อำนาจเจริญ ความท้าทายที่ต้องก้าวข้าม จังหวัดที่มูลค่าเศรษฐกิจน้อยที่สุดในอีสาน

อำนาจเจริญ อีกหนึ่งจังหวัดที่มีความท้าทายที่ต้องก้าวผ่านนั่นคือ ความเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีสัดส่วนคนจนมากที่สุดในภาคอีสาน

.

 

ถ้าเราพูดถึงเศรษฐกิจ ย่อมมีทั้งภาวะเศรษฐกิจที่ดี และไม่ดีแตกต่างกันไปในแต่พื้นที่ ที่ผ่านมาเพจ อีสาน อินไซต์ ของเพวกเราได้นำเสนอข้อมูลด้านเศรษฐกิจในแต่ละจังหวัดซึ่งมีสัดส่วนตั้งแต่ดีมากไปจนถึงแย่ที่สุดและนี่เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีสัดส่วนคนจนที่สูงมากเลยทีเดียว

.

 

วันนี้อีสาน อินไซต์ สิพามาเบิ่ง สถานการณ์เศรษฐกิจและข้อมูลต่างๆของจังหวัด อำนาจเจริญ

.

 

1.ข้อมูลพื้นฐาน

จังหวัดอำนาจเจริญ มีขนาดพื้นที่ ประมาณ 3,161 ตารางกิโลเมตร และมีประชากร 374,372 คน ถือว่ามีประชากรน้อยสุดลำดับที่ 19 ในภาคอีสาน มีประชากรมากกว่ามุกดาหารเท่านั้น โดยในปี 2564 จังหวัดอำนาจเจริญมีขนาดเศรษฐกิจของจังหวัด อยู่ที่ 21,693 ล้านบาท และรายได้ต่อหัวของจังหวัดอยู่ที่ 77,048 บาท

.

 

.

 

2.สถานที่ท่องเที่ยว

ในจังหวัดอำนาจเจริญจะมีการผสมผสานระหว่างธรรมชาติกับธรรมะที่การสมผสานกันอย่างลงตัว อย่างพระมงคลมิ่งเมืองและพุทธอุทยานนั้น จะเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย องค์พระหน้าตักกว้าง 11 เมตร ความสูงจากระดับพื้นดินถึงยอดเปลวรัศมีกว่า 20 เมตร โดยเป็น พระมงคลมิ่งเมือง จะเป็นพระพุทธรูปที่ได้รับอิทธิพลจากศิลปะแบบอินเดีย ที่เข้ามายังภาคอีสาน เมื่อพันปีก่อนนั่นเอง และบรรจุพระสารีริกธาตุ ที่ได้รับมาจากประเทศอินเดียไว้ที่องค์พระด้วย ใครที่ได้มากราบไหว้ขอพรนั้น ก็เลยเหมือนได้ไปกราบไหว้พระสารีริกธาตุที่ประเทศอินเดียนั่นเอง และอีกที่นึง นั่นคือน้ำตกตาดใหญ่ เป็นสถานที่ทางธรรมชาติอีกจุดของจังหวัดอำนาจเจริญตั้งอยู่ใน ตำบลโคกก่ง อำเภอชานุมาน โดยสายน้ำแห่งนี้เกิดขึ้นมาจากลำห้วยทม ไหลผ่านพลาญหินทรายลงไป มีขนาดกว้างกว่า 30 เมตร และสูงเกือบ 2-3 เมตรเลยทีเดียว ที่สำคัญยังมีน้ำไหลกันตลอดทั้งปีอีกด้วย แต่น้ำจะเยอะมากในหน้าฝน และสวยที่สุดช่วงปลายฝนต้นหนาว

 

.

 

3.โครงสร้างเศรษฐกิจและธุรกิจ SME

ในปี 2565 จังหวัดอำนาจเจริญมีขนาดเศรษฐกิจของจังหวัด 

(GPP) อยู่ที่ 21,693 ล้านบาท ด้วยตัวเลขนี้ทำให้อำนาจเจริญอยู่อันดับสุดท้ายของภูมิภาค แต่มีรายได้ต่อหัว (GPP Per Capita) อยู่ที่ 81,556 บาท อยู่ในลำดับที่ 13 ของภูมิภาค

โดยจังหวัดอำนาจเจริญมีโครงสร้างเศรษฐกิจดังนี้

 

  1. ภาคการบริการ คิดเป็น 49% โดยธุรกิจ SME ที่มากที่สุด คือ การบริการด้านอาหารในภัตตาคาร/ร้านอาหาร อยู่ที่ 1,240 ราย
  2. ภาคการเกษตร คิดเป็น 28% โดยธุรกิจ SME ที่มากที่สุด คือ การเลี้ยงโคนมและโคเนื้อ อยู่ที่ 259 ราย
  3. ภาคการผลิต คิดเป็น 12% โดยธุรกิจ SME ที่มากที่สุด คือ การผลิตผลิตภัณฑ์ที่ทำจากฟางและวัสดุถักสาน อยู่ที่ 669 ราย
  4. ภาคการค้า คิดเป็น 12% โดยธุรกิจ SME ที่มากที่สุด คือ ร้านขายของชำ อยู่ที่ 2,415 รายตัวอย่างสินค้าของจังหวัด ได้แก่ เสื่อกก และผ้าขิดลายตะขอสลับเอื้อ

.

.

 

การเกษตรที่เป็นส่วนสำคัญของจังหวัดอำนาจเจริญ โดยที่ประชากรส่วนใหญ่มีการประกอบอาชีพเกษตรกร โดยพื้นที่ทำการเกษตรทั้งสิ้นอยู่ที่ 1,348,515 ไร่ คิดเป็น 68% ของพื้นที่ทั้งหมด

โดยมีการปลูกข้าวหอมมะลิ 105 มากที่สุดในจังหวัด โดยพื้นที่ปลูกข้าวประมาณ 1,071,578 ไร่

หรือ อยู่ที่ 54.24% ของพื้นที่ในการทำการเกษตรทั้งหมดโดยพื้นที่ที่เหลือจะมีการปลูกพืช เศรษฐกิจ และ พืชตามฤดูกาล

.

ด้านธุรกิจ

จังหวัดอำนาจเจริญมีบริษัทใหญ่อยู่ 3 บริษัท

  1. เอี่ยมอำนาจ แป้งมัน ประกอบธุรกิจโรงงานผลิตแป้งมันสำปะหลัง โดยในปี 2565 มีรายได้รวม 1,667 ล้านบาท

 .

  1. อีซูซุตังปักอำนาจเจริญ ประกอบธุรกิจจำหน่ายรถยนต์และอะไหล่ โดยในปี 2565 มีรายได้รวม 1,317 ล้านบาท

.

  1. โตโยต้าอำนาจเจริญ ประกอบธุรกิจโจำหน่ายรถยนต์และอะไหล่ โดยในปี 2565 มีรายได้รวม 793 ล้านบาท

 

.

4.โครงสร้างหนี้ รายได้ และ ค่าใช้จ่ายครัวเรือน ของประชากรในจังหวัด

ด้วยความที่ไม่ได้เป็นจังหวัดที่ใหญ่เท่ากับหลายๆ จังหวัดภายในภูมิภาคและกิจกรรมทางเศรษฐกิจภายในจังหวัดและการท่องเที่ยวก็ยังถือว่าด้อยกว่าหลายๆจังหวัดในภูมิภาคโดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจที่มูลค่า GRP ของจังหวัดเป็นอันดับที่ 20 หรืออันดับที่ต่ำที่สุดของภูมิภาคนั่นเองแต่รายได้ต่อหัวของคนในจังหวัดอำนาจเจริญ อยู่ที่ 81,556 บาท อยู่อันดับที่ 13 ของภูมิภาค ซึ่งยังถือว่าดีที่รายได้ต่อหัวไม่ได้อยู่ต่ำที่สุดแต่ก็ไม่ได้ดีถึงขนาดที่จะทำให้หลุดออกจากจังหวัดที่จนที่สุด

ถ้าเราลองวิเคราะห์ลงไปอีกเราะเห็นว่าในปีที่ผ่านมาจังหวัดอำนาจเจริญมีหนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้นสูงถึง 151% หรือ 337,610 บาท ขึ้นสู่อันดับ 1 ของจังหวัดที่มีหนี้ครัวเรือนสูงที่สุด แต่ยังดีที่สัดส่วนคนจนของจังหวัดไม่ได้มากเท่ากับจังหวัดอื่นๆ ดังนั้นเรามาลองดูกันว่าอะไรที่ทำให้เศรษฐกิจเติบโตได้ต่ำกว่าที่ควร

.

เหตุผลแรกเลยคือจังหวัดอำนาจเจริญเพิ่งถูกก่อตั้งในวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2536 ตัวจังหวัดของอำนาจเจริญได้มีการแยกตัวออกมาจากอุบลราชธานี โดยเมื่อเทียบกับจังหวัดใกล้เคียงนั้นถือว่าเป็นจังหวัดที่มีอายุน้อย และ ไม่ได้มีพื่นที่เยอะมากขนาดนั้นเมื่อเทียบกับจังหวัดใกล้เคียงและการท่องเที่ยวของจังหวัดยังไม่ได้ดีมากเท่ากับจังหวัดรอบข้างและอีกอย่างเลย จังหวัดอำนาจเจริญไม่ใช่จังหวัดที่เป็น ทางผ่าน หรือกล่าวได้ว่าเป็นจังหวัดที่ไม่ได้มีเส้นทางการค้ามาแต่เดิมด้วยเหตุนี้มันทำให้จังหวัดอำนาจเจริญขาดโอกาสในการลงทุนทางภาครัฐและการคมนาคมอีกเหตุผลสำคัญ คือความไม่สมดุลของรายได้ภาคการเกษตร พื้นที่ที่ใช้ในการทำการเกษตรในจังหวัดอำนาจเจริญคิดเป็น 68.25% ของพื้นที่ทั้งหมดในจังหวัดถูกใช้เพื่อทำการเกษตร

อย่างไรก็ตามมูลค่าของการเกษตรถูกคิดเป็นเพียง 28% ของขนาดเศรษฐกิจรองจากภาคการบริการและภาคการผลิต แสดงให้เห็นว่าการทำการเกษตรของอำนาจเจริญอาจจะขาดความคุ้มค่าโดยพืชเกษตรที่ปลูกส่วนใหญ่คือ ข้าว และ มันสัมปะหลังซึ่งเป็นพืชล้มลุกที่ราคาต่ำกว่าพืชเกษตรชนิดอื่น เช่น ยางพารา จากการที่ประชากรส่วนใหญ่ของจังหวัดประกอบอาชีพเกษตรกรรม ส่งผลทำให้รายได้ต่อหัวของคนต่ำและหนี้ครัวเรือนที่สูง ส่งผลโดยตรงทำให้อุปสงค์และการบริโภคต่ำ และก็ส่งผลทางอ้อมต่อการเข้ามาลงทุนในจังหวัดที่น้อยจากทั้งภาครัฐและเอกชน  แม้จังหวัดอำนาจเจริญจะมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าไปเยี่ยมเยือนและมีความโดดเด่นในด้านธรรมชาติ และ ธรรมมะ อย่างไรก็ตามจากสถิติผู้เยี่ยมเยือน ปี 2567 เดือน ม.ค.-ต.ค. จังหวัดอำนาจเจริญเป็นจังหวัดที่มีผู้เยี่ยมเยือนน้อยที่สุดในภูมิภาค เป็นอันดับที่ 20 ของภาคอีสาน  คิดเป็นรายได้เพียงประมาณ 35 ล้านบาทเท่านั้นเองโดยปัจจัยที่ทำให้การท่องเที่ยวของจังหวัดไม่เป็นที่นิยมอาจจะมาจากการที่แหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดอื่นโดยรอบ เช่น อุบลราชธานี ร้อยเอ็ด ที่โดดเด่นมากกว่า ทำให้คนเลือกที่จะไปมากกว่า อำนาจเจริญ นอกจากนั้นอำนาจเจริญยังขาดความเป็น “หมุดหมายของการเดินทาง” ของผู้คน ผนวกกับที่จังหวัดไม่ได้เป็นทางผ่านอยู่แล้ว จึงส่งผลให้อัตราการเยี่ยมเยือนต่ำ ซึ่งการที่การท่องเที่ยวของอำนาจเจริญที่ไม่เป็นที่นิยมย่อมส่งผลต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยตรง โดยเฉพาะราย.ได้ภาคการค้าและบริการ ทำให้ภาคการค้าและบริการต้องพึ่งพาอุปสงค์ภายในจังหวัด ที่ไม่ได้สูงมากอยู่แล้ว

 

.

.

.

 

5.แม้อำนาจเจริญ จะมีความท้าทายที่ต้องก้าวข้าม แต่อำนาจเจริญ ก็ยังมีโอกาสจะหลุดออกจากกับดักความจนและหนี้สูง

โดย ISAN Insight and Outlook สรุปข้อเสนอแนะ ไว้ดังนี้

ด้วยในยุคปัจจุบันนั้นมีทางเลือกในการพัฒนาของจังหวัดหลายแบบแต่ด้วยความที่โลกเปลี่ยนไปตามยุคสมัยมาเรื่อยๆทำให้มีปัจจัยหลายๆปัจจัยที่เพิ่มเข้ามาในการพัฒนาเศรษฐกิจของจังหวัดโดยการพัฒนาในยุคปัจจุบันนั้นต้องคำนึงถึง สิ่งแวดล้อม ด้วย ในด้านการท่องเที่ยวเราอาจจะหาทางให้จังหวัดอำนาจเจริญเป็นจังหวัดที่มีหมุดหมายในการเดินทาง ใช้จุดแข็งการท่องเที่ยวเชิงธรรมะ และธรรมชาติให้เกิดประโยชน์สูงสุด และ สนับสนุนประเพณีภายในจังหวัดให้มีความ แตกต่าง จากจังหวัดอื่นๆ ในภูมิภาค ซึ่งอาจจะต้องอาศัยวิสัยทัศน์ของทางภาครัฐและการร่วมมือของภาคเอกชน เพื่อเพิ่มศักยภาพในการพัฒนาจังหวัด 

 

.

 

ถึงกระนั้นแล้วการลงทุนจากภาครัฐที่ให้ความสำคัญแก่จังหวัดอื่นๆ มากกว่า ก็ยังเป็นเรื่องที่ท้าทายการพัฒนาจังหวัด อำนาจเจริญ ต่อไป.

 

อ้างอิงจาก:

  • สำนักงานสถิติแห่งชาติ
  • สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
  • สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
  • กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
  • กรมโรงงานอุตสาหกรรม

Leave a Comment

Your email address will not be published.

Scroll to Top