อะไรๆ ก็หม่าล่า พามาเบิ่ง หม่าล่าในอีสาน ยังฮอตฮิต หรือแค่กระแส(ที่เริ่มแผ่ว)

ถ้าพูดถึงอาหารยอดฮิตยอดนิยมตตอนนี้ก็คงหนีไม่พ้น “หม่าล่า” อาหารรสชาติเผ็ดชาที่เป็นเอกลักษณ์สไตล์จีน ที่ตอนนี้เป็นที่นิยมในหมู่เด็กวัยรุ่นนักเรียนนักศึกษาไปจนถึงวัยทำงาน ซึ่งตอนนี้ก็มีธุรกิจร้านอาหารหม่าล่าผุดขึ้นมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารแนวสตรีทฟู้ด (ร้านอาหารข้างทาง) ร้านอาหารปิ้งย่างชาบูบุฟเฟต์อลาคาส ที่มีคนยืนต่อคิวเข้าร้านมากกว่าร้อยคิวต่อหนึ่งวัน

ฮู้บ่ว่าจริงๆ “หม่าล่า” ที่คนไทยพูดติดปากกันเป็นชื่ออาหาร แต่จริงๆแล้วคำว่า “หม่าล่า” นั้นแปลว่า อาการเผ็ดหรือเผ็ดจนลิ้นชา ซึ่งความเผ็ดนั้นมาจากเครื่องเทศ “ฮวาเจียว” ซึ่งเป็นเครื่องเทศชนิดหนึ่งจากพริกไทยเสฉวน หรือ Sichuan Pepper 

ความชื่นชอบรสชาติเผ็ดชาที่เป็นของแปลกใหม่ และถูกใจคนไทยจนถึงปัจจุบัน ทำให้ร้านหม่าล่าผุดขึ้นมามากมาย จำนวนร้านหม่าล่าเปิดเยอะกว่าก็อาจเป็นเพราะด้วยจำนวนประชากรที่มากกว่าเชียงใหม่ รวมไปถึงจำนวนพื้นที่และพลังสื่อโซเชียลที่ช่วยกระจายร้านอร่อย ร้านเด็ด ร้านดังแชร์ให้คนตามมากินกันได้ง่ายกว่า แม้ว่าร้านหม่าล่าเป็นกระแสมาสักพักใหญ่ๆแล้ว ร้านดังที่เป็นกระแสก็ยังเป็นที่นิยมมักเป็นร้านที่สร้างความแตกต่างจากที่อื่นได้ก่อน ยกตัวอย่างเช่น ร้านสุกกี้จินดา ที่ผสมความเป็นหม่าล่ากับหม้อชาบูเข้าด้วยกัน และยังเพิ่มจุดขายคือ สุกี้เสียบไม้ ซึ่งเป็นการใช้ความสะดวกสบายที่ใช้สายพานในการเสริฟอาหาร และด้วยความเป็นไม้ทำให้ลูกค้าสามารถกำหนดงบประมาณของตัวเองได้ และในช่วงที่เป็นกระแสในโลกออนไลน์ ก็ได้ไอเดียมาจากช่วงโรคระบาดโควิด-19 ที่ต้องใส่ใจความสะอาด และสุขอนามัยกลายมาเป็นสิ่งที่ลูกค้าคาดหวังเพิ่มมากขึ้น ไอเดียหม้อแยกจึงสร้างความไว้วางใจ และช่วยประกอบการตัดสินใจได้ ยิ่งไปกว่านั้น สไตล์การกินแบบหม้อแยกยังเจาะกลุ่มเป้าหมายคนที่อยากกินคนเดียว ปัจจุบันขยายสาขาไปแล้วกว่า 40 สาขา แบ่งเป็นเจ้าของแบรนด์บริหารเอง 7 สาขา สาขาแฟรนไชส์ 33 สาขา  

.

ย้อนกลับไปช่วงปี 2566 ร้านหม่าล่าในไทยมีจำนวน 16,000 ร้าน เพิ่มขึ้นจากปี 2565 7.3% ผู้ให้บริการฟู้ดเดลิเวอรี่อย่าง LINE MAN ได้เผยสถิติที่สุดแห่งปี 2566 ด้านอาหาร พบว่าเมนูยอดฮิตจากผู้ใช้บริการกว่า 10 ล้านคน จากร้านอาหารกว่า 1 ล้านร้านใน 77 จังหวัด คือ หมาล่าเสียบไม้และสุกี้ชาบูหมาล่า เมนูดาวรุ่งสุดร้อนแรง มีผู้ใช้บริการ LINE MAN สั่งมากกว่า 1 ล้านออเดอร์ เพิ่มขึ้นถึง 45% เมื่อเทียบกับปี 2565 มีการพูดถึง หม่าล่า ถึง 3,697 ข้อความ Engagement 315,561 ครั้ง

.

ประเภทอาหารหม่าล่าที่คนบนโลกออนไลน์สนใจมากที่สุด

  • ชาบูหม่าล่า 46%
  • สุกี้หม่าล่า 37%
  • ปิ้งย่างหม่าล่า 17%

.

ถ้าลองวิเคราะห์สถานการณ์ของกิจการ

.

จุดแข็งของกิจการ

  • มีเมนูอาหารที่หลากหลาย วัตถุดิบมีคุณภาพ ราคาถือว่าไม่สูงมากเมื่อเทียบกับ คุณภาพของอาหาร ปรุงด้วยสตรเฉพาะของทางร้าน
  •  สถานที่ตั้งร้านอยู่ในแหล่งชุมชนและมีบริการจัดส่งในชุมชน
  • มีการแนะนาเมนูอาหารใหม่ๆ และโปรโมชั่นใหม่ๆ ผ่านช่องทางต่างๆ เช่นเว็บ เพจ ทางเฟสบุ๊ค ไลน์ 
  • มีอุปกรณ์อานวยความสะดวกในร้าน โดยมีเครื่องปรับอากาศที่เปิดตลอดเวลา และมีบริการ Free WIFI ให้แก่ลูกค้าเล่นระหว่างนั่งรออาหาร

.

จุดอ่อนของธุรกิจ

  • ชื่อเสียงของทางร้านอาจจะไม่เป็นที่รู้จักสำหรับผู้บริโภคมากนักในช่วงแรก
  • ผู้ประกอบการมีประสบการณ์น้อย

.

โอกาสของธุรกิจ

  • ธุรกิจร้านอาหารกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง
  • กระแสพริกหม่าล่าที่ได้รับความนิยม ทำให้มีความต้องการของผู้บริโภค
  • ในปัจจุบันคนไทยทำอาหารน้อยลง และหันไปทานอาหารนอกบ้านหรือซื้ออาหารทานมาขึ้น 
  • ในปัจจุบันมีเทคโนโลยีหรือสื่อออนไลน์ต่างๆ ที่ทำให้เป็นที่ของผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็ว

.

อุปสรรค

  • มีคู่แข่งจำนวนมาก 
  • มีสินค้าทดแทนจำนวนมาก
  • สถานการณ์ทางเศรษฐกิจตอนนี้ ทำให้ผู้บริโภคจะมีการเก็บเงินมากขึ้น และซื้อเฉพาะสินค้าจำเป็น

.

หม่าล่า ที่อาจไม่ใช่ ของแซ่บ ของคนอีสาน หรือ แค่ยังไม่ตอบโจทย์ความคุ้มค่า

อย่างที่วิเคราะห์เรื่องอุปสรรคธุรกิจไว้ว่า ธุรกิจปิ้งย่าง ชาบู หรือบาบีคิวเสียบไม้รส หม่าล่า นั้น ล้วนมีคู่แข่งเป็นของแซ่บๆ ในท้องถิ่นมากมายทั้ง แจ่วฮ้อน ชาบูสุกี้ หมูกระทะ ที่มีน้ำจิ้มรสเด็ดที่ถูกปากและคุ้นเคยชาวไทยรวมถึงพี่น้องชาวอีสาน มากกว่ารสเผ็ดร้อน ชาลิ้น ของหม่าล่า นี้จึงเป็นความท้าทายของการสร้างกระแสให้อาหารจีนชนิดนี้ว่าจะสามารถขึ้นเป็นอาหารต่างแดน Pop Culture เทียบเท่าอาหารญี่ปุ่น หรือสปาเก็ตตี้จากตะวันตกได้หรือไม่

เพราะจากข้อมูลการเปิดกิจการร้านอาหารประเภทชาบูในภาคอีสาน ที่เปิดในช่วงหลังโควิด หลังจากที่มีกระแสหม่าล่าทั้งจากแบรนด์ดังอย่างสุกี้จินดา ที่เป็นแบรนด์ปลุกกระแส ชาบูหม่าล่าสายพานนั้น โดย 2 ปีที่ผ่านมาถือเป็นการวัดผลแล้วว่าธุรกิจนี้มีความยั่งยืน หรือเป็นเพียงธุรกิจแฟชั่นที่ฮิตตามกระแสสื่อสังคมเท่านั้น เพราะล่าสุด เกินกว่า 50% ที่เปิดร้านชาบูหม่าล่าในภาคอีสานปิดตัวลง ไม่ว่าจะด้วยความไม่ฮอตฮิต หมดกระแส หรือการแบกรับภาระต้นทุนไม่ไหว รวมถึงไม่ตอบโจทย์ผู้บรฺโภคที่ว่า “หยิบเพลิน จ่ายเกินกว่าบุฟเฟต์” ทำให้ผู้บริโภคเลือกที่จะกลับไปทานร้านบุฟเฟต์ที่ตอบโจทย์ด้่านความคุ้มค่า รวมถึงร้านบุฟเฟต์ก็มีน้ำซุปหรือ หม่าล่า มาเอาใจกลุ่มลูกค้ามากขึ้น ทำให้อย่าง สุกี้จินดา ต้องปรับกลยุทธ์จากหยิบไม้แล้วจ่ายตามจริง ที่ทำกำไรมหาศาล สู่สมรภูมิเดือดด้วยการทำร้านบุฟเฟต์ เพื่อดึงลูกค้าที่เล็งที่ความคุ้มค่าเป็นหลัก

ดังนั้นไม่ใช่ หม่าล่า ไม่แซ่บหรือไม่ถูกปากคนอีสาน แต่เพียงยังไม่ตอบโจทย์ด้านความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับคู่แข่งในตลาดที่มีให้เลือกอย่างหลากหลายในสมรภูมิการแข่งขันของร้านอาหาร นอกจากคู่แข่งเจ้าตลาดอย่าง MK ที่เริ่มปรับกลยุทธ์ รวมถึงน้องใหม่มาแรงที่กระยังไม่แผ่วอย่างร้านสุกี้ตี๋น้อย ที่บุกตลาดภาคอีสานเปิดตัวแข็งขันอย่างดุดัน ก็เป็นอีก 1 ในความท้าทายของผู้ประกอบการร้านอาหาร ชาบู ปิ้งย่าง หมูกระทะในท้องถิ่นอีสาน ให้ต้องปรับตัว สร้างกลยุทธ์ต่างๆ เพื่อแข่งขันไม่เพียงกับ หม่าล่าจากจีน แจ่ยังต้องเผชิญกับเชนร้านอาหารดังจาก กรุงเทพฯ อีกด้วย

ปักหมุดสุกี้จินดา 19 สาขาใกล้ฉัน หม่าล่าสายพานร้านดัง ที่ต้องลองสักครั้งในชีวิต

ร้านสุกี้จินดา ที่ปลุกกระแส ชาบูหม่าล่า สายพาน

 

ข้อมูลเปรียบเทียบแบรนด์ดังจาก www.thaifranchisecenter.com

อย่างไรก็ตามการที่เปิดร้านตามกระแสที่เป็นกระแสมาสักพักนึงแล้ว ก็มีความสุ่มเสี่ยงเช่นกัน เมื่อกระแสเริ่มซาแล้วยอดขายของร้านที่เปิดตามกระแสก็อาจจะซาลงไปด้วย ยิ่งถ้าเป็นร้านประเภทอาหารที่มีคู่แข่งสูงแล้ว ถ้าไม่มีจุดขายที่แข็งแรงจริง แข่งด้านราคากันอย่างเดียว สุดท้ายก็ไปไม่ไหว ฉะนั้น ก่อนจะเข้ามาสู่ธุรกิจร้านอาหาร จับกระแสความนิยมของอาหารแต่ละประเภท ควรศึกษาความเป็นไปได้ทางธุรกิจให้ดีก่อนลงทุน

Leave a Comment

Your email address will not be published.

Scroll to Top