Infographic

สรุปเรื่อง น่ารู้ แดนอีสาน ทั้ง เศรษฐกิจ ธุรกิจ สังคม ศิลปะ วัฒนธรรม

พาสำรวจเบิ่ง “ราคาที่ดินต่ำสุด-สูงสุด” แต่จังหวัดในภาคอีสาน

พาสำรวจเบิ่ง “ราคาที่ดินต่ำสุด-สูงสุด” แต่จังหวัดในภาคอีสาน . . ราคาที่ดินที่แพงสุดส่วนใหญ่ราคาที่ดินในอำเภอเมืองมักจะสูงกว่าพื้นที่อื่นๆ เนื่องจากเป็นศูนย์กลางของการคมนาคมขนส่ง มีถนนหนทางที่เชื่อมต่อกับพื้นที่อื่นๆ ได้สะดวก มีระบบสาธารณูปโภคที่ครบครัน (ไฟฟ้า น้ำประปา โทรคมนาคม) ทำให้มีประชากรที่อาศัยอยู่ในเมืองจำนวนมากขึ้น ความต้องการด้านที่อยู่อาศัยก็เพิ่มขึ้น ยิ่งในปัจจุบันคนต้องการมีพื้นที่ส่วนตัวและต้องการมีครอบครัวเดี่ยวด้วยแล้ว ราคาที่ดินจึงลดลงได้ยาก เมื่อ Demand กับ Supply มาเจอกัน ราคาที่ดินย่อมดีดตัวสูงขึ้น เนื่องจากทรัพยากรมีจำกัด . สังคมเมืองมีการขยายตัว มีห้างสรรพสินค้า รถไฟฟ้า และการขนส่งสาธารณะที่สะดวกสบาย ราคาที่ดินในละแวกนั้นย่อมสูงขึ้นตามไปด้วย ยิ่งใกล้สถานที่ที่เป็นทำเลทองมากเท่าไร แปลว่าคนที่อาศัยอยู่บนที่ดินนั้นจะสะดวกสบายในการใช้ชีวิตมากขึ้น ดังนั้น ที่ดินบริเวณนั้นจึงแพงและมิอาจประเมินราคาที่ดินได้ โดยส่วนมากคนที่ซื้อต่อจึงเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ . ในขณะที่ดินที่ถูกสุดส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่ห่างจากตัวเมือง เนื่องจากความสะดวกในการเดินทางและสิ่งอำนวยความสะดวกอาจจะยังไม่ครบครัน อีกหนึ่งสาเหตุที่สำคัญนั้นก็คือ ที่ดินที่มีข้อจำกัด เช่น ที่ดินติดลำธาร ที่ดินลาดชัน หรือที่ดินที่มีปัญหาเรื่องเอกสารสิทธิ์ จะมีราคาถูกกว่าที่ดินที่มีสภาพดี . . อ้างอิงจาก: – DDproperty – Bangkok CitiSmart – กรมธนารักษ์   ติดตาม ISAN Insight & Outlook ทุกช่องทางได้ที่ https://linktr.ee/isan.insight   #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ISAN #อีสานอินไซต์ #Business #Economy #ธุรกิจ #เศรษฐกิจ #ธุรกิจอีสาน #เศรษฐกิจอีสาน #ราคาที่ดิน #ราคาประเมินที่ดิน

พาสำรวจเบิ่ง “ราคาที่ดินต่ำสุด-สูงสุด” แต่จังหวัดในภาคอีสาน อ่านเพิ่มเติม »

พาส่องเบิ่่ง จังหวัดไหนในอีสาน มีก๊าซโอโซน มากที่สุด

“ฮู้บ่ว่า?โอโซนในอีสานมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี ส่งผลต่อสุขภาพเรามากกว่าที่คิด จากปัญหาระบบทางเดินหายใจสู่โรคร้ายแรง . โอโซน เป็นก๊าซชนิดหนึ่งที่สามารถพบได้ทั้งในชั้นบรรยากาศและใกล้พื้นผิวโลก แต่โอโซนที่ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพคือโอโซนใกล้พื้นดิน (Ground-level ozone) ซึ่งเกิดจากปฏิกิริยาเคมีระหว่างสารมลพิษที่ปล่อยออกจากยานพาหนะ โรงงานอุตสาหกรรม และแหล่งเผาไหม้อื่น ๆ กับแสงแดด โอโซนใกล้พื้นดินมีผลกระทบต่อสุขภาพอย่างมาก โดยเฉพาะในภาคอีสานของประเทศไทยที่พบว่าปริมาณโอโซนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี . ภาคอีสานเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากมลพิษทางอากาศทั้งจากการขนส่งทางบกและการเผาไหม้ในพื้นที่เกษตรกรรม เมื่อโอโซนสะสมมากขึ้นในบรรยากาศ มันสามารถส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจโดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคปอดหรือโรคหัวใจอยู่แล้ว การสัมผัสกับโอโซนในระดับสูงเป็นเวลานานสามารถทำให้เกิดอาการระคายเคืองในระบบทางเดินหายใจ อาการหายใจถี่ แน่นหน้าอก หรืออาการไออย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ โอโซนยังสามารถทำให้การทำงานของปอดลดลงและทำให้เกิดโรคปอดเรื้อรัง เช่น โรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง และหืด . เมื่อดูปริมาณก๊าซโอโซนในรายจังหวัดจะพบว่าจังหวัด มุกดาหารที่มีค่าก๊าซโอโซนมากที่สุด มีเพียง 42 PPB ที่เทียบเป็นรายปี ซึ่งถือได้ว่ามีค่าไม่ได้สูงมากนัก ตามมาตราฐานที่ประเทศไทยกำหนดที่อยู่ในระดับอันตรายนั้นจะต้องมีค่าใกล้กับ 70 PPB เทียบรายเฉลี่ย8ชั่วโมง . โดยสามารถตรวจสอบค่าก๊าซและฝุ่นละออง ด้วยตัวเองได้ทาง ลิงก์เว็บไซต์ Click . ที่มา สำนักงานสถิติแห่งชาติ . ติดตาม ISAN Insight & Outlook ทุกช่องทางได้ที่ #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ISAN #อีสานอินไซต์ #Business #Economy #ธุรกิจ #เศรษฐกิจ #ธุรกิจอีสาน #เศรษฐกิจอีสาน #แวดล้อมอีสาน

พาส่องเบิ่่ง จังหวัดไหนในอีสาน มีก๊าซโอโซน มากที่สุด อ่านเพิ่มเติม »

🔎พาสำรวจเบิ่ง ชื่อหมู่บ้านมีคำว่า “ดอน” กระจายอยู่ไหนบ้าง🏠

🔎พาสำรวจเบิ่ง ชื่อหมู่บ้านมีคำว่า “ดอน” กระจายอยู่ไหนบ้าง🏠 . . ในการตั้งชื่อหมู่บ้านของคนโบราณส่วนใหญ่นิยมเลือกเป็นที่อยู่อาศัยในอดีต ได้แก่ เนิน โนน โพน โคก ดอน ควน . หมู่บ้านที่มีคำว่า ดอน พบกระจายตัวอยู่ประปรายในภาคเหนือ โดยเฉพาะจังหวัดลำปางและน่าน ส่วนที่กระจุกตัวกันอย่างหนาแน่นพบบริเวณฝั่งตะวันตกของที่ราบลุ่มภาคกลาง ประชิดแนวเทือกเขาถนนธงชัย และอีกหนึ่งพื้นที่ที่น่าสนใจ คือ พื้นที่ระหว่างแม่น้ำมูลตอนบนและแม่น้ำชีตอนล่างของภาคอีสาน รวมไปถึงตลอดแนวภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย ก็พบหมู่บ้านที่มีคำว่า ดอน เช่นกัน โดยเฉพาะแถบจังหวัดนครศรีธรรมราชและสงขลา . หมู่บ้านที่ใช้คำว่า “ดอน”  มีลักษณะเป็นพื้นที่ที่มีความลาดชันจากด้านหนึ่งไปสู่อีกด้านหนึ่ง และอาจมีเพียงเนินเล็กๆ เตี้ยๆ เป็นศูนย์กลางของพื้นที่หมู่บ้าน . ธรณีวิทยา “ดอน”  . ผลจากการชนและบีบอัดกันของแผ่นเปลือกโลกในอดีตนานมากแล้ว ทำให้พื้นแผ่นดินอีสานซึ่งประกอบไปด้วยชั้นหินทรายเป็นส่วนใหญ่เกิด การคดโค้งโก่งงอของหิน (folding) ทำให้ภาคอีสานมีภูมิประเทศโดยทั่วไปเป็นแบบที่เรียกว่าที่ ราบลูกฟูก หรือ เนินลูกระนาด ซึ่งแนวเทือกเขาภูพาน แถบสกลนคร เป็นตัวอย่างชัดเจนที่เกิดและยกตัวเป็นภูเขาขึ้นมาได้จากการคดโค้งโก่งงของหินเช่นกัน กลายเป็นภูมิประเทศโดยส่วนใหญ่ทั่วภาคอีสาน . อย่างไรก็ตาม จากกระบวนการกวัดแกว่งโค้งตวัดของทางแม่น้ำมูลและแม่น้ำชี ซึ่งเป็นแม่น้ำสายหลักของพื้นที่ โดยธรรมชาติของกระบวนการทางน้ำ จะทำให้เกิดการปรับราบพื้นที่ กลายเป็น ที่ราบน้ำท่วมถึง (floodplain) ด้วยเหตุนี้ หมู่บ้านที่มีคำว่า “ดอน” จึงกระจายตัวอยู่ในภาคอีสาน ตามลักษณะภูมิประเทศดั้งเดิมที่เกิดจากการคดโค้งโก่งงอของหิน ยกเว้นพื้นที่ราบน้ำท่วมถึง ที่ได้รับการปรับพื้นที่ราบ จากกระบวนการทางน้ำของแม่น้ำมูลและแม่น้ำชี . . ตัวอย่างชื่อหมู่บ้านที่มีคำว่า “ดอน” – บ้านดอนกอย ต.สว่าง อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร – บ้านดอนน้อย ต.ดอนหญ้านาง อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ – บ้านดอนมัน ต.ขามเรียง อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม – บ้านดอนบม ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.ขอนแก่น – บ้านดอนหมู ต.ขามเปี้ย อ.ตระการพืชผล จ.ดอุบลราชธานี – บ้านดอนยาวน้อย ต.วังหิน อ.โนนแดง จ.นครราชสีมา – บ้านดอนแดง ต.เชียงขวัญ อ.เชียงขวัญ จ.ร้อยเอ็ด – บ้านดอนนาดี ต.บ้านขาม อ.เมืองหนองบัวลำภู จ.หนองบัวลำภู  . . อ้างอิงจาก: – มิตรเอิร์ธ – mitrearth   ติดตาม ISAN Insight & Outlook ทุกช่องทางได้ที่ https://linktr.ee/isan.insight   #ISANInsightAndOutlook

🔎พาสำรวจเบิ่ง ชื่อหมู่บ้านมีคำว่า “ดอน” กระจายอยู่ไหนบ้าง🏠 อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง สถิติผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน💥🚙

พามาเบิ่ง สถิติผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน💥🚙 . 🤕จากสถิติผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากการเกิดอุบัติเหตุในแต่ละจังหวัด ณ วันที่ 9 ตุลาคม 2567 พบว่ามีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากการเกิดอุบัติเหตุเป็นจำนวนมาก และยังสะท้อนถึงปัญหาที่ต้องเร่งแก้ไข ไม่เพียงแต่เพื่อรักษาชีวิตของประชาชน แต่ยังเพื่อสร้างความมั่นใจในการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย . ภาคอีสานมีจำนวนผู้บาดเจ็บสูงถึง 139,000 ราย และผู้เสียชีวิต 2,824 ราย ซึ่งเป็นจำนวนที่สูงที่สุดในบรรดาภูมิภาคอื่นๆ อาจเนื่องมาจากเป็นภูมิภาคที่มีประชากรหนาแน่นและสภาพการจราจรที่ซับซ้อนจะมีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุที่สูงขึ้น . และจังหวัดที่มีจำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงที่สุดในภาคอีสานคือ จังหวัดนครราชสีมา ด้วยตัวเลขผู้เสียชีวิต 343 ราย และผู้บาดเจ็บมากถึง 24,563 ราย และนอกจากนี้ยังมีจังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก เช่น จังหวัดอุดรธานี ที่มีผู้เสียชีวิตถึง 236 ราย และ จังหวัดอุบลราชธานี ถึงแม้ว่าจะมีผู้เสียชีวิตเพียง 177 ราย แต่มีจำนวนผู้บาดเจ็บสูงถึง 14,605 ราย ตัวเลขเหล่านี้บ่งบอกถึงปัญหาในการใช้รถใช้ถนนในภาคอีสานที่ยังคงมีอยู่สูง . 🚨🚘อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตในภาคอีสานคือ การขับขี่โดยประมาท รวมไปถึงการขับรถเร็วเกินกำหนด การไม่สวมหมวกนิรภัยหรือคาดเข็มขัดนิรภัย และการดื่มแอลกอฮอล์ก่อนหรือขณะขับขี่ แม้ว่าทางภาครัฐจะมีการรณรงค์อย่างต่อเนื่อง แต่พฤติกรรมเหล่านี้ยังพบเห็นได้บ่อย ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุเป็นจำนวนมาก . ทั้งนี้เราขอให้ทุกท่านขับขี่ปลอดภัย ปราศจากแอลกอฮอล์ และสวมหมวกนิรภัยหรือคาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัยของตัวท่านและผู้อื่น . หมายเหตุ : เป็นข้อมูล ณ วันที่ 9 ตุลาคม 2567 . ที่มา : ศูนย์ข้อมูลอุบัติเหตุ เพื่อเสริมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนน . ติดตาม ISAN Insight & Outlook ทุกช่องทางได้ที่ https://linktr.ee/isan.insight . #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ISAN #อีสานอินไซต์ #อุบัติเหตุ #การจราจร

พามาเบิ่ง สถิติผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน💥🚙 อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง👩‍🎓👩‍🔧 ค่าแรงขั้นต่ำในประเทศเฮาและเพื่อนบ้าน GMS เฮา

พามาเบิ่ง👩‍🎓👩‍🔧 ค่าแรงขั้นต่ำในประเทศเฮาและเพื่อนบ้าน GMS เฮา . 👷ค่าแรงขั้นต่ำเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของแรงงานในแต่ละประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขง (GMS) เช่น ไทย ลาว เวียดนาม กัมพูชา และเมียนมา ซึ่งมีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำในปีที่ผ่านมาเพื่อรับมือกับภาวะเงินเฟ้อและเพิ่มแรงจูงใจในการทำงาน จากตารางแสดงให้เห็นว่า 🇨🇳ประเทศจีนมีค่าแรงขั้นต่ำสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 401.75 บาทต่อวัน หรือ 12,454.20 บาทต่อเดือน 🇹🇭ในขณะที่ประเทศไทย (ภาคอีสาน) มีค่าแรงขั้นต่ำอยู่ที่ 343.45 บาทต่อวัน ซึ่งเทียบเป็นรายเดือนแล้วประมาณ 10,646.95 บาท 🇲🇲ส่วนประเทศเมียนมามีค่าแรงขั้นต่ำต่ำสุดในกลุ่มนี้ที่ 109.02 บาทต่อวัน หรือประมาณ 3,379.62 บาทต่อเดือน เด้อ . ข้อมูลนี้ชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างของค่าแรงในแต่ละประเทศซึ่งสะท้อนถึงมาตรฐานค่าครองชีพและสภาพเศรษฐกิจในพื้นที่ โดยการปรับเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำอย่างต่อเนื่องเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่แต่ละประเทศใช้เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและรักษาสิทธิของแรงงาน ในระดับปัจเจกบุคคล: คุณค่าของแรงงาน: ค่าจ้างสะท้อนให้เห็นถึงคุณค่าที่ตลาดให้กับทักษะ ความรู้ และประสบการณ์ของแต่ละบุคคล ยิ่งมีทักษะที่ตลาดต้องการมากเท่าไหร่ ค่าจ้างก็มีแนวโน้มสูงขึ้นเท่านั้น มาตรฐานการครองชีพ: ค่าจ้างเป็นปัจจัยหลักที่กำหนดมาตรฐานการครองชีพของคนเรา ว่าสามารถซื้อสินค้าและบริการอะไรได้บ้าง รวมถึงคุณภาพชีวิตโดยรวม แรงจูงใจในการทำงาน: ค่าจ้างที่เหมาะสมเป็นแรงจูงใจสำคัญที่ทำให้คนเราอยากทำงานและพัฒนาตนเอง ในระดับองค์กร: ประสิทธิภาพการผลิต: ค่าจ้างที่เหมาะสมจะช่วยดึงดูดและรักษาบุคลากรที่มีความสามารถ ทำให้เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตและคุณภาพของสินค้าหรือบริการ ต้นทุนการผลิต: ค่าจ้างเป็นส่วนหนึ่งของต้นทุนการผลิต หากค่าจ้างสูงขึ้น ก็อาจส่งผลต่อราคาขายสินค้าหรือบริการ ความสามารถในการแข่งขัน: ค่าจ้างที่สูงเกินไปอาจทำให้บริษัทขาดความสามารถในการแข่งขัน ในขณะที่ค่าจ้างที่ต่ำเกินไปอาจทำให้ขาดแรงงานที่มีคุณภาพ ในระดับสังคม: ความเหลื่อมล้ำทางรายได้: การกระจายตัวของค่าจ้างสะท้อนให้เห็นถึงความเหลื่อมล้ำทางรายได้ในสังคม สถานการณ์เศรษฐกิจ: การเปลี่ยนแปลงของค่าจ้างโดยเฉลี่ยสามารถบ่งบอกถึงสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของประเทศได้ เช่น ในช่วงเศรษฐกิจขยายตัว ค่าจ้างโดยเฉลี่ยมักจะเพิ่มขึ้น นโยบายเศรษฐกิจ: นโยบายต่างๆ ของรัฐบาล เช่น การกำหนดค่าจ้างขั้นต่ำ หรือมาตรการส่งเสริมการจ้างงาน จะมีผลต่อระดับและการกระจายตัวของค่าจ้าง ปัจจัยที่ส่งผลต่อค่าจ้าง ทักษะและประสบการณ์: ยิ่งมีทักษะและประสบการณ์สูง ค่าจ้างก็ยิ่งสูงขึ้น อุปสงค์และอุปทานของแรงงาน: หากอุปสงค์ของแรงงานในสาขาใดสาขาหนึ่งสูง แต่ปริมาณแรงงานมีจำกัด ค่าจ้างในสาขานั้นก็จะมีแนวโน้มสูงขึ้น ค่าครองชีพ: ค่าจ้างมักจะปรับตัวตามค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น กฎหมายและนโยบาย: กฎหมายแรงงานและนโยบายของรัฐบาลมีผลต่อการกำหนดค่าจ้างขั้นต่ำและสวัสดิการต่างๆ ที่ลูกจ้างได้รับ อำนาจต่อรอง: อำนาจต่อรองของลูกจ้างและนายจ้างมีผลต่อการกำหนดระดับค่าจ้าง สรุป ค่าจ้างแรงงานเป็นตัวแปรที่ซับซ้อนและเกี่ยวข้องกับปัจจัยหลายอย่าง การวิเคราะห์ค่าจ้างจึงต้องพิจารณาในบริบทที่หลากหลาย ทั้งในระดับปัจเจกบุคคล องค์กร และสังคม . ที่มา เว็ปไซต์ vdb-loi,prd.co.th,vietnam.incorp,b2b-cambodia,atlashxm,chinalegalexperts . ติดตาม ISAN Insight & Outlook ทุกช่องทางได้ที่ https://linktr.ee/isan.insight . #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ISAN #อีสานอินไซต์ #ISANxGMS #เพื่อนบ้านอีสาน

พามาเบิ่ง👩‍🎓👩‍🔧 ค่าแรงขั้นต่ำในประเทศเฮาและเพื่อนบ้าน GMS เฮา อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง👩‍🌾พื้นที่ที่เข้าร่วมโครงการ 1 ตำบล 1 กลุ่มเกษตรทฤษฎีใหม่

พามาเบิ่ง👩‍🌾พื้นที่ที่เข้าร่วมโครงการ 1 ตำบล 1 กลุ่มเกษตรทฤษฎีใหม่ . . การเกษตรของไทยก้าวหน้าไปไกลมาก ด้วยแนวทาง เกษตรทฤษฎีใหม่ ที่เกิดขึ้นในแต่ละตำบลทั่วประเทศ โครงการนี้เน้นการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เป็นการเกษตรที่ยั่งยืนเพื่ออนาคตของประเทศไทย . ในภาคภาคอีสาน ของเราเป็นแหล่งสำคัญของเกษตรกรไทย เรามีการดำเนินโครงการเกษตรทฤษฎีใหม่ในหลายจังหวัด ข้อมูลล่าสุดจากโครงการนี้แสดงให้เห็นถึงผลลัพธ์ที่ดีและชัดเจน เช่น . 1⃣.จังหวัดนครราชสีมา: มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการถึง 3,307 ครัวเรือน ครอบคลุมพื้นที่ 11,768.5 ไร่ โดยเฉลี่ยแล้วแต่ละครัวเรือนมีพื้นที่การเกษตรประมาณ 3.6 ไร่ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในการเกษตรอย่างมีประสิทธิภาพ 2⃣.จังหวัดอุดรธานี: ก็ไม่แพ้กัน โดยมีเกษตรกรถึง 3,929 ครัวเรือน ทำการเกษตรบนพื้นที่ทั้งหมด 15,540 ไร่ พื้นที่เฉลี่ยต่อครัวเรือนอยู่ที่ 4.0 ไร่ แสดงถึงการขยายตัวของการทำเกษตรที่ยั่งยืนในพื้นที่นี้ 3⃣.สกลนคร: อีกหนึ่งจังหวัดที่โดดเด่น มีเกษตรกร 2,311 ครัวเรือน ใช้พื้นที่ทำเกษตรกว่า 8,567 ไร่ พื้นที่เฉลี่ยอยู่ที่ 3.7 ไร่ต่อครัวเรือน . โครงการนี้ไม่เพียงเกิดขึ้นในภาคอีสานเท่านั้น แต่ยังขยายไปทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย เช่น 🌳 ภาคกลาง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งพื้นที่สำคัญของการเกษตรไทย มีเกษตรกรเข้าร่วมถึง 2,741 ครัวเรือน ใช้พื้นที่การเกษตรถึง 10,003 ไร่ เฉลี่ย 3.6 ไร่ต่อครัวเรือน 🌳 ภาคใต้ มีพื้นที่การเกษตร 5,966 ไร่ มีเกษตรกรเข้าร่วม 1,816 ครัวเรือน โดยแต่ละครัวเรือนมีพื้นที่เฉลี่ย 3.3 ไร่ . โครงการนี้มุ่งเน้นให้เกษตรกรสามารถเลี้ยงชีพได้และมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น นี่จึงเป็นก้าวสำคัญของการพัฒนาภาคเกษตรไทย ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยให้เกษตรกรมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น แต่ยังส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อมและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอีกด้วย   หมายเหตุ: ข้อมูลถึง มีนาคม 2567 . ติดตาม ISAN Insight & Outlook ทุกช่องทางได้ที่ https://linktr.ee/isan.insight   #ISANInsightAndOutlook #อีสาน #ISAN #อีสานอินไซต์ #Business #Economy #ธุรกิจ #เศรษฐกิจ #ธุรกิจอีสาน #เศรษฐกิจอีสาน #เกษตรทฤษฎีใหม่ #เกษตรยั่งยืน #เกษตรอีสาน #พัฒนาท้องถิ่น #1ตำบล1กลุ่ม #เกษตรกรอีสาน

พามาเบิ่ง👩‍🌾พื้นที่ที่เข้าร่วมโครงการ 1 ตำบล 1 กลุ่มเกษตรทฤษฎีใหม่ อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง🧐 18 สาขาอาชีพในอีสาน รายได้เฉลี่ยเดือนละเท่าไหร่🪙

พามาเบิ่ง18 สาขาอาชีพในอีสาน รายได้เฉลี่ยเดือนละเท่าไหร่.รายได้เฉลี่ยต่อเดือน ของทั้ง 18 สาขาอาชีพในภาคอีสาน มีดังต่อไปนี้การศึกษา ฿23,897กิจกรรมด้านสุขภาพและสังคมสงเคราะห์ ฿18,167ข้อมูลข่าวสารและการสื่อสาร ฿17,923กิจกรรมทางการเงินและการประกันภัย ฿17,323การบริหารราชการ การป้องกันประเทศ ฿15,380ไฟฟ้า ก๊าซ ไอน้ำ ฿14,353การขนส่งและสถานที่เก็บสินค้า ฿13,851การจัดหาน้ำ และการบำบัดน้ำเสีย ฿13,182กิจกรรมอสังหาริมทรัพย์ ฿12,323กิจกรรมทางวิชาชีพ วิทยาศาสตร์ และเทคนิค ฿11,523การทำเหมืองแร่ และเหมืองหิน ฿11,305การผลิต ฿10,877การขายส่งและขายปลีก ฿10,384กิจกรรมการบริหารและการบริการสนับสนุน ฿10,335ศิลปะ ความบันเทิง และนันทนาการ ฿9,761โรงแรมและร้านอาหาร ฿9,302การก่อสร้าง ฿8,721เกษตรกรรม ฿6,996.จากข้อมูลข้างต้นจะพบว่าสาขาอาชีพ ที่มีแหล่งรายได้จากทางราชการจะมีค่าเฉลี่ยสูงสุด เช่น ภาคการศึกษา, กิจกรรมด้านสุขภาพและสังคมสงเคราะห์ ที่มีความแตกต่างด้านรายได้อย่างมาก เพราะในฝั่งเอกชนจะมีรายได้สูง กว่าค่าจ้างจากทางภาครัฐ ยกตัวอย่างเช่น วิชาชีพแพทย์ พยาบาล ทันตแพทย์ ที่มีรายได้เฉลี่ยหลักหมื่น หรือ แสนบาทต่อเดือน ในขณะที่ รายได้ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านอยู่ในหลักพัน.ส่วนอาชีพที่รับรายได้ในภาคเอกชน การค้า และบริการ ในภาคอีสานยังใกล้เคียงกับค่าแรงเฉลี่ยขั้นต่ำที่ 400 บาท/วัน แต่ก็ยังมีอาชีพที่น่ากังวลคือ อาชีพด้านงานศิลป์ การบริการโรงแรมและอาหาร การก่อสร้าง ที่มีรายได้ต่ำที่สุด.สุดท้ายเกษตรกรที่มีรายได้เฉลี่ยต่ำที่สุด อาจพิจารณาได้จากหลายสาเหตุ เช่น รายได้ไม่แน่นอนขึ้นอยู่กับราคาสินค้าทางการเกษตรในช่วงเวลานั้นๆ, จำนวนเกษตรมีจำนวนมากถึง 4.1 ล้านคน ทำให้ค่าเฉลี่ยต่ำ, และสุดท้ายเพราะรายได้เกษตรกรเป็นรายได้ที่ส่วนใหญ่ได้รับการละเว้นการเสียภาษี หรือเกษตรก็ไม่ได้นำส่งรายได้เข้าสู่ระบบ ทำให้ไม่มีตัวเลขรายได้ที่แท้จริงปรากฏในระบบฐานข้อมูล..หมายเหตุ: ข้อมูลปี ไตรมาสที่ 1 ปี 2567ที่มา: สำนักงานสถิติแห่งชาติ.ติดตาม ISAN Insight ทุกช่องทางได้ที่https://linktr.ee/isan.insight.#ISANInsight #อีสาน #ISAN #อีสานอินไซต์ #Business #Economy #ธุรกิจ #เศรษฐกิจ #ธุรกิจอีสาน #เศรษฐกิจอีสาน #แรงงาน #ค่าจ้างเฉลี่ย #ค่าจ้างเฉลี่ยอีสาน

พามาเบิ่ง🧐 18 สาขาอาชีพในอีสาน รายได้เฉลี่ยเดือนละเท่าไหร่🪙 อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง อัตราค่าจ้างรายอาชีพในภาคอีสาน

สถิติค่าจ้างรายอาชีพของกรมจัดหางาน พบว่า ในปี 2566 ประเทศไทยมีสถิติค่าจ้างสูงสุดโดยแบ่งเป็น รายชั่วโมง 160 บาท รายวัน 850 บาท รายเดือน 300,000 บาท และต่ำสุดอยู่ที่ 8,550 บาทต่อเดือน ในส่วนของภาคอีสานนั้นในเป็นภาคที่มีรายได้สูงสุดต่ำที่สุดในประเทศอยู่ที่ 120,000 บาทต่อเดือน และหากมองเป็นรายได้เฉลี่ยต่อเดือนภาคอีสานก็ยังคงเป็นภาคที่มีรายได้เฉลี่ยน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับทุกภาคเช่นกันอยู่ที่ 12,510 บาทต่อเดือน   ถ้าเรามาดูในส่วนของรายได้เฉลี่ยตามหมวดอาชีพในภาคอีสาน 3 อันดับแรกที่มีรายได้เฉลี่ยสูงสุดในภาคอีสาน ได้แก่ ผู้จัดการ/เจ้าหน้าที่ระดับอาวุโส ≈ 16,601 บาทต่อเดือน ผู้ประกอบวิชาชีพด้านต่างๆ ≈ 14,767 บาทต่อเดือน ช่างเทคนิคและผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้อง ≈ 12,294 บาทต่อเดือน จะเห็นได้ว่าแม้รายได้สูงสุดของกลุ่มอาชีพนี้จะสูงมากแค่ไหนในส่วนของรายได้เฉลี่ยของคนส่วนใหญ่ที่ได้นั้นก็ยังคงอยู่เพียงแค่หลักหมื่นต้นๆเท่านั้น มีเพียงส่วนน้อยที่เป็นกลุ่มผู้มีประสบการณ์และความชำนาญสูงเท่านั้นที่จะได้ค่าจ้างสูงตามเพดานของอาชีพนั้นๆ   สำหรับอาชีพที่มีค่าจ้างเฉลี่ยต่อเดือนสูงที่สุดในประเทศ 5 อันดับแรก ได้แก่ นักวิเคราะห์การเงิน ≈ 47,225 บาทต่อเดือน ผู้บริหารระบบงานคอมพิวเตอร์ ≈ 37,588 บาทต่อเดือน นักวิเคราะห์และพัฒนาซอฟต์แวร์และโปรแกรมประยุกต์  ≈30,225 บาทต่อเดือน นักพัฒนาซอฟต์แวร์ ≈ 29,110 บาทต่อเดือน นักวิเคราะห์ด้านการบริหารและองค์การ ≈ 27,337 บาทต่อเดือน เมื่อเรามองดูกลุ่มอาชีพที่มีค่าจ้างเฉลี่ยต่อเดือนสูงนั้นจะพบว่า ส่วนใหญ่นั้นจะเป็นอาชีพเฉพาะทางที่อาศัยประสบการณ์ในการทำงานสูง โดยอาชีพ 3 ใน 5 นั้นเป็นอาชีพที่อยู่ในความเชี่ยวชาญด้านซอฟต์แวร์และเทคโนโลยี ซึ่งเป็นอาชีพที่มีกระแสมาแรงและความต้องการของทั่วโลกในบริษัทใหญ่ๆ มีสูงเช่นกัน   ในส่วนของอาชีพที่มีความต้องการมากที่สุดในประเทศไทย 5 อันดับแรกนั้น ได้แก่ พนักงานขายในศูย์บริการลูกค้า มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ 13,975 บาท เสมียนทั่วไป มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ 14,470 บาท ตัวแทนขายด้านการค้า มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ 18,405 บาท ผู้ประกอบวิชาชีพด้านโฆษณาและการตลาด มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ 18,929 บาท เสมียนด้านบัญชี มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ 15,107 บาท จะเห็นได้ว่าอาชีพส่วนใหญ่ที่มีความต้องการสูงในตลาดแรงงานนั้น 3 ใน 5 จะเป็นอาชีพที่เกี่ยวข้องกับการบริการลูกค้าและการตลาด จะไม่ใช่อาชีพที่อาศัยความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านเหมือนกลุ่มอาชีพที่ค่าจ้างสูง แต่เป็นอาชีพที่มีความต้องการของตลอดแรงงานสูง ขณะที่รายได้นั้นอยู่ในเกณฑ์ทั่วไป จากรายงานพบว่าภาคอีสานเป็นภาคที่มีรายได้เฉลี่ยต่ำที่สุดในประเทศ แม้ว่าจะมีจำนวนแรงงานมากเป็นอันดับสองของประเทศก็ตาม อย่างไรก็ตาม แรงงานส่วนใหญ่ในภาคอีสานทำงานอยู่ในภาคเกษตรกรรม ซึ่งเป็นภาคการผลิตที่มีรายได้ไม่สูง เมื่อพิจารณาค่าใช้จ่ายและรายได้ของกลุ่มคนในภาคเกษตรกรรม จะเห็นได้ว่ารายได้จากการทำเกษตรกรรมไม่สูงนัก เนื่องจากต้องรอผลผลิตตามฤดูกาล ในระหว่างนั้น แรงงานเกษตรต้องหารายได้เสริมจากอาชีพอื่นเพื่อเลี้ยงชีพ นอกจากนี้ เมื่อมีรายได้จากการขายผลผลิตเกษตร ส่วนใหญ่จะต้องนำไปชำระหนี้สินที่เกิดจากต้นทุนการผลิต ซึ่งยังไม่รวมถึงค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตประจำวัน ด้วยเหตุนี้ รายได้เฉลี่ยของภาคอีสานจึงไม่สูงนัก หากพิจารณาด้านความหลากหลายของอาชีพที่เป็นงานประจำ จะพบว่าไม่เพียงแต่ภาคอีสานเท่านั้น แต่ภาคอื่นๆ นอกเหนือจากกรุงเทพมหานครและปริมณฑลก็มีความหลากหลายทางอาชีพน้อยเช่นกัน เมื่อดูจากเว็บไซต์หางานต่างๆ ในพื้นที่ต่างจังหวัด

พามาเบิ่ง อัตราค่าจ้างรายอาชีพในภาคอีสาน อ่านเพิ่มเติม »

ส่องเบิ่ง 10 ปราสาทหิน ที่เที่ยวอีสาน อยู่หม่องใด๋แหน่ ?

ส่องเบิ่ง 10 ปราสาทหิน ที่เที่ยวอีสาน อยู่หม่องใด๋แหน่ ? . . ปราสาทหินพนมรุ้ง บุรีรัมย์ ปราสาทพนมรุ้ง หรือ อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง แห่งนี้ เป็นโบราณสถานที่เก่าแก่ของ บุรีรัมย์ ที่มาจากอิทธิพลของอารยธรรมเขมรโบราณ ซึ่งถือได้ว่ามีความสำคัญกับประเทศไทยอย่างมาก ศาสนสถานแห่งนี้สร้างขึ้นมาก็เพื่อถวายแด่พระศิวะ เทพเจ้าสูงสุดในศาสนาฮินดู ซึ่งก่อสร้างมาในช่วงหลายยุคหลายสมัยด้วยกัน ตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 15-18 . จึงทำให้มีความงดงามในด้านของสถาปัตยกรรม และความมหัศจรรย์ของปราสาทพนมรุ้ง นั่นก็คือ มีการเกิดปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่พระอาทิตย์ขึ้นและตกที่แสงอาทิตย์สาดส่องทะลุ 15 ช่องประตูของปราสาทพนมรุ้งในทุกๆ ปี ปีละ 4 ครั้ง จนเกิดเป็นงานประเพณีขึ้นเขาพนมรุ้งที่จัดขึ้นทุกๆ ปี . ที่อยู่ : อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์ พิกัด : https://goo.gl/maps/izNnHiBAHjXZJesL7   เปิดให้เข้าชม : 07.00-18.00 น. ค่าเข้าชม : ชาวไทย 20 บาท / ชาวต่างชาติ 100 บาท / สำหรับรถยนต์ 50 บาท โทร : 0-4466-6251 เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/Ensemble.of.Phanom.Rung  . ปราสาทหินเมืองต่ำ บุรีรัมย์ ปราสาทหินเมืองต่ำ หรือ ปราสาทเมืองต่ำ โดยเป็นศาสนสถานในศาสนาฮินดู มีสถาปัตยกรรมแบบศิลปะขอมโบราณ สันนิษฐานว่าน่าจะสร้างขึ้นในพุทธศตวรรษที่ 16-17 ภายในมีภาพจำหลักหินบนหน้าบัน และทับหลังที่สวยงามเหมาะแก่การศึกษาด้านประวัติศาสตร์และศิลปะสมัยขอมโบราณเป็นอย่างมาก อีกทั้งส่วนของลักษณะสถาปัตยกรรมด้านในของปราสาทเมืองต่ำนั้น ก่อสร้างด้วยฝีมือช่างในระดับช่างหลวง เรียกได้ว่าเป็นโบราณสถานที่สวยงามแห่งหนึ่ง . ที่อยู่ : บ้านโคกเมือง ตำบลจรเข้มาก อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ พิกัด : https://goo.gl/maps/CqGqzk3PQQumvXCM8    เปิดให้เข้าชม : 08.00-18.00 น. โทร : 0-4466-6251 เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/muangtamtemple/ . ปราสาทหินพิมาย นครราชสีมา ปราสาทหินพิมาย ตั้งอยู่ภายใน อุทยานประวัติศาสตร์พิมาย ภายในจะเป็นโบราณสถานสมัยขอมทั้งหมด ตั้งแต่ชิ้นเล็กๆ ไปจนถึงชิ้นใหญ่โต โดยสร้างขึ้นตามความเชื่อเกี่ยวกับสวรรค์และโลกมนุษย์ สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 เพื่อใช้เป็นเทวสถานของศาสนาพราหมณ์ และปราสาทหินพิมายยังเป็น ปราสาทหินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย . ที่อยู่ : ตำบลในเมือง อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา พิกัด : https://goo.gl/maps/224momsF3rCv6ewf9  เปิดให้เข้าชม : 07.00-18.00 น.

ส่องเบิ่ง 10 ปราสาทหิน ที่เที่ยวอีสาน อยู่หม่องใด๋แหน่ ? อ่านเพิ่มเติม »

พามาเบิ่ง สัดส่วน ศาสนิกชนของคนในอีสานบ้านเฮาและเพื่อนบ้าน GMS 

พามาเบิ่ง สัดส่วน ศาสนิกชนของคนในอีสานบ้านเฮาและเพื่อนบ้าน GMS  . ในภูมิภาคอีสานของไทย เฮาพบว่าศาสนาพุทธยังคงเป็นศาสนาหลักเด้อ นำหน้าด้วย 98.10% ของประชากรที่เฮ็ดบุญกัน นอกจากนั่นยังมีผู้บ่ถือศาสนาประมาณ 1% แล้วกะคริสต์อีก 0.40% ต่อมาด้วย  ลาวบ้านเฮือนข้างบ้านกะบ่แตกต่างกัน ศาสนาพุทธยังเป็นหลัก 95% ในขณะเดียวกันกะมีความเชื่อท้องถิ่นอยู่ที่ 5% ส่วนกัมพูชากะเฮ็ดบุญหลาย พุทธ 97% ส่วนมุสลิมมี 2% แล้วกะคริสต์มีอยู่ 1%  พม่า พุทธยังคงเป็นหลักอยู่ 87.9% แต่คริสต์กะมาหนักแน่นอยู่ 6.2% และมุสลิมอีก 4.3%  เวียดนามเป็นประเทศที่ประชากรส่วนใหญ่บ่ได้ถือศาสนาเลยถึง 86.32% แต่ยังมีคนพุทธอยู่ 4.79% และคริสต์อีก 6.1%  จีน ที่คนบ่ถือศาสนาอยู่ที่ 31.8% นอกจากนั่นกะยังมีความเชื่อจีนโบราณอยู่ถึง 30.8% และพุทธอยู่ 16.6%  การเปรียบเทียบสัดส่วนศาสนิกชนในประเทศไทย ลาว พม่า เวียดนาม และจีน เป็นเรื่องที่น่าสนใจ เนื่องจากประเทศเหล่านี้มีประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และภูมิหลังทางสังคมที่แตกต่างกัน ซึ่งส่งผลต่อความเชื่อทางศาสนาของประชาชนในแต่ละประเทศ . ไทย ศาสนาพุทธนิกายเถรวาท: เป็นศาสนาประจำชาติ มีผู้คนนับถือมากที่สุด ศาสนาอิสลาม: ส่วนใหญ่เป็นมุสลิมสุนหนี่ กระจุกตัวอยู่ในภาคใต้ ศาสนาคริสต์: ส่วนใหญ่เป็นคาทอลิกและโปรเตสแตนต์ ศาสนาอื่น ๆ: เช่น พราหมณ์-ฮินดู ซิกข์ . ลาว ศาสนาพุทธนิกายเถรวาท: เป็นศาสนาประจำชาติ มีผู้คนนับถือมากที่สุด ศาสนาผี: ความเชื่อผสมผสานกับพุทธศาสนา ศาสนาคริสต์: มีจำนวนน้อย ศาสนาอิสลาม: มีจำนวนน้อย . พม่า ศาสนาพุทธนิกายเถรวาท: เป็นศาสนาประจำชาติ มีผู้คนนับถือมากที่สุด ศาสนาคริสต์: มีจำนวนน้อย ศาสนาอิสลาม: ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในรัฐยะไข่ . เวียดนาม ศาสนาพุทธนิกายมหายาน: เป็นศาสนาหลัก ศาสนาพื้นเมือง: ความเชื่อผสมผสานกับพุทธศาสนาและขงจื๊อ ศาสนาคริสต์คาทอลิก: มีผู้คนนับถือจำนวนมากในบางพื้นที่ ศาสนาคริสต์โปรเตสแตนต์: มีผู้คนนับถือน้อย . จีน ศาสนาไร้神论 (Wu Shen Lun): หรือลัทธิไร้พระเจ้า เป็นอุดมการณ์หลักของรัฐบาลจีน ศาสนาพุทธนิกายมหายาน: มีผู้คนนับถือจำนวนมาก ศาสนาเต๋า: มีอิทธิพลต่อวัฒนธรรมจีน ศาสนาคริสต์: ส่วนใหญ่เป็นคาทอลิกและโปรเตสแตนต์ ศาสนาอิสลาม: ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในมณฑลซินเจียง . หมายเหตุ: สัดส่วนศาสนิกชนอาจมีการเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาและนโยบายของรัฐบาลในแต่ละประเทศ . ปัจจัยที่ส่งผลต่อความหลากหลายทางศาสนา #ประวัติศาสตร์: การติดต่อสัมพันธ์กับต่างชาติ การรุกราน และการค้าขาย ส่งผลต่อการเผยแผ่ศาสนา #วัฒนธรรม: ความเชื่อ

พามาเบิ่ง สัดส่วน ศาสนิกชนของคนในอีสานบ้านเฮาและเพื่อนบ้าน GMS  อ่านเพิ่มเติม »

Scroll to Top