รายชื่อและเส้นทาง 51 นักกีฬาไทย ตะลุยศึก โอลิมปิก เกมส์ 2024
26 มิถุนายน 2567
เดินทางเข้าสู่ทางตรง 100 ม. สุดท้ายของการคัดเลือก โอลิมปิก “ปารีส 2024” ที่ประเทศฝรั่งเศส กันแล้ว ในส่วนของนักกีฬาไทยเวลานี้ผ่านการคัดเลือกแล้วทั้งหมด 51 โควตา มีการประกาศรายชื่อใครบ้างและเส้นทางกว่าจะได้โควตาของแต่ละคนเป็นอย่างไรติดตามพร้อมกันได้ที่นี่
ธันยพร พฤกษากร (ยิงปืน : ปืนสั้นระยะ 25 ม. หญิง)
โอลิมปิก 5 สมัย : 2008, 2012, 2016, 2020 และ 2024
ธันยพร เป็นนักกีฬาไทยคนแรกที่คว้าได้สิทธิ์เข้าร่วมโอลิมปิก 2024 โดยตั๋วใบนี้ได้มาจากการคว้าอันดับ 5 ในศึกยิงปืนชิงแชมป์โลก ที่เมืองบากู ประเทศอาเซอร์ไบจาน เมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2023
เดิมทีในอีเวนต์ปืนสั้นระยะ 25 ม. หญิง ที่เธอลงแข่ง มีตั๋วโอลิมปิกมอบให้แค่นักกีฬา 3 อันดับแรก แต่เนื่องจากอันดับ 1-4 ซึ่งประกอบด้วย เยอรมนี, ยูเครน, ลัตเวีย และอิหร่าน นั้นต่างก็ได้โควตาโอลิมปิกกันไปก่อนหน้านี้แล้ว สิทธิ์จึงขยับมาเป็นของ ธันยพร
กมลลักษณ์ แสนชา : ยิงปืน ปืนสั้นอัดลมหญิง ระยะ 10 เมตร
โอลิมปิก 1 สมัย : 2024
นักแม่นปืนสาววัย 16 ปี สร้างเซอร์ไพร์คว้าตั๋วโอลิมปิกเกมส์ 2024 ได้เป็นคนที่ 3 ของนักกีฬายิงปืน โดยผ่านการคัดเลือกจากรายการสุดท้าย รายการ ISSF Final Olympic Qualify Championship 2024 ที่ประเทศบราซิล เมื่อกลางเดือนเมษายนที่ผานมา
ในประเภทปืนสั้นอัดลมหญิง ระยะ 10 เมตร มีโควตาโอลิมปิกแค่ 2 ที่นั่งมอบให้แชมป์กับรองแชมป์เท่านั้น แต่ทว่า กมลลักษณ์ กลับทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ผ่านเข้ามาถึงรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งในรอบนี้ต้องยิงคนละ 24 นัด ซึ่ง กมลลักษณ์ ยิงทำคะแนนรวมได้ 240.5 คะแนน คว้าเหรียญเงินมาครองคว้าพร้อมสิทธิ์เข้าร่วมโอลิมปิก 2024 ที่ประเทศฝรั่งเศส
ทองผาภูมิ วงศ์สุขดี (ยิงปืน : ปืนยาว 3 ท่า ระยะ 50 ม. ชาย)
โอลิมปิก 1 สมัย : 2024
เส้นทางสู่โอลิมปิกของ ทองผาภูมิ ได้มาจากศึกยิงปืน “เอเชียน ไรเฟิล-พิสตอล แชมเปียนส์ชิพ 2024” ที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา
ในอีเวนต์ ปืนยาว 3 ท่า บุคคลชาย ระยะ 50 เมตร มีตั๋วโอลิมปิกแค่ 2 ใบ มอบให้นักกีฬาที่ทำผลงานในรอบชิงชนะเลิศได้ 2 อันดับแรก แต่อย่างไรก็ตามนักกีฬา 6 จาก 8 คนที่ผ่านเข้ามาถึงรอบชิงฯ ได้สิทธิ์เข้าร่วมปารีส 2024 กันครบแล้ว ทำให้ ทองผาภูมิ ที่ผ่านรอบคัดเลือกเข้ามาถึงรอบชิงฯ ด้วยสกอร์ 583 คะแนน จึงคว้าตั๋วโอลิมปิกเกมส์ไปครอง
จุฑามาศ รักสัตย์ : มวยสากล รุ่น 50 กก.หญิง
โอลิมปิก 1 สมัย : 2024
หลังจากพยายามมาหลายปี ในที่สุด จุฑามาศ ก็ประสบความสำเร็จได้ไปโอลิมปิกเกมส์ครั้งแรกในชีวิต บนวัย 30 ปี เธอเป็นนักกีฬามวยสากลคนแรกของไทยที่ได้โควตาโอลิมปิก 2024 จากมหกรรมกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่ประเทศจีน โดยทำผลงานได้เหรียญทองแดง ซึ่งในรุ่น 50 กก.หญิง มีโควตาให้กับ 4 นักชกที่ผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ และเธอเป็น 1 ใน 4 คนนั้น
จุฑามาศ จิตรพงศ์ : มวยสากล รุ่น 54 กก. หญิง
โอลิมปิก 2 สมัย 2020, 2024
ย้อนกลับไปในโตเกียว 2020 จุฑามาศ อีกเพียงก้าวก็จะสร้างเซอร์ไพรส์คว้าเหรียญทองแดงได้อยู่แล้ว แต่ตกรอบ 8 คนสุดท้ายไปเสียก่อน กลับมาหนนี้ จุฑามาศ ยังคงฝ่าด่านรอบคัดเลือกคว้าตั๋วโอลิมปิกเกมส์ได้อีกครั้ง
เส้นทางโอลิมปิกของจุฑามาศ ได้โควตามาจากศึกคัดเลือกโอลิมปิก 2024 เลก 1 ที่เมือง บุสโต อซิซิโอ ประเทศอิตาลี เมื่อกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งในรุ่น 54 กก. หญิง นั้นมีโควตาโอลิมปิก 4 ที่นั่ง แต่ความยอดเยี่ยมของ จุฑามาศ เธอผ่านเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศ แม้สุดท้ายจะพ่ายให้กับนักชกจากสหรัฐฯ ไปแบบหวุดหวิด 2-3 เสียง แต่ก็ยังคว้าตั๋วมาได้ตามเป้าหมาย
ธนัญญา สมนึก : มวยสากล รุ่น 60 กก. หญิง
โอลิมปิก 1 สมัย : 2024
จากนักชกความหวังในรุ่นเยาวชนก้าวขึ้นมาเป็นกำลังหลักของทีมกำปั้นไทยในปัจจุบันเรียบร้อยแล้ว พิสูจน์ได้จากการคว้าตั๋วโอลิมปิกเกมส์มาได้เป็นครั้งแรก
เส้นทางการคว้าตั๋วปารีส 2024 ของเธอ เกิดขึ้นในเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 “หางโจวเกมส์” ในรุ่น 60 กก. หญิง มีโควตามอบให้ 4 นักชกที่ผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ ปรากฎว่า เจ้าตัวต้องลงแข่งโดยที่ร่างกายไม่เต็มร้อยเพราะเพิ่งหายไข้ แต่ยังสามารถชกชนะอาร์เอสซีคู่แข่งได้ทุกรอบจนผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ก่อนจะแพ้คะแนนให้กับนักชกเกาหลีเหนือ แต่ก็ยังดีพอสำหรับการคว้าตั๋วปารีส 2024
จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง : มวยสากล รุ่น 66 กก. หญิง
โอลิมปิก 1 สมัย : 2024
เจองานยากกว่าใครเพื่อนเลยกว่าจะได้ตั๋วโอลิมปิก 2024 เพราะในเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 มวยสากล รุ่น 66 กก. หญิง มีโควตาโอลิมปิกให้แค่ 2 คนที่ผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม จันทร์แจ่ม ยังคงทำผลงานได้สมราคารองแชมป์โลกในรุ่นนี้คนปัจจุบัน เอาชนะคู่แข่งด้วยคะแนนแบบเอกฉันท์ตั้งแต่รอบแรกจนถึงรอบรองชนะเลิศ และผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศคว้าตั๋วโอลิมปิกได้ตามเป้า ก่อนจะแพ้ หลิว หยาง แชมป์โลกจากจีน คู่ปรับเก่าซึ่งเป็นตัวเต็งที่จะคว้าเหรียญทองปารีส 2024
ใบสน มณีก้อน : มวยสากล รุ่น 75 กก. หญิง
โอลิมปิก 2 สมัย : 2020, 2024
คนสุดท้ายของทัพเสื้อกล้ามไทยที่คว้าตั๋วโอลิมปิกหนนี้ หลังจากโตเกียว 2020 ใบสนได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์มาแล้ว และเข้าถึงรอบ 16 คนสุดท้าย ส่วนในปารีส 2024 ต้องรอลุ้นโควต้าถึงการคัดเลือกเลกที่ 2 ที่บ้านเรา ซึ่งรุ่นนี้มีตั๋วให้ 4 ใบ และเธอก็คว้าโควตาได้สำเร็จหลังจากเอาชนะนักชกอิตาลีในการแข่งขันรอบก่อนรองชนะเลิศ กลายเป็นนักมวยหญิงคนที่ 2 ในประวัติศาสตร์ต่อจาก จุฑามาศ จิตรพงศ์ ที่ได้ไปแข่งโอลิมปิก 2 สมัยซ้อน
ธิติสรรณ์ ปั้นโหมด : มวยสากล รุ่น 51 กก. ชาย
โอลิมปิก 1 สมัย : 2024
ลบความผิดหวังจากโตเกียว 2020 ที่เจ้าตัวคว้าตั๋วโอลิมปิกเกมส์ได้แล้ว แต่ต้องถอนตัวหลังจากบาดเจ็บหนักจนต้องพักยาวเป็นปี กลับมาครั้งนี้ ธิติสรรณ์ เติบโตขึ้นและแกร่งขึ้นทั้งร่างกายและจิตใจ
ธิติสรรณ์ เป็นอีกคนที่ได้โควตาโอลิมปิกจากผลงานในเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 โดยในรุ่น 51 กก. ชาย นั้นมีโควตาอยู่ 2 ที่นั่งสำหรับนักกีฬาที่ผ่านเข้ารอบชิงฯ ซึ่งในรอบแรกอดีตแชมป์เยาวชนโลกและแชมป์ยูธโอลิมปิกของไทย เอาชนะคู่แข่งจากฟิลิปปินส์, ไชนีส ไทเป และจีน ได้อย่างไม่มีปัญหา แต่ต้องมาออกแรงหนักในรอบรองชนะเลิศซึ่งเป็นรอบสำคัญที่มีตั๋วโอลิมปิกเป็นเดิมพัน แต่ท้ายที่สุดยังเป็นนักชกไทยที่เบียดชนะคะแนนเกาหลีเหนือหวุดหวิด 3-2 เสียง เข้ารอบชิงฯ พร้อมคว้าตั๋วโอลิมปิกมาได้เป็นคนแรกของนักมวยชายไทย
บรรจง สินศิริ : มวยสากล รุ่น 63.5 กก. ชาย
โอลิมปิก 1 สมัย : 2024
แม้ว่าจะได้เหรียญทองแดงเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่ประเทศจีน เป็นรางวัลปลอบใจหลังจากตกรอบรองชนะเลิศที่แพ้ ชินซอริก บาตาร์ซุก นักมวยมองโกเลีย เจ้าของเหรียญทองในรุ่นเดียวกัน ซึ่งทำให้เขาพลาดโควตาโอลิมปิกไปอย่างน่าเสียดายด้วย เนื่องจากในเอเชียนเกมส์ รุ่น 63.5 กก. มีตั๋วปารีส 2024 ให้เพียงแค่แชมป์และรองแชมป์เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ชินซอริก บาตาร์ซุก ภายหลังมีรายงานว่าถูกตรวจพบสารต้องห้ามประเภท อนาโบลิค สเตียรอยด์ ซึ่งต่อมานักชกมองโกเลียตัดสินใจขอสละสิทธิ์ไม่เข้าโอลิมปิกที่ประเทศฝรั่งเศส ทำให้โควตาดังกล่าวจึงตกเป็นของ บรรจง สินศิริ โดยที่คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) ได้ส่งหนังสือยืนยันถึงคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้กลายเป็นนักชกไทยคนที่ 6 ในปารีส 2024
วีระพล จงจอหอ : มวยสากล รุ่น 80 กก. ชาย
โอลิมปิก 1 สมัย : 2024
หลานชายของฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก สมจิตร จงจอหอ ที่ดีกรีคว้าเหรียญทองแดงยูธโอลิมปิก และชิงแชมป์โลกมาแล้ว นี่คืออีกหนึ่งบทพิสูจน์ว่ามวยรุ่นใหญ่ของไทยก็ประสบความสำเร็จได้เช่นกันหลังจากคว้าตั๋วโอลิมปิกหนนี้ได้สำเร็จได้การคัดเลือกเลก 2 ซึ่งรุ่นนี้เหลือตั๋วให้ชิงเพียง 3 ใบเท่านั้น และกลายเป็นนักชกชายคนที่ 3 ของไทยที่ได้ลุยปารีส
โกเมธ สุขประเสริฐ : จักรยาน บีเอ็มเอ็กซ์เรซซิ่ง ชาย
โอลิมปิก 1 สมัย : 2024
การคว้าตั๋วปารีส 2024 ของ โกเมธ ทำให้เขากลายเป็นนักปั่นบีเอ็มเอ็กซ์เรซซิ่งชายคนแรกของประเทศไทยที่ได้ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมโอลิมปิกเกมส์รอบสุดท้าย
เส้นทางประวัติศาสตร์เกิดขึ้นหลังจากที่นักปั่นมือ 1 ของไทย ลงแข่งขันศึกชิงแชมป์เอเชีย 2023 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ รายการนี้มีโควตาโอลิมปิกแค่ 1 ที่นั่งมอบให้กับแชมป์เท่านั้น โดยในการแข่งขันเจ้าตัวทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมคว้าแชมป์มาครองได้เป็นสมัยที่ 2 ของตัวเอง พร้อมสิทธิ์เดินทางเข้าสู่โอลิมปิกที่ปารีส
จาย อังค์สุธาสาวิทย์ : จักรยานลู่ ประเภทคีริน และสปรินต์บุคคล
โอลิมปิก 1 สมัย : 2024
“ทีเจ” จาย อังค์สุธาสาวิทย์ นักปั่นลูกครึ่งไทย-ออสเตรเลีย เจ้าของเหรียญทองเอเชียนเกมส์ 2018 ได้ไปแข่งโอลิมปิกเป็นครั้งแรก หลังจากทำคะแนนสะสมคัดเลือกโอลิมปิกเกมส์ ในประเภทคีริน อยู่อันดับ 13 ของโลก มีทั้งสิ้น 2,949 คะแนน ซึ่งนอกจากจะได้โควตาประเภทคีรินแล้ว ยังได้สิทธิ์ลงแข่งขันประเภทสปรินต์บุคคล โดยอัตโนมัติอีกรายการ
ธนาคาร ไชยยาสมบัติ : จักรยานถนน โรดเรซ ชาย
โอลิมปิก 1 สมัย : 2024
เป็นหนึ่งในนักปั่นคนสำคัญของทีมชาติไทยที่ก้าวขึ้นมาเป็นกำลังหลักของทีมในไม่กี่ปีที่ผ่านมา และอยู่ในทีมชุดที่สมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยส่งออกตระเวนแข่งขันเพื่อเก็บคะแนนจนสามารถคว้าโควตาโอลิมปิกเกมส์ 2024 มาให้กับทีมชาติไทยได้สำเร็จ และสุดท้ายด้วยวัยเพียง 24 กับผลงานในช่วงหลังที่โดดเด่นทำให้เขาถูกเลือกให้เป็นตัวแทนทีมชาติไทยไปลุยศึกปารีส 2024 ในอีเวนต์โรดเรซ บุคคลชาย
เพชรดารินทร์ สมราช : จักรยานถนน โรดเรซ หญิง, ไทม์ ไทรอัล บุคคล
โอลิมปิก 1 สมัย : 2024
นักปั่นวัย 29 ปีรายนี้ เป็นหนึ่งในนักกีฬาที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของทีมจักรยานถนนหญิงไทยตลอดทศวรรษที่ผ่านมา ด้วยความอึดและความแข็งแรงในการปั่นลากยาว ๆ แบบไม่เป็นสองรองใคร ซึ่งเป็นจุดแข็งของเธอกลายเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ทีมนักปั่นไทยประสบความสำเร็จในเวทีนานาชาติ ซึ่งรวมไปถึงโควตาโอลิมปิกเกมส์ 2024 ด้วยเช่นกัน และในปีนี้ถึงเวลาของเธอแล้วที่จะได้รับโอกาสให้ไปลุยมหกรรมกีฬาแห่งเกียรติยศเป็นหนแรกในชีวิต
ชนกภรณ์ การุณยธัช : ขี่ม้า กระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง บุคคล
โอลิมปิก 1 สมัย : 2024
หลังจากผิดหวังไม่สามารถผ่านควอลิฟายไปโอลิมปิกที่โตเกียวได้ “ปรีดิ์อัญ” ชนกภรณ์ การุณยธัช เจ้าของเหรียญทองแดงหางโจวเกมส์ ยังคงเดินหน้าฝึกซ้อมอย่างหนักและตระเวนลงแข่งเก็บคะแนนสะสมรายการต่าง ๆ เพื่อมุ่งหน้าปารีส 2024 ให้ได้
ก่อนแข่งขันเก็บคะแนนสะสมปารีส 2024 รายการสุดท้ายในรายการ เวิลด์ คัพ ระดับ 5 ดาว ที่ซาอุดีอาระเบีย เมื่อเดือนธันวาคม 2023 สถานการณ์ของ ปรีดิ์อัญ มีคะแนนเก็บเป็นอันดับ 2 ตามหลังนักขี่ม้าจากนิวซีแลนด์ อยู่ 13 คะแนน อย่างไรก็ตามในการแข่งขันที่ซาอุดิอาระเบีย ปรีดิ์อัญ และ ทีน่า ม้าคู่ใจ ทำผลงานเข้ามาเป็นอันดับ 1 ส่งผลให้คะแนนสะสมรวมนั้นแซงปาดหน้าคว้าตั๋วโอลิมปิกไปในการแข่งขันรายการสุดท้าย
“ปรีดิ์อัญ” มีคะแนนสะสม 334 คะแนน เข้ามาเป็นอันดับ 1 ของกรุ๊ปจี หรือก็คือตัวแทนจากทวีปเอเชียและโอเชียเนีย ทิ้งนิวซีแลนด์อันดับ 2 ที่มี 225 คะแนน พร้อมกับกลายเป็น 1 ใน 15 คนสุดท้ายที่ได้ผ่านเข้าสู่ปารีส 2024 และเป็นนักกีฬาขี่ม้ากระโดดข้ามเครื่องกีดขวางคนแรกในประวัติศาสตร์ของไทยที่ได้เข้าร่วมโอลิมปิก
เบญญาภา จันทวรรณ : ไคท์บอร์ด ฟอร์มูลา ไคท์ หญิง
โอลิมปิก 1 สมัย : 2024
ไคท์บอร์ด ฟอร์มูลา ไคท์ บุคคลหญิง ในเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 มีโควตาโอลิมปิกให้ 2 ที่นั่ง มอบให้อันดับ 1 และ 2 โดย เบญญาภา จันทวรรณ นั้นทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ทำคะแนนในรอบไฟนอลเข้ามาเป็นอันดับ 2 คว้าเหรียญเงินไปครองพร้อมตั๋วโอลิมปิกเกมส์สมัยแรกในชีวิต
โจเซฟ โจนาธาน เวสตัน : ไคท์บอร์ด ฟอร์มูลา ไคท์ ชาย
โอลิมปิก 1 สมัย : 2024
คว้าโควตาโอลิมปิกเกมส์มาได้จากการแข่งขันเอเชียน ครั้งที่ 19 ซึ่งในกีฬาไคท์บอร์ด ประเภทฟอร์มูลา ไคท์ บุคคลชาย นั้นมีโควตาโอลิมปิกให้อันดับ 1-3 โดยในรอบไฟนอล โจเซฟ โจนาธาน เวสตัน ดาวรุ่งวัย 18 ปี ลูกครึ่งไทย-อังกฤษ ทำคะแนนเข้ามาเป็นอันดับ 3 คว้าเหรียญทองแดงพร้อมตั๋วโอลิมปิกสมัยแรกของเจ้าตัว
ภูริช โยเฮือง : ปัญจกีฬาสมัยใหม่ ประเภทบุคคลชาย
โอลิมปิก 1 สมัย : 2024
ภูริช โยเฮือง ในวัย 20 ปี คว้าโควตาโอลิมปิก 2024 ได้จากการแข่งขันเอเชียนเกมส์ ครั้ง 19 ซึ่งในปัญจกีฬาสมัยใหม่ ประเภทบุคคลชาย มีโควตาให้ 5 ที่นั่ง โดยแต่ละประเทศจะได้โควตาโอลิมปิกแค่ชาติละ 1 ที่นั่งเท่านั้น
ในส่วนของ ภูริช ทำผลงานเข้ามาเป็นอันดับที่ 11 ไม่ได้เหรียญรางวัล แต่เมื่อจัดอันดับตามประเทศแล้ว ภูริช ตัวแทนจากประเทศไทยทำอันดับเข้ามาเป็นที่ 5 ตามโควตา เป็นรองเพียงแค่ จอนอุงแท เกาหลีใต้, หลี่ ซูหวน จีน, ไทชู ซาโตะ ญี่ปุ่น และ จอร์จี โบโรดา คาซัคสถาน
โซเฟีย เกล มอนโกเมอรี่ : เรือใบ ILCA 6
โอลิมปิก 1 สมัย : 2024
ศึกเรือใบชิงแชมป์เอเชียและคัดเลือกโอลิมปิก 2024 ที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี เมื่อเดือนธันวาคม 2023 ในประเภทอิลก้าซิกซ์ หญิง มีโควตาโอลิมปิก 2 ที่ ซึ่งในรอบสุดท้าย โซเฟีย เกล มอนโกเมอรี่ ลูกครึ่งไทย – สหรัฐ มีสกอร์รวมจบอันดับที่ 4 ในตารางคะแนนรวม แต่ยังดีพอที่จะคว้าโควตาโอลิมปิก เนื่องจากอันดับ 1-3 เป็นนักกีฬาจากจีนทั้งหมด ซึ่งตามกฎระบุเอาไว้ว่าแต่ละชาติสามารถคว้าตั๋วโอลิมปิกได้แค่ชาติละ 1 ที่นั่งต่อรายการเท่านั้น
อธิษฐ์ มิเคล โรมานิค : เรือใบ ILCA 7
โอลิมปิก 1 สมัย : 2024
คว้าตั๋วโอลิมปิกเกมส์ได้จากศึกเรือใบชิงแชมป์เอเชียและคัดเลือกโอลิมปิก 2024 ที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี โดยในประเภทอิลก้าเซเว่น ชาย มีตั๋วโอลิมปิกให้ 2 ที่นั่งเช่นกัน โดยในรอบ เมเดิล เรซ หรือรอบสุดท้ายมีเรือของนักกีฬาไทยผ่านเข้ามาได้ถึง 3 ลำ แต่ปรากฎว่า อธิษฐ์ มิเคล โรมานิค ลูกครึ่งไทย-ออสเตรเลีย ทำผลงานได้ดีที่สุดเข้าเส้นชัยมาเป็นอันดับ 5 แต่เมื่อคิดคะแนนรวมทั้ง 10 รอบแล้ว เขามีคะแนนดีสุดเป็นอับดับ 2 ทำให้คว้าโควตาโอลิมปิกไปครอง
เทเบิลเทนนิส
สุธาสินี เสวตรบุตร : หญิงเดี่ยว, ทีมหญิง
โอลิมปิก 3 สมัย : 2016, 2020 และ 2024
จิณห์นิภา เสวตรบุตร : ทีมหญิง
โอลิมปิก 1 สมัย : 2024
อรวรรณ พาระนัง : หญิงเดี่ยว, ทีมหญิง
โอลิมปิก 2 สมัย : 2020, 2024
นักตบลูกเด้งสาวไทยทั้ง 3 คน ผนึกกำลังกันสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้วงการเทเบิลเทนนิสไทยอีกครั้ง หลังช่วยกันช่วยทำผลงานผ่านเข้าถึงรอบ 16 ทีมสุดท้ายในศึกชิงแชมป์โลก 2024 ส่งผลให้อันดับโลกนั้นขยับขึ้นมาอยู่ที่ 11 ของโลก มี 2,298 คะแนน ทำให้ทีมผ่านเงื่อนไขคว้าโควตาโอลิมปิกจากอันดับโลกที่ดีที่สุดเป็นลำดับที่ 1 (ที่ยังไม่ได้สิทธิ์) และกลายเป็น 1 ใน 16 ทีมสุดท้ายที่จะได้เข้าร่วมปารีส 2024 นอกจากนั้นจากการโควตาประเภททีม ยังทำให้ สุธาสินี และอรวรรณ 2 นักกีฬาที่มืออันดับโลกสูงที่สุดในทีมได้แข่งในประเภทเดี่ยวอีกด้วย
พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ : เทควันโด รุ่น 49 กก.หญิง
โอลิมปิก 3 สมัย : 2016, 2020 และ 2024
ความหวังเหรียญทองโอลิมปิก 2024 ของทัพนักกีฬาไทย และเป็นเจ้าของเหรียญทองโตเกียว 2020 ยังคงรักษามาตรฐานการเล่นในระดับสูงได้อยู่ตลอดเวลา ถึงแม้ว่าจะประสบความสำเร็จมาแล้วทุกรายการก็ตาม
สำหรับปารีส 2024 พาณิภัค จะได้กลับไปป้องกันแชมป์อีกครั้ง หลังจากเจ้าตัวแชมป์ แมนเชสเตอร์ 2023 เวิลด์ เทควันโด กรังด์ปรีซ์ ไฟนอลส์ ที่ประเทศอังกฤษ เมื่อต้นเดือนธันวาคม 2023 ทำให้มีคะแนนเก็บเพิ่มอีก 100 คะแนน ส่งผลให้อันดับโลกนั้นการันตีติด 1 ใน 6 ของโลกพร้อมคว้าโควตาโอลิมปิกได้แน่นอนแล้ว
ในโอลิมปิกหนนี้เธอมีโอกาสที่คว้าเหรียญรางวัลได้เป็นสมัยที่ 3 ถ้าหากเธอทำได้สำเร็จจะเป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการกีฬาไทย เพราะในอดีตที่ผ่านมา ยังไม่เคยมีนักกีฬาไทยคว้าเหรียญโอลิมปิกได้ 3 สมัย
บัลลังก์ ทับทิมแดง : เทควันโด รุ่น 68 กก.ชาย
โอลิมปิก 1 สมัย : 2024
บัลลังก์ ทับทิมแดง แจ้งเกิดแบบเต็มหลังคว้าเหรียญทองเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่จีน และรองแชมป์โลก 2023 ได้ในรุ่น 63 กก.ชาย อย่างไรก็ตามสำหรับโอลิมปิกเกมส์แล้วไม่มีแข่งขันในรุ่นดังกล่าว ทำให้เขาต้องขยับพิกัดขึ้นมาแข่งในรุ่น 68 กก.ชาย แทน
ในศึก รอบคัดเลือก โอลิมปิกเกมส์ 2024 โซนเอเชีย ที่เมืองไท่อัน สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา บัลลังก์ ได้สิทธิ์เป็นมือวางอันดับ 1 ของรายการ ได้บายรอบแรก จากนั้นรอบ 16 คนสุดท้าย บัลลังก์ เอาชนะอินเดีย 2-0 ยก 7-0 และ 10-1 เข้ารอบก่อนรองชนะเลิศไปชนะจอมเตะจากเวียดนาม 2-0 ยก 4-1 และ 9-1 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ ซึ่งเป็นรอบชิงตั๋วโอลิมปิก โดยจอมเตะไทยก็ยังเอาชนะนักกีฬาจากปาเลสไตน์ไปได้อีก 2-0 ยก 8-5, 9-5 คว้าตั๋วโอลิมปิกเกมส์ 2024 ได้สำเร็จ และเป็นสมัยแรกของเขาในวัย 19 ปีอีกด้วย
ศศิกานต์ ทองจันทร์ : เทควันโด รุ่น 67 กก.หญิง
โอลิมปิก 1 สมัย : 2024
ศศิกานต์ ทองจันทร์ เจ้าของเหรียญทองกีฬา มหาวิทยาลัยโลก 2023 ที่เฉิงตู ประเทศจีน ต้องขยับพิกัดจากรุ่น 62 กก.หญิง ขึ้นมาแข่งขันในรุ่น 67 กก.หญิง เนื่องจากในโอลิมปิกไม่มีแข่งรุ่น 62 กก. และกว่าที่จะคว้าตั๋วโอลิมปิกต้องมาลุ้นหนักถึงรายการสุดท้ายในศึก รอบคัดเลือก โอลิมปิกเกมส์ 2024 โซนเอเชีย
โดยในรุ่นนี้มีโควตาโอลิมปิกให้เพียง 2 คนที่ผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ ซึ่ง ศศิกานต์ ถูกวางให้เป็นมือวางอันดับ 1 ของรายการ ไม่ต้องลงแข่งขันรอบแรก ไปยืนรอคู่แข่งในรอบรองชนะเลิศ ซึ่งเป็นรอบชิงตั๋วโอลิมปิก โดยต้องไปตัดสินกับนักกีฬาจากเนปาล ก่อนจะเป็นจอมเตะไทยที่เอาชนะไปแบบไม่ยากเย็นนัก 2-0 ยก คว้าโควตามาครองได้เป็นคนที่ 3 ของเทควันโดไทย
เปรมณัฏฐ์ วัฒนานุสิทธิ์ : เรือกรรเชียง ประเภทเรือ 1 คน ชายพายคู่
โอลิมปิก 1 สมัย : 2024
“เปรม” เปรมณัฏฐ์ วัฒนานุสิทธิ์ คว้าตั๋วลุย “โอลิมปิก 2024” ได้สำเร็จจากการแข่งขันกีฬาเรือกรรเชียง ชิงแชมป์เอเชีย 2024 ที่เมืองชุงจู ประเทศเกาหลีใต้ ระหว่างวันที่ 19-21 เม.ย. โซนเอเชียและโอเชียเนีย เพื่อคว้าโควตาเข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิก 2024 ที่ประเทศฝรั่งเศส โดย ประเภทเรือ 1 คน ชายพายคู่ (M1x) เปรมณัฏฐ์ เข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 6 ด้วยเวลา 7.15.14 นาที หลังนักกีฬาจากอุซเบกิสถาน ที่เข้าเส้นชัยอันดับ 5 ในประเภทเดียวกัน ได้โควตาไปก่อนหน้านี้แล้ว
กุลวุฒิ วิทิตศานต์ : แบดมินตัน ประเภทชายเดี่ยว
โอลิมปิก 1 สมัย : 2024
นับตั้งแต่เริ่มเก็บคะแนนโอลิมปิก กุลวุฒิ ทำผลงานได้อย่างโดดเด่น คว้าแชมป์โลกในปี 2023 จากนั้นผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศในระดับเวิลด์ ทัวร์ ได้อีก 3 รายการ ทำให้การเก็บคะแนนเพื่อไปโอลิมปิกไม่ได้เป็นงานยาก ก่อนจะผ่านการตัดตัวด้วยการมีคะแนนสะสมโอลิมปิกแรงกิ้งอยู่อันดับที่ 8 และในปารีส 2024 เขาก็ได้รับการคาดหวังว่าจะเป็นหนึ่งในตัวเต็งที่มีลุ้นเหรียญทองในประเภทชายเดี่ยวให้กับขนไก่ไทยอีกด้วย
รัชนก อินทนนท์ : แบดมินตัน ประเภทหญิงเดี่ยว
โอลิมปิก 4 สมัย : 2012, 2016, 2020 และ2024
ตลอดระยะเวลา 1 ปีของการเก็บคะแนนสะสมโอลิมปิกเกมส์ รัชนก เผชิญหน้ากับอาการบาดเจ็บและป่วยอยู่เป็นระยะ ส่งผลให้สภาพร่างกายแทบจะไม่ได้ช่วงในสมบูรณ์พร้อมตลอดทั้งปี
อย่างไรก็ตามรัชนกยังคงทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม คว้าแชมป์ได้ 1 จาก 2 รายการที่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศในช่วงระหว่างเก็บคะแนน โดยเฉพาะในรายการใหญ่ ๆ ส่งผลให้เธอมีคะแนนโอลิมปิกแรงกิ้ง ผ่านการคัดเลือกเข้ามาเป็นอันดับที่ 12 และเป็นอันดับ 1 นักแบดไทยในประเภทหญิงเดี่ยว
ศุภนิดา เกตุทอง : แบดมินตัน ประเภทหญิงเดี่ยว
โอลิมปิก 1 สมัย : 2024
เงื่อนไขเดียวของ ศุภนิดา สำหรับการคว้าตั๋วโอลิมปิกเกมส์ จะต้องติด 1 ใน 16 อันดับแรกให้เพื่อคว้าโควตาที่ 2 ของไทยในประเภทหญิงเดี่ยว ต่อจาก รัชนก ที่การันตีโควตาไปได้ก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตามจากผลผลงานอันยอดเยี่ยมตลอดระยะเวลาของการเก็บคะแนน ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศได้ถึง 3 รายการ และคว้าแชมป์ได้ 1 รายการ ในศึกยูเอส โอเพ่น 2023 ส่งผลให้เธอคว้าโควตาโอลิมปิกเกมส์มาครองได้เป็นสมัยแรก
สุภัค จอมเกาะ – กิตตินุพงษ์ เกตุเรน : แบดมินตัน ประเภทชายคู่
โอลิมปิก 1 สมัย : 2024
นับตั้งแต่เข้าปี 2024 นักตบลูกขนไก่หนุ่มทั้งสองคนจับคู่กันระเบิดฟอร์มเก่งอย่างต่อเนื่อง ผ่านเข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศได้ถึง 6 จาก 7 รายการที่ลงแข่ง โดยหนึ่งในนั้นผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศได้อีกด้วย ทำให้คะแนนโอลิมปิกของพวกเขาพุ่งขึ้นมาอยู่อันดับที่ 22 ได้สิทธิ์เข้าร่วมโอลิมปิกเกมส์เป็นครั้งแรกในชีวิต
ขณะเดียวกันยังถือเป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปี ที่แบดมินตันไทยมีนักตบลูกขนไก่ประเภทชายคู่ผ่านเข้าร่วมโอลิมปิกเกมส์รอบสุดท้าย
จงกลพรรณ กิติธรากุล – รวินดา ประจงใจ : แบดมินตัน ประเภทหญิงคู่
โอลิมปิก 2 สมัย : 2020 และ2024
เป็นคู่ดูโอที่รักษามาตรฐานการเล่นได้อย่างดีเยี่ยมตลอดหลายปีที่ผ่านมา ในช่วงของการเก็บคะแนนโอลิมปิก แรงกิ้ง พวกเธอผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศได้ 2 รายการ เป็นรายการระดับเวิลด์ ทัวร์ 500 และ 750 อย่างละหนึ่งรายการ ส่งผลให้มีคะแนนสะสมติดเข้ามาเป็นอันดับ 10 ในประเภทหญิงคู่ และยังเป็นโอลิมปิกเกมส์สมัยที่ 2 ของทั้งคู่อีกด้วย
แบดมินตัน ประเภทคู่ผสม
เดชาพล พัววรานุเคราะห์
โอลิมปิก 2 สมัย 2020 และ2024
ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย
โอลิมปิก 3 สมัย : 2016, 2020 และ2024
ยังคงรักษามาตรฐานการเล่นในระดับสูงเอาไว้ได้อย่างต่อเนื่อง สำหรับคู่ของ “บาส-ปอป้อ” พวกเขาผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศได้ถึง 5 รายการระหว่างเก็บคะแนนโอลิมปิก คว้าแชมป์ไปได้ 3 รายการ โดย 2 รายการนั้นเกิดขึ้นในปี 2024 ซึ่งถือเป็นการเค้นฟอร์มเก่งได้แบบถูกเวลา ก่อนที่โอลิมเกมส์จะเปิดฉากขึ้นในอีกไม่เดือนข้างหน้า ซึ่งน่าสนใจทีเดียวว่าปารีส 2024 พวกเขาจะก้าวไปหยิบเหรียญรางวัลได้เป็นครั้งแรกหรือไม่
สุรจนา คำเบ้า : ยกน้ำหนัก รุ่น 49 กก. หญิง
โอลิมปิก 1 สมัย : 2024
สร้างชื่อในระดับเยาวชนมานาน ในที่สุดก็ถึงเวลาของเธอบนเวทีโอลิมปิกเกมส์ โดยผลงานของจอมพลังสาววัย 25 ปีจากเชียงราย แจ้งเกิดในรุ่นประชาชนจากการคว้า 3 เหรียญทองในรุ่น 49 กก. ในศึกชิงแชมป์โลกเมื่อปี 2021 หลังจากนั้นก็ได้เป็นหนึ่งในตัวแทนเก็บคะแนนสะสมโอลิมปิกในรุ่นนี้ จนสามารถคว้าโควตาโอลิมปิกให้กับประเทศไทยได้สำเร็จ
ท้ายที่สุดแล้วเมื่อนับจากผลงานอันโดดเด่นในช่วงที่ผ่านมา ทำให้เธอถูกเลือกให้เป็นตัวแทนของประเทศไทยในรุ่น 49 กก. หญิง ไปแข่งในปารีส 2024 จุดที่น่าสนใจคือในรุ่นนี้เป็นรุ่นเล็กสุดของยกน้ำหนักหญิงในโอลิมปิก ซึ่งเป็นรุ่นที่จอมพลังสาวไทยประสบความสำเร็จมาตลอด ดังนั้นจึงน่าติดตามไม่น้อยว่าเธอจะสานต่อความสำเร็จนี้ได้หรือไม่
ดวงอักษร ใจดี : ยกน้ำหนัก รุ่นมากกว่า 81 กก. หญิง
โอลิมปิก 1 สมัย : 2024
เป็นตัวแทนในรุ่นใหญ่สุดของจอมพลังสาวไทยในเวทีนานาชาติมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา เช่นเดียวกับโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่เธอเป็นตัวหลักในการเก็บคะแนนและคว้าตั๋วโอลิมปิกในรุ่นนี้ให้กับประเทศไทยมาได้ตั้งแต่ยังไม่พ้นปี 2023
ผลงานที่ผ่านมาจอมพลังสาววัย 27 ปี จากนครสวรรค์ สถิติน้ำรวมจบอันดับ 2 ในศึกชิงแชมป์โลก 2021 และอันดับ 3 ในปี 2023 ของรุ่นมากกว่า 87 กก. รวมถึงเหรียญทองแดงเอเชียนเกมส์ในรุ่นเดียวกัน ส่วนในโอลิมปิกเกมส์นั้นต้องรวบรุ่นน้ำหนักมาแข่งขันในรุ่นมากกว่า 81 กก. ทำให้เธอจะต้องเจอคู่แข่งที่หลากหลายขึ้น ติดตามเชียร์ไม่น้อยว่าจะทำผลงานได้ดีขนาดไหน
ธีรพงศ์ ศิลาชัย : ยกน้ำหนัก รุ่น 61 กก. ชาย
โอลิมปิก 1 สมัย : 2024
เจ้าของแชมป์โลกปี 2022 ในรุ่น 55 กก. ชาย คว้าสิทธิ์เป็นตัวแทนประเทศไทยไปแข่งโอลิมปิกเกมส์ 2024 ในรุ่น 61 กก. ชาย ต้องทำน้ำหนักเพิ่มขึ้นถึง 6 กก. ถือเป็นงานที่ท้าทายไม่น้อยสำหรับจอมพลังวัย 20 ปี
อย่างไรก็ตามเจ้าตัวได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ามีความแข็งแกร่งพอที่จะลงแข่งในรุ่นนี้ หลังคว้าเหรียญทองแดงได้ในศึกชิงแชมป์เอเชีย 2023 ที่ประเทศเกาหลีใต้ ส่วนในปารีส 2024 ที่ประเทศฝรั่งเศส นับเป็นโอกาสครั้งสำคัญของดาวรุ่งจากศรีสะเกษ ที่จะเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในเวทีระดับโลกเพื่อต่อยอดไปสู่ความสำเร็จในอนาคต
วีรพล วิชุมา : ยกน้ำหนัก รุ่น 73 กก. ชาย
โอลิมปิก 1 สมัย : 2024
ได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนจอมพลังไทยในรุ่น 73 กก. ชาย จากผลงานอันยอดเยี่ยมในช่วงเก็บคะแนนโอลิมปิก 2-3 ปีที่ผ่านมา ทั้งการได้ 1 เหรียญทองในศึกชิงแชมป์เอเชีย 2023 ต่อด้วย 2 เหรียญทองศึกชิงแชมป์โลกในปีเดียวกัน
ปารีส 2024 เป็นโอลิมปิกหนแรกในชีวิตของจอมหลังหนุ่มวัย 20 ปี จากสุรินทร์ ด้วยดีกรีเป็นถึงแชมป์โลก รวมถึงสถิติก็ใกล้เคียงกับจอมพลังตัวเต็งรายอื่น ๆ ทำให้โอลิมปิกหนนี้ เราอาจได้เห็นจอมพลังชายคว้าเหรียญรางวัลในโอลิมปิกเกมส์อีกครั้ง
กิรเดช อภิบาลรัตน์ : กอล์ฟบุคคล ชาย
โอลิมปิก 2 สมัย : 2016, 2024
คว้าสิทธิ์เข้าร่วมโอลิมปิกเกมส์ได้เป็นครั้งที่ 2 ต่อจากริโอเกมส์ 2016 ที่ประเทศบราซิล หนนี้โปรอาร์มได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขายังคงเป็นนักกอล์ฟระดับท็อปของโลก หลังเก็บคะแนนในรอบควอลิฟายเข้ามาเป็นลำดับที่ 52 คว้าตั๋วโอลิมปิกเกมส์ในฐานะโปรกอล์ฟชายอันดับ 1 ของไทย และยังเป็นโปรกอล์ฟชายคนแรกที่ได้เข้าร่วมโอลิมปิก 2 สมัย
ส่วนผลงานในโอลิมปิกเกมส์สมัยแรก โปรอาร์มใกล้เคียงกับการคว้าเหรียญรางวัลมาก ๆ จบอันดับ 5 แพ้เหรียญทองแดงไปเพียง 5 อันเดอร์พาร์
พชร คงวัดใหม่ : กอล์ฟบุคคล ชาย
โอลิมปิก 1 สมัย : 2024
โปรหนุ่มวัย 25 ปี เริ่มเทิร์นโปรตั้งแต่ปี 2014 จากนั้นค่อย ๆ ไต่เต้าขึ้นมาจนประสบความสำเร็จคว้าแชมป์เอเชียนทัวร์ได้เป็นครั้งแรกในปี 2021 พร้อมกับเป็นหนึ่งในขุมกำลังของทีมกอล์ฟชายชุดคว้าเหรียญเงินเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 ในปี 2022 จากนั้นมาคว้าสิทธิ์เข้าร่วมโอลิมปิกเกมส์ 2024 ได้เป็นอันดับที่ 57 จากทั้งหมด 60 คน ถือเป็นโปรกอล์ฟชายคนที่ 5 ของไทยที่ได้เข้าร่วมโอลิมปิกนับตั้งแต่ปี 2016
อาฒยา ฐิติกุล : กอล์ฟบุคคล หญิง
โอลิมปิก 1 สมัย : 2024
ใช้เวลาเพียงหนึ่งปีเปลี่ยนสถานะตัวเองจากรุกกี้ก้าวขึ้นมาเป็นโปรกอล์ฟสาวมือ 1 ของไทย คว้าแชมป์ในระดับอาชีพไปแล้ว 14 รายการ รวมถึง 2 รายการระดับแอลพีจีเอ เป็นความสำเร็จที่เกิดขึ้นในวัยเพียง 21 ปีเท่านั้น
นอกจากนั้นโปรจีนยังมีความทรงจำที่ดีเกี่ยวกับโอลิมปิกเกมส์ ย้อนกลับไปในสมัยเยาวชน เธอเคยประสบความสำเร็จคว้าเหรียญทองยูธโอลิมปิกเกมส์มาแล้วในปี 2018 ในประเภททีมผสม แต่ในปารีส 2024 เธอได้สิทธิ์ลงแข่งขันในประเภทบุคคล น่าสนใจว่าผลลัพธ์จะลงเอยด้วยความสำเร็จเหมือนเมื่อ 6 ปีก่อนหรือไม่
ปภังกร ธวัชธนกิจ : กอล์ฟบุคคล หญิง
โอลิมปิก 2 สมัย : 2020, 2024
ระเบิดฟอร์มเก่งได้ตั้งแต่ต้นปี 2024 หลังจากคว้าแชมป์ฮอนด้า แอลพีจีเอ ที่ประเทศไทยไปครองได้เป็นครั้งแรก และยังเป็นการคว้าแชมป์ในแอลพีจีเอได้เป็นรายการที่ 2 ในชีวิต ซึ่งจากผลงานดังกล่าวทำให้ โปรเหมียว หรือ โปรแพตตี้ แทบจะการันตีโควตาโอลิมปิกเกมส์ 2024 ได้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และจากการได้สิทธิ์เข้าร่วมปารีส 2024 ในครั้งนี้ทำให้เธอกลายเป็นโปรกอล์ฟสาวไทยคนที่ 2 ที่ได้สิทธิ์ลงแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2 สมัย ต่อจาก “โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล (2016-2020)
วารีรยา สุขเกษม : สเก็ตบอร์ด ประเภทสตรีทหญิง
โอลิมปิก 1 สมัย : 2024
“เอสที” วัยเพียง 12 ปี กลายเป็นนักกีฬาทีมชาติไทยอายุน้อยที่สุดที่คว้าสิทธิ์เข้าร่วมโอลิมปิกเกมส์ 2024 ถือเป็นเกียรติยศที่น่าภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งความสำเร็จในครั้งนี้เกิดจากการทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมตลอดระยะเวลา 2 ปีของการเก็บคะแนนสะสม โดยมีคะแนนอยู่อันดับ 18 จากนักกีฬา 22 คน ที่ผ่านควอลิฟายคว้าสิทธิ์เข้าสู่ปารีสเกมส์ 2024
นอกจากนั้น “เอสที” ยังกลายเป็นนักกีฬาสเก็ตบอร์ดไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ได้เข้าร่วมโอลิมปิกเกมส์อีกด้วย
เจนจิรา ศรีสอาด : ว่ายน้ำ ฟรีสไตล์ 50 ม. หญิง
โอลิมปิก 2 สมัย : 2020, 2024
เจ้าของ 2 เหรียญทองซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ยังคงรักษามาตรฐานของตัวเองเอาไว้ได้อย่างยอดเยี่ยมตลอดระยะเวลา 3-4 ปี ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในความหวังของไทยในระดับนานาชาติ สำหรับโอลิมปิกเกมส์ 2024 เธอคว้าโควตามาได้เป็นสมัยที่ 2 ต่อจากโตเกียว 2020 โดยในครั้งนี้เธอคว้าสิทธิ์ได้จากโควตา Universality Places หรือโควตาไวลด์การ์ด จากการที่มีคะแนนฟีน่าพอยต์ 841 คะแนนมากที่สุดในบรรดานักว่ายน้ำสาวไทย โดยมาจากการแข่งประเภทฟรีสไตล์ 50 ม. หญิง ที่เนเธอร์แลนด์ สถิติ 25.01 วินาที และยังเป็นสถิติประเทศไทยอีกด้วย
ดุลยวัต แก้วศรียงค์ : ว่ายน้ำ ฟรีสไตล์ 100 ม. ชาย
โอลิมปิก 1 สมัย : 2024
ฉลามหนุ่มวัย 20 ปี ทำความฝันได้สำเร็จอย่างรวดเร็วหลังคว้าสิทธิ์เข้าร่วมปารีส 2024 ซึ่งเป็นโอลิมปิกเกมส์หนแรกในชีวิต หลังจากเป็นผู้ที่มีคะแนนฟีน่าพอยต์ 835 คะแนนมากที่สุดในหมู่นักกีฬาว่ายน้ำชายไทย โดยได้สิทธิ์ลงแข่งขันในท่า ฟรีสไตล์ 100 ม. ชาย ที่เจ้าตัวเป็นเจ้าของสถิติประเทศไทย ด้วยสถิติ 49.75 วินาที ทำได้จากซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่ประเทศกัมพูชา ซึ่งเป็นผลงานที่ทำให้เขาคว้าตั๋วบินสู่ปารีส
มาซายูกิ เทราดะ : ยูโด รุ่น 73 กก. ชาย
โอลิมปิก 1 สมัย : 2024
จอมทุ่มลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น เจ้าของเหรียญทองซีเกมส์ 5 สมัยติดต่อกัน ปลดล็อกความสำเร็จครั้งใหญ่ในชีวิต หลังคว้าตั๋วโอลิมปิกเกมส์ 2024 ได้เป็นครั้งแรกของตัวเอง
ผลงานอันโดดเด่นในช่วงของการเก็บคะแนน คือการคว้าแชมป์ 2 รายการ ลูอันดา แอฟริกัน โอเพ่น 2023 สาธารณรัฐแองโกลา และ ยาอุนเด แอฟริกัน โอเพ่น 2023 ที่แคเมอรูน รวมถึงรองแชมป์ ตูนิส แอฟริกัน โอเพ่น 2023 ที่ประเทศตูนิเซีย ส่งผลให้เขามีคะแนนสะสมติด 1 ใน 10 ของนักกีฬาจากทวีปเอเชีย ซึ่งดีพอสำหรับการคว้าสิทธิ์เข้าร่วมปารีส 2024
“บิว” ภูริพล บุญสอน กรีฑา 100 ม.ชาย
โอลิมปิก 1 สมัย : 2024
ยอดลมกรดวัย 18 ปี มาเร่งเครื่องทำผลงานผ่านควอลิฟายโอลิมปิกเกมส์ได้ในรายการสุดท้าย จากการคว้าแชมป์กรีฑา 100 ม. ชายในศึกคาซานอฟเมมโมเรียล 2024 ที่ประเทศคาซัคสถาน ซึ่งทำให้คะแนนสะสมของเขาก็กระโดดจากอันดับ 59 ขึ้นอยู่อันดับที่ 45 จากโควตาทั้งหมด 56 คน คว้าตั๋วปารีส 2024 ไปครองเป็นครั้งแรก และถือเป็นกรีฑาชายไทยคนแรกในรอบ 32 ปีที่จะได้ลงแข่งในอีเว้นท์ วิ่ง 100 เมตร. ชายในโอลิมปิก ต่อจาก วิสุทธิ์ วัฒนสิน โอลิมปิก 1992
สุเบญรัตน์ อินแสง กรีฑา ขว้างจักรหญิง
โอลิมปิก 3 สมัย : 2016, 2020 และ2024
เจ้าของเหรียญทองซีเกมส์ 7 สมัยติดต่อกัน ยังคงทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเสมอมา โดยความสำเร็จจากการคว้าเหรียญทองคาซานอฟเมมโมเรียล 2024 ที่ประเทศคาซัคสถาน ทำให้คะแนนของเธอโอลิมปิกครั้งนี้ขยับจากอันดับที่ 39 ขึ้นติดอันดับที่ 31 จากโควตาทั้งหมด 32 คน คว้าตั๋วโอลิมปิกเกมส์เป็นคนสุดท้ายของนักกีฬาไทยและเป็นสมัยที่ 3 ของตัวเอง
นอกจากนี้แล้วใน 51 นักกีฬา ยังมีนักกีฬาจากแดนอีสานถึง 10 คน อ่านต่อได้ที่ 11 นักกีฬาไทย ตะลุยโอลิมปิก จากแดนอีสาน
ที่มาและเรียบเรียงโดย เว็บไซต์ stadiumth