ท่าทรายรุ่งอรุณ: ผู้นำอันดับ 1 ในธุรกิจขุดกรวดและทรายของอีสาน

วัตถุดิบที่จำเป็นต่อการก่อสร้างมีอยู่มากมาย โดยแต่ละอย่างล้วนมีบทบาทสำคัญและขาดไม่ได้ เช่น หิน กรวด ทราย ซีเมนต์ หินปูน และแร่ยิบซั่ม เป็นต้น การขาดวัตถุดิบใดวัตถุดิบหนึ่งอาจส่งผลกระทบโดยตรงต่ออุตสาหกรรมการก่อสร้างอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ วันนี้ ISAN Insight & Outlook จะพาคุณไปสำรวจบริษัทขุดทรายและกรวดรายใหญ่ในภาคอีสาน ซึ่งถือเป็นวัตถุดิบสำคัญที่มีบทบาทสำคัญในทุกโครงการก่อสร้าง

 

บริษัท ท่าทรายรุ่งอรุณ จำกัด บริษัทขุดทรายและกรวดอันดับ 1 ในภาคอีสานที่มีประสบการณ์ยาวนานมากกว่า 20 ปี จากเดิมที่เป็น ห้างหุ้นส่วนจำกัด ท่าทรายรุ่งอรุณ ก่อนจะทำการแปรสภาพเป็นบริษัทจำกัดในปี 2565 ที่ผ่านมา หากมองในด้านของผลประกอบการจะเห็นได้ว่าในช่วงที่เป็นห้างหนุ้นส่วนจำกัดรายได้มีการปรับตัวสูงขึ้นทุกๆปี เป็นไปในทิศทางเดียวกับราคาวัตถุดิบก่อสรา้งที่มีการปรับราคาสูงขึ้น  แม้จะมีสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 ระบาดแต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อรายได้ของทางบริษัทแต่อย่างใด หากมอกในด้านของกำไร(ขาดทุน) จะพบว่าช่วงที่โควิด-19 ระบาดหนักในช่วงแรกนั้นกำไรจะมีการปรับตัวลดลงบ้างเล็กน้อยแต่ในปีต่อมาทางบริษัทก็ยังสามารถทำกำไรได้อย่างมหาศาล หลังจากในปี 2565 ที่ทางบริษัทได้ทำการแปรสภาพจากห้างหุ้นส่วนจำกัดเป็นบริษัทจำกัดนั้น ในช่วงแรกแม้ว่ารายได้รวมและกำไรจะมีการปรับลดลงไปบ้าง แต่จากแนวโน้มในปี 2566 ที่ผ่านมาคาดว่าในปี 2567 นี้รายได้รวมและกำไรอาจจะสูงกว่าช่วงปี 2564 ซึ่งเป็นปีที่บริษัทสามารถทำรายได้และกำไรสูงสุดก่อนทำการเปลี่ยนแปลงเป็นบริษัทจำกัด

 

ในปี 2566 บริษัท ท่าทรายรุ่งอรุณ จำกัด สามารถครองส่วนแบ่งการตลาดในภาคการขุดกรวดและทราย (08103) ในภาคอีสานได้ 41% ขณะที่หากมองดูในด้านของภาพรวมทั้งประเทศจะพบว่าบริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 13% แต่หากมองเฉพาะเจ้าที่เป็นรายใหญ่ในการขุดทรายและกรวดในเว็บไซต์ของ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ จะพบว่ามีเพียง บริษัท ท่าทรายรุ่งอรุณ จำกัด บริษัทเดียวเท่านั้นที่ถูดจัดอยู่ในหมวดรายใหญ่ ฉะนั้น จึงสามารถพูดได้ว่าคู่แข่งส่วนใหญ่ของทางบริษัทนั้นส่วนมากจะเป็นบริษัทชนาดกลางและขนาดเล็กซะมากกว่านั่นเอง

 

การเปลี่ยนแปลงเป็นบริษัทจำกัดคือ กิจการที่จดทะเบียนบริษัทจำกัด มีลักษณะการทำกิจการร่วมกัน เพื่อหากำไรร่วมกัน จะต้องจดทะเบียนนิติบุคคล เดิมต้องมีเจ้าของกิจการตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป แต่ในปัจจุบันมีข้อยกเว้นตั้งแต่วันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 เป็นต้นไปไว้ว่า การจดทะเบียนบริษัทสามารถทำได้โดยมีผู้เริ่มก่อตั้ง ตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป และมีรายได้จะมีหน้าที่ต้องเสีย ภาษีเงินได้นิติบุคคลด้วย ไม่ว่าจะตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยหรือตามกฎหมายต่างประเทศ

 

อ้างอิงจาก

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์, เว็บไซต์ของบริษัท, ธนาคารกสิกรไทย, iTAX

Leave a Comment

Your email address will not be published.

Scroll to Top