ชวนมาเบิ่ง ตัวอย่าง “ของฝากสุดแซ่บขึ้นชื่อ” แต่ละจังหวัดในภาคอีสาน และ ตลาดของฝากไทย Gift Industry

ชวนมาเบิ่ง ตัวอย่าง “ของฝากสุดแซ่บขึ้นชื่อ” แต่ละจังหวัดในภาคอีสาน

.

.

ของฝากเด็ดจากดินแดนอีสาน แซ่บถึงใจ!

ภาคอีสานของเรานั้นขึ้นชื่อเรื่องความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติและวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งสะท้อนออกมาในรูปแบบของสินค้าหัตถกรรมและอาหารพื้นเมืองที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ถ้าใครมีโอกาสได้ไปเที่ยวภาคอีสานแล้วล่ะก็ ไม่ควรพลาดที่จะนำของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้านไปฝากคนที่คุณรักกันนะคะ

.

วันนี้ ISAN Insight and Outlook จะพาไปตะลุยของฝากเด็ดจากแต่ละจังหวัดในภาคอีสานกัน

  • กาฬสินธุ์ หมูทุบ, หมูสวรรค์
  • ขอนแก่น หม่ำเมืองพล, ไก่ย่างเขาสวนกวาง
  • ชัยภูมิ หม่ำตำนานรัก
  • นครพนม กะละแม, เหล้าอุเรณูนคร
  • นครราชสีมา ผัดหมี่โคราช, ข้าวตัง
  • บึงกาฬ ขนมเบื้องกรอบ
  • บุรีรัมย์ กุ้งจ่อม, กุนเชียง
  • มหาสารคาม โหน่งปลาร้าบอง
  • มุกดาหาร ปอเปี๊ยะสด
  • ยโสธร ถั่วคั่วทราย, ไข่มดแดงกระป๋อง
  • ร้อยเอ็ด กุนเชียง, แหนม
  • เลย มะพร้าวแก้วเชียงคาน, มะขามหวาน
  • ศรีสะเกษ ทุเรียนภูเขาไฟ
  • สกลนคร โคขุนโพนยางคำ, น้ำหมากเม่า
  • สุรินทร์ กุนเชียง, กะละแมสุรินทร์
  • หนองคาย แหนมเนือง, หมูยอ
  • หนองบัวลำภู ปลาส้ม
  • อำนาจเจริญ ปลาทูหอมสมุนไพร, หมู-เนื้อแผ่น
  • อุดรธานี แหนมเนือง, ไส้กรอกอีสาน
  • อุบลราชธานี หมูยออุบล, ก๋วยจั๊บอุบล

.

นี่เป็นเพียงตัวอย่างของของฝากจากภาคอีสานเท่านั้น ยังมีอีกมากมายให้คุณได้เลือกกัน หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ในการเลือกของฝากจากภาคอีสานนะคะ

.

นอกจากของฝากแดนอีสานแล้ว อีสาน อินไซต์ จะพามาเบิ่ง วัฒนธรรมการให้และรับของขวัญ (Gift Giving) ถือเป็นธรรมเนียมเก่าแก่ที่เกิดมาควบคู่กับมนุษยชาติ และมีวิวัฒนาการไปตามแต่ละยุคสมัย เป็นขนบนิยมสากลทั่วโลกเพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกัน เพราะนัยสำคัญคือการแสดงมิตรไมตรีจิตและการขอบคุณตอบแทนกลับ จะแตกต่างกันก็เพียงรูปแบบและวิธีการ ซึ่งยึดโยงกับประเพณีในพื้นถิ่นนั้น ๆ  

แม้ว่าการให้ของขวัญจะไม่จำเป็นต้องตอบแทนกลับในรูปแบบ “สิ่งของ” เสมอไป แต่ตามธรรมเนียมปฏิบัติในหลายประเทศทั่วโลกนั้น การให้และได้รับคืนกลับ คือหลักที่พึงปฏิบัติเสมอ ไม่ว่าจะเป็นในรูปของธรรมเนียมตามปกติ หรือเป็นประเพณีตามเทศกาลโอกาสพิเศษต่าง ๆ และได้กลายเป็นระบบ “เศรษฐกิจของขวัญ” (Gift Economy) ซึ่งมีมูลค่ามากกว่า 6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ไปแล้วทั่วโลก

ในขณะที่ตลาดอุตสาหกรรมของขวัญของไทย (ล้านบาท)

  • ของที่ระลึกขายนักท่องเที่ยว 28,000 ล้านบาท คิดเป็น 43.8%
  • ส่งออกต่างประเทศ 24,000 ล้านบาท คิดเป็น 37.5%
  • ของชำร่วยส่งเสริมการขาย 10,000 ล้านบาท คิดเป็น 15.6%
  • ของขวัญ 2,000 ล้านบาท คิดเป็น 3.1%

Gift Industry อุตสาหกรรมนี้มีผู้เล่นเป็นใครบ้าง? 

หากลองร่างแผนภาพซัพพลายของอุตสาหกรรมของขวัญ จะพบว่ามีความเกี่ยวข้องกับหลากหลายธุรกิจ เริ่มตั้งแต่

  •   ผู้ผลิตสินค้าที่ถูกนำมาใช้เป็นของขวัญ
    อ้างอิงจากการแบ่งหมวดหมู่สินค้าของกลุ่มอุตสาหกรรม จากสมาคมของขวัญของชำร่วยไทยและของตกแต่งบ้าน (Thai Gifts Premiums & Decorative Association: TGP) ซึ่งมีการแบ่งหมวดหมู่สินค้าที่เกี่ยวข้องไว้ทั้งสิ้น 18 ประเภท ประกอบด้วย
    1.    ดอกไม้ประดิษฐ์ (Artificial flower) 
    2.    ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กและของเล่น (Baby & Toys)
    3.    ผลิตภัณฑ์ความงามและสปา (Beauty & Spa)
    4.    เซรามิก/ แก้ว/ เครื่องปั้นดินเผา (Ceramic/ Glass/ Pottery)
    5.    เครื่องแต่งกาย/ เครื่องประดับ (Costume/ Jewelry)
    6.    ของตกแต่งบ้าน (Home decorative)
    7.    ผลิตภัณฑ์จากเรซิ่น (Resin decorative)
    8.    เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (Electronics)
    9.    ผ้าและสิ่งทอสำหรับตกแต่งบ้าน (Fabric/ Home textiles)
    10.    เฟอร์นิเจอร์ (Furniture)
    11.    เครื่องครัว (Kitchenware)
    12.    กระเป๋าหนังและอุปกรณ์ตกแต่งที่ทำจากหนัง (Bag and leather)
    13.    ผลิตภัณฑ์จากโลหะ/ ทองแดง/ ทองเหลือง / พิวเตอร์ (Metal/ Bronze/ Brass/ Pewter)
    14.    กระดาษ/ กระดาษสา (Paper and Saa paper)
    15.    ผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยง (Pet product)
    16.    บุหงา/ เทียนหอม / ธูปหอม (Potpourri/ Candle/ Aroma incense)
    17.    ของพรีเมี่ยม (Premiums and promotional product)
    18.    ผลิตภัณฑ์จากไม้ (Wood product)
  •   ผู้ผลิตสินค้าเกี่ยวเนื่อง
    เป็นสินค้ากลุ่มอุปกรณ์ตกแต่งให้สมบูรณ์สวยงาม เช่น บรรจุภัณฑ์ กระดาษห่อของขวัญ อุปกรณ์ตกแต่ง และการ์ดอวยพร
  •   ร้านค้า ห้างสรรพสินค้า และ E-commerce: ที่เป็นแหล่งจำหน่ายสินค้าของขวัญ รวมไปถึงการสร้างมูลค่าเพิ่มด้วยการจัดเซ็ตของขวัญ การห่อและตกแต่ง เป็นต้น
  •   เดลิเวอรี่และงานบริการส่งมอบของขวัญ: ปัจจุบัน ธุรกิจเดลิเวอรีเริ่มทำธุรกิจนอกเหนือจากการเป็นผู้ส่งของเพียงอย่างเดียว โดยบริษัทบางแห่งเพิ่มฟังก์ชั่นให้พนักงานส่งของทำหน้าที่สร้างบรรยากาศและประสบการณ์ประทับใจแก่ผู้รับของขวัญแทนผู้ให้ด้วย เช่น ในโอกาสวันเกิดและวันวาเลนไทน์

ไลฟ์สไตล์ไทย ๆ ฟันเฟืองสำคัญขับเคลื่อน Gift Economy

ผู้ประกอบการในกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ไทย ปัจจุบันมีจำนวนรวมกว่า 6,000 กิจการ จากการรวบรวมข้อมูลของสมาพันธ์ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ไทยปี 2562 พบว่า ตลาดของขวัญ ของชำร่วย และของตกแต่งบ้านทั้งในประเทศและส่งออก มีมูลค่ารวมกว่า 64,000 ล้านบาท 

ในจำนวนนี้ แบ่งเป็นตลาดของที่ระลึกที่ขายให้กับนักท่องเที่ยว มูลค่ามากกว่าปีละ 28,000 ล้านบาท ตลาดของชำร่วยที่บริษัทห้างร้านต่าง ๆ ใช้ในการส่งเสริมการขาย ปีละกว่า 10,000 ล้านบาท และตลาดของขวัญ ของชำร่วย ตระกร้าของขวัญ อีกกว่า 2,000 ล้านบาท ส่วนการส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศมีมูลค่าประมาณ 24,000 ล้านบาท 

ตลาดของขวัญ ของชำร่วยของไทย

ปัจจุบัน ผู้ประกอบการในกลุ่มอุตสาหกรรมนี้ ประสบปัญหาเรื่องการขาดสภาพคล่องเป็นหลัก จากผลกระทบโควิด-19 เนื่องจากธุรกิจกว่า 81.3 % พึ่งพิงรายได้จากต่างชาติเป็นหลัก ทั้งในส่วนของการขายสินค้าให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ หรือการส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศ 

ทั้งนี้ ในภาพรวมของอุตสาหกรรม ทางสมาพันธ์ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ไทย คาดการณ์ว่าปี 2563 มูลค่าตลาดจะลดลงมากกว่า 40% ในจำนวนนี้เป็นยอดส่งออกที่จะลดลงกว่า 20% ขณะที่ตลาดในประเทศ ยังได้รับผลกระทบซ้ำจากการไหลบ่าของสินค้านำเข้าจากจีนราคาถูก ผ่านผู้ค้ารายย่อยตาม E-commerce Platform ต่าง ๆ กลุ่มผู้บริโภคชาวไทยจึงมีแนวโน้มใช้สินค้าที่ออกแบบและผลิตภายในประเทศในสัดส่วนที่ต่ำลงอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมหลายราย หันไปผลิตหน้ากากอนามัยและถุงผ้า เพื่อประคองธุรกิจเป็นการชั่วคราว
 

Local Market คือทางออก

หากเกิดการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ หรือ การเปิดประเทศล่าช้ากว่าที่คาดการณ์กันไว้ ผู้ประกอบการในกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ไทย จะปรับกลยุทธ์ธุรกิจเพื่อรักษาตัวรอดอย่างไร หากเรายังยึดโยงกับเม็ดเงินจากการท่องเที่ยวหรือภาคการส่งออกเป็นหลัก ดังนั้น การผลักดันให้เกิดการอุปโภค-บริโภคสินค้าภายในประเทศ เฉกเช่นเดียวกับ ญี่ปุ่น และ จีน จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องเรียนรู้ โดยเฉพาะการสร้าง Gift Economy ให้เป็นระบบ ซึ่งจะเป็นการสร้างศักยภาพใหม่ให้กับเศรษฐกิจไทย โดยมีประเด็นที่ควรต้องเร่งทำความเข้าใจ ดังนี้

Age Group
●    ศึกษาและทำความเข้าใจกับพฤติกรรมของผู้บริโภคในแต่ละช่วงวัย เพราะเชื่อว่าแต่ละกลุ่มอายุย่อมมีความต้องการที่จะเสพสินค้าไลฟ์สไตล์ในฟังก์ชั่นที่แตกต่างกัน การพัฒนาสินค้า 1 ชิ้น ให้ตอบโจทย์ให้ครบทุกวัย อาจจะไม่ใช่แนวคิดที่ดีอีกต่อไป 

Trend
●    สร้างสรรค์สินค้าตามเทรนด์ที่ผู้บริโภคกำลังให้ความนิยม เช่น สินค้าเฉพาะบุคคล ที่เปิดโอกาสให้ผู้ซื้อสามารถกำหนดสีและวัสดุที่ใช้ทำได้ด้วยตัวเอง แม้กระทั่งการพัฒนา Character หรือใส่ข้อความและภาพที่สื่ออัตลักษณ์ความเป็นตัวตนเข้าไปในชิ้นงานได้ น่าจะช่วยเพิ่มกำไรได้มากกว่า

Technology
●    สินค้าในกลุ่มไลฟ์สไตล์ส่วนใหญ่มักพึ่งพาแรงงานฝีมือ ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตสูงและส่อเค้าจะหาแรงงานเข้ามาทำงานได้ยากขึ้น ดังนั้น การหาตัวช่วยในการผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ไม่ซับซ้อน อาทิ 3D Printing หรือเครื่องกัดขึ้นรูปวัสดุ (CNC Milling Machine) อาจเป็นตัวเลือกเพื่อย่นระยะเวลา หรือลดต้นทุนในการผลิตของกิจการได้

Collaboration
●    การคอลแลบกันระหว่างแบรนด์ หรือ Co-Brand เป็นวิธีการทางการตลาดที่ได้รับความนิยมในช่วงหลายปีที่ผ่านมา หากแต่ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมต้องมีกระบวนความคิดที่ยืดหยุ่น และไม่ยึดติดกับแนวทางการพัฒนาสินค้าแบบเดิม ๆ พยายามมองหาฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ที่แบรนด์ไม่สามารถเข้าถึงได้หากขายสินค้าแบบเดิม ๆ หรือง่ายที่สุดคือ การร่วมพัฒนาสินค้ากับคนดัง หรือ Influencers ที่มีฐานแฟนคลับที่แข็งแรง 

Create Demand
●    การจะพึ่งพาตลาดในประเทศเพื่อทดแทนกำลังซื้อเดิมนั้น อาจจำเป็นต้องใช้การสร้างดีมานด์อย่างเป็นระบบ โดยหน่วยงานภาครัฐและสมาคมวิชาชีพในกลุ่มสินค้าของขวัญและไลฟ์สไตล์ไทย รวมถึงหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น สถาบันการเงิน อาจร่วมมือกันเพื่อช่วยส่งเสริม ตั้งแต่การช่วยเรื่องเงินทุนหมุนเวียนในอุตสาหกรรมการผลิตสินค้ากลุ่มไลฟ์สไตล์ภายในประเทศ ไปจนถึงการออกนโยบายสนับสนุนต่าง ๆ เช่น การจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐเพื่อนำสินค้าไปใช้ในส่วนราชการ คล้ายกับการส่งเสริมสินค้านวัตกรรมผ่านบัญชีนวัตกรรมไทย โดยการจัดซื้อเพื่อนำไปใช้สอย ตกแต่ง ซ่อมแซม อาคารสถานที่ รวมไปถึงการจัดซื้อเพื่อใช้เป็นของที่ระลึกประจำส่วนงาน หรือไว้สำหรับมอบให้กับหน่วยงานพาร์ทเนอร์ ทั้งในและต่างประเทศตามโอกาสสำคัญต่าง ๆ เป็นต้น

 

.

อ้างอิงจาก: 

– เว็บไซต์หน่วยงานราชการของจังหวัด

– เว็บไซต์ของแบรนด์สินค้า

– CEA; Gift Economy สุขนี้มีมูลค่า 2 ล้านล้าน

 

ติดตาม ISAN Insight & Outlook ทุกช่องทางได้ที่นี่

#ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ISAN #อีสานอินไซต์ #Business #Economy #ธุรกิจ #เศรษฐกิจ #ธุรกิจอีสาน #เศรษฐกิจอีสาน #ของฝากอีสาน #ของฝาก 

Leave a Comment

Your email address will not be published.

Scroll to Top