พาส่องเบิ่ง GPP อีสานปีล่าสุด 2566 จังหวัด Big 5 of ISAN มีมูลค่ามากกว่า 50% ของขนาดเศรษฐกิจทั้งภาคอีสาน

จังหวัด GPP
นครราชสีมา 343,510 ล้านบาท
ขอนแก่น 225,107 ล้านบาท
อุบลราชธานี 143,160 ล้านบาท
อุดรธานี 124,478 ล้านบาท
บุรีรัมย์ 108,467 ล้านบาท
สุรินทร์ 92,775 ล้านบาท
ร้อยเอ็ด 85,660 ล้านบาท
ศรีสะเกษ 83,905 ล้านบาท
ชัยภูมิ 78,665 ล้านบาท
สกลนคร 71,494 ล้านบาท
มหาสารคาม 69,450 ล้านบาท
กาฬสินธุ์ 66,077 ล้านบาท
เลย 62,798 ล้านบาท
นครพนม 52,184 ล้านบาท
หนองคาย 48,887 ล้านบาท
ยโสธร 34,343 ล้านบาท
หนองบัวลำภู 32,332 ล้านบาท
มุกดาหาร 31,189 ล้านบาท
บึงกาฬ 29,879 ล้านบาท
อำนาจเจริญ 24,053 ล้านบาท

 

โครงสร้างเศรษฐกิจ

ภาคการบริการ 816,521 ล้านบาท
ภาคการผลิต 386,347 ล้านบาท
ภาคการเกษตร 378,955 ล้านบาท
ภาคการค้า 226,591 ล้านบาท

 

GRP ในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา

ปี 2552 ปี 2554 ปี 2556 ปี 2558 ปี 2560 ปี 2562 ปี 2564 ปี 2566
938,863 ล้านบาท 1,150,743 ล้านบาท 1,373,084 ล้านบาท 1,363,564 ล้านบาท 1,510,987 ล้านบาท 1,580,912 ล้านบาท 1,691,117 ล้านบาท 1,808,413 ล้านบาท

 

มูลค่าเศรษฐกิจภาคอีสานเติบโตขึ้นกว่า 93% เมื่อเทียบกับปี 2552

หมายเหตุ: GPP (ผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด) = ผลรวมของมูลค่าการผลิตสินค้าและบริการขั้นสุดท้าย (Final Product) ของจังหวัดต่างๆ

 

GPP อีสานปีล่าสุด 2566 จังหวัด Big 5 of ISAN มีมูลค่ามากกว่า 50% ของขนาดเศรษฐกิจทั้งภาคอีสาน

.

.

ในปี 2566 ภาคอีสานมีมูลค่าเศรษฐกิจรวมกว่า 1,808,413 ล้านบาท ซึ่งมูลค่าในส่วนนี้ คิดเป็นสัดส่วนได้เพียง 10.1% ของมูลค่า GDP ของประเทศไทยทั้งประเทศ ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 18 ล้านล้านบาท

.

ในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา (พ.ศ. 2552 – 2566) เผยให้เห็นภาพรวมของการเติบโตทางเศรษฐกิจที่น่าสนใจ ที่มีการเติบโตกว่า 93% เมื่อเทียบกับปี 2552 การพิจารณาข้อมูล GRP เป็นรายปีแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหลังปี 2556 ที่ GRP มีอัตราการเติบโตที่เร่งตัวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด การเพิ่มขึ้นจาก 1,373,084 ล้านบาท ในปี 2556 สู่ 1,808,413 ล้านบาท ในปี 2566 เป็นสัญญาณบวกที่แสดงถึงศักยภาพทางเศรษฐกิจของภูมิภาค

.

5 อันดับจังหวัดที่มี GPP สูงสุด

  1.  นครราชสีมา มีมูลค่าเศรษฐกิจเท่ากับ 343,510 ล้านบาท
  2.  ขอนแก่น มีมูลค่าเศรษฐกิจเท่ากับ 225,107 ล้านบาท
  3.  อุบลราชธานี มีมูลค่าเศรษฐกิจเท่ากับ 143,160 ล้านบาท
  4.  อุดรธานี มีมูลค่าเศรษฐกิจเท่ากับ 124,478 ล้านบาท
  5.  บุรีรัมย์ มีมูลค่าเศรษฐกิจเท่ากับ 108,467 ล้านบาท

.

จะเห็นว่า จังหวัดที่กล่าวมา มีมูลค่าเศรษฐกิจรวมกันกว่า 944,723 ล้านบาท หรือ 52.2% ของมูลค่าเศรษฐกิจทั้งภาคอีสาน แสดงให้เห็นว่า ความมั่งคั่งของคนในภาคอีสานมีความกระจุกตัวอยู่เพียงไม่กี่จังหวัด ทำให้เกิดปัญหาที่ตามมา คือ แรงงานจากจังหวัดในภาคอีสานจำนวนมากไปทำงานใน 5 จังหวัดที่มั่งคั่งดังกล่าว และบางส่วนอาจย้ายเข้าไปทำงานในกรุงเทพฯ เพื่อหาโอกาสในชีวิตที่ดีขึ้น นี่คือสาเหตุที่ทำให้เศรษฐกิจในภาพรวมของภาคอีสานไม่ได้ถูกขับเคลื่อนให้กระจายไปแต่ละพื้นที่ได้ดีเท่าที่ควร

.

โครงสร้างเศรษฐกิจของภาคอีสาน

  • ภาคการบริการ มีมูลค่ากว่า 816,521 ล้านบาท
  • ภาคการบริการ มีมูลค่า 386,347 ล้านบาท
  • ภาคการเกษตร มีมูลค่า 378,955 ล้านบาท
  • ภาคการค้า มีมูลค่า 226,591 ล้านบาท

.

โครงสร้างทางเศรษฐกิจของภูมิภาคกำลังเผยให้เห็นสิ่งใหม่ที่น่าจับตา โดยข้อมูลล่าสุดชี้ชัดว่า “ภาคการบริการ” ได้ก้าวขึ้นมาเป็นเสาหลักสำคัญ ด้วยมูลค่าทางเศรษฐกิจที่สูงถึง 816,521 ล้านบาทฃ ทิ้งห่างภาคส่วนอื่นๆ อย่างชัดเจน สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่กำลังพลิกโฉมหน้าเศรษฐกิจอีสาน

.

การเติบโตของภาคบริการในอีสานนั้น เป็นผลลัพธ์จากการขยายตัวของหลากหลายอุตสาหกรรมย่อย ไม่ว่าจะเป็นภาคการท่องเที่ยวที่ดึงดูดเม็ดเงินจากทั้งในและต่างประเทศ ภาคการค้าปลีกและค้าส่งที่เติบโตตามการขยายตัวของเมืองและกำลังซื้อ ภาคการศึกษาและสุขภาพที่เป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ รวมถึงภาคโลจิสติกส์ที่เชื่อมโยงอีสานสู่ภูมิภาคอื่นๆ และประเทศเพื่อนบ้าน การเติบโตเหล่านี้ล้วนเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงความหลากหลายและความสามารถในการปรับตัวของเศรษฐกิจอีสาน ที่ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่ภาคการเกษตรดั้งเดิมอีกต่อไป

.

.

“โคราช” ผงาดค้ำเศรษฐกิจอีสาน บทวิเคราะห์เชิงลึกปรากฏการณ์ GPP ที่ทิ้งห่างและนัยยะต่อการพัฒนาภูมิภาค

พาเบิ่ง GPP อีสานล่าสุดปี 2566 สะท้อนภาพความไม่สมดุลทางเศรษฐกิจที่น่าจับตามอง เมื่อนครราชสีมาเพียงจังหวัดเดียว มีมูลค่าทางเศรษฐกิจมากกว่า 8 จังหวัดที่เหลือรวมกัน ปรากฏการณ์นี้ไม่ได้เป็นเพียงตัวเลขที่น่าสนใจ แต่ยังซ่อนเร้นพลวัตทางธุรกิจ โอกาส และความท้าทายต่อการเติบโตอย่างยั่งยืนของภาคอีสานโดยรวม

.

GPP ภาคอีสานปี 2566 ตอกย้ำถึงสถานะที่แข็งแกร่งและโดดเด่นของจังหวัดนครราชสีมาอย่างชัดเจน ด้วยมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด (Gross Provincial Product: GPP) ที่สูงถึง 343,510 ล้านบาท ซึ่งไม่เพียงแต่สูงที่สุดในภาคอีสานเท่านั้น แต่ยังมากกว่าผลรวม GPP ของ 8 จังหวัด (เลย, นครพนม, หนองคาย, ยโสธร, หนองบัวลำภู, มุกดาหาร, บึงกาฬ และอำนาจเจริญ) ที่มีมูลค่ารวมกันเพียง 315,664 ล้านบาท

.

ปัจจัยขับเคลื่อน “โคราช” มากกว่าแค่ขนาดพื้นที่

ความได้เปรียบเชิงเศรษฐกิจของนครราชสีมาไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่ขนาดพื้นที่และจำนวนประชากรที่มากที่สุดในภาคอีสานเท่านั้น แต่ยังได้รับแรงหนุนจากปัจจัยสำคัญหลายประการ

.

ศูนย์กลางคมนาคมและโลจิสติกส์ ด้วยทำเลที่ตั้งที่เป็นประตูสู่ภาคอีสาน ทำให้โคราชเป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญสำหรับการขนส่งสินค้าและผู้คน ทั้งภายในภูมิภาคและระหว่างภูมิภาค โครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นถนน มอเตอร์เวย์ และโครงการรถไฟความเร็วสูงในอนาคต ยิ่งเสริมศักยภาพด้านโลจิสติกส์และดึงดูดการลงทุน

.

– ฐานอุตสาหกรรมที่หลากหลาย ซึ่งโคราชมีฐานอุตสาหกรรมที่ค่อนข้างหลากหลาย ตั้งแต่ภาคการเกษตรที่มีขนาดใหญ่และมีความสำคัญต่อความมั่นคงทางอาหารของภูมิภาค อุตสาหกรรมการผลิตที่ครอบคลุมทั้งสินค้าอุปโภคบริโภค วัสดุก่อสร้าง และชิ้นส่วนยานยนต์ ไปจนถึงภาคบริการที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคการค้าปลีก ค้าส่ง และการท่องเที่ยว

.

– การเติบโตของภาคบริการและการค้า ในฐานะเมืองใหญ่ที่มีประชากรหนาแน่น โคราชเป็นศูนย์กลางทางการค้าและการบริการที่สำคัญของภาคอีสาน มีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ตลาดค้าส่งค้าปลีกที่คึกคัก และภาคการท่องเที่ยว เช่น เขาใหญ่ ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ

.

– การลงทุนจากภาครัฐและเอกชน การลงทุนอย่างต่อเนื่องจากทั้งภาครัฐในโครงการโครงสร้างพื้นฐาน และจากภาคเอกชนในการขยายธุรกิจและตั้งโรงงานใหม่ เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจของโคราช

.

นัยยะเชิงธุรกิจและเศรษฐกิจต่อภาคอีสาน

GPP ที่กระจุกตัวอยู่ในนครราชสีมานี้ ส่งผลกระทบและมีนัยยะสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของภาคอีสานในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจจำนวนมากเลือกที่จะตั้งฐานการดำเนินงานในนครราชสีมาเพื่อเข้าถึงตลาดขนาดใหญ่ แรงงาน และโครงสร้างพื้นฐานที่เอื้ออำนวย ทำให้โอกาสทางธุรกิจและการจ้างงานกระจุกตัวอยู่ในจังหวัดนี้ และยังเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจนของ GPP ระหว่างนครราชสีมาและจังหวัดอื่นๆ สะท้อนถึงความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจในภูมิภาค ซึ่งอาจนำไปสู่การย้ายถิ่นของแรงงาน

.

แม้ว่า GPP ของจังหวัดอื่นๆ จะยังต่ำกว่านครราชสีมา แต่ก็ยังมีศักยภาพในการเติบโต โดยแต่ละจังหวัดมีจุดแข็งและทรัพยากรที่แตกต่างกัน การส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของแต่ละจังหวัดอย่างตรงจุด จะช่วยลดช่องว่างทางเศรษฐกิจและสร้างการเติบโตที่สมดุลมากขึ้น

.

ข้อมูล GPP ปี 2566 เป็นสัญญาณเตือนที่สำคัญว่าการพัฒนาเศรษฐกิจของภาคอีสานยังคงเผชิญกับความท้าทายในการกระจายความเจริญ แม้ว่านครราชสีมาจะเป็นหัวจักรสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของภูมิภาค แต่การเติบโตอย่างยั่งยืนและทั่วถึงจำเป็นต้องมีการวางแผนและดำเนินการเชิงกลยุทธ์เพื่อส่งเสริมศักยภาพ

.

.

อ้างอิงจาก:

– สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ

 

ติดตาม ISAN Insight & Outlook ทุกช่องทางได้ที่

https://linktr.ee/isan.insight

 

#ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ISAN #อีสานอินไซต์ #Business #Economy #GPPอีสาน #เศรษฐกิจอีสาน #นครราชสีมา #ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ #การพัฒนาภูมิภาค

อีสาน 11 ปีที่เปลี่ยนไป พาส่องเบิ่ง รายได้ต่อหัวแต่ละจังหวัด ใครคือ “ดาวรุ่ง” ใครยัง “ท้าทาย”

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Scroll to Top