วิวัฒนาการ “แชร์ลูกโซ่” อาชญากรรมทางเศรษฐกิจ กลโกงไส้ในเดิม ที่เพิ่มเติมรูปแบบใหม่

มีคำกล่าวไว้ว่า “คนเราเรียนรู้จากอดีต” วันนี้มาเผือกเรื่องของคนอยากรวย ว่าเราได้เรียนรู้อะไรกันจากอดีต #แชร์ลูกโซ่ ที่อ้างและแฝงตัวมาในรูป ✓การระดมทุน ✓ขายตรง ✓ออมทอง ✓ลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ✓ธุรกิจท่องเที่ยว ✓Bitcoin จนมาถึง ✓StartUp ที่ระดมทุนโดย Venture Capitalists
ปี พ.ศ.2520 “นางชม้อย ทิพย์โส” ได้ชักชวนคนนับหมื่นคน มาร่วมลงทุนเป็นเงินจำนวนมากกว่า 4,000 ล้านบาท😮 เธอบอกว่าให้มาร่วมทุนบริษัทนํ้ามัน โดยจะให้ผลตอบแทนอย่างดีเป็น “รายเดือน” โดยที่ไม่มีธุรกิจนี้อยู่จริงๆ แค่มโนขึ้นมา สุดท้ายนางชม้อยกลายเป็นหัวแชร์กว่า 8,000 ล้านบาท และเป็นผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงกว่า 4,000 ล้าน โทษจำคุกกว่า 154,005 ปี ที่เรารู้จักกันดีในนาม #แชร์แม่ชม้อย
===================================
ปี พ.ศ.2527 “นายเอกยุทธ อัญชันบุตร” เจ้าของบริษัท ชาร์เตอร์ อินเวสต์เมนท์ จำกัด ชักชวนให้คนนำเงินไปลงทุนซื้อสินค้าโภคภัณฑ์และเงินตราต่างประเทศมาเก็งกำไร ให้ผลตอบแทนถึงเดือนละ 9% สูงกว่าแชร์แม่ชม้อยถึง 2.5 % ทำให้มีคนแห่นำเงินมาลงทุน “ทำธุรกิจ” กับนายเอกยุทธจำนวนมาก ส่วนหนึ่งเป็นนายทหารกับนักการเมือง ก่อนที่จะกลายเป็นคดีดัง #แชร์ชาร์เตอร์ และนายเอกยุทธหนีคดีไปต่างประเทศในปี พ.ศ.2528 และกลับมา พ.ศ.2547 หลังจากคดีหมดอายุความ และถูกฆ่าในปี พ.ศ.2556
===================================
ปลายปี พ.ศ 2529 พรชัย สิงหเสมานนท์ เจ้าของหมู่บ้านเสมาฟ้าคราม โครงการบ้านจัดสรรราคาถูก 700 ยูนิต บนเนื้อที่ 320 ไร่ ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี จัดระดมเงินทุนนอกระบบขึ้น หลังธนาคารระงับการให้สินเชื่อกับโครงการ โดยผู้ลงทุนต้อง “ลงทุน” 12,000 บาท รอ 2 ปี ได้เงิน 36,000 บาท การได้เงินไม่ใช่ได้ก้อนเดียว…ครั้งเดียว ลงทุนไปแล้วทุกเดือน จะได้ผลตอบแทนเดือนละ 1,500 บาท จนครบ 24 เดือน คิดเป็นผลกำไร 12.5% ต่อเดือน หรือ 150% ต่อปี เท่ากับว่า จ่ายเงิน 12,000 บาท รอ 2 ปี จะได้กำไรถึง 2 เท่าตัวคือ 24,000 บาท แต่ต่อมาเพียง 2 ปี #แชร์เสมาฟ้าคราม วงนี้ก็ล้มลง เพราะไม่มีเงินจ่ายดอกเบี้ย โดยธนาคารเข้ามายึดทรัพย์สินที่จำนองไว้ ส่วนนายพรชัยถูกจับดำเนินคดีตามกฎหมาย
===================================
ปี พ.ศ.2534-2537 บริษัท บลิสเชอร์อินเตอร์ กรุ๊ป จำกัด ดำเนินธุรกิจในรูปการจัดสรรวันพักผ่อนให้สมาชิกแบบเฉลี่ยสิทธิปีละ 4 วัน 4 คืน ตามชื่อโรงแรมหรือที่พักที่บริษัทกำหนดไว้ 14 แห่งทั่วประเทศ ในระยะเวลา 20 ปี โดยจะแบ่งสมาชิกออกเป็น 2 ประเภท หรือบัตรเงิน เสียค่าสมาชิก 30,000 บาท และ “บัตรทอง” เสียค่าสมาชิก 60,000 บาท
แต่ธุรกิจแท้จริง ไม่ใช่การรับสมัครสมาชิกธรรมดา แต่เป็นการให้ไปหาสมาชิกเพิ่มให้ครบจำนวน แล้วจะได้รับค่าตอบแทนเพิ่มขึ้นตามจำนวนสมาชิกที่หาได้ ตั้งแต่ 20-45 เปอร์เซนต์ ซึ่งต่อมามีผู้เข้าร่วมธุรกิจนี้เกือบ 3,000 คน รวมเป็นเงินกว่า 2,000 ล้านบาท
แต่ที่สุด แชร์วงนี้ก็ล่มสลาย เพราะบลิสเชอร์ไม่มีสถานที่พักของตัวเอง และในปี 2556 ศาลอุทธรณ์มีคำตัดสินให้จำคุกผู้เกี่ยวข้องกับ #แชร์บลิสเชอร์ เป็นเวลา 120,945 ปี ขณะที่จำเลยบางส่วนยังคงหลบหนี
===================================
ปี พ.ศ.2557-2558 บริษัท ยูฟัน สโตร์ จำกัด บริษัทสัญชาติมาเลเซีย ถูกสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่แห่งประเทศไทย ยื่นดีเอสไอให้ตรวจสอบว่าอาจเข้าข่ายเป็นแชร์ลูกโซ่ พฤติการณ์ความผิดเป็นลักษณะชวนให้นำเงินมาลงทุน ตั้งแต่ 17,500 บาท จนถึง 1,750,000 บาท รวมทั้งการลงทุนแบบสมาชิกเน้นซื้อสกุลเงินที่ตั้งขึ้นเอง และเน้นซื้อสินค้าเพื่อพัฒนาตลาดแบบขยายทีม
เจ้าหน้าที่ออกหมายจับ พล.ท.อธิวัฒน์ สุ่นปาน ผู้บริหารยูฟันประจำประเทศไทย แต่ได้หลบหนีออกนอกประเทศ คดีนี้มีผู้เสียหายทั้งหมด 2,451 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 356 ล้านบาท
ศาลอนุมัติหมายจับ #เครือข่ายยูฟัน ทั้งหมด 164 คน จับกุมไปแล้ว 94 คน ฟ้องต่อศาลรอบแรก 44 คน ที่เหลืออยู่ระหว่างยื่นฟ้องต่อศาล ล่าสุด เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2560 ศาลพิพากษาจำคุกจำเลยคดีนี้ 22 คน ตั้งแต่ 12,255-12,267 ปี ยกฟ้องจำเลย 21 คน
===================================
เมษายน 2560 ที่ผ่านมา น.ส.พสิษฐ์ อริญชย์ลาภิศ หรือ #ซินแสโชกุน กรรมการบริหารบริษัทเวลท์เอฟเวอร์ (WealthEver) ถูกตำรวจจับกุม ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน หลังสมาชิกบริษัทขายตรงสินค้าแห่งนี้ ตกค้างที่สนามบินสุวรรณภูมิ กว่า 1,000 คน เมื่อค่ำวันที่ 11 เม.ย. ภายหลังเดินทางมาที่สนามบินตามที่บริษํทนัดหมายว่าจะพาไปเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่น ตามกำหนดการในวันที่ 11-12 เม.ย.
กลุ่มผู้เสียหายเสียค่าใช้จ่ายเป็นค่าทัวร์เดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นราวคนละ 10,000-15,000 บาท ในจำนวนผู้เสียหายที่ตกค้างที่สนามบินสุวรรณภูมิ มีทั้งกลุ่มที่เป็นสมาชิกขายตรงที่ได้รับแจ้งจากแม่ทีมกลุ่มขายตรงที่ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าทัวร์ และกลุ่มที่ไม่ได้เป็นสมาชิก แต่ได้เสียค่าใช้จ่าย 9,730 บาท ผ่านการแนะนำของคนรู้จัก แต่ถูกบอกว่าไม่ใช่ค่าทัวร์ เป็นลักษณะซื้อสินค้า โดยการได้ไปเที่ยวญี่ปุ่นเป็นบัตรกำนัลเสริม ไม่ใช่ค่าเที่ยว ขณะที่บางส่วนไม่ทราบข้อมูลรายละเอียดการเดินทาง การกระทำดังกล่าว เรียกว่าเข้าข่ายหลอกลวงผู้บริโภคและเข้าข่ายธุรกิจแชร์ลูกโซ่ ตำรวจพบว่า น.ส.พสิษฐ์ เปลี่ยนชื่อนามสกุลมาแล้ว 10 ครั้ง เคยถูกแจ้งความคดีเกี่ยวกับทรัพย์ตั้งแต่ปี 2555-2559 รวม 6 คดี และมีหมายจับ 3 หมายจับ
===================================
ปี พ.ศ.2557-2560 ธุรกิจขายตรง Luxury delight ได้ชักจูงให้สมัครเป็นสมาชิก 36,000 บาทโดยชี้แจงว่าจะได้ค่าตอบแทนจากการหาสมาชิกและขยายเครือข่ายโดยได้ค่าคอมมิชชั่น 60 % ของยอดซื้อผู้ที่มาสมัครต่อ โดยมิได้เน้นที่ตัวสินค้า ซึ่งเป็นคอลลาเจนและสินค้าความงามอื่น ๆ แต่เน้นที่การหาเครือข่ายและรายได้ที่เกิดจากการขยายเครือข่าย มีค่าสมัคร 36,000 บาท และต้องหาสมาชิกสองคนมาสมัคร ถึงจะได้ปันผลจำนวนมาก เกินกว่าความเป็นจริง นอกจากนี้ หากชักชวนบุคคลอื่นมาสมัครเป็นสมาชิก จะได้รับผลิตภัณฑ์อาหารเสริมจำนวนหนึ่ง รวมถึงทองคำมูลค่า 10,000 บาท ซึ่งพฤติการณ์ในการประกอบธุรกิจของบริษัท #ลัคซ์ชัวรี่ดิไลท์ จำกัด น่าจะเข้าข่ายเป็นการกระทำความผิดฐานกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนตามมาตรา 4 แห่งพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 และตอนนี้กำลังมีการฟ้องร้องดำเนินคดี
===================================
และเมื่อเร็วๆ นี้ได้มีการร่วมระดมทุนจากคนในเน็ตเพื่อลงทุนในบริษัทพวก Startup (แหม่ อินเทรนด์) หรือบริษัทขนาดเล็กที่มีศักยภาพที่จะเติบโต เป็น Network Crowdfunding (ใช้ศัพท์ดูไฮโซมาก) เพื่อระดมทุนเข้าจดทะเบียนในตลาด NASDAQ (โอ้ว ตลาดหุ้นเมกา)
บริษัทจะเอาเงินเราไปขยายและซื้อกิจการเพิ่ม ซึ่งกิจการส่วนมากอยู่ในต่างประเทศทั้งนั้น อินเตอร์ขั้นสุด เรามาดูกันว่าปัจจุบันบริษัทมีกิจการอะไรบ้าง
-สนามกอล์ฟและรีสอร์ทสุดหรู ณ มาเลเซีย
-บริษัทขายเครื่องประดับและอัญมณี ณ อิตาลี
-บริษัทแข่งรถ ณ มาเลเซีย
-บริษัทขายเครื่องสำอางค์ อาหารเสริม
-ธุรกิจค้าทองคำ ณ มาเลเซีย
-ธุรกิจซอฟแวร์ ณ ทวีปเอเชีย
-ธุรกิจขายอุปกรณ์ไอที
-อสังหาริมทรัพย์ ณ เชียงใหม่
-สปาและนวดแผนโบราณ ณ มาเลเซีย
-โบรกเกอร์ Forex
ฯลฯ
ซึ่งทุกกิจการแลดูดำเนินงานอยู่จริงๆ เจริญรุ่งเรือง และน่าเชื่อถือมาก แต่ก่อนจะเป็น VCs ไปหานักลงทุนมาได้นั้นเราต้องร่วมลงทุนกับบริษัทก่อน มีเป็นแพคเกจ ประมาณหมื่นกว่าบาทถึงสามล้านกว่าบาท ถ้าลงทุนหมื่นกว่าบาท จะได้ผลตอบแทน 16-24% ต่อปี ถ้าลงทุนสามล้านกว่าบาทจะได้ผลตอบแทนปีละ 22%-36% ต่อปี ป้าดติโธ้…😀
พอร่วมลงทุนแล้วเราก็ไปหาเหยื่อ เอ้ย หานักลงทุนมาเพิ่มได้ หาได้ 1 คนก็ได้ 10% ไปเลย แถมถ้าสร้างทีมได้จะได้คอมมิชชัน 10% ต่อวัน ย้ำว่าต่อวัน
พูดถึงตรงนี้ไม่ได้กล่าวหาหรือสรุปว่า VCs เป็นแชร์ลูกโซ่นะ ก็เป็น VCs ได้ผลตอบแทนปีละ 36% แถมสร้างทีมรับ 10% ต่อวันรัวๆ อีก สบายๆ ขนาดนี้ ผมยังสนใจเลย แต่อย่างว่าแหละครับ คนเราต้องเรียนรู้จากอดีต คนเก่งจะเรียนรู้จากประสบการณ์ตัวเอง ส่วนคนฉลาดจะเรียนรู้จากประสบการณ์คนอื่น ซึ่งผมเลือกที่จะเป็นคนฉลาด คุณก็เลือกได้เช่นกัน
===================================
แชร์แม่มณี

#แชร์แม่มณี  แม่มณี- วันทนีย์ ทิพย์ประเวช สาววัย 30 ปี เดิมเป็นคนอุดรธานี มีภูมิลำเนาอยู่เขตตำบลบ้านจั่น อ.เมือง จ.อุดรธานี แต่มีบ้านทั้งที่อุดรธานี และกรุงเทพฯ เคยเป็นพริตตี้ แม่ค้าขายตุ๊กตาออนไลน์ และเน็ตไอดอล ด้วยไลฟ์สไตล์ชีวิตหรูหราแบบคนดัง มีรถหรูหลายคัน มีการโพสต์ลงโซเชียลมีเดียต่างๆ ต่อมาแม่มณีได้เข้าไปอยู่ในวงการบันเทิง และมีข่าวว่าคบหาดูใจกับดาราหนุ่มคนหนึ่ง

แม่มณีได้ตั้งโปรเจ็กท์ออมเงินขึ้น ผ่านโครงการ “ฝากเงิน ออมเงิน by บัญชีแม่มณี” แล้วชักชวนคนอื่นๆ มาร่วมฝากเงินเป็นการลงทุน โดยคนที่สนใจ สามารถฝากเงินกับโครงการ จำนวนวงละ 1,000 บาท และจะได้รับผลกำไรกลับคืนเป็นเงิน 930 บาท หรือ คิดเป็นดอกเบี้ย 93% ในเดือนต่อมา โดยไม่มีการจำกัดวงเงินฝาก สิ่งที่ทำให้คนหลงเชื่ออย่างง่ายดาย เพราะเฟซบุ๊กของแม่มณี จะแอบอ้างเป็นผู้จัดละครช่องดัง เป็นผู้จัดภาพยนตร์ และเจ้าของแบรนด์เครื่องสำอาง จนทำให้มีผู้เสียหายจำนวนมาก หลังจากนั้นนานวันเข้า มีคนโดนหลอกเพิ่มมากขึ้น รูปแบบที่โดนเหมือนกัน ช่วงแรกลงทุนหลักหมื่น เหยื่อก็ยอมรับว่าได้เงินต้นและดอกเบี้ยคืนจริง จึงนำเงินไปลงทุนเพิ่มครั้งละเป็นแสนๆ แต่พอครบกำหนดจ่ายเงินคืน ก็เบี้ยวมาโดยตลอด จนสุดท้าย แม่มณีปิดทุกช่องทางการติดต่อ ผู้เสียหายจากแชร์แม่มณี พุ่งถึง 1,600 ราย หลังดีเอสไอ เปิดให้กลุ่มผู้เสียหาย ลงทะเบียนแจ้งเหตุผ่านระบบคิวอาร์โค้ด เพียงวันเดียว

ภาพข่าวจับกุมแม่มณี

แม่มณี และแฟนหนุ่ม ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม ภายในห้องเช่าแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ในวันที่ 2 พ.ย. 2562 ดีเอสไอ เผยวงเงินความเสียหายในคดีแชร์แม่มณีสูงกว่า 1,300 ล้านบาท มีผู้เสียหาย 2,300 ราย วันที่ 10 พ.ค. 2566 ศาลอาญา พิพากษาจำคุก “แม่มณี-สามี” 12,640 ปี ในความผิดฐาน “ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ และข้อหาอื่น”แต่สุดท้ายเหลือคุกแค่ 20 ปี ตามกฎหมาย ส่วนจำเลยอื่นยกฟ้อง

===================================

และล่าสุด เมื่อ 20 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา กลุ่มแม่ออนไลน์ พ่อค้าออนไลน์เศร้า ลงทุน “ออมทอง” กับสาวเจ้าของธุรกิจในพื้นที่ จ.สุรินทร์ แต่กลับเชิดเงินเผ่นหนี เกิดความเสียหายนับสิบล้านบาท สุดท้ายต้องรวมกลุ่มกัน เข้าแจ้งความกับตำรวจเพื่อแจ้งความดำเนินคดีดับ น.ส.นัฐฎา (สงวนนามกสุล) เจ้าของบริษัทฯ ทำธุรกิจ “ออมทอง” หลังจากก่อนหน้านี้ ได้ชักชวนให้มาลงทุนออมทองแบบออนไลน์ (ลักษณะเป็นการขายทองให้ในราคาถูก ซึ่งผู้เสียหายจะมาบวกราคาเพิ่ม ก่อนขายต่อให้แก่ลูกค้า โดยลูกค้าจะโอนเข้าบัญชีผู้เสียหายในบิลครั้งแรก จากนั้นจะให้ลูกค้าโอนออมผ่านไปยังบัญชีของ น.ส.นัฐฎา โดยตรงตลอด จนกว่ายอดจะครบบิล)

โดยระยะแรก มีการส่งทองให้ตรงเวลา แต่ภายหลังกลับส่งทองให้ล่าช้าและส่งไม่ตรงรอบ ทำให้ลูกค้ามาทวงถามกับผู้เสียหาย และเมื่อทวงถามต่อมายัง นส.นัฐฎา ก็เงียบหาย ไม่ตอบอะไร ก่อนจะปิดบริษัทหนี ทำให้มีผู้เสียหายได้รับผลกระทบเป็นลูกโซ่ ความเสียหายรวมกันกว่า 10 ล้านบาท เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะได้เรียก น.ส.นัฐฎา มาให้ปากคำสอบสวนข้อเท็จจริงดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

อาจเป็นรูปภาพของ 15 คน และ ข้อความพูดว่า "Supisa Saksit· ติดตาม 32 นาที เวลา13.30น.วันนี้ วันนี้ (20 ก.ย.67) ล่าสุดประชาชนที่ได้รับความ เดือดร้อนเคสออมทอง เกรงว่าจะไม่ได้เงินคืน โดยยอดออมมี ความที่สถานีตำรวจในหลายพื้นที่ ดังแตปานมีตำรวจในหลายห ตั้งแต่ หลักพันหนักที่สุดหลักล้านบาท ทยอยเดินทางไปแจ้ง ของจังหวัดสุรินทร์ อุกรธรเมืองสุรินทร ล้นี่ง POLICE TATION มีำรวดาธรเมองสว สถามีตำรวจภูรรเมืองสุรินทร์ STATION MUEANGSURINPROVINCIAL PROVINCIAL POLICE MUEANGSURIN"

คอนเซปแชร์ลูกโซ่

1. การันตีผลตอบแทนล่อตาล่อใจ
2. ต้องหาสมาชิก รายได้ไม่ได้เกิดจากการขายสินค้ากินค่าคอมฯ เหมือนขายตรง แต่รายได้มาจากเงินของสมาชิกใหม่ๆ
3. เมื่อถึงจุดหนึ่งเงินที่เข้ามา วนไม่พอจ่ายวงก่อนหน้า แชร์จะเริ่มล่ม หรือ หัวแชร์ตั้งใจวางแผนแต่แรก จะเริ่มหนีหาย และขาดการติดต่อ

“ธรรมชาติของแชร์ลูกโซ่ จะจ่ายเงินจริงตราบใดที่ยังหาเหยื่อเข้ามาได้ เอาเงินของลูกทีมใหม่ๆ ไปจ่ายลูกทีมรายแรกๆ ซึ่งลูกทีมที่ได้เงินจริงก็จะเอาไปพูดปากต่อปากว่าได้ดอกเบี้ยจริง ถอนเงินต้นได้จริง ไม่หลอกลวง แต่ไม่มีใครรู้ว่ามันจะจบลงเมื่อไหร่(นอกจากท้าวแชร์) อาจจะพรุ่งนี้ มะรืนนี้ หรืออีก 10 ปีก็ได้ อารมณ์ว่าลุกช้าจ่ายรอบวง ซึ่งบริษัทพวกนี้ก็ยังเปิดเรื่อยๆ นะ เปลี่ยน product ไปเรื่อยๆ ช่วง Bitcoin ดังก็อ้างอิง Bitcoin ช่วงขายตรงดังก็อ้างขายตรง ช่วง Startup ดัง ก็อ้างอิง Startup”

===================================

ความเสียหายทางเศรษฐกิจจากแชร์ลูกโซ่: มหันตภัยที่ส่งผลกระทบวงกว้าง

แชร์ลูกโซ่เป็นปัญหาที่สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรง และส่งผลกระทบต่อทั้งระดับบุคคล สังคม และเศรษฐกิจโดยรวม ความเสียหายเหล่านี้เกิดขึ้นได้อย่างไรบ้าง มาดูกันครับ

ความเสียหายในระดับบุคคล

  • การสูญเสียเงินทุน: นี่คือผลกระทบที่เห็นได้ชัดที่สุด ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อมักจะสูญเสียเงินออม เงินลงทุน หรือแม้แต่เงินที่กู้ยืมมาทั้งหมด
  • ความเครียดและความกังวล: การสูญเสียเงินก้อนโตสร้างความเครียดและความกังวลอย่างมาก อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพจิตตามมา
  • ความเสียหายต่อความสัมพันธ์: การที่เพื่อนหรือญาติชักชวนให้เข้าร่วมแชร์ลูกโซ่ อาจทำให้ความสัมพันธ์เสียหายเมื่อเกิดปัญหาขึ้น
  • ความเสียหายต่อชื่อเสียง: ผู้ที่เกี่ยวข้องกับแชร์ลูกโซ่อาจถูกมองว่าเป็นคนหลอกลวง หรือขาดความรอบคอบ

ความเสียหายในระดับสังคม

  • การสูญเสียความเชื่อมั่น: เมื่อเกิดเหตุการณ์แชร์ลูกโซ่ขึ้น ความเชื่อมั่นในระบบเศรษฐกิจและสถาบันต่างๆ จะลดลง
  • การเพิ่มขึ้นของอาชญากรรม: แชร์ลูกโซ่มักเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง ซึ่งเป็นอาชญากรรมที่สร้างความเสียหายต่อสังคม
  • การแบ่งแยกทางสังคม: แชร์ลูกโซ่อาจทำให้เกิดความขัดแย้งและความแตกแยกในชุมชน

ความเสียหายในระดับเศรษฐกิจ

  • การสูญเสียเงินลงทุน: เงินที่หลงเข้าไปในแชร์ลูกโซ่จะไม่ถูกนำไปใช้ในการลงทุนที่สร้างสรรค์ ทำให้เศรษฐกิจขาดสภาพคล่อง
  • การลดลงของกำลังซื้อ: เมื่อประชาชนสูญเสียเงินทุน กำลังซื้อโดยรวมในสังคมก็จะลดลง ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจ
  • ความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจ: แชร์ลูกโซ่สร้างความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจ ทำให้การลงทุนชะลอตัว และส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ

ป้องกันตัวเองจากแชร์ลูกโซ่ได้อย่างไร

  • ศึกษาข้อมูลให้รอบคอบ: ก่อนตัดสินใจลงทุน ควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียด อย่าเชื่อคำพูดที่สวยหรูเกินจริง
  • ตรวจสอบข้อมูลบริษัท: ตรวจสอบว่าบริษัทที่นำเสนอโครงการมีการจดทะเบียนถูกต้องหรือไม่ และมีประวัติการดำเนินงานอย่างไร
  • ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: หากไม่แน่ใจ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
  • ระวังโปรโมชั่นที่ให้ผลตอบแทนสูงเกินจริง: โปรโมชั่นที่ให้ผลตอบแทนสูงเกินจริงมักเป็นสัญญาณเตือนว่าอาจเป็นแชร์ลูกโซ่

หากคุณสงสัยว่ากำลังเผชิญกับแชร์ลูกโซ่ ควรรีบแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) หรือตำรวจ

สรุป

แชร์ลูกโซ่เป็นปัญหาที่ซับซ้อนและส่งผลกระทบร้ายแรงต่อเศรษฐกิจและสังคม การตระหนักถึงอันตรายของแชร์ลูกโซ่ และการศึกษาข้อมูลอย่างรอบคอบ จะช่วยให้เราสามารถป้องกันตัวเอง และร่วมกันสร้างสังคมที่ปลอดภัยจากภัยคุกคามทางเศรษฐกิจ

ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแชร์ลูกโซ่ สามารถติดต่อหน่วยงานดังต่อไปนี้:

  • สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.): http://www.sec.or.th/
  • ศูนย์รับแจ้งการเงินนอกระบบ: โทร. 1359

สุดท้ายแล้วการหลอกลวง ฉ้อโกง จากแชร์ลูกโซ่คงไม่มีวันหายไป ตราบใดที่ยังมีคนโลภ ที่แย่ไปกว่านั้นคือ บางคนรู้ว่าเสี่ยงหรือโกง แต่ก็สมประโยชน์แสวงหาผลกำไร คิดว่าเข้าแล้วจะออกทันสุดท้ายกลายเป็นเม่าในกองไฟ

สุดท้าย ISAN Insight and Outlook ภายใต้คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น อยากเชิญชวนให้ทุกท่าน ลงทุนในระบบ ที่มีกฎหมายกำกับดูแล และไม่อยากให้คิดว่าการลงทุนเป็นเรื่องไกลตัว ใครๆ ก็เริ่มลงทุน และเลือกลงทุน ได้ด้วยตัวเอง แอดขอแนะนำงาน “ตลาดหลักทรัพย์ฯ สัญจร ขอนแก่น” ที่จะจัดในวันที่ 5 ต.ค. 2567 นี้ งานฟรี จาก ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(SET) ถึงคุณจะไม่เปิดพอร์ตแต่อย่างน้อยก็มาเรียนวิธีการลงทุนอย่างถูกต้องในระบบ ที่มีการกำกับดูแลกัน อย่างน้อยก็เรียนรู้ ประเมินความเสี่ยง และเลือกลงทุนด้วยตัวเองง่ายๆ เงินหลักร้อยก็ทำได้แล้ว “ไม่ต้องเป็นเซียนหุ้น คุณก็เริ่มเรียนรู้การลงทุนได้” งานฟรีเพื่อชาวอีสานบ้านเฮา

📣“ตลาดหลักทรัพย์ฯ สัญจร ขอนแก่น”🚍
🚩 พบกันวันเสาร์ที่ 5 ตุลาคม 2567
⏰ เวลา 9.00 – 16.00 น. (เริ่มลงทะเบียน เวลา 08.30 น.)
🏨 โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชา ออคิด จังหวัดขอนแก่น
ลงทะเบียนสำรองที่นั่งและรับของที่ระลึกฟรีที่🌐https://setga.page.link/3tx7
.
เรียบเรียง : สหโชค เพียรการ Feature Editor จาก ISAN Insight and Outlook
ที่มา : bbcnews , เพจเม่าลงทุน ,เพจลงทุนศาสตร์ http://www.fpo.go.th/FPO/index2.php?mod=Petition…

Leave a Comment

Your email address will not be published.

Scroll to Top