พาเปิดเบิ่ง 20 อันดับโรงงานใหม่ดาวรุ่งในอีสาน มูลค่าลงทุนรวมหลักหมื่นล้าน

ชื่อโรงงาน ประกอบธุรกิจ จังหวัด   เงินลงทุน  
โครงการโรงไฟฟ้าแสงไทยพลังงาน การผลิตและการส่งไฟฟ้า อุดรธานี 2,884 ล้านบาท
บริษัท ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) การฆ่าสัตว์ (ยกเว้น สัตว์ปีก) ศรีสะเกษ 2,560 ล้านบาท
บริษัท อาร์ อี เอ็น โคราช เอนเนอร์ยี่ จำกัด การผลิตและการส่งไฟฟ้า นครราชสีมา 2,000 ล้านบาท
บริษัท ไทยพัฒน์  โซล่าร์ จำกัด การผลิตและการส่งไฟฟ้า สุรินทร์ 1,722 ล้านบาท
โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานรุ่งเรือง 2 การผลิตและการส่งไฟฟ้า อุดรธานี 1,467 ล้านบาท
บริษัท มหาสารคามพาวเวอร์ จำกัด การผลิตและการส่งไฟฟ้า มหาสารคาม 1,297 ล้านบาท
โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานรุ่งเรือง 1 การผลิตและการส่งไฟฟ้า อุดรธานี 1,242 ล้านบาท
สหกรณ์การเกษตรบัวใหญ่ จำกัด การสีข้าว นครราชสีมา 956 ล้านบาท
บริษัท เอเซียโมดิไฟด์สตาร์ช จำกัด การผลิตและการส่งไฟฟ้า กาฬสินธุ์ 600 ล้านบาท
บริษัท ราชสีมา กรีน สตาร์ช จำกัด การผลิตแป้งมันสำปะหลัง กาฬสินธุ์ 450 ล้านบาท
บริษัท สยาม เอส.เอ. แพ็คเกจจิ้ง จำกัด การผลิตผลิตภัณฑ์พลาสติกสำเร็จรูป สุรินทร์ 408 ล้านบาท
บริษัท อัลเตอร์วิม จำกัด การผลิตและการส่งไฟฟ้า นครราชสีมา 353 ล้านบาท
ห้างหุ้นส่วนจำกัด วชิรกำพล ก่อสร้าง ผลิตแอสฟัลท์ติกคอนกรีต ขอนแก่น 251 ล้านบาท
บริษัท รวมทวีมอเตอร์เซลล์ จำกัด ซ่อมรถยนต์ เคาะพ่นสีรถยนต์ ขอนแก่น 222 ล้านบาท
บริษัท พนาพาวเวอร์ จำกัด การผลิตก๊าซที่ใช้ในงานอุตสาหกรรม ยโสธร 190 ล้านบาท
บริษัท คอนเน็ค คาร์บอดี้ จำกัด ซ่อมตัวถังและสี ขอนแก่น 180 ล้านบาท
บริษัท พัฒนาสิ่งเเวดล้อมและพลังงานไทย จำกัด  การจัดการน้ำเสีย ชัยภูมิ 175 ล้านบาท
บริษัท คลีนเทค โซลาร์ 2 (ประเทศไทย) จำกัด การผลิตและการส่งไฟฟ้า นครราชสีมา 150 ล้านบาท
บริษัท ฮั้วเซิ่งไทยรับเบอร์ จำกัด  การผลิตยางแผ่นและยางแท่ง หนองคาย 150 ล้านบาท
บริษัท ยูเนี่ยนวู้ดชิพ จำกัด การผลิตผลิตภัณฑ์จากไม้และไม้ก๊อก กาฬสินธุ์ 147 ล้านบาท

 

หมายเหตุ: เป็นข้อมูลรายชื่อโรงงานที่ได้รับอนุญาตประกอบกิจการในปี 2567

 

พลิกโฉมเศรษฐกิจอีสาน จากข้อมูลใบอนุญาตประกอบโรงงานอุตสาหกรรม ปี 2567 เผยสัญญาณการเติบโตที่น่าจับตามอง

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีโรงงานที่ได้รับอนุญาตประกอบกิจการในปี 2567 อยู่ทั้งสิ้น 278 แห่ง หรือคิดเป็นสัดส่วน 12.6% ของจำนวนโรงงานที่ได้รับอนุญาตประกอบกิจการในปี 2567 ทั้งหมดในประเทศ และมีมูลค่าเงินลงทุนรวมกว่า 23,096 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนเพียง 8.0% ของมูลค่าเงินลงทุนของโรงงานที่ได้รับอนุญาตประกอบกิจการในปี 2567 ทั้งหมดในประเทศ

.

5 โรงงานที่มีมูลค่าเงินลงทุนมากที่สุด

– อุดรธานี มีมูลค่าเงินลงทุนกว่า 5,986 ล้านบาท

– นครราชสีมา มีมูลค่าเงินลงทุนกว่า 4,465 ล้านบาท

– ศรีสะเกษ มีมูลค่าเงินลงทุนกว่า 2,753 ล้านบาท

– สุรินทร์ มีมูลค่าเงินลงทุนกว่า 2,700 ล้านบาท

– กาฬสินธุ์ มีมูลค่าเงินลงทุนกว่า 1,461 ล้านบาท

.

จะเห็นได้ว่า อุดรธานี เป็นจังหวัดที่มีมูลค่าเงินลงทุนสูงสุดกว่า 5,986 ล้านบาท ตามมาด้วย นครราชสีมา ศรีสะเกษ สุรินทร์ และกาฬสินธุ์ ซึ่งแต่ละจังหวัดก็มีมูลค่าการลงทุนที่โดดเด่น สิ่งนี้บ่งชี้ถึงการกระจายตัวของการลงทุนที่ไม่ได้กระจุกตัวอยู่เพียงจังหวัดใดจังหวัดหนึ่งหรือจังหวัดเมืองหลักเท่านั้น แต่เป็นการเติบโตแบบมี “คลัสเตอร์” ในหลายพื้นที่ ซึ่งอาจสะท้อนถึงศักยภาพและความพร้อมของแต่ละจังหวัดในการดึงดูดอุตสาหกรรมที่แตกต่างกัน

.

จะเห็นได้ว่า อุตสาหกรรมเกี่ยวกับพลังงานสะอาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจังหวัดอุดรธานี นครราชสีมา และสุรินทร์ กลายเป็นเป้าหมายสำคัญของการลงทุนใน “โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และ บริษัทผลิตและส่งไฟฟ้า” ด้วยเม็ดเงินหมุนเวียนรวมกันนับพันล้านบาท ซึ่งการลงทุนนั้นไม่ได้เป็นเพียงแค่การตอบสนองต่อกระแสความยั่งยืนระดับโลกและการลดการพึ่งพาพลังงานฟอสซิลเท่านั้น แต่ยังเป็นการตอกย้ำถึงศักยภาพของภูมิภาคอีสานที่อุดมด้วยแสงอาทิตย์ ควบคู่ไปกับนโยบายส่งเสริมของภาครัฐที่มุ่งเน้นการกระจายการลงทุนสู่ท้องถิ่น ซึ่งอาจนำไปสู่การพลิกโฉมหน้าเศรษฐกิจของภูมิภาคนี้ในอนาคต

.

นอกเหนือจากพลังงานสะอาดแล้ว ยังมี ความหลากหลายของการลงทุนในหลากหลายอุตสาหกรรม ที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนใน การผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และแผงวงจรไฟฟ้า ในจังหวัดนครราชสีมาและสุรินทร์ ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีของการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของประเทศ

.

การลงทุนใน การผลิตแป้งมันสำปะหลัง ในกาฬสินธุ์ยังคงเป็นรากฐานสำคัญของเศรษฐกิจ

.

ในขณะที่การลงทุนใน การผลิตผลิตภัณฑ์พลาสติกสำหรับบรรจุภัณฑ์ ในสุรินทร์ อาจบ่งชี้ถึงการเติบโตของภาคการบริโภคและการค้าปลีกภายในประเทศ

.

.

เมื่อพิจารณาถึง ขนาดของเงินลงทุน ที่มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน ตั้งแต่หลักร้อยล้านไปจนถึงหลักพันล้านบาท ซึ่งเป็นการลงทุนขนาดใหญ่มักเกี่ยวข้องกับโครงการโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน ในขณะที่การลงทุนขนาดกลางและเล็กอาจมุ่งเน้นไปที่การผลิตเฉพาะทางหรือการขยายกำลังการผลิตในอุตสาหกรรมที่มีอยู่แล้ว 

.

.

แนวโน้มที่น่าจับตามอง

  1. การเติบโตที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม การลงทุนในพลังงานสะอาดเป็นสัญญาณที่ชัดเจนของการเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจที่ยั่งยืนมากขึ้น ซึ่งไม่เพียงแต่จะส่งผลดีต่อภาพลักษณ์ของประเทศในเวทีโลกเท่านั้น แต่ยังเป็นการดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติที่ให้ความสำคัญกับประเด็นด้าน ESG อีกด้วย 

.

  1. การกระจายความเจริญสู่ภูมิภาค การลงทุนจำนวนมากในภาคอีสานถือเป็นโอกาสสำคัญในการลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสร้างโอกาสการจ้างงานในพื้นที่ ซึ่งจะส่งผลดีต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศ

.

  1. การเสริมสร้างความแข็งแกร่งของห่วงโซ่อุปทาน การลงทุนในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และบรรจุภัณฑ์จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคการผลิตโดยรวม

.

  1. การสร้างงานและการเติบโตทางเศรษฐกิจโดยรวม เม็ดเงินลงทุนมหาศาลเหล่านี้จะก่อให้เกิดการจ้างงานใหม่ๆ และกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจในหลากหลายภาคส่วน

.

.

อ้างอิงจาก:

– กรมโรงงานอุตสาหกรรม

 

ติดตาม ISAN Insight & Outlook ทุกช่องทางได้ที่

https://linktr.ee/isan.insight

 

#ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ISAN #อีสานอินไซต์ #Business #Economy #ธุรกิจ #เศรษฐกิจ #ธุรกิจอีสาน #เศรษฐกิจอีสาน #โรงงานในอีสาน #โรงงาน

 

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Scroll to Top