Siree Jamsuwan

10 อันดับ สินค้า OTOP อีสาน  ไตรมาสแรก 2566 ทำรายได้เท่าใด๋ ?

10 อันดับ สินค้า OTOP อีสาน  ไตรมาสแรก 2566 ทำรายได้เท่าใด๋ ?   ส่องยอดขายสินค้า OTOP อีสานสูงสุด 10 อันดับ ในไตรมาสแรก ของปี 2566 สินค้า OTOP (One Tambon One Product) เป็นสินค้าที่ผลิตและจำหน่ายในท้องถิ่น ในแต่ละตำบล สะท้อนเอกลักษณ์และวัฒนธรรมของแต่ละพื้นที่ได้อย่างชัดเจน ซึ่งมีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องปีละ 10-20% ตั้งแต่ปี 2546 ในอนาคต สินค้าโอทอปหรือผลิตภัณฑ์ชุมชนจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงไปพร้อมกับสถานการณ์ของโลก โดยเฉพาะหลังโควิด-19 ซึ่งผู้บริโภคให้คุณค่ากับสิ่งต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความยั่งยืน ความเท่าเทียม ความแท้จริง ความหลากหลาย และสุขภาพที่ดี คุณค่าเหล่านี้จะต้องเข้าไปอยู่ในผลิตภัณฑ์โอทอปยุคใหม่   นอกจากนี้ โลกได้เข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ ช่องทางออนไลน์และการชำระเงินแบบ cashless มีความสะดวกง่ายดาย โอกาสจึงเปิดขึ้นมาก โดยเฉพาะหากได้คนรุ่นใหม่ที่มีความรู้และคล่องเทคโนโลยี มีความคิดสร้างสรรค์ ได้มีโอกาสกลับบ้านเกิด ภาครัฐจึงควรมีโครงการจูงใจให้คนกลับบ้าน สร้าง OTOP Academy เพื่อให้คนรุ่นใหม่เหล่านี้กลับเข้าไปชุบชีวิตผลิตภัณฑ์เดิม ต่อยอดผลิตภัณฑ์ให้สอดรับกับเทรนด์การบริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป    อ้างอิงจาก: กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย https://www.bangkokbiznews.com/columnist/1013822    #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #OTOP #สินค้าOTOP #ขอนแก่น #นครราชสีมา #ศรีสะเกษ #อุบลราชธานี #อุดรธานี #ร้อยเอ็ด #กาฬสินธุ์ #สกลนคร #สุรินทร์ #มหาสารคาม

ปังหลาย “ขอนแก่น” เป็นที่ 1 ปลายทางท่องเที่ยว คุ้มค่าที่สุดเอเชียแปซิฟิก

ปังหลาย “ขอนแก่น” เป็นที่ 1 ปลายทางท่องเที่ยว คุ้มค่าที่สุดเอเชียแปซิฟิก   Agoda จัดอันดับ “จ.ขอนแก่น” เป็นอันดับ 1 จุดหมายปลายการท่องเที่ยวที่คุ้มค่าที่สุดในเอเชียแปซิฟิก ช่วงเมษายน 2566 พร้อมส่งเสริมการท่องเที่ยวเทศกาลสงกรานต์     จังหวัดขอนแก่น ติดอันดับ 1 จากทั้งหมด 10 แหล่งจุดหมายปลายการท่องเที่ยวที่คุ้มค่าที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ช่วงเดือนเมษายน 2566 (10 Most Affordable Destinations in Asia Pacific 2023) จาก Agoda แพลตฟอร์มดิจิทัลด้านการท่องเที่ยวระดับโลก ตอกย้ำความนิยมในแหล่งท่องเที่ยวของไทย พร้อมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม (Cultural Tourism) ช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้   จากเว็บไซต์ Travel Daily News ซึ่งเป็นสื่อออนไลน์ด้านการท่องเที่ยวทั่วโลก ได้เผยแพร่รายงานการจัดอันดับดังกล่าว ซึ่ง Agoda ได้วิเคราะห์ราคาเฉลี่ยห้องพักของแหล่งท่องเที่ยวที่คุ้มค่า ราคาย่อมเยาที่สุดในช่วงเดือนเมษายน 2566 ซึ่งจังหวัดขอนแก่น ได้รับอันดับ 1 จุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่มีราคาห้องพักคุ้มค่าที่สุดในเดือนเมษายน 2566 นี้ ด้วยราคาเฉลี่ย คืนละ 1,030 บาท นอกจากนี้ เมื่อเทียบราคาเฉลี่ยห้องพักในประเทศไทยรองจากขอนแก่น 4 อำเภอ/จังหวัด ที่ราคาคุ้มค่าเช่นกัน ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครราชสีมา อุดรธานี และหาดใหญ่ ตามลำดับ   นอกจากนี้ ยังเป็นอีกหนึ่งสถานที่จัดเทศกาลสงกรานต์ (วันปีใหม่ไทย) ได้ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งเริ่มงานตั้งแต่วันที่ 13-15 เมษายน 2566 นี้ ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้เยี่ยมชมบึงแก่นนครและเตรียมพร้อมกับการเล่นสาดน้ำอย่างสนุกสนานในช่วงเทศกาลที่ถือได้ว่าน่าตื่นตาตื่นใจที่สุดงานหนึ่งของเอเชีย อีกทั้ง จังหวัดขอนแก่นยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็น Hidden gems อีกหลายแห่งที่น่าสนใจ โดยจังหวัดขอนแก่นได้รับสมญานามว่าเป็นดินแดนไดโนเสาร์ของประเทศไทย แต่ยังมีความเป็นเมืองที่ทันสมัย เป็นที่ตั้งของร้านกาแฟที่อยู่ในกระแสนิยมมากมาย รวมทั้งมีทะเลสาบประจำเมืองที่สามารถจัดงานเทศกาลได้ตลอดทั้งปี มีตลาดโต้รุ่งต้นตาล ซึ่งเป็นแหล่งรวมอาหารหลากหลาย ซึ่งโฆษกรัฐบาลระบุว่า จังหวัดขอนแก่นถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่าง ที่สามารถนำผลตอบรับดังกล่าวไปเป็นแนวทางส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม (Cultural Tourism) โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลเพื่อยกระดับประเพณีพื้นเมืองของไทยให้เป็นที่รู้จัก กระตุ้นการท่องเที่ยวได้อย่างต่อเนื่อง   ทั้งนี้ 10 จุดหมายปลายการท่องเที่ยวที่คุ้มค่าที่สุดในเอเชียแปซิฟิก ช่วงเดือนเมษายน 2566 มีการจัดลำดับดังนี้  ขอนแก่น ประเทศไทย Sibu มาเลเซีย Surakarta อินโดนีเซีย Puri อินเดีย Bacolod ฟิลิปปินส์ Ninh Binh เวียดนาม Chiba ญี่ปุ่น Gwangju เกาหลีใต้ หมู่เกาะ Kinmen ไต้หวัน …

ปังหลาย “ขอนแก่น” เป็นที่ 1 ปลายทางท่องเที่ยว คุ้มค่าที่สุดเอเชียแปซิฟิก อ่านเพิ่มเติม »

สถิติโรงเรียนสอนขับรถ ปี 2565  เป็นจั้งใด๋ ? 

สถิติโรงเรียนสอนขับรถ ปี 2565  เป็นจั้งใด๋ ?    โรงเรียนสอนขับรถที่กรมการขนส่งทางบกให้การรับรอง ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565 มีจำนวน 314 แห่ง  โดยมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด เนื่องจากกรมการขนส่งทางบกได้มีมาตรการแนะนำ ส่งเสริมพร้อมให้คำปรึกษากับเอกชนที่มีความพร้อม เปิดโรงเรียนสอนขับรถที่ได้มาตรฐาน ภายใต้การกำกับดูแลของกรมการขนส่งทางบก    อ้างอิงจาก : สำนักสวัสดิภาพการขนส่ง   #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์ #โรงเรียนสอนขับรถ #ขับรถ #รถยนต์ #รถจักรยานยนต์ #รถมอเตอร์ไซต์ 

มาฮู้จัก 10 เทรนด์ EdTech in 2023 เทคโนโลยีการศึกษาเพื่อการเรียนรู้ยุคใหม่

มาฮู้จัก 10 เทรนด์ EdTech in 2023 เทคโนโลยีการศึกษาเพื่อการเรียนรู้ยุคใหม่ . . 1. Personalized Learning การเรียนการสอนให้มีความเฉพาะบุคคล เลือกเรียนได้ตามความสนใจ เมื่อผู้เรียนแต่ละคนมีอัตราการเรียนรู้หรือความสนใจเนื้อหาที่ต่างกันออกไป การสอนด้วยวิธีการเดียวอาจไม่ได้ผลดีเท่าที่ควรเพราะบทเรียนไม่ได้สนองตอบต่อผู้เรียนเป็นรายบุคคล ดังนั้น การเรียนการสอนยุคใหม่จึงถูกปรับให้มีความเฉพาะบุคคลมากขึ้นยกตัวอย่างแพลตฟอร์มความบันเทิงต่าง ๆ ที่ต้องนำเสนอคอนเทนต์ที่น่าสนใจสำหรับผู้ชมแต่ละคน การนำเสนอบทเรียนเฉพาะบุคคลจะช่วยให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมกับการเรียนรู้ได้ดีกว่า การนำเสนอบทเรียนเดียวแก่ผู้เรียนหลายคน . ผู้พัฒนาโปรแกรมการเรียนรู้หรือออกแบบการเรียนการสอนจึงอาศัยการเก็บข้อมูลเพื่อนำมาวิเคราะห์ผู้เรียนสำหรับการออกแบบบทเรียนที่เหมาะสมกับความสามารถของนักเรียนแต่ละคน ซึ่งผู้เรียนสามารถเลือกเรียนวิชาได้ตามความสนใจ ติดตามความคืบหน้า และโฟกัสไปที่จุดอ่อนของตัวเองได้อย่างตรงจุดมากขึ้นจึงถือว่าเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่จะเข้ามามีอิทธิพลมากขึ้นในช่วงปีนี้ . 2. Subscription-based Model for Learning การเรียนรู้แบบสมาชิกรายเดือนหรือรายปี และเรียนกี่วิชาก็ได้ภายในระยะเวลาที่เป็นสมาชิกอยู่ ซึ่งต่างจากการเรียนออนไลน์แบบเดิมที่ผู้เรียนต้องเลือกชำระเงินเรียนทีละรายวิชาและต้องเรียนให้จบเพื่อรับใบประกาศนียบัตร จึงเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ลองเรียนหลาย ๆ วิชา และเข้าถึงเนื้อหาสื่อการเรียนรู้ของคอร์สหรือหลักสูตรได้ทั้งหมด และผู้เรียนมีสิทธิ์ที่จะสามารถเปลี่ยนไปเรียนคอร์สอื่นกลางคันหรือข้ามไปยังบทเรียนอื่นได้ ซึ่งถือว่าผู้เรียนมีความยืดหยุ่นและตัวเลือกในการเรียนมากขึ้นกว่าเดิม . 3. Hybrid Learning / Blended Learning การเรียนแบบผสมผสานรูปแบบใหม่ ยืดหยุ่นและปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ สถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ส่งผลให้เทคโนโลยีการศึกษาบูมขึ้นมา ทำให้สถานศึกษาทั่วโลกต่างต้องหันมาสอนทางออนไลน์กันมากขึ้น และเมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดคลี่คลาย หลาย ๆ โรงเรียนก็เริ่มใช้การสอนแบบ Hybrid Learning ที่ครูอาจารย์สอนในห้องที่มีนักเรียนอยู่ที่โรงเรียน พร้อมกับถ่ายทอดสดไปยังผู้เรียนออนไลน์ที่อยู่ทางบ้าน ลักษณะการเรียนการสอนรูปแบบนี้จึงเป็นที่นิยมอย่างมากเพราะความยืดหยุ่นที่ไม่ยึดติดกับข้อจำกัดเรื่องสถานที่ . 4. Nano Learning / Bite-sized Learning การให้เด็กเรียนรู้ในระยะเวลาเพียงสั้นๆ ต่อครั้ง แบ่งย่อยเนื้อหาเป็นส่วน ๆ เพื่อให้ผู้เรียนสามารถรับข้อมูลขนาดกำลังพอดีผ่านสื่อการเรียนรู้ในเวลาที่จำกัดได้ในช่วงเวลาตั้งแต่ 2 – 10 นาที ทำให้ผู้เรียนเข้าใจและเรียนรู้เนื้อหาได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากกว่าการถ่ายทอดบทเรียนเป็นชั่วโมงซึ่งอาจทำให้เกิดความเหนื่อยล้าจากการใช้สมาธิต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานได้ . เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะช่วง Gen Z ที่คุ้นเคยกับการเสพสื่อคอนเทนต์สั้น ๆ อาจเนื่องด้วยค่าเฉลี่ยระยะเวลาความสนใจของคนที่ลดลง ดังนั้น ในปี 2023 นี้คาดว่าน่าจะมีคนที่หันมาเรียนในรูปแบบ Nano Learning หรือ Bite-sized Learning กันมากขึ้น . 5. Gamification ฝึกทักษะแก้โจทย์ปัญหา พัฒนาทักษะและเรียนรู้ผ่านเกม เพื่อให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมเพิ่มขึ้น พัฒนาทักษะและเรียนรู้ผ่านเกมได้อย่างมีประสิทธิผลสูงสุด อีกทั้งยังช่วยทบทวนความจำและทำให้เรื่องยาก ๆ เข้าใจได้ง่าย ตอบโจทย์วัตถุประสงค์การเรียนรู้ กระตุ้นผู้เรียนให้บรรลุเป้าพร้อมกับได้รับฟีดแบ็กทันที . การใช้เกมกับการเรียนรู้ไม่ได้ใช้แค่ในเฉพาะกลุ่มนักเรียนในสถานศึกษา แต่ยังรวมไปถึงการใช้ฝึกพนักงานตามบริษัทด้วย เพราะโดยธรรมชาติแล้วคนทุกช่วงวัยต่างชอบเล่นเกมด้วยความรู้สึกท้าทายอยากเอาชนะในแต่ละด่าน เมื่อเกมเข้ามาเป็นตัวกลาง ก็ทำให้ผู้เรียนรู้สึกสนุกเพลิดเพลิน และรู้สึกมีส่วนร่วมกับบทเรียนมากยิ่งขึ้นไปด้วย . 6. Augmented Reality & Virtual Reality ใช้ AR และ VR จำลองบทเรียนหรือแนวคิดที่ซับซ้อนให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น …

มาฮู้จัก 10 เทรนด์ EdTech in 2023 เทคโนโลยีการศึกษาเพื่อการเรียนรู้ยุคใหม่ อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง 5 อันดับ ต่างชาติมาเรียนในอีสาน หลายปานใด๋ ?

พามาเบิ่ง 5 อันดับ  ต่างชาติมาเรียนในอีสาน หลายปานใด๋ ?    อ้างอิงจาก : กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)   #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์ #ต่างชาติ #นักเรียนต่างชาติ #นักเรียนแลกเปลี่ยน #อาเซียน 

พามาเบิ่ง สถิติสงกรานต์ในยุค COVID-19 ปี 2564

พามาเบิ่ง สถิติสงกรานต์ในยุค COVID-19 ปี 2564   สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อกรณี “สงกรานต์ในยุคโควิด-19” กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,324 คน สำรวจวันที่ 3 – 9 เมษายน 2564  จากผลสำรวจพบว่า ถึงแม้จะมีโควิด-19 แต่วันสงกรานต์ยังเป็นเทศกาลที่ประชาชนให้ความสำคัญและใช้เวลากับครอบครัว สรงน้ำพระ รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ เนื่องจากเป็นวัฒนธรรมประเพณีไทยที่ยึดถือปฏิบัติกันมายาวนาน โดยในปีนี้ถึงแม้มีวันหยุดหลายวัน แต่ประชาชนก็คาดการณ์ว่าจะใช้จ่ายไม่มากนัก เพราะยังอยู่ในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ และยังมีความไม่แน่นอนจากสภาวการณ์โควิด-19 ดังนั้น ภาครัฐจึงควรเร่งบริหารงานด้านสาธารณสุขให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพื่อให้ประชาชนมั่นใจ กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยเร็ว    ดร.วรานี เวสสุนทรเทพ รองอธิการบดีฝ่ายวิทยาเขตสุพรรณบุรี  มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยว่า เทศกาลสงกรานต์ในปี 2564 นี้ คนไทยก็ยังต้องเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโควิด-19 อยู่ เพราะตัวเลขของผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น โดยภาพรวมของเทศกาลสงกรานต์ในปีนี้ประชาชนยังคงเดินทางกลับภูมิลำเนา เนื่องจากปีที่แล้วถูกงด และรัฐบาลไม่ได้ประกาศ Lock Down ซึ่งอาจช่วยให้เศรษฐกิจในช่วงเทศกาลนี้หมุนเวียนขึ้นมาบ้าง  ในส่วนของการสืบสานวัฒนธรรมประเพณีสงกรานต์ยังคงมีการทำบุญที่วัด สรงน้ำพระ แต่ละวัดต้องมีมาตรการโควิด-19 อย่างเข้มงวด เว้นระยะห่าง ล้างมือ และอีกหลายๆ มาตรการ การสืบทอดและฉายภาพของวัฒนธรรมไทยมีการรดน้ำขอพรผู้ใหญ่ ทำบุญที่วัดใกล้บ้าน การจัดนิทรรศการประเพณีสงกรานต์ และหน่วยงานภาคเอกชน เช่น ห้างสรรพสินค้าได้มีการจัดกิจกรรมที่จะฉายภาพประเพณีของแต่ละท้องถิ่นให้คนเข้าชม และที่สำคัญประชาชนนิยมใช้สื่อออนไลน์มากขึ้น ในการรดน้ำอวยพรทั้งทางไลน์ เฟซบุ๊ก วันหยุดยาวนี้จึงเชื่อได้ว่าจะนำพาความสุขและกลิ่นอายของความสดชื่นจากเทศกาลสงกรานต์อย่างแน่นอน   อ้างอิงจาก : สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต   #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์ #สงกรานต์ในยุคโควิด-19 #สวนดุสิตโพล #SongkranFestival2023 #Songkran2023 #สงกรานต์2566 #เล่นน้ำสงกรานต์2566   

สงกรานต์ 2566 เล่นน้ำหม่องใด๋ดี ?  10 จุดใหญ่ ทั่วอีสานใกล้หม่องใด๋ ไปหม่องนั่น

สงกรานต์ 2566 เล่นน้ำหม่องใด๋ดี ?  10 จุดใหญ่ ทั่วอีสานใกล้หม่องใด๋ ไปหม่องนั่น   ประเพณีสงกรานต์ หนึ่งในประเพณีของประเทศไทยที่สืบทอด และมีประวัติมาอย่างยาวนาน เนื่องจากวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวไทยตั้งแต่โบราณ ทำให้ประเพณีสงกรานต์นี้อบอวลไปด้วยมนต์เสน่ห์มากมาย สงกรานต์ หมายถึง การก้าวผ่าน และเปลี่ยนผ่าน ทำให้วันสงกรานต์เป็นวันขึ้นปีใหม่ของชาวไทยที่มีมาก่อนวันปีใหม่ในช่วงคริสต์ศักราช ประเพณีสงกรานต์มีกิจกรรมที่รู้จักทั่วโลก คือ การเล่นสาดน้ำคลายร้อน นอกจากประเทศไทยแล้วประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ลาว พม่า กัมพูชา ก็มีประเพณีวันสงกรานต์เช่นเดียวกัน     วันนี้ ISAN Insight จะพามาเบิ่ง 10 จุดเล่นในภาคอีสานดังนี้  งานสุดยอดสงกรานต์อีสาน เทศกาลดอกคูน เสียงแคน และถนนข้าวเหนียว สถานที่ : ถนนข้าวเหนียว จังหวัดขอนแก่น วันที่ : 8-15 เมษายน 2566 ณ บึงแก่นนคร และถนนศรีจันทร์ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น – ชมการประกวดเกวียนบุปผชาติ, ร่วมพิธีรดน้ำผู้สูงอายุ, กิจกรรมสงกรานต์ถนนข้าวเหนียว (บริเวณถนนศรีจันทร์) และชมการสาธิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP Elephant Songkran Festival จังหวัดสุรินทร์ สถานที่ : คชอาณาจักร (สวนสัตว์จังหวัดสุรินทร์) อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ วันที่ : 10-17 เมษายน 2566 เล่นสงกรานต์กับช้างที่คชอาณาจักร (สวนสัตว์จังหวัดสุรินทร์) อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ – สาดน้ำกับเหล่าบรรดาน้องช้างแสนรู้กว่า 50 เชือก ตลอด 7 วัน 7 คืน งานมหาสงกรานต์อีสาน – หนองคาย สถานที่ : ณ วัดโพธิ์ชัย จังหวัดหนองคาย วันที่ : 12-17 เมษายน 2566 งานมหาสงกรานต์อีสาน จังหวัดหนองคาย ทำบุญตักบาตร พิธีอัญเชิญองค์หลวงพ่อพระใสประดิษฐานบนราชรถแห่งรอบอุโบสถแห่รอบเมืองหนองคาย ประเพณีสงกรานต์เมืองร้อยเอ็ด สถานที่ : ณ บึงพลาญชัยและสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ร้อยเอ็ด อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด วันที่ : 13-15 เมษายน 2566 ประเพณีสงกรานต์เมืองร้อยเอ็ดจัด ณ บึงพลาญชัยและสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ร้อยเอ็ด ปล่อยปลา ทำบุญเพื่อเป็นสิริมงคลรับปีใหม่ไทย ทำบุญตักบาตร ปล่อยนก ปล่อยปลา รดน้ำดำหัวผู้สูงอายุในจังหวัด เพื่อเป็นสิริมงคลตลอดปีใหม่ไทย สงกรานต์บุรีรัมย์ 2566 สถานที่ …

สงกรานต์ 2566 เล่นน้ำหม่องใด๋ดี ?  10 จุดใหญ่ ทั่วอีสานใกล้หม่องใด๋ ไปหม่องนั่น อ่านเพิ่มเติม »

เงินเฟ้อทั่วไป เดือนมีนาคม 2566 ภาคอีสาน เป็นจั้งใด๋ ? 

เงินเฟ้อทั่วไป เดือนมีนาคม 2566 ภาคอีสาน เป็นจั้งใด๋ ?    ดัชนีราคาผู้บริโภค  เป็นตัวชี้วัดการเปลี่ยนแปลงราคาสินค้าและบริการ  โดยเฉลี่ยที่ผู้บริโภคจ่ายไป   สำหรับกลุ่มสินค้าและบริการที่กำหนด ดัชนีราคาผู้บริโภคของไทยเดือนมีนาคม 2566 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน สูงขึ้น 2.75% (YoY) เมื่อพิจารณาเป็นรายสินค้าในภาพรวมทั้งประเทศ พบว่า สินค้าสำคัญที่ราคาปรับตัวสูงขึ้นในทุกภาค ได้แก่ ค่ากระแสไฟฟ้า ก๊าซหุงต้ม อาหารกลางวัน (ข้าวราดแกง) กับข้าวสำเร็จรูป ไก่สด และมะนาว สำหรับสินค้าสำคัญที่ราคาลดลงในทุกภาคได้แก่ เนื้อสุกร น้ำมันพืช น้ำมันเชื้อเพลิง เป็นต้น   แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อไตรมาสที่ 2 ปี 2566 มีแนวโน้มชะลอตัว เนื่องจากราคาสินค้าสำคัญหลายรายการมีแนวโน้มลดลง โดยเฉพาะน้ำมันเชื้อเพลิงที่ส่งผลทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อเงินเฟ้อ ประกอบกับฐานราคาปี 2565 อยู่ระดับสูง และมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพของ ภาครัฐที่มีอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ การส่งออกของไทยที่ชะลอตัว และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย อาจจะส่งผลให้กำลังซื้อของภาคธุรกิจและประชาชนลดลง ซึ่งมีส่วนทำให้อัตราเงินเฟ้อชะลอตัว  อย่างไรก็ตาม ค่าไฟฟ้า และก๊าซหุงต้มที่ยังอยู่ระดับสูง รวมทั้งการขาดแคลนแรงงานยังคงเป็นสาเหตุที่ทำให้ต้นทุนอยู่ระดับสูง นอกจากนี้ เศรษฐกิจของไทยที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเทศกาลสงกรานต์ วันหยุดยาว และ การหาเสียงของพรรคการเมือง ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจมีมากขึ้น และจะส่งผลต่ออุปสงค์โดยรวม ราคาสินค้าและบริการ ตามลำดับซึ่งจะต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้ปรับตัวเลขคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อทั่วไป ปี 2566 เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบันจากระหว่างร้อยละ 2.0 –3.0 (ค่ากลาง 2.5) เป็นระหว่างร้อยละ 1.7 – 2.7 (ค่ากลาง 2.2) และหากสถานการณ์เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญจะมีการทบทวนอีกครั้ง   อ้างอิงจาก : สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์   #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์ #เงินเฟ้อ #เงินเฟ้ออีสาน #ดัชนีราคาผู้บริโภค 

พามาเบิ่ง ค่าใช้จ่ายครัวเรือนหลายปานใด๋ ? (เดือนมีนาคม 2566)

พามาเบิ่ง ค่าใช้จ่ายครัวเรือนหลายปานใด๋ ? (เดือนมีนาคม 2566)   อ้างอิงจาก : สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์   #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์ #เงินเฟ้อ #เงินเฟ้ออีสาน #ดัชนีราคาผู้บริโภค #ค่าใช้จ่ายครัวเรือน

โครงการ U2T ภาคอีสาน ผลลัพธ์เป็นจั้งใด๋ ? 

โครงการ U2T ภาคอีสาน ผลลัพธ์เป็นจั้งใด๋ ?  กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ร่วมมือกับ อุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี Science Park ,คลินิกเทคโนโลยี ผู้ผลิตสินค้าระดับโอทอป (OTOP) และ หน่วยบ่มเพาะวิสาหกิจในสถาบันอุดมศึกษา นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมพัฒนาผลิตภัณฑ์ของชุมชนรูปแบบต่างๆ จนได้ผลผลิตภูมิปัญญาชุมชน ต่อยอดเป็นสินค้าที่จัดจำหน่ายให้กับผู้บริโภคได้ทั้งในและต่างประเทศ ช่วยกระจายความรู้ ลดปัญหาการว่างงาน โดยมีผลลัพธ์ของภาคอีสานดังภาพและ อีกทั้งยังมีผลผลิตของโครงการโดยแบ่งได้ดังนี้ . ผลผลิตของโครงการ U2T เกิดการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมในพื้นที่ที่มีความครอบคลุมในประเด็นต่างๆ ตามปัญหาและความต้องการของชุมชน ได้แก่การพัฒนาสัมมาชีพและสร้างอาชีพใหม่ (การยกระดับสินค้า OTOP/อาชีพอื่นๆ) การสร้างและพัฒนา Creative Economy (การยกระดับการท่องเที่ยว) การนำองค์ความรู้ไปช่วยบริการชุมชน และการส่งเสริมด้านสิ่งแวดล้อม/Circular Economy (การเพิ่มรายได้หมุนเวียนให้แก่ชุมชน) ที่ส่งผลต่อการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมของตำบลเป้าหมาย   เกิดการจ้างงานที่ตอบสนองต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมในพื้นที่ โดยในระยะแรกดำเนินการใน 3,000 ตำบลมีการจ้างงานประชาชนทั่วไป บัณฑิตจบใหม่ นักศึกษา ตามความเหมาะสมของแต่ละตำบล รวมจำนวนไม่น้อยกว่า 60,000 คน โดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ 2.1 ส่วนการปฏิบัติงานตามภารกิจในภาพรวม คือ การวิเคราะห์ข้อมูล วางแผนและตัดสินใจ เพื่อจัดทำนโยบาย แนวทาง และงบประมาณสนับสนุน (เป็นการจัดการข้อมูลที่ได้จากการจัดเก็บข้อมูลของโครงการพัฒนาตำบลแบบบูรณาการของกระทรวงมหาดไทย) การเฝ้าระวัง ประสานงานและติดตามข้อมูลสถานการณ์การระบาดของ COVID และโรคระบาดใหม่ การเฝ้าระวังและติดตามผู้ป่วยและกลุ่มเสี่ยง การส่งต่อการรักษา การประชาสัมพันธ์แจ้งข้อมูลข่าวสาร การปรับสภาพแวดล้อม ระบบรายงานสถานการณ์การระบาดของโรค (การสอบสวนโลก การคัดกรอง จัดระดับกลุ่มเสี่ยง กลุ่มสงสัย กลุ่มสัมผัส การวิเคราะห์สถานการณ์แนวโน้มการระบาดในพื้นที่) โดยร่วมกับ ศบค. และการจัดทำข้อมูลราชการในพื้นที่เป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ (Digitalizing Government Data) ร่วมกับ กพร. 2.2 ส่วนการปฏิบัติงานตามกิจกรรมยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลของมหาวิทยาลัย รวมถึงเกิดกิจกรรมเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมในพื้นที่ ที่มีความครอบคลุมในประเด็นต่างๆ รายตำบลตามโจทย์ปัญหาต่างๆของแต่ละตำบล ได้แก่ การพัฒนาสัมมาชีพและสร้างอาชีพใหม่ (การยกระดับสินค้า OTOP/อาชีพอื่นๆ) การสร้างและพัฒนา Creative Economy (การยกระดับ การท่องเที่ยว) การนาองค์ความรู้ไปช่วยบริการชุมชน (Health Care/เทคโนโลยีด้านต่างๆ) และการส่งเสริมด้านสิ่งแวดล้อม/Circular Economy (การเพิ่มรายได้หมุนเวียนให้แก่ชุมชน)   เกิดเครือข่ายความร่วมมือในการพัฒนาและฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมในพื้นที่ ระหว่างสถาบันอุดมศึกษาและชุมชน.สอวช. สนับสนุนแนวทางส่งเสริมและผลักดันการพลิกโฉมการอุดมศึกษา เพื่อส่งเสริมให้สถาบันอุดมศึกษาปรับเปลี่ยนบทบาทให้ตอบโจทย์ทั้งการพัฒนากำลังคน การวิจัย นวัตกรรม ที่สอดคล้องกับบริบทประเทศและสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลงไป อีกทั้งส่งเสริมให้สถาบันอุดมศึกษาเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม เทคโนโลยี และวิถีชีวิตของประชาชน โดยมุ่งหวังว่าชุมชนท้องถิ่นในแต่ละพื้นที่ของประเทศจะมีขีดความสามารถ เข้มแข็ง ต่อยอดธุรกิจ และสามารถบริหารจัดการตนเองได้ ด้วยการนำศักยภาพด้านการอุดมศึกษาเข้าไปเป็นพี่เลี้ยง อ้างอิงจาก:  สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ …

โครงการ U2T ภาคอีสาน ผลลัพธ์เป็นจั้งใด๋ ?  อ่านเพิ่มเติม »

Scroll to Top