ตู้เต่าบิน คาเฟ่อัตโนมัติ 170 เมนู สะท้อนพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ยังไง

เมื่อต้นปีที่ผ่านมา กระแส “ตู้เต่าบิน” ถูกพูดถึงอย่างมากในแวดวงธุรกิจ Vending Machine หรือตู้จำหน่ายสินค้าแบบหยอดเหรียญ แม้ตลาดหลักของไทยจะอยู่ในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล แต่ก็เริ่มมีการขยายออกต่างจังหวัดมากขึ้น อีสานอินไซต์จึงอยากพาทุกคนไปทำความรู้จักกับกลยุทธ์เต่าบิน ที่เป็นภาพสะท้อนพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ รวมไปถึงไขข้อข้องใจว่า ทำไม อีสานถึงมักตั้งตู้ไว้ในโรงพยาบาล
.
👉 จุดเริ่มต้นของตู้ชงเครื่องดื่ม
.
จากวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป คนไม่ได้เข้างานตอน 8 โมงเช้า เลิก 5 โมงเย็นเหมือนในอดีต ทำให้เจ้าของแบรนด์ ซึ่งเคยประสบความสำเร็จจากธุรกิจให้บริการ 24 ชั่วโมง หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ “ตู้บุญเติม” เกิดไอเดียอยากต่อยอดธุรกิจเดิม
.
โดยช่วงนั้น เทรนด์ตู้จำหน่ายสินค้ากำลังได้รับความนิยมในต่างประเทศ จึงลองสั่งซื้อตู้ชงเครื่องดื่มจากจีนมาลง แต่ปรากฏว่า ยิ่งกลไกเยอะ โอกาสไม่เสถียรก็สูง ค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงก็มาก สุดท้ายต้องกลับมาวิจัยและพัฒนาเองทั้งหมด
.
👉 แนวคิดการออกแบบ
.
เต่าบิน ตู้ชงเครื่องดื่มอัจฉริยะขนาด 1×1 เมตร ผลิตและพัฒนาโดยคนไทย 100% ซึ่งมีเกือบ 30 สิทธิบัตร ครอบคลุมทั้งฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ มีระบบจอทัชสกรีนที่ช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน ระบบการชงที่ล้างด้วยความร้อนแรงดันทุกแก้ว หมดกังวลเรื่องความไม่สะอาด หรือรสชาติที่ผิดเพี้ยน
.
รวมไปถึง ระบบเซ็นเซอร์ AI ที่จะคอยตรวจเช็กสต๊อกวัตถุดิบภายในตู้ ทำให้สามารถแจ้งเตือนเมื่อสินค้าหมด และส่งข้อมูลไปหา Route Man หรือพนักงานเติมวัตถุดิบให้เบิกสต๊อกมาล่วงหน้า ไม่ต้องเทียวไปเทียวมาหลายรอบ ทางฝั่งผู้บริโภคก็ไม่ต้องทนรอเครื่องดื่มเมนูนั้นหลายวันด้วย
.
👉 ฟังก์ชันการทำงาน
.
ตู้เต่าบินสามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง ชงได้ทั้งร้อน เย็น และปั่น มากถึง 170 เมนู ครอบคลุมสารพัดหมวดตั้งแต่ชา กาแฟ โซดา น้ำอัดลม จนไปถึงน้ำเชื่อมผสมกัญชา และเวย์โปรตีน หรือถ้ารู้สึกยังไม่พอใจ ก็สามารถเพิ่มท็อปปิ้ง เพิ่มช็อตกาแฟได้ด้วย
.
อีกทั้ง กาแฟกลิ่นหอม ๆ ของตู้ยังเป็นกาแฟสดที่เพิ่งบดเมล็ดออกมาชงให้ลูกค้า สมือนมีบาริสต้าอยู่ข้างใน แม้จะต้องใช้เวลารอเล็กน้อย แต่ก็เพื่อรสสัมผัสตรงตามชื่อแบรนด์ อร่อยเหาะเป็น “เต่าบิน”
.
👉 คิดเผื่อกลุ่มคนที่หลากหลาย
.
หนึ่งในขั้นตอนการสั่งของตู้เต่าบิน ผู้บริโภคจะได้เลือกระดับความหวานเอง (Sweetness level) 5 ระดับ ตั้งแต่ระดับ 0 แคลอรี (ไม่มีน้ำตาล) ซึ่งเหมาะกับผู้ที่รับประทานคีโต และผู้ป่วยเบาหวาน ไปจนถึง หวานน้อย หวานพอดี หวาน และหวานมาก ตามความชอบของแต่ละคน
.
รวมไปถึง ช่องทางการชำระเงินที่หลายหลาย ไม่ว่าจะเป็นเงินสด คิวอาร์ เพย์เมนท์ ช้อปปี้เพย์ หรือแม้กระทั่งเครดิตเต่าบิน ที่สามารถสะสมยอดเงินไว้ในตู้ เหมาะกับคนไม่สะดวกพกเงินสด และสมาร์ทโฟนมาก ๆ ที่สำคัญ “ราคาไม่แพง” เฉลี่ยตกแก้วละ 34 บาท คนส่วนใหญ่จึงสามารถเข้าถึงสินค้าและบริการของเต่าบินได้
.
👉 คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
.
ตู้เต่าบินจะมีการตั้งค่า ‘ไม่รับฝา/หลอดพลาสติก’ เป็นค่าเริ่มต้น (Default) แทนการให้ผู้บริโภคกดเลือก ‘ไม่รับ’ ในภายหลัง หรือพูดง่าย ๆ คือ เป็นออปชันไม่ให้โดยอัตโนมัติ ซึ่งหากอยากได้จะต้องกดเลือก ‘รับ’ เอง
.
ตรงนี้เป็นหลักการเดียวกับ Nudge Theory ที่ใช้มาตรการบางอย่างมากระตุ้นให้ผู้บริโภคเกิดการตัดสินใจที่ดีขึ้น โดยเฉพาะเรื่องของผลประโยชน์ในระยะยาว หรือที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม อย่างในกรณีนี้ เป็นเรื่องของการลดปริมาณพลาสติกอายุสั้นให้เกิดการใช้น้อยที่สุด แต่แทนที่จะไม่ให้ฝา/หลอดเลย (สร้างความรู้สึกไม่ดีกับผู้บริโภคบางราย) ก็เปลี่ยนมาเป็นไม่ให้ แต่ถ้าต้องการจริง ๆ ก็กดเลือก ‘รับ’ ได้ฟรี โดยพลาสติกที่แบรนด์ใช้ก็เป็นพลาสติก PP สามารถนำกลับมารีไซเคิลได้ และในอนาคตก็อาจมีการเปลี่ยนมาใช้พลาสติกจากพืชแทน
.
👉 การเลือกโลเคชัน
.
ปัจจุบันตู้เต่าบินมีมากกว่า 500 ตู้ ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล โดยมุ่งเป้าว่า “จุดที่ไปวางจะต้องมีทราฟฟิค” เพื่อให้เป็นการโปรโมตแบรนด์ไปในตัว เช่น ห้างสรรพสินค้า สถานศึกษา โรงพยาบาล โรงงาน (บริษัท) หน่วยราชการ ไพรเวท ออฟฟิศ ศูนย์กลางการขนส่ง รวมไปถึงที่พักอาศัย เช่น โรงแรม และคอนโดมิเนียม
.
สำหรับภาคอีสาน จากข้อมูลหน้าเว็บเต่าบินล่าสุด พบว่ามีอย่างน้อย 14 ตู้ กระจายอยู่ในจังหวัดขอนแก่น นครราชสีมา บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี โดยจุดที่แบรนด์เลือกไปวางตู้มากที่สุดจะเป็นโรงพยาบาล เนื่องจากเปิด 24 ชั่วโมง มีคนเข้า-ออกตลอดเวลา และเป็นพื้นที่ที่จะต้องมีการรอ
.
.
เห็นได้ว่า กลยุทธ์เต่าบินที่คิดมาเพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภค โดยเฉพาะเรื่องของความสะดวกในการใช้งาน ราคาที่เหมาะสม กับเมนูที่มีให้เลือกหลากหลาย รวมไปถึงออปชันเสริมต่าง ๆ สามารถเพิ่มโอกาสในการแข่งขันทั้งกับตลาด Vending Machine และร้านคาเฟ่เครื่องดื่มทั่วไปได้ สะท้อนจากยอดขายเฉลี่ยกว่า 50 แก้ว/วัน/ตู้ และรายได้เฉลี่ย 1.5-1.6 ล้านบาท/วัน ซึ่งก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีก
.
ทั้งนี้คาดว่า การพัฒนา การผลิต และการซ่อมตู้เองได้ ที่เป็นจุดแข็งของแบรนด์ จะเป็นตัวเร่งให้แบรนด์โตไวขึ้น และเป็นการสร้างความเหนือกว่าคู่แข่ง เพราะหากคู่แข่งอยากหาโปรดักส์มาแข่งกับตู้เต่าบิน แต่ไม่ได้พัฒนาเอง เป็นการสั่งตู้จากต่างประเทศ ก็อาจต้องเผชิญกับปัญหาระบบการใช้งาน และการพัฒนาต่อยอด ซึ่งกว่าระบบจะนิ่ง เตาบินก็คงขยายไปโปรดักส์อื่น ๆ แล้ว
.
.
อ้างอิงจาก
https://bit.ly/3IDsgBO
https://bit.ly/3NnjGuL
https://bit.ly/3tCeJGk
https://bit.ly/3wzmMpt
.
#ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ตู้เต่าบิน

Leave a Comment

Your email address will not be published.

Scroll to Top