SHARP ADMIN

พาสำรวจเบิ่ง “เด็กน้อยอีสาน” ตกหล่น จากการระบบศึกษามากแค่ไหน

พาสำรวจเบิ่ง “เด็กน้อยอีสาน” ตกหล่น จากการระบบศึกษามากแค่ไหน . . ในปี 2565 ประเทศไทยมีเด็กและเยาวชนอายุตั้งแต่ 3-18 ปี ที่อยู่นอกระบบการศึกษามีมากกว่า 1.02 ล้านคน ในจำนวนนี้ยังมีหลายคนกำลังตกอยู่ในภาวะวิกฤต โดยเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษามีความเสี่ยงที่จะเข้าสู่วงจรอันตราย 3 เรื่อง คือ (1) แรงงานรายได้ต่ำ เสี่ยงอันตรายต่อชีวิตและสุขภาพ (2) ค้าประเวณีหรือถูกล่วงละเมิดทางเพศโดยเฉพาะเด็กผู้หญิง และ (3) ยุวอาชญากรที่ตกอยู่ในวังวนยาเสพติด และลักขโมย . แล้วเคยรู้หรือไม่ว่า ในภาคอีสานมีเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษามากแค่ไหน? . โดยในภาคอีสานมีเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษาอยู่มากกว่า 211,692 คน หรือคิดเป็นสัดส่วนอยู่ 20.64% ของเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษาทั้งหมดในประเทศ . และเมื่อนำสัดส่วนเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษามาเปรียบกับจำนวนเด็กและเยาวชนทั้งหมดในภาคอีสาน ก็พบว่า มีสัดส่วนอยู่ที่ 5.34% . จังหวัดที่มีสัดส่วนเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษามากที่สุด คือ จังหวัดหนองคาย มีสัดส่วนอยู่ที่ 7.40% ของจำนวนเด็กและเยาวชนทั้งหมดในจังหวัด . . อะไรคือสาเหตุที่ทำให้เด็กออกนอกระบบการศึกษา? . กสศ.ได้พัฒนางานวิจัยเชิงสํารวจเพื่อศึกษาข้อมูลของเด็กนอกระบบการศึกษาภายใต้ “โครงการการสนับสนุนและพัฒนากลไกการขับเคลื่อนครูและเด็กนอกระบบการศึกษา” ประกอบด้วยข้อมูลที่เก็บรวบรวมได้จากองค์กรเครือข่าย ทั้งสิ้น 67 องค์กร จากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม มีจำนวนเด็กนอกระบบการศึกษาที่ให้ข้อมูลความต้องการ 35,003 คน โดย 3 อันดับสาเหตุของการออกนอกระบบการศึกษาหลัก ได้แก่ ความยากจนมากที่สุด 46.70% รองลงมาคือ มีปัญหาครอบครัว 16.14% และออกกลางคัน/ถูกผลักออก 12.03% ตามลำดับ . เมื่อวิเคราะห์สาเหตุอื่นๆ ของการ “ออกกลางคัน” จากการตอบคำถามปลายเปิดจากจำนวนคำตอบทั้งสิ้น 5,270 คำตอบพบว่า เหตุผลที่ปรากฏบ่อย ได้แก่ ไม่อยากเรียน ต้องการทำงาน ตั้งครรภ์ในวัยเรียน มีครอบครัว ไม่มีสัญชาติไทย ไม่มีบัตรประชาชน พิการ ยาเสพติด เป็นต้น . . อ้างอิงจาก: – กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) – กรมการปกครอง ติดตาม ISAN Insight ทุกช่องทางได้ที่ https://linktr.ee/isan.insight #ISANInsight #อีสาน #ISAN #อีสานอินไซต์ #Business #Economy #ธุรกิจ #เศรษฐกิจ #ธุรกิจอีสาน #เศรษฐกิจอีสาน #เด็กออกนอกระบบการศึกษา #เด็กนอกระบบการศึกษา

พาสำรวจเบิ่ง “เด็กน้อยอีสาน” ตกหล่น จากการระบบศึกษามากแค่ไหน อ่านเพิ่มเติม »

ทำไม ‘บึงกาฬ’ จึงเป็นจังหวัดที่มี ‘ผลิตภาพภาคการเกษตร’ ที่สูงที่สุดในอีสาน?

ทำไม ‘บึงกาฬ’ จึงเป็นจังหวัดที่มี ‘ผลิตภาพภาคการเกษตร’ ที่สูงที่สุดในอีสาน   ‘ผลิตภาพของแรงvานเกษตร’ คือมูลค่าของผลผลิตทางการเกษตรที่เกิดจากแรงvานทางการเกษตร 1 หน่วย บ่งบอกถึง ความมีประสิทธิภาพในการผลิตของภาคการเกษตรซึ่งยิ่งมากยิ่งดี โดยจากแผนภูมิจะแสดงถึงผลิตภาพของครัวเรือนที่ทำเกษตร จำนวนครัวเรือนที่ทำการเกษตร และมูลค่าทางเศรษฐกิจจากภาคเกษตรใน GPP แบบลูกโซ่ของจังหวัดในภาคอีสาน โดยจังหวัดในภาคอีสานที่มีผลิตภาพภาคการเกษตรสูงที่สุด 3 ลำดับแรก ได้แก่   บึงกาฬ ครัวเรือนทำการเกษตร 63,183 ครัวเรือน มีผลิตภาพ 315,053 บาท/ครัวเรือน บุรีรัมย์ ครัวเรือนทำการเกษตร 222,283 ครัวเรือน มีผลิตภาพ 260,000 บาท/ครัวเรือน หนองคาย ครัวเรือนทำการเกษตร 59,388 ครัวเรือน มีผลิตภาพ 98,480 บาท/ครัวเรือน   จะเห็นได้ว่า บึงกาฬ จังหวัดน้องใหม่ของประเทศไทยที่ตั้งอยู่แถบภาคอีสานตอนบน มีผลิตภาพการเกษตรต่อครัวเรือนที่สูงโดดเด่นที่สุดในภาคอีสาน แม้ว่าจะมีจำนวนครัวเรือนทำการเกษตรจำนวนน้อยแต่กลับก่อให้เกิดมูลค่าภาคการเกษตรใน GPP ที่สูงเป็นอันดับ 3 ของภาค โดยมีมูลค่า 19,906 ล้านบาท ทำไมจึงเป็นเช่นนี้? มีปัจจัยอะไรที่ส่งเสริม? วันนี้ Isan Insight and Outlook สิพามาเจาะเบิ่ง   ปัจจัยที่ 1 : สัดส่วนภาคการเกษตรที่ใหญ่ จังหวัดบึงกาฬ เป็นจังหวัดที่เศรษฐกิจมีการพึ่งพิงภาคการเกษตรมากที่สุดในอีสาน โดยภาคการเกษตรมีสัดส่วนเป็น 34% ของ GPP จังหวัด มีพื้นที่ทำการเกษตร 1,614,458 ไร่ หรือ เกือบ 60% ของพื้นที่ทั้งหมดของจังหวัด นอกจากนั้นแรงvานสัดส่วน 74% ก็ทำงานอยู่ในภาคเกษตร    ปัจจัยที่ 2 : ‘ยางพารา’ พืชตัวแบกแห่งภาคเกษตร ยางพารา เป็นพืชเกษตรอันดับ 1 ของบึงกาฬ มีพื้นที่ปลูกกว่า 847,095 ไร่ มากเป็นอันดับที่ 1 ในภาคอีสาน มีปริมาณผลผลิตในปี 2565 รวม 21,977 ตัน คิดเป็น 15% ของปริมาณทั้งภาค ซึ่งในช่วงหลังๆ ราคายางได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นผลมาจากความต้องการในอุตสาหกรรมยางรถยนต์และผลิตภัณฑ์ยางพาราในตลาดโลกขยายตัว ส่งผลให้มูลค่าผลผลิตยางพาราในบึงกาฬขยายตัวแม้ว่าจะมีจำนวนเกษตรกรที่ไม่มาก จากปัจจัยด้านความได้เปรียบและโอกาสทางเศรษฐกิจนี้ ส่งผลให้ผลิตภาพภาคการเกษตรของบึงกาฬพุ่งสูงเป็นอันดับ 1   ปัจจัยที่ 2 : มีการพัฒนาจุดแข็งอย่างต่อเนื่อง สิ่งสำคัญที่ทำให้ภาคเกษตรโดยเฉพาะยางพาราในบึงกาฬบูมได้ขนาดนี้ เป็นผลมาจากการพัฒนาที่ไม่หยุดนิ่ง ไม่ว่าจะเป็นการใช้ ระบบส่งเสริมการเกษตร หรือ T&V System และมีการแปรรูปจากยางพาราก้อนเป็นผลิตภัณฑ์ยางพาราแบบแผ่นเพื่อเพิ่มมูลค่า

ทำไม ‘บึงกาฬ’ จึงเป็นจังหวัดที่มี ‘ผลิตภาพภาคการเกษตร’ ที่สูงที่สุดในอีสาน? อ่านเพิ่มเติม »

“คนเยอะ พื้นที่ใหญ่” เปิดศักยภาพ “3 จังหวัดอีสานใต้” ดันเศรษฐกิจสู้ Big 4

  อีสานใต้ ประกอบด้วย 5 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ซึ่งเพียง 4 จังหวัดนี้มีขนาดเศรษฐกิจรวมกันเป็น 43% ของมูลค่าเศรษฐกิจของทั้งภาคอีสาน โดยหากไม่นับรวมจังหวัด นครราชสีมา และ อุบลราชธานี ที่เป็นจังหวัดกลุ่ม Big 4 แห่งอีสานที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ก็ยังพบว่า อีก 3 จังหวัดที่เหลือก็มีขนาดเศรษฐกิจที่ไม่ธรรมดา โดยมี มีมูลค่าเศรษฐกิจจังหวัด(GPP) ดังต่อไปนี้    บุรีรัมย์ 104,961 ล้านบาท (อันดับที่ 5 ของภาค) สุรินทร์ 88,660 ล้านบาท (อันดับที่ 6 ของภาค) ศรีสะเกษ 80,437 ล้านบาท (อันดับที่ 8 ของภาค)   จะเห็นได้ว่ามูลค่าเศรษฐกิจของทั้ง 3 จังหวัดอีสานใต้นี้ตามหลังกลุ่ม Big 4 มาแบบติดๆ อย่างมีนัยยะสำคัญ โดยบทความนี้ ISAN Insight and Outlook สิพามาแกะเหตุผลที่ส่งผลให้จังหวัดในโซนนี้มีเศรษฐกิจที่ใหญ่และมาแรงกว่าโซนอื่นในภาคอีสาน   รากฐานสำคัญของเศรษฐกิจโซนอีสานใต้ คือ “ภูมิศาสตร์ที่ดี” ปัจจัยด้านภูมิศาสตร์ถือได้ว่าเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจ ขนาดและพิกัดพื้นที่แต่ละจังหวัดสะท้อนถึงประวัติศาสตร์ของพื้นที่นั้นๆที่ส่งผลมายังปัจจุบัน ซึ่งกลุ่มจังหวัดอีสานใต้ก็ถือได้ว่ามีภูมิศาสตร์ที่ดีซึ่งส่งผลการพัฒนาอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่อดีต ดังนี้ ขนาดพื้นที่ที่ใหญ่ จังหวัดกลุ่ม Big 4 มีพื้นที่จังหวัดเฉลี่ย 14,713.72 ตารางกิโลเมตร และขนาดพื้นที่ในจังหวัดในภาคอีสานเมื่อไม่รวม Big 4 มีขนาดเฉลี่ยประมาณ  6,875.01 ตารางกิโลเมตร ซึ่งจังหวัดในอีสานใต้มีขนาดพื้นที่ที่จัดได้ว่ามีกว้างขวางและเกินกว่าขนาดพื้นที่เฉลี่ยของจังหวัดในภาคเมื่อไม่รวม Big 4 โดย 3 จังหวัดอีสานอีสานใต้มีขนาดพื้นที่รวม  27,286.917 ตารางกิโลเมตร ดังนี้   บุรีรัมย์ 10,322.885 ตารางกิโลเมตร (อันดับที่ 17 ของประเทศ) ศรีสะเกษ 8,839.976 ตารางกิโลเมตร (อันดับที่ 21 ของประเทศ) สุรินทร์ 8,124.056  ตารางกิโลเมตร (อันดับที่ 24 ของประเทศ) ซึ่งการมีขนาดพื้นที่ใหญ่จะเป็นข้อได้เปรียบด้านการมีพื้นที่ใช้สอยและทรัพยากรที่มาก ทั้งเพื่อการเกษตรและนอกภาคเกษตร เช่น ธุรกิจหรือโรงงาน โดยจะเห็นได้ว่าจังหวัดกลุ่ม Big 4 แห่งอีสานก็มีขนาดพื้นที่ของแต่ละจังหวัดที่ใหญ่เช่นเดียวกัน นอกจากนั้นทั้ง 3 จังหวัดอีสานใต้ยังมีพื้นที่ชายแดนติดกับกัมพูชา ซึ่งเป็นผลดีในด้านค้าและอุปสงค์จากชาวต่างชาติ   จำนวนประชากรมาก ปัจจัยด้านจำนวนประชากรก็เป็นสิ่งสำคัญต่อเศรษฐกิจ เนื่องจากจำนวนประชากรเป็นทั้งอุปสงค์และอุปทานในระบบเศรษฐกิจ โดยจะพบได้ว่าค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ระหว่างจำนวนประชากรและมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวม

“คนเยอะ พื้นที่ใหญ่” เปิดศักยภาพ “3 จังหวัดอีสานใต้” ดันเศรษฐกิจสู้ Big 4 อ่านเพิ่มเติม »

“เฉียงเหนือเฟส 3” กับ 3 เวทียิ่งใหญ่ บขส.ขอนแก่น ชวนมาซิ่งกันมั๊ยหล้าให้ม่วนสมการรอคอย

ศิลปินที่มาปีนี้ครั้งแรกสิในงานนี้ ต่อให้อุกกาบาตชน ไดโน่ต้องได้ดู GMM SHOW ตอกย้ำความยิ่งใหญ่ “เฉียงเหนือเฟส 3” ชวนมาซิ่งกันมั๊ยหล้าให้ม่วนสมการรอคอย กับเทศกาลดนตรีที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ! เตรียมรับมือกับความสนุกทุกตารางเมตร พร้อมไปมันไปม่วนให้ทะลุขีดสุดทุกโมเมนต์ กับเทศกาลดนตรีที่ใหญ่ที่สุดและม่วนที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ Chang Music Connection Presents “เฉียงเหนือเฟส 3” งานที่เป็นความภูมิใจของชาวอีสาน ปีนี้ยกระดับความม่วนจัดเป็นครั้งที่ 3 พร้อมเดินหน้าเป็น “MUSIC DESTINATION OF E-SAN” ที่จะพาทุกคนเข้าสู่จุดหมายปลายทางทางดนตรีของภาคอีสานที่ทุกคนต้องมาม่วนกันที่งานนี้ การันตีคุณภาพจากทีมผู้จัดโดยผู้จัดทีม ALL AREA ภายใต้หน่วยงาน GMM SHOW ทีมที่มากประสบการณ์จัดงานมิวสิคเฟสติวัลใหญ่ของทุกภาค ปีนี้รวมตัววัยรุ่นสุดซิ่งครั้งใหญ่ ชวนเพื่อนเก่าไปม่วนซิ่งไป และเฮจอยกับเพื่อนใหม่ 1 วัน 26 ศิลปิน 3 เวที จัดเต็มยกทัพศิลปินเบอร์ท็อป และศิลปินสายเลือดอีสานที่การันตีความฮิต มาครบจากทุกแนวดนตรีมาไว้ในที่เดียว นำโดย TAITOSMITH / THREE MAN DOWN / PALMY / BODYSLAM / BIG ASS/ JEFF SATUR / POTATO / JOEY PHUWASIT / THE TOYS / ONLY MONDAY / POLYCAT / MANUTSAWEE / SAFEPLANET / VIOLETTE WAUTIER / 4EVE / LOMOSONIC / THE PARKINSON / RÉJIZZ / ALEC ORACHI / PUN / MIRRR / YENTED / FELLOW FELLOW / PURPEECH / TELEVISION OFF และปีนี้เพิ่มเติมความสนุกชวนมาร่วมสัมผัสประสบการณ์รีมิกซ์อีสานสมัยใหม่ ที่โคตรมัน กับ EDM หรือ “E-SAN DANCE MUSIC” จาก DJ.FARMER ROCKET ดีเจสไตล์รำซิ่งขนานแท้ ที่จะมากระตุกทุก DNA ความม่วนให้สุด ในงานพบกับ3เวทีที่ห้ามพลาด!เวทีเหนือ เวทีซิกเนเจอร์ที่ใหญ่ที่สุดของงาน โดยในปีนี้จะมาในรูปโฉมใหม่ที่อลังการขึ้น ให้สมกับเวทีที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จัดเต็มด้วยสเปเชี่ยลเอฟเฟคที่จัดหนัก จัดเต็มกว่าปีก่อนๆ เวทีมิตรภาพ

“เฉียงเหนือเฟส 3” กับ 3 เวทียิ่งใหญ่ บขส.ขอนแก่น ชวนมาซิ่งกันมั๊ยหล้าให้ม่วนสมการรอคอย อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง✈“สนามบิน” ไกลจาก “ตัวเมือง” ปานได๋🛬

พามาเบิ่ง“สนามบิน” ไกลจาก “ตัวเมือง” ปานได๋ . . การเดินทางไปต่างจังหวัดนั้นมีหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการขับรถยนต์ส่วนตัว นั่งรถบัส หรือแม้กระทั่งโดยสารรถไฟ แต่สำหรับการเดินทางข้ามจังหวัดในระยะทางที่ไกล การใช้เวลาเดินทางก็นับเป็นสิ่งสำคัญ การเดินทางด้วยเครื่องบินจึงกลายเป็นทางเลือกที่ช่วยประหยัดเวลาและสะดวกสบายสำหรับหลายๆ คน . ในภาคอีสานของเรา มีสนามบินกระจายอยู่หลายแห่ง แม้ว่าจะไม่ได้มีทุกจังหวัด แต่ก็ถือว่าครอบคลุมเป็นอย่างดี เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางสะดวกและรวดเร็ว แล้วเคยสงสัยกันไหมว่าสนามบินแต่ละแห่งในอีสานนี้ อยู่ห่างจากตัวเมืองมากน้อยแค่ไหน? วันนี้เรารวบรวมข้อมูลระยะทางจากตัวเมืองถึงสนามบินในภาคอีสานมาให้ได้รู้กันค่ะ . 1.สนามบินอุบลราชธานี ตั้งอยู่ที่ ต.ในเมือง อ.เมือง ห่างจากตัวเมืองเพียง 2.5 กิโลเมตร 2.สนามบินเลย ตั้งอยู่ที่ ต.นาอาน อ.เมือง ห่างจากตัวเมือง 5.4 กิโลเมตร 3.สนามบินอุดรธานี ตั้งอยู่ที่ ต.หมากแข้ง อ.เมือง ห่างจากตัวเมือง 5.6 กิโลเมตร 4.สนามบินขอนแก่น ตั้งอยู่ที่ ต.บ้านเป็ด อ.เมือง ห่างจากตัวเมือง 9 กิโลเมตร 5.สนามบินสกลนคร ตั้งอยู่ที่ ต.ธาตุนาเวง อ.เมือง ห่างจากตัวเมือง 11.5 กิโลเมตร 6.สนามบินนครพนม ตั้งอยู่ที่ ต.นาทราย อ.เมืองนครพนม ห่างจากตัวเมือง 17.8 กิโลเมตร 7.สนามบินร้อยเอ็ด ตั้งอยู่ที่ ต.หนองพอก อ.ธวัชบุรี ห่างจากตัวเมือง 18.1 กิโลเมตร 8.สนามบินบุรีรัมย์ ตั้งอยู่ที่ ต.ร่อนทอง อ.สตึก ห่างจากตัวเมือง 32.3 กิโลเมตร . ทุกท่านเคยไปใช้สนามบินที่ไหนกันบ้างคะ คอมเมนต์มาแชร์ประสบการณ์การเดินทางขากสนามบินเข้าไปในตัวเมืองกันหน่อยค่ะ . ที่มา: กรมท่าอากาศยาน, Google Maps หมายเหตุ: 1.ระยะทาง ใช้ศาลหลักเมืองเป็นจุดอ้างอิงในการวัด เนื่องจากศาลหลักเมืองสามารถเป็นจุดอ้างอิงของตัวเมืองของแต่ละจังหวัดได้ . ติดตาม ISAN Insight & Outlook ทุกช่องทางได้ที่ https://linktr.ee/isan.insight #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ISAN #อีสานอินไซต์ #Business #Economy #ธุรกิจ #เศรษฐกิจ #ธุรกิจอีสาน #เศรษฐกิจอีสาน #สนามบิน #สนามบินในอีสาน #สนามบินอีสาน #ท่าอากาศยาน

พามาเบิ่ง✈“สนามบิน” ไกลจาก “ตัวเมือง” ปานได๋🛬 อ่านเพิ่มเติม »

โอ้กะจู๋ บุกอีสาน สลัด 1000 ล้าน ทำอย่างไร? จากแปลงผัก สู่บริษัทมหาชน ถอดบทเรียนธุรกิจ ฟรี!! 22 พ.ย.67 ณ โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น

โอ้กะจู๋ บุกอีสาน สลัด 1000 ล้าน จากแปลงผัก สู่บริษัทมหาชน . หากพูดถึงร้านอาหารออร์แกนิกในเวลา คงไม่มีใครไม่รู้จักร้าน “โอ้กะจู๋” ธุรกิจที่เริ่มจากแปลงผักหลังบ้าน ที่ปัจจุบันก้าวเข้าสู่บริษัทยอดขายกว่า 1000 ล้าน และเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว . ISAN Insight and Outlookสิพามาเบิ่ง เส้นทางธุรกิจ จากแปลงผัก สู่บริษัทมหาชน และ อะไรทำให้ “โอ้กะจู๋” เลือก ‘ขอนแก่น’ เป็นสาขาแรกในการบุกอีสาน . มาฮู้จัก “โอ้กะจู๋” เริ่มจากปลูกผักสวนครัวทั่วไป และผักสลัดบางชนิด บนพื้นที่ปลูกที่มีไม่มากนัก โรงเรือนขนาด 180 ตารางเมตร ซึ่งผลผลิตที่ได้ก็นำไปประกอบอาหารรับประทานในครอบครัว ด้วยเหตุผลที่ว่า “อยากให้คนในครอบครัวมีสุขภาพดี ทานผักที่ไร้สารพิษและสารเคมีตกค้าง” จึงเป็นที่มาของสโลแกน “ปลูกผักเพราะรักแม่” เพราะแม่เปรียบเสมือนตัวแทนความรักของครอบครัว ส่วนชื่อของแบรนด์ “โอ้กะจู๋” ก็มาจากการผวน “อู๋” กับ “โจ้” นั่นเอง . สำหรับบริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ดำเนินกิจการร้านอาหารเพื่อสุขภาพภายใต้แบรนด์ “โอ้กะจู๋” ปัจจุบันได้ระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์เพื่อลงทุนการขยายสาขาแบรนด์ “โอ้กะจู๋“, ขยายแบรนด์ร้านอาหารใหม่ๆ , พัฒนาแฟลตฟอร์มรองรับการขาย และขยายฟาร์มเพื่อให้เพียงพอกับการเติบโต . ณ ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ เดือนมีนาคม ปี 2567) โอ้กะจู๋ มีทั้งหมด 34 สาขา โดยอยู่ภายใต้บริษัทจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพประเภทต่างๆ เช่น สลัด สเต๊ก ซุป สปาเกตตี อาหารจานเดียว ขนมหวาน น้ำผักผลไม้ เบเกอรี่ ขนมขบเคี้ยว เป็นต้น . รวมถึงนำผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์โอ้กะจู๋ เช่น ผัก ผลไม้สด แซนวิช แร็พ ได้มีการนำไปวางขายยังช่องทางต่างๆ รวมถึงการให้บริการจัดเลี้ยง โดยธุรกิจบริการและจำหน่ายของบริษัทฯ สามารถแบ่งรูปแบบและช่องทางการจำหน่ายได้เป็น 4 ช่องทางหลัก ได้แก่ 1.Full-service Restaurant 2.Delivery and Kiosk 3.Cafe Amazon และ 4.Supermarket ด้วยผลผลิตจากสวน 5 แห่งในจังหวัดเชียงใหม่ พื้นที่รวมประมาณ 380 ไร่ . หากดูในแง่ของผลประกอบการจะพบว่า ปี 64 บริษัทมีรายได้ 803 ล้านบาท ปี 65 บริษัทมีรายได้ 1,215

โอ้กะจู๋ บุกอีสาน สลัด 1000 ล้าน ทำอย่างไร? จากแปลงผัก สู่บริษัทมหาชน ถอดบทเรียนธุรกิจ ฟรี!! 22 พ.ย.67 ณ โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น อ่านเพิ่มเติม »

พาสำรวจเบิ่ง “ราคาที่ดินต่ำสุด-สูงสุด” แต่จังหวัดในภาคอีสาน

พาสำรวจเบิ่ง “ราคาที่ดินต่ำสุด-สูงสุด” แต่จังหวัดในภาคอีสาน . . ราคาที่ดินที่แพงสุดส่วนใหญ่ราคาที่ดินในอำเภอเมืองมักจะสูงกว่าพื้นที่อื่นๆ เนื่องจากเป็นศูนย์กลางของการคมนาคมขนส่ง มีถนนหนทางที่เชื่อมต่อกับพื้นที่อื่นๆ ได้สะดวก มีระบบสาธารณูปโภคที่ครบครัน (ไฟฟ้า น้ำประปา โทรคมนาคม) ทำให้มีประชากรที่อาศัยอยู่ในเมืองจำนวนมากขึ้น ความต้องการด้านที่อยู่อาศัยก็เพิ่มขึ้น ยิ่งในปัจจุบันคนต้องการมีพื้นที่ส่วนตัวและต้องการมีครอบครัวเดี่ยวด้วยแล้ว ราคาที่ดินจึงลดลงได้ยาก เมื่อ Demand กับ Supply มาเจอกัน ราคาที่ดินย่อมดีดตัวสูงขึ้น เนื่องจากทรัพยากรมีจำกัด . สังคมเมืองมีการขยายตัว มีห้างสรรพสินค้า รถไฟฟ้า และการขนส่งสาธารณะที่สะดวกสบาย ราคาที่ดินในละแวกนั้นย่อมสูงขึ้นตามไปด้วย ยิ่งใกล้สถานที่ที่เป็นทำเลทองมากเท่าไร แปลว่าคนที่อาศัยอยู่บนที่ดินนั้นจะสะดวกสบายในการใช้ชีวิตมากขึ้น ดังนั้น ที่ดินบริเวณนั้นจึงแพงและมิอาจประเมินราคาที่ดินได้ โดยส่วนมากคนที่ซื้อต่อจึงเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ . ในขณะที่ดินที่ถูกสุดส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่ห่างจากตัวเมือง เนื่องจากความสะดวกในการเดินทางและสิ่งอำนวยความสะดวกอาจจะยังไม่ครบครัน อีกหนึ่งสาเหตุที่สำคัญนั้นก็คือ ที่ดินที่มีข้อจำกัด เช่น ที่ดินติดลำธาร ที่ดินลาดชัน หรือที่ดินที่มีปัญหาเรื่องเอกสารสิทธิ์ จะมีราคาถูกกว่าที่ดินที่มีสภาพดี . . อ้างอิงจาก: – DDproperty – Bangkok CitiSmart – กรมธนารักษ์   ติดตาม ISAN Insight & Outlook ทุกช่องทางได้ที่ https://linktr.ee/isan.insight   #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ISAN #อีสานอินไซต์ #Business #Economy #ธุรกิจ #เศรษฐกิจ #ธุรกิจอีสาน #เศรษฐกิจอีสาน #ราคาที่ดิน #ราคาประเมินที่ดิน

พาสำรวจเบิ่ง “ราคาที่ดินต่ำสุด-สูงสุด” แต่จังหวัดในภาคอีสาน อ่านเพิ่มเติม »

พาส่องเบิ่่ง จังหวัดไหนในอีสาน มีก๊าซโอโซน มากที่สุด

“ฮู้บ่ว่า?โอโซนในอีสานมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี ส่งผลต่อสุขภาพเรามากกว่าที่คิด จากปัญหาระบบทางเดินหายใจสู่โรคร้ายแรง . โอโซน เป็นก๊าซชนิดหนึ่งที่สามารถพบได้ทั้งในชั้นบรรยากาศและใกล้พื้นผิวโลก แต่โอโซนที่ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพคือโอโซนใกล้พื้นดิน (Ground-level ozone) ซึ่งเกิดจากปฏิกิริยาเคมีระหว่างสารมลพิษที่ปล่อยออกจากยานพาหนะ โรงงานอุตสาหกรรม และแหล่งเผาไหม้อื่น ๆ กับแสงแดด โอโซนใกล้พื้นดินมีผลกระทบต่อสุขภาพอย่างมาก โดยเฉพาะในภาคอีสานของประเทศไทยที่พบว่าปริมาณโอโซนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี . ภาคอีสานเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากมลพิษทางอากาศทั้งจากการขนส่งทางบกและการเผาไหม้ในพื้นที่เกษตรกรรม เมื่อโอโซนสะสมมากขึ้นในบรรยากาศ มันสามารถส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจโดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคปอดหรือโรคหัวใจอยู่แล้ว การสัมผัสกับโอโซนในระดับสูงเป็นเวลานานสามารถทำให้เกิดอาการระคายเคืองในระบบทางเดินหายใจ อาการหายใจถี่ แน่นหน้าอก หรืออาการไออย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ โอโซนยังสามารถทำให้การทำงานของปอดลดลงและทำให้เกิดโรคปอดเรื้อรัง เช่น โรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง และหืด . เมื่อดูปริมาณก๊าซโอโซนในรายจังหวัดจะพบว่าจังหวัด มุกดาหารที่มีค่าก๊าซโอโซนมากที่สุด มีเพียง 42 PPB ที่เทียบเป็นรายปี ซึ่งถือได้ว่ามีค่าไม่ได้สูงมากนัก ตามมาตราฐานที่ประเทศไทยกำหนดที่อยู่ในระดับอันตรายนั้นจะต้องมีค่าใกล้กับ 70 PPB เทียบรายเฉลี่ย8ชั่วโมง . โดยสามารถตรวจสอบค่าก๊าซและฝุ่นละออง ด้วยตัวเองได้ทาง ลิงก์เว็บไซต์ Click . ที่มา สำนักงานสถิติแห่งชาติ . ติดตาม ISAN Insight & Outlook ทุกช่องทางได้ที่ #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ISAN #อีสานอินไซต์ #Business #Economy #ธุรกิจ #เศรษฐกิจ #ธุรกิจอีสาน #เศรษฐกิจอีสาน #แวดล้อมอีสาน

พาส่องเบิ่่ง จังหวัดไหนในอีสาน มีก๊าซโอโซน มากที่สุด อ่านเพิ่มเติม »

ผู้ประกอบการ นักธุรกิจห้ามพลาด ตลาดหลักทรัพย์จัดใหญ่ Unlocking Opportunities for Business Growth – เปิดโอกาสให้ธุรกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือคิดการใหญ่

อีเวนต์สำหรับผู้ประกอบการและนักธุรกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่คิดการใหญ่ ! Unlock Your Business Growth : เปิดโอกาสให้ธุรกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือคิดการใหญ่   ตลาดหลักทรัพย์ฯ สัญจร จังหวัดขอนแก่น งานสัมมนาสุดพิเศษสำหรับผู้ประกอบการและนักธุรกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET-mai-LiVEx) สัมมนาสุด Exclusive ที่จะช่วยสร้างโอกาสให้กับนักธุรกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้าถึงแหล่งเงินทุนผ่านตลาดทุน (SET-mai-LiVEx) พบกับผู้เชี่ยวชาญจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) และ CEO นักธุรกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ผ่านประสบการณ์ IPO มาแล้ว พิเศษสุดๆ !! Clinic ให้คำปรึกษาจากเจ้าหน้าที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ และทุนสนับสนุนการเตรียมพร้อมธุรกิจ เพื่อการเติบโตสำหรับนักธุรกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท  Unlocking Opportunities for Business Growth – เปิดโอกาสให้ธุรกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือคิดการใหญ่ ตลาดหลักทรัพย์ฯ สัญจร จังหวัดขอนแก่น งานสัมมนาสุดพิเศษสำหรับผู้ประกอบการและนักธุรกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET-mai-LiVEx) และองค์กรพันธมิตรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นำโดย หอการค้าจังหวัดขอนแก่น สภาอุตสาหกรรมจังหวัดขอนแก่น มหาวิทยาลัยขอนแก่น และ บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด พบกับวิทยากรและผู้เชี่ยวชาญตัวจริงที่จะมาแชร์เส้นทางการระดมทุนผ่านตลาดทุน และประสบการณ์ insight ที่ผู้ประกอบการห้ามพลาด พิเศษภายในงาน ! กับบริการ Clinic ให้คำปรึกษาทางธุรกิจจากเจ้าหน้าที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ และผู้เชี่ยวชาญ พร้อมโอกาสรับทุนสนับสนุนการเตรียมความพร้อมธุรกิจเพื่อการเติบโต มูลค่ารวมกว่า 10 ล้านบาท พบกันวันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน 2567 เวลา 13.00 – 18.00 น ณ ห้อง Orchid Ballroom 1 ชั้น 2 โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชา ออคิด จังหวัดขอนแก่น ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม และลงทะเบียนเข้าร่วมงานได้ที่ https://set-event-registration.setgroup.or.th/…/unlocki… ร่วมงานฟรี ! ไม่มีค่าใช้จ่าย วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน 2567 เวลา 13.00 – 18.00 น.  ณ ห้อง Orchid Ballroom 1 ชั้น 2 โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชา ออคิด จังหวัดขอนแก่น   กำหนดการ 13.00 น.    ลงทะเบียน 13.30 น.    กล่าวต้อนรับ

ผู้ประกอบการ นักธุรกิจห้ามพลาด ตลาดหลักทรัพย์จัดใหญ่ Unlocking Opportunities for Business Growth – เปิดโอกาสให้ธุรกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือคิดการใหญ่ อ่านเพิ่มเติม »

ภูเวียงพบฟอสซิล”ไดโนเสาร์ตัวใหม่” ลุ้นขึ้นทะเบียนสายพันธุ์ใหม่ของโลก! และ ไดโนเสาร์สายพันธุ์ที่ 14 ของไทย

ปัจจุบัน ไทย มีสายพันธุ์ไดโนเสาร์ที่ถูกค้นพบเฉพาะในไทยมากถึง 13 สายพันธุ์ ลุ้นสายพันธุ์ใหม่ที่เพิ่งขุดเจอ ไดโนเสาร์ไทย 13 สายพันธุ์ 1) ภูเวียงโกซอรัส สิรินธรเน (Phuwiangosaurus sirindhornae) 2) สยามโมซอรัส สุธีธรนิ (Siamosaurus suteethorni) 3) สยามโมไทรันนัส อีสานเอนซิส (Siamotyrannus isanensis) 4) ซิตตะโกซอรัส สัตยารักษ์กิ (Psittacosaurus sattayaraki) 5) อีสานโนซอรัส อรรถวิภัชน์ชิ (Isanosaurus attavipachi) 6) กินรีมิมัส ขอนแก่นเอนซิส (Kinnareemimus khomkaenensis) 7) สยามโมดอน นิ่มงามมิ (Siamodon nimngami) 8 ราชสีมาซอรัส สุรนารีเอ (Ratchasimasaurus suranareae) 9) สิรินธรนา โคราชเอนซิส (Sirindhorna khoratensis) 10) ภูเวียงเวเนเตอร์ แย้มนิยมมิ (Phuwiangvenator yaemniyomi) 11) วายุแรปเตอร์ หนองบัวลำภูเอนซิส (Vayuraptor nongbualamphuensis) 12) สยามแรปเตอร์ สุวัจน์ติ (Siamraptor suwati) 13) มินิโมเคอร์เซอร์ ภูน้อยเอนซิส (Minimocursor phunoiensis)   หัวข้อที่น่าสนใจ 🕰️ เริ่มขุดค้นฟอสซิลใหม่หลังหยุดไป 30 ปี 🦴 พบชิ้นส่วนกระดูกใหญ่กว่าภูเวียงโกซอรัส สิรินธรเน่ 🌍 คาดว่าเป็นไดโนเสาร์สายพันธุ์ใหม่ที่ยังไม่เคยพบ  🔬 ทีมนักวิจัยเร่งค้นคว้าในหลุมขุดที่ 3 💪 โครงกระดูกน้ำหนักเบาแต่แข็งแรง ทีมนักวิจัยเร่งขุดฟอสซิลไดโนเสาร์สายพันธุ์ใหม่ตัวที่ 6 ของภูเวียง ซึ่งทราบชัดเจนเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา อาจจะเป็นสายพันธุ์ใหม่ของโลกด้วย เพราะมีความแตกต่างหลายอย่างจากที่มีการค้นพบทั่วโลก ตัวใหญ่กว่า ภูเวียงโกซอรัส สิรินธรเน่ กระดูกใหญ่กว่าถึง 2 เท่า ความยาวไม่น้อยกว่า 20 เมตร  (Video) เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 30 ต.ค.2567 ที่อาคารคลุมหลุมขุดที่ 3 ตั้งอยู่บริเวณห้วยประตูตีหมา อุทยานแห่งชาติภูเวียง อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น ดร.วราวุธ สุธีธรผู้เชี่ยวชาญด้านการขุดฟอสซิล และเป็นคนแรกของประเทศไทยที่เริ่มต้นขุดฟอสซิล พร้อมด้วย นายสุธรรม วงษ์จันทร์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูเวียง และทีมนักวิจัยเรื่องฟอสซิลไดโนเสาร์ เร่งขุดหาฟอสซิลไดโนเสาร์ชิ้นส่วนต่างๆหลังพบว่าเป็นไดโนเสาร์สายพันธุ์ใหม่ของภูเวียงตัวที่ 6 และลุ้นที่จะพบเป็นไดโนเสาร์สายพันธุ์ใหม่ของโลกด้วย โดยการขุดฟอสซิลไดโนเสาร์ในหลุมขุดที่ 3 นี้มีการเริ่มต้นขุดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมาหลังจากหยุดขุดไป 30 ปี หลังจากขุดพบและคาดว่าจะเป็นกลุ่มเดียวกับภูเวียงโกซอรัส สิรินธรเน่ ที่เคยขุดพบตัวแรกของภูเวียงและเป็นไดโนเสาร์ในคำขวัญประจำจังหวัดขอนแก่นด้วย ซึ่งความคืบหน้าในการขุดฟอสซิลไดโนเสาร์นั้น พบชิ้นส่วนกระดูกสันหลังส่วนกลางตัว กระดูกสันหลังส่วนคอ กระดูกซี่โครง ฟัน แต่ยังไม่พบชิ้นส่วนขาหน้าและขาหลัง คาดว่าจะอยู่ลงลึกไปอีก แต่ด้วยอุปสรรคเป็นหินที่แข็งจึงต้องใช้ความพยายามและความอดทนในการขุดอย่างต่อเนื่อง และหลุมขุดที่ 3 นี้ อยู่ห่างจากจุดที่นักสำรวจเเร่ ยูเรเนี่ยม เข้ามาเจอกระดูกไดโนเสาร์ชิ้นแรกของประเทศไทยในปี พ.ศ.2519 ไม่ถึง 200 เมตร ดร.วราวุธ สุธีธร อายุ 76 ปี ผู้เชี่ยวชาญด้านการขุดฟอสซิล ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ไดโนเสาร์ตัวที่อยู่ในหลุมขุดที่ 3 นี้ เราทราบชัดเจนว่าเป็นไดโนเสาร์ซอโรพอด จำพวกกินพืช โดยคาดว่าจะเป็นกลุ่ม ภูเวียงโกซอรัส สิรินธรเน่ ที่เคยขุดพบ จึงได้หยุดขุดไป 30 ปี กระทั่งช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ดร.สุรเวช สุธีธร ซึ่งเป็นลูกชายและมีความสนใจเช่นเดียวกัน ได้ไปศึกษาเรียนจบกลับมา และพอมาดูรายละเอียดกระดูกบางชิ้นพบว่ามีความต่างจากภูเวียงโกซอรัส สิรินธรเน่ เราจึงได้เริ่มโปรเจคอีกครั้ง โดยได้งบประมาณจากกองทุนซากดึกดำบรรพ์มาเริ่มต้นขุดในช่วงต้นปีที่ผ่านมา หลังจากหยุดขุดไป 30 ปี โดยมีนักวิจัยผู้เชี่ยวชาญหลายคนมาช่วยกันขุด แต่อุปสรรคเนื่องจากสภาพหินแข็งมาก แต่ก็ยังพอที่จะขุดลงลึกไปได้จนขณะนี้พบกระดูกหลายๆชิ้นโผล่ขึ้นมามีความสมบูรณ์มากขึ้น ซึ่งจากที่ปีแรกเราสงสัยว่าตัวนี้ไม่น่าจะใช่ภูเวียงโกซอรัส สิรินธรเน่ เนื่องจากกระดูกหลายๆชิ้นที่ขุดพบนั้นมีความแตกต่างกันอย่างมาก กระทั่งเป็นคนละกลุ่มกับสายพันธุ์ภูเวียงโกซอรัส สิรินธรเน่ และมีความใกล้เคียงกับกลุ่มอื่นๆ และก็มีส่วนคล้ายกับแบรคิโอซอรัส ซึ่งเป็นไดโนเสาร์ที่มีขนาดใหญ่และรูปร่างต่างจากภูเวียงโกซอรัส สิรินธรเน่อย่างมาก โดยกระดูกที่ค้นพบนั้นจะมีลักษณะเด่นเฉพาะหลายๆอย่าง ทั้งขนาดที่ใหญ่กว่าถึง 2 เท่า ลักษณะกระดูกซึ่งมีขนาดใหญ่มีการลดน้ำหนักต่างจากภูเวียงโกซอรัส สิรินธรเน่คือ จะมีโพรงในกระดูกสูงมาก เพื่อที่จะทำให้กระดูกมีน้ำหนักเบาและแข็งแรง ในการจะเป็นกระดูกขนาดใหญ่และน้ำหนักไม่มากเกินไป และก็เจอจากกระดูกหลายชิ้นที่ขุดพบ ณ ขณะนี้ จึงมั่นใจว่าจะเป็นไดโนเสาร์ที่ขุดพบสายพันธุ์ใหม่ตัวที่ 6 ของภูเวียง และจากชิ้นส่วนหลายๆชิ้นที่เราพบนั้นก็จะนำไปศึกษารายละเอียดเปรียบเทียบในกลุ่มแบรคิโอซอรัสว่าจะอยู่ตรงไหนในกลุ่มเดียวกัน และมีความแตกต่างมากน้อยแค่ไหน ซึ่งเราก็จะสามารถสรุปได้ว่าเป็นตระกูลใหม่ หรือชนิดใหม่ของโลกด้วยหรือไม่ ตอนนี้ความเป็นไปได้สูงที่ไดโนเสาร์ตัวนี้จะเป็นสายพันธุ์ใหม่และเป็นกลุ่มใหม่ของโลกด้วย แต่จะต้องมีการศึกษารายละเอียดที่มีการค้นพบอยู่แล้วในโลกนี้ ซึ่งรายละเอียดแตกต่างมากน้อยแค่ไหน หากมีความแตกต่างมากก็จะเป็นสายพันธุ์ใหม่ของโลกได้ ตอนนี้ที่เราขุดพบนั้น มองเห็นเกินครึ่งของแต่ละชิ้นแล้ว และมีโอกาสที่จะเพียงพอในการศึกษา แต่เราก็ยังอยากได้ในหลายๆส่วนที่สำคัญเช่นหัวกะโหลก ตอนนี้เราได้ฟันของตัวนี้มาแล้วหลายชิ้น ซึ่งมีนัยยะสำคัญอย่างมาก ซึ่งที่เรามีอยู่นี้ก็มากพอสมควร ซึ่งตอนนี้เราพบชิ้นส่วนกระดูกสันหลังส่วนกลางตัว กระดูกสันหลังส่วนคอ กระดูกซี่โครงที่มีขนาดใหญ่มาก โดยเราเปรียบเทียบกับชิ้นส่วนที่เราเคยขุดพบมาแล้วจะใหญ่มากกว่า 2 เท่า ซึ่งยืนยันแล้วว่าต่างจากที่เราพบมาแล้วทั้งหมด และมีลักษณะโครงสร้างที่มีโพรงในกระดูกแตกต่างกันชัดเจน ส่วนความยาวของตัวไม่น้อยกว่า 20 เมตร จากขนาดของกระดูก ขาหน้าสูงใหญ่ต่างจากภูเวียงโกซอรัส สิรินธรเน่อย่างมาก ตอนนี้เรายังไม่เจอกระดูกขาหน้าขาหลังถ้ามีพวกนี้ประกอบก็จะทำให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ด้าน นายสุธรรม วงษ์จันทร์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูเวียง ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า ตั้งเเต่การพบฟอสซิลชิ้นเเรกในปีพ.ศ. 2519 มาจนถึงปัจจุบัน เทือกเขาภูเวียงมีการค้นพบไดโนเสาร์สายพันธุ์ใหม่ของโลกถึง 5 ชนิด และในหลุมขุดที่ 3 นี้รอลุ้นว่าจะเป็นสายพันธุ์ใหม่ตัวที่ 6 ของโลกด้วยหรือไม่ โดยฟอสซิลไดโนเสาร์ที่ทีมนักวิจัยขุดพบทั้งหมดถูกนำมาจัดเเสดงอยู่ที่ ศูนย์ศึกษาวิจัยเเละพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ ภายใต้การดูเเลของกรมทรัพยากรธรณี ซึ่งการขุดค้นเเละศึกษาวิจัย ยังดำเนินต่อไป ภายใต้ความร่วมมือจากหลายฝ่าย ทั้งจากกรมทรัพยากรธรณี กรมอุทยานฯ สถาบันการศึกษา รวมทั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนเเก่น ที่ร่วมกับภาคีเครือข่าย พยายามผลักดันให้พื้นที่อุทยานธรณีขอนเเก่น หรือ “ขอนเเก่น จีโอพาร์ค” ได้ขึ้นทะเบียนเป็นอุทยานธรณีโลก โดยการรับรองจากองค์การยูเนสโก ซึ่งรอการประกาศในอีกไม่กี่เดือนที่จะถึงนี้ ซึ่งจะสอดรับกับฟอสซิลที่ขุดพบพอดี และในทุกๆวันจะมีนักท่องเที่ยวมาชมการขุดฟอสซิลศึกษาเส้นทางธรรมชาติทุกวัน โดยเฉพาะในช่วงไฮซีซั่นนี้ก็ขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวมาศึกษาชมธรรมชาติได้ที่อุทยานแห่งชาติภูเวียง ซึ่งจะมีลานกางเต็นท์และจุดชมวิวที่ผาชมตะวันรวมทั้งมีน้ำตกให้เล่นอีกด้วย ปัจจุบัน อุทยานแห่งชาติภูเวียง ขอนแก่น มีซากฟอสซิล ไดโนเสาร์ “ 5 ตัว 5 สายพันธุ์” ได้แก่ 1. ภูเวียงโกซอรัส สิรินธรเน (น้องโย่ง) 2. สยามโมซอรัส สุธีธรนิ

ภูเวียงพบฟอสซิล”ไดโนเสาร์ตัวใหม่” ลุ้นขึ้นทะเบียนสายพันธุ์ใหม่ของโลก! และ ไดโนเสาร์สายพันธุ์ที่ 14 ของไทย อ่านเพิ่มเติม »

Scroll to Top