ฮู้บ่ว่า ประเทศลาวเป็นอันดับหนึ่ง ด้านปริมาณการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยหนึ่งคนจะมีปริมาณการดื่มแอลกอฮอล์อยู่ที่ 10.7 ลิตรต่อปี
ประเทศ | รวม | ผู้ชาย | ผู้หญิง | บริษัทเจ้าใหญ่ในตลาด |
ลาว | 10.7 | 17.1 | 4.6 | คาร์ลสเบิร์ก เอ/เอส (ส่วนแบ่งการตลาด 84%) |
เวียดนาม | 8.7 | 14.1 | 3.5 | ไฮเนเก้น เอ็นวี (ส่วนแบ่งการตลาด 42%) |
ไทย | 8.3 | 13.4 | 3.5 | ไทยเบฟเวอเรจ (ส่วนแบ่งการตลาด 45%) |
จีน | 7.1 | 10.9 | 3 | ไชน่ารีซอร์ส โฮลดิ้งส์ (ส่วนแบ่งการตลาด 22%) |
กัมพูชา | 6.6 | 10.9 | 2.7 | เขมรเบฟเวอเรจ (ส่วนแบ่งการตลาด 40%) |
เมียนมา | 5.1 | 8.4 | 2 | ไฮเนเก้น เอ็นวี (ส่วนแบ่งการตลาด 39%) |
*หน่วยลิตร/ คน/ ปี
.
การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นสิ่งที่อยู่คู่กับมนุษย์มาอย่างยาวนาน โดยผสมผสานอยู่ในสังคมและวัฒนธรรมที่แตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ ทำให้ในปัจจุบันเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ถูกถ่ายทอดออกมาเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของพื้นที่นั้นๆ ที่ผ่านการพัฒนาและปรับปรุงไปตามยุคสมัย ซึ่งเอกลักษณ์ของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะแตกต่างกันไปตามสภาพภูมิประเทศ ภูมิอากาศและผลผลิตทางการเกษตร รวมถึงสังคมและวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน ทำให้ในปัจจุบัน เราได้พบเห็นสินค้าประเภทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีความหลากหลายและมีคุณภาพที่ดีขึ้นกว่าในอดีต
แต่การบริโภคแอลกอฮอล์ในปริมาณที่มากเกินไปย่อมส่งผลเสียมากมาย ไม่ว่าจะด้านปัญหาสุขภาพ อัตราการเกิดอุบัติเหตุที่เพิ่มขึ้น รายจ่ายที่เพิ่มขึ้น ตลอดจนคุณภาพชีวิตของคนในสังคมที่ลดลง ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้หากไม่มาตรการควบคุมที่ชัดเจนและครอบคลุมมากเพียงพอ
.
วัฒนธรรมการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง
ในแถบลุ่มแม่น้ำโขงมีวัฒนธรรมการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ใกล้เคียงกัน เนื่องจากมีพรมแดนใกล้กัน มีสภาพภูมิศาสตร์และผลผลิตทางการเกษตรที่คล้ายกัน อีกทั้งยังมีวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์และการค้าร่วมกันมาตั้งแต่อดีต ทำให้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์พื้นเมืองของแต่ละประเทศในแถบนี้มีความคล้ายคลึงกัน โดยส่วนมากมักจะเป็น เครื่องดื่มที่ได้จากการหมักข้าว ซึ่งจะมีชื่อเรียกแตกต่างกันไปตามพื้นที่และภาษาที่ใช้ แต่ความนิยมในเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็ได้เปลี่ยนไปตามยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลง ซึ่งในปัจจุบันผู้คนในแถบนี้ก็ได้รับอิทธิพลจากประเทศตะวันตกมากขึ้น ทำให้เริ่มหันมาบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประเภทเบียร์มากขึ้นแทนที่เครื่องดื่มพื้นเมืองที่ค่อยๆ ลดลงไป
.
🇱🇦ลาว
เป็นประเทศที่มีปริมาณการบริโภคแอลกอฮอล์ต่อคนใน 1 ปีมากที่สุดใน GMS โดยนิยมดื่มเบียร์มากที่สุด ตามมาด้วย เหล้าขาวและเหล้าสาโท ที่ได้จากการหมักข้าว และในตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของลาวมีเจ้าใหญ่อยู่หนึ่งเจ้า ที่ครอบครองส่วนแบ่งการตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากถึง 84% ทำให้ลาวเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีแนวโน้มของการผูกขาดในตลาดสูงเป็นอันดับแรกใน GMS ด้วยเช่นกัน
.
🇹🇭ไทย
ประเทศไทยของเราเองก็มีปริมาณการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่อคนต่อปีสูงด้วยเช่นกัน โดยนับเป็นอันดับ 3 ในแถบลุ่มแม่น้ำโขง ซึ่งมีเบียร์และเหล้ารัมเป็นอันดับต้นๆในด้านความนิยมจากคนไทย นอกจากนี้ไทยยังนิยมเครื่องดื่มพื้นเมืองอย่าง เหล้าที่ได้จากการหมักข้าวด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะในภาคอีสานที่เป็นแหล่งเพาะปลูกหลักของประเทศ และในตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของไทยมีเจ้าใหญ่อยู่ด้วยกัน 2 เจ้าคือ ไทยเบฟเวอเรจและ บุญรอดบริวเวอรี่ ที่สองบริษัทนี้มีส่วนแบ่งการตลาดรวมกันสูงถึง 86%
.
🇲🇲เมียนมา
เป็นประเทศที่มีปริมาณการดื่มแอลกอฮอล์ต่อคนต่อปีน้อยที่สุดใน GMS สาเหตุอาจมาจากหลายปัจจัยทั้งรายได้เฉลี่ยของประชากรที่น้อย การเข้าถึงสินค้าของคนในชนบทที่ยากทำให้คนหันไปผลิตเครื่องดื่มพื้นเมืองมากขึ้น รวมถึงสภาพทางสังคม และปัญหาความขัดแย้งที่มีในประเทศ ก็อาจทำให้อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในตลาดเมียนมามีไม่มากนัก สังเกตได้จากผู้เล่นรายใหญ่ของตลาดในเมียนมาที่มักจะเป็นผู้เล่นจากต่างประเทศ ซึ่งมี ไฮนาเกน เอ็นวีครองส่วนแบ่งการตลาดมากที่สุด ตามมาด้วยไทยเบฟเวอเรจของไทยเอง ที่ได้เข้าไปครองส่วนแบ่งการตลาดถึง 15% ในเมียนมา
ที่มา : Euromonitor from trade sources/national statistics, World health organization