SHARP ADMIN

รายชื่อและเส้นทาง 51 นักกีฬาไทย ตะลุยศึก โอลิมปิก เกมส์ 2024

รายชื่อและเส้นทาง 51 นักกีฬาไทย ตะลุยศึก โอลิมปิก เกมส์ 2024 26 มิถุนายน 2567 เดินทางเข้าสู่ทางตรง 100 ม. สุดท้ายของการคัดเลือก โอลิมปิก “ปารีส 2024” ที่ประเทศฝรั่งเศส กันแล้ว ในส่วนของนักกีฬาไทยเวลานี้ผ่านการคัดเลือกแล้วทั้งหมด 51 โควตา มีการประกาศรายชื่อใครบ้างและเส้นทางกว่าจะได้โควตาของแต่ละคนเป็นอย่างไรติดตามพร้อมกันได้ที่นี่     ธันยพร พฤกษากร (ยิงปืน : ปืนสั้นระยะ 25 ม. หญิง) โอลิมปิก 5 สมัย : 2008, 2012, 2016, 2020 และ 2024 ธันยพร เป็นนักกีฬาไทยคนแรกที่คว้าได้สิทธิ์เข้าร่วมโอลิมปิก 2024 โดยตั๋วใบนี้ได้มาจากการคว้าอันดับ 5 ในศึกยิงปืนชิงแชมป์โลก ที่เมืองบากู ประเทศอาเซอร์ไบจาน เมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2023 เดิมทีในอีเวนต์ปืนสั้นระยะ 25 ม. หญิง ที่เธอลงแข่ง มีตั๋วโอลิมปิกมอบให้แค่นักกีฬา 3 อันดับแรก แต่เนื่องจากอันดับ 1-4 ซึ่งประกอบด้วย เยอรมนี, ยูเครน, ลัตเวีย และอิหร่าน นั้นต่างก็ได้โควตาโอลิมปิกกันไปก่อนหน้านี้แล้ว สิทธิ์จึงขยับมาเป็นของ ธันยพร     กมลลักษณ์ แสนชา : ยิงปืน ปืนสั้นอัดลมหญิง ระยะ 10 เมตร โอลิมปิก 1 สมัย : 2024 นักแม่นปืนสาววัย 16 ปี สร้างเซอร์ไพร์คว้าตั๋วโอลิมปิกเกมส์ 2024 ได้เป็นคนที่ 3 ของนักกีฬายิงปืน โดยผ่านการคัดเลือกจากรายการสุดท้าย รายการ ISSF Final Olympic Qualify Championship 2024 ที่ประเทศบราซิล เมื่อกลางเดือนเมษายนที่ผานมา ในประเภทปืนสั้นอัดลมหญิง ระยะ 10 เมตร มีโควตาโอลิมปิกแค่ 2 ที่นั่งมอบให้แชมป์กับรองแชมป์เท่านั้น แต่ทว่า กมลลักษณ์ กลับทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ผ่านเข้ามาถึงรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งในรอบนี้ต้องยิงคนละ 24 นัด ซึ่ง กมลลักษณ์  ยิงทำคะแนนรวมได้ 240.5 คะแนน คว้าเหรียญเงินมาครองคว้าพร้อมสิทธิ์เข้าร่วมโอลิมปิก 2024 ที่ประเทศฝรั่งเศส     ทองผาภูมิ วงศ์สุขดี (ยิงปืน : …

รายชื่อและเส้นทาง 51 นักกีฬาไทย ตะลุยศึก โอลิมปิก เกมส์ 2024 อ่านเพิ่มเติม »

Soft Power แบบไทยๆ แข็งก่อน ค่อยอ่อนไหม?

🇹🇭🌏Soft Power แบบไทยๆ แข็งก่อน ค่อยอ่อนไหม? 📃โดย นรชิต จิรสัทธรรม คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย . ผมเข้าใจว่ากระแส #softpower ในประเทศไทยได้ถูกปลุกขึ้นเมื่อสัก 2 ปีก่อน โดยนักร้องมิลลิได้โชว์กินข้าวเหนียวมะม่วงในงานแสดงคอนเสิร์ตจนกลายเป็นไวรัลไปทั่ว จนปัจจุบันคำว่า “soft power” กลายเป็นคำฮิต ติดเทรนด์ การผลักดัน soft power เป็นหนึ่งในนโยบายที่รัฐบาลแสดงความตั้งใจถึงกับตั้งคณะกรรมการแห่งชาติเพื่อขับเคลื่อนด้านนี้โดยเฉพาะ ด้วยความเชื่อที่ว่าการเผยแพร่คุณค่าแบบไทยให้รู้จักในสากล จะช่วยสร้างภาพลักษณ์เชิงบวกและความน่าดึงดูดใจให้แก่ประเทศ จนสุดท้ายการผลักดัน soft power ให้กระจายไปทั่วโลกจะเป็นเครื่องจักรช่วยให้ประเทศหลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลาง หลายองค์กรทั้งภาครัฐ เอกชน และสถาบันการศึกษาต่างตอบรับนโยบายนี้ มีการจัดอีเว้นท์ภายใต้ชื่อ soft power มากมาย ซึ่งแรงจูงใจในการร่วมขบวนนโยบายนี้คงมีหลากหลาย บางคนอาจร่วมด้วยความชอบพอทางการเมืองหรือมีผลประโยชน์ได้เกาะเกี่ยวกับผู้มีอำนาจกันไป บางคนอาจร่วมด้วยเพราะได้ประโยชน์ทางเศรษฐกิจบางอย่าง บางคนก็ร่วมด้วยความจำเป็นเพราะถูกบังคับให้ทำ บางคนอาจร่วมด้วยอย่างน้ำใสใจจริงเพราะเชื่ออย่างใจจริงว่า soft power มีความจำเป็นจริงๆในการขับเคลื่อนประเทศ ภาพ MILLI ศิลปินหญิงเดี่ยวไทยรายแรกบนเวที เทศกาลโคเชลลา กับการกิน ‘ข้าวเหนียวมะม่วง’ แซะรัฐบาล . ใครจะร่วมแบบไหน ด้วยแรงจูงใจอย่างไรผมคงไม่พูดถึงเพราะยากที่จะหยั่งถึงใจคน แต่ประเด็นที่อยากชวนให้คิดในวันนี้คือ ท่ามกลางกระแส #softpower ที่เอ่อล้นไปทางเดียว ราวกับว่าทุกๆคนเห็นดีเห็นงามกับมันไปด้วยนี้ พวกเราได้ลืมฉุกคิดถึงอะไรบางอย่างไปหรือไม่ ข้อเขียนตรงนี้จึงเหมือนเป็นการรวบรวมข้อสังเกตบางประการที่ผมได้เฝ้ามองความเป็นไปของ soft power มาจนถึงตอนนี้ . 📌ประเด็นแรก soft power ตามความหมายตั้งต้นที่น่าจะทราบทั่วกันคือ “ความสามารถสร้างอิทธิพลต่อผู้อื่นและทำให้ได้รับผลลัพธ์ที่ต้องการ ด้วยการดึงดูดและจูงใจ ไม่ใช่ด้วยกำลังบังคับหรือใช้เงินซื้อ” ดังนั้นปฏิบัติการ soft power จึงต้องตั้งอยู่บินการใช้ “อำนาจยินยอม” (consent power) และหนึ่งในอำนาจยินยอมก็คือการชักจูงด้วยวัฒนธรรม อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เข้าใจผิดและพบเห็นมากคือ เรามักพูดถึง “สินค้าวัฒนธรรม” ราวกับว่ามันเป็น soft power ในตัวเอง ซึ่งไม่จริง สินค้าวัฒนธรรมอาจเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการ soft power ได้ แต่ตัวมันเองไม่ได้เป็น soft power เสมอไป บางสินค้าทางวัฒนธรรมที่ฮิตก็อาจจะมีความ exotic บางอย่างทำให้คนตื่นตา แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะสร้างพลัง soft power ได้ ภาพ : ลำดับขั้นสู่การผลักดันจากสินค้าในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ สู่การเป็น Soft Power . 📌ประเด็นที่สอง คณะทำงานของรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการอ้าง Joseph Nye เรื่ององค์ประกอบที่จำเป็น และความหมายที่เปลี่ยนแปลงและเติบโตได้ของ soft power (จำได้ว่าคุณแพรทองธารก็เคยพูดถึง) ตรงนี้ไม่ผิด แต่สิ่งที่ Nye เน้นตลอดคือ soft power มันไม่ใช่ …

Soft Power แบบไทยๆ แข็งก่อน ค่อยอ่อนไหม? อ่านเพิ่มเติม »

สกลนคร เมือง 3 ธรรมแห่งอีสาน พร้อมพัฒนาสู่ Smart City

⛰สกลนคร เมือง 3 ธรรมแห่งอีสาน พร้อมพัฒนาสู่ Smart City . . เมื่อพูดถึงจังหวัดในภาคอีสาน หลายคนอาจคิดถึงวัดวาอารามหรือวัฒนธรรมประเพณีที่เราคุ้นเคยกันดี แต่สําหรับที่ “สกลนคร” นั้นต่างออกไป เพราะเมืองรองแห่งนี้เต็มไปด้วยความหลากหลาย ทั้งด้านธรรมะ วัฒนธรรม และธรรมชาติ จึงได้ขึ้นชื่อว่าเป็น “เมือง 3 ธรรม” ของภาคอีสาน . 👱‍♂️โดยสกลนครมีทรัพยากรและภูมิปัญญาที่น่าสนใจ จากการที่เป็นดินแดนของ 6 ชนเผ่า 2 ชนชาติ ซึ่งร่วมสร้างวัฒนธรรมและเอกลักษณ์ของเมือง ทำให้มีวิถีชีวิตที่ผสานหลายวัฒนธรรมอย่างลงตัว และสร้างความดึงดูดใจแก่นักท่องเที่ยวหลากหลายกลุ่ม และปัจจุบันสกลนครมีความพร้อมที่จะยกระดับเป็น Smart City อีกจังหวัดหนึ่งในภาคอีสานอีกด้วย . สกลนคร มีทรัพยากรและภูมิปัญญาที่น่าสนใจอย่างไร และมีความพร้อมที่จะเป็น Smart City ในด้านใดบ้าง ? อีสานอินไซต์ จะพามาเบิ่ง . 📌สกลนคร ตั้งอยู่ทางตอนบนของภาคอีสาน โดยห่างจากกรุงเทพมหานครประมาณ 647 กิโลเมตรทางรถยนต์ ห่างจากสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2 จังหวัดมุกดาหาร ประมาณ 120 กิโลเมตร และสะพานมิตรภาพ ไทย – ลาวแห่งที่ 3 จังหวัดนครพนม ประมาณ 90 กิโลเมตร ซึ่งเป็นเขตแดนระหว่างไทยกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว . โดยสกลนครมีขนาดพื้นที่ 9,606 ตารางกิโลเมตร จำนวนประชากร 1.1 ล้านคน และมีขนาดเศรษฐกิจอยู่ที่ 70,457 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในระดับกลางๆของภาคอีสาน ดังนั้นทางสกลนครจึงได้มีการจัดทำเส้นทางการท่องเที่ยว เพื่อดึงดูดให้นักท่องเที่ยวให้เข้ามาในพื้นที่มากขึ้น โดยสกลนครได้สร้างเส้นทางท่องเที่ยวที่มีชื่อว่า “สกลนคร เมือง 3 ธรรม” ซึ่งมาจากคำว่า ธรรมะ ธรรมชาติ และวัฒนธรรม . โดยสกลนคร มีบูรพาจารย์ที่เป็นอริยสงฆ์ ซึ่งได้รับความเลื่อมใส รวมทั้งการมีสถานที่สำคัญทางศาสนา จึงมีประชาชนทั่วไปมาเที่ยวชมอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นจึงได้ชื่อว่าเป็น “เมืองแห่งธรรมะ” และจากการที่มีเทือกเขาภูพานอันเป็นที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติ 3 แห่ง และมีทะเลสาบหนองหาร ที่เป็นแหล่งน้ำจืดที่กว้างใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศไทย มีขนาดพื้นที่ 123 ตารางกิโลเมตร ประกอบด้วยเกาะต่างๆ กว่า 20 เกาะ จึงทำให้ได้ชื่อว่าเป็น “เมืองแห่งธรรมชาติ” อีกทั้งสกลนครเป็นเมืองที่มีชนเผ่าพื้นเมืองจำนวน 6 เผ่า ได้แก่ เผ่าภูไท ญ้อ ไทโส้ ไทกะเลิง ไทโย้ย ไทลาวอิสาน และ 2 เชื้อชาติ คือ …

สกลนคร เมือง 3 ธรรมแห่งอีสาน พร้อมพัฒนาสู่ Smart City อ่านเพิ่มเติม »

ททท. จัดงาน Vijitr วิจิตร 5 ภาค @อุบลราชธานี จัดเต็มปรากฎการณ์แสง สี ศิลป์ รวม 15 จุดการแสดงใน 7 พื้นที่ประวัติศาสตร์ของจังหวัดอุบลราชธานี

ททท. จัดงาน Vijitr วิจิตร 5 ภาค @อุบลราชธานี จัดเต็มปรากฎการณ์แสง สี ศิลป์ รวม 15 จุดการแสดงใน 7 พื้นที่ประวัติศาสตร์ของจังหวัดอุบลราชธานี กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในการจัดการดำเนินงานของ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดทำโครงการ VIJITR 5 ภาค ในทุกภูมิภาคของประเทศไทย กับงาน VIJITR 5 ภาค @อุบลราชธานี “แสงศิลป์แห่งศรัทธา” ในวันที่ 13-21 กรกฎาคม 2567 ณ จังหวัดอุบลราชธานี จัดเต็มปรากฎการณ์แสง สี ศิลป์ รวม 15 จุดการแสดงใน 7 พื้นที่ประวัติศาสตร์ของจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งจังหวัดอุบลราชธานี เป็นพื้นที่แรกของการจัดงาน ถือเป็นกิจกรรมโครงการตามแนวนโยบายของรัฐบาลที่จะช่วยสร้างการรับรู้พื้นที่อัตลักษณ์ของจังหวัดอุบลราชธานีได้อย่างชัดเจน แล้วยังมีการผสมผสานวัฒนธรรมอย่างสร้างสรรค์ก่อให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ในยามค่ำคืน ทำให้เกิดการขยายเวลาการท่องเที่ยวในช่วงกลางคืนได้เป็นอย่างดี ภาพบรรยากาศพิธีเปิดงาน “VIJITR 5 ภาค @อุบลราชธานี” แสงศิลป์แห่งศรัทธา ณ วันที่ 13 กรกฎาคม 2567 งานแสดง แสง สี เสียง สุดยิ่งใหญ่ ในจังอุบลราชธานี #ที่ไม่ควรพลาด เชิญชวนนักท่องเที่ยวทุกท่านมาชมและสัมผัสกับความสวยงาม ของสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของจังหวัดอุบลราชธานี ผ่านการแสดงเทคนิคแสง สี เสียงในรูปแบบสมัยใหม่ ทั้ง Light Up, Projection Mapping, การแสดงศิลปวัฒนธรรมที่สะท้อนความงดงามของวิถีชีวิต ภูมิปัญญาและประเพณีท้องถิ่น ใน 7 พิกัด 15 จุดการแสดง คือ ทุ่งศรีเมือง 6 จุด 1.ประเพณีแห่งศรัทธา 2.แสงเรืองรองส่องศรัทธา 3.แสงศิลป์ยุคสมัย 4.สถาปัตยศิลป์ 5.วันวานที่สานศิลป์ 6.เปลวเทียนส่องศิลป์ ศาลหลักเมือง 1 จุด 7.แสงศิลป์ ศิวิไล พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอุบลราชธานี 4 จุด 8.แสงสี ศิลป์ ราชธานี 9.รากเหง้าศรัทธาศิลป์ 10.ศรัทธาที่ผลิบาน 11.เจริญศิลป์เรืองรอง วัดสุปัฏนารามวรวิหาร 1 จุด 12.สุปัฏตยศิลป์ วัดทุ่งศรีเมือง หอไตรกลางน้ำ 1 จุด 13.แสงศิลป์ยอดพระไตร วัดบูรพาราม 1 จุด 14.แสงศิลป์บัวพ้นน้ำ วัดมหาวนาราม 1 จุด 15.สวรรค์แสงศิลป์ #เข้าชมฟรี 13 – 21 …

ททท. จัดงาน Vijitr วิจิตร 5 ภาค @อุบลราชธานี จัดเต็มปรากฎการณ์แสง สี ศิลป์ รวม 15 จุดการแสดงใน 7 พื้นที่ประวัติศาสตร์ของจังหวัดอุบลราชธานี อ่านเพิ่มเติม »

แห่เทียน 67 อุบลจัดใหญ่ “คัมโฮม อุบล 2024” โซนกิจกรรมพื้นที่สร้างสรรค์ ฟังลำ เสพศิลป์ กินข้าว

  🎈มื้อสันวันดี 18 – 22 กรกฎาคม ปีนี้ เฮามีนัดกันที่หน้า รร 9 ชั้นเด้ออ กับ… กิจกรรม “คัมโฮม อุบล 2024” วันที่ 18,19,22 เริ่มตั้งแต่เวลา 15.00-22.00 น. และวันที่ 20,21 (วันแห่เทียน)เริ่มตั้งแต่เวลา 08.00-22.00 น. แผนผังโซนกิจกรรม 🌟ไฮไลท์เด็ด🌟 ✅Street Food ✅Street Art ✅Music Show ✅WorkShop 🕺🏻💃🏻 มาม่วนนำกัน เมือมาบ้าน มาโฮมกัน มานั่งเล่น ฟังลำ เฮามีอาหาร เครื่องดื่ม มีแนวเฮ็ดตะฮักๆ ไว้คอยต้อนรับพี่ๆน้องๆทุกคน แล้วพ้อกันที่งาน “คัมโฮม อุบล” เด้อค่าา 💖 เพจ:ComeHomeUbon ปล.ไผมาบ่ถืก โลเคชั่นตามนี้เลยนะคะ 🔻 📍โลเคชั่น รร 9 ชั้นค่าาา (อุบลโฮเต็ล) #comehomeubon #งานประเพณีแห่เทียนพรรษา2567 #คัมโฮมอุบล #CandleFestival2024 #เมืองเก่าอุบล #หอการค้าจังหวัดอุบลราชธานี #YECUBON #แห่เทียนอุบล

20 ส.ค.นี้ รฟท.เปิดประมูลทางคู่เฟส 2 สายแรก”ขอนแก่น-หนองคาย”2.87 หมื่นล้าน ลุยโยธาติดตั้งระบบ 3 ปี เปิดบริการปี 70

ใกล้แล้ว! รฟท.เปิดประมูลก่อสร้างรถไฟทางคู่เฟส 2 สายแรก ช่วงขอนแก่น-หนองคาย 167 กม. ราคากลาง 28,719.94 ล้านบาท กำหนดยื่นซองขายซอง 20 ส.ค.67 คาดเซ็นสัญญาปลายปี 67 ลุยก่อสร้าง 3 ปี เปิดบริการปี 70 รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า วันนี้ (21 มิ.ย.67) นายจเร รุ่งฐานีย รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย รักษาการในตำแหน่ง ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ลงนามออกประกาศประกวดราคาจ้างก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงขอนแก่น-หนองคาย ด้วยวิธีประกวดราคา.อิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ราคากลาง 28,719.94 ล้านบาท โดยกำหนดยื่นข้อเสนอ วันที่ 20 สิงหาคม 2567 เวลา 09.00-12.00 น. และคาดว่าจะสรุปได้ตัวผู้รับจ้างภายในเดือนตุลาคม 2567 ลงนามสัญญาปลายปี 2567 เริ่มก่อสร้างต้นปี 2568 ระยะเวลาก่อสร้าง 36 เดือน แล้วเสร็จเปิดบริการ ปลายปี 2570โดยโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงขอนแก่น-หนองคาย ระยะทาง 167 กม. โดยเป็นการก่อสร้างทางรถไฟเพิ่มอีก 1 ทางขนานไปกับทางรถไฟเดิม และปรับแนวเส้นทางใหม่บางส่วน พร้อมติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณและระบบโทรคมนาคมตลอดสายทาง กำหนดระยะเวลาส่งมอบ 1,080 วัน นับถัดจากวันที่ รฟท.แจ้งให้เริ่มงาน สำหรับ TOR กำหนดคุณสมบัติของผู้ยื่นข้อเสนอ ต้องมีผลงานก่อสร้างประเภทเดียวกันกับงานที่ประกวดราคาจ้างก่อสร้างทางรถไฟในวงเงินไม่น้อยกว่า 4,313.85 ล้านบาท และต้องเป็นงานที่เป็นคู่สัญญากับหน่วยงานรัฐโดยตรง หรือหน่วยงานเอกชนที่ รฟท.เชื่อถือกรณีเป็นนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยซึ่งได้จดทะเบียนเกินกว่า 1 ปีกำหนดให้มีมูลค่าสุทธิของกิจการจากผลต่างระหว่างสินทรัพย์สุทธิหักด้วยหนี้สินสุทธิที่ที่ปรากฎในงบแสดงฐานะทางการเงิน ซึ่งต้องมีค่าเป็นบวก 1 ปีสุดท้ายก่อนยื่นข้อเสนอ กรณีผู้ยื่นข้อเสนอเป็นนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย ซึ่งยังไม่มีการรายงานงบแสดงฐานะการเงินกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ให้พิจารณาการกำหนดมูลค่าของทุนจดทะเบียน โดยผู้ยื่นข้อเสนอจะต้องมีทุนจดทะเบียนที่เรียกชำระมูลค่าหุ้นแล้ว ณ วันที่ยื่นข้อเสนอ ไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท เป็นต้น กรณีผู้ยื่นข้อเสนอที่เป็นนิติบุคคลรายเดียว ต้องเป็นนิติบุคคลไทยที่จดทะเบียนตามกฎหมายไทยต้องมีผลงานก่อสร้างทางรถไฟ(ก) ที่มีมูลค่าก่อสร้างในสัญญาเดียว ไม่น้อยกว่า 4,313.85 ล้านบาท ซึ่งได้รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว กรณีผู้ยื่นข้อเสนอที่เป็นกิจการร่วมค้า ต้องมีนิติบุคคลไทยที่จดทะเบียนตามกฎหมายไทยป็นผู้เข้าร่วมค้าหลัก (Lead Firm) โดยสมาชิกทุกรายที่รวมตัวกันเป็นกิจการร่วมค้านั้นต้องเป็นนิติบุคคล และต้องมีสัดส่วนนิติบุคคลไทยรายเดียวหรือมากกว่าหนึ่งรายรวมกันในการร่วมค้ามากกว่าร้อยละ 50 โดยผู้เข้าร่วมค้าหลัก (Lead Firm) จะต้องมีสัดส่วนการร่วมค้ามากที่สุดและสัดส่วนนี้จะต้องไม่เปลี่ยนแปลงตลอดระยะเวลาโครงการ ซึ่งในวันยื่นเอกสารประกวดราคา จะต้องยื่นเอกสารข้อตกลงสำหรับการร่วมกันเป็นกิจการร่วมค้า โดยต้องมีผลงานก่อสร้างทางรถไฟ(ก) ที่มีมูลค่าก่อสร้างในสัญญาเดียว ไม่น้อยกว่า4,313.85 ล้านบาท ซึ่งได้รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้วโดยสามารถนำผลงานก่อสร้างของผู้เข้าร่วมค้าหลัก (Lead Firm) เป็นผลงานของกิจการร่วมค้าได้และผู้เข้าร่วมค้ารายอื่น ๆ ของกิจการร่วมค้าทุกรายต้องมีผลงานอย่างน้อยอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้ ก) ผลงานก่อสร้างทางรถไฟ(ก) ที่มีมูลค่าก่อสร้างในสัญญาเดียวไม่น้อยกว่า …

20 ส.ค.นี้ รฟท.เปิดประมูลทางคู่เฟส 2 สายแรก”ขอนแก่น-หนองคาย”2.87 หมื่นล้าน ลุยโยธาติดตั้งระบบ 3 ปี เปิดบริการปี 70 อ่านเพิ่มเติม »

NAGA Legacy การท่องเที่ยวสายศรัทธาพญานาค

สกลนคร นครพนม บึงกาฬ 3 จังหวัด ตำนาน พญานาค เส้นทางการท่องเที่ยวสายศรัทธา . การท่องเที่ยวเป็นหนึ่งในกิจกรรมเศรษฐกิจหลักที่สามารถกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจในพื้นที่จากกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยว แต่ในปัจจุบันจังหวัดในอีสานกว่า 20 จังหวัด มีเมืองที่นับว่าเป็นเมืองท่องเที่ยวเมืองหลักเพียง 2 เมืองเท่านั้น สะท้อนภาพการกระจุกตัวของกิจกรรมการท่องเที่ยวในอีสานชัดเจน . แล้วจุดขายของเมืองรองอีสาน ที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยว อยู่ที่ไหน ? . วันนี้อีสานอินไซต์พาเปิดหนึ่งในกลุ่มเมืองรองอีสานที่โดดเด่นด้วยจุดแข็งด้านวัฒนธรรม และความเชื่อ “พญานาค” ตามนโยบาย IGNITE TOURISM THAILAND ที่มุ่งผลักดันประเทศไทยสู่เป้าหมายการเป็น Tourism Hub ที่สำคัญของโลก . NAGA Legacy (นครพนม สกลนคร บึงกาฬ) ตามรอยตำนานศรัทธาพญานาค . เพื่อฉายภาพกระแสพญานาคให้ชัดเจนขึ้น อีสานอินไซต์ขอพาย้อนชมในรอบ 20 ปี ว่ามีเหตุการณ์สำคัญอะไรเกิดขึ้นบ้าง . อีสานเกิดพญานาค Fever ครั้งแรกที่เป็นกระแสไปทั่วประเทศ ในเดือนกรกฎาคม 2554 เมื่อมีข่าวว่าพญานาคโผล่ออกมาเล่นน้ำในบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ ต่อหน้าต่อตาข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ และประชาชนนับพันคน . ต่อมาในปี 2560 พญานาคเป็นกระแสอีกรอบ ตามความเชื่อว่าปีนี้เป็นปีที่พญานาคมีอิทธิฤทธิ์และอำนาจเรืองรองที่สุดในรอบพันปี (ความเชื่อส่วนบุคคล) ส่งผลดีจากกิจกรรมการเดินทาง รวมถึงการจับจ่ายใช้สอยจากสายบูชาพญานาค ไม่แปลกใจที่จะเห็นว่าบรรดาผู้เลื่อมใสศรัทธาต่างก็เดินทางไปกราบไหว้ขอพรกันอย่างหนาแน่น . และพญานาคยังได้รับแรงหนุนจากการผลักดันความเชื่อและวัฒนธรรมเข้าสู่ Mass market ผ่านจอแก้วใน “นาคี” ปี 2559 และภาคต่อผ่านจอเงิน “นาคี 2” ในปี 2561 ที่เผยแพร่ความเชื่อเรื่องพญานาคไปทั่วทุกภูมิภาครวมถึงต่างประเทศ . แล้ว 3 หัวเมืองในอีสาน มีจุดแข็งอะไร ที่ทำให้รัฐบาล มองว่าเป็นเส้นทางท่องเที่ยวสายพญานาค นั้นมีความสำคัญ . อย่างแรกที่ปฏิเสธไม่ได้คือตำแหน่งที่ตั้ง ที่อยู่บนสุดขวาของประเทศไทย ติดกับ สปป.ลาว แหล่งความเชื่อของวัฒนธรรมร่วมไทย-ลาว ที่นับถือพญานาคเป็นเทพเจ้าแห่งน้ำ กั้นกลางด้วยแม่น้ำโขง แหล่งน้ำสำคัญที่มีความเชื่อว่าเกิดขึ้นจากการไถลตัวของพญานาค รวมถึงสะพานเชื่อมประเทศ “สะพานมิตรภาพ ไทย-ลาว” ถึง 2 แห่ง . ความเชื่อยังสะท้อนออกมาในรูปกิจกรรมวัฒนธรรมของพื้นที่ โดยข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวจาก Thailand Tourism Directory ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา สะท้อนภาพแหล่งท่องเที่ยวทั้งหมด 161 แห่ง ใน 3 จังหวัด ซึ่งกว่า 40% เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในกลุ่มความเชื่อ ความศรัทธา สะท้อนจุดแข็งในการรองรับกิจกรรมการท่องเที่ยวในด้านนี้ชัดเจน ตามด้วยสถานที่ท่องเที่ยวในกลุ่มการท่องเที่ยวธรรมชาติ และการท่องเที่ยวชุมชนเชิงการเรียนรู้เป็นหลัก . สถานที่ท่องเที่ยวด้านความเชื่อ ความศรัทธา เด่น ๆ ในพื้นที่ 3 …

NAGA Legacy การท่องเที่ยวสายศรัทธาพญานาค อ่านเพิ่มเติม »

เปิดเส้นทาง รถไฟสายอีสาน 19 ก.ค. นี้ เริ่มแล้ว ‘รถไฟกรุงเทพอภิวัฒน์-เวียงจันทน์’

การรถไฟแห่งประเทศไทย พร้อมเปิดให้บริการ เที่ยวแรก 19 กรกฎาคม 2567 นี้ ขบวนรถโดยสารระหว่างประเทศ กรุงเทพ – เวียงจันทน์ เชื่อมต่อการเดินทางทั้ง 2 ประเทศ ไทย-สปป.ลาว เริ่มจำหน่ายตั๋วแล้วตั้งแต่วันที่ 10 กรกฎาคม 2567 ภาพ: การรถไฟแห่งประเทศไทย รถไฟ กรุงเทพ – เวียงจันทน์ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเดินขบวนรถโดยสารระหว่าง ประเทศไทย – สปป.ลาว เส้นทางสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – เวียงจันทน์ (คำสะหวาด) – สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ขบวนแรก ในวันที่ 19 กรกฎาคมนี้ พร้อมกับเปิดให้ผู้โดยสาร จองตั๋วโดยสารได้ตั้งแต่ 10 กรกฎาคม 2567 เป็นต้นไป ซึ่งเปิดให้บริการไป-กลับ ประกอบด้วย รถธรรมดา ชั้น 3 (พัดลม) 152 ที่ รถนั่งปรับอากาศ ชั้น 2 จำนวน 64 ที่นั่ง รถนั่งและนอนปรับอากาศ ชั้น 2 จำนวน 30 ที่นั่ง พ่วงไปกับขบวนรถเร็วที่ 133 นอกจากนี้ ยังได้เปิดให้บริการ เส้นทางอุดรธานี –  เวียงจันทน์ (คำสะหวาด) – อุดรธานี ไป-กลับ อีก 2 ขบวน รวมเป็น 4 ขบวน/วัน   PERCULIAR BOY / Shutterstock.com   สามารถติดต่อซื้อตั๋วโดยสารและสำรองที่นั่งล่วงหน้า (สูงสุด 180 วัน) ที่สถานีรถไฟทุกแห่งทั่วประเทศ ซึ่งผู้โดยสารจะต้องมี หนังสือเดินทาง (Passport) หรือ หนังสือผ่านแดน (Border Pass) เพื่อใช้ในการทำพิธีการทางศุลกากร และตรวจคนเข้าเมืองที่ สถานีหนองคาย และ เวียงจันทน์ (คำสะหวาด) ก่อนการเดินทางข้ามประเทศ เส้นทางกรุงเทพฯ-เวียงจันทน์ เริ่มให้บริการ 19 ก.ค.นี้ สำหรับการเปิดเส้นทางเดินรถในครั้งนี้ ทางการรถไฟแห่งประเทศไทย และรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งชาติลาว ได้ขยายเส้นทางขบวนรถไฟที่มีอยู่เดิม 4 ขบวน ซึ่งขบวนที่ได้รับความสนใจ คือ เส้นทางจากกรุงเทพฯ ไปยังเวียงจันทน์ เริ่มให้บริการในวันที่ 19 ก.ค.นี้ โดยรถจะออกจากกรุงเทพฯ ในช่วงกลางคืน และไปถึงเวียงจันทน์ในช่วงเช้า ภาพ: ThaiPBS สำหรับรูปแบบการให้บริการ รถจะออกเดินทางจากสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ เวลา 21.25 น. โดยจะเดินทางไปถึงที่หนองคาย เวลา 07.55 น.ในวันรุ่งขึ้น ผู้โดยสารจะมีเวลาในการทำพิธีการตรวจคนเข้าเมืองที่ด่านสถานีหนองคาย 40 นาที จากนั้นก็ขึ้นรถเดินทางต่อ ในเวลา 08.35 น. โดยจะไปถึงที่สถานีเวียงจันทน์ (คำสะหวาด) ในเวลา …

เปิดเส้นทาง รถไฟสายอีสาน 19 ก.ค. นี้ เริ่มแล้ว ‘รถไฟกรุงเทพอภิวัฒน์-เวียงจันทน์’ อ่านเพิ่มเติม »

4 จังหวัดจากอีสาน โคราช สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลฯ เตรียมเปิดสาขาใหม่ TCDC หลังจากประกาศผล 10 ทีมผู้ชนะการประกวดแบบ ที่จะปลุกพลังความคิดสร้างสรรค์ทั่วประเทศไปกับ “ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบแห่งใหม่ (New TCDC) ใน 10 จังหวัด”

ประกาศผล 10 ทีมผู้ชนะการประกวดแบบ ที่จะปลุกพลังความคิดสร้างสรรค์ทั่วประเทศไปกับ “ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบแห่งใหม่ (New TCDC) ใน 10 จังหวัด” หลังจากการคัดเลือกอย่างเข้มข้น ตอนนี้เราได้ผู้ชนะการประกวดแบบ “ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบแห่งใหม่ (New TCDC) ใน 10 จังหวัด” ที่พร้อมจะมาเปลี่ยนโฉมพื้นที่และสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนไทยทั่วประเทศมาเป็นที่เรียบร้อย ไปดูกันเลยว่า ทีมไหนที่จะมาเนรมิตพื้นที่แห่งแรงบันดาลใจ TCDC แห่งใหม่ในจังหวัดของคุณ! ขอขอบคุณนักออกแบบทุกท่านอีกครั้งที่ให้ความสนใจและร่วมส่งผลงานประกวดแบบ “ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบแห่งใหม่ (New TCDC) ใน 10 จังหวัด” ทั้ง 113 ทีม ที่ส่งผลงานกันเข้ามาถึง 173 ผลงาน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาและยกระดับเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของประเทศไทยในรอบ 20 ปี ติดตามศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบแห่งใหม่ (New TCDC) ใน 10 จังหวัดได้ที่ new.tcdc.or.th #NewTCDC #CEA https://www.canva.com/design/DAF8Q18RV3k/view การยกระดับโครงสร้างพื้นฐานภูมิปัญญาท้องถิ่น และความคิดสร้างสรรค์ครั้งสำคัญในรอบ 20 ปี ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ หรือ Thailand Creative & Design Center (TCDC) ภายใต้สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) สำนักนายกรัฐมนตรี มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาด้านเศรษฐกิจและสังคม บนรากฐานการใช้ความคิดสร้างสรรค์ รวมถึงสร้างโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงองค์ความรู้และความคิดสร้างสรรค์ เพื่อพัฒนาคุณภาพทรัพยากรมนุษย์ที่มีความพร้อมสำหรับการก้าวสู่อนาคต TCDC กำลังขยายเครือข่ายไปยังจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อต่อยอดคุณค่าสินทรัพย์ทางวัฒนธรรม พร้อมสร้างรากฐานทางเศรษฐกิจท้องถิ่นด้วยความคิดสร้างสรรค์  TCDC Chiang Rai : TCDC เชียงราย1922 Architects (D098) TCDC Korat : TCDC นครราชสีมาบริษัท จั่นอาร์คิเทค จำกัด (D132) TCDC Pattani : TCDC ปัตตานีบริษัท ทรัพย์เปอร์ จำกัด (D010) TCDC Phitsanulok : TCDC พิษณุโลกสถา ณ สถาปนิก (D017) TCDC Phrae : TCDC แพร่บริษัท เค ทู ดีไซน์ จำกัด (D011) TCDC Phuket : TCDC ภูเก็ตบริษัท สวอน แอนด์ แมคคลาเรน (ประเทศไทย) จำกัด (D059) TCDC Sisaket : TCDC …

4 จังหวัดจากอีสาน โคราช สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลฯ เตรียมเปิดสาขาใหม่ TCDC หลังจากประกาศผล 10 ทีมผู้ชนะการประกวดแบบ ที่จะปลุกพลังความคิดสร้างสรรค์ทั่วประเทศไปกับ “ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบแห่งใหม่ (New TCDC) ใน 10 จังหวัด” อ่านเพิ่มเติม »

กรมทางหลวงผลักดันโครงการถนนทดลอง วิจัยและพัฒนานำขยะพลาสติกมาผสมในแอสฟัลต์คอนกรีต ทำถนนเส้นเข้าท่าอากาศยานนครราชสีมา

จากปัญหาขยะพลาสติกที่เพิ่มขึ้น และเป็นขยะอีก 1 ประเภทที่กำจัดได้ยาก หากปล่อยให้ย่อยสลายเองก็ใช้เวลานานมากราวๆ 500 ปี จึงจะสลายได้หมด และหากจะกำหนดด้วยวิธีการอื่นๆ เช่น การเผาทิ้ง ก็จะก่อให้เกิดสารก่อมะเร็ง และไอกรดต่างๆ ที่ส่งผลทำให้โลกร้อนยิ่งขึ้นอีกด้วย   แม้ว่าในปัจจุบันมีการลดใช้พลาสติกในบรรจุภัณฑ์ต่างๆ มากขึ้น แต่ทว่าก็มีการใช้สินค้าที่มีการบรรจุในห่อพลาสติกเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะสินค้าประเภทอาหารต่างๆ ที่คนนิยมซื้อแบบสำเร็จรูปมากยิ่งขึ้น ทำให้ปัญหาเรื่องขยะพลาสติกไม่ได้ลดน้อยลงเลย ซึ่งก็มีผู้เชี่ยวชาญพยายามคิดค้นหาวิธีการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการนำกลับมาใช้ใหม่ การกำจัดในหลายหลายรูปแบบ รวมถึงการนำไปใช้ประโยชน์ในด้านอื่นๆ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ “การเอาขยะพลาสติกไปทำเป็นถนน” นั่นเอง   การนำขยะพลาสติกไปทำเป็นถนนนั้น จะใช้รูปแบบของการนำไปผสมกับยางมะตอยที่เราใช้ทำถนนกันปกติอยู่แล้ว ซึ่งพบว่าถนนมีความทนทานมากขึ้นกว่า 10 เท่า แถมยังมีต้นทุนที่ต่ำกว่าการใช้ยางมะตอยเพียงอย่างเดียว ที่สำคัญยังช่วยลดปริมาณขยะพลาสติกได้อีกด้วย ขยะพลาสติกประเภทไหนเอามาทำถนนได้บ้าง ขยะพลาสติกที่จะนำมาทำถนนได้นั้น ต้องเป็นพลาสติกประเภทที่เรียกว่า เทอร์โมพลาสติก (Thermoplastic) เป็นพลาสติกที่หลอมเหลวเมื่อได้รับความร้อนและแข็งตัวเมื่อเย็นลง สามารถหลอมเหลวซ้ำได้หลายครั้งโดยไม่เสียคุณสมบัติเดิม พลาสติกประเภทนี้สามารถนำกลับมารีไซเคิลได้ โดยยังสามารถแบ่งย่อยได้อีกหลายประเภทตามสัญลักษณ์การรีไซเคิล   PETE (Polyethylene Terephthalate) หรือ PET เป็นพลาสติกใส แข็ง ทนแรงกระแทกดี ไม่เปราะแตกง่าย และกันแก๊สซึมผ่านดี ใช้ทำขวดบรรจุน้ำดื่ม ขวดน้ำมันพืช เป็นต้น HDPE (High Density Polyethylene) หรือ HDPE เป็นพลาสติกที่เหนียวและแตกยาก ค่อนข้างแข็งแต่ยืดได้มาก ทนทานต่อสารเคมีและสามารถขึ้นรูปทรงต่างๆ ได้ง่าย ใช้ทำขวดนม ขวดน้ำ และบรรจุภัณฑ์สำหรับน้ำยาทำความสะอาด ยาสระผม เป็นต้น PVC (Polyvinylchloride) หรือ PVC เป็นพลาสติกที่ทนทานต่อสารเคมีและความร้อน ใช้ทำท่อ ฉนวนกันความร้อน อุปกรณ์ทางการแพทย์ เป็นต้น LDPE (Low Density Polyethylene) หรือ LDPE เป็นพลาสติกที่เหนียวและยืดหยุ่นสูง ใช้ทำถุงพลาสติก บรรจุภัณฑ์อาหาร ฟิล์มห่อหุ้ม เป็นต้น PP (Polypropylene) หรือ PP เป็นพลาสติกที่แข็งแรงและทนทานต่อการเสียดสี ใช้ทำขวดพลาสติก ภาชนะบรรจุอาหาร ชิ้นส่วนรถยนต์ เป็นต้น PS (Polystyrene) หรือ PS เป็นพลาสติกที่น้ำหนักเบาและราคาถูก ใช้ทำถาดใส่อาหาร ถ้วย ช้อน กล่องโฟม เป็นต้น Others (อื่นๆ) เป็นพลาสติกประเภทอื่น ๆ ที่ไม่สามารถจัดอยู่ในประเภทใดประเภทหนึ่งได้ เช่น ABS, POM, PC, PETG เป็นต้น สำหรับพลาสติกประเภท PVC นั้นทางผู้เชี่ยวชาญไม่แนะนำให้เอามาทำถนนเนื่องจากเมื่อถูกความร้อนเกิน 180 องศาเซลเซียส ตัวพลาสติก PVC จะระเหยกลายเป็นไอของกรดเกลือซึ่งเป็นอันตรายกับสิ่งมีชีวิตนั่นเอง ขั้นตอนการนำขยะพลาสติกมาทำเป็นถนน สำหรับขั้นตอนการนำขยะพลาสติกมาทำเป็นถนนนั้นก็มีหลายขั้นตอน ดังนี้ คัดแยกขยะพลาสติก โดยแยกพลาสติกประเภทต่าง ๆ ออกจากกัน เช่น พลาสติกแข็ง …

กรมทางหลวงผลักดันโครงการถนนทดลอง วิจัยและพัฒนานำขยะพลาสติกมาผสมในแอสฟัลต์คอนกรีต ทำถนนเส้นเข้าท่าอากาศยานนครราชสีมา อ่านเพิ่มเติม »

Scroll to Top