไตรมาสนี้ และขอนแก่น มีสัดส่วนจำนวนพื้นที่ร้อยละ 2.6 […]

อสังหาฯ อีสาน ลงทุนเพิ่ม แต่ยอดขายไม่พุ่ง คนอยากมีบ้าน ติดกับดักหนี้ครัวเรือน ดอกเบี้ยสูง อ่านเพิ่มเติม »

ททท. จัดใหญ่ แสง สี เสียง ฟรี คอนเสิร์ต มหกรรมเสน่ห์ไทย “เสน่ห์อีสานม่วนซื่น” กิน เที่ยว ช้อป ณ ลาน บขส.3 ขอนแก่น

บขส.3 ขอนแก่น Zone คอนเสิร์ตมันส์อีหลี จาก 2 เวทีใหญ่ ขนทัพศิลปินมาม่วน 5 วันเต็ม พบกับ หมอลำวงประถม บันเทิงศิลป์ หมอลำใจเกินร้อยร่วมกับแอน อรดี หมอลำวงสาวน้อย เพชรบ้านแพง หมอลำวงอีสานนครศิลป์ หมอลำวงระเบียบ วาทะศิลป์ พร้อมศิลปินรุ่นใหม่มาร่วมทัพ พบกับ มีนตรา อินทิรา น้ำอ้อย สมใจรักษ์ ต้นฮัก ประธานฮ่าง ฝ้าย เมฆะ เต้ ตระกูลตอ ก๊อตซิลล่า ปิยวัฒน์ แจ๊คกี้ ณัฐวุฒิ ไข่มุก อาทิตตา ต้า ตจว คะแนน นัจนันท์ ทิดแอม โซน ธนกาญจน์ ฟุ๊กกี้ ศิริลักษณ์ ไอดิน อภินันท์ มินตรา น่านเจ้า ออย แสงศิลป์ ออมดาว เอ ณภัทร์ สายแนน โพธิ์งาม วงฮันแนว ศาล ศาลศิลป์ ไข่มุก พิชญา บิว สรรชัย วี พนมภูไท บุ๋ม กนกพร วงอ้ายมีผัวแล้ว ออยเลอร์ เป็นต้น Zone ตลาดแซ่บอีหลี เอาใจสายกินช๊อปที่รวบรวม ร้านอาหาร ของฝาก ของที่ระลึกกว่า 100 ร้านค้าในงาน ที่คัดสรรพิเศษมาสำหรับงานม่วนแบบนี้โดยเฉพาะ Zone “KhonKraft Showcase” จากอัตลักษณ์ที่โดดเด่นงาน Craft ของภาคอีสาน พร้อมร่วมสนุก กิจกรรมworkshop ที่น่าสนใจ กิจกรรม เสน่ห์ม่วนซื่น ฟรีทัวร์ พร้อมกับการลุ้นรางวัล voucher ฟรี!!! มูลค่า 1.5 ล้านบาท ที่ทำให้ลุ้นให้ตัวโก่ง ม่วนกันคักๆ ขอเชิญกันมาม่วนหลาย ให้ซื่นอกซื่นใจ กับ เสน่ห์อีสานม่วนซื่น ณ ขอนแก่น ถ่ายภาพอวดลงโซเชียล ถึงเสน่ห์บ้านเฮา ตามสไตล์คนมักม่วน เจอกัน ณ ลาน บขส. 3 จังหวัดขอนแก่น ตั้งแต่เวลา 14:00 – 24:00 น. งานนี้ขอย้ำเลยว่า ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย เสน่ห์อีสานม่วนซื่นที่ขอนแก่น #แต่ละมื่อแต่ละเดย์ จะม่วนซื่นแค่ไหน พบกันที่ บขส.3 วันที่  25-29 กันยายน 2567 นี้

ททท. จัดใหญ่ แสง สี เสียง ฟรี คอนเสิร์ต มหกรรมเสน่ห์ไทย “เสน่ห์อีสานม่วนซื่น” กิน เที่ยว ช้อป ณ ลาน บขส.3 ขอนแก่น อ่านเพิ่มเติม »

วิวัฒนาการ “แชร์ลูกโซ่” อาชญากรรมทางเศรษฐกิจ กลโกงไส้ในเดิม ที่เพิ่มเติมรูปแบบใหม่

มีคำกล่าวไว้ว่า “คนเราเรียนรู้จากอดีต” วันนี้มาเผือกเรื่องของคนอยากรวย ว่าเราได้เรียนรู้อะไรกันจากอดีต #แชร์ลูกโซ่ ที่อ้างและแฝงตัวมาในรูป ✓การระดมทุน ✓ขายตรง ✓ออมทอง ✓ลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ✓ธุรกิจท่องเที่ยว ✓Bitcoin จนมาถึง ✓StartUp ที่ระดมทุนโดย Venture Capitalists โพสต์นี้ถูกเผยแพร่ เมื่อ 11 กรกฎาคม 2017   #คำเตือนโพสต์นี้มีไว้เพียงเรียกสติก่อนลงทุนเท่านั้น ปี พ.ศ.2520 “นางชม้อย ทิพย์โส” ได้ชักชวนคนนับหมื่นคน มาร่วมลงทุนเป็นเงินจำนวนมากกว่า 4,000 ล้านบาท เธอบอกว่าให้มาร่วมทุนบริษัทนํ้ามัน โดยจะให้ผลตอบแทนอย่างดีเป็น “รายเดือน” โดยที่ไม่มีธุรกิจนี้อยู่จริงๆ แค่มโนขึ้นมา สุดท้ายนางชม้อยกลายเป็นหัวแชร์กว่า 8,000 ล้านบาท และเป็นผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงกว่า 4,000 ล้าน โทษจำคุกกว่า 154,005 ปี ที่เรารู้จักกันดีในนาม #แชร์แม่ชม้อย =================================== ปี พ.ศ.2527 “นายเอกยุทธ อัญชันบุตร” เจ้าของบริษัท ชาร์เตอร์ อินเวสต์เมนท์ จำกัด ชักชวนให้คนนำเงินไปลงทุนซื้อสินค้าโภคภัณฑ์และเงินตราต่างประเทศมาเก็งกำไร ให้ผลตอบแทนถึงเดือนละ 9% สูงกว่าแชร์แม่ชม้อยถึง 2.5 % ทำให้มีคนแห่นำเงินมาลงทุน “ทำธุรกิจ” กับนายเอกยุทธจำนวนมาก ส่วนหนึ่งเป็นนายทหารกับนักการเมือง ก่อนที่จะกลายเป็นคดีดัง #แชร์ชาร์เตอร์ และนายเอกยุทธหนีคดีไปต่างประเทศในปี พ.ศ.2528 และกลับมา พ.ศ.2547 หลังจากคดีหมดอายุความ และถูกฆ่าในปี พ.ศ.2556 =================================== ปลายปี พ.ศ 2529 พรชัย สิงหเสมานนท์ เจ้าของหมู่บ้านเสมาฟ้าคราม โครงการบ้านจัดสรรราคาถูก 700 ยูนิต บนเนื้อที่ 320 ไร่ ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี จัดระดมเงินทุนนอกระบบขึ้น หลังธนาคารระงับการให้สินเชื่อกับโครงการ โดยผู้ลงทุนต้อง “ลงทุน” 12,000 บาท รอ 2 ปี ได้เงิน 36,000 บาท การได้เงินไม่ใช่ได้ก้อนเดียว…ครั้งเดียว ลงทุนไปแล้วทุกเดือน จะได้ผลตอบแทนเดือนละ 1,500 บาท จนครบ 24 เดือน คิดเป็นผลกำไร 12.5% ต่อเดือน หรือ 150% ต่อปี เท่ากับว่า จ่ายเงิน 12,000 บาท รอ 2 ปี จะได้กำไรถึง 2 เท่าตัวคือ 24,000 บาท แต่ต่อมาเพียง 2

วิวัฒนาการ “แชร์ลูกโซ่” อาชญากรรมทางเศรษฐกิจ กลโกงไส้ในเดิม ที่เพิ่มเติมรูปแบบใหม่ อ่านเพิ่มเติม »

ทำไมครัวเรือนอีสานมีรายได้เฉลี่ยใกล้เคียงกับทุกภูมิภาค แต่กลับมีเงินไม่พอใช้หนี้

จากการเก็บรวบรวมข้อมูลของทางการเงินสำนักงานสถิติแห่งชาติ ได้รายงาน “การสำรวจภาวะเศรษฐกิจและสังคมของครัวเรือน พ.ศ. 2566 ทั่วราชอาณาจักร” จะพบว่าภาคอีสานเป็นภาคที่มีรายได้และรายจ่ายภาคครัวเรือนต่ำที่สุดในประเทศ แต่ถึงแม้ว่ารายได้ของครัวเรือนในภาคอีสานเฉลี่ยนั้นจะมากกว่ารายจ่ายก็จริง ก็ในด้านของหนี้สินเฉลี่ยต่อครัวเรือนนั้นภาคอีสานก็สูงไม่แพ้ภาคอื่นเช่นกัน “ครัวเรือนในภาคอีสานแม้จะมีรายได้เฉลี่ยใกล้เคียงกับภูมิภาคอื่นๆ แต่กลับมีสัดส่วนรายได้จากการทำงานเฉลี่ยน้อยที่สุด และพึ่งพารายได้ที่ได้รับการช่วยเหลือในสัดส่วนที่มากที่สุด ในขณะที่มีหนี้สินครัวเรือนเฉลี่ยเป็นรองเพียงภาคใต้ และ กรุงเทพฯ” หากมาดูโครงสร้างรายได้ของครัวเรือนในภาคอีสานจะพบว่า รายได้เฉลี่ยต่อเดือนของครัวเรือนในภาคอีสานจะอยู่ที่ 22,524 บาทต่อเดือน โดยแบ่งเป็น รายได้ประจำที่เป็นตัวเงิน 17,908 บาท ซึ่งเป็นรายได้ที่มาจาก 1) การทำงาน 12,724 บาท 2) จากการช่วยเหลือต่าง ๆ 5,024 บาท และ 3) รายได้จากทรัพย์สินต่าง ๆ 161 บาท ส่วนต่อมาได้แก่ รายได้ประจำที่ไม่เป็นตัวเงิน 4,221 บาท เช่น ค่าประเมินค่าเช่าบ้านที่ไม่เสียเงิน หรือสินที่ได้มาโดยไม่ต้องซื้อ เป็นต้น และในส่วนสุดท้าย รายได้ไม่ประจำที่เป็นตัวเงิน 395 บาท เช่น ทุนการศึกษา มรดก เงินจากประกัน เป็นต้น กราฟแสดงรายได้ครัวเรือนเฉลี่ยของแต่ละภูมิภาคของไทย ที่มา: สำนักงานสถิติแห่งชาติ   ในส่วนของโครงสร้างรายจ่ายของครัวเรือนในภาคอีสานนั้นจะพบว่า รายจ่ายเฉลี่ยต่อเดือนของครัวเรือนในภาคอีสานจะอยู่ที่ 18,676 บาทต่อเดือน โดยแบ่งเป็น รายจ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภค 16,540 บาท ซึ่งเป็นรายจ่ายที่มาจาก 1) อาหาร และเครื่องดื่ม (ไม่มีแอลกอฮอล์) 7,202 บาท 2) ที่อยู่อาศัย เครื่องต่างบ้าน และเครื่องใช้ต่าง ๆ 3,870 บาท 3) การเดินทางและการสื่อสาร 3,498 บาท และ 4) ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ 1,895 บาท และส่วนที่สองได้แก่ รายจ่ายที่ไม่เกี่ยวข้องกับการอุปโภคบริโภค 2,136 บาท เช่น เงินสมทบประกันสังคม เงินทำบุญ หรือสลากกินแบ่งรัฐบาล เป็นต้น กราฟแสดงรายจ่ายครัวเรือนเฉลี่ยของแต่ละภูมิภาคของไทย ที่มา: สำนักงานสถิติแห่งชาติ   หากมองเพียงผิวเผินอาจกล่าวได้ว่ารายจ่ายนั้นเป็นไปในทิศทางที่สอดคล้องกับรายได้ที่เมื่อรายได้ไม่สูงมากนัก การบริโภคจึงไม่สูงตาม ทำให้ภาคอีสานมีสัดส่วนรายจ่ายต่อรายได้สูงที่สุดในประเทศมีสัดส่วนร้อยละ 82.9 จึงทำให้มีเงินออมหรือเงินชำระหนี้น้อยกว่าภาคอื่น ๆ แต่เมื่อพิจารณาทั้งรายได้และรายจ่ายของคนในภาคอีสานให้ละเอียดนั้นจะพบว่า รายได้ประจำที่มากจากการทำงานซึ่งถือเป็นรายได้หลักนั้นเฉลี่ยทั้งครัวเรือนในภาคอีสานมีอยู่เพียง 12,724 บาทต่อเดือนเท่านั้น โดยเมื่อเปรียบเทียบกับในภูมิภาคอื่นแล้วนั้นภาคอีสานถือเป็นภาคที่มีรายได้จากการทำงานต่ำที่สุดในประเทศ คิดเป็นร้อยละ 75 ของรายได้จากการทำงานที่น้อยกว่าภูมิภาคอื่น และเมื่อพิจารณาคู่กับรายจ่ายเฉพาะการอุปโภคบริโภคนั้นมีสูงถึง 16,540 บาทต่อเดือน จึงสามารถกล่าวได้ว่าในทุก ๆ หนึ่งเดือนครัวเรือนภาคอีสานต้องหาเงินเพิ่มอย่างน้อย 3,816 บาทเพื่อให้เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายในการอุปโภคบริโภค โดยในส่วนนี้ครัวเรือนในภาคอีสานส่วนหนึ่งถูกทดแทนด้วยการช่วยเหลือด้านการเงินจากบุคคลนอกครัวเรือนเฉลี่ยเดือนละ 2,756 บาท

ทำไมครัวเรือนอีสานมีรายได้เฉลี่ยใกล้เคียงกับทุกภูมิภาค แต่กลับมีเงินไม่พอใช้หนี้ อ่านเพิ่มเติม »

โฟลค์ ร็อค เพื่อชีวิต ห้ามพลาด! “ลุยเขา มิวสิคเฟสติวัล” จัดเต็ม 26 ศิลปิน 4 แนวดนตรี 12 ชั่วโมง มาไว้ในคอนเสิร์ตเดียว ณ เขาใหญ่มาราธอน

พฤศจิกายนนี้ ห้ามพลาด!! “ลุยเขา มิวสิคเฟสติวัล” ยกขบวนกองทัพ 26 ศิลปิน 4 แนวดนตรี จัดเต็ม 12 ชั่วโมง มาไว้ในคอนเสิร์ตเดียว จัดเต็มกับสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน แสง สี เสียง ห้องน้ำ จราจร และพลุสุดตระการตา บัตรราคา 99O.- (ราคาเต็ม 1,59O.-) ราคานี้จำหน่ายถึง 30 กันยายนนี้ เท่านั้น! **บัตรเข้างาน 1 ใบ สามารถรับชมได้ทั้งสองเวที** . จำหน่ายบัตรทาง Facebook Page >> ลุยเขา มิวสิคเฟสติวัล หรือเคาน์เตอร์เซอร์วิส ใน 7-Eleven ทุกสาขาทั่วประเทศ . วันเสาร์ที่ 16 พ.ย. 67 ลานกิจกรรมเขาใหญ่มาราธอน ถนนธนะรัชต์ กม.21 เขาใหญ่ โลเคชั่นงาน : https://maps.app.goo.gl/rgKzeL1apt9MLzHQ7… . #ลุยเขา #ลุยเขามิวสิคเฟสติวัล #Luikhao #Luikhaomusicfestival #LUIKHAOMUSICFESTIVAL #LUIKHAO #LUIKHAO1 #เทศกาลดนตรี #musicfestival   บัตรราคา 99O.- (ราคาเต็ม 1,59O.-) ราคานี้จำหน่ายถึง 30 กันยายนนี้ เท่านั้น! **บัตรเข้างาน 1 ใบ สามารถรับชมได้ทั้งสองเวที**สนใจซื้อบัตร หรือ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook page : ลุยเขา มิวสิคเฟสติวัล หรือคลิกลิ้งค์ >> https://www.facebook.com/share/2wf3T8rcQD8yJ6dr/?mibextid=kFxxJD . ซื้อผ่าน INBOX PAGE คลิ๊ก : m.me/LUIKHAOMUSICFESTIVAL ซื้อผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิสใน 7-Eleven ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ https://www.allticket.com/event/LuiKhaoMusicFestival พบกับ 2 เวที ใหญ่ จัดเต็ม เวทีลุยมาโยก มนัสวีร์ / ฮิวโก้-ใหม่ สิบล้อ / คณะขวัญใจ / ไววิทย์ / เขียนไขและวานิช / อภิรมย์ / เกมส์ สุจิตรา / SITTA / วสันต์ 17 / Whatfalse / ดวงดาวเดียวดาย

โฟลค์ ร็อค เพื่อชีวิต ห้ามพลาด! “ลุยเขา มิวสิคเฟสติวัล” จัดเต็ม 26 ศิลปิน 4 แนวดนตรี 12 ชั่วโมง มาไว้ในคอนเสิร์ตเดียว ณ เขาใหญ่มาราธอน อ่านเพิ่มเติม »

เปิด เส้นทางขนส่งสินค้า ออนไลน์ ทำไมต้องผ่าน “มุกดาหาร” 2 วัน ส่งไว จีน-ไทย ไม่เกินจริง

เทศกาล โปรโมชั่น ลดกระหน่ำ ประจำเดือนมาถึงแล้ว หลายๆ คนก็เริ่มเก็บคูปองแล้วกดตะกร้าสั่งสินค้ากันแล้ว และแน่นอนว่าจะต้องตั้งตารอสินค้า และเช็คสถานะพัสดุที่จัดส่งเป็นระยะๆ จนทำให้เกิดข้อสงสัยว่า แล้วทำไมสินค้าบางอย่างที่สั่งผ่านร้านค้าที่จัดส่งจากต่างประเทศนั้น ถึงส่งได้อย่างรวดเร็ว ว่องไว เหลือเกิน โดยปกติจะมีการแจ้งจัดส่งภายใน 7 วัน แต่เอาเข้าจริงกลับจัดส่งได้เร็วกว่านั้น หรือเร็วสุด 2 วันก็ถึงแล้ว นอกจากนั้นหลายๆ คนก็เริ่มตั้งข้อสังเกตแล้วว่าสินค้าที่จัดส่งมาหลายๆ ชิ้นจะต้องผ่าน “ที่ทำการ MUKDAHAN” หรือ ด่าน มุกดาหารอยู่เสมอ ดังเช่นภาพตัวอย่างด้านล่างที่แนบมานี้ ทำความรู้จักจุดผ่านแดนอีสาน-ประเทศเพื่อนบ้าน จากข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยมูลค่าการค้าสะสมเดือนมกราคม – สิงหาคม ปี 2566 พบจุดผ่านด่านดังนี้ ตามภาพด้านล่างนี้ จุดผ่านแดนอีสาน – ลาว มีที่ไหนบ้าง? . 1. จังหวัดเลย มีมูลค่าการค้าอยู่ที่ 69,024 ล้านบาท โดยมีจุดผ่านแดน 3 แห่งด้วยกัน คือ จุดผ่านแดนสะพานมิตรภาพข้ามแม่น้ําเหือง – ไชยบุรี, จุดผ่านแดนอำเภอเชียงคาน – นครหลวงเวียงจันทน์ และจุดผ่านแดนบ้านคกไผ่ – นครหลวงเวียงจันทน์ . 2. จังหวัดหนองคาย มีมูลค่าการค้าอยู่ที่ 108,686 ล้านบาท โดยมีจุดผ่านแดน 2 แห่งด้วยกัน คือ จุดผ่านแดนท่าเสด็จ – นครหลวงเวียงจันทน์ และจุดผ่านแดนมิตรภาพไทย – ลาว(นครหลวงเวียงจันทน์) แห่งที่ 1 . 3. จังหวัดมุกดาหาร มีมูลค่าการค้าอยู่ที่ 88,781 ล้านบาท โดยมีจุดผ่านแดน 2 แห่งด้วยกัน คือ จุดผ่านแดนอำเภอเมืองมุกดาหาร – แขวงสะหวันนะเขต และจุดผ่านแดนสะพานมิตรภาพไทย – ลาว(แขวงสะหวันนะเขต) แห่งที่ 2 . 4. จังหวัดนครพนม มีมูลค่าการค้าอยู่ที่ 70,937 ล้านบาท โดยมีจุดผ่านแดน 2 แห่งด้วยกัน คือ จุดผ่านแดนสะพานมิตรภาพไทย – ลาว(แขวงคําม่วน) แห่งที่ 3 และจุดผ่านแดนอำเภอเมืองนครพนม – แขวงคําม่วน . 5. จังหวัดบึงกาฬ มีมูลค่าการค้าอยู่ที่ 66,920 ล้านบาท โดยมีจุดผ่านแดน 1 แห่งด้วยกัน คือ จุดผ่านแดน อ.เมืองบึงกาฬ – แขวงแบอลิคําไซ (สะพานมิตรภาพไทย

เปิด เส้นทางขนส่งสินค้า ออนไลน์ ทำไมต้องผ่าน “มุกดาหาร” 2 วัน ส่งไว จีน-ไทย ไม่เกินจริง อ่านเพิ่มเติม »

เศรษฐกิจ ‘ลาว’ ไปต่อยังไง? หลังหนี้พุ่ง 122 % ของ GDP แรงงานทะลักออกนอกประเทศ เศรษฐกิจชายแดนอีสานได้รับผลกระทบ?

หนึ่งในข้อความจากเพจ ลาว”มอง”ไทย “แรงงานลาวไปทำงานในต่างประเทศ จาก 73% ในปี 2023 มาเป็น 93% ในปี 2024” แม้ข้อความข้างต้นจะไม่ปรากฏข้อมูลตัวเลขอ้างอิง ที่เชื่อถือได้ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาจะพบว่ามีข่าวและข้อมูลที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจต่างๆ ที่พูดถึงวิกฤตทางการเงินและวิกฤตทางเศรษฐกิจของ สปป.ลาว ประเทศเล็กๆ ที่ไร้ทางออกทะเล ที่ต้องการฟื้นเปลี่ยนสภาพจาก land locked ให้เป็น land linked ประสานกับยุทธศาสตร์การเป็นแบตเตอรี่แห่งเอเชีย ทำให้ลาวต้องลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานจำนวนมากนับตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 20 ที่ผ่านมา เพื่อเป็นจุดเชื่อมโยงการคมนาคมขนส่งของแผ่นดินใหญ่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้ได้ แต่กลับกันการลงทุนเหล่านั้นก็ได้สร้างหนี้พอกพูนมากขึ้นเป็นลำดับ “ภาคอีสาน และ สปป.ลาว ล้วนพึ่งพาอาศัยกันทางเศรษฐกิจมากกว่าที่คิด ดังนั้นการหดตัวทางเศรษฐกิจลาวย่อมส่งผลต่อเศรษฐกิจอีสานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้” สถานการณ์ของลาวประเทศเพื่อนบ้านต้องเผชิญกับหนี้สาธารณะในระดับวิกฤตเมื่อมองไปที่นี่เงินกู้ของประเทศตอนนี้สูงถึง 122 % ของ GDP ซึ่งทำให้ลาวกลายเป็นประเทศที่มีหนี้สาธารณะสูงเป็นอันดับ 9 ของโลกตามข้อมูลกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือ IMF ซึ่งทำให้เรื่องนี้กลายเป็นสิ่งที่หลายคนกล่าวถึงลาวว่ากำลัง “ติดกับดักนี่ทางการทูต” จากจีนหรือไม่? จนนักวิเคราะห์หลายคนมองว่าลาวได้กลายเป็นรัฐเงา(shadow state) ของจีนไปด้วยซ้ำ แต่ในขณะเดียวกันลาวก็ไม่ได้มีทางเลือกในการพัฒนามากนักการต้านจีนจึงเป็นเรื่องที่ยากลำบากการเชื่อมโยงพัฒนาเข้ากับจีนดูเหมือนจะเป็นทางเดียวที่ลาวจะสามารถพัฒนาตัวเองได้อย่างรวดเร็ว ในขณะที่พรรคประชาชนปฏิวัติเราเองก็ต้องการความชอบธรรมด้านผลงานจากการพัฒนาเพื่อให้อยู่ในอำนาจได้อย่างต่อเนื่อง แต่ทุกอย่างมีราคาต้องจ่าย ISAN Insight and Outlook จะ พามาเบิ่ง ว่าท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจของลาว ได้เกิดผลกับลาวอย่างไรและได้ส่งผลต่อประเทศไทยรวมถึงภาคอีสานที่ถือเป็นชายแดนติดกับประเทศลาวอย่างไรบ้างตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เศรษฐกิจลาวในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเผชิญกับความท้าทายหลายประการ ทั้งจากปัจจัยภายในและภายนอกประเทศ เช่น ภัยธรรมชาติ ภาวะหนี้สิน และผลกระทบจากการระบาดใหญ่ของ COVID-19 อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจลาวก็มีสัญญาณการฟื้นตัวและพัฒนาในหลายด้าน ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจลาว การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน: ลาวให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น การก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง รถไฟมาตรฐาน และเขื่อน ซึ่งมีส่วนสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจและเชื่อมโยงลาวเข้ากับภูมิภาค การลงทุนจากต่างประเทศ: การลงทุนจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากจีน มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจลาว แต่ก็ก่อให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับภาระหนี้สินของประเทศ ภาคการเกษตร: ภาคการเกษตรยังคงเป็นรากฐานสำคัญของเศรษฐกิจลาว แม้ว่าจะเผชิญกับปัญหาเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการขาดแคลนเทคโนโลยี ภาคการท่องเที่ยว: ภาคการท่องเที่ยวเป็นอีกหนึ่งภาคส่วนสำคัญของเศรษฐกิจลาว แต่การระบาดใหญ่ของ COVID-19 ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อภาคนี้ แนวโน้มเศรษฐกิจลาวในอนาคต การฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป: แม้ว่าเศรษฐกิจลาวจะเริ่มฟื้นตัว แต่การฟื้นตัวก็ยังมีความเปราะบางและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอก เช่น สงครามการค้า สภาวะเงินเฟ้อ และอัตราดอกเบี้ยที่ผันผวน ความท้าทายด้านหนี้สิน: ภาระหนี้สินของลาวยังคงเป็นความท้าทายสำคัญที่ต้องเร่งแก้ไข การพัฒนาอย่างยั่งยืน: ลาวให้ความสำคัญกับการพัฒนาเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เปรียบเทียบศักยภาพเศรษฐกิจลาว และ ภาคอีสาน   ลาว ยังเป็นผู้ลงทุน Top3 ของเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษอีสานมาอย่างต่อเนื่อง จากข้อมูลข้างต้น ณ 30 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา จะพบว่า ลาว ยังเป็นกลุ่มประเทศที่เข้ามาลงทุนในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษอีสานอย่างต่อเนื่องและติด TOP 3 มาตลอดหลายปีที่ผ่านมา ในขณะที่ฝั่งแรงงานจากลาว ก็ถือเป็นอันดับ 2 ของไทยที่ขับเคลื่อนแรงงานต่างด้าว เป็นรองเพียง

เศรษฐกิจ ‘ลาว’ ไปต่อยังไง? หลังหนี้พุ่ง 122 % ของ GDP แรงงานทะลักออกนอกประเทศ เศรษฐกิจชายแดนอีสานได้รับผลกระทบ? อ่านเพิ่มเติม »

คนอีสานและทั่วโลกถูกดักฟัง หลังข่าวฉาว บิ๊กเทคอาจใช้ AI ดักฟังในแพลตฟอร์มต่างๆ เหตุเม็ดเงินโฆษณาเติบโตอย่างต่อเนื่อง

สงครามแย่งชิงความสนใจและเม็ดเงินโฆษณาในวงการสื่อและความบันเทิงไทยกำลังร้อนระอุ! แพลตฟอร์มใหม่ๆ ผุดขึ้นราวดอกเห็ด ผู้บริโภคเสพสื่อหลากหลายช่องทางจนตาลาย แต่ใครจะครองใจคนไทยได้อยู่หมัด? . ผลสำรวจจาก Marketbuzzz ชี้ชัดว่า คนไทยยุคนี้ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับโซเชียลมีเดีย (70%) การท่องอินเทอร์เน็ต (50%) และดูวิดีโอสตรีมมิง (47%) LINE และ Facebook ยังคงเป็นเจ้าพ่อโซเชียล โดยเฉพาะ LINE ที่มีผู้ใช้งานสูงถึง 78% สะท้อนให้เห็นถึงความนิยมในการใช้แอปพลิเคชันนี้ในการสื่อสารและติดตามข่าวสารในชีวิตประจำวัน . Facebook เองก็ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง โดยมีผู้ใช้งาน 68% แสดงให้เห็นว่าแพลตฟอร์มนี้ยังคงเป็นช่องทางสำคัญในการเชื่อมต่อกับเพื่อนฝูงและครอบครัว นอกจากนี้ ยังพบว่า Messenger แอปพลิเคชันแชตในเครือของ Facebook ก็มีผู้ใช้งานสูงถึง 34% บ่งชี้ว่าคนไทยยังคงนิยมการสื่อสารแบบส่วนตัวผ่านช่องทางนี้ . ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีจำนวนบัญชีผู้ใช้งาน Facebook อยู่มากกว่า 12.9 ล้านบัญชี โดยมีสัดส่วนบัญชีผู้ใช้งาน Facebook แบ่งเป็นผู้หญิง 60.01% และผู้ชาย 39.99%.โดยประเทศไทยเป็นประเทศอันดับที่ 8 ที่มีจำนวนผู้ใช้งาน facebook มากที่สุดในโลก จำนวนกว่า 48.3 – 56.9 ล้านบัญชี โดยผู้ใช้งานส่วนใหญ่50.6% ชอบโพสต์ลิงค์มากที่สุดรองลงมาเป็นรูปภาพ 30.2%video 17.1%สเตตัสทั่วไป 1.9%ส่วนค่าเฉลี่ยการโพสต์จากเพจ 1.92%. จัดอันดับอันดับจังหวัดที่มีสัดส่วนบัญชีผู้ใช้งาน Facebook มากที่สุด.อันดับที่ 1 นครราชสีมา จำนวน 1.7 – 2 ล้านบัญชีอันดับที่ 2 อุบลราชธานี จำนวน 9.8 แสนบัญชี – 1.2 ล้านบัญชีอันดับที่ 3 อุดรธานี จำนวน 8.1 – 9.6 แสนบัญชีอันดับที่ 4 ขอนแก่น จำนวน 8.1 – 9.5 แสนบัญชีอันดับที่ 5 บุรีรัมย์ จำนวน 7.5 – 8.8 แสนบัญชี 6 สุรินทร์ จำนวน 6 – 7 แสนบัญชี 7 ศรีสะเกษ จำนวน 5.9 – 6.9 แสนบัญชี 8 ร้อยเอ็ด จำนวน 5.5 – 6.5 แสนบัญชี 9 สกลนคร จำนวน 5.5 –

คนอีสานและทั่วโลกถูกดักฟัง หลังข่าวฉาว บิ๊กเทคอาจใช้ AI ดักฟังในแพลตฟอร์มต่างๆ เหตุเม็ดเงินโฆษณาเติบโตอย่างต่อเนื่อง อ่านเพิ่มเติม »

ของดีและฟรีมีอยู่จริง!!! บริการจาก “40 บูท” ในงาน “มหกรรมมหาวิทยาลัยขอนแก่นบริการชุมชน” บริการวิชาการแก่ชาวขอนแก่น ครบจบที่เดียว

บริการวิชาการด้วยใจ ครบจบที่เดียว กับ มหกรรมมหาวิทยาลัยขอนแก่นบริการชุมชน จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น และ หน่วยงานเครือข่าย ทั้งภายใน และภายนอกมหาวิทยาลัย เข้าร่วมบริการวิชาการแก่ชาวขอนแก่นกว่า 40 หน่วยงาน โดยการจัดกิจกรรม “มหกรรมมหาวิทยาลัยขอนแก่นบริการชุมชน” ในโครงการ KKU CSV มหาวิทยาลัยขอนแก่นร่วมสร้างคุณค่าสู่สังคม ประจำปีงบประมาณ 2567 ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 5 แล้ว ในปีนี้ ได้กำหนดจัดขึ้น ในวันศุกร์ที่ 6 กันยายน  2567 เวลา 09.00 – 15.00 น. ณ สถานีรถไฟขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้คณาจารย์ บุคลากร นักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่น และหน่วยงานเครือข่าย ร่วมนำองค์ความรู้ ทั้งทางด้านการบริการวิชาการ การให้คำปรึกษา รวมถึง การบริการด้านสุขภาพ ออกบริการประชาชนในชุมชน ฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย  ให้บริการ 4 ด้าน ได้แก่ 1.บริการด้านสุขภาพ  -ให้บริการตรวจสุขภาพช่องปาก ขูดหินน้ำลาย อุดฟัน ถอนฟัน –  ให้บริการทันตสุขศึกษา – การตรวจสุขภาพเบื้องต้น วัดความดันโลหิต ตรวจระดับน้ำตาล และประเมิน Body Composition (การวัดองค์ประกอบของร่างกาย) พร้อมบริการให้คำปรึกษาสุขภาพ – การให้ความรู้สุขภาพต่าง ๆ การสร้างเสริมสุขภาพด้วยอาหาร – การประชาสัมพันธ์ช่องทางการเข้าถึงโรงพยาบาล – การบริการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ – ตอบคำถามโรคติดต่อชิงรางวัลและแจก Set box ป้องกันโรค – การบริการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม – การแนะนำบริการต่างๆของศูนย์บริการทางการแพทย์ชั้นเลิศ(SMC). อาทิเช่น • คลินิกโรคเฉพาะทาง • คลินิกตรวจสุขภาพ • วัคซีนผู้ใหญ่และเด็ก • ช่องทางการเข้ารับบริการ ผู้รับบริการต้องนำบัตรประชาชนมาด้วยทุกครั้ง -แนะนำบริการต่างๆ และตรวจสุขภาพเบื้องต้น เช่น วัดความดัน ประเมินภาวะสุขภาพด้วยเครื่องวัดมวลร่างกาย แบบทดสอบภาวะพร่องฮอร์โมนเพศชาย -ให้ความรู้เรื่องการเตรียมตัวก่อนมารับบริการทางวิสัญญีและคลินิกระงับปวด โรงพยาบาลศรีนครินทร์ 2.ให้บริการฝังเข็มเพื่อการระงับปวด 3.แจกของที่ระลึกแก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรม” -นิทรรศการพิพิธภัณฑ์ทางพยาธิวิทยา โดยให้ความรู้เกี่ยวกับรอยโรคของอวัยวะในร่างกายมนุษย์ -รับบริจาคโลหิต ให้ความรู้เกี่ยวกับการบริการโลหิต และมอบของที่ระลึกให้ผู้มาร่วมกิจกรรม – ให้ความรู้ทางด้านเซลล์บำบัดรักษา คือ การรักษาฟื้นฟูระดับเซลล์ด้วยเกล็ดเลือดเข้มข้น – ให้สิทธิ์ในการรักษาภาวะเข่าเสื่อม ฟรี 5 ราย และภาวะเส้นเอ็นอักเสบเรื้อรัง ฟรี 5 ราย – ให้บริการตรวจประเมินผิวหน้าและหนังศีรษะพร้อมให้คำปรึกษา ฟรี – ร่วมกิจกรรมเล่นเกมลุ้นรางวัลและของที่ระลึกมากมาย -การตรวจองค์ประกอบร่างกายและการทดสอบสมรรถภาพทางกายเบื้องต้น ( Body scan

ของดีและฟรีมีอยู่จริง!!! บริการจาก “40 บูท” ในงาน “มหกรรมมหาวิทยาลัยขอนแก่นบริการชุมชน” บริการวิชาการแก่ชาวขอนแก่น ครบจบที่เดียว อ่านเพิ่มเติม »

4 จังหวัด คูเมืองโบราณในอีสาน วิทยาการการจัดการน้ำในเมืองโบราณของคนในอดีต

🌧☔ในฤดูฝนช่วง สิงหา-กันยา ในทุกๆ ปี หลายท่านอาจจะต้องเผชิญกับฝนอยู่บ่อยครั้งโดยเฉพาะช่วงเวลาเร่งด่วน หรือเวลาเลิกงาน บางครั้งอาจหนักถึงขั้นพายุ ฟ้าฝน ลม กระหน่ำ จนเกิดน้ำท่วมฉับพลันหรือน้ำป่าไหลหลาก ในยุคเมืองปูน เมืองซีเมนต์ ที่น้ำไหลซึมลงผ่านหน้าดินได้ยากนี้ จึงต้องอาศัยเครืองไม้เครื่องมือในการจัดการน้ำ ที่รอการระบาย หรือไม่สามารถระบายผ่านระบบระบายของตัวเมืองได้ทัน . แล้วในสมัยก่อน คนในอดีตวางผังเมือง และมีแผนการรับมือกับน้ำทั้งใน⛈หน้าฝน ⛅หน้าแล้ง และวางระบบชลประทานอย่างไรบ้าง วันนี้ ISAN Insight 🧐สิพามาเบิ่ง 4 จังหวัด คูเมืองโบราณในอีสาน วิทยาการการจัดการน้ำในเมืองโบราณของคนในอดีต กัน ประวัติความเป็นมาของคูคลอง 4 จังหวัดภาคอีสาน 1. นครราชสีมา #คลองคูเมืองนครราชสีมาได้ก่อสร้างขึ้นในสมัยอยุธยา ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ช่วงปี พ.ศ. 2199 – พ.ศ. 2231 เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ทางการท่องเที่ยวที่สำคัญของนครราชสีมา.ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช มีพระราชดำริว่า ดินแดนภาคอีสานเป็นฉนวนป้องกันการรุกรานของขแมร์ (เขมร) ลาว ญวน และเป็นหัวเมืองใหญ่ควบคุมเขมรป่าดงที่ขึ้นแก่ไทย จึงโปรดให้สร้างเมืองขึ้นใหม่ เนื่องจากเป็นที่ตั้งของเมืองที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ทางการรบ จึงมีการสร้างกำแพงและขุดคู้มืองขึ้นด้วย.โดยคูเมืองกว้าง 20 เมตร (10 วา) และลึก 6 เมตร (3 วา) ยาวล้อมรอบเมือง มีความกว้างประมาณ 1,000 เมตร (มาตราวัดของไทย : 25 เส้น) ยาวประมาณ 1,700 เมตร (มาตราวัดของไทย : 43 เส้น) ยาวล้อมรอบกำแพงเมืองและเขตเมืองเก่า และมีการขุดลำปรุจากลำตะคองเป็นทางน้ำเข้ามาหล่อเลี้ยงคูเมืองด้วย มาทำความรู้จัก ๑๗ คูเมืองโคราช . #ชื่อคูเมืองโคราช คูเมืองโคราชมีทั้งหมด 17 คูและให้ประชาชนร่วมส่งชื่อเข้าประกวด โดยคณะเทศมนตรีชุดบริหาร พ.ศ.2526 ร่วมกับอาจารย์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา นำชื่อที่เข้าอันดับมาไล่เรียงให้คล้องจองกัน โดยยึดถือความสอดคล้องทางประวัติศาสตร์โคราชและเกี่ยวกับท้าวสุรนารี (คุณย่าโม) ซึ่งแต่ละคูมีชื่อที่คล้องจองกันดังนี้ นารายณ์รังสฤษดิ์ มหิศราธิบดี เศวตหัตถีคู่แดน พลแสนฮึกหาญ อีสานชาญชัย ชูไทเทิดหล้าน พลล้านต้านปัญจา บูรพารวมพล พหลไกรเกริกหาญ ชลธารเทพสถิต นิรมิตชลเขต สาครเรศบุรารักษ์ พิทักษ์สีมารัฐ ยกกระบัตรลือเลื่อง ปลัดเมืองเกรียงไกร พิชัยชุมพล สัมฤทธิ์รณอริพ่าย ภาพคูเมือง ทั้ง 17 แห่งของโคราช ___________________________ 2. ร้อยเอ็ด #คลองคูเมืองร้อยเอ็ดกำแพงเมืองและคูเมืองร้อยเอ็ด เกี่ยวข้องกับเมืองสาเกตในตำนานอุรังคธาตุ ระบุว่ามีมาก่อน การสร้างพระธาตุพนม (พ.ศ. แต่จากหลักฐานทางโบราณคดีพบร่องรอยการอยู่อาศัยในพื้นที่ตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ตอนปลาย.ต่อมาจึงมีการสร้างเมืองร้อยเอ็ดเมื่อราวปี พ.ศ.1000 ร่วมสมัยกับเมืองเชียงเหียน เมืองจำปาศรี จังหวัดมหาสารคาม

4 จังหวัด คูเมืองโบราณในอีสาน วิทยาการการจัดการน้ำในเมืองโบราณของคนในอดีต อ่านเพิ่มเติม »

Scroll to Top