Infographic

สรุปเรื่อง น่ารู้ แดนอีสาน ทั้ง เศรษฐกิจ ธุรกิจ สังคม ศิลปะ วัฒนธรรม

พาส่องเบิ่่ง จังหวัดไหนในอีสาน มีก๊าซโอโซน มากที่สุด

“ฮู้บ่ว่า?โอโซนในอีสานมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี ส่งผลต่อสุขภาพเรามากกว่าที่คิด จากปัญหาระบบทางเดินหายใจสู่โรคร้ายแรง . โอโซน เป็นก๊าซชนิดหนึ่งที่สามารถพบได้ทั้งในชั้นบรรยากาศและใกล้พื้นผิวโลก แต่โอโซนที่ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพคือโอโซนใกล้พื้นดิน (Ground-level ozone) ซึ่งเกิดจากปฏิกิริยาเคมีระหว่างสารมลพิษที่ปล่อยออกจากยานพาหนะ โรงงานอุตสาหกรรม และแหล่งเผาไหม้อื่น ๆ กับแสงแดด โอโซนใกล้พื้นดินมีผลกระทบต่อสุขภาพอย่างมาก โดยเฉพาะในภาคอีสานของประเทศไทยที่พบว่าปริมาณโอโซนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี . ภาคอีสานเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากมลพิษทางอากาศทั้งจากการขนส่งทางบกและการเผาไหม้ในพื้นที่เกษตรกรรม เมื่อโอโซนสะสมมากขึ้นในบรรยากาศ มันสามารถส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจโดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคปอดหรือโรคหัวใจอยู่แล้ว การสัมผัสกับโอโซนในระดับสูงเป็นเวลานานสามารถทำให้เกิดอาการระคายเคืองในระบบทางเดินหายใจ อาการหายใจถี่ แน่นหน้าอก หรืออาการไออย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ โอโซนยังสามารถทำให้การทำงานของปอดลดลงและทำให้เกิดโรคปอดเรื้อรัง เช่น โรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง และหืด . เมื่อดูปริมาณก๊าซโอโซนในรายจังหวัดจะพบว่าจังหวัด มุกดาหารที่มีค่าก๊าซโอโซนมากที่สุด มีเพียง 42 PPB ที่เทียบเป็นรายปี ซึ่งถือได้ว่ามีค่าไม่ได้สูงมากนัก ตามมาตราฐานที่ประเทศไทยกำหนดที่อยู่ในระดับอันตรายนั้นจะต้องมีค่าใกล้กับ 70 PPB เทียบรายเฉลี่ย8ชั่วโมง . โดยสามารถตรวจสอบค่าก๊าซและฝุ่นละออง ด้วยตัวเองได้ทาง ลิงก์เว็บไซต์ Click . ที่มา สำนักงานสถิติแห่งชาติ . ติดตาม ISAN Insight & Outlook ทุกช่องทางได้ที่ #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ISAN #อีสานอินไซต์ #Business #Economy #ธุรกิจ #เศรษฐกิจ #ธุรกิจอีสาน #เศรษฐกิจอีสาน #แวดล้อมอีสาน

พาส่องเบิ่่ง จังหวัดไหนในอีสาน มีก๊าซโอโซน มากที่สุด อ่านเพิ่มเติม »

🔎พาสำรวจเบิ่ง ชื่อหมู่บ้านมีคำว่า “ดอน” กระจายอยู่ไหนบ้าง🏠

🔎พาสำรวจเบิ่ง ชื่อหมู่บ้านมีคำว่า “ดอน” กระจายอยู่ไหนบ้าง🏠 . . ในการตั้งชื่อหมู่บ้านของคนโบราณส่วนใหญ่นิยมเลือกเป็นที่อยู่อาศัยในอดีต ได้แก่ เนิน โนน โพน โคก ดอน ควน . หมู่บ้านที่มีคำว่า ดอน พบกระจายตัวอยู่ประปรายในภาคเหนือ โดยเฉพาะจังหวัดลำปางและน่าน ส่วนที่กระจุกตัวกันอย่างหนาแน่นพบบริเวณฝั่งตะวันตกของที่ราบลุ่มภาคกลาง ประชิดแนวเทือกเขาถนนธงชัย และอีกหนึ่งพื้นที่ที่น่าสนใจ คือ พื้นที่ระหว่างแม่น้ำมูลตอนบนและแม่น้ำชีตอนล่างของภาคอีสาน รวมไปถึงตลอดแนวภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย ก็พบหมู่บ้านที่มีคำว่า ดอน เช่นกัน โดยเฉพาะแถบจังหวัดนครศรีธรรมราชและสงขลา . หมู่บ้านที่ใช้คำว่า “ดอน”  มีลักษณะเป็นพื้นที่ที่มีความลาดชันจากด้านหนึ่งไปสู่อีกด้านหนึ่ง และอาจมีเพียงเนินเล็กๆ เตี้ยๆ เป็นศูนย์กลางของพื้นที่หมู่บ้าน . ธรณีวิทยา “ดอน”  . ผลจากการชนและบีบอัดกันของแผ่นเปลือกโลกในอดีตนานมากแล้ว ทำให้พื้นแผ่นดินอีสานซึ่งประกอบไปด้วยชั้นหินทรายเป็นส่วนใหญ่เกิด การคดโค้งโก่งงอของหิน (folding) ทำให้ภาคอีสานมีภูมิประเทศโดยทั่วไปเป็นแบบที่เรียกว่าที่ ราบลูกฟูก หรือ เนินลูกระนาด ซึ่งแนวเทือกเขาภูพาน แถบสกลนคร เป็นตัวอย่างชัดเจนที่เกิดและยกตัวเป็นภูเขาขึ้นมาได้จากการคดโค้งโก่งงของหินเช่นกัน กลายเป็นภูมิประเทศโดยส่วนใหญ่ทั่วภาคอีสาน . อย่างไรก็ตาม จากกระบวนการกวัดแกว่งโค้งตวัดของทางแม่น้ำมูลและแม่น้ำชี ซึ่งเป็นแม่น้ำสายหลักของพื้นที่ โดยธรรมชาติของกระบวนการทางน้ำ จะทำให้เกิดการปรับราบพื้นที่ กลายเป็น ที่ราบน้ำท่วมถึง (floodplain) ด้วยเหตุนี้ หมู่บ้านที่มีคำว่า “ดอน” จึงกระจายตัวอยู่ในภาคอีสาน ตามลักษณะภูมิประเทศดั้งเดิมที่เกิดจากการคดโค้งโก่งงอของหิน ยกเว้นพื้นที่ราบน้ำท่วมถึง ที่ได้รับการปรับพื้นที่ราบ จากกระบวนการทางน้ำของแม่น้ำมูลและแม่น้ำชี . . ตัวอย่างชื่อหมู่บ้านที่มีคำว่า “ดอน” – บ้านดอนกอย ต.สว่าง อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร – บ้านดอนน้อย ต.ดอนหญ้านาง อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ – บ้านดอนมัน ต.ขามเรียง อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม – บ้านดอนบม ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.ขอนแก่น – บ้านดอนหมู ต.ขามเปี้ย อ.ตระการพืชผล จ.ดอุบลราชธานี – บ้านดอนยาวน้อย ต.วังหิน อ.โนนแดง จ.นครราชสีมา – บ้านดอนแดง ต.เชียงขวัญ อ.เชียงขวัญ จ.ร้อยเอ็ด – บ้านดอนนาดี ต.บ้านขาม อ.เมืองหนองบัวลำภู จ.หนองบัวลำภู  . . อ้างอิงจาก: – มิตรเอิร์ธ – mitrearth   ติดตาม ISAN Insight & Outlook ทุกช่องทางได้ที่ https://linktr.ee/isan.insight   #ISANInsightAndOutlook

🔎พาสำรวจเบิ่ง ชื่อหมู่บ้านมีคำว่า “ดอน” กระจายอยู่ไหนบ้าง🏠 อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง สถิติผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน💥🚙

พามาเบิ่ง สถิติผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน💥🚙 . 🤕จากสถิติผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากการเกิดอุบัติเหตุในแต่ละจังหวัด ณ วันที่ 9 ตุลาคม 2567 พบว่ามีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากการเกิดอุบัติเหตุเป็นจำนวนมาก และยังสะท้อนถึงปัญหาที่ต้องเร่งแก้ไข ไม่เพียงแต่เพื่อรักษาชีวิตของประชาชน แต่ยังเพื่อสร้างความมั่นใจในการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย . ภาคอีสานมีจำนวนผู้บาดเจ็บสูงถึง 139,000 ราย และผู้เสียชีวิต 2,824 ราย ซึ่งเป็นจำนวนที่สูงที่สุดในบรรดาภูมิภาคอื่นๆ อาจเนื่องมาจากเป็นภูมิภาคที่มีประชากรหนาแน่นและสภาพการจราจรที่ซับซ้อนจะมีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุที่สูงขึ้น . และจังหวัดที่มีจำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงที่สุดในภาคอีสานคือ จังหวัดนครราชสีมา ด้วยตัวเลขผู้เสียชีวิต 343 ราย และผู้บาดเจ็บมากถึง 24,563 ราย และนอกจากนี้ยังมีจังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก เช่น จังหวัดอุดรธานี ที่มีผู้เสียชีวิตถึง 236 ราย และ จังหวัดอุบลราชธานี ถึงแม้ว่าจะมีผู้เสียชีวิตเพียง 177 ราย แต่มีจำนวนผู้บาดเจ็บสูงถึง 14,605 ราย ตัวเลขเหล่านี้บ่งบอกถึงปัญหาในการใช้รถใช้ถนนในภาคอีสานที่ยังคงมีอยู่สูง . 🚨🚘อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตในภาคอีสานคือ การขับขี่โดยประมาท รวมไปถึงการขับรถเร็วเกินกำหนด การไม่สวมหมวกนิรภัยหรือคาดเข็มขัดนิรภัย และการดื่มแอลกอฮอล์ก่อนหรือขณะขับขี่ แม้ว่าทางภาครัฐจะมีการรณรงค์อย่างต่อเนื่อง แต่พฤติกรรมเหล่านี้ยังพบเห็นได้บ่อย ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุเป็นจำนวนมาก . ทั้งนี้เราขอให้ทุกท่านขับขี่ปลอดภัย ปราศจากแอลกอฮอล์ และสวมหมวกนิรภัยหรือคาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัยของตัวท่านและผู้อื่น . หมายเหตุ : เป็นข้อมูล ณ วันที่ 9 ตุลาคม 2567 . ที่มา : ศูนย์ข้อมูลอุบัติเหตุ เพื่อเสริมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนน . ติดตาม ISAN Insight & Outlook ทุกช่องทางได้ที่ https://linktr.ee/isan.insight . #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ISAN #อีสานอินไซต์ #อุบัติเหตุ #การจราจร

พามาเบิ่ง สถิติผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน💥🚙 อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง👩‍🎓👩‍🔧 ค่าแรงขั้นต่ำในประเทศเฮาและเพื่อนบ้าน GMS เฮา

พามาเบิ่ง👩‍🎓👩‍🔧 ค่าแรงขั้นต่ำในประเทศเฮาและเพื่อนบ้าน GMS เฮา . 👷ค่าแรงขั้นต่ำเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของแรงงานในแต่ละประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขง (GMS) เช่น ไทย ลาว เวียดนาม กัมพูชา และเมียนมา ซึ่งมีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำในปีที่ผ่านมาเพื่อรับมือกับภาวะเงินเฟ้อและเพิ่มแรงจูงใจในการทำงาน จากตารางแสดงให้เห็นว่า 🇨🇳ประเทศจีนมีค่าแรงขั้นต่ำสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 401.75 บาทต่อวัน หรือ 12,454.20 บาทต่อเดือน 🇹🇭ในขณะที่ประเทศไทย (ภาคอีสาน) มีค่าแรงขั้นต่ำอยู่ที่ 343.45 บาทต่อวัน ซึ่งเทียบเป็นรายเดือนแล้วประมาณ 10,646.95 บาท 🇲🇲ส่วนประเทศเมียนมามีค่าแรงขั้นต่ำต่ำสุดในกลุ่มนี้ที่ 109.02 บาทต่อวัน หรือประมาณ 3,379.62 บาทต่อเดือน เด้อ . ข้อมูลนี้ชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างของค่าแรงในแต่ละประเทศซึ่งสะท้อนถึงมาตรฐานค่าครองชีพและสภาพเศรษฐกิจในพื้นที่ โดยการปรับเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำอย่างต่อเนื่องเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่แต่ละประเทศใช้เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและรักษาสิทธิของแรงงาน ในระดับปัจเจกบุคคล: คุณค่าของแรงงาน: ค่าจ้างสะท้อนให้เห็นถึงคุณค่าที่ตลาดให้กับทักษะ ความรู้ และประสบการณ์ของแต่ละบุคคล ยิ่งมีทักษะที่ตลาดต้องการมากเท่าไหร่ ค่าจ้างก็มีแนวโน้มสูงขึ้นเท่านั้น มาตรฐานการครองชีพ: ค่าจ้างเป็นปัจจัยหลักที่กำหนดมาตรฐานการครองชีพของคนเรา ว่าสามารถซื้อสินค้าและบริการอะไรได้บ้าง รวมถึงคุณภาพชีวิตโดยรวม แรงจูงใจในการทำงาน: ค่าจ้างที่เหมาะสมเป็นแรงจูงใจสำคัญที่ทำให้คนเราอยากทำงานและพัฒนาตนเอง ในระดับองค์กร: ประสิทธิภาพการผลิต: ค่าจ้างที่เหมาะสมจะช่วยดึงดูดและรักษาบุคลากรที่มีความสามารถ ทำให้เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตและคุณภาพของสินค้าหรือบริการ ต้นทุนการผลิต: ค่าจ้างเป็นส่วนหนึ่งของต้นทุนการผลิต หากค่าจ้างสูงขึ้น ก็อาจส่งผลต่อราคาขายสินค้าหรือบริการ ความสามารถในการแข่งขัน: ค่าจ้างที่สูงเกินไปอาจทำให้บริษัทขาดความสามารถในการแข่งขัน ในขณะที่ค่าจ้างที่ต่ำเกินไปอาจทำให้ขาดแรงงานที่มีคุณภาพ ในระดับสังคม: ความเหลื่อมล้ำทางรายได้: การกระจายตัวของค่าจ้างสะท้อนให้เห็นถึงความเหลื่อมล้ำทางรายได้ในสังคม สถานการณ์เศรษฐกิจ: การเปลี่ยนแปลงของค่าจ้างโดยเฉลี่ยสามารถบ่งบอกถึงสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของประเทศได้ เช่น ในช่วงเศรษฐกิจขยายตัว ค่าจ้างโดยเฉลี่ยมักจะเพิ่มขึ้น นโยบายเศรษฐกิจ: นโยบายต่างๆ ของรัฐบาล เช่น การกำหนดค่าจ้างขั้นต่ำ หรือมาตรการส่งเสริมการจ้างงาน จะมีผลต่อระดับและการกระจายตัวของค่าจ้าง ปัจจัยที่ส่งผลต่อค่าจ้าง ทักษะและประสบการณ์: ยิ่งมีทักษะและประสบการณ์สูง ค่าจ้างก็ยิ่งสูงขึ้น อุปสงค์และอุปทานของแรงงาน: หากอุปสงค์ของแรงงานในสาขาใดสาขาหนึ่งสูง แต่ปริมาณแรงงานมีจำกัด ค่าจ้างในสาขานั้นก็จะมีแนวโน้มสูงขึ้น ค่าครองชีพ: ค่าจ้างมักจะปรับตัวตามค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น กฎหมายและนโยบาย: กฎหมายแรงงานและนโยบายของรัฐบาลมีผลต่อการกำหนดค่าจ้างขั้นต่ำและสวัสดิการต่างๆ ที่ลูกจ้างได้รับ อำนาจต่อรอง: อำนาจต่อรองของลูกจ้างและนายจ้างมีผลต่อการกำหนดระดับค่าจ้าง สรุป ค่าจ้างแรงงานเป็นตัวแปรที่ซับซ้อนและเกี่ยวข้องกับปัจจัยหลายอย่าง การวิเคราะห์ค่าจ้างจึงต้องพิจารณาในบริบทที่หลากหลาย ทั้งในระดับปัจเจกบุคคล องค์กร และสังคม . ที่มา เว็ปไซต์ vdb-loi,prd.co.th,vietnam.incorp,b2b-cambodia,atlashxm,chinalegalexperts . ติดตาม ISAN Insight & Outlook ทุกช่องทางได้ที่ https://linktr.ee/isan.insight . #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ISAN #อีสานอินไซต์ #ISANxGMS #เพื่อนบ้านอีสาน

พามาเบิ่ง👩‍🎓👩‍🔧 ค่าแรงขั้นต่ำในประเทศเฮาและเพื่อนบ้าน GMS เฮา อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง👩‍🌾พื้นที่ที่เข้าร่วมโครงการ 1 ตำบล 1 กลุ่มเกษตรทฤษฎีใหม่

พามาเบิ่ง👩‍🌾พื้นที่ที่เข้าร่วมโครงการ 1 ตำบล 1 กลุ่มเกษตรทฤษฎีใหม่ . . การเกษตรของไทยก้าวหน้าไปไกลมาก ด้วยแนวทาง เกษตรทฤษฎีใหม่ ที่เกิดขึ้นในแต่ละตำบลทั่วประเทศ โครงการนี้เน้นการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เป็นการเกษตรที่ยั่งยืนเพื่ออนาคตของประเทศไทย . ในภาคภาคอีสาน ของเราเป็นแหล่งสำคัญของเกษตรกรไทย เรามีการดำเนินโครงการเกษตรทฤษฎีใหม่ในหลายจังหวัด ข้อมูลล่าสุดจากโครงการนี้แสดงให้เห็นถึงผลลัพธ์ที่ดีและชัดเจน เช่น . 1⃣.จังหวัดนครราชสีมา: มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการถึง 3,307 ครัวเรือน ครอบคลุมพื้นที่ 11,768.5 ไร่ โดยเฉลี่ยแล้วแต่ละครัวเรือนมีพื้นที่การเกษตรประมาณ 3.6 ไร่ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในการเกษตรอย่างมีประสิทธิภาพ 2⃣.จังหวัดอุดรธานี: ก็ไม่แพ้กัน โดยมีเกษตรกรถึง 3,929 ครัวเรือน ทำการเกษตรบนพื้นที่ทั้งหมด 15,540 ไร่ พื้นที่เฉลี่ยต่อครัวเรือนอยู่ที่ 4.0 ไร่ แสดงถึงการขยายตัวของการทำเกษตรที่ยั่งยืนในพื้นที่นี้ 3⃣.สกลนคร: อีกหนึ่งจังหวัดที่โดดเด่น มีเกษตรกร 2,311 ครัวเรือน ใช้พื้นที่ทำเกษตรกว่า 8,567 ไร่ พื้นที่เฉลี่ยอยู่ที่ 3.7 ไร่ต่อครัวเรือน . โครงการนี้ไม่เพียงเกิดขึ้นในภาคอีสานเท่านั้น แต่ยังขยายไปทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย เช่น 🌳 ภาคกลาง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งพื้นที่สำคัญของการเกษตรไทย มีเกษตรกรเข้าร่วมถึง 2,741 ครัวเรือน ใช้พื้นที่การเกษตรถึง 10,003 ไร่ เฉลี่ย 3.6 ไร่ต่อครัวเรือน 🌳 ภาคใต้ มีพื้นที่การเกษตร 5,966 ไร่ มีเกษตรกรเข้าร่วม 1,816 ครัวเรือน โดยแต่ละครัวเรือนมีพื้นที่เฉลี่ย 3.3 ไร่ . โครงการนี้มุ่งเน้นให้เกษตรกรสามารถเลี้ยงชีพได้และมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น นี่จึงเป็นก้าวสำคัญของการพัฒนาภาคเกษตรไทย ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยให้เกษตรกรมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น แต่ยังส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อมและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอีกด้วย   หมายเหตุ: ข้อมูลถึง มีนาคม 2567 . ติดตาม ISAN Insight & Outlook ทุกช่องทางได้ที่ https://linktr.ee/isan.insight   #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ISAN #อีสานอินไซต์ #Business #Economy #ธุรกิจ #เศรษฐกิจ #ธุรกิจอีสาน #เศรษฐกิจอีสาน #เกษตรทฤษฎีใหม่ #เกษตรยั่งยืน #เกษตรอีสาน #พัฒนาท้องถิ่น #1ตำบล1กลุ่ม #เกษตรกรอีสาน

พามาเบิ่ง👩‍🌾พื้นที่ที่เข้าร่วมโครงการ 1 ตำบล 1 กลุ่มเกษตรทฤษฎีใหม่ อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง🧐 18 สาขาอาชีพในอีสาน รายได้เฉลี่ยเดือนละเท่าไหร่🪙

พามาเบิ่ง18 สาขาอาชีพในอีสาน รายได้เฉลี่ยเดือนละเท่าไหร่.รายได้เฉลี่ยต่อเดือน ของทั้ง 18 สาขาอาชีพในภาคอีสาน มีดังต่อไปนี้การศึกษา ฿23,897กิจกรรมด้านสุขภาพและสังคมสงเคราะห์ ฿18,167ข้อมูลข่าวสารและการสื่อสาร ฿17,923กิจกรรมทางการเงินและการประกันภัย ฿17,323การบริหารราชการ การป้องกันประเทศ ฿15,380ไฟฟ้า ก๊าซ ไอน้ำ ฿14,353การขนส่งและสถานที่เก็บสินค้า ฿13,851การจัดหาน้ำ และการบำบัดน้ำเสีย ฿13,182กิจกรรมอสังหาริมทรัพย์ ฿12,323กิจกรรมทางวิชาชีพ วิทยาศาสตร์ และเทคนิค ฿11,523การทำเหมืองแร่ และเหมืองหิน ฿11,305การผลิต ฿10,877การขายส่งและขายปลีก ฿10,384กิจกรรมการบริหารและการบริการสนับสนุน ฿10,335ศิลปะ ความบันเทิง และนันทนาการ ฿9,761โรงแรมและร้านอาหาร ฿9,302การก่อสร้าง ฿8,721เกษตรกรรม ฿6,996.จากข้อมูลข้างต้นจะพบว่าสาขาอาชีพ ที่มีแหล่งรายได้จากทางราชการจะมีค่าเฉลี่ยสูงสุด เช่น ภาคการศึกษา, กิจกรรมด้านสุขภาพและสังคมสงเคราะห์ ที่มีความแตกต่างด้านรายได้อย่างมาก เพราะในฝั่งเอกชนจะมีรายได้สูง กว่าค่าจ้างจากทางภาครัฐ ยกตัวอย่างเช่น วิชาชีพแพทย์ พยาบาล ทันตแพทย์ ที่มีรายได้เฉลี่ยหลักหมื่น หรือ แสนบาทต่อเดือน ในขณะที่ รายได้ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านอยู่ในหลักพัน.ส่วนอาชีพที่รับรายได้ในภาคเอกชน การค้า และบริการ ในภาคอีสานยังใกล้เคียงกับค่าแรงเฉลี่ยขั้นต่ำที่ 400 บาท/วัน แต่ก็ยังมีอาชีพที่น่ากังวลคือ อาชีพด้านงานศิลป์ การบริการโรงแรมและอาหาร การก่อสร้าง ที่มีรายได้ต่ำที่สุด.สุดท้ายเกษตรกรที่มีรายได้เฉลี่ยต่ำที่สุด อาจพิจารณาได้จากหลายสาเหตุ เช่น รายได้ไม่แน่นอนขึ้นอยู่กับราคาสินค้าทางการเกษตรในช่วงเวลานั้นๆ, จำนวนเกษตรมีจำนวนมากถึง 4.1 ล้านคน ทำให้ค่าเฉลี่ยต่ำ, และสุดท้ายเพราะรายได้เกษตรกรเป็นรายได้ที่ส่วนใหญ่ได้รับการละเว้นการเสียภาษี หรือเกษตรก็ไม่ได้นำส่งรายได้เข้าสู่ระบบ ทำให้ไม่มีตัวเลขรายได้ที่แท้จริงปรากฏในระบบฐานข้อมูล..หมายเหตุ: ข้อมูลปี ไตรมาสที่ 1 ปี 2567ที่มา: สำนักงานสถิติแห่งชาติ.ติดตาม ISAN Insight ทุกช่องทางได้ที่https://linktr.ee/isan.insight.#ISANInsight #อีสาน #ISAN #อีสานอินไซต์ #Business #Economy #ธุรกิจ #เศรษฐกิจ #ธุรกิจอีสาน #เศรษฐกิจอีสาน #แรงงาน #ค่าจ้างเฉลี่ย #ค่าจ้างเฉลี่ยอีสาน

พามาเบิ่ง🧐 18 สาขาอาชีพในอีสาน รายได้เฉลี่ยเดือนละเท่าไหร่🪙 อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง อัตราค่าจ้างรายอาชีพในภาคอีสาน

สถิติค่าจ้างรายอาชีพของกรมจัดหางาน พบว่า ในปี 2566 ประเทศไทยมีสถิติค่าจ้างสูงสุดโดยแบ่งเป็น รายชั่วโมง 160 บาท รายวัน 850 บาท รายเดือน 300,000 บาท และต่ำสุดอยู่ที่ 8,550 บาทต่อเดือน ในส่วนของภาคอีสานนั้นในเป็นภาคที่มีรายได้สูงสุดต่ำที่สุดในประเทศอยู่ที่ 120,000 บาทต่อเดือน และหากมองเป็นรายได้เฉลี่ยต่อเดือนภาคอีสานก็ยังคงเป็นภาคที่มีรายได้เฉลี่ยน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับทุกภาคเช่นกันอยู่ที่ 12,510 บาทต่อเดือน   ถ้าเรามาดูในส่วนของรายได้เฉลี่ยตามหมวดอาชีพในภาคอีสาน 3 อันดับแรกที่มีรายได้เฉลี่ยสูงสุดในภาคอีสาน ได้แก่ ผู้จัดการ/เจ้าหน้าที่ระดับอาวุโส ≈ 16,601 บาทต่อเดือน ผู้ประกอบวิชาชีพด้านต่างๆ ≈ 14,767 บาทต่อเดือน ช่างเทคนิคและผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้อง ≈ 12,294 บาทต่อเดือน จะเห็นได้ว่าแม้รายได้สูงสุดของกลุ่มอาชีพนี้จะสูงมากแค่ไหนในส่วนของรายได้เฉลี่ยของคนส่วนใหญ่ที่ได้นั้นก็ยังคงอยู่เพียงแค่หลักหมื่นต้นๆเท่านั้น มีเพียงส่วนน้อยที่เป็นกลุ่มผู้มีประสบการณ์และความชำนาญสูงเท่านั้นที่จะได้ค่าจ้างสูงตามเพดานของอาชีพนั้นๆ   สำหรับอาชีพที่มีค่าจ้างเฉลี่ยต่อเดือนสูงที่สุดในประเทศ 5 อันดับแรก ได้แก่ นักวิเคราะห์การเงิน ≈ 47,225 บาทต่อเดือน ผู้บริหารระบบงานคอมพิวเตอร์ ≈ 37,588 บาทต่อเดือน นักวิเคราะห์และพัฒนาซอฟต์แวร์และโปรแกรมประยุกต์  ≈30,225 บาทต่อเดือน นักพัฒนาซอฟต์แวร์ ≈ 29,110 บาทต่อเดือน นักวิเคราะห์ด้านการบริหารและองค์การ ≈ 27,337 บาทต่อเดือน เมื่อเรามองดูกลุ่มอาชีพที่มีค่าจ้างเฉลี่ยต่อเดือนสูงนั้นจะพบว่า ส่วนใหญ่นั้นจะเป็นอาชีพเฉพาะทางที่อาศัยประสบการณ์ในการทำงานสูง โดยอาชีพ 3 ใน 5 นั้นเป็นอาชีพที่อยู่ในความเชี่ยวชาญด้านซอฟต์แวร์และเทคโนโลยี ซึ่งเป็นอาชีพที่มีกระแสมาแรงและความต้องการของทั่วโลกในบริษัทใหญ่ๆ มีสูงเช่นกัน   ในส่วนของอาชีพที่มีความต้องการมากที่สุดในประเทศไทย 5 อันดับแรกนั้น ได้แก่ พนักงานขายในศูย์บริการลูกค้า มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ 13,975 บาท เสมียนทั่วไป มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ 14,470 บาท ตัวแทนขายด้านการค้า มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ 18,405 บาท ผู้ประกอบวิชาชีพด้านโฆษณาและการตลาด มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ 18,929 บาท เสมียนด้านบัญชี มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ 15,107 บาท จะเห็นได้ว่าอาชีพส่วนใหญ่ที่มีความต้องการสูงในตลาดแรงงานนั้น 3 ใน 5 จะเป็นอาชีพที่เกี่ยวข้องกับการบริการลูกค้าและการตลาด จะไม่ใช่อาชีพที่อาศัยความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านเหมือนกลุ่มอาชีพที่ค่าจ้างสูง แต่เป็นอาชีพที่มีความต้องการของตลอดแรงงานสูง ขณะที่รายได้นั้นอยู่ในเกณฑ์ทั่วไป จากรายงานพบว่าภาคอีสานเป็นภาคที่มีรายได้เฉลี่ยต่ำที่สุดในประเทศ แม้ว่าจะมีจำนวนแรงงานมากเป็นอันดับสองของประเทศก็ตาม อย่างไรก็ตาม แรงงานส่วนใหญ่ในภาคอีสานทำงานอยู่ในภาคเกษตรกรรม ซึ่งเป็นภาคการผลิตที่มีรายได้ไม่สูง เมื่อพิจารณาค่าใช้จ่ายและรายได้ของกลุ่มคนในภาคเกษตรกรรม จะเห็นได้ว่ารายได้จากการทำเกษตรกรรมไม่สูงนัก เนื่องจากต้องรอผลผลิตตามฤดูกาล ในระหว่างนั้น แรงงานเกษตรต้องหารายได้เสริมจากอาชีพอื่นเพื่อเลี้ยงชีพ นอกจากนี้ เมื่อมีรายได้จากการขายผลผลิตเกษตร ส่วนใหญ่จะต้องนำไปชำระหนี้สินที่เกิดจากต้นทุนการผลิต ซึ่งยังไม่รวมถึงค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตประจำวัน ด้วยเหตุนี้ รายได้เฉลี่ยของภาคอีสานจึงไม่สูงนัก หากพิจารณาด้านความหลากหลายของอาชีพที่เป็นงานประจำ จะพบว่าไม่เพียงแต่ภาคอีสานเท่านั้น แต่ภาคอื่นๆ นอกเหนือจากกรุงเทพมหานครและปริมณฑลก็มีความหลากหลายทางอาชีพน้อยเช่นกัน เมื่อดูจากเว็บไซต์หางานต่างๆ ในพื้นที่ต่างจังหวัด

พามาเบิ่ง อัตราค่าจ้างรายอาชีพในภาคอีสาน อ่านเพิ่มเติม »

ส่องเบิ่ง 10 ปราสาทหิน ที่เที่ยวอีสาน อยู่หม่องใด๋แหน่ ?

ส่องเบิ่ง 10 ปราสาทหิน ที่เที่ยวอีสาน อยู่หม่องใด๋แหน่ ? . . ปราสาทหินพนมรุ้ง บุรีรัมย์ ปราสาทพนมรุ้ง หรือ อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง แห่งนี้ เป็นโบราณสถานที่เก่าแก่ของ บุรีรัมย์ ที่มาจากอิทธิพลของอารยธรรมเขมรโบราณ ซึ่งถือได้ว่ามีความสำคัญกับประเทศไทยอย่างมาก ศาสนสถานแห่งนี้สร้างขึ้นมาก็เพื่อถวายแด่พระศิวะ เทพเจ้าสูงสุดในศาสนาฮินดู ซึ่งก่อสร้างมาในช่วงหลายยุคหลายสมัยด้วยกัน ตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 15-18 . จึงทำให้มีความงดงามในด้านของสถาปัตยกรรม และความมหัศจรรย์ของปราสาทพนมรุ้ง นั่นก็คือ มีการเกิดปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่พระอาทิตย์ขึ้นและตกที่แสงอาทิตย์สาดส่องทะลุ 15 ช่องประตูของปราสาทพนมรุ้งในทุกๆ ปี ปีละ 4 ครั้ง จนเกิดเป็นงานประเพณีขึ้นเขาพนมรุ้งที่จัดขึ้นทุกๆ ปี . ที่อยู่ : อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์ พิกัด : https://goo.gl/maps/izNnHiBAHjXZJesL7   เปิดให้เข้าชม : 07.00-18.00 น. ค่าเข้าชม : ชาวไทย 20 บาท / ชาวต่างชาติ 100 บาท / สำหรับรถยนต์ 50 บาท โทร : 0-4466-6251 เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/Ensemble.of.Phanom.Rung  . ปราสาทหินเมืองต่ำ บุรีรัมย์ ปราสาทหินเมืองต่ำ หรือ ปราสาทเมืองต่ำ โดยเป็นศาสนสถานในศาสนาฮินดู มีสถาปัตยกรรมแบบศิลปะขอมโบราณ สันนิษฐานว่าน่าจะสร้างขึ้นในพุทธศตวรรษที่ 16-17 ภายในมีภาพจำหลักหินบนหน้าบัน และทับหลังที่สวยงามเหมาะแก่การศึกษาด้านประวัติศาสตร์และศิลปะสมัยขอมโบราณเป็นอย่างมาก อีกทั้งส่วนของลักษณะสถาปัตยกรรมด้านในของปราสาทเมืองต่ำนั้น ก่อสร้างด้วยฝีมือช่างในระดับช่างหลวง เรียกได้ว่าเป็นโบราณสถานที่สวยงามแห่งหนึ่ง . ที่อยู่ : บ้านโคกเมือง ตำบลจรเข้มาก อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ พิกัด : https://goo.gl/maps/CqGqzk3PQQumvXCM8    เปิดให้เข้าชม : 08.00-18.00 น. โทร : 0-4466-6251 เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/muangtamtemple/ . ปราสาทหินพิมาย นครราชสีมา ปราสาทหินพิมาย ตั้งอยู่ภายใน อุทยานประวัติศาสตร์พิมาย ภายในจะเป็นโบราณสถานสมัยขอมทั้งหมด ตั้งแต่ชิ้นเล็กๆ ไปจนถึงชิ้นใหญ่โต โดยสร้างขึ้นตามความเชื่อเกี่ยวกับสวรรค์และโลกมนุษย์ สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 เพื่อใช้เป็นเทวสถานของศาสนาพราหมณ์ และปราสาทหินพิมายยังเป็น ปราสาทหินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย . ที่อยู่ : ตำบลในเมือง อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา พิกัด : https://goo.gl/maps/224momsF3rCv6ewf9  เปิดให้เข้าชม : 07.00-18.00 น.

ส่องเบิ่ง 10 ปราสาทหิน ที่เที่ยวอีสาน อยู่หม่องใด๋แหน่ ? อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง สัดส่วน ศาสนิกชนของคนในอีสานบ้านเฮาและเพื่อนบ้าน GMS 

พามาเบิ่ง สัดส่วน ศาสนิกชนของคนในอีสานบ้านเฮาและเพื่อนบ้าน GMS  . ในภูมิภาคอีสานของไทย เฮาพบว่าศาสนาพุทธยังคงเป็นศาสนาหลักเด้อ นำหน้าด้วย 98.10% ของประชากรที่เฮ็ดบุญกัน นอกจากนั่นยังมีผู้บ่ถือศาสนาประมาณ 1% แล้วกะคริสต์อีก 0.40% ต่อมาด้วย  ลาวบ้านเฮือนข้างบ้านกะบ่แตกต่างกัน ศาสนาพุทธยังเป็นหลัก 95% ในขณะเดียวกันกะมีความเชื่อท้องถิ่นอยู่ที่ 5% ส่วนกัมพูชากะเฮ็ดบุญหลาย พุทธ 97% ส่วนมุสลิมมี 2% แล้วกะคริสต์มีอยู่ 1%  พม่า พุทธยังคงเป็นหลักอยู่ 87.9% แต่คริสต์กะมาหนักแน่นอยู่ 6.2% และมุสลิมอีก 4.3%  เวียดนามเป็นประเทศที่ประชากรส่วนใหญ่บ่ได้ถือศาสนาเลยถึง 86.32% แต่ยังมีคนพุทธอยู่ 4.79% และคริสต์อีก 6.1%  จีน ที่คนบ่ถือศาสนาอยู่ที่ 31.8% นอกจากนั่นกะยังมีความเชื่อจีนโบราณอยู่ถึง 30.8% และพุทธอยู่ 16.6%  การเปรียบเทียบสัดส่วนศาสนิกชนในประเทศไทย ลาว พม่า เวียดนาม และจีน เป็นเรื่องที่น่าสนใจ เนื่องจากประเทศเหล่านี้มีประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และภูมิหลังทางสังคมที่แตกต่างกัน ซึ่งส่งผลต่อความเชื่อทางศาสนาของประชาชนในแต่ละประเทศ . ไทย ศาสนาพุทธนิกายเถรวาท: เป็นศาสนาประจำชาติ มีผู้คนนับถือมากที่สุด ศาสนาอิสลาม: ส่วนใหญ่เป็นมุสลิมสุนหนี่ กระจุกตัวอยู่ในภาคใต้ ศาสนาคริสต์: ส่วนใหญ่เป็นคาทอลิกและโปรเตสแตนต์ ศาสนาอื่น ๆ: เช่น พราหมณ์-ฮินดู ซิกข์ . ลาว ศาสนาพุทธนิกายเถรวาท: เป็นศาสนาประจำชาติ มีผู้คนนับถือมากที่สุด ศาสนาผี: ความเชื่อผสมผสานกับพุทธศาสนา ศาสนาคริสต์: มีจำนวนน้อย ศาสนาอิสลาม: มีจำนวนน้อย . พม่า ศาสนาพุทธนิกายเถรวาท: เป็นศาสนาประจำชาติ มีผู้คนนับถือมากที่สุด ศาสนาคริสต์: มีจำนวนน้อย ศาสนาอิสลาม: ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในรัฐยะไข่ . เวียดนาม ศาสนาพุทธนิกายมหายาน: เป็นศาสนาหลัก ศาสนาพื้นเมือง: ความเชื่อผสมผสานกับพุทธศาสนาและขงจื๊อ ศาสนาคริสต์คาทอลิก: มีผู้คนนับถือจำนวนมากในบางพื้นที่ ศาสนาคริสต์โปรเตสแตนต์: มีผู้คนนับถือน้อย . จีน ศาสนาไร้神论 (Wu Shen Lun): หรือลัทธิไร้พระเจ้า เป็นอุดมการณ์หลักของรัฐบาลจีน ศาสนาพุทธนิกายมหายาน: มีผู้คนนับถือจำนวนมาก ศาสนาเต๋า: มีอิทธิพลต่อวัฒนธรรมจีน ศาสนาคริสต์: ส่วนใหญ่เป็นคาทอลิกและโปรเตสแตนต์ ศาสนาอิสลาม: ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในมณฑลซินเจียง . หมายเหตุ: สัดส่วนศาสนิกชนอาจมีการเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาและนโยบายของรัฐบาลในแต่ละประเทศ . ปัจจัยที่ส่งผลต่อความหลากหลายทางศาสนา #ประวัติศาสตร์: การติดต่อสัมพันธ์กับต่างชาติ การรุกราน และการค้าขาย ส่งผลต่อการเผยแผ่ศาสนา #วัฒนธรรม: ความเชื่อ

พามาเบิ่ง สัดส่วน ศาสนิกชนของคนในอีสานบ้านเฮาและเพื่อนบ้าน GMS  อ่านเพิ่มเติม »

ข่าวดี! “เนื้อสุรินทร์กิว”🐂 กำลังจะได้จดทะเบียน GI (สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์) โคขุนพันธุ์ลูกผสมวากิว จ.สุรินทร์ 

แจ้งข่าวดี เนื้อสุรินทร์กิว กำลังจะได้จด GI ( สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ ) วันที่ 18 ตุลาคม 2567 มีการประชุมคณะทำงานจัดทำคำขอขึ้นทะเบียน GI ที่สำนักงาน ปศุสัตว์จังหวัดสุรินทร์ โดยมี นาย อภิชัย นาคีสังข์ ปศุสัตว์จังหวัด เป็นหัวหน้าคณะ ท่านพาณิชย์จังหวัด นายวีรศักดิ์ พิษณุวงษ์ ประธานหอการค้าจังหวัด อาจารย์จากมหาวิทยาลัยราชมงคล วิทยาเขตอีสาน มหาวิทยาลัยราชภัฏ สุรินทร์ และกลุ่มผู้เลี้ยง วัววากิว ร่วมหารืออย่างพร้อมเพียงกัน โดยมีรายละเอียด คราวๆ ดังนี้ ศึกษาข้อมูลพื้นฐาน ทั้งอายุ น้ำหนัก การเลี้ยง แหล่งอาหารที่เด่น พื้นที่การเลี้ยง สัญญาลักษณ์ GI และเอกสาร มากมาย ให้ช่วยกันพิจารณา เพื่อให้ข้อมูลครบถ้วน ในการขอจดทะเบียน ซึ่งได้รับแลกเปลี่ยนความคิดเห็น หลายมิติมาก ซึ่งทุกความคิดเห็น จะได้รับการปรับแก้ไขและ สรุป ออกมานำเสนอ ให้กับท่านผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อยื่นขอจดสิทธิบัตรในนามจังหวัดสุรินทร์ของเราต่อไป ซึ่งปัจจุบันคณะทำงารเราทำถึงขั้นตอนที่ 6 จาก 9 ขั้นตอน และอาจใช้เวลา อีก 120 วันเพื่อพิจารณาคำขอ 90 วันเพื่อประกาศใช้เผื่อมผู้คัดค้าน ( กรมสินทรัพย์สินทางปัญญาจะเป็นผู้พิจารณา ) และจะเปิดโอกาสให้ ผู้เลี้ยงได้ทำเรื่องของใช้ตราสัญลักษณ์ต่อไป เป็นการแสดงให้เห็นว่า ถ้าสุรินทร์เราร่วมมือกัน ร่วมใจทุกภาคส่วน เราก็สามารถบรรลุเป้าหมายที่ประสงค์ได้ และก็เป็นอีกภารกิจที่ หอการค้าแห่งประเทศไทย หอการค้าจังหวัดสุรินทร์ร่วมขับเคลื่อนเรื่อง วากิว มาตลอดกว่า 10 ปี และเร็วนี้กำลังจะมีงานใหญ่ เนื้อสุรินทร์กิว เฟสติวัล ครั้งที่ 2 ในช่วงเดือน 17-19 มกราคม ต่อไปอีกด้วย ข้อมูลจากหอการค้าจังหวัดสุรินทร์   การขายโคลูกผสมวากิว เป็นตลาดแบบซื้อขายล่วงหน้า เมื่อในพื้นที่เริ่มมีการเลี้ยงโคลูกผสมวากิวมากขึ้น จึงเป็นผลให้ในเรื่องของตลาดก็ตามเข้ามาภายในพื้นที่ด้วย โดยร้านอาหารญี่ปุ่นได้ขอเข้ามาทำสัญญาซื้อขาย ตั้งแต่เริ่มขุนไปจนถึงโคที่เลี้ยงได้ขนาดไซซ์ที่ใหญ่ตามที่ต้องการ ซึ่งโคที่มีเลือดผสมวากิวอยู่ที่ 75 เปอร์เซ็นต์ จะมีไขมันแทรกดีกว่าโคที่มีเลือดผสมวากิวอยู่ที่ 50 เปอร์เซ็นต์ พร้อมทั้งอายุการเลี้ยงตั้งแต่เกิดจนสามารถส่งจำหน่ายได้ใช้เวลาเลี้ยงประมาณ 28 เดือน เมื่อเทียบกับสมัยก่อนที่ใช้เวลาเลี้ยงถึง 30 เดือน คุณภาพเนื้อที่มีไขมันแทรก “ในเรื่องของสายเลือดว่ากี่เปอร์เซ็นต์ดีที่สุด ตอนนี้ที่เราเลี้ยงกันมา สายเลือดวากิวอยู่ที่ 75 เปอร์เซ็นต์ โคค่อนข้างมีโครงสร้างและไขมันแทรกที่ดี ซึ่งในเรื่องนี้เราก็ยังไม่หยุดพัฒนา ยังหาวิธีการพัฒนาดูกันไปเรื่อยๆ โดยการขายเราจะขายแบบเป็นซาก เอาตัวโคเข้าโรงเชือดที่ได้มาตรฐาน เอาเครื่องใน เขา ข้อเท้า และหาง ออกให้หมด เหลือแต่เนื้อที่ติดกับกระดูกแขวนบ่มไว้ 7

ข่าวดี! “เนื้อสุรินทร์กิว”🐂 กำลังจะได้จดทะเบียน GI (สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์) โคขุนพันธุ์ลูกผสมวากิว จ.สุรินทร์  อ่านเพิ่มเติม »

Scroll to Top