Nanthawan Laithong

โรงสีข้าวรายใหญ่ แต่ละจังหวัดในอีสาน

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเรามีโรงสีข้าวอยู่ทั้งสิ้น 343 แห่ง หรือคิดเป็นสัดส่วน 32% ของจำนวนโรงสีข้าวทั้งหมดในประเทศ และมีมูลค่ารายได้รวมกว่า 67,030 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 20% ของมูลค่ารายได้ของโรงสีข้าวทั้งหมดในประเทศ โดยจังหวัดที่มีรายได้รวมมากที่สุด คือ ร้อยเอ็ด รองลงมา คือ ศรีสะเกษ และสุรินทร์ ตามลำดับ   🏬จากข้อมูลอันดับข้างต้นก็จะพบว่า บจก.เกษตรวิสัย ไรซ์ อินเตอร์เทรด มีมูลค่ารายได้รวมมากที่สุดในจังหวัดร้อยเอ็ดและยังมีมูลค่ามากเป็นอับดับที่ 1 ในภาคอีสานอีกด้วย โดยเป็นโรงสีข้าวและฐานผู้ส่งออกในประเทศไทยที่เชี่ยวชาญในการผลิตข้าวหอมมะลิ ที่คัดเลือกข้าวจากเกษตรกรในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ มีการปรับปรุงคุณภาพและรักษาด้วยกระบวนการมาตรฐานให้ได้ข้าวที่มีคุณภาพดีที่สุด อีกทั้งยังเป็นผู้ผลิตข้าวตราเพชร ๑๐๑ ที่เป็นแบรนด์ข้าวที่มีชื่อเสียงในประเทศไทย เป็นข้าวหอมมะลิที่มีคุณภาพสูงและมีกลิ่นหอม และความนุ่มเป็นเอกลักษณ์   จังหวัดร้อยเอ็ดยังมีข้าวที่มีคุณภาพที่ดีและแตกต่างจากพื้นที่อื่น โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ ซึ่งเป็นข้าวที่มีคุณภาพสูงและเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ ปัจจัยหลักที่ทำให้ร้อยเอ็ดมีโรงสีข้าวจำนวนมากและมีโรงสีข้าวที่มีรายได้มากที่สุดในภาคอีสาน และร้อยเอ็ดยังมีการลงทุนในโรงสีข้าวอย่างต่อเนื่อง   โรงสีข้าว “บจก.เกษตรวิสัย ไรซ์ อินเตอร์เทรด” มีการใช้เทคโนโลยีและอุปกรณ์ที่ทันสมัยในกระบวนการผลิต ทำให้ข้าวที่ผลิตมีคุณภาพและมีความสามารถในการส่งออกข้าวในปริมาณมาก อีกทั้งโรงสีข้าว ยังสามารถตอบสนองต่อความต้องการของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ และมีการสร้างรายได้สูงจากการส่งออกข้าวนั่นเอง   อย่างไรก็ตาม แม้ปริมาณผลผลิตข้าวมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แต่โอกาสในการทำกำไรยังมีข้อจำกัดจากปัญหากำลังสีข้าวส่วนเกินในระบบที่อยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการขนาดเล็กที่มักเสียเปรียบรายกลาง-ใหญ่ด้านอำนาจต่อรองในการซื้อวัตถุดิบ ทำให้มีต้นทุนรับซื้อข้าวสูงกว่า กลุ่มที่แข่งขันได้จึงเป็นโรงสีข้าวขนาดใหญ่/ครบวงจร และโรงสีข้าวขนาดกลางที่สามารถบริหารจัดการต้นทุนได้ดี     อ้างอิงจาก:  – เว็บไซต์ของบริษัท – กรมพัฒนาธุรกิจการค้า – วิจัยกรุงศรี   ติดตาม ISAN Insight & Outlook ทุกช่องทางได้ที่ https://linktr.ee/isan.insight   #ISANInsightandOutlook #อีสาน #ISAN #อีสานอินไซต์ #Business #Economy #ธุรกิจ #เศรษฐกิจ #ธุรกิจอีสาน #เศรษฐกิจอีสาน #ธุรกิจโรงสีข้าว #ธุรกิจโรงสีข้าวในอีสาน #โรงสีข้าว

โรงสีข้าวรายใหญ่ แต่ละจังหวัดในอีสาน อ่านเพิ่มเติม »

🔎พาเปิดเบิ่ง “โรงสีข้าวแดนอีสาน” มูลค่ารวมกว่า 67,030 ล้านบาท กระจายอยู่ที่ไหนบ้าง

ในปี 2566 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีรายได้รวมจากธุรกิจโรงสีข้าวมากกว่า 67,030 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 20% ของมูลค่ารายได้ของโรงสีข้าวทั้งหมดในประเทศ   5 อันดับจังหวัดที่มีรายได้รวมมากที่สุด – ร้อยเอ็ด มีรายได้รวมกว่า 11,086 ล้านบาท – ศรีสะเกษ มีรายได้รวมกว่า 9,322 ล้านบาท – สุรินทร์ มีรายได้รวมกว่า 7,793 ล้านบาท – นครราชสีมา มีรายได้รวมกว่า 7,234 ล้านบาท – อุบลราชธานี มีรายได้รวมกว่า 5,913 ล้านบาท   จากข้อมูลจะเห็นได้ว่า 3 จังหวัดแรกที่มีรายได้รวมมากที่สุดในภาคอีสาน อย่างร้อยเอ็ด ศรีสะเกษ และสุรินทร์ จะเป็นจังหวัดที่มีการปลูกข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ เป็นพื้นที่เพาะปลูกข้าวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ทำให้มีวัตถุดิบในการผลิตข้าวจำนวนมาก ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ เป็นข้าวที่มีคุณภาพสูงและเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ และข้าว GI ตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน 2550 อีกด้วย   โรงสีข้าวในทั้ง 3 จังหวัดข้างบน ส่วนใหญ่ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการผลิต ทำให้ได้ข้าวที่มีคุณภาพสม่ำเสมอและปริมาณมาก อีกทั้งโรงสีหลายแห่งได้รับมาตรฐานสากล ทำให้สามารถส่งออกข้าวไปยังตลาดต่างประเทศได้     อ้างอิงจาก:  – เว็บไซต์ของบริษัท – กรมพัฒนาธุรกิจการค้า   ติดตาม ISAN Insight & Outlook ทุกช่องทางได้ที่ https://linktr.ee/isan.insight   #ISANInsightandOutlook #อีสาน #ISAN #อีสานอินไซต์ #Business #Economy #ธุรกิจ #เศรษฐกิจ #ธุรกิจอีสาน #เศรษฐกิจอีสาน #ธุรกิจโรงสีข้าว #ธุรกิจโรงสีข้าวในอีสาน #โรงสีข้าว

🔎พาเปิดเบิ่ง “โรงสีข้าวแดนอีสาน” มูลค่ารวมกว่า 67,030 ล้านบาท กระจายอยู่ที่ไหนบ้าง อ่านเพิ่มเติม »

พื้นที่สีเขียวในเขตเมืองต่อคนอีสาน กระจายอยู่ไหนบ้างในภาคอีสาน

จากข้อมูลพื้นที่สีเขียวในเขตเมืองของประเทศไทยจำนวน 7,540 ตารางกิโลเมตร หรือกว่า 4.7 ล้านไร่ พบว่าเป็นพื้นที่สีเขียวในเขตเมืองของภาคอีสานกว่า 581 ตารางกิโลเมตร หรือ 363,125 ไร่ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนเพียง 7.7% ของขนาดพื้นที่สีเขียวทั้งหมดในประเทศเท่านั้น   5 อันดับจังหวัดที่มีพื้นที่สีเขียวในเขตเมืองมากที่สุดในอีสาน   อันดับที่ 1 ขอนแก่น 134.6 ตารางกิโลเมตร อันดับที่ 2 บุรีรัมย์ 69.0 ตารางกิโลเมตร อันดับที่ 3 นครราชสีมา 47.1 ตารางกิโลเมตร อันดับที่ 4 สกลนคร 38.3 ตารางกิโลเมตร อันดับที่ 5 อุบลราชธานี 37.8 ตารางกิโลเมตร   แล้วพื้นที่สีเขียวต่อจำนวนประชากรในอีสานเป็นเท่าไร?   องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ระบุค่าเฉลี่ยพื้นที่สีเขียวของเมืองว่าอย่างน้อยควรอยู่ที่  9 ตารางเมตรต่อคน ซึ่งภาคอีสานมีพื้นที่สีเขียวเฉลี่ย 76 ตารางเมตรต่อคน หรือหากดูเป็นรายจังหวัด พื้นที่สีเขียวต่อจำนวนประชากร 5 อันดับแรก ประกอบด้วย ขอนแก่น 155 ตารางเมตรต่อคน เลย 153 ตารางเมตรต่อคน มุกดาหาร 133 ตารางเมตรต่อคน ศรีสะเกษ 128 ตารางเมตรต่อคน บุรีรัมย์ 125 ตารางเมตรต่อคน   อย่างไรก็ตาม พื้นที่สีเขียวในเขตเมืองยังคงเป็นเสมือนของหายากอยู่ เนื่องจากไม่ก่อให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจโดยตรง รวมไปถึงราคาที่ดินที่ปรับตัวสูงขึ้นเรื่อย ๆ ส่งผลให้การพัฒนาพื้นที่ถูกเน้นไปในเชิงพาณิชย์มากกว่า ดังนั้น ภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องอาจต้องมีการวางแผนร่วมกันเพื่อจะพัฒนาพื้นที่สีเขียวให้สอดรับกับการขยายตัวของเมืองในอนาคตมากขึ้น  . อีกทั้งเรายังควรอนุรักษ์รักษ์สิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น เพื่อให้มีพื้นที่สีเขียวให้คงอยู่และมีมากขึ้นต่อไปในอนาคต โดยเกิดเทรนด์ “การท่องเที่ยวสีเขียว” หนึ่งในรูปแบบการท่องเที่ยวสีเขียว คือ “การท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Tourism)”   การท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ หรือ Low Carbon Tourism เป็นการท่องเที่ยวที่ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนและรบกวนสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด โดยการท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำสามารถเป็นการท่องเที่ยวแบบง่ายๆ ตามความชอบของนักท่องเที่ยว เพียงแต่กิจกรรมการท่องเที่ยวนั้นต้องให้ความสำคัญรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม และการลดก๊าซคาร์บอน   ยกตัวอย่างเช่น การเลือกยานพาหนะในการเดินทาง การรับประทานอาหารที่ปรุงจากวัตถุดิบในท้องถิ่น การทำกิจกรรมท่องเที่ยวด้านสิ่งแวดล้อม เช่น กิจกรรมปลูกป่า ปลูกปะการัง การเก็บขยะ เป็นต้น ซึ่งกิจกรรมการท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้มากกว่าการท่องเที่ยวแบบทั่วไป อีกทั้งยังช่วยเพิ่มโอกาสให้กับกิจการที่เกี่ยวข้องกับการรักษ์โลกและเพื่อเพิ่มไอเดียในการพัฒนาธุรกิจของตนเองให้เข้ากับเทรนด์ในตอนนี้อีกด้วย     อ้างอิงจาก:  – สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.)    ติดตาม ISAN Insight & Outlook

พื้นที่สีเขียวในเขตเมืองต่อคนอีสาน กระจายอยู่ไหนบ้างในภาคอีสาน อ่านเพิ่มเติม »

พาส่องเบิ่ง “อำเภอเมือง” ของจังหวัดใน Big 5 of ISAN

📍อำเภอเมืองขอนแก่น มีขนาดพื้นที่ 953 ตารางกิโลเมตร และมีจำนวนประชากร 416,849 คน ซึ่งถือว่ามีความหนาแน่น 437 คน/ตารางกิโลเมตร โดยอำเภอเมืองขอนแก่นมีเงินฝากกว่า 92,014 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นอำเภอที่มีเงินฝากมากเป็นอับดับที่ 2 ของภาคอีสาน ส่วนราคาที่ดินแพงสุดในอำเภอ คือ ถนนศรีจันทร์ ราคามากสุด คือ 200,000 บาท/ตารางวา   ตัวอย่างโครงการใหญ่ภายในอำเภอ คือ Medical hub ซึ่งมีมูลค่าโครงการกว่า 5,300 ล้านบาท เป็นหนึ่งในเป้าหมายของภาครัฐ ที่ต้องการให้เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ อีกทั้งมีการยกระดับและเพิ่มมูลค่าให้แก่สมุนไพรไทย แพทย์แผนไทย และภูมิปัญญาในการดูแลรักษาสุขภาพแบบไทย ทั้งยังสนับสนุนความร่วมมือและเชื่อมโยงผู้ประกอบการธุรกิจสุขภาพและการแพทย์ของไทยกับผู้ประกอบการธุรกิจสุขภาพทั่วโลกอีกด้วย     📍อำเภอเมืองนครราชสีมา มีขนาดพื้นที่ 756 ตารางกิโลเมตร และมีจำนวนประชากร 452,830 คน ซึ่งถือว่ามีความหนาแน่น 599 คน/ตารางกิโลเมตร โดยอำเภอเมืองขอนแก่นมีเงินฝากกว่า 117,322 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นอำเภอที่มีเงินฝากมากเป็นอับดับที่ 1 ของภาคอีสาน ส่วนราคาที่ดินแพงสุดในอำเภอ คือ ถนนชุมพล ราคามากสุด คือ 130,000 บาท/ตารางวา   ตัวอย่างโครงการใหญ่ภายในอำเภอ คือ ก่อสร้างทางลอดแยกประโดก ซึ่งมีมูลค่าโครงการกว่า 849 ล้านบาท โครงการนี้จะช่วยรองรับรถที่เดินทางมาตามถนนมิตรภาพ จาก จ.ขอนแก่น เข้าใช้อุโมงค์ทางแยกนครราชสีมาเลี้ยวขวาทิศทางมุ่งหน้าไป จ.สระบุรี และกรุงเทพฯ โดยไม่ต้องติดสัญญาณไฟจราจร นอกจากนี้มีระบบระบายน้ำ งานป้องกันอัคคีภัย งานก่อสร้างสะพานลอยคนเดินข้าม งานติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่าง งานป้ายจราจรและอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัย   และก่อสร้างทางลอดแยกนครราชสีมา มูลค่าโครงการ 373 ล้านบาท โครงการนี้จะคอยช่วยแก้ปัญหาจราจรในเขตเมือง เพิ่มประสิทธิภาพการเคลื่อนตัวของการจราจรบนทางหลวงสายหลัก ช่วยอำนวยความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย ลดอุบัติเหตุ ลดต้นทุนทางด้านการคมนาคมขนส่ง และเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันประเทศยั่งยืน     📍อำเภอเมืองอุดรธานี มีขนาดพื้นที่ 1,095 ตารางกิโลเมตร และมีจำนวนประชากร 408,566 คน ซึ่งถือว่ามีความหนาแน่น 373 คน/ตารางกิโลเมตร โดยอำเภอเมืองขอนแก่นมีเงินฝากกว่า 82,680 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นอำเภอที่มีเงินฝากมากเป็นอับดับที่ 3 ของภาคอีสาน ส่วนราคาที่ดินแพงสุดในอำเภอ คือ ถนนโพศรี ราคามากสุด คือ 180,000 บาท/ตารางวา   ตัวอย่างโครงการใหญ่ภายในอำเภอ คือ นิคมอุตสาหกรรมสีเขียวอุดรธานี ซึ่งมีมูลค่าโครงการกว่า 65,000 ล้านบาท การเกิดขึ้นของนิคมฯ จะช่วยสร้างงาน สร้างรายได้ สร้างความเจริญเติบโตให้คนอีสานทั้งในแง่ของเศรษฐกิจ

พาส่องเบิ่ง “อำเภอเมือง” ของจังหวัดใน Big 5 of ISAN อ่านเพิ่มเติม »

พาสำรวจเบิ่ง เงินฝากในอีสานกว่า 9.5 แสนล้านบาท แต่ละจังหวัดเพิ่มขึ้นมากแค่ไหนในช่วง 10 ปี

🏦💳ข้อมูลสถิติจากธนาคารแห่งประเทศไทย คนไทยมียอดเงินฝากรวมในสถาบันการเงินภายในประเทศสูงถึง 17,399,541 ล้านบาท แล้วรู้หรือไม่ว่า ภาคอีสานมียอดเงินฝากรวมเท่าไหร่?   💸ยอดเงินฝากรวมในสถาบันการเงินของคนอีสาน มียอดรวมทั้งสิ้น 948,162 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55.7% จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2557 โดยส่วนใหญ่เป็นเงินฝากในรูปบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ 688,652 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนมากถึง 72.6% เลยทีเดียว   5 อันดับจังหวัดที่มียอดเงินฝากรวมมากที่สุดในภาคอีสาน อันดับที่ 1 นครราชสีมา 183,609 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48.9% จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2557 ที่ผ่านมา อันดับที่ 2 ขอนแก่น 135,273 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 53.4% จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2557 อันดับที่ 3 อุดรธานี 102,927 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 56.5% จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2557 อันดับที่ 4 อุบลราชธานี 83,652 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 53.6% จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2557 อันดับที่ 5 บุรีรัมย์ 50,754 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 61.4% จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2557   จะเห็นได้ว่าโดยถือว่ายอดเงินฝากเกือบ 60% กระจุกอยู่ใน 5 จังหวัดหลักของภาคอีสาน เนื่องจาก จังหวัดเหล่านี้เป็นเมืองใหญ่ที่มีภาคอุตสาหกรรม การค้า การบริการ และการเกษตร ทำให้มีรายได้หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจสูง และยังเป็นเป้าหมายของกลุ่มบริษัทข้ามชาติและบริษัทไทยขนาดใหญ่มาลงทุนในพื้นที่ ทำให้เกิดการจ้างงานและเพิ่มรายได้ให้กับประชาชน อีกทั้งเป็นจังหวัดที่มีรายได้เฉลี่ยต่อหัวสูง ก็มักจะมีกำลังซื้อสูง เป็นแหล่งรวมสินค้าและบริการต่างๆ ทำให้มีการจับจ่ายใช้สอยสูง ซึ่งเงินส่วนหนึ่งก็ถูกนำมาฝากไว้ในธนาคาร และยังมีการเติบโตของเมืองและการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ทำให้เกิดการหมุนเวียนของเงินจำนวนมากอีกด้วย     อ้างอิงจาก: – ธนาคารแห่งประเทศไทย   ติดตาม ISAN Insight & Outlook ทุกช่องทางได้ที่ https://linktr.ee/isan.insight   #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ISAN #อีสานอินไซต์ #Business #Economy #ธุรกิจ #เศรษฐกิจ #ธุรกิจอีสาน #เศรษฐกิจอีสาน #บัญชีเงินฝาก #บัญชีธนาคาร #เงินฝาก

พาสำรวจเบิ่ง เงินฝากในอีสานกว่า 9.5 แสนล้านบาท แต่ละจังหวัดเพิ่มขึ้นมากแค่ไหนในช่วง 10 ปี อ่านเพิ่มเติม »

พาเปิดเบิ่ง 20 อันดับอำเภอที่มีเงินฝากมากสุดในอีสาน💳💰

🏦💳ปี 2567 ถือเป็นปีที่เศรษฐกิจไทยเริ่มกลับมาฟื้นตัว และหนึ่งในตัวชี้วัดสำคัญที่สะท้อนถึงความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจก็คือ “เงินฝาก” ในระบบธนาคาร อ้างอิงข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งเผยให้เห็นข้อมูลน่าสนใจของ 20 อันดับอำเภอทั่วภาคอีสาน ที่มีปริมาณเงินฝากสูงสุดในปี 2567 สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพทางเศรษฐกิจและกำลังซื้อของแต่ละพื้นที่   5 อันดับอำเภอที่มีเงินฝากมากที่สุดในภาคอีสาน – อำเภอเมืองนครราชสีมา มียอดเงินฝากกว่า 117,322 ล้านบาท – อำเภอเมืองขอนแก่น มียอดเงินฝากกว่า 92,014 ล้านบาท – อำเภอเมืองอุดรธานี มียอดเงินฝากกว่า 82,680 ล้านบาท – อำเภอเมืองอุบลราชธานี มียอดเงินฝากกว่า 53,433 ล้านบาท – อำเภอเมืองร้อยเอ็ด มียอดเงินฝากกว่า 29,222 ล้านบาท   💸จะเห็นได้ว่า “อำเภอเมืองนครราชสีมา” ครองอันดับ 1 ด้วยยอดเงินฝากสูงถึง 117,322 ล้านบาท ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของจังหวัดนครรสีมาซึ่งเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของภาคอีสาน อีกทั้งยอดเงินฝากในจังหวัดยังสอดคล้องกับรายได้ต่อหัวมากที่สุดในภาคอีสานด้วย รวมถึงมีธุรกิจและอุตสาหกรรมที่มากในพื้นที่ ซึ่งนักลงทุนมักเลือกที่จะลงทุนในอำเภอเมืองนครรามชสีมามากเพราะมีศักยภาพในการเติบโตสูง   ซึ่งส่วนใหญ่อำเภอที่มีเงินฝากส่วนใหญ่จะกระจุกตัวในอำเภอเมืองแต่ละจังหวัด จะมีอำเภอปากช่องที่เป็นอำเภอที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่มาก มีธุรกิจเกี่ยวกับการค้าและบริการที่มากซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจ แต่ที่น่าสังเกตุคืออำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี และอำเภอชุมแพ, อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่นที่ติดอันดับ 3 อำเภอนี้ถือว่าอำเภอที่มีศักยภาพที่สูงและยังมีการลงทุนของธุรกิจการค้าและบริการทั้งขนาดกลางและขนาดย่อมภายในอำเภอที่มาก อีกทั้งยังเป็นอำเภอที่มีขนาดใหญ่อีกด้วย   💳อย่างไรก็ตาม จำนวนเงินฝากในบัญชีธนาคาร อาจไม่ได้สะท้อนความมั่งคั่งทั้งหมดของแต่ละคน เพราะปัจจุบันประชาชนฝากเงินกับธนาคารพาณิชย์น้อยลง เพราะดอกเบี้ยต่ำ   📈หลายคนจึงนิยมนำเงินไปลงทุน เนื่องจากมีผลตอบแทนสูงกว่า เช่น หุ้น กองทุน ทองคำ อสังหาริมทรัพย์ เพื่อเพิ่ม Passive Income และมีจำนวนไม่น้อยที่อาจเลือกเก็บเงินส่วนหนึ่งแบบเงินสด เพื่อสะดวกต่อการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน     อ้างอิงจาก: – ธนาคารแห่งประเทศไทย – กรุงเทพธุรกิจ  – Moneybuffalo – โดย Thosapol จากเว็บไซต์ thethaiger.com   ติดตาม ISAN Insight & Outlook ทุกช่องทางได้ที่ https://linktr.ee/isan.insight   #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ISAN #อีสานอินไซต์ #Business #Economy #ธุรกิจ #เศรษฐกิจ #ธุรกิจอีสาน #เศรษฐกิจอีสาน #บัญชีเงินฝาก #บัญชีธนาคาร #เงินฝาก

พาเปิดเบิ่ง 20 อันดับอำเภอที่มีเงินฝากมากสุดในอีสาน💳💰 อ่านเพิ่มเติม »

🔎พามาเบิ่ง “พื้นที่สีเขียวในเขตเมือง” กระจายอยู่ไหนบ้างในอีสาน🌳🕊️

ต้นไม้และพื้นที่สีเขียวในเขตเมืองเป็นหนึ่งในดัชนีชี้วัดความอยู่ดีมีสุข (Well-Being) ของคนเมือง เมืองที่ดีควรมีพื้นที่สีเขียวในปริมาณที่เหมาะสม ผู้คนสามารถเข้าถึงได้ง่าย ยิ่งถ้าเมืองนั้นมีประชากรหนาแน่น พื้นที่สีเขียวก็จะยิ่งมีคุณค่า โดยเฉพาะต่อสุขภาวะทางกายและใจของคน รวมไปถึงคุณค่าต่อสิ่งแวดล้อมของเมืองที่ส่งผลเป็นวงกว้าง เช่น การลดอุณหภูมิความร้อน การดูดซับมลพิษทางอากาศ มลพิษทางเสียง การเป็นพื้นที่ชะลอน้ำ ระบายน้ำ เป็นต้น   ในปี 2567 ประเทศไทยมีพื้นที่สีเขียวในเขตเมืองรวมกันทั้งหมดกว่า 7,540 ตารางกิโลเมตร หรือกว่า 4.7 ล้านไร่ โดยในภาคอีสานของเรามีพื้นที่สีเขียวในเขตเมืองมากกว่า 581 ตารางกิโลเมตร หรือ 363,125 ไร่ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนเพียง 7.7% ของขนาดพื้นที่สีเขียวทั้งหมดในประเทศเท่านั้น‼️   โดยจังหวัดที่มีพื้นที่สีเขียวในเขตเมืองมากที่สุด อันดับที่ 1 ขอนแก่น 134.6 ตารางกิโลเมตร อันดับที่ 2 บุรีรัมย์ 69.0 ตารางกิโลเมตร อันดับที่ 3 นครราชสีมา 47.1 ตารางกิโลเมตร อันดับที่ 4 สกลนคร 38.3 ตารางกิโลเมตร อันดับที่ 5 อุบลราชธานี 37.8 ตารางกิโลเมตร   จากข้อมูลจะเห็นได้ว่าจังหวัดขอนแก่นมีพื้นที่สีเขียวมากที่สุดในภาคอีสาน เนื่องจากมีโครงการขนาดใหญ่ในจังหวัดที่มุ่งเน้นการฟื้นฟูสภาพป่าและเพิ่มพื้นที่สีเขียวในภาคอีสาน ซึ่งขอนแก่นเป็นหนึ่งในจังหวัดที่ได้รับประโยชน์จากโครงการนี้เป็นอย่างมาก ทำให้มีการปลูกป่าและเพิ่มพื้นที่สีเขียวอย่างต่อเนื่อง   พื้นที่สีเขียวในเมืองนั้นเป็นของหายาก เพราะพื้นที่สีเขียวไม่ก่อให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจโดยตรง เมื่อที่ดินในเมืองมีราคาสูงมาก ยิ่งเป็นทำเลใจกลางเมืองก็จะมีราคาสูงมาก ดังนั้นที่ดินจึงถูกพัฒนาเชิงพาณิชย์เป็นหลัก ความเป็นไปได้ในการเพิ่มพื้นที่สีเขียวในเมืองจึงมีจำกัด      หมายเหตุ: เป็นข้อมูลพื้นที่สีเขียวในเขตเมืองในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ปี 2567 ณ วันที่ 19 ธ.ค. 2567    อ้างอิงจาก:  – สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) – Matichon   ติดตาม ISAN Insight & Outlook ได้ที่ Instagram : https://www.instagram.com/isan.insight.and.outlook/ Website : https://isaninsight.kku.ac.th Youtube : https://youtube.com/@ISANInsightOutlook LINE Official : https://lin.ee/yIS5bdP   #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ISAN #อีสานอินไซต์ #แวดล้อมอีสาน #พื้นที่สีเขียวในเขตเมือง #พื้นที่สีเขียว #พื้นที่สีเขียวเขตเมือง #ป่าในเขตเมือง

🔎พามาเบิ่ง “พื้นที่สีเขียวในเขตเมือง” กระจายอยู่ไหนบ้างในอีสาน🌳🕊️ อ่านเพิ่มเติม »

พาส่องเบิ่ง คนอีสาน แต่ละ Gen มีพฤติกรรมการบริโภคแตกต่างกันแค่ไหน?

ในโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การเข้าใจกลุ่มผู้บริโภค คือ กุญแจสำคัญที่จะนำพาแบรนด์ให้ประสบความสำเร็จในยุคดิจิทัลนี้   สำหรับ Customer Generation ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการแบ่งกลุ่มผู้บริโภคหรือลูกค้า (Segmentation) เพราะคนในแต่ละช่วงวัยหรือเจนเนอเรชัน พบอุปสรรคและความท้าต่างกัน ส่งผลให้คนแต่ละ เจน มีพฤติกรรมการบริโภคสินค้าแตกต่างกันออกไป การทำความเข้าใจกับ Customer Generation แต่ละกลุ่ม จะช่วยให้แบรนด์รู้ว่าควรจะออกผลิตภัณฑ์แบบไหน ทำการตลาดหรือควรมีปฏิสัมพันธ์กับพวกเขาอย่างไร    โดยอีสานอินไซต์จะขอยกมา 4 Generation ได้แก่   Baby Boomer (ปี 2489 – 2507) ในภาคอีสานมีจำนวน 3,678,219 คน หรือคิดเป็นสัดส่วนเพียง 1.4% ของคนอีสานเท่านั้น โซเซียลมีเดียที่ใช้บ่อย คือ Line, Facebook และ TikTok ตามลำดับ ซึ่งพฤติกรรมการบริโภคของคนกลุ่มนี้จะมัก (1)ซื้อสินค้าเพื่อสุขภาพ เช่น วิตามิน อาหารเสริม และ (2)ซื้อสินค้าที่ถูกและคุณภาพเหมาะสมที่สุด ที่สำคัญคือต้องเน้นการขายที่ให้ข้อมูลง่ายๆ ไม่ซับซ้อน พร้อมกับวิธีการสั่งซื้อสินค้าที่สะดวก เพื่อตอบโจทย์คน Gen Baby Boomer   Gen X (ปี 2508 – 2522) ในภาคอีสานมีจำนวน 5,255,024 คน หรือคิดเป็นสัดส่วน 28.4% ของคนอีสาน โซเซียลมีเดียที่ใช้บ่อย คือ Line, Facebook และ TikTok ตามลำดับ ซึ่งพฤติกรรมการบริโภคของคนกลุ่มนี้จะระมัดระวังการใช้จ่ายมากกว่าคนรุ่นอื่นๆ และเลือกซื้อสินค้าและบริการมีคุณภาพสูง โดยกลุ่มนี้มักจะชอบการสะสมแต้มแลกของ มีระบบ Membership หรือโปรโมชั่นต่างๆ ก็ถือว่าสามารถดึงดูดคนกลุ่มนี้ได้ดี   Gen Y (ปี 2523 – 2540) ในภาคอีสานมีจำนวน 5,636,604 คน หรือคิดเป็นสัดส่วน 26.1% ของคนอีสาน โซเซียลมีเดียที่ใช้บ่อย คือ Facebook, TikTok และ Line ตามลำดับ ซึ่งพฤติกรรมการบริโภคของคนกลุ่มนี้มักจะซื้อสินค้าตามการรีวิวของ “อินฟลูฯ” และให้ความสำคัญเรื่องสุขภาพ เช่น เครื่องดื่ม Non-Caffeine อีกทั้งยังสนใจเรื่องที่อยู่หรืออสังหาริมทรัพย์ โดยยึดหลัก  “Finding happiness in a rented home”   Gen Z (ปี 2541 – 2565) ในภาคอีสานมีจำนวน 6,136,918

พาส่องเบิ่ง คนอีสาน แต่ละ Gen มีพฤติกรรมการบริโภคแตกต่างกันแค่ไหน? อ่านเพิ่มเติม »

🔎พาเปิดเบิ่ง ตัวอย่าง 8 ธุรกิจแดนอีสานที่เหมือนกัน ในตลาดหุ้น VS นอกตลาดหุ้น🏭💰

ภาคอีสานมีหลายบริษัทที่สามารถเข้าสู่ตลาดหุ้นได้ ซึ่งมีกว่า 17 บริษัท แต่อีสานอินไซต์จะขอยกตัวอย่างมาเพียง 8 ธุรกิจที่เหมือนกันทั้งในตลาดหุ้นและนอกตลาดหุ้น ซึ่งในภาคอีสานเองก็มีบริษัทใหญ่หลายบริษัทที่ยังไม่เข้าสู่ตลาดหุ้นและมีรายได้มากกว่าหลักร้อย-พันล้าน   จะเห็นได้ว่าประเภทธุรกิจอันดับที่ 1 – 6 บริษัทที่อยู่ในตลาดหุ้นก็จะมีรายได้รวมที่สูงกว่าบริษัทนอกตลาดหุ้น ซึ่งก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการที่บริษัทเข้าสู่ตลาดหุ้นนั้นก้เหมือนเป็นการเปิดประตูสู่โอกาสในการระดมเงินทุนจากนักลงทุนจำนวนมหาศาล ทั้งรายย่อยและสถาบัน ทำให้บริษัทมีเงินทุนเพียงพอในการลงทุนและทำให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด    และการที่บริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักหุ้นก็จะช่วยเสริมภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของบริษัท แสดงให้เห็นถึงความโปร่งใสและการกำกับดูแลกิจการที่ดี ซึ่งก็จะดึงดูดลูกค้า นักลงทุน และพันธมิตรทางธุรกิจให้เข้ามาร่วมงานกับบริษัทมากขึ้นอีกด้วย หรือแม้กระทั่ง​​เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนได้เสียในธุรกิจนั้น ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาเสนอแนะและปรับปรุงธุรกิจเดิมให้ดีขึ้น      แต่ก็ยังมีหลายบริษัทที่สามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องโดยที่ไม่ต้องเข้าสู่ตลาดหุ้น จะเห็นได้จากธุรกิจอันดับที่ 7 – 8 อย่าง    “บจก.ก้าวหน้าไก่สด” ที่มีรายได้มากกว่า 4,339 ล้านบาท และยังเป็นฟาร์มเลี้ยงไก่ที่มีรายได้มากเป็นอับดับที่ 5 ของประเทศเลยทีเดียว ก้าวหน้าไก่สดเป็นธุรกิจครอบครัวหลักพันล้านที่กว่าจะมาถึงวันนี้ ไม่ง่าย ผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านล้ม ผ่านลุก มานับไม่ถ้วน ซึ่งเป็นเรื่องของความตั้งใจจริงและไม่ล้มเลิกความฝัน คุณสุนีย์ ที่สู้ไม่ถอย สามารถพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส ในปี 40 ในช่วงฟองสบู่แตก นับเป็นจุดเปลี่ยน ที่ทำให้ขายได้เงินมากขึ้น และยังทำให้ก้าวหน้าไก่สดก็แข็งแรงขึ้น   และ “บจก.บ้านสาริน” ที่มีรายได้มากกว่า 912 ล้านบาท ถือว่าเป็นทุนท้องถิ่นยักษ์ใหญ่อสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดอุบลราชธานี ที่สามารถฟันฝ่าวิกฤต และเติบโตเป็นผู้นำตลาดบ้านจัดสรรอันดับต้นๆ ภายในจังหวัด ที่อยู่มานานกว่า 26 ปีแล้ว บ้านสารินมีโปรดักต์ตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่ม แต่ยังคงเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์แนวราบทั้งหมด คอนโดฯยังไม่มี ลูกค้าหลัก 60% ซื้อบ้านในราคาเฉลี่ย 2-4 ล้านบาท เป็นกลุ่มข้าราชการหรือพนักงานเงินเดือนประจำ ส่วนที่เหลือเป็นกลุ่มตลาดบนอย่างเจ้าของธุรกิจซึ่งมีอัตราการเติบโตอย่างเห็นได้ชัด     โดยทั้ง 2 บริษัทนี้ถือว่าเป็นบริษัทนอกตลาดหุ้นที่เติบโตอย่างมากเนื่องจากเป็นบริษัทใหญ่ที่มีสภาพคล่อง หรือมีความสามารถในการกู้ยืม เพียงพอต่อการขยายกิจการ อีกทั้งยังมีหลายปัจจัยภายในที่ยังไม่มีแพลนที่จะเข้าสู่ตลาดหุ้นในเร็วๆนี้     อ้างอิงจาก:  – ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย – กรมพัฒนาธุรกิจการค้า – Optiwise – เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ – ประชาชาติธุรกิจ   ติดตาม ISAN Insight & Outlook ทุกช่องทางได้ที่ https://linktr.ee/isan.insight   #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ISAN #อีสานอินไซต์ #Business #Economy #ธุรกิจ #เศรษฐกิจ #ธุรกิจอีสาน #เศรษฐกิจอีสาน #หุ้นในอีสาน #ตลาดหุ้น #ตลาดหลักทรัพย์ #บริษัทใหญ่ในอีสาน

🔎พาเปิดเบิ่ง ตัวอย่าง 8 ธุรกิจแดนอีสานที่เหมือนกัน ในตลาดหุ้น VS นอกตลาดหุ้น🏭💰 อ่านเพิ่มเติม »

🔎ชวนเบิ่ง ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ปี 2567 ในอีสานสูงกว่า 24,389 ล้านบาท

💸ภาคอีสานมีมูลค่าการจัดเก็บภาษีของกรมสรรพากรอยู่ 47,417 ล้านบาท โดยภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นประเภทภาษีที่มีมูลค่าการจัดเก็บภาษีได้มากที่สุดในอีสานกว่า 24,389 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนเกือบ 52% โดยเหตุผลที่ทำให้สามารถเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มได้มากที่สุด สาเหตุมาจากภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นภาษีทางอ้อมที่ผู้บริโภคทุกคนต้องจ่ายเพิ่ม เมื่อมีการซื้อสินค้าและบริการ จึงทำให้ภาษีมูลค่าเพิ่มมีการจัดเก็บได้มากที่สุด    5 อันดับจังหวัดที่มีการจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่มมากที่สุด – นครราชสีมา 5,410 ล้านบาท – ขอนแก่น 4,368 ล้านบาท – อุบลราชธานี 2,357 ล้านบาท – อุดรธานี 1,730 ล้านบาท – บุรีรัมย์ 1,236 ล้านบาท . จะเห็นได้ว่าจังหวัดที่มีการจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่มมากที่สุดจะอยู่ใน 2 จังหวัดหลักของอีสาน อย่างนครราชสีมาและขอนแก่น เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีประชากรหนาแน่นและมีรายได้เฉลี่ยค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับจังหวัดอื่นๆ ในภาคอีสาน ทำให้มีกำลังซื้อสินค้าและบริการสูงตามไปด้วย ซึ่งส่งผลให้เกิดการจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น   ทั้งยังเป็นศูนย์กลางการค้า การลงทุน และการคมนาคมขนส่ง ทำให้มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หลากหลายและเกิดการซื้อขายสินค้าและบริการจำนวนมาก ซึ่งเป็นฐานภาษีมูลค่าเพิ่มที่สำคัญ    อีกทั้งยังมีภาคอุตสาหกรรมที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร อุตสาหกรรมยานยนต์ และอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง การผลิตสินค้าในปริมาณมาก ส่งผลให้เกิดการจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่มในขั้นตอนการผลิตและการจำหน่ายสินค้า   นอกจากภาคอุตสาหกรรมแล้ว ภาคบริการในทั้ง 2 จังหวัดก็เติบโตอย่างรวดเร็ว เช่น ภาคการท่องเที่ยว ภาคการค้าปลีก และภาคบริการอื่นๆอซึ่งกิจกรรมเหล่านี้ล้วนแต่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายสินค้าและบริการที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม     อ้างอิงจาก: – กรมสรรพากร   ติดตาม ISAN Insight & Outlook ทุกช่องทางได้ที่ https://linktr.ee/isan.insight   #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ISAN #อีสานอินไซต์ #Business #Economy #ธุรกิจ #เศรษฐกิจ #ธุรกิจอีสาน #เศรษฐกิจอีสาน #ภาษีมูลค่าเพิ่ม #ภาษี #ภาษีเงินได้นิติบุคคล #ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา #สรรพากร

🔎ชวนเบิ่ง ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ปี 2567 ในอีสานสูงกว่า 24,389 ล้านบาท อ่านเพิ่มเติม »

Scroll to Top