ชื่อโรงงาน | ประกอบธุรกิจ | จังหวัด | เงินลงทุน |
โครงการโรงไฟฟ้าแสงไทยพลังงาน | การผลิตและการส่งไฟฟ้า | อุดรธานี | 2,884 ล้านบาท |
บริษัท ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) | การฆ่าสัตว์ (ยกเว้น สัตว์ปีก) | ศรีสะเกษ | 2,560 ล้านบาท |
บริษัท อาร์ อี เอ็น โคราช เอนเนอร์ยี่ จำกัด | การผลิตและการส่งไฟฟ้า | นครราชสีมา | 2,000 ล้านบาท |
บริษัท ไทยพัฒน์ โซล่าร์ จำกัด | การผลิตและการส่งไฟฟ้า | สุรินทร์ | 1,722 ล้านบาท |
โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานรุ่งเรือง 2 | การผลิตและการส่งไฟฟ้า | อุดรธานี | 1,467 ล้านบาท |
บริษัท มหาสารคามพาวเวอร์ จำกัด | การผลิตและการส่งไฟฟ้า | มหาสารคาม | 1,297 ล้านบาท |
โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานรุ่งเรือง 1 | การผลิตและการส่งไฟฟ้า | อุดรธานี | 1,242 ล้านบาท |
สหกรณ์การเกษตรบัวใหญ่ จำกัด | การสีข้าว | นครราชสีมา | 956 ล้านบาท |
บริษัท เอเซียโมดิไฟด์สตาร์ช จำกัด | การผลิตและการส่งไฟฟ้า | กาฬสินธุ์ | 600 ล้านบาท |
บริษัท ราชสีมา กรีน สตาร์ช จำกัด | การผลิตแป้งมันสำปะหลัง | กาฬสินธุ์ | 450 ล้านบาท |
บริษัท สยาม เอส.เอ. แพ็คเกจจิ้ง จำกัด | การผลิตผลิตภัณฑ์พลาสติกสำเร็จรูป | สุรินทร์ | 408 ล้านบาท |
บริษัท อัลเตอร์วิม จำกัด | การผลิตและการส่งไฟฟ้า | นครราชสีมา | 353 ล้านบาท |
ห้างหุ้นส่วนจำกัด วชิรกำพล ก่อสร้าง | ผลิตแอสฟัลท์ติกคอนกรีต | ขอนแก่น | 251 ล้านบาท |
บริษัท รวมทวีมอเตอร์เซลล์ จำกัด | ซ่อมรถยนต์ เคาะพ่นสีรถยนต์ | ขอนแก่น | 222 ล้านบาท |
บริษัท พนาพาวเวอร์ จำกัด | การผลิตก๊าซที่ใช้ในงานอุตสาหกรรม | ยโสธร | 190 ล้านบาท |
บริษัท คอนเน็ค คาร์บอดี้ จำกัด | ซ่อมตัวถังและสี | ขอนแก่น | 180 ล้านบาท |
บริษัท พัฒนาสิ่งเเวดล้อมและพลังงานไทย จำกัด | การจัดการน้ำเสีย | ชัยภูมิ | 175 ล้านบาท |
บริษัท คลีนเทค โซลาร์ 2 (ประเทศไทย) จำกัด | การผลิตและการส่งไฟฟ้า | นครราชสีมา | 150 ล้านบาท |
บริษัท ฮั้วเซิ่งไทยรับเบอร์ จำกัด | การผลิตยางแผ่นและยางแท่ง | หนองคาย | 150 ล้านบาท |
บริษัท ยูเนี่ยนวู้ดชิพ จำกัด | การผลิตผลิตภัณฑ์จากไม้และไม้ก๊อก | กาฬสินธุ์ | 147 ล้านบาท |
หมายเหตุ: เป็นข้อมูลรายชื่อโรงงานที่ได้รับอนุญาตประกอบกิจการในปี 2567
พลิกโฉมเศรษฐกิจอีสาน จากข้อมูลใบอนุญาตประกอบโรงงานอุตสาหกรรม ปี 2567 เผยสัญญาณการเติบโตที่น่าจับตามอง
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีโรงงานที่ได้รับอนุญาตประกอบกิจการในปี 2567 อยู่ทั้งสิ้น 278 แห่ง หรือคิดเป็นสัดส่วน 12.6% ของจำนวนโรงงานที่ได้รับอนุญาตประกอบกิจการในปี 2567 ทั้งหมดในประเทศ และมีมูลค่าเงินลงทุนรวมกว่า 23,096 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนเพียง 8.0% ของมูลค่าเงินลงทุนของโรงงานที่ได้รับอนุญาตประกอบกิจการในปี 2567 ทั้งหมดในประเทศ
.
5 โรงงานที่มีมูลค่าเงินลงทุนมากที่สุด
– อุดรธานี มีมูลค่าเงินลงทุนกว่า 5,986 ล้านบาท
– นครราชสีมา มีมูลค่าเงินลงทุนกว่า 4,465 ล้านบาท
– ศรีสะเกษ มีมูลค่าเงินลงทุนกว่า 2,753 ล้านบาท
– สุรินทร์ มีมูลค่าเงินลงทุนกว่า 2,700 ล้านบาท
– กาฬสินธุ์ มีมูลค่าเงินลงทุนกว่า 1,461 ล้านบาท
.
จะเห็นได้ว่า อุดรธานี เป็นจังหวัดที่มีมูลค่าเงินลงทุนสูงสุดกว่า 5,986 ล้านบาท ตามมาด้วย นครราชสีมา ศรีสะเกษ สุรินทร์ และกาฬสินธุ์ ซึ่งแต่ละจังหวัดก็มีมูลค่าการลงทุนที่โดดเด่น สิ่งนี้บ่งชี้ถึงการกระจายตัวของการลงทุนที่ไม่ได้กระจุกตัวอยู่เพียงจังหวัดใดจังหวัดหนึ่งหรือจังหวัดเมืองหลักเท่านั้น แต่เป็นการเติบโตแบบมี “คลัสเตอร์” ในหลายพื้นที่ ซึ่งอาจสะท้อนถึงศักยภาพและความพร้อมของแต่ละจังหวัดในการดึงดูดอุตสาหกรรมที่แตกต่างกัน
.
จะเห็นได้ว่า อุตสาหกรรมเกี่ยวกับพลังงานสะอาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจังหวัดอุดรธานี นครราชสีมา และสุรินทร์ กลายเป็นเป้าหมายสำคัญของการลงทุนใน “โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และ บริษัทผลิตและส่งไฟฟ้า” ด้วยเม็ดเงินหมุนเวียนรวมกันนับพันล้านบาท ซึ่งการลงทุนนั้นไม่ได้เป็นเพียงแค่การตอบสนองต่อกระแสความยั่งยืนระดับโลกและการลดการพึ่งพาพลังงานฟอสซิลเท่านั้น แต่ยังเป็นการตอกย้ำถึงศักยภาพของภูมิภาคอีสานที่อุดมด้วยแสงอาทิตย์ ควบคู่ไปกับนโยบายส่งเสริมของภาครัฐที่มุ่งเน้นการกระจายการลงทุนสู่ท้องถิ่น ซึ่งอาจนำไปสู่การพลิกโฉมหน้าเศรษฐกิจของภูมิภาคนี้ในอนาคต
.
นอกเหนือจากพลังงานสะอาดแล้ว ยังมี ความหลากหลายของการลงทุนในหลากหลายอุตสาหกรรม ที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนใน การผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และแผงวงจรไฟฟ้า ในจังหวัดนครราชสีมาและสุรินทร์ ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีของการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของประเทศ
.
การลงทุนใน การผลิตแป้งมันสำปะหลัง ในกาฬสินธุ์ยังคงเป็นรากฐานสำคัญของเศรษฐกิจ
.
ในขณะที่การลงทุนใน การผลิตผลิตภัณฑ์พลาสติกสำหรับบรรจุภัณฑ์ ในสุรินทร์ อาจบ่งชี้ถึงการเติบโตของภาคการบริโภคและการค้าปลีกภายในประเทศ
.
.
เมื่อพิจารณาถึง ขนาดของเงินลงทุน ที่มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน ตั้งแต่หลักร้อยล้านไปจนถึงหลักพันล้านบาท ซึ่งเป็นการลงทุนขนาดใหญ่มักเกี่ยวข้องกับโครงการโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน ในขณะที่การลงทุนขนาดกลางและเล็กอาจมุ่งเน้นไปที่การผลิตเฉพาะทางหรือการขยายกำลังการผลิตในอุตสาหกรรมที่มีอยู่แล้ว
.
.
แนวโน้มที่น่าจับตามอง
- การเติบโตที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม การลงทุนในพลังงานสะอาดเป็นสัญญาณที่ชัดเจนของการเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจที่ยั่งยืนมากขึ้น ซึ่งไม่เพียงแต่จะส่งผลดีต่อภาพลักษณ์ของประเทศในเวทีโลกเท่านั้น แต่ยังเป็นการดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติที่ให้ความสำคัญกับประเด็นด้าน ESG อีกด้วย
.
- การกระจายความเจริญสู่ภูมิภาค การลงทุนจำนวนมากในภาคอีสานถือเป็นโอกาสสำคัญในการลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสร้างโอกาสการจ้างงานในพื้นที่ ซึ่งจะส่งผลดีต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศ
.
- การเสริมสร้างความแข็งแกร่งของห่วงโซ่อุปทาน การลงทุนในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และบรรจุภัณฑ์จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคการผลิตโดยรวม
.
- การสร้างงานและการเติบโตทางเศรษฐกิจโดยรวม เม็ดเงินลงทุนมหาศาลเหล่านี้จะก่อให้เกิดการจ้างงานใหม่ๆ และกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจในหลากหลายภาคส่วน
.
.
อ้างอิงจาก:
– กรมโรงงานอุตสาหกรรม
ติดตาม ISAN Insight & Outlook ทุกช่องทางได้ที่
https://linktr.ee/isan.insight
#ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ISAN #อีสานอินไซต์ #Business #Economy #ธุรกิจ #เศรษฐกิจ #ธุรกิจอีสาน #เศรษฐกิจอีสาน #โรงงานในอีสาน #โรงงาน