พลิกโฉมเศรษฐกิจไทย: บทบาทเมืองรองและความยืดหยุ่นที่มากกว่าเมืองหลวง (Resilient infrastructure)

บริบททางเศรษฐกิจและการเติบโตของประเทศไทย

  • ประเทศไทยมีความก้าวหน้าในการพัฒนาทางสังคมและเศรษฐกิจอย่างน่าทึ่งในช่วงสี่ทศวรรษที่ผ่านมา เปลี่ยนจากประเทศรายได้ต่ำเป็นประเทศรายได้ปานกลางระดับสูง
  • อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายสำคัญในการกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจอีกครั้ง โดยมีอัตราการเติบโตของ GDP ต่อหัวที่ช้ากว่าประเทศคู่แข่งในภูมิภาคอย่างเวียดนาม ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย ความท้าทายเหล่านี้มาพร้อมกับปัญหาด้านผลิตภาพ (productivity) และแนวโน้มด้านประชากรที่ไม่เอื้ออำนวย (อัตราการเกิดลดลงและประชากรสูงอายุ)
  • การขยายตัวของเมืองในประเทศไทยได้กระจุกตัวอย่างมากในกรุงเทพฯ กรุงเทพฯ เป็นหนึ่งในเมืองหลวงที่มีความโดดเด่นที่สุดในโลก (primate cities) และทำหน้าที่เป็นกลไกขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยมี GDP ของพื้นที่เมืองกรุงเทพฯ สูงกว่าพื้นที่เมืองใหญ่อันดับสองถึง 40 เท่า
  • การกระจุกตัวของเศรษฐกิจและกิจกรรมในกรุงเทพฯ แม้จะสร้างประโยชน์มหาศาลด้านผลิตภาพและรายได้ แต่ก็กำลังถึงจุดที่ให้ผลตอบแทนลดลง (diminishing returns) เนื่องจากปัญหาความแออัดและต้นทุนที่สูงขึ้น นอกจากนี้ยังสร้างความเปราะบางทางเศรษฐกิจอย่างมากต่อประเทศ ดังที่เห็นได้ชัดจากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ในปี 2554 ซึ่งส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมที่สำคัญซึ่งกระจุกตัวอยู่ในกรุงเทพฯ
  • การพัฒนาเศรษฐกิจที่ไม่สมดุลนี้ นำไปสู่ความไม่เท่าเทียมกันและยังส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แหล่งข้อมูลชี้ว่ากรุงเทพฯ อาจมีผลการดำเนินงานทางเศรษฐกิจที่ต่ำกว่าศักยภาพที่แท้จริง (underperforms relative to its endowment level) ในขณะที่จังหวัดรอบนอกซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองรองจำนวนมาก มีผลการดำเนินงานเกินกว่าระดับผลิตภาพที่คาดหวังไว้

 

บทบาทของเมืองรองในการขับเคลื่อนการเติบโตใหม่

  • แหล่งข้อมูลจาก World Bank ชี้ว่า เมืองรองเป็นกุญแจสำคัญในการปลดล็อกศักยภาพการเติบโตใหม่ที่สมดุลและทั่วถึงของประเทศไทย แนวคิด “พอร์ตโฟลิโอของสถานที่” (portfolio of places) ระบุว่า ประเทศต้องการเมืองหลากหลายประเภททำหน้าที่ต่างกัน เพื่อขับเคลื่อนการเติบโต
  • เมืองรองหลายแห่งเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจในระดับภูมิภาคอยู่แล้ว โดยมีอุตสาหกรรมและภาคส่วนที่หลากหลาย แหล่งข้อมูลระบุว่า ในช่วงที่ผ่านมา การเติบโตของ GDP ต่อหัวในเมืองรองของไทยสูงกว่าในกรุงเทพฯ เกือบ 15 เท่า และเมืองรองที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ หรือพื้นที่ชายฝั่งทะเลมักแสดงให้เห็นถึงผลิตภาพที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
  • การพัฒนาเมืองรองจะช่วยกระจายการเติบโต ลดความแออัดในเมืองใหญ่ และสร้างฐานเศรษฐกิจที่กระจายตัวมากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจสำหรับประชาชนและธุรกิจ และมีส่วนช่วยลดความยากจนในพื้นที่ชนบทโดยรอบ
  • การลงทุนที่เหมาะสมในโครงสร้างพื้นฐาน ทุนมนุษย์ และการเสริมสร้างศักยภาพเชิงสถาบัน รวมถึงการปรับกรอบการทำงานระหว่างรัฐบาลกลางและท้องถิ่น จะช่วยให้เมืองรองเหล่านี้สามารถยกระดับผลิตภาพ กระตุ้นการเติบโต และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันโดยรวมของประเทศไทยได้

การเชื่อมโยงการเติบโตกับความยืดหยุ่นของเมือง

  • ประเด็นสำคัญที่แหล่งข้อมูลเน้นย้ำคือ ความจำเป็นในการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่ยืดหยุ่น (resilient infrastructure) เพื่อให้เมืองสามารถรับมือกับความเสี่ยงต่างๆ โดยเฉพาะผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (เช่น น้ำท่วมและภัยแล้ง)
  • การกระจุกตัวทางเศรษฐกิจในกรุงเทพฯ ทำให้ประเทศไทยมีความเสี่ยงสูงต่อผลกระทบจากน้ำท่วมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การคาดการณ์ระบุว่าเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่อาจสร้างความเสียหายเพิ่มขึ้นถึงสองเท่าหากไม่มีมาตรการปรับตัวที่แข็งแกร่ง ปัญหาความร้อนในเมือง (Urban Heat Island effect) ก็เป็นอีกความท้าทายด้านความน่าอยู่อาศัยและผลิตภาพในอนาคต โดยกรุงเทพฯ มีความร้อนสูงกว่าเมืองรองอื่นๆ
    • วิจัยใหม่พบ กรุงเทพฯไม่จมทะเลแค่รอบนอก แต่จะจมเกือบทั้งเมืองใน 31 ปีข้างหน้าภาพ : New York Times
    • สำหรับประเทศไทย พื้นที่เกือบทั้งหมดของกรุงเทพมหานคร หรือคิดเป็นพลเมืองมากกว่า 10 % ที่อาศัยบนพื้นดินใกล้ชายฝั่ง รวมถึงในกรุงเทพมหานครเสี่ยงได้รับผลกระทบจากระดับน้ำทะเลสูง หรือเผชิญกับอุทกภัย ภายในปี พ.ศ. 2593 เทียบกับผลวิจัยก่อนหน้าที่คาดว่าจะกระทบต่อประชาชนเพียง 1 % ของกรุงเทพฯเท่านั้น หรือเลวร้ายจากการประเมินครั้งก่อนถึง 12 เท่า
  • การพัฒนาเมืองรองเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจในระดับชาติ โดยการกระจายความเสี่ยงออกไปจากศูนย์กลางเดียว การมี “พอร์ตโฟลิโอของสถานที่” ที่มีฐานเศรษฐกิจหลากหลาย ช่วยให้เศรษฐกิจโดยรวมมีความยืดหยุ่นมากขึ้นเมื่อภาคส่วนใดภาคส่วนหนึ่งเผชิญกับความปั่นป่วน
  • การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่ยืดหยุ่นในเมืองรอง เช่น ระบบน้ำ การคมนาคม และพลังงาน มีความสำคัญต่อการเติบโตที่ยั่งยืนของเมืองเหล่านั้น และความสามารถในการฟื้นตัวจากภัยพิบัติ
  • แหล่งข้อมูลเน้นย้ำว่า การสร้างความยืดหยุ่นควรเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาเมืองในทุกๆ วัน การวางแผนระยะกลางและระยะยาว การบริหารจัดการเมือง และการบริหารความเสี่ยงจากภัยพิบัติ การใช้แนวทางที่คำนึงถึงความเสี่ยง (risk-based approach) ในการตัดสินใจลงทุนสาธารณะเป็นสิ่งจำเป็น

ยุทธศาสตร์และนโยบายที่เสนอแนะเพื่อปลดล็อกศักยภาพ (เชื่อมโยงกับการเติบโตและความยืดหยุ่น)

จากแหล่งข้อมูล World Bank และการสนทนาที่เกี่ยวข้อง ยุทธศาสตร์และนโยบายที่สำคัญเพื่อปลดล็อกศักยภาพเศรษฐกิจของเมืองรองไทย และสร้างความยืดหยุ่นไปพร้อมกัน ได้แก่:

  1. การเพิ่มความเป็นอิสระทางการคลังและการกระจายอำนาจ: เมืองรองส่วนใหญ่พึ่งพิงรายได้จากการจัดสรรจากส่วนกลางมากเกินไป จำเป็นต้อง เพิ่มอำนาจและอิสระให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในการบริหารจัดการรายได้ของตนเอง เช่น การให้มีอำนาจมากขึ้นในการกำหนดอัตราภาษีทรัพย์สิน หรือการพิจารณานำระบบภาษีเงินได้ท้องถิ่นแบบ “piggyback” มาใช้ รายได้ที่มั่นคงและคาดการณ์ได้เป็นพื้นฐานสำคัญในการกู้ยืมเพื่อลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน
  2. การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นและยืดหยุ่น: การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่เพียงพอและเหมาะสม (เช่น การคมนาคมขนส่ง สาธารณูปโภคพื้นฐาน ระบบจัดการน้ำเสียและขยะ) เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการดึงดูดการลงทุน เพิ่มผลิตภาพ และยกระดับคุณภาพชีวิต โครงสร้างพื้นฐานเหล่านี้ต้องได้รับการออกแบบให้มีความยืดหยุ่นและต้านทานต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงทางเศรษฐกิจและสังคมในระยะยาว
  3. การพัฒนาทุนมนุษย์และขีดความสามารถเชิงสถาบัน: การลงทุนด้านการศึกษา การสาธารณสุข และการพัฒนาทักษะเป็นสิ่งจำเป็นในการสร้างแรงงานที่มีคุณภาพ อปท. ต้องการการสนับสนุน การให้คำปรึกษา และการสร้างขีดความสามารถในการวางแผน การบริหารจัดการ และการจัดหาเงินทุนสำหรับโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่
  4. การสร้างกรอบการทำงานระดับชาติที่ชัดเจนสำหรับการเงินท้องถิ่น: จำเป็นต้องมีกรอบนโยบายระดับชาติที่ชัดเจนและสนับสนุนให้ อปท. สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้หลากหลาย ทั้งจากการกู้ยืมโดยเทศบาลเอง และความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน (PPP) กรอบนี้ควรให้คำแนะนำแก่ทุกระดับของรัฐบาล ภาคเอกชน และหน่วยงานกำกับดูแล เพื่อลดความเสี่ยงทางการคลังและสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน/ผู้ให้กู้
  5. การวางแผนและการบริหารจัดการเมืองอย่างมีส่วนร่วม: การเปิดโอกาสให้ประชาชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่างๆ มีส่วนร่วมในการวางแผนและตัดสินใจเรื่องการพัฒนาเมืองและการลงทุนในท้องถิ่นเป็นสิ่งสำคัญ แนวทางจากล่างขึ้นบน (bottom-up planning) และการยกระดับบทบาทของผู้แทนที่มาจากการเลือกตั้งในการตัดสินใจจัดสรรงบประมาณสามารถนำมาพิจารณาได้ การมีส่วนร่วมนี้ยังเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความยืดหยุ่นในระดับชุมชน
  6. การส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ที่มีศักยภาพ: แหล่งข้อมูลชี้ว่าไม่ใช่ทุกเมืองรองที่จะมีศักยภาพการเติบโตเท่ากัน ควรพิจารณาส่งเสริมและลงทุนในพื้นที่ที่มีศักยภาพสูงก่อน โดยอาจใช้เครื่องมือประเมินศักยภาพ เช่น DPAI ในขณะเดียวกันรัฐบาลกลางก็ยังคงมีบทบาทในการดูแลพื้นที่ที่มีศักยภาพจำกัด
  7. การปฏิรูปเชิงโครงสร้างและกฎระเบียบ: การลดอุปสรรคต่อการค้าบริการและการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ รวมถึงการปฏิรูปเพื่อลดความอนุรักษ์นิยมที่อาจขัดขวางนวัตกรรม จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันโดยรวมของประเทศ และเป็นประโยชน์ต่อเมืองรองด้วย

โดยสรุป การปลดล็อกศักยภาพทางเศรษฐกิจของเมืองรองในประเทศไทย ไม่ได้เป็นเพียงกลยุทธ์เพื่อการเติบโตเท่านั้น แต่ยังเป็นส่วนสำคัญของการสร้างความยืดหยุ่นในระดับชาติ โดยการกระจายความเสี่ยงทางเศรษฐกิจและสังคมที่ปัจจุบันกระจุกตัวอยู่ในกรุงเทพฯ ซึ่งต้องอาศัยการดำเนินการที่ครอบคลุมทั้งด้านการคลัง การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและทุนมนุษย์ การกระจายอำนาจ และการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน

 

“เตรียมพบกับ ปาฐกถาพิเศษ จาก World Bank ครั้งแรกในภาคอีสาน”

🔶MacroEconomics เจาะลึกเศรษฐกิจลุ่มแม่น้ำโขง

อาจเป็นรูปภาพของ 1 คน และ ข้อความพูดว่า "MAIN STAGE BUSINESS Sauce BUŠINESS WEEKENDA Melinda Good World Bank Division Director for Thailand and Myanmar HE WORLD WORLDBANK BANK Economic Outlook เจาะลึกเศรษฐกิจล่มแม่น้ำโยง ลึก เจาะ น้ำ โขง โดย WORLD"โดย Melinda Good : World Bank Division Director for Thailand and Myanmar

 

 

นี่แค่น้ำจิ้มเท่านั้น! รอติดตามทัพสปีกเกอร์อีกมากมายเร็วๆ นี้

 

ทำไมคุณต้องมา?

  • กลยุทธ์โตพันล้าน – ถอดรหัสเส้นทางธุรกิจจากท้องถิ่นสู่ระดับโลก
  • เรียนรู้จากตัวจริง – ผู้ประกอบการ-ผู้เชี่ยวชาญระดับโลก พร้อม Q&A สด
  • Business Networking – เชื่อมต่อคอนเน็กชั่นใหม่ นักลงทุน ผู้นำระดับประเทศ
  • ม่วนคัก! – จัดเต็มอาหาร ดนตรี ซอฟท์พาวเวอร์อีสานแบบจัดหนัก

 

Activities: 

  • 🎤 Main Stage – อัปเดตเทรนด์ธุรกิจ กลยุทธ์การเติบโตจากผู้เล่นตัวจริง
  • 🚀 Expertise Stage – อัพสกิลแบบ MBA ยุค AI จัดเต็ม!
  • 🍻 Business Matching Party – ชนแก้ว สังสรรค์ เจอพาร์ทเนอร์ที่ใช่ ในวันที่ 4 กรกฎาคม 2568 (สถานที่และเวลา จะประกาศให้ทราบในภายหลัง)
  • 📌 Exhibition – เดินบูธ โซลูชันธุรกิจครบวงจร ตอบทุกโจทย์การเติบโต

 

 

งานนี้เหมาะกับใคร

  • ผู้ประกอบการที่อยากสำเร็จระดับสากล
  • นักลงทุน-นักธุรกิจ ที่มองหาโอกาสในอีสาน
  • คนทำงาน-นักศึกษา ที่อยากเติบโตในสายธุรกิจ

 

 

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://thestandard.co/thesecretsauce-business-weekend-2025-isan/

หรือลงทะเบียน เพื่อซื้อบัตรร่วมงานได้ที่ ZipEvent

 

ใครต้องมา?

✔️ ผู้ประกอบการที่อยากสำเร็จระดับสากล
✔️ นักลงทุน-นักธุรกิจ ที่มองหาโอกาสในอีสาน
✔️ คนทำงาน-นักศึกษา ที่อยากเติบโตในสายธุรกิจ

ใครยังลังเลมาดูบทสรุปงานปีที่แล้วกัน

The Secret sauce ร่วมหารือกับ ISAN Insight and Outlook ที่คณะเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น

ที่มา:

  • Building Urban Resilience: Principles, Tools, and Practice – World Bank Documents and Reports
  • Thailand Urban Infrastructure Finance Assessment – Challenges and Opportunities (English)
  • The systems of secondary cities : the neglected drivers of urbanising economies (Inglês)
  • Translating Plans to Development – World Bank Documents and Reports
  • Unlocking Cities’ Potential to Promote Sustainable Growth and Inclusive Development in Thailand – World Bank
  • Urban-Rural Poverty Linkages in Secondary Cities Development in Southeast Asia
  • World Bank 2024 เมืองรอง
  • รายงานตามติดเศรษฐกิจไทย กรกฎาคม 2567: ปลดล็อกศักยภาพการเติบโตของเมืองรอง – World Bank

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Scroll to Top