ชวนมาเบิ่ง! บริษัทเหล่านี้ดําเนินกิจการมากี่ปี ปัจจุบันถึงมีรายได้มากสุดของจังหวัดในอีสาน

จุดเริ่มต้นของฟาร์มโชคชัย

เรื่องราวของฟาร์มแห่งนี้เริ่มต้นจาก คุณโชคชัย บูลกุล ชายหนุ่มผู้หลงใหลในวิถีชีวิตแบบ “คาวบอย” ความฝันของเขาพาให้เขาเดินทางไปศึกษาต่อด้านสัตวบาลที่ มหาวิทยาลัยคอร์เนลล์ สหรัฐอเมริกา เพื่อสานต่อความหลงใหลให้กลายเป็นอาชีพ

คุณโชคชัยเป็นบุตรชายของ นายมา บูลกุล และ นางบุญครอง บูลกุล เจ้าของอาณาจักรโรงสีข้าวและห้างสรรพสินค้า “มาบุญครอง” (MBK) ที่มีชื่อเสียงใจกลางกรุงเทพฯ แม้จะเติบโตมาในครอบครัวนักธุรกิจ แต่เส้นทางที่เขาเลือกเดินนั้นแตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง

เมื่อกลับมาจากสหรัฐฯ ในปี พ.ศ. 2500 แม่ได้มอบรถสปอร์ตเป็นของขวัญ เขาขับรถท่องไปตามถนนมิตรภาพจนมาถึงอำเภอปากช่อง และตกหลุมรักธรรมชาติอันงดงามของ ป่าดงพญาไฟ ความประทับใจครั้งนั้นทำให้เขาตัดสินใจสร้างฟาร์มของตัวเอง เขาขอเงินลงทุนจากครอบครัว 1 แสนบาท แต่ได้รับเพียง 2 หมื่นบาท เท่านั้น ด้วยความมุ่งมั่น เขาจึงกลับไปช่วยบริหารธุรกิจโรงสีของครอบครัวเพื่อเก็บเงินสะสมจนสามารถซื้อที่ดินและเริ่มต้นเป็นคาวบอยได้ตามที่ฝัน

จากฟาร์มเล็กๆ สู่ธุรกิจร้อยล้าน

ชีวิตของคุณโชคชัยไม่ได้ราบรื่นเสมอไป หลังจากทำฟาร์มได้ 7 ปี เขาพบว่าหากดำเนินกิจการแบบเดิมต่อไป ฟาร์มอาจไปไม่รอด เขาจึงตัดสินใจทำอาชีพเสริมในด้านการก่อสร้าง หนึ่งในจุดเปลี่ยนสำคัญคือการเปิดร้านอาหาร “โชคชัยสเต็กเฮ้าส์” ขึ้นเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2514 บนชั้น 23 ของ “ตึกโชคชัย” ซึ่งเคยเป็นตึกที่สูงที่สุดในประเทศไทยในเวลานั้น

อย่างไรก็ตาม ฟ้าก็ยังคงไม่เข้าค้างเข้า เมื่อสัญญาจ้างก่อสร้างสนามบิน 8 แห่งของสหรัฐฯ ถูกยกเลิก เพราะสหรัฐฯ ถอยทัพจากสงครามเวียดนาม ด้วยปัญหาทางการเงิน ตึกโชคชัยถูกขายไป และปัจจุบันกลายเป็น สำนักงานใหญ่ของธนาคารยูโอบี (UOB) แต่แม้จะสูญเสียทรัพย์สินบางส่วน ธุรกิจฟาร์มโชคชัยกลับเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ฟาร์มโชคชัยในปัจจุบัน

ปัจจุบัน ฟาร์มโชคชัย มีพื้นที่ประมาณ 20,000 ไร่ และโคนมกว่า 3,000 ตัว นอกจากนี้ยังมีบริษัทในเครืออีก 6 บริษัท ที่ดำเนินธุรกิจหลากหลายด้าน ภายใต้การบริหารของ คุณโชค บูลกุล ทายาทรุ่นที่สอง

ธุรกิจครอบครัวแห่งนี้เติบโตขึ้นจากความฝันของผู้เป็นพ่อ การวางแผนบริหารของผู้เป็นแม่ และการสืบทอดเจตนารมณ์โดยลูกชาย ทุกองค์ประกอบเหล่านี้ช่วยผลักดันให้ “ฟาร์มโชคชัย” กลายเป็นอาณาจักรธุรกิจที่แข็งแกร่ง และพร้อมปรับตัวเพื่อก้าวสู่อนาคตอย่างมั่นคง

หากพูดถึงฟาร์มโชคชัย ธุรกิจหลักที่หลายคนจะนึกถึงกันนอกจากฟาร์มโคนมได้แก่ ธุรกิจอาหารของร้านโชคชัยสเต็กเฮ้าส์ จากจุดเริ่มต้นในปี พ.ศ. 2514 และในปี พ.ศ. 2529 ได้ขยายสาขามายังฟาร์มโชคชัย ซึ่งกลายเป็นหนึ่งในจุดแวะพักยอดนิยมสำหรับผู้ที่เดินทางผ่านปากช่อง และต่อมาในปี พ.ศ. 2534 ได้เปิดสาขาเพิ่มที่รังสิต จนกลายเป็นร้านอาหารที่ได้รับความนิยมและมีลูกค้าประจำที่พร้อมกลับมาซ้ำอีก ความพิเศษของโชคชัยสเต็กเฮ้าส์อยู่ที่คุณภาพของเนื้อวัว ซึ่งมาจากวัวที่เลี้ยงเองในฟาร์มโชคชัย คัดสรรสายพันธุ์อย่างพิถีพิถัน พร้อมด้วยวัตถุดิบคุณภาพสูงและกรรมวิธีการปรุงที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด รสชาติของสเต็กที่ถูกปรุงออกมาอย่างสมบูรณ์แบบนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการรักษามาตรฐานที่ทำให้ร้านยังคงครองใจลูกค้ามาอย่างยาวนาน

อีกหนึ่งธุรกิจที่หลายคนคุ้นเคยกันดีเมื่อเข้าไปยังร้านสะดวกซื้อนั่นคือนมแบรนด์ฟาร์มโชคชัย แต่หนึ่งสิ่งที่หลายคนอาจจะยังไม่ทราบคือนมแบรนด์ฟาร์มโชคชัยนั้นไม่ใช่ของฟาร์มโชคชัยแล้ว ผลจากในช่วงที่คุณโชคชัยทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง จัดหาเครื่องจักรกล และอุปกรณ์ก่อสร้างให้แก่กองทัพอากาศอเมริกัน ในปี 2512 บริษัทได้บุกเบิกกิจการฟาร์มโคเนื้อจนถึงปี 2519 ฟาร์มโชคชัยประสบปัญหาการผลิต ทำให้ผันตัวเองเข้าสู่ธุรกิจโคนม จนได้สร้างโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์นมขึ้น ในปี 2535 โรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์นมเจอวิกฤตอีกครั้ง จนกลุ่มฟาร์มโชคชัยมีหนี้สินกว่า 500 ล้านบาท ทำให้ต้องตัดใจขายธุรกิจแปรรูปผลิตภัณฑ์นมออกไปเพื่อนำเงินมาชำระหนี้สินในปี 2537 โดยคงไว้แต่เพียงธุรกิจหลักคือ ฟาร์มโคนม

แต่ถึงแม้ว่านมแบรนด์ฟาร์มโชคชันจะไม่ใช่ของฟาร์มโชคชัยแล้ว ปัจจุบันทางฟาร์มโชคชัยได้ออกนมแบรนด์ใหม่มาแทนได้แก่ Umm!..Milk ซึ่งเป็นธุรกิจไอศกรีม นมพาสเจอร์ไรส์ และผลิตภัณฑ์จากนมวัว ที่ตอบโจทย์ในด้านความสดใหม่ และรสชาติที่โดดเด่นถูกในหลายคนจนต้องกลับมาท่นซ้ำ

ฟาร์มโชคชัย: จากฟาร์มโคนมสู่ธุรกิจอาหารและผลิตภัณฑ์นม

เมื่อพูดถึง ฟาร์มโชคชัย หลายคนอาจนึกถึงฟาร์มโคนมขนาดใหญ่ แต่ธุรกิจที่สร้างชื่อไม่แพ้กันก็คือ “โชคชัยสเต็กเฮ้าส์” ร้านอาหารที่กลายเป็นจุดแวะพักยอดนิยมของผู้ที่เดินทางผ่านปากช่อง

โชคชัยสเต็กเฮ้าส์เริ่มต้นขึ้นในปี พ.ศ. 2514 และขยายสาขามายัง ฟาร์มโชคชัยในปี พ.ศ. 2529 ทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดหมายปลายทางของนักเดินทางที่ต้องการลิ้มรสสเต็กคุณภาพเยี่ยม ต่อมาในปี พ.ศ. 2534 ร้านได้เปิดสาขาเพิ่มเติมที่ รังสิต ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก

ความพิเศษของโชคชัยสเต็กเฮ้าส์อยู่ที่ คุณภาพของเนื้อวัว ซึ่งมาจากโคที่เลี้ยงเองในฟาร์มโชคชัย คัดสรรสายพันธุ์อย่างพิถีพิถัน ควบคู่ไปกับวัตถุดิบคุณภาพสูง และกรรมวิธีการปรุงที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด รสชาติของสเต็กที่ออกมาอย่างสมบูรณ์แบบนี้สะท้อนถึง ความมุ่งมั่นในการรักษามาตรฐาน ทำให้ร้านสามารถครองใจลูกค้ามาอย่างยาวนาน

การแข่งขันในตลาดสเต็กและกลยุทธ์ความสำเร็จของโชคชัยสเต็กเฮ้าส์

การแข่งขันที่รุนแรงในตลาดสเต็กประเทศไทย ไม่ใช่อุปสรรคสำหรับร้านที่สามารถสร้างจุดเด่นและเอกลักษณ์ที่แตกต่าง หากร้านอาหารสามารถมอบ ประสบการณ์ที่น่าจดจำ ให้กับลูกค้า ทั้งในด้าน คุณภาพอาหาร บรรยากาศ และการบริการ ก็จะสามารถครองใจลูกค้าได้อย่างยาวนาน

โชคชัยสเต็กเฮ้าส์ เป็นตัวอย่างของความสำเร็จที่เกิดจาก คุณภาพของวัตถุดิบ การใส่ใจในรายละเอียด และความสามารถในการตอบสนองความต้องการของลูกค้า ได้อย่างแท้จริง ด้วยการใช้ เนื้อวัวจากฟาร์มของตัวเอง ซึ่งได้รับการคัดสรรและเลี้ยงดูอย่างพิถีพิถัน ทำให้ร้านสามารถ ควบคุมคุณภาพของวัตถุดิบได้ตั้งแต่ต้นทาง แตกต่างจากร้านสเต็กทั่วไปที่ต้องพึ่งพาซัพพลายเออร์ภายนอก

นอกจากนี้ การที่ร้านสามารถ สร้างประสบการณ์พิเศษ ผ่านการเล่าเรื่องราวของฟาร์มโชคชัยและวัฒนธรรมคาวบอย ทำให้ลูกค้าไม่ได้มาเพียงเพื่อรับประทานอาหาร แต่ยังได้สัมผัส เอกลักษณ์ของแบรนด์ ซึ่งช่วยให้ร้านสามารถรักษาฐานลูกค้าได้อย่างเหนียวแน่น แม้ว่าจะมีคู่แข่งมากมายในตลาด

 

จากนมฟาร์มโชคชัย สู่ Umm!..Milk

อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่หลายคนคุ้นเคยจากฟาร์มโชคชัยก็คือ นมแบรนด์ฟาร์มโชคชัย ซึ่งเคยเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์นมที่ได้รับความนิยมอย่างมาก แต่สิ่งที่หลายคนอาจไม่ทราบคือ ปัจจุบันนมแบรนด์ฟาร์มโชคชัยไม่ได้เป็นของฟาร์มโชคชัยแล้ว

จุดเริ่มต้นจากช่วงที่ คุณโชคชัย บูลกุล ทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง และจัดหาเครื่องจักรกลให้แก่ กองทัพอากาศอเมริกัน ในปี พ.ศ. 2512 ซึ่งเป็นช่วงที่บริษัทบุกเบิก กิจการฟาร์มโคเนื้อ อย่างไรก็ตาม ในปี พ.ศ. 2519 ฟาร์มโชคชัยประสบปัญหาด้านการผลิต จึงปรับตัวเข้าสู่ ธุรกิจโคนม และเริ่มสร้างโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์นมขึ้น ต่อมาในปี พ.ศ. 2535 โรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์นมของฟาร์มโชคชัยต้องเผชิญกับวิกฤตหนัก จนกลุ่มบริษัทมีหนี้สินกว่า 500 ล้านบาท ทำให้ในปี พ.ศ. 2537 ฟาร์มโชคชัยต้องตัดสินใจขายธุรกิจแปรรูปผลิตภัณฑ์นมออกไป เพื่อรักษาสภาพคล่องทางการเงิน และมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจหลักคือ ฟาร์มโคนม

แม้ว่านมแบรนด์ “ฟาร์มโชคชัย” จะไม่ได้เป็นของฟาร์มโชคชัยแล้ว แต่ปัจจุบันทางฟาร์มได้เปิดตัว “Umm!..Milk” แบรนด์ใหม่ที่เน้นผลิตภัณฑ์จากนมวัวแท้ 100% มีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายทั้ง ไอศกรีม นมพาสเจอร์ไรส์ และผลิตภัณฑ์จากนม ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ด้วยจุดเด่นในเรื่องของ ความสดใหม่ และรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ จนกลายเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ลูกค้าติดใจและกลับมาซื้อซ้ำ

การแข่งขันในตลาดนมวัว

ตลาด ผลิตภัณฑ์นมวัวในประเทศไทย เป็นหนึ่งในตลาดที่มีการแข่งขันสูง เพราะมีแบรนด์ใหญ่อย่าง เมจิ ดัชมิลล์ และโฟร์โมสต์ ที่ครองส่วนแบ่งตลาดมานาน นอกจากนี้ยังมี แบรนด์นมทางเลือก เช่น นมออร์แกนิก นมจากพืช และผลิตภัณฑ์นมเพื่อสุขภาพ ที่เข้ามาแข่งขันมากขึ้น

แม้จะเป็นตลาดที่มีผู้เล่นรายใหญ่ครองอยู่แล้ว แต่ Umm!..Milk สามารถสร้างจุดแข็งของตัวเองได้ผ่าน “ความสดใหม่” และ “คุณภาพจากฟาร์มโชคชัย” แม้ว่าการแข่งขันในตลาดนมจะสูง แต่ Umm!..Milk ได้ใช้จุดแข็งของฟาร์มโชคชัยและความแตกต่างในด้านคุณภาพและกระบวนการผลิตมาสร้างแบรนด์ ทำให้สามารถ เจาะกลุ่มลูกค้าที่ต้องการนมสดใหม่ และมีความเป็นธรรมชาติ ซึ่งเป็นตลาดที่กำลังเติบโตในปัจจุบัน

 

อ้างอิงจาก

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์, เว็บไซต์ของบริษัท, ประชาชาติธุรกิจ, The People, The Cloud

Leave a Comment

Your email address will not be published.

Scroll to Top