January 2023

พามาเบิ่ง 👀 เจาะมุมมอง Isan 2030 ✨ ผลักดัน BCG Model ยกระดับ “อีสาน” สู่ศูนย์กลางเศรษฐกิจใน 8 ปี

พามาเบิ่ง เจาะมุมมอง Isan 2030 ✨ ผลักดัน BCG Model ยกระดับ “อีสาน” สู่ศูนย์กลางเศรษฐกิจใน 8 ปี   ปัจจุบันโลกกำลังให้ความสำคัญกับเรื่อง Climate Change ซึ่งทำให้เกิดผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของมนุษย์ เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมทั่วโลก โดยมีการศึกษาว่าอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นในแต่ละองศามีผลกระทบต่อ GDP ซึ่งการปล่อยก๊าซมีเทนในภาคการเกษตรก็มีผลต่อสภาพภูมิอากาศ  ดังนั้นโมเดล BCG ไม่ได้เป็นเพียงแค่การลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เท่านั้น แต่ยังช่วยในเรื่องความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมซึ่งประเทศไทยได้นำยุทธศาสตร์ BCG มาใช้ เพื่อพัฒนาชุมชนและเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็งใช้ประโยชน์จากความเข้มแข็งของ “ความหลากหลายทางชีวภาพ” และ “ความหลากหลายทางวัฒนธรรม” มาต่อยอดและยกระดับมูลค่าให้ ecosystem ของการผลิตสินค้าและบริการมีมูลค่าสูงขึ้น Khon Kaen Innovation Centre (KKIC) และกลุ่มมิตรผล ร่วมกับอีก 50 เครือข่ายพันธมิตร ภาครัฐและเอกชน มองเห็นถึงโอกาสสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจของภาคอีสาน จึงร่วมกันผลักดันโมเดล BCG โดยมีเป้าหมายให้ “อีสาน” เป็นศูนย์กลางการยกระดับอุตสาหกรรม BCG ของไทยและเอเชีย ในปี 2030 โดยจัดงาน Isan BCG Expo 2022 สุดยอดมหกรรมนวัตกรรมยั่งยืนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอีสาน ภายใต้แนวคิด Collaboration | ร่วมอยู่ ร่วมเจริญ พร้อมชู 3 จุดแข็ง “สร้างสรรค์ ต่อยอด ยั่งยืน” สานต่อวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีของภาคอีสาน พร้อมเปิดโอกาสและส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือด้านธุรกิจและวิชาการกับหน่วยงานภาครัฐ เอกชน นักลงทุน และผู้ประกอบการต่าง ๆ ทั้งในประเทศและประเทศ CLMVT ให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม สู่การพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ กรรมการ กลุ่มมิตรผล กล่าวว่า “Isan BCG ภายใต้แนวคิด Collaboration | ร่วมอยู่ ร่วมเจริญ เป็นจุดเริ่มต้นของการขับเคลื่อนพัฒนาภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือไปจนถึงใน 8 ปีข้างหน้าหรือในปี 2030 โดยมีเรื่องระบบบริหารจัดการน้ำจากส่วนกลางและส่วนท้องถิ่น ที่ต้องบูรณาการและมองเป้าหมายร่วมกัน ระบบบริหารขนาดใหญ่โดยเขื่อน หรือระบบบริหารขนาดเล็กโดยแก้มลิง ต้องดูภาพรวมทั้งหมดว่าจะสามารถอำนวยความสะดวกให้กับภาคการเกษตรได้อย่างไร และยังมีสุดยอดนวัตกรรมและการท่องเที่ยว อีกทั้ง ยังมีของดีของอีสานมีมากมาย รวมถึง Multimodal Transport & Logistic Hub ที่มีทั้งสะพานเชื่อมสปป.ลาว สนามบิน 9 แห่งใน 20 จังหวัด และ Local Train สายใหญ่ ๆ อย่างน้อย 2 สาย รวมถึงรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน …

พามาเบิ่ง 👀 เจาะมุมมอง Isan 2030 ✨ ผลักดัน BCG Model ยกระดับ “อีสาน” สู่ศูนย์กลางเศรษฐกิจใน 8 ปี อ่านเพิ่มเติม »

ปังหลาย ! 🎉 กระทรวงวัฒนธรรม จัดใหญ่มหกรรมวัฒนธรรมแห่งชาติ ณ มหาสารคาม ช็อปของดีถิ่นอีสาน 🛍️🏺

ปังหลาย ! กระทรวงวัฒนธรรม จัดใหญ่มหกรรมวัฒนธรรมแห่งชาติ  ณ มหาสารคาม ช็อปของดีถิ่นอีสาน   มหาสารคาม – กระทรวงวัฒนธรรม ประเดิมจัดงานมหกรรมวัฒนธรรมแห่งชาติ วิถีถิ่น วิถีไทย หุ่นกระติบ งึดอีหลี ยลวิถี ของดีอีสาน ชวนเที่ยวมหาสารคาม กราบบูชาสักการะพระบรมธาตุนาดูน ช้อปของดีถิ่นอีสานตลาดวัฒนธรรม สร้างงาน สร้างรายได้ให้ชุมชน กระตุ้นเศรษฐกิจไทย สนองโมเดลเศรษฐกิจใหม่ BCG ของรัฐบาล ดัน “ Soft Power ” เป็นจุดขาย   เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2565 ณ พระบรมธาตุนาดูน อ.นาดูน จ.มหาสารคาม นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) เป็นประธานเปิดงานมหกรรมวัฒนธรรมแห่งชาติ วิถีถิ่น วิถีไทย “หุ่นกระติบ งึดอีหลี ยลวิถี ของดีอีสาน” ประจำปี 2565 โดยมีนางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นายธัญญวัฒน์ ชาญพินิจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม ผู้บริหาร วธ. วัฒนธรรมจังหวัด 20 จังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประธานมูลนิธิพระบรมธาตุนาดูน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สภาวัฒนธรรม เครือข่ายวัฒนธรรม นักท่องเที่ยวเข้าร่วมงาน   กระทรวงฯ ได้ดำเนินโครงการและกิจกรรมเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้แก่ระบบเศรษฐกิจฐานราก ในระดับชุมชนและท้องถิ่น สนับสนุนนโยบายโมเดลเศรษฐกิจใหม่ BCG ของรัฐบาล รวมทั้งผลักดัน “Soft Power” เพื่อส่งเสริมความเป็นไทยและอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ กระทรวงฯ จึงจัดงานมหกรรมวัฒนธรรมแห่งชาติ “วิถีถิ่น วิถีไทย” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ขึ้น ในพื้นที่ 4 ภูมิภาค โดยครั้งแรกจัดขึ้นในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ “หุ่นกระติบ งึดอีหลี ยลวิถี ของดีอีสาน” ระหว่างวันที่ 23 – 27 ธันวาคม 2565 ณ พระบรมธาตุนาดูน อ.นาดูน จ.มหาสารคาม ยกระดับพระบรมธาตุนาดูน เป็นศูนย์กลางจัดกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา และตามรอยอารยธรรมนครจำปาศรี เปิดพื้นที่ให้ ชาวภาคอีสานทั้ง 20 จังหวัด ภายในงานประกอบด้วยกิจกรรม การกราบบูชาสักการะพระบรมธาตุนาดูน ชมการฟ้อนรำจำปาศรี จำนวน 1,000 คน จัดนิทรรศการมหกรรมหุ่นกระติบและหุ่นฟางอย่างยิ่งใหญ่ นิทรรศการแสดงศิลปะ พิธียกอ้อ ยอครู บายศรีสูตรขวัญครูศิลปินอีสาน การเสวนาทางวิชาการ ตลาดวัฒนธรรม การสาธิตผลิตภัณฑ์ และบริการทางวัฒนธรรม …

ปังหลาย ! 🎉 กระทรวงวัฒนธรรม จัดใหญ่มหกรรมวัฒนธรรมแห่งชาติ ณ มหาสารคาม ช็อปของดีถิ่นอีสาน 🛍️🏺 อ่านเพิ่มเติม »

พาส่องเบิ่ง รายได้รวมของนิติบุคคล ในภาคอีสาน ปีงบการเงิน 2564

ในปี 2564 รายได้รวมของนิติบุคคลในภาคอีสานอยู่ที่ 1,773,863 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.5% จากปี 2563 เนื่องจากมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจต่าง ๆ ของภาครัฐ เช่น โครงการคนละครึ่ง เราเที่ยวด้วยกัน รวมทั้งการระดมฉีดวัคซีนให้กับประชาชน และการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดที่ส่งผลให้ผู้ประกอบการ มีความเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจมากขึ้น ทั้งนี้ผู้ประกอบการหลายธุรกิจได้ปรับตัวให้เข้ากับการดำเนินชีวิต วิถีใหม่ (New normal) และการทำงานจากที่บ้าน (Work from home) มีธุรกิจบางประเภทที่ได้รับประโยชน์ จากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป อ้างอิงจาก: https://datawarehouse.dbd.go.th/area/overview #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #รายได้รวมของนิติบุคคล

ชวนเบิ่ง 2 บริษัทใหญ่ระดับโลกที่มีฐานที่ตั้งในภาคอีสาน เป็นจั่งใด๋แหน่

อ้างอิงจาก: https://datawarehouse.dbd.go.th/…/profile/5/0305543000810 https://datawarehouse.dbd.go.th/…/profile/5/0105530039056 https://www.auctionhouse.co.th/blog/post/casio_history/ #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #คาสิโอ #ฮิตาชิ #นครราชสีมา #นาฬิกา #บริษัทใหญ่ระดับโลก

รายได้จากการท่องเที่ยวในภาคอีสาน เป็นจั่งใด๋ ?

รายได้จากการท่องเที่ยวในภาคอีสาน ✈️ เป็นจั่งใด๋ ? 🌟 ปี 2565 (มกราคม – พฤศจิกายน) ภาคอีสานมีจำนวนนักท่องเที่ยวประมาณ 10 ล้านคน และมีรายได้จากการท่องเที่ยวอยู่ที่ 49,283 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 192.97% จากปี 2564 (มกราคม – พฤศจิกายน) ที่มีรายได้ 16,822 ล้านบาท โดยรายได้หลักยังคงมาจากคนในประเทศ 5 จังหวัดภาคอีสาน ที่มีรายได้จากการท่องเที่ยวสูงสุด ปี 2565 เทียบกับ ปี 2564 อันดับ 1. นครราชสีมา 8,714 ล้านบาท | 4,923 ล้านบาท อันดับ 2. ขอนแก่น 8,438 ล้านบาท | 2,252 ล้านบาท อันดับ 3. อุดรธานี 5,417 ล้านบาท | 1,687 ล้านบาท อันดับ 4. บุรีรัมย์ 5,311 ล้านบาท | 1,237 ล้านบาท อันดับ 5. หนองคาย 2,950 ล้านบาท | 641 ล้านบาท จะเห็นว่า ปี 2565 การท่องเที่ยวในภาคอีสานมีทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เนื่องจากรัฐบาลเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ ขณะที่สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศที่แนวโน้มดีขึ้น ทำให้ทุกๆจังหวัดมีรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก แนวโน้มการท่องเที่ยวไทยหลังจากนี้ ในปี 2566 ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยน่าจะมีจำนวนประมาณ 20.0 – 24.0 ล้านคน หรือกลับมาคิดเป็นสัดส่วน 50.0%-60.0% เมื่อเทียบกับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยในปี 2562 นักท่องเที่ยวจากภูมิภาคอื่นในภาพรวมน่าจะฟื้นตัวได้ดี แต่ยังต้องใช้เวลากว่าที่จะกลับไปสู่ระดับก่อนการระบาดของโควิด สำหรับการใช้จ่ายของชาวต่างชาติเที่ยวไทยสู่ธุรกิจท่องเที่ยวและเกี่ยวเนื่องในปี 2566 คาดว่าจะมีมูลค่าประมาณ 0.84 – 1.01 ล้านล้านบาท โดยค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนต่อทริปยังต่ำกว่าปี 2562 จากหลายปัจจัย ทั้งความต้องการเดินทางท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไป ส่วนใหญ่ยังเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวระยะใกล้ กลุ่ม Younger Travelers กลุ่มที่เดินทางแบบ Backpacker และเศรษฐกิจที่ชะลอตัวซึ่งมีผลต่องบประมาณในการใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยว ทั้งนี้ ในปี 2566 แม้คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยจะมากขึ้น แต่ยังอยู่ระดับต่ำกว่าก่อนการระบาดของโควิด และการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติยังไม่ทั่วถึง ด้วยสภาพแวดล้อมของตลาดยังมีปัจจัยท้าทายหลากหลาย โดยเฉพาะปัจจัยความเสี่ยงจากแนวโน้มเศรษฐกิจหลักของโลกอย่างในสหรัฐฯและยุโรปหลายประเทศเข้าสู่ภาวะถดถอย ความเสี่ยงต่อการฟื้นตัวของรายได้และการมีงานทำ สถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด และปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ที่เกิดขึ้นในเอเชียตะวันออก รวมถึงปัญหาค่าครองชีพที่ยังทรงตัวสูง …

รายได้จากการท่องเที่ยวในภาคอีสาน เป็นจั่งใด๋ ? อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง 10 อันดับบริษัทเกี่ยวกับศิลปะ ความบันเทิง และสันทนาการ ที่มีกำไรรวมมากที่สุด 2564 ในภาคอีสาน

อ้างอิงจาก: https://data.creden.co/ranking #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #บริษัทที่มีกำไรรวมมากที่สุด #อันดับบริษัทที่มีกำไรรวมมากที่สุด #บริษัทเกี่ยวกับศิลปะ #บริษัทความบันเทิง #บริษัทสันทนาการ

Scroll to Top