พามาเบิ่ง 7 อัตราการว่างงานของแต่ละประเทศใน CLMV

ปี 2024 ทั่วโลกจะมีคนว่างงานเพิ่มขึ้น 2 ล้านคน อัตราการว่างงานเพิ่มเป็น 5.2%

จากการคาดการณ์เมื่อต้นปี 2024 องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) คาดว่าปีนี้ทั่วโลกจะมีผู้ว่างงานเพิ่มขึ้น 2 ล้านคน อัตราการว่างงานทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นเป็น 5.2%

วันที่ 10 มกราคม 2024 รอยเตอร์ (Reuters) รายงานว่า องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) เผยคาดการณ์ว่า อัตราการว่างงานทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นเป็น 5.2% ในปีนี้ โดยสาเหตุหลักมาจากการว่างงานที่เพิ่มขึ้นในประเทศเศรษฐกิจพัฒนาแล้ว รายงานนี้ยังบอกอีกว่า การจ้างงานจะเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยในกลุ่มประเทศรายได้ปานกลางระดับบนในช่วง 2 ปีข้างหน้า แต่การจ้างงานในประเทศรายได้น้อยและประเทศรายได้ปานกลางระดับล่างจะยังคงแข็งแกร่ง

ISAN Insight and Outlook พามาเบิ่ง สถานะการณ์สรุป อัตราการว่างงานของแต่ละประเทศใน CLMV ในปี 2023 ที่ผ่านมา

ประเทศไทย

  • จำนวนแรงงานทั้งหมดในประเทศ  : 40.8 ล้านคน
  • จำนวนคนว่างงานในประเทศ        : 371,000 คน
  • เปอร์เซ็นต์ของคนว่างงานคิดเป็น  : 0.91%

ประเทศลาว

  • จำนวนแรงงานทั้งหมดในประเทศ   : 3.17 ล้านคน
  • จำนวนคนว่างงานในประเทศ         : 38,040 คน
  • เปอร์เซ็นต์ของคนว่างงานคิดเป็น   : 1.2%

ประเทศพม่า

  • จำนวนแรงงานทั้งหมดในประเทศ   : 22.88 ล้านคน
  • จำนวนคนว่างงานในประเทศ         : 664,000 คน
  • เปอร์เซ็นต์ของคนว่างงานคิดเป็น   : 2.9 %

ประเทศเวียดนาม

  • จำนวนแรงงานทั้งหมดในประเทศ   : 56.1 ล้านคน
  • จำนวนคนว่างงานในประเทศ         : 900,000 คน
  • เปอร์เซ็นต์ของคนว่างงานคิดเป็น   : 1.6%

ประเทศกัมพูชา

  • จำนวนแรงงานทั้งหมดในประเทศ   : 9.17 ล้านคน
  • จำนวนคนว่างงานในประเทศ         : 21,930 คน
  • เปอร์เซ็นต์ของคนว่างงานคิดเป็น   : 0.23%

อัตราการว่างงานเป็นตัวชี้วัดสำคัญที่สะท้อนให้เห็นถึงสภาพเศรษฐกิจของประเทศได้หลายด้าน

โดยทั่วไป อัตราการว่างงานที่สูงขึ้นมักบ่งบอกถึงสัญญาณที่ไม่ดีของเศรษฐกิจ เช่น

  • การเติบโตทางเศรษกิจชะลอตัว: เมื่ออัตราการว่างงานสูงขึ้น หมายความว่ามีผู้คนจำนวนมากที่กำลังมองหางานทำ แต่ยังไม่สามารถหางานได้ ซึ่งส่งผลให้กำลังซื้อลดลง และอาจทำให้เศรษฐกิจโดยรวมเติบโตช้าลง
  • ความต้องการสินค้าและบริการลดลง: เมื่อผู้คนตกงาน กำลังซื้อลดลง ธุรกิจต่างๆ ก็จะได้รับผลกระทบตามไปด้วย ทำให้ความต้องการสินค้าและบริการลดลง ซึ่งอาจนำไปสู่การปิดตัวของธุรกิจ และการเลิกจ้างพนักงานเพิ่มขึ้น
  • ปัญหาทางเศรษฐกิจอื่นๆ: อัตราการว่างงานที่สูงอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงปัญหาทางเศรษฐกิจอื่นๆ ที่ซับซ้อน เช่น ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ภาวะเงินเฟ้อสูง หรือปัญหาหนี้สินของครัวเรือนและรัฐบาล

อย่างไรก็ตาม การตีความหมายอัตราการว่างงานเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ เพราะยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อสภาพเศรษฐกิจด้วย เช่น

  • โครงสร้างเศรษฐกิจ: ประเทศที่มีโครงสร้างเศรษฐกิจที่แตกต่างกัน ก็จะมีอัตราการว่างงานที่แตกต่างกันไปด้วย
  • นโยบายเศรษฐกิจ: นโยบายทางเศรษฐกิจของรัฐบาล เช่น นโยบายการเงินและการคลัง ก็มีผลต่ออัตราการว่างงานเช่นกัน
  • ปัจจัยภายนอก: ปัจจัยภายนอก เช่น สงคราม ภัยธรรมชาติ หรือวิกฤตเศรษฐกิจโลก ก็สามารถส่งผลกระทบต่ออัตราการว่างงานได้

ตัวอย่างการนำอัตราการว่างงานไปใช้ประโยชน์:

  • การตัดสินใจลงทุน: นักลงทุนมักใช้ข้อมูลเกี่ยวกับอัตราการว่างงานในการตัดสินใจลงทุน เนื่องจากอัตราการว่างงานสามารถบ่งบอกถึงแนวโน้มของเศรษฐกิจในอนาคตได้
  • การกำหนดนโยบาย: รัฐบาลใช้ข้อมูลเกี่ยวกับอัตราการว่างงานในการกำหนดนโยบายเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ เช่น การกระตุ้นเศรษฐกิจ การสร้างงาน หรือการฝึกอบรมแรงงาน
  • การวางแผนอาชีพ: ผู้ที่กำลังมองหางานทำ สามารถใช้ข้อมูลเกี่ยวกับอัตราการว่างงานในการวางแผนอาชีพของตนเองได้

สรุป:

อัตราการว่างงานเป็นเพียงตัวชี้วัดหนึ่งในหลายๆ ตัวที่ใช้ในการวิเคราะห์สภาพเศรษฐกิจ การจะเข้าใจสภาพเศรษฐกิจของประเทศอย่างครอบคลุม จำเป็นต้องพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น อัตราเงินเฟ้อ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค

 

ที่มา

เว็ปไซต์ : ประชาชาติ, Word bank, Trading Economic,

Leave a Comment

Your email address will not be published.

Scroll to Top