ปริมาณการผลิตและสายพันธ์ุหมูท้องถิ่นในกลุ่มประเทศ GMS

🇰🇭กัมพูชามีปริมาณการผลิตหมูต่อปีที่ 101,251.76 ตัน 

อุตสาหกรรมการผลิตเนื้อหมูในกัมพูชาปัจจุบันมีการลงทุนจากต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศไทย ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เนื่องจากการเลี้ยงหมูในกัมพูชาเองยังอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคที่มีประชากรใกล้เคียงกัน การขยายการเลี้ยงหมูของ CP Cambodia เป็นหนึ่งในตัวอย่างของการลงทุนดังกล่าว มุ่งเน้นการปรับปรุงเทคนิคการเลี้ยงและการจัดการฟาร์มเพื่อเพิ่มผลผลิตและลดการนำเข้าเนื้อหมูจากต่างประเทศ

พันธ์ุหมูท้องถิ่นในกัมพูชา มีดังนี้

  1. พันธุ์หมูเขมรแดง (Khmer Rouge): พันธุ์หมูเขมรแดงเป็นพันธุ์หมูที่ได้รับความนิยมอย่างมากในกัมพูชา เนื่องจากมีความทนทานและต้านทานโรคได้ดี อย่างไรก็ตาม พันธุ์นี้มีนิสัยก้าวร้าวมาก จึงไม่เหมาะกับการเลี้ยงในที่แคบกับคนหรือสัตว์อื่น ๆ
  2. พันธุ์หมูกัมพูชาขาว (Cambodian White): พันธุ์หมูกัมพูชาขาวเป็นอีกพันธุ์หนึ่งที่ได้รับความนิยมในกัมพูชา มีความก้าวร้าวน้อยกว่าหมูเขมรแดง แต่มีโครงสร้างร่างกายที่แข็งแรงและต้านทานโรคได้ดี
  3. พันธุ์หมูแม่น้ำโขงแดง (Mekong Red): พันธุ์หมูแม่น้ำโขงแดงเป็นหมูขนาดเล็กจากเวียดนาม แม้ว่าจะไม่ต้านทานโรคได้ดีเท่ากับสองพันธุ์ที่กล่าวถึงข้างต้น แต่ก็มีนิสัยสงบและง่ายต่อการเลี้ยง

 

🇨🇳จีนมีปริมาณการผลิตหมูต่อปีที่ 56,321,097.32 ตัน 

ประเทศจีน เป็นประเทศที่ผลิตและบริโภคเนื้อหมูมากที่สุดในโลก ตั้งแต่ปี 1990 เป็นต้นมา การผลิตเนื้อหมูสเกลขนาดใหญ่ได้เข้ามาแทนที่ระบบการผลิตเนื้อหมูที่เคยทำโดยครอบครัว การใช้เทคโนโลยีการผสมพันธุ์ การให้อาหาร การฉีดวัคซีน และการจัดการแบบสมัยใหม่มีการใช้อย่างแพร่หลาย อย่างไรก็ตาม ผู้เลี้ยงหมูรายย่อยยังคงมีสัดส่วนมากในอุตสาหกรรมนี้ การผลิตเนื้อหมูในจีนมีแนวโน้มที่จะเพิ่มความเข้มข้นในการใช้เทคโนโลยีอีกในอนาคต จากการเข้ามาของระบบปฎิบัตการ AI ในการช่วยบริหารและควบคุมคุณภาพ แต่การผลิตเนื้อหมูในจีนปัจจุบันยังมีความท้าทายในมิติการผลิตอย่างไรให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมีความยั่งยืน

พันธ์ุหมูท้องถิ่นในจีน มีดังนี้

  1. หมูไท่หู (TAIHU): หมูไท่หูมาจากหุบเขาไท่หู ใกล้กับเซี่ยงไฮ้ ในพื้นที่การเกษตรที่มีชื่อเสียง มีสภาพอากาศกึ่งเขตร้อนชื้น ฝนตกเหมาะสม และผลผลิตพืชสูง หมูไท่หูแบ่งออกได้หลายสายพันธุ์ โดยสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ เหม่ยซาน เฟิงจิง เจียซิงดำ และเอ่อหัวเหลียน หมูไท่หูมีหัวใหญ่ หน้าผากกว้าง ผิวหนาและเหี่ยวย่น หูและปากใหญ่ตกลง มีขนสีดำบนตัวที่หนาและเป็นกลุ่ม หมูเหม่ยซานมีขนาดตัวใหญ่ที่สุดและมีความสามารถในการสืบพันธุ์สูง
  2. หมูจินหัว (JINHUA): หมูจินหัวมาจากภาคกลางของจีนในเขตที่มีอากาศชื้นและอบอุ่น เป็นพันธุ์ขนาดกลาง มีลำตัวสีขาว หัวและสะโพกสีดำ จึงถูกเรียกว่า “สองปลายดำ” หมูจินหัวเจริญเติบโตเร็วและมีความอุดมสมบูรณ์สูง สามารถปรับตัวได้ดีในสภาพแวดล้อมที่รุนแรง ใช้ในการผลิตเนื้อสัตว์ ทำน้ำซุป และผลิตแฮม หมูจินหัวมีไขมันสะสมมาก ทำให้เนื้อมีรสชาติหวาน แฮมจินหัวเป็นที่รู้จักทั่วโลกในเรื่องรสชาติและสีชมพูอ่อน

 

🇱🇦ลาวมีปริมาณการผลิตหมูต่อปีที่ 101,253 ตัน 

ในประเทศลาว เนื้อหมูเป็นแหล่งโปรตีนที่สำคัญอันดับสองรองจากปลา และความต้องการเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทุกปี การผลิตหมูในเขตเมืองเวียงจันทน์มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก ตั้งแต่ระบบการผลิตขนาดใหญ่เข้ามาแทนที่การผลิตแบบครัวเรือน ในปี 2020 ลาวมีจำนวนหมูประมาณ 4.3 ล้านตัว โดย 91% เป็นหมูพื้นเมือง และ 54% ของหมูทั้งหมดถูกเลี้ยงในเวียงจันทน์ ราคาเนื้อหมูเฉลี่ยในปี 2020 อยู่ที่ 46,000 กีบ/กก. เพิ่มขึ้น 22% จากปี 2019 และ 11% จากปี 2015 ความท้าทายในการเลี้ยงหมูในลาวคือ การจัดการให้อาหารและปัญหาสิ่งแวดล้อม ทางรัฐบาลลาวแนะนำให้เกษตรการใช้วัสดุอาหารสัตว์รูปแบบใหม่ และระบบการให้อาหารที่แม่นยำ และการรีไซเคิลมูลสัตว์ เพื่อเพิ่มความยั่งยืนในการผลิตเนื้อหมูในลาว

พันธ์ุหมูท้องถิ่นในลาว มีดังนี้

  1. หมูหลาด (Moo Lat): ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่สูง (หลวงพระบาง อุดมไซ ไซสมบูรณ์) แต่ก็พบในบางพื้นที่ต่ำ (จังหวัดสาละวันและสะหวันนะเขต) สายพันธุ์นี้มีขนาดใหญ่กว่าชนิดแรกมาก ความยาวลำตัว 85-100 ซม. ความกว้างลำตัวและความสูง 84-102 ซม. และ 51-70 ซม. ตามลำดับ หูสั้นและชี้ไปข้างหน้า ใบหน้าตรง ขาและหน้าส่วนหน้ามีสีขาว

 

🇹🇭ไทยมีปริมาณการผลิตหมูต่อปีที่ 890,736 ตัน

การผลิตสุกรไทยส่วนใหญ่เป็นการเลี้ยงสุกรในพื้นที่บ้านเพื่อการบริโภคและสร้างรายได้เสริม ชาวนาไทยเลี้ยงสุกรเพื่อนำผลิตผลเหลือใช้จากการเกษตรและของเสียมาใช้ประโยชน์ และเพื่อสร้างรายได้เพิ่มเติม นอกจากนี้ยังเลี้ยงควาย วัว และสัตว์ปีกโดยการผลิตสุกรเป็นส่วนสำคัญในระบบการเกษตรขนาดเล็กแบบผสมผสาน

การเปลี่ยนแปลงจากการผลิตสุกรในหมู่บ้านไปสู่อุตสาหกรรมเชิงพาณิชย์สามารถอธิบายได้ด้วยการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคมที่สำคัญ ซึ่งเกิดขึ้นในประเทศไทยในช่วงสองสามทศวรรษที่ผ่านมา การเปลี่ยนแปลงนี้เห็นได้จากการเพิ่มขึ้นของประชากร การท่องเที่ยว และระดับรายได้ (ตามการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา) และการเพิ่มขึ้นของความต้องการเนื้อหมูทั้งในและต่างประเทศ

อุตสาหกรรมสุกรเชิงพาณิชย์

อย่างไรก็ตามอุตสาหกรรมการผลิตสุกรต้องพบกับข้อจำกัดหลายประการที่ทำให้การพัฒนาเกิดความล่าช้า เช่น การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการผลิตสุกรที่มีการพัฒนาอย่างช้าๆ การไม่เสถียรของราคาสุกร ค่าอาหารสัตว์สูง กฎระเบียบของรัฐบาล และการครองตลาดโดยผู้ค้าเนื้อสุกร ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา การเลี้ยงสุกรขนาดใหญ่หรือเชิงอุตสาหกรรมได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในภาคตะวันออกและภาคกลางของประเทศ การผลิตสุกรมีความเข้มข้นในจังหวัดภาคกลางรอบกรุงเทพฯ ซึ่งคิดเป็นประมาณ 36 ถึง 40 เปอร์เซ็นต์ของการผลิตสุกรทั้งหมดของประเทศไทย

พันธ์ุหมูท้องถิ่นในไทย มีดังนี้

  1. หมูพันธุ์ไหหลำ: หมูพันธุ์นี้มีถิ่นกำเนิดทางตอนใต้ของประเทศจีน พบในภาคกลาง และภาคใต้ของประเทศไทย ลำตัวมีสีขาวกับดำปนกัน สีดำมากในตอนหัว ไหล่ หลัง และบั้นท้าย ส่วนตอนล่างของลำตัวมีสีขาว
  2. หมูพันธุ์ควาย: พบเลี้ยงในภาคเหนือของประเทศไทย สีของหมูพันธุ์นี้คล้ายสีของหมูพันธุ์ไหหลำ แต่ลำตัวมีสีดำเป็นส่วนใหญ่ จมูกของหมูพันธุ์ควายตรงกว่า และสั้นกว่า และมีรอยย่นมากกว่า ลำตัวเล็กกว่าหมูพันธุ์ไหหลำ ไหล่และสะโพกเล็ก ขาและข้อเหนือกีบเท้าอ่อน

 

🇻🇳เวีนดนามมีปริมาณการผลิตหมูต่อปีที่ 3,102,000 ตัน

เนื้อหมูมีความสำคัญอย่างมากในเวียดนาม เนื่องจากมีส่วนช่วยในด้านโภชนาการของมนุษย์ บทบาทในระบบการผลิตทางการเกษตร และการมีบทบาททางเศรษฐกิจ ฟาร์มสุกรของเวียดนามเป็นฟาร์มสุกรที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากประชาการที่มากและเศรษฐกิจที่เติบโตได้ดี ส่งผลให้การบริโภคอาหารรวมถึงเนื้อสัตว์เพิ่มขึ้นอย่างมาก การบริโภคเนื้อหมูต่อหัวในปี 2021 อยู่ที่ประมาณ 26 กิโลกรัมต่อคน และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 37.5 กิโลกรัมต่อคนในปี 2027

อุตสาหกรรมสุกรในเวียดนามเผชิญกับความท้าทายหลายประการ เช่น โรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) และการระบาดของโควิด-19 การระบาดของ ASF ทำให้สุกรกว่า 6 ล้านตัวถูกกำจัด และฟาร์มขนาดเล็กและขนาดกลางหลายแห่งเลิกกิจการ ฟาร์มสุกรเชิงพาณิชย์และฟาร์มสมัยใหม่ได้รับการพัฒนาแทนฟาร์มขนาดเล็ก และ เวียดนามยังคงพึ่งพาการนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ เช่น ข้าวโพดและข้าวสาลี ซึ่งส่งผลให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นและกำไรลดลง ความท้าทายด้านราคาอาหารสัตว์ที่สูงยังคงเป็นปัญหาใหญ่สำหรับอุตสาหกรรมสุกรของเวียดนาม

พันธ์ุหมูท้องถิ่นในเวียดนาม มีดังนี้

  1. สุกรพันธุ์หล่างหง(Lang Hong): หรือที่รู้จักกันในชื่อสุกรหล่างซาน เป็นสายพันธุ์สุกรพื้นเมืองจากมณฑลซานตงในประเทศจีน มีลักษณะเฉพาะคือลายสีดำและขาว โครงสร้างกระชับ และมีความทนทาน
  2. สุกรพันธุ์มงกาย(Mong Cai): เป็นหนึ่งในสายพันธุ์สุกรที่พบได้บ่อยที่สุดในภาคเหนือของเวียดนาม โดยเฉพาะในจังหวัดในพื้นที่ภูเขาทางเหนือ เขตสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแดง และส่วนเหนือของชายฝั่งภาคกลาง

 

ที่มา: Pig production in Vietnam: U. Lemke, dagris.info, livestockoftheworld.com, opendevelopmentmekong.net, angelfire.com, Food and Agriculture Organization, asiafarming.com

Leave a Comment

Your email address will not be published.

Scroll to Top