งานบุญแห่ ผีตาโขน หน้ากากผีเอกลักษณ์ สะท้อนความเชื่อท่องถิ่น บินไกลสู่สากล

1.ประเพณีเดือน 7 : ประเพณีการละเล่นผีตาโขนในงานบุญหลวง จังหวัดเลย

ผีตาโขน เป็นคำเรียกชื่อการละเล่นชนิดหนึ่งที่ผู้เล่นต้องสวมหน้ากากที่วาดหรือแต้มให้น่ากลัวแต่งกายด้วยชุดทำจากเศษผ้านำมาเย็บติดกัน ซึ่งจะเข้าร่วมขบวนแห่และมีการแสดงท่าทางต่าง ๆ เพื่อสร้างความตื่นเต้น สนุกสนาน รื่นเริง ในระหว่างที่มีงานบุญประเพณีใหญ่หรือที่เรียกว่า “งานบุญหลวง” หรือ “บุญผะเหวด” ซึ่งตรงกับเดือน 7เป็นการละเล่นที่มีเฉพาะในท้องที่อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย ว่ากันว่าการแห่ผีตาโขนเกิดขึ้นเมื่อครั้งที่พระเวสสันดรและนางมัทรีจะเดินทางออกจากป่ากลับสู่เมือง บรรดา ผีป่าหลายตน และสัตว์นานาชนิดอาลัยรักจึงพาแห่แหนแฝงตัวแฝงตน มากับชาวบ้านเพื่อมาส่งทั้งสอง พระองค์ กลับ เมือง “ผีตามคน” หรือ “ผีตาขน” จนกลายมาเป็น “ผีตาโขน” อย่างในปัจจุบัน
ประวัติงานประเพณีผีตาโขน ประเพณีบุญหลวง พระเวสสันดร
Chaikom / Shutterstock.com
.

จังหวัดเลย อำเภอด่านซ้าย ณ ที่แห่งนี้ได้มีการกำเนิดประเพณีที่มีต้นกำเนิดมาจากเวสสันดรชาดก พระชาติที่ 10 ที่สำคัญที่สุดของพระพุทธเจ้า หรือ ตำนานผีตามคนนั่นเอง
โดยในปีนี้ประเพณีผีตาโขน จะถูกจัดขึ้นที่ อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย วันที่ 28-30 มิถุนายน ปี 2568
ภายในงานปีนี้ก็จะมีกิจกรรมมากมายตลอดทั้งงาน ไม่ว่าจะเป็น วันโฮม,ขบวนแห่,สู่ขวัญเจ้าพ่อกวน และ เจ้าแม่นางเทียม,มีพิธีจุดบั้งไฟขอฝนอีกด้วย และยังมีกิจกรรมอื่นๆอีกมากมายภายในงาน
อาจเป็นรูปภาพของ 1 คน และ ข้อความ
ภาพจาก:ด่านซ้ายไทเลย

งานประเพณีบุญหลวง และงานผีตาโขน

จะมีหลักๆ 3 วันด้วยกันคือ
วันที่ 1 เป็น เทศกาลผีตาโขน ซึ่งเรียกวันนี้ว่า วันรวม หรือ วันโฮม จะมี พิธีเบิกพระอุปคุต

  • พิธีการบวชพราหมณ์ เพื่อเชิญพระอุปคุต
  • พิธีแห่จากวัดโพนชัย ไปริมฝั่งแผ่น้ำหมันเพื่อเชิญพระอุปคุต
  • พิธีงมพระอุปคุตจากแม่น้ำหมันอัญเชิญขึ้นประดิษฐานหออุปคุต วัดโพนชัย
  • พิธีเบิกพระอุปคุต พร้อมยิงปืนทั้ง 4 ทิศ
  • พิธีบายศรีสู่ขวัญเจ้าพ่อกวนและเจ้าแม่นางเทียม

วันที่ 2 เป็น วันแห่พระเวสสันดรเข้าเมือง หรือ ขบวนแห่ผีตาโขน

  • พิธีสู่ขวัญพระเวส อัญเชิญพระเวสเข้าเมือง
  • ขบวนแห่พระเวสเข้าเมือง (ขบวนแห่ผีตาโขน)
  • เจ้าพ่อกวนและคณะ นำขบวนแห่ไปวัดโพนชัยแห่รอบโบสถ์ 3 รอบ
  • เจ้าพ่อกวนและคณะจุดบั้งไฟขอฝน
  • คณะผู้เล่นบุญนำหน้ากากผีตาโขนน้อยและผีตาโขนใหญ่ทิ้งลงแม่น้ำหมัน

วันที่ 3 เป็น วันฟังเทศน์มหาชาติ 13 กัณฑ์ พิธีสวดมาลัยหมื่นมาลัยแสน ในการฟังเทศมหาชาติ

  • พิธีสวดชำฮะเพื่อขอขมาลาโทษสะเดาะเคราะห์รับโชค
  • นำอาหารหวานใส่กระทง เพื่อให้ทานสะเดาะเคราะห์ และสืบชะตาบ้านเมือง
  • พ่อแสนท้าพิธี “จำเนื้อจำคิง” เพื่อการสะเดาะเคราะห์
  • นำเครื่องสะเดาะเคราะห์ทิ้งลงแม่น้ำหมัน
  • พิธีคารวะองค์องค์พระใหญ่ โดยเจ้าพ่อกวนและคณะ เป็นอันเสร็จพิธี

และประเพณียังคงมีความเชื่อกันว่า สำหรับคนที่เล่นหรือมีการแต่งตัวเป็น ผีตาโขนใหญ่ ต้องถอดเครื่องแต่งกายผีตาโขนใหญ่ออกให้หมดและนำไปทิ้งในแม่น้ำหมัน ห้ามนำเข้าบ้าน เป็นการทิ้งความทุกข์ยากและสิ่งเลวร้ายไปอีกด้วย

2.หนึ่งเดียวในภาคอีสาน ผีตาโขนของชาวไท-เลย

ทำไมประเพณีผีตาโขนจึงมีเพียงที่เดียวในภาคอีสาน และพบเฉพาะในจังหวัดเลย? คำตอบอยู่ที่ความเชื่อที่ฝังแน่นในวิถีชีวิตของชาวไท–เลย โดยเฉพาะกลุ่มชาติพันธุ์ไท–ลาวในอำเภอด่านซ้าย ซึ่งมีความเชื่อแบบ พุทธผสมอนิมิสต์ หรือศรัทธาที่ผสานระหว่างพุทธศาสนาและความเชื่อพื้นบ้านที่เชื่อว่า ทุกสิ่งในธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์ ต้นไม้ ภูเขา แม่น้ำ หรือแม้แต่วัตถุธรรมดา ล้วนมีจิตวิญญาณหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์สถิตอยู่ ประเพณีผีตาโขนจึงกลายเป็นช่องทางหนึ่งในการสื่อสารกับสิ่งเร้นลับเหล่านั้น ผ่านการละเล่น การสวมหน้ากาก และการแห่แหนอย่างครื้นเครงในช่วงงานบุญหลวง โดยมีความเชื่อว่าเป็นการ “ส่งผี” ที่ติดตามพระเวสสันดรกลับสู่ป่า
พิธีกรรมของผีตาโขนในด่านซ้ายยังมีลักษณะเฉพาะ เช่น บทบาทของเจ้าพ่อกวนและเจ้าแม่นางเทียมที่เป็นผู้นำจิตวิญญาณของงาน ซึ่งไม่มีในพื้นที่อื่นในภาคอีสาน นี่คือสิ่งที่ทำให้ประเพณีผีตาโขนไม่อาจแยกออกจากพื้นที่ด่านซ้าย และไม่สามารถย้ายไปจัดที่อื่นได้อย่างแท้จริง จึงไม่น่าแปลกใจที่ผีตาโขนจะถูกยกให้เป็น “หนึ่งเดียวในภาคอีสาน” และเป็นเครื่องยืนยันถึงพลังของความเชื่อ วิถีชีวิต และเอกลักษณ์ของชุมชนท้องถิ่นที่สืบต่อกันมายาวนาน

.
.

3.มูลค่าของประเพณี และการบริการ

ซึ่งถ้าเราลองมาดูให้ลึกลงมาอีกเราจะพบข้อมูลที่น่าสนใจจากกระทรวงการท่องเที่ยว และ กีฬา นั่นคือ จำนวนผู้เยี่ยมเยือนในปีที่ผ่านมาก่อนที่จะมาถึงเดือนที่มีงานประเพณีจะมีจำนวนผู็เยี่ยมเยือนอยู่ที่ 152,367 คน ในเดือนพฤษภาคม และในเดือนต่อมาในเดือนมิถุนายน มีจำนวนอยู่ที่ 158,669 คน และในเดือน กรกฏาคมอยู่ที่ 193,230 คน เราจะเห็นได้ว่ามีการเติบโตของจำนวนนักท่องเที่ยว อยู่ 22.4%
ถ้าเรามาดูเรื่องรายได้จากประเพณีมีรายได้เท่าไหร่ถ้าเราลองมาดูรายได้ผู้เยี่ยมเยือนในเดือนกรกฏาคมเราจะเห็นว่ารายได้ในเดือนนี้มีจำนวนสูงถึง 466.54 ล้านบาท ซึ่งมีการเติบโตจากเดือนมิถุนายนอยู่ 30% นั่นแสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญในการผลิตด้าน ศิลปะ ความบันเทิง และนันทนาการ ด้วยความที่จังหวัดเลยมีศิลปะและปนะเพณีที่โดดเด่นและได้รับความนิยมค่อนข้างสูง ถ้านอกเหนือจากเทศกาลผีตาโขนนี่ก็จะมี งานแสดงไม้ดอกเมืองหนาวนั่นเอง


กราฟนี้เป็นกราฟที่จะแสดงจำนวนผู้เยี่ยมเยือนในจังหวัดเลยในปี 2567 เราจะเห็นได้ว่าในช่วงที่มีประเพณีผีตาโขน หรือเดือนกรกฏาคม มีการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้เยี่ยมเยือนอย่างมีนัยสำคัญ
.
เทศกาลผีตาโขน เป็นหนึ่งในประเพณีที่โดดเด่นและมีสีสันที่สุดของภาคอีสานของไทย โดยเฉพาะที่อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย ไม่เพียงแต่เป็นงานบุญตามความเชื่อเท่านั้น แต่ยังเป็น “Soft Power” สำคัญที่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและการรับรู้ในระดับโลก

มูลค่าทางเศรษฐกิจของเทศกาลผีตาโขน

เทศกาลผีตาโขนสร้างรายได้และกระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่นอย่างมีนัยสำคัญ โดยหลัก ๆ มาจาก:

  1. การท่องเที่ยวและการพักแรม: นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติจำนวนมากเดินทางมายังอำเภอด่านซ้ายและพื้นที่ใกล้เคียงเพื่อเข้าร่วมชมเทศกาล ส่งผลให้เกิดการจองที่พัก โรงแรม รีสอร์ต เต็มตลอดช่วงเทศกาล ข้อมูลจากปี พ.ศ. 2566 (2023) ระบุว่าเทศกาลผีตาโขนสามารถสร้างรายได้สะพัดกว่า 120 ล้านบาท ให้กับจังหวัดเลย และที่พักในอำเภอด่านซ้ายและภูเรือถูกจองเต็มหมด
  2. การค้าขายสินค้าและบริการ: เกิดการจับจ่ายใช้สอยสินค้าและบริการหลากหลายชนิด ทั้งอาหารท้องถิ่น ของที่ระลึก หน้ากากผีตาโขนจำลอง เสื้อผ้า และสินค้าหัตถกรรมต่าง ๆ รวมถึงบริการขนส่งและการนำเที่ยว
  3. การจ้างงาน: เทศกาลสร้างโอกาสในการจ้างงานชั่วคราวให้กับคนในท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นการทำหน้ากากและชุดผีตาโขน การจัดเตรียมสถานที่ การให้บริการนักท่องเที่ยว
  4. การประชาสัมพันธ์และภาพลักษณ์ที่ดี: การที่เทศกาลได้รับการเผยแพร่ในสื่อต่างๆ ช่วยสร้างชื่อเสียงและภาพลักษณ์ที่ดีให้กับจังหวัดเลยและประเทศไทยในสายตานักท่องเที่ยวทั่วโลก ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการท่องเที่ยวในระยะยาว

มูลค่าทางเศรษฐกิจของผีตาโขนไม่ได้จำกัดแค่ช่วงเวลาจัดงาน แต่ยังต่อเนื่องไปถึงการส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัดเลยตลอดทั้งปี และการยกระดับสินค้าชุมชนที่ได้รับแรงบันดาลใจจากผีตาโขน

การนำไปใช้หรือโผล่ในสื่อทั่วโลก

ผีตาโขนเป็นที่รู้จักในระดับสากลมากขึ้นเรื่อยๆ และปรากฏในสื่อต่าง ๆ ทั่วโลกด้วยเอกลักษณ์ที่โดดเด่น ดังนี้:

  1. สื่อข่าวและการท่องเที่ยวระดับนานาชาติ: สำนักข่าวและเว็บไซต์ท่องเที่ยวชั้นนำหลายแห่งได้นำเสนอเรื่องราวของเทศกาลผีตาโขน โดยมักจะเน้นที่ความแปลกตา สีสัน ความสนุกสนาน และความเชื่อพื้นบ้านที่ผสมผสานกับพุทธศาสนา โดยบางครั้งถูกเรียกว่า “งานฮาโลวีนฉบับไทย” หรือ “Ghost Festival of Thailand”
  2. นิตยสารและหนังสือท่องเที่ยว: รูปภาพและบทความเกี่ยวกับผีตาโขนปรากฏในนิตยสารท่องเที่ยวระดับโลก เช่น National Geographic Traveler, Lonely Planet และหนังสือเกี่ยวกับวัฒนธรรมประเพณีของโลก
  3. วิดีโอและสารคดี: มีผู้ผลิตสารคดีและวิดีโอบล็อกเกอร์ (Vlogger) จากต่างประเทศจำนวนมากเดินทางมาบันทึกภาพบรรยากาศของเทศกาล และเผยแพร่บนแพลตฟอร์มอย่าง YouTube ทำให้เข้าถึงผู้ชมทั่วโลกได้ง่ายขึ้น
  4. โซเชียลมีเดียและอินฟลูเอนเซอร์: อินฟลูเอนเซอร์และนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเยือนเทศกาลได้โพสต์ภาพและวิดีโอลงบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่าง ๆ เช่น Instagram, Facebook, TikTok ซึ่งช่วยสร้างการรับรู้แบบปากต่อปาก (Word of Mouth) ในวงกว้าง
  5. การแสดงในงานเทศกาลนานาชาติ: หน้ากากผีตาโขนและชุดผีตาโขนเคยถูกนำไปจัดแสดงหรือร่วมขบวนในเทศกาลระดับโลก เช่น งานหน้ากากคาร์นิวัลเวนิส (Carnival of Venice) ที่ประเทศอิตาลี ซึ่งเป็นการเผยแพร่วัฒนธรรมไทยสู่สายตาชาวต่างชาติโดยตรง
  6. งานอีเวนต์ส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศไทย: การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) มักจะใช้ภาพและเรื่องราวของผีตาโขนในการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวไทยในงานแสดงสินค้าและกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวทั่วโลก

การที่ผีตาโขนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งหน้ากากที่แปลกตา ชุดที่สีสันสดใส การเต้นรำที่สนุกสนาน และเรื่องราวที่ผูกโยงกับความเชื่อและประเพณี ทำให้เป็นหนึ่งในเทศกาลที่ได้รับความสนใจและถูกนำเสนอในสื่อต่าง ๆ ทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการตอกย้ำถึงคุณค่าของ “Soft Power” ทางวัฒนธรรมของไทยอย่างแท้จริง
ตัวอย่างที่เคยถูกพูดถึงอย่างแพร่หลาย จากผีตาโขน สู่ ผีตามคน หลังสั้นที่ถูกถ่ายทำด้วย iPhone 13 Pro max ทั้งเรื่อง

4.ความหลากหลายในประเพณี ศิลปะ และ สถานที่ท่องเที่ยว

จังหวัดเลยยังมีการจัดงานศิลปะสายหมอก และดอกไม้เมืองเลยให้นักท่องเที่ยวได้ชมความสวยงามในช่วงฤดูหนาวด้วย นอกจากนี้สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเลยได้จัดมหกรรมหน้ากากสัญจร เพื่เผยแพร่วัฒนธรรมประเพณี และเป็นการสร้างรายได้ และมูลค่าให้กับจังหวัด นอกจากนี้ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเลยยังได้จัด มหกรรมหน้ากากสัญจร ซึ่งเป็นการต่อยอดจากประเพณีผีตาโขน ไปสู่การสร้างกิจกรรมวัฒนธรรมรูปแบบใหม่ในพื้นที่อื่นของจังหวัด โดยนำเสนอเรื่องราวของหน้ากากและความเชื่อผ่านการแสดง แฟชั่นโชว์ เวิร์กช็อป และกิจกรรมสร้างสรรค์ต่าง ๆ ซึ่งไม่เพียงแต่สร้างความเข้าใจในรากเหง้าวัฒนธรรม แต่ยังส่งเสริมการมีส่วนร่วมของเยาวชน ชุมชน และกลุ่มผู้ประกอบการท้องถิ่นในการออกแบบสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้อง นอกเหนือจากประเพณี และ ศิลปะที่สวยงามแล้วยังมี สถานที่ท่องเที่ยวที่มีคามสวยงามด้วยธรรมชาติเอง นั่นคือ ภูกระดึง จุดท่องเที่ยวยอดฮิตของใครหลายๆคน ที่พอมาที่เลยต้องไปพิชิตภูกระดึงซักครั้งหนึ่งในชีวิต และ อีกแห่งก็คือไม่ว่าจะเป็นอุทยานแห่งชาติภูเรือ และเชียงคานที่หลายๆ คนต้องรู้จัก ซึ่งทำให้เลยถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติที่สำคัญจังหวัดหนึ่งของอีสาน
ไม่มีคำอธิบายรูปภาพ
เลย – ชุดข้อมูลภูมิประเทศ เทียบความสูงเหนือระดับน้ำทะเล
ขอบคุณรูปภาพจาก มิตรเอิร์ธ – mitrearth

⛺️เลย ดินแดนอีสานภูมิประเทศแบบภาคเหนือ จังหวัดที่มีรายได้ต่อหัวสูงที่สุดอันดับ 3 ของอีสาน🪙

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Scroll to Top