Infographic

พามาเบิ่ง ศึกอาณาจักรสโมสรฟุตบอลดังในภาคอีสาน

จุดเริ่มต้น “บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด” สโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เดิมชื่อ สโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ พีอีเอ เป็นสโมสรที่เปลี่ยนแปลงมาจากสโมสรฟุตบอลการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2513 โดยดร.วีระ ปิตรชาติ โดยสโมสรกำเนิดขึ้นจากการรวมตัวกันของสุดยอดทีมฟุตบอล 2 ทีม ของจังหวัดบุรีรัมย์ การรวมตัวกันของ บุรีรัมย์ พีอีเอ แชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก 2554 ที่ทำคะแนนสูงสุดเป็นสถิติที่ไม่มีใครลบได้ กับ บุรีรัมย์ เอฟซี แชมป์ดิวิชั่น 1 ปี 2554 ที่เป็นตำนานความยิ่งใหญ่ของชาวบุรีรัมย์ ก่อให้เกิดเป็น บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด สุดยอดทีมฟุตบอลของประเทศไทย ทีมฟุตบอลที่สร้างประวัติศาสตร์ทีมแรก และทีมเดียวของประเทศไทย ที่คว้าแชมป์ 5 รายการ ใน ฤดูกาลเดียวกัน บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ถือเป็นการสืบสานตำนานความยิ่งใหญ่ของสุดยอดทีมฟุตบอลอาชีพในประเทศไทย ที่จะก้าวไปสู่ความสำเร็จ ทั้งในไทยพรีเมียร์ลีก และในระดับทวีปเอเชีย บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในวันนี้ หรือ บุรีรัมย์ พีอีเอ เมื่อวันวาน คือ สุดยอดทีมฟุตบอลอาชีพของประเทศไทย ที่ประสบความสำเร็จสูงสุด นับแต่ประเทศไทยเคยจัดการแข่งขันฟุตบอลลีกอาชีพมา บุรีรัมย์ พีอีเอ เป็นทีมฟุตบอลทีมแรก ของประเทศไทย ที่คว้า 3 แชมป์ “ทริปเปิลแชมป์” ได้ในฤดูกาลเดียวกัน (ฤดูกาล 2011) ซึ่งไม่เคยมีทีมใดทำได้มาก่อน จึงได้รับการบันทึกไว้ให้เป็นทีมฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอาชีพของประเทศไทย บุรีรัมย์ พีอีเอ ยังสร้างสถิติใหม่ในโลกฟุตบอล ด้วยการขยับอันดับตัวเอง จาก อันดับ 604 มาอยู่ที่อันดับ 243 ภายในเวลา 1 ปี เป็นการสร้างสถิติเลื่อนอันดับขึ้นมามากที่สุด โดยใช้เวลาน้อยที่สุด จากการจัดอันดับสโมสรโลก ของสหพันธ์ประวัติศาสตร์ และสถิติฟุตบอลนานาชาติ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2555 ทั้งนี้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยังสร้างอีก 1 ประวัติศาสตร์ให้กับวงการลูกหนังไทย เมื่อก้าวขึ้นไปคว้าแชมป์ได้ 5 รายการภายในปีเดียว เมื่อฤดูกาล 2015 ในขณะที่จุดเริ่มต้น “ขอนแก่น ยูไนเต็ด” สโมสรฟุตบอลขอนแก่น ยูไนเต็ด ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2558 (โดยได้สิทธิ์จากสโมสรฟุตบอลปากช่อง ยูไนเต็ด) โดยขณะนั้นได้เข้าร่วม ลีกภูมิภาค ดิวิชั่น2 โซนตะวันออก และย้ายเข้าร่วม ลีกภูมิภาค ดิวิชัน 2 โซนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ฤดูกาล 2558 ในนามทีมขอนแก่น ยูไนเต็ด และสามารถคว้าแชมป์ดิวิชัน 2 …

พามาเบิ่ง ศึกอาณาจักรสโมสรฟุตบอลดังในภาคอีสาน อ่านเพิ่มเติม »

ชวนเบิ่ง “ก้าวหน้าไก่สด” อาณาจักรผลิตเเละส่งออกเนื้อไก่อย่างครบวงจร

บริษัท ก้าวหน้าไก่สด จำกัด ประกอบกิจการผลิตเเละส่งออกเนื้อไก่อย่างครบวงจร ธุรกิจไก่ของบริษัทฯ ครอบคลุมตั้งเเต่ฟาร์มพ่อเเม่พันธุ์ ฟาร์มไก่เนื้อ โรงเชือด ไปจนถึงโรงผลิตไก่ปรุงสุกเเช่เเข็งสำหรับการส่งออก ไก่ที่เลี้ยงโดยบริษัทมีประมาณ 40% ของจำนวนไก่ทั้งหมดในระบบ นอกเหนือจากนั้น บริษัทมีโครงการไก่ประกันราคา ซึ่งทางบริษัทได้คัดสรรครัวเรือนที่มีเล้าไก่เเละมีประสบการณ์เเละความรู้ในการเลี้ยงไก่กว่า 300 ครัวเรือนมาเข้าร่วมโครงการ โดยรับลูกไก่จากบริษัทไปเลี้ยงให้โตเเละนำมาขายคืนให้กับทางบริษัท เพื่อที่จะควบคุมคุณภาพในการเลี้ยงดูให้คล้อยไปกับมาตรฐานของกรมปศุสัตว์ทั้งอาหารเเละเครื่องมือในการเลี้ยงถูกเเจกจ่าย โดยบริษัทให้เเก่เหล่าครัวเรือนเเละทางบริษัทยังมีสัตวเเพทย์คอยเยี่ยมเยียนเเละตรวจเช็คสุขภาพของไก่ตามครัวเรือนต่างๆ ตลอดระยะเวลาในการเลี้ยง ธุรกิจของ “ก้าวหน้าไก่สด” ประกอบด้วย 2 ตลาดหลัก ๆ อะไรบ้าง?? ตลาดส่งออก (Export Market) ในด้านของการส่งออก บริษัทส่งออกสินค้าให้กับคู่ค้าในประเทศ ญี่ปุ่น อังกฤษ เเละประเทศต่าง ๆ ในสหภาพยุโรปเป็นหลัก โดยส่วนมากสินค้าของบริษัทป็นสินค้าตามสั่งที่มีลักษณะเฉพาะตัว โดดเด่นในตลาด ทำให้สินค้าส่วนใหญ่ถูกวางขายในตลาดพรีเมียม อีกทั้งยังมุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจกับคู่ค้าที่มีความเเข็งเเรงในตลาดเเละมีจริยธรรมในการดำเนินธุรกิจเท่านั้น ตลาดภายในประเทศ (Domestic Market) ในส่วนของตลาดภายในประเทศ บริษัทขายชิ้นส่วนไก่สด ชิ้นส่วนเครื่องในไก่สด เเละชิ้นส่วนอื่น ๆ ของไก่ที่ไม่สามารถรับประทานได้ เช่น ขนไก่ ด้วยเทคนิคพิเศษในการผลิตของบริษัท ที่ทำให้มีความสดใหม่เเละคุณภาพของเครื่องในไก่ของบริษัทที่ยืนอยู่ในอันดับต้น ๆ ของตลาดตลอดมา อ้างอิงจาก: http://kaona.co.th/index.php/about-us https://datawarehouse.dbd.go.th/…/profile/5/0345534000110 #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ก้าวหน้าไก่สด #ผลิตเเละส่งออกเนื้อไก่ #อุบลราชธานี #ธุรกิจระดับร้อยล้าน #ธุรกิจผลิตเเละส่งออกเนื้อไก่

พาซอมเบิ่ง ผลประกอบการ “Funai (Thailand)” อาณาจักรผลิตและจำหน่ายเครื่องรับโทรทัศน์พร้อมเครื่องเล่นและบันทึก

ฟูไนเป็นผู้นำตลาดโทรทัศน์ในอเมริกาและยุโรป ได้เริ่มจัดจำหน่ายในประเทศไทยด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำยุค ฟูไนนำผลิตภัณฑ์หลากหลายเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย จากเครื่องรับโทรทัศน์และระบบโฮมเธียเตอร์ จนถึงเครื่องเล่นดีวีดีและบลูเรย์ และอีกหลากหลายอุปกรณ์ต่อพ่วง สินค้าของฟูไนจะนำคุณสู่โลกแห่งความบันเทิง ปฏิวัติการใช้สินค้าอิเลคทรอนิกส์ที่เคยมีมา ฟูไนอิเลคทริกนำเสนอสินค้าสู่ตลาดที่ราคาสมเหตุสมผลและสินค้าดิจิตอลอิเลคทรอนิกส์คุณภาพสูง ในหลายปีที่ผ่านมาแม้จะมีความต้องการเพิ่มขึ้นในตลาดผู้บริโภคสินค้าดิจิตอลอิเลคทรอนิกส์ การแข่งขันที่รุนแรงอย่างต่อเนื่อง เพื่อผลักดันให้ราคาสินค้าลดลง อย่างไรก็ตามฟูไนเชื่อว่าการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงนั้นทำให้ฟูไนได้ ตระหนักอย่างเต็มที่ถึงศักยภาพของฟูไนและพร้อมที่จะก้าวเข้าสู่การแข่งขันอย่างมั่นใจ นับตั้งแต่การก่อตั้งฟูไนในปี 2504 ฟูไนได้กลับไปสู่พื้นฐานในการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ที่สำคัญ ฟูไนเล็งเห็นความสำคัญและมุ่งเน้นความเร็วของทุกกิจกรรมทางธุรกิจ อีกทั้งยังเร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์บนพื้นฐานของการตอบสนองอย่างรวดเร็วและถูกต้องจากความต้องการของตลาดและลูกค้า นอกจากนี้ ยังออกผลิตภัณฑ์ให้ทันเวลา โดยมุ่งเน้นความมีประสิทธิภาพของการบริหารจัดการผ่านระบบการผลิตที่เป็นลิขสิทธ์ ระบบการผลิต ของฟูไน (Funai Production System : FPS) และการใช้ประโยชน์อย่างเต็มประสิทธิภาพของเครื่องจักรในการผลิต เมื่อมองไปข้างหน้า ฟูไนจะมุ่งเน้นในการพัฒนาเครือข่ายของผลิตภัณฑ์และมุ่งมั่นที่จะรังสรรค์การเพิ่มมูลค่าใหม่ๆให้กับผลิตภัณฑ์ เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายขั้นต่อไปของฟูไนในการเป็น “ฟูไนยอดเยี่ยมระดับโลก” (Globally Outstanding Funai) ประเดิมทุนครั้งแรกในปี 2546 ด้วยจำนวน 700 ล้านบาท จากนั้นเพิ่มทุนจดทะเบียนอีกในปี 2548 เพิ่มเป็น 900 ล้านบาท ซึ่งในปัจจุบันได้เพิ่มทุนจดทะเบียนอีกเป็น 1,568 ล้านบาท ปี 2561 รายได้รวม 10,070 ล้านบาท และกำไรรวม -539 ล้านบาท ปี 2562 รายได้รวม 11,489 ล้านบาท และกำไรรวม 114 ล้านบาท ปี 2563 รายได้รวม 9,430 ล้านบาท และกำไรรวม 180 ล้านบาท ปี 2564 รายได้รวม 9,819 ล้านบาท และกำไรรวม 236 ล้านบาท ปี 2565 รายได้รวม 9,975 ล้านบาท และกำไรรวม 341 ล้านบาท หากพิจารณาจากตัวเลขรายได้รวมและกำไรรวม 4 ปีย้อนหลัง จะพบว่า ฟูไน (ไทยแลนด์) มีการเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะกำไรจากปีแรก (2561) ติดลบร้อยล้านบาท แต่ในปัจจุบันกำไรพุ่งไปสูงถึงหลักหลายร้อยล้านบาท อ้างอิงจาก: http://www.funai.co.th/about.html https://datawarehouse.dbd.go.th/…/profile/5/0105546083874 #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ฟูไนไทยแลนด์ #ฟูไน #นครราชสีมา #ธุรกิจระดับพันล้าน #FunaiThailand #Funai

พามาเบิ่ง 5 อันดับ จุดชมวิวหน้าหนาว ภาคอีสาน  ยิ่งสูง! ยิ่งสวย!

พามาเบิ่ง 5 อันดับ จุดชมวิวหน้าหนาว ภาคอีสาน  ยิ่งสูง! ยิ่งสวย! ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งที่ราบสูง ภาคอีสานเลยอุดมไปด้วยภูผาและเทือกเขาน้อยใหญ่ หนาวนี้หากใครกำลังมองหาแหล่งท่องเที่ยวรับลมหนาว ISAN Insight ขอพาทุกท่านไปพบกัน 5 อันดับ จุดชมวิวฤดูหนาวภาคอีสาน   1. ภูกระดึง เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 2 ของประเทศไทย เป็นภูเขาหินทรายยอดตัด เป็นที่ราบขนาดใหญ่ มีเนื้อที่ประมาณ 60 ตารางกิโลเมตร มีความสูง 400-1,200 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ได้รับความนิยมมากแห่งหนึ่งของเมืองไทย จุดสูงสุดอยู่ที่บริเวณคอกเมย มีความสูง 1,316 เมตรจากระดับน้ำทะเล สภาพทั่วไปของภูกระดึงประกอบไปด้วยพรรณไม้นานาพรรณ สัตว์ป่านานาชนิด หน้าผา ทุ่งหญ้า ลำธาร และน้ำตก  อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ต้นน้ำของลำน้ำพอง ซึ่งเป็นลำน้ำสายสำคัญสายหนึ่งของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ด้วยความสูง บรรยากาศ และสภาพอากาศที่เย็นสบายตลอดปีบนยอดภูกระดึง โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวอุณหภูมิอาจลดต่ำจนถึง 0 องศาเซลเซียส จึงเป็นแรงจูงใจให้นักท่องเที่ยวปรารถนาและหวังจะเป็นผู้พิชิตยอดภูกระดึงสักครั้งหนึ่งในชีวิต ที่ตั้ง : อุทยานแห่งชาติภูกระดึง ตำบลศรีฐาน อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย   2. ภูเรือ อุทยานแห่งชาติภูเรือ มีลักษณะภูมิประเทศเป็นทิวเขาสูงสลับซับซ้อนประกอบด้วย เขาหินทรายเป็นส่วนใหญ่ นอกจากนั้นเป็นหินแกรนิตสลับกันไป ลักษณะเช่นนี้จึงทำให้มีที่ราบสูงสลับกับ ยอดเขาสูงทั่วไป มียอดเขาสูงที่สุดคือ ยอดภูเรือ มีความสูงถึง 1,365 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ยังมียอดเขาที่สำคัญ คือ ยอดเขาภูสัน มีความสูง 1,035 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง และยอดภูกุ มีความสูง 1,000 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ลักษณะเช่นนี้เองจึงเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารที่สำคัญก่อให้เกิดลำธารหลายสาย เช่น ห้วยน้ำด่าน ห้วยบง ห้วยเถียงนา ห้วยทรายขาว ห้วยติ้ว และห้วยไผ่ ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของน้ำตกห้วยไผ่ที่สวยงามแห่งหนึ่ง  ที่ตั้ง : อุทยานแห่งชาติภูเรือ ตำบลหนองบัว อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย 3. ภูป่าเปาะ เป็นพื้นที่อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติภูค้อ-ภูกระแต และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูค้อ-ภูกระแตถูกบุกรุกแผ้วถางเพื่อทำการเกษตร จนสภาพป่าบริเวณนั้นอยู่ในขั้นเสื่อมโทรม แต่หลังจากมีการคัดเลือกผู้ใหญ่บ้านเข้ามาก็มีการฟื้นฟูสภาพป่าให้กลับคืนอุดมสมบูรณ์จน กลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เริ่มมีคนรู้จักมากขึ้นโดยเฉพาะภูหอที่มีคล้ายกับภูเขาไฟฟูจิ มีจุดชมวิวของภูป่าเปาะมีทั้งหมด 3 จุด ซึ่งแต่ละจุดจะห่างกันประมาณ 200 เมตร  ลดหลั่นตามความสูง จุดแรกเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุด ไม่มีอะไรบังสายตาสามารถมองเห็นวิวของภูหอได้ใกล้ที่สุดในมุมที่คล้ายกับภูเขาไฟฟูจิมากที่สุด ตรงจุดนี้มีระเบียงยื่นออกไปสำหรับ ให้นักท่องเที่ยวได้มายืนชมวิวขอภูหอได้อย่างใกล้ชิด ส่วนจุดที่สองก็จะเห็นวิวของภูหอในอีกมุมแบบกว้างไกลที่แตกต่างจากจุดแรก จุดนี้มีระเบียงชมวิวเช่นกัน  ส่วนจุดสุดท้ายต้องเดินเท้าขึ้นเขาไปอีกประมาณ 200 เมตร เป็นจุดสูงสุดสามารถมองเห็นวิวได้ 360 องศา จุดสูงสุดสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นและตก ได้ที่จุดเดียวกัน  นอกจากนี้ยังสามารถมองเห็น อุทยานแห่งชาติภูผาม่าน อำเภอภูผาม่านจังหวัดขอนแก่น อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ …

พามาเบิ่ง 5 อันดับ จุดชมวิวหน้าหนาว ภาคอีสาน  ยิ่งสูง! ยิ่งสวย! อ่านเพิ่มเติม »

พาซอมเบิ่ง “อีสเทิร์นไรซ์มิลล์” อาณาจักรโรงสีข้าวรายใหญ่ในภาคอีสาน

บริษัทฯ ประกอบธุรกิจประเภทการผลิต โดยให้บริการด้านการสีข้าว รับซื้อข้าวเปลือก-ข้าวสาร หอมมะลิ ข้าวเปลือกนาปรัง ข้าวเปลือกเหนียว กข.6 กข.10 เป็นต้น โดยมียอดการผลิตข้าวสารทุกโรงสีในเครือของ บริษัท ธนสรรไรซ์ จำกัด จำนวน 8,000 ตันต่อวัน ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายข้าวหอมมะลิตราจัสมิน เป็นข้าวหอมมะลิเกรดพรีเมี่ยม ข้าวสารดีคุณภาพส่งออกอีกหนึ่งแบรนด์ ในเครือธนสรรไรซ์กรุ๊ป ได้รับรางวัลข้าวดีที่สุดในโลก จากการแข่งขันกับนานาประเทศ ภายใต้งาน “World rice Conference 2016” ที่จัดขึ้น ณ จังหวัดเชียงใหม่ ประเดิมทุนครั้งแรกด้วยจำนวน 200 ล้านบาท จากนั้นเพิ่มทุนจดทะเบียนอีกในปี 2557 เพิ่มเป็น 300 ล้านบาท ปี 2556 มีรายได้รวม 833 ล้านบาท และมีสินทรัพย์รวม 844 ล้านบาท ปี 2557 มีรายได้รวม 1,552 ล้านบาท และมีสินทรัพย์รวม 1,860 ล้านบาท ปี 2558 มีรายได้รวม 2,571 ล้านบาท และมีสินทรัพย์รวม 3,478 ล้านบาท ปี 2559 มีรายได้รวม 3,187 ล้านบาท และมีสินทรัพย์รวม 3,154 ล้านบาท ปี 2560 มีรายได้รวม 3,187 ล้านบาท และมีสินทรัพย์รวม 3,219 ล้านบาท ปี 2561 มีรายได้รวม 3,184 ล้านบาท และมีสินทรัพย์รวม 3,355 ล้านบาท ปี 2562 มีรายได้รวม 2,620 ล้านบาท และมีสินทรัพย์รวม 3,770 ล้านบาท ปี 2563 มีรายได้รวม 3,461 ล้านบาท และมีสินทรัพย์รวม 3,226 ล้านบาท ปี 2564 มีรายได้รวม 1,080 ล้านบาท และมีสินทรัพย์รวม 3,079 ล้านบาท หากพิจารณาจากข้อมูลการเพิ่มทุนจดทะเบียน และตัวเลขรายได้รวมที่งบการเงินที่ปรากฏ จะพบว่า มีการเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะรายได้จากปีแรก (2556) หลักร้อยล้าน ปัจจุบันพุ่งไปสูงถึงหลักพันล้าน จุดเริ่มต้นในการทำธุรกิจโรงสีข้าว คุณศุภชัย เป็นนักธุรกิจรุ่นเก๋าในวงการโรงสีของประเทศ เริ่มต้นทำธุรกิจโรงสีข้าวในจังหวัดชัยนาท เมื่อ10 ปีก่อน ก่อนจะขยายฐานโรงสีไปยังจังหวัดต่าง ๆ อาทิ พิจิตร …

พาซอมเบิ่ง “อีสเทิร์นไรซ์มิลล์” อาณาจักรโรงสีข้าวรายใหญ่ในภาคอีสาน อ่านเพิ่มเติม »

ชวนเบิ่ง 8 อันดับบริษัทที่มีรายได้รวมมากที่สุดในภาคอีสาน เปลี่ยนไปส่ำใด๋ ในช่วง 3 ปี

อ้างอิงจาก: https://data.creden.co/ranking #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #บริษัทที่มีรายได้รวมมากที่สุด #อันดับบริษัทที่มีรายได้รวมมากที่สุด

ฮู้บ่ว่า?  ปลายปี 2565 จังหวัดใด๋ในอีสานที่มีรถยนต์และรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่หลายที่สุด  รวมถึงรถใหม่ป้ายแดงยี่ห้อใด๋ที่คนอีสานมัก!

ฮู้บ่ว่า?  ปลายปี 2565 จังหวัดใด๋ในอีสานที่มีรถยนต์และรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่หลายที่สุด  รวมถึงรถใหม่ป้ายแดงยี่ห้อใด๋ที่คนอีสานมัก!   อ้างอิงจาก:  กลุ่มสถิติการขนส่ง กองแผนงาน กรมการขนส่งทางบก #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #รถจดทะเบียน #รถใหม่   

พาส่องเบิ่ง เส้นทาง “ที่นอนดาร์ลิ่ง ขอนแก่น” ผู้ผลิตที่นอนชั้นนำของไทย

สร้างธุรกิจให้ได้รับการยอมรับกับตลาดในประเทศก็ยากระดับหนึ่ง แต่การที่จะทำให้ธุรกิจนั้นมีความยั่งยืนและเป็นที่ยอมรับจากคู่ค้าทั่วโลกนั้นยากกว่า และยากที่สุดคือทำอย่างไรให้ธุรกิจนั้นก้าวผ่านกาลเวลาสู่ปี 60 ปี 70 หรือก้าวสู่ปีที่ 100 ให้ได้ภายใต้การแข่งขันที่นับวันจะทวีความรุนแรง คุณเพ็ญศรี แช่มปรีดา ทายาทรุ่นที่สองของผู้สร้างที่นอนไทย ถ่ายทอดประสบการณ์ 56 ปี ธุรกิจที่นอนไทยที่ได้รับการยอมรับจากลูกค้าและคู่ค้าทั่วโลก เริ่มต้นจาก คุณพ่อของคุณเพ็ญศรี คือ คุณประเสริฐ ประเสริฐวณิช ประธานบริษัท ก็ทำธุรกิจขายที่นอนแล้ว โดยเปิดร้านขายที่นอนร้านแรกที่ถนนเพชรบุรี ซึ่งสมัยนั้นที่นอนที่มีจำหน่ายในร้านทั่วไปจะเป็นที่นอนนุ่นแบบเย็บมือ แต่คุณพ่อของคุณเพ็ญศรีเป็นคนทันสมัย ท่านจึงติดต่อคู่ค้าจากต่างประเทศ นำเข้าที่นอนมาจำหน่าย ที่ร้านและกลายเป็นร้านขายที่นอนที่ทันสมัยที่สุดในเมืองไทย ต่อมาเมื่อธุรกิจขยายตัวจึงมีการสร้างโรงงานแห่งแรกและขยายเป็นโรงงานแห่งที่สองในเวลาต่อมา โดยนำนวัตกรรมที่นอนจากต่างประเทศมาผลิตเอง และเป็นที่มาของที่นอนแบรนด์ “ดาร์ลิ่ง เดอร์ลุกซ์” ในที่สุด การที่ได้เติบโตในครอบครัวที่ทำธุรกิจที่นอน ก็เหมือนเราทำธุรกิจนั้นไปในตัว พอโตขึ้นมาเป้าหมายก็คือการมารับช่วงธุรกิจต่อร่วมกับพี่ ๆ ในฐานะทายาทรุ่นที่สองคนหนึ่ง จึงเน้นเรื่องงานนวัตกรรม การตลาด การขาย การพัฒนาสินค้าใหม่ และการขยายธุรกิจสู่ตลาดโลก ให้ตลาดโลกรู้ว่าคนไทยนั่นมีศักยภาพและสามารถสร้างนวัตกรรมใหม่ให้กับที่นอนและเครื่องนอน รวมถึงการตอบโจทย์ความต้องการของคู่ค้า ซึ่งมักจะมีโจทย์ที่ยากหรือโจทย์แปลก ๆ เกิดขึ้นเสมอ ในที่สุดบริษัท ที่นอนดาร์ลิ่ง จำกัด ซึ่งมีข้อจำกัดเรื่องสถานที่ และการพัฒนานวัตกรรมใหม่ เนื่องจากจะมีคำสั่งซื้อที่นอนและเครื่องนอนแบบต่าง ๆ ที่ผลิตและเป็นที่นิยมอยู่แล้วเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ปี 2539 บริษัท ที่นอนดาร์ลิ่ง ขอนแก่น จำกัด จึงเกิดขึ้นโดยใช้งบประมาณลงทุนสร้างโรงงานประมาณ 200 ล้านบาท พร้อมขบวนการผลิตที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชีย บนพื้นที่ 48 ไร่เศษ ณ จังหวัดขอนแก่น เพื่อตอบโจทย์ตามคำสั่งซื้อของลูกค้าจากทั่วโลก ปัจจุบันโรงงานแห่งนี้ยังเป็นฐานสำคัญของธุรกิจที่นอนในกลุ่ม CLMV ด้วย นิยามและความสำเร็จของ “ที่นอนดาร์ลิ่ง ขอนแก่น” ความสามารถในการผลิตที่นอนและเครื่องนอนตามโจทย์ที่ลูกค้าต้องการตามความเชี่ยวชาญของเรา โดยปราศจากข้อจำกัด ด้วยแนวทางในการดำเนินธุรกิจชัดเจนที่จะก้าวสู่ความเป็นผู้นำนวัตกรรมที่นอนและเครื่องนอนของไทย ซึ่งเน้นการผลิตด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัยเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสนองตอบตามความต้องการการใช้ที่นอนและเครื่องนอนของคนรุ่นใหม่ ทำให้ที่นอนและเครื่องนอนมีความหมายมากกว่าเพื่อการนอนเพียงอย่างเดียว แนวทางที่ชัดเจนนี้ทำให้เป็นบริษัทฯ ผลิตที่นอนไทยรายแรกและรายเดียว ที่ได้รับรางวัลแบรนด์ไทยดีเด่นเพื่อการส่งออกปี 2017 หรือ PM AWARD BEST THAI BRAND อ้างอิงจาก: https://datawarehouse.dbd.go.th/…/profile/5/0105539128345 https://www.thaihotelbusiness.com/peopl…/darling-mattress/ https://www.darling.co.th/about/ #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ที่นอนดาร์ลิ่งขอนแก่น #ผู้ผลิตที่นอนชั้นนำของไทย #ขอนแก่น #ที่นอนดาร์ลิ่ง

ชวนเบิ่ง “ธงมา คอนซูเมอร์ โปรดักส์” อาณาจักรผลิตเครื่องเทศและเครื่องแกงสำเร็จรูป

บริษัท ธงมา คอนซูเมอร์ โปรดักส์ จำกัด เป็นบริษัทจำหน่ายและศูนย์กระจายสินค้าอุปโภค บริโภค ภายในประเทศ เน้นลูกค้ากลุ่ม Traditional Trade (TT) ร้านค้าส่ง,ร้านค้าปลีกและร้านค้าโมเดิร์นเทรดขนาดใหญ่ มีคลังสินค้าที่มีคุณภาพ รองรับการกระจายสินค้าทั้งภาคอีสาน ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ มากกว่า 35 สาขา ครอบคลุมพื้นที่ ทั่วประเทศ อีกทั้งยังเป็นผู้นำในด้านการให้บริการ ผู้นำในด้านการบริการด้านการจัดจำหน่าย และกระจายสินค้าที่มีศักยภาพ และบริการหลังการขาย บริษัทมีการสำรวจข้อมูลการตลาดของสินค้าที่จะมาเป็นคู่ค้ากับทางบริษัทเสมอ อีกทั้งมีพนักงานส่งเสริมการตลาดเพื่อเพิ่มยอดขาย และมีพนักงานบริการหลังการขายเพื่อดูแลสินค้าให้อยู่ในสภาพที่พร้อมขายเสมอและส่งผลให้สินค้าของคู่ค้ากระจายสู่ตลาดอย่างยั่งยืน โดยช่องทาง การจัดจำหน่ายของบริษัทมีทั้งค้าส่งขนาดใหญ่แต่ละจังหวัง ค้าส่งขนาดกลางแต่ละอำเภอ รวมไปถึงร้านขายของชำ มินิมาร์ทและร้านโชว์ห่วยในแต่ละตำบล และหมู่บ้านกว่า 80,000 ร้านค้าทั่วประเทศ ธงมา คอนซูเมอร์ โปรดักส์ รองรับการกระจายสินค้าทั้งภาคอีสาน ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ มากกว่า 35 สาขา ซึ่งครอบคุมพื้นที่ทั่วประเทศ อีกทั้งยังได้รับการยอมรับจากผู้ค้าซึ่งเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ทางบริษัททำการจัดจำหน่ายและกระจายสินค้าในด้านความสามารถนำสินค้าสู่ตลาดได้อย่างตรงกลุ่มเป้าหมายและครอบคลุมตลาดทุกกลุ่ม บริษัทยังใส่ใจคู่ค้าเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกันที่พร้อมก้าวไปด้วยกันอย่างมั่งคง โดย ธงมา คอนซูเมอร์ โปรดักส์ เป็นผู้นำในด้านการบริการด้านการจัดจำหน่ายและกระจายสินค้า และบริการหลังการขายซึ่งมีการเจริญเติบโตรวดเร็ว มีการนำเทคโนโนยีต่าง ๆ มาใช้ในการจัดการการบริหารงานของทั้งบริษัท (SAP) ใช้ระบบการขายโดย Van sales (หน่วยรถเงินสด) ทั้งรถยนต์มากกว่า 100 คัน และรถจักรยานยนต์มากกว่า 100 คัน ใช้ระบบติดตามประเมินการขายโดย GPS ในรถยนต์ทุกคันมีโปรแกรมตรวจสอบยอดขายของสินค้าของคู่ค้าโดยใช้ B2B (Business to Business) และตรวจสอบความปลอดภัยของสินค้าแต่ละสาขาด้วยกล้อง CCTV อ้างอิงจาก: https://thongma-con.com/ https://datawarehouse.dbd.go.th/…/profile/5/0345557000426 #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ธงมาคอนซูเมอร์โปรดักส์ #จำหน่ายและศูนย์กระจายสินค้าอุปโภคบริโภค #อุบลราชธานี #ผลิตเครื่องเทศและเครื่องแกงสำเร็จรูป

ย้อนเบิ่ง สัดส่วนคนจน (ด้านรายจ่าย) ในภาคอีสานปี 64 

ย้อนเบิ่ง สัดส่วนคนจน (ด้านรายจ่าย) ในภาคอีสานปี 64    ก่อนอื่นต้องรู้ว่า ‘ความยากจน’ หรือ Poverty สามารถแบ่งได้ 2 ประเภท คือ ความยากจนด้านตัวเงิน (Monetary Poverty) และที่ไม่ใช่ตัวเงิน (Non-monetary poverty)  เครื่องมือวัดความยากจนด้านตัวเงิน คือ เส้นความยากจน (Poverty line) ดังนั้น ผู้ที่มีรายได้หรือค่าใช้จ่ายเพื่อการบริโภคต่ำกว่าเส้นความยากจนจะถูกจัดให้เป็นคนจน จังหวัดที่มีสัดส่วนคนจนสูงสุดในอีสาน ได้แก่ กาฬสินธุ์ 25.2% นครราชสีมา  21.01% หนองบัวลำภู 18.12%  จังหวัดที่มีสัดส่วนคนจนต่ำสุดในอีสาน ได้แก่ มหาสารคาม   2.24%  เลย   0.97%  ขอนแก่น   0.58%   อ้างอิงจาก: ข้อมูลจากการสำรวจภาวะเศรษฐกิจและสังคมของครัวเรือน สำนักงานสถิติแห่งชาติ #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ความยากจน #MonetaryPoverty  

Scroll to Top