ชวนเบิ่ง “สิริมงคลพร๊อพเพอร์ตี้” อาณาจักรอสังหาริมทรัพย์ จุดเริ่มต้นจากภูธรสู่เมืองกรุง

“ห้างหุ้นส่วนจำกัด สิริมงคล พร็อพเพอร์ตี้” นอกจากจะเป็นเจ้าตลาดอสังหาฯในศรีสะเกษแล้ว ยังเป็นนักพัฒนาอสังหาฯ น้อยรายในพื้นที่ ที่ลุยพัฒนาบ้านเดี่ยวอย่างต่อเนื่อง

สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ กรรมการ ผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สิริมงคล พร็อพเพอร์ตี้ เล่าว่า จุดเริ่มต้นลุยธุรกิจ อสังหาฯ เพราะพ่อให้มาช่วยขายโครงการ “สิริมงคล1” ซึ่งตอนนั้นมีเพียง 60 ยูนิต มูลค่าโครงการ 80-90 ล้านบาท พอขายได้ พ่อจึงมอบที่ดินอีก 1 แปลงเนื้อที่ 30 ไร่ ไปปลุกปั้นโครงการถัดไปจนกระทั่งปัจจุบันมีบ้านเดี่ยว 7 โครงการ ในจังหวัดศรีสะเกษและอุบลราชธานี จำนวนราว 700 ยูนิต มูลค่าโครงการราว 1,300-1,400 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังมีที่ดินสะสมอีก 1,000 ไร่ รอการพัฒนาใน 3 จังหวัด ทั้งศรีสะเกษ อุบลราชธานี และอำนาจเจริญ ซึ่งแนวทางการพัฒนาโครงการจะค่อยเป็นค่อยไป เพราะยอมรับว่า บางตลาดแม้มีศักยภาพแต่ขนาดตลาดยังเล็ก ขณะที่ปลายปีนี้จะมีการพัฒนาบ้านเดี่ยวโครงการสิริมงคล 8 ที่ จังหวัดอุบลราชธานี และโครงการสิริมงคล 9 ที่ จังหวัดศรีสะเกษ บนเนื้อที่ราว 20 ไร่ รวมมูลค่าโครงการราว 1,000 ล้านบาท เพื่อสร้างยอดขายและรับรู้รายได้ต่อเนื่อง

โดยบริษัทเน้นพัฒนาบ้านเดี่ยวหรู เจาะกลุ่มเป้าหมายที่มีกำลังซื้อสูง อย่างในศรีสะเกษฐานลูกค้าหลักเป็นข้าราชการ 60-70% ส่วนการขยับมาทำตลาดในอุบลราชธานี ต้องการชิมลางทำเลใหม่ๆ ซึ่งความยากในการบุกพื้นที่ใหม่มีความยากในการทำตลาดเจาะลูกค้า เพราะวัฒนธรรมของแต่ละพื้นที่ต่างกัน อีกทั้งอุบลฯ เป็นจังหวัดที่กำลังซื้อสูง การแข่งขันสูงจากทุนท้องถิ่นเจ้าตลาด แต่จุดแข็งบริษัทในการพัฒนาบ้านเดี่ยวให้ความสำคัญกับทำเล และสร้างแบรนด์ควบคู่กัน

ซึ่งบริษัทยังมีแผนผุดบ้านเดี่ยว 1 โครงการ ในระยะ 2 ปี แนวทางการลงทุนจะเน้น จังหวัดที่ไม่ใหญ่มากนัก และมีเมืองบริวารหรือกำลังซื้อจากผู้บริโภคข้ามอำเภอมาซื้อที่อยู่อาศัย โดยเป้าหมายใน 3-5 ปี ต้องการขยายตลาดเจาะจังหวัดในภาคอีสานตอนใต้ให้ครอบคลุมมากขึ้น เช่น ร้อยเอ็ด ยโสธร มุกดาหาร เป็นต้น และต้องการผลักดันแบรนด์ สิริมงคลติดท็อป 3 ในตลาดท้องถิ่น”

สิริมงคลพร๊อพเพอร์ตี้ เจาะตลาดท้องถิ่นมาราว 15 ปี เป็น “บิ๊กเพลเยอร์” ในศรีสะเกษแล้ว ก้าวต่อไป คือ “ชิมลาง”อสังหาฯ สังเวียนใหญ่ในกรุงเทพฯ ด้วยการผนึกผู้เล่นอสังหาฯรายสำคัญในตลาดหลักทรัพย์ (ยังไม่เปิดเผยชื่อ) ร่วมทุนกันตั้งบริษัทใหม่ ซึ่งบริษัทถือหุ้น 49% และซื้อที่ดินย่านพระราม 9 เนื้อที่ราว 10 ไร่ มูลค่ากว่า 500 ล้านบาท เพื่อพัฒนาบ้านเดี่ยวหรูแบรนด์ใหม่ ระดับราคา 30 ล้านบาท

จากภูธรสู่เมืองกรุง “สิริพงศ์” ยังมองการเติบโตขององค์กรค่อยเป็นค่อยไป คืออสังหาฯทำรายได้ 400-500 ล้านบาทต่อปี และภายใน 3-5 ปี อยากมีรายได้รวมแตะ 1,000 ล้านบาท

ขณะที่แบล็คกราวน์ของ “สิริพงศ์” เป็นนักลงทุนเต็มขั้น ทำธุรกิจหลากหลายมาก ไม่ว่าจะเป็นนำเข้ารถหรู 200-300 คันต่อปี มีธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่น 2 สาขา ทำเงิน 50 ล้านบาทต่อปี ตลาดนัดมีค่าเช่า 20 ล้านบาทต่อปี ธุรกิจคอนกรีต 1,000 ล้านบาทต่อปี เป็นต้น เรียกว่ามี รายได้กว่า 3,600 ล้านบาทต่อปี ดังนั้นการบุกสนามใหญ่อสังหาฯ จึงมีศักยภาพทาง “เงินทุน” พอตัว แต่การเกิดในตลาดอสังหาฯในกรุงต้องติดตาม เพราะสังเวียนที่เต็มไปด้วยผู้เล่นที่ไม่ธรรมดา

“การบุกกรุง บริษัทอาศัยจุดแข็งของพันธมิตรในการสร้างแบรนด์และแจ้งเกิด เพราะการที่เราเป็นทุนท้องถิ่น หากเข้าไปพัฒนาโครงการแบบลุยเดี่ยว ผู้บริโภคอาจตั้งคำถามว่าเราเป็นใคร ดังนั้นพันธมิตรจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าได้”

อย่างไรก็ตาม การพัฒนาอสังหาฯ 3 ปีก่อน บริษัทนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาด หลักทรัพย์ แต่ปัจจุบันมองความสุขกับความ สำเร็จเป็นที่ตั้ง โดยเฉพาะบริษัทสามารถดำเนินงานได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

อ้างอิงจาก:

https://www.reic.or.th/News/RealEstate/374930

https://datawarehouse.dbd.go.th/…/profile/3/0333545000807

Leave a Comment

Your email address will not be published.

Scroll to Top