ราคาข้าวไทยเสี่ยงร่วงยาว อินเดียเร่งส่งออกข้าว 30 ล้านตัน! สะเทือนตลาดโลก

อินเดีย ผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ที่สุดของโลก ได้กำหนดเป้าหมายการส่งออกที่ทะเยอทะยานมากขึ้นสำหรับปีการตลาด 2568/2569 (ตุลาคม-กันยายน) โดยสหพันธ์ผู้ส่งออกข้าวอินเดีย (Indian Rice Exporters Federation หรือ IREF) ตั้งเป้าที่จะส่งออกข้าวสูงถึง 30 ล้านตัน ในฤดูกาลดังกล่าว ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 50% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

เป้าหมายนี้สูงกว่าการคาดการณ์ตามปกติที่มักจะอยู่ในช่วง 22 ล้านถึง 23 ล้านตัน โดยปัจจัยขับเคลื่อนที่สำคัญมาจากผลผลิตข้าวที่คาดว่าจะทำสถิติสูงสุดของอินเดียในปีนี้ที่ 145 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 7% จากปีที่แล้ว  ซึ่งคาดว่าจะสามารถตอบสนองการบริโภคภายในประเทศได้อย่างสบาย และเพิ่มปริมาณส่วนเกินที่สามารถส่งออกได้อย่างมาก

โดยอินเดียนั้นมีแผนการขยายตลาดส่งออกไปยังหลายประเทศนอกเหนือจากตลาดเดิมอย่างแอฟริกา ยกตัวอย่างเช่น

  • ฟิลิปปินส์ : ฟิลิปปินส์ เคยระงับการนำเข้าข้าวบาสมาติจากอินเดีย เนื่องจากเคยเผชิญปัญหาด้านคุณภาพในการจัดส่งเมื่อประมาณสิบปีที่แล้ว ซึ่งสหพันธ์ IREF กำลังอยู่ระหว่างการหารือกับฟิลิปปินส์ โดยมีการพูดคุยกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรของฟิลิปปินส์ ซึ่งอนุญาตให้นำเข้าข้าวบาสมาติแล้ว
  • สหภาพยุโรป (EU): สหพันธ์ IREF ได้เสนอให้รัฐบาลอินเดียเจรจากับสหภาพยุโรป เพื่อขอลดภาษีนำเข้าข้าวบาสมาติขาวที่ผ่านการสีแล้ว (Milled White Rice) เพิ่มเติมจากเดิมที่ครอบคลุมเฉพาะข้าวกล้อง (Brown Rice) เท่านั้น มาตรการนี้มีเป้าหมายเพื่อลดการผูกขาดของผู้เล่นรายใหญ่ไม่กี่รายในตลาด EU และเปิดโอกาสให้ผู้ส่งออกอินเดียเข้าถึงตลาดข้าวพรีเมียมมากขึ้น การขยายตลาดดังกล่าวควบคู่ไปกับการสร้างความเชื่อมั่นผ่านเวทีอย่าง Bharat International Rice Conference (BIRC) ถือเป็นกุญแจสำคัญในการรับมือกับปัญหาอุปทานข้าวส่วนเกินที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก

ราคาข้าวไทยเตรียมถูกกดดันต่อเนื่อง

ในปี 2568 ภาคการปลูกข้าวของไทยกำลังเผชิญแรงกดดันหนักจากราคาข้าวที่ปรับลดลงต่อเนื่องตั้งแต่กลางปี 2567 สาเหตุสำคัญมาจากการที่อินเดียกลับมาส่งออกข้าวอย่างเต็มกำลัง หลังยกเลิกข้อจำกัดบางส่วนจากปีก่อน ส่งผลให้ปริมาณข้าวในตลาดโลกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะที่การส่งออกข้าวของไทยกลับชะลอตัวลง

ซึ่งจากการที่อินเดียตั้งเป้าส่งออกข้าวสูงสุดเป็นประวัติการณ์กว่า 30 ล้านตันในปี 2568/2569 ซึ่งถือเป็นปริมาณมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา การเร่งระบายข้าวครั้งนี้กดดันราคาข้าวโลกให้ปรับลดลงอย่างรุนแรง และลดอัตรากำไรของประเทศคู่แข่งอย่างไทยและเวียดนามโดยตรง

สำหรับไทย ราคาข้าวที่มีแนวโน้มอ่อนตัวต่อเนื่องอาจกระทบรายได้ของเกษตรกร โดยเฉพาะในภาคอีสานซึ่งเป็นพื้นที่ปลูกข้าวหลักของประเทศ ทั้งยังเพิ่มความเสี่ยงต่อปัญหาหนี้ครัวเรือนและกำลังซื้อในชนบท หากไม่มีมาตรการพยุงราคาหรือกระตุ้นการแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าเข้ามารองรับ

ที่มา:

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Scroll to Top