Nanthawan Laithong

พาซอมเบิ่ง “ไพรัชโฮมเดคคอร์” อาณาจักรกระเบื้อง สุขภัณฑ์ ห้องน้ำ และห้องครัว รายใหญ่ในภาคอีสาน

เส้นทางของไพรัชโฮมเดคคอร์ เมื่อปี 2526 ก่อตั้งไพรัชเคหภัณฑ์ที่บริเวณ ถ.หลังเมือง โดยเริ่มก่อสร้างเป็นอาคารพาณิชย์ 2 ห้อง เริ่มต้นได้รับแต่งตั้งเป็น “ตัวแทนจำหน่ายรหัส 4” ของเครือซีเมนต์ไทย คือตัวแทนเฉพาะสินค้ากระเบื้อง เซรามิค ภายใต้แบรนด์ COTTO ต่อมาในปี พ.ศ. 2530 ย้ายที่ตั้งมาอยู่ที่สามแยก ถ.หน้าเมือง ตัดกับ ถ.รื่นจิตร โดยได้รับการแต่งตั้งให้เป็น “ตัวแทนจำหน่ายรหัส 1” ของเครือซีเมนต์ไทย คือตัวแทนจำหน่ายสินค้าทุกชนิดของเครือซีเมนต์ไทย หลังจากนั้นในปี พ.ศ. 2538 เปิดคลังสินค้าบริเวณ ถ.หน้าเมือง เลยวัดหนองแวงมา 1.5 กิโลเมตร ก่อนถึงทางเลี่ยงเมืองติดกับบริษัทเสริมสุข (PEPSI) และเริ่มก่อสร้างสำนักงานใหญ่ของห้าง และในปี 2541 ได้เปิด Cementhai Homemart ซึ่งเป็นสำนักงานใหญ่ของห้าง และได้เปิดโชว์รูปกระเบื้องและสุขภัณฑ์ COTTO ที่สาขา ถ.หน้าเมือง จ.ขอนแก่น จากประสบการณ์อันยาวนานทางด้านกระเบื้อง สุขภัณฑ์ ห้องน้ำ และห้องครัว ทำให้ในวันนี้ “ไพรัชโฮมเคดคอร์” กลายเป็นศูนย์รวมกระเบื้อง สุขภัณฑ์ ห้องน้ำ ห้องครัว ที่ใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน มีกระเบื้องให้เลือกมากมายนับพันแบบ อีกทั้งการตกแต่งภายในที่ทันสมัยที่มีแอร์เย็นสบาย และยังมีตัวอย่างห้องโชว์กว่า 50 ห้อง จึงทำให้ไพรัชเป็นผู้นำทางด้านกระเบื้อง สุดท้ายนี้ ไพรัชโฮมเดคคอร์ไม่หยุดยั้งที่จะพัฒนามาตรฐานโชว์รูม และการบริการ เพื่อให้สมกับคำว่า “ผู้เชี่ยวชาญทางด้านกระเบื้อง” ของจังหวัดขอนแก่น อ้างอิงจาก: https://data.creden.co/company/general/0405547001101 https://prhomedecor.co.th/%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0…/ #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ธุรกิจกระเบื้อง #สุขภัณฑ์ #ห้องน้ำ #ห้องครัว #ขอนแก่น #ไพรัชโฮม #ไพรัชโฮมเรคคอร์

พาซอมเบิ่ง “อีสานพิมานกรุ๊ป” ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ ระดับร้อยล้านในภาคอีสาน

อีสานพิมานกรุ๊ป ดำเนินธุรกิจด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ด้วยประสบการณ์ยาวนานกว่า 35 ปี โดยสร้างผลงานกว่า 89 โครงการ สร้างชื่อเสียงจนประสบความสำเร็จกับยอดขายบ้านและที่อยู่อาศัยกว่า 8,000 ยูนิต ทั้งในจังหวัดขอนแก่นและต่างจังหวัด เช่น อุดรธานี ร้อยเอ็ด และลำพูน ซึ่งมีทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ และคอนโดมิเนียม จนขึ้นแท่นเป็นบริษัทอสังหาฯอันดับต้นของขอนแก่น ภายใต้การบริหารงานของคุณชาญณรงค์ บุริสตระกูล กรรมการผู้จัดการบริษัท อีสานพิมานกรุ๊ป จำกัด และนายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดขอนแก่น ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2565 อีสานพิมานกรุ๊ปเตรียมเปิดพรีเซล (presale) 4 โครงการอสังหาริมทรัพย์ รวมมูลค่าลงทุนกว่า 407 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.โครงการโคะอิ ศิลา 68 ยูนิต มูลค่าลงทุน 181 ล้านบาท แบ่งเป็นทาวน์โฮม 7 หลัง บ้านแฝด 16 หลัง และบ้านเดี่ยว 45 หลัง อยู่ติด ถ.เลี่ยงเมือง ทางทิศเหนือของจังหวัดขอนแก่น (ขอนแก่น-กาฬสินธุ์) 2.โครงการศิลาวิลเลจ เป็นบ้านแฝดทั้งหมด 50 ยูนิต มูลค่าการลงทุน 73 ล้านบาท อยู่ที่ ถ.เลี่ยงเมือง ทางทิศเหนือของจังหวัดขอนแก่น (ขอนแก่น-กาฬสินธุ์) 3.โครงการ COSI Condo มูลค่าการลงทุน 72 ล้านบาท รวม 79 ยูนิต อยู่ติด Lotus Extra (ถ.โนนม่วง-มข.) 4.โครงการคอนโดฯ Jompon Wellness Community มูลค่าการลงทุนอยู่ที่ 80 ล้านบาท อยู่ติดบึงทุ่งสร้างขอนแก่น อย่างไรก็ตาม แนวโน้มกลุ่มลูกค้าแบ่งเป็นกลุ่มย่อย ๆ มากขึ้น มีความคาดหวังมากขึ้นทั้งคุณภาพและการบริการ รวมถึงมีความกล้าจ่ายมากขึ้น แต่หลายรายไม่สามารถกู้เงินจากสถาบันการเงินได้ ซึ่งบริษัทมีการศึกษาโครงการเรื่อย ๆ โดยพยายามลงทุนตามความต้องการภายในพื้นที่ รวมถึงมุ่งเน้นการเชื่อมโยงให้เป็นคอมมิวนิตี้หรือเป็นมิกซ์ยูส เช่น มีร้านค้าให้เช่า เป็นต้น ซึ่งจะพัฒนาไปพร้อม ๆ กัน อีกทั้งเชื่อมกับโครงสร้างพื้นฐานของเมือง ระบบขนส่ง ระบบดิจิทัล และเทคโนโลยี เช่น การพัฒนาเพื่อรองรับกลุ่มฟรีแลนซ์ ที่ทำงานอยู่ที่บ้าน คุณชาญณรงค์ ฉายภาพรวมอสังหาฯในขอนแก่นว่า ช่วงหลายปีที่ผ่านมาค่อนข้างชะลอตัว เนื่องจากมีการลงทุนโครงการ ค่อนข้างมาก ประกอบกับธนาคารมีความระมัดระวัง เข้มงวดในการปล่อยกู้ยากขึ้น ซึ่งผู้ประกอบการในจังหวัดขอนแก่นก็ระมัดระวัง แต่สำหรับปัจจุบันเริ่มเห็นภาพ การลงทุนใหม่ ๆ ทั้งบ้านจัดสรร คอนโดมิเนียม และทาวน์โฮม มีการซื้อที่ดินใหม่ ซึ่งบ้านที่ขายดียังคงเป็นบ้านเดี่ยว ราคาประมาณ 3-4 …

พาซอมเบิ่ง “อีสานพิมานกรุ๊ป” ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ ระดับร้อยล้านในภาคอีสาน อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง “โฮมช็อป” อาณาจักรธุรกิจจำหน่ายวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างและของตกแต่งบ้าน ระดับร้อยล้านในภาคีอสาน

การทำธุรกิจต้องมีการจัดการความเสี่ยงให้เหมาะสม ซึ่งต้องทําการศึกษาและวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของการลงทุน โดยพิจารณาพื้นที่ที่มีศักยภาพในเชิงเศรษฐกิจที่เหมาะสมและสอดคล้องกับธุรกิจ พร้อมสํารวจพฤติกรรมและความต้องการสินค้าของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในพื้นที่จังหวัดนั้น ๆ ก่อน ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจสามารถวางแผนรับมือกับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต อ้างอิงจาก: http://www.homeshop.co.th/ https://data.creden.co/company/general/0455553000030 https://www.maxmathailand.com/17236802/homeshop #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ธุรกิจจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง #โฮมช็อป #ร้อยเอ็ด

พาซอมเบิ่ง “ส.เขมราฐ” อาณาจักรธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ขนส่ง การเกษตร และพลังงาน

กลุ่มบริษัท ส.เขมราฐ เริ่มก่อตั้งในปี 2525 จากการร่วมกันระหว่างกิจการสถานีบริการเติมน้ำมันในนามห้างหุ้นส่วนจำกัดชนะชัยเขมราฐ กับโรงโม่หิน ในอำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี ต่อมาในปี 2529 ได้ขยายธุรกิจและก่อตั้งบริษัท ส.เขมราฐ อินดัสตรี้ จำกัด ซึ่งเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานรายใหญ่ที่สุดในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และระดับประเทศ ด้วยผลงานที่การันตีความสำเร็จมากกว่า 33 ปี บริษัทจดทะเบียนบริษัทด้วยทุนจดทะเบียน 450 ล้านบาท บริษัทเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างงานทั้งภาครัฐ และเอกชน สร้างสรรค์ผลงานมากกว่า 1,000 ผลงาน บริษัทมีความเชี่ยวชาญในด้านการเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างที่มีบุคลากรคุณภาพ มีทีมวิศวกรที่มีความชำนาญ มีเครื่องจักรมากกว่า 500 ตัวเพื่อรองรับในการทำงานทุกระดับ บริษัทได้รับความไว้วางใจในด้านความสามารถการบริหารจัดการโครงการและระยะเวลาในการทำงานที่ดีเยี่ยม มีการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาใช้การดำเนินงานอย่างไม่หยุดนิ่งด้วยมุมมองและวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลของผู้บริหาร นอกจากนั้นบริษัทยังมีความเข้มแข็งและมั่นคงทางด้านการเงิน รวมไปจนถึงการใส่ใจในด้านความปลอดภัย ด้านสิ่งแวดล้อม และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียขององค์กร ในปี 2559 บริษัทได้รับการรับรองให้เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างชั้นพิเศษ และได้รับการรับรองให้เป็น 1 ใน 70 ผู้รับเหมาก่อสร้างที่เติบโตเร็วที่สุด บริษัทได้รับความไว้วางไว้ให้ดำเนินการก่อสร้างโครงการต่างๆมากมาย อาทิ โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสระบุรี-บางปะอิน ตอนที่ 13 , โครงการทางหลวงหมายเลข 2050 สายตระการ – บ้านห้วยยาง , โครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 212 สายอุบลฯ – อำนาจ ตอน 2 , โครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 208 แยก ทล.2 ท่าพระ– มหาสารคาม , โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริม โครงการก่อสร้างฝาย และโครงการอื่นๆ อีกมากมาย และใน ปี 2561 – ปัจจุบัน ได้ขยายธุรกิจเพิ่มขึ้นในนาม “กลุ่มบริษัท ส.เขมราฐ” ประกอบด้วยบริษัทในเครือทั้งหมด 6 บริษัท และมีพนักงานมากกว่า 700 อัตรา อันได้แก่ บริษัท ส.เขมราฐอินดัสตรี้ จำกัด , บริษัท ส.เขมราฐทรานสปอร์ต จำกัด , บริษัท เอสเคการ์เดี้ยน จำกัด , บริษัท เอสเค กรีน อโกร โปรดักส์ จำกัด , บริษัท ส.เขมราฐเอ็กเพรส จำกัด และห้างหุ้นส่วนจำกัด ชนะชัยเขมราฐ จำกัด โดยกลุ่มบริษัท ส.เขมราฐ มีการบริหารงานแบบธรรมาภิบาล สร้างสรรค์นวัตกรรมการทำงาน เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจ มีมาตรฐานการบริหารจัดการ องค์กรตามมาตรฐานสากล ช่วยยกระดับเศรษฐกิจให้กับจังหวัดอุบลราชธานี และประเทศไทย อย่างไรก็ตาม กลุ่มบริษัท …

พาซอมเบิ่ง “ส.เขมราฐ” อาณาจักรธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ขนส่ง การเกษตร และพลังงาน อ่านเพิ่มเติม »

พาซอมเบิ่ง “โฮมวัน”

ผู้นำด้านร้านค้าปลีกและค้าส่งวัสดุก่อสร้างและตกแต่งบ้าน ระดับร้อยล้านในภาคอีสาน อ้างอิงจาก: – เว็บไซต์ของบริษัท – กรมพัฒนาธุรกิจการค้า

ชวนเบิ่ง เส้นทางอาณาจักรจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง “โฮมฮับ”

“บริษัท โฮมฮับ จำกัด” ธุรกิจจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง และตกแต่งบ้านครบวงจร ก่อตั้งโดย คุณองอาจ ตั้งมิตรประชา และคุณอาภาภรณ์ ตั้งมิตรประชา ในปีพ.ศ. 2519 โดยเริ่มจากการจำหน่าย สีทาอาคาร สีพ่นรถยนต์ เครื่องมือช่าง ปั๊มน้ำ อุปกรณ์การเกษตร ประดับยนต์ เพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการของลูกค้ากับความต้องการสินค้าเกี่ยวกับบ้านที่มีความหลากหลาย ครบ และง่ายในการจัดหาด้วยตัวเองได้ โดยเมื่อก่อนใช้ชื่อภายใต้ชื่อ ร้านสีรุ้ง จำหน่ายสี และอุปกรณ์ทาสีทุกชนิดใจกลางเมืองอุบลราชธานี ในปี 2523 ได้เพิ่มสินค้าประเภทสีพ่นรถยนต์ ซึ่งได้รับความสนใจจากลูกค้าเป็นอย่างดี จึงขยายกิจการโดยเพิ่มสินค้าเครื่องมือช่างเข้าไป เมื่อปี พ.ศ.2543 ได้ขยายสาขา 2 ที่อำเภอวารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เมื่อปี 2548 ได้เพิ่มสินค้าอุปกรณ์ก่อสร้างเต็มรูปแบบ พร้อมจดทะเบียนใหม่ในชื่อ สีรุ้งโฮมโปร ต่อมา ได้เปลี่ยนชื่อเป็น “โฮมฮับ” รวมทั้งขยายสาขาเพิ่มที่บ้านทัพไท และในปี 2554 ได้เปิดสาขาขอนแก่น และในปีนี้ได้เปิดสาขาอุดรธานี อย่างไรก็ตาม การทำธุรกิจต้องมีการจัดการความเสี่ยงให้เหมาะสม ซึ่งต้องทําการศึกษาและวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของการลงทุน โดยพิจารณาพื้นที่ที่มีศักยภาพในเชิงเศรษฐกิจที่เหมาะสมและสอดคล้องกับธุรกิจ พร้อมสํารวจพฤติกรรมและความต้องการสินค้าของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในพื้นที่จังหวัดนั้น ๆ ก่อน ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจสามารถวางแผนรับมือกับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต อ้างอิงจาก: https://homehub.co.th/%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8…/ https://data.creden.co/company/general/0345542000140 #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ธุรกิจจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง #อุบลราชธานี #โฮมฮับ #ร้านสีรุ้ง #HOMEhub #ธุรกิจร้อยล้าน

พาซอมเบิ่ง อาณาจักร “ยงสงวน” ค้าปลีกท้องถิ่นเมืองอุบล

“ยงสงวน” ค้าปลีกท้องถิ่นอุบล เริ่มต้นธุรกิจจากรุ่นคุณปู่ คุณย่า เป็นธุรกิจโชห่วยใช้ชื่อว่า โค้วย่งง้วน หมายความว่า แหล่งน้ำที่ยั่งยืน พัฒนามาเรื่อย ๆ จนมีโกดังหลายจุด พอมาเป็นรุ่นพ่อรุ่นแม่ก็เปลี่ยนจากโชห่วยมาเป็นห้างสรรพสินค้า จนมีห้างต่างชาติเข้ามา แล้วมีการปรับเปลี่ยนจากห้างสรรพสินค้ามาเปิดศูนย์กระจายสินค้ายงสงวน กระจายสินค้าให้กับคนในอุบล “​​ยงสงวน” ก่อกำเนิดขึ้นในปี 2498 จากจุดเริ่มต้นร้านโชห่วย 1 คูหา 2 ชั้น โดยรุ่นแรก “คุณพ่องี่เต็ก แซ๋โค้ว” และ “คุณแม่เง็กเนย ไชยสงคราม” โดยร้านแรก ตั้งอยู่บนถนนยุทธภัณฑ์ ตรงกันข้ามกับโรงหนังกลาง ใช้ชื่อร้านว่า “โค้วย่งง้วน” จนกระทั่งในปี 2500 โค้วย่งง้วน ได้ย้ายร้านมาตั้งอยู่ที่มุมถนนพรหมเทพ ขยับขยายสู่ร้าน 2 คูหา ซึ่งต่อมาในปี 2503 ได้เกิดเพลิงไหม้ ทำให้ร้านโค้วย่งง้วน เกิดความเสียหายเป็นอย่างมาก และเปลี่ยนทำเลมาเป็นร้านใหม่ที่ถนนพรหมเทพ จากนั้นในปี 2519 ได้ย้ายร้านอีกครั้งมาที่ 77-81 ถนนพรหมเทพ เป็นร้านขนาด 3 คูหาและต่อมาได้เปลี่ยนชื่อร้านเป็น “ยงสงวน” ในปี 2525 ก้าวเดินของ ยงสงวน พริกผันสู่ก้าวที่ใหญ่ขึ้นในปี 2533 เมื่อเข้าประมูลสิทธิการก่อสร้างได้ และเปลี่ยนสู่ธุรกิจห้างสรรพสินค้า ภายใต้ชื่อ “ยงสงวน ช้อปปิ้งมอลล์” โดยมีคุณกำพล และคุณมลิวัลย์ ไชยสงคราม เป็นผู้บริหาร จนถึงปัจจุบัน ยงสงวนกรุ๊ป อยู่ภายใต้การบริหารงานของเงิน 3 ตระกูลไชยสงคราม ของสองพี่น้องคือ ประกิจ และ ประกอบ ไชยสงคราม ที่ช่วยกันสานต่อธุรกิจครอบครัวให้เติบโตอย่างแข็งแรง จนสามารถขยายบริษัทในเครือ จากเดิมที่มีเพียง ห้างหุ้นส่วนจำกัด ยงสงวนช้อปปิ้งมอลล์ แตกอีก 2 บริษัท คือ “บริษัท ยงสงวนกรุ๊ป จำกัด” และ “บริษัท สหรุ่งธนเกียรติอุบล จํากัด” สำหรับ หัวใจสำคัญที่ทำให้คำปลีกท้องถิ่นอยู่รอดได้ คือ ต้องมีความซื่อสัตย์ ทั้งต่อตนเองและลูกค้า ทำธุรกิจด้วยความจริงใจ นึกถึงใจเขา ใจเรา เห็นอกเห็นใจคนอื่น ก็จะสามารถผ่านพ้นวิกฤติ ได้ไม่ยาก และในฐานะคนอุบลโดยกำเนิด ประกอบ และ ยงสงวนกรุ๊ป ยังให้ความสำคัญกับการตอบแทนบ้านเกิด ด้วยการจัดตั้ง “อุบล แฟมิลี่” ซึ่งเป็นกลุ่มที่รวมตัวกัน เพื่อทำกิจกรรมตอบแทนสังคมในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การจัดงานวิ่งเพื่อการกุศล ซึ่งเป็น กิจกรรมที่เขาและครอบครัวชื่นชอบเป็นอย่างมาก พร้อมทั้งนำรายได้ไปทำประโยชน์ในสถานที่ต่าง ๆ ของจังหวัด เมื่อถามถึงจุดแข็งของ ยักษ์ค้าปลีกท้องถิ่น ที่สามารถปรับตัวและอยู่รอดได้ คุณประกอบมองว่า …

พาซอมเบิ่ง อาณาจักร “ยงสงวน” ค้าปลีกท้องถิ่นเมืองอุบล อ่านเพิ่มเติม »

ชวนเบิ่ง เส้นทาง “เคี้ยงซุปเปอร์มาร์เก็ต”

ทายาทเคี้ยงซุปเปอร์มาร์เก็ตประสบการณ์ทำร้าน 20 ปี และการต่อยอดธุรกิจครอบครัวจากเคี้ยงพานิช ร้านค้าเจ้าใหญ่ในวงการค้าเครื่องดื่ม สู่ร้านที่เป็นทุกอย่างให้ชาวเมืองขอนแก่น จากร้านค้าของครอบครัวชาวจีนที่เปิดมาตั้งแต่ พ.ศ. 2480 สู่เคี้ยงพานิช ร้านค้ามีชื่อที่ขายสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ ต่อมาดำเนินธุรกิจในชื่อ เคี้ยงซุปเปอร์มาร์เก็ต โดยเกิดขึ้นในวันที่ขอนแก่นยังไม่มีร้านสะดวกซื้อ เป็นร้านค้าท้องถิ่นที่เข้าใจคนในย่านมากกว่าใคร เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ตอนที่ทายาทรุ่นที่ 3 อย่าง คุณแบงค์-กมลวัฒน์ อภิชนตระกูล เปิด ‘K Mart by เคี้ยง’ ที่หลังมหาวิทยาลัยขอนแก่น แถวนั้นยังมีร้านสะดวกซื้อเพียงร้านเดียว จนวันนี้ที่บริเวณเดียวกันนี้ มีร้านสะดวกซื้อหลากหลายแบรนด์มากกว่า 20 ร้าน วิธีการทำธุรกิจของคุณแบงค์นับว่าแตกต่าง แทนที่จะทำร้านคอนเซปต์เดียว ขายของแบบเดียวกัน แล้วขยายไปให้มากๆ ในย่านชุมชนตามตำรา คุณแบงค์ทำให้ร้านทั้ง 6 สาขาไม่เหมือนกันเลย บางร้านขายของใช้ บางร้านขายของทำเบเกอรี่ หัวใจของการทำร้านเคี้ยงของแบงค์ คือการศึกษาพฤติกรรมลูกค้า เพื่อตอบสนองความต้องการสูงสุด เพื่อความสุขของลูกค้า ไม่ว่าคุณจะเดินเข้าเพื่อถามหาอะไรที่เคี้ยง คุณแบงค์จะเป็นคนหามาให้ ผลก็คือ เคี้ยงซุปเปอร์มาร์เก็ต ได้กลายเป็นมากกว่าร้านค้าท้องถิ่น เป็นที่พึ่งของลูกค้า และเป็นแรงบันดาลใจให้ธุรกิจท้องถิ่นอื่นๆ ว่าอย่ายอมแพ้และอย่ากลัว เคี้ยงซุปเปอร์มาร์เก็ต เริ่มต้นจาก อากงเม้ง แซ่อึ้ง ก่อตั้งร้านค้าชื่อ อึ้งเหลียงเซ้ง ในช่วง พ.ศ. 2480 – 2490 ดำเนินกิจการเรื่อยมา จนวันหนึ่งใน พ.ศ. 2514 เกิดอุบัติเหตุไฟไหม้สินค้าเสียหายทั้งหมด อากงจึงเลิกกิจการ ต่อมา คุณพ่อเคี้ยง-นรินทร์ อภิชนตระกูล ซึ่งเป็นลูกชายคนที่ 5 ตัดสินใจเปิดร้านเป็นของตัวเองในชื่อ เคี้ยงพานิช บนถนนศรีจันทร์ เริ่มต้นกิจการในวันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2515 แล้วเปลี่ยนชื่อจาก เคี้ยงพานิช มาเป็น เคี้ยงซุปเปอร์มาร์เก็ต ใน พ.ศ. 2534 ในสมัยที่ร้านสะดวกซื้อยังไม่เฟื่องฟูอย่างวันนี้ ขอนแก่นก็เหมือนทุกที่ที่เต็มไปด้วยร้านค้าท้องถิ่น เคี้ยงสร้างความแตกต่างด้วยสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ มีลูกค้าหลักคือ อาจารย์ในมหาวิทยาลัยและคนทั่วไปที่นิยมของจากต่างประเทศ เคี้ยงซุปเปอร์มาร์เก็ต เป็นร้านค้าที่เติบโตจากการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในช่วงที่ธุรกิจกำลังไปได้ดี เป็นช่วงเดียวกับที่มีข่าวแอลกอฮอล์ปลอมระบาดในเมือง แบงค์เล่าว่าคุณพ่อของเขาจะระมัดระวังเป็นพิเศษ หากมีใครเสนอสินค้าในราคาที่ต่ำกว่าปกติ เขาจะสงสัยไว้ก่อน แล้วสั่งตรงจากบริษัท แม้จะมีราคาสูงกว่าแต่มั่นใจได้ที่สุด ปัจจุบันร้านเคี้ยงมีทั้งหมด 6 สาขา แต่ละสาขามีคาแรกเตอร์ที่แตกต่างกันตามชุมชนที่อยู่ ได้แก่ สองร้านแรกในเมืองอย่าง เคี้ยงซุปเปอร์มาร์เก็ต (สาขาศรีจันทร์) และ เคี้ยงลิเคอร์สโตร์ (สาขาศรีจันทร์) หรือเคี้ยงมินิมาร์ท เน้นขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สาขาที่ 3 คือ เคี้ยงซุปเปอร์สโตร์ (สาขาหลังมอ-ยูพลาซ่า) เดิมตั้งชื่อว่าเคี้ยง แต่นักศึกษาชอบเรียกผิดแบงค์ก็เลยเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น ‘K Mart by …

ชวนเบิ่ง เส้นทาง “เคี้ยงซุปเปอร์มาร์เก็ต” อ่านเพิ่มเติม »

ชวนเบิ่ง “ออโตคอร์ป โฮลดิ้ง” ธุรกิจระดับร้อยล้านในภาคอีสาน

บริษัท ออโตคอร์ป โฮลดิ้ง จำกัด จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2558 โดยกลุ่มนายภานุมาศ รังคกูลนุวัฒน์ ต่อมา ณ วันที่ 17 กันยายน 2561 ได้จดทะเบียนแปรสภาพเป็นบริษัท มหาชนจำกัด ภายใต้ชื่อ “บริษัท ออโตคอร์ป โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน)” (“บริษัท” หรือ “ACG”) ประกอบธุรกกิจถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding company) ที่ประกอบธุรกิจจำหน่ายและให้บริการในอุตสาหกรรมรถยนต์ และธุรกิจท่ีเก่ียวเนื่องอื่นๆ ทั้งน้ี เมื่อวันท่ี 27 มิถุนายน 2562 บริษัทได้เสนอขายหุ้นต่อประชาชนครั้งแรก (“IPO”) ในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ และหลังจากนั้นได้เข้าจดทะเบียนใน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ณ วันท่ี 1 กรกฎาคม 2563 โดยบริษัทประกอบธุรกิจถือหุ้นในบริษัทอื่นซึ่งปัจจุบันมีบริษัทย่อย 2 แห่ง คือ ฮอนด้ามะลิวัลย์ โดยมีสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 99.74 ซึ่งประกอบธุรกิจจำหน่ายรถยนต์และอุปกรณ์ตกแต่ง งานบริการซ่อมและจําหน่ายอะไหล่ยี่ห้อฮอนด้า รวมทั้งนายหน้าสินเชื่อเช่าซื้อและประกันภัยรถยนต์ โดยฮอนด้ามะลิวัลย์เป็นหนึ่งในผู้ประกอบธุรกิจผู้จำหน่ายรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ซึ่งมีจำนวนโชว์รูมและ ศูนย์บริการมากที่สุดในประเทศไทย โดยปัจจุบันมีจำนวนทั้งหมด 9 สาขาใน 5 จังหวัดที่มีศักยภาพสูงในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้ของประเทศไทย ได้แก่ ขอนแก่น บุรีรัมย์ สุรินทร์ ภูเก็ต และกระบี่ บริษัทย่อยอีกหนึ่งแห่ง คือ ออโตคลิก ซึ่งจัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2563 โดยมีสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 99.00 ซึ่งประกอบธุรกิจจําหน่ายอะไหล่รถยนต์และให้บริการซ่อมแซม บำรุงรักษารถยนต์ทุกยี่ห้อประเภทเร่งด่วน (Fast Fit) ทั้งนี้ ออโตคลิกได้มีการเปิดดำเนินการสาขาแรกเมื่อเดือนมีนาคม 2564 มีจำนวนทั้งหมด 5 สาขา ซึ่งอยู่ในจังหวัดภูเก็ต 2 สาขา กรุงเทพและปริมณฑล 3 สาขา อย่างไรก็ตาม ภาพรวมผลการดำเนินงานกลุ่มบริษัทมีกำไรสุทธิสำหรับปี 2564 จำนวน 28.22 ล้านบาท ลดลง 6.95 ล้านบาท หรือร้อยละ 19.76 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งโดยรวมเกิดจากผลการดำเนินงาน ออโตคลิก ที่เพิ่งเริ่มเปิดดำเนินการ ทำให้เกิดค่าใช้จ่ายในการ เตรียมความพร้อมตอนเริ่มการเปิดศูนย์บริการ ซึ่งค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่เกี่ยวกับการฝึกอบรมพนักงานโดยผู้เชี่ยวชาญในงานด้านบริการยานยนต์ เพื่อสร้างมาตรฐานและคุณภาพงานบริการ และการจัดทำแผนทางด้านการตลาดสื่อโฆษณา เพื่อให้เป็นที่รู้จักและลูกค้าที่ได้เข้ามารับบริการได้รับความพึงพอใจ แต่ในส่วนของฮอนด้ามะลิวัลย์มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นร้อยละ 19.34 เมื่อเปรียบเทียบ กับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนสาเหตุหลักเกิดจากต้นทุนทางการเงินที่ลดลง จึงทำให้มีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น อ้างอิงจาก: – ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย – เว็บไซต์ของบริษัท #ISANInsightAndOutlook …

ชวนเบิ่ง “ออโตคอร์ป โฮลดิ้ง” ธุรกิจระดับร้อยล้านในภาคอีสาน อ่านเพิ่มเติม »

พาซอมเบิ่ง เส้นทาง “บริษัท ช ทวี” ธุรกิจระดับพันล้านในภาคอีสาน

กลุ่มครอบครัวทวีแสงสกุลไทย (หรือ “กลุ่ม ช ทวี” ) โดยนายชอ ทวีแสงสกุลไทย และนางอุษา ทวีแสงสกุลไทย เป็นผู้บุกเบิกธุรกิจรถขนส่งในจังหวัดขอนแก่น และเป็นผู้ริเริ่มธุรกิจเป็นตัวแทนจำหน่ายรถบรรทุกตั้งแต่ปี 2511 ต่อมาได้ขยายธุรกิจไปยังการผลิต และต่อตัวถังรถบัสในปี 2523 ได้ขยายการผลิตและต่อตัวถังรถพ่วง-กึ่งพ่วง และรถขนส่งประเภทต่าง ๆ กลุ่ม ช ทวี ได้พัฒนาเทคโนโลยีรถพ่วง รถเพื่อการพาณิชย์อย่างต่อเนื่อง และมีความพิถีพิถันในการออกแบบตัวถัง รูปแบบต่าง ๆ ที่เหมาะสมกับแชสซีรถบรรทุกของลูกค้า เพื่อให้ได้โครงสร้างตัวถังบรรทุกที่แข็งแกร่งทนทานเหมาะสมกับประเภทของงานขนส่งใช้งานได้ในทุกสภาพถนน และทนทานต่อทุกสภาพภูมิอากาศ ในรุ่นที่สองของกลุ่ม ช ทวี นำโดยคุณสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย บุตรชายของคุณชอ ทวีแสงสกุลไทย และคุณอุษา ทวีแสงสกุลไทย ซึ่งจบการศึกษาด้านวิศวกรรมยานยนต์และการบริหารธุรกิจ จากประเทศญี่ปุ่น มองเห็นแนวโน้มความต้องการของระบบขนถ่ายสินค้าจำนวนมาก ด้วยรถพ่วงพิเศษขนาดใหญ่ รวมทั้งเล็งเห็นถึงความสำคัญของนวัตกรรม ด้านการต่อตัวถังรถบรรทุกที่อาศัยเทคโนโลยีชั้นนำจากต่างประเทศ ว่าจะมีบทบาทมากยิ่งขึ้นในอุตสาหกรรมรถพ่วง-กึ่งพ่วง ในอนาคตจึงได้ตัดสินใจก่อตั้ง บริษัท ช.ทวี ดอลลาเซียน จำกัด (“บริษัทฯ” หรือ “CHO”) เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2537 โดยการร่วมทุนระหว่างบริษัทของครอบครัว คือ บริษัท ขอนแก่น ช.ทวี (1993) จำกัด (“CTV-1993”) และบริษัทผู้ผลิต ตัวถังรถบรรทุก และรถพ่วงชั้นนำจากประเทศเยอรมนี คือ DOLL Fahrzeugbau GmbH (“DOLL”) เพื่อประกอบธุรกิจออกแบบ ผลิต ประกอบตัวถัง และติดตั้งระบบวิศวกรรมที่เกี่ยวกับตัวถังรถบรรทุก รถพ่วง และรถขนส่งเพื่อการพาณิชย์ ด้วยทุนจด ทะเบียน 10.00ล้านบาท โดย CTV-1993 และกลุ่มผู้ถือหุ้นฝ่ายไทย ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 74 ของทุนจดทะเบียน และ DOLL ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 26 ของทุนจดทะเบียน กลยุทธ์ด้านสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ (Product) บริษัทย่อยมุ่งเน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อให้ได้คุณภาพ และมาตรฐาน เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ซึ่งผลิตภัณฑ์ของบริษัทย่อยจัดว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความแตกต่างจากผู้ผลิตรายอื่น อาทิ ความทันสมัย มีนำ้หนักเบา มีความคงทน และง่ายต่อการซ่อมแซม เป็นต้น ปัจจุบันบริษัทย่อยสามารถผลิตผนังไฟเบอร์กลาสแบบแซนวิชข้ึนรูปชิ้นเดียว (Sandwich GRP) โดย สามารถผลิตได้ความยาวต่อเนื่องสูงสุดถึง 15 เมตร ซึ่งถือเป็นผู้ผลิตรายเดียวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การบริหารจัดการความเสี่ยง ช ทวี ตระหนักถึงความสำคัญของการบริหารความเสี่ยงภายใต้การเปลี่ยนแปลงจากปัจจัย ภายในและภายนอก ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจ จึงได้มีการแต่งต้ังประธานคณะผู้บริหารความ เสี่ยง เพื่อมาดำเนินงานในด้านการบริหารความเสี่ยงในภาพรวมท้ังองค์กร มีความเชื่อมโยงกันทุก ระดับ เพื่อจัดการความเสี่ยงท่ีมีอยู่ในระดับที่สามารถยอมรับได้ และติดตามการบริหารความเสี่ยง อย่างสม่ำเสมอ บริษัทได้มีการจัดทำการประเมินความเสี่ยงด้วยตนเองเพื่อร่วมกันประเมินความเสี่ยง ปัญหาและอุปสรรค …

พาซอมเบิ่ง เส้นทาง “บริษัท ช ทวี” ธุรกิจระดับพันล้านในภาคอีสาน อ่านเพิ่มเติม »

Scroll to Top