🇹🇭ไทยเที่ยวจีนแต่🇨🇳จีนไม่เที่ยวไทย ผ่านมา ปีครึ่ง “ฟรีวีซ่า ไทย-จีน” นนท.ไม่เพิ่ม การท่องเที่ยวปี 68 หดตัว

ตั้งแต่ มีนาคม 2567 เป็นต้นมา มาตรการ ฟรีวีซ่า ไทย-จีน เป็นผลดีมากน้อยเพียงใด เวลาอาจเป็นเครื่องพิสูจน์ และยังเป็นการเน้นย้ำว่า มาตรการเดียวอาจจะไม่สามารถแก้ปัญหาการท่องเที่ยวไทยได้ทั้งหมด

ISAN Insight พามาเบิ่ง ข้อมูลด้านธุรกิจและเศรษฐกิจ ที่รวบรวม ข้อมูลเกี่ยวกับการท่องเที่ยว “ไทย-จีน” หลังนโยบายฟรีวีซ่าเป็นประเด็นที่น่าสนใจและมีข้อมูลล่าสุดที่ควรนำมาวิเคราะห์ดังนี้

 

“ฟรีวีซ่า ไทย-จีน” นทท.ไม่เพิ่มจริงหรือ?

 

ข้อมูลล่าสุดปี 2568 ชี้ว่า แม้จะมีนโยบายฟรีวีซ่าถาวรระหว่างไทยกับจีนที่เริ่มต้นเมื่อเดือนมีนาคม 2567 แต่จำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาไทย ไม่ได้เพิ่มขึ้นในอัตราที่ก้าวกระโดดอย่างที่คาดหวังไว้แต่แรก

  • จำนวนนักท่องเที่ยวจีน: ในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 มีจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาไทยประมาณ 4-5 ล้านคน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ฟื้นตัวได้ดีเมื่อเทียบกับช่วงก่อนนโยบายฟรีวีซ่า แต่ยังไม่ถึงเป้าหมายที่รัฐบาลตั้งไว้ที่ 8 ล้านคนภายในสิ้นปี [1]
  • แรงกดดันจากเศรษฐกิจจีน: ปัญหาเศรษฐกิจภายในประเทศของจีน เช่น ภาวะเงินฝืด และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ลดลง ทำให้ชาวจีนชะลอการใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวต่างประเทศลง ประกอบกับสายการบินระหว่างไทย-จีนยังไม่กลับมาให้บริการอย่างเต็มที่เท่าช่วงก่อนโควิด-19 และราคาตั๋วเครื่องบินที่ยังคงสูง [2] ทำให้ปัจจัยเหล่านี้เป็นอุปสรรคสำคัญที่ฉุดรั้งการเดินทางของนักท่องเที่ยวจีน

 

“ไทยเที่ยวจีนแต่จีนไม่เที่ยวไทย” – สถิติอัปเดตปี 2568

 

ข้อมูลล่าสุดจากปี 2568 ชี้ให้เห็นว่า การท่องเที่ยวของประเทศไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายสำคัญ เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยรวมลดลงจากที่คาดการณ์ไว้ และตลาดจีนซึ่งเคยเป็นตลาดอันดับหนึ่งก็ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่

 

สถานการณ์ภาพรวมการท่องเที่ยวไทยปี 2568

 

  • จำนวนนักท่องเที่ยวหดตัว: ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์ว่า ตลอดปี 2568 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาไทยจะอยู่ที่ประมาณ 32.2 ล้านคน ซึ่งเป็นการ หดตัว 9% จากปี 2567 [3]
  • 10 อันดับแรกนักท่องเที่ยวต่างชาติ (8 เดือนแรกปี 2568):
    1. จีน: 3,096,017 คน
    2. มาเลเซีย: 3,049,961 คน
    3. อินเดีย: 1,563,806 คน
    4. รัสเซีย: 1,195,430 คน
    5. เกาหลีใต้: 1,036,361 คน
    6. ญี่ปุ่น: 712,158 คน
    7. สหราชอาณาจักร: 708,929 คน
    8. สหรัฐ: 692,212 คน
    9. ไต้หวัน: 672,067 คน
    10. ลาว: 630,051 คน [4]

แม้จีนจะยังครองอันดับหนึ่ง แต่จำนวนนักท่องเที่ยวจากจีน ลดลงกว่า 34.13% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน [5] ขณะที่นักท่องเที่ยวจากตลาดอื่น ๆ เช่น ยุโรป, เอเชียใต้ (อินเดีย), และตะวันออกกลาง มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แต่การเติบโตนี้ยังไม่เพียงพอที่จะชดเชยการหดตัวของตลาดหลักอย่างจีนได้ [3]

 

เหตุผลที่นักท่องเที่ยวจีนไปเที่ยวที่อื่นแทนประเทศไทย

 

ปัจจัยที่ทำให้นักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาไทยลดลง มีหลายสาเหตุที่ซับซ้อน ได้แก่:

  1. ปัญหาด้านความปลอดภัย: ปัจจัยนี้เป็นประเด็นหลักที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อความรู้สึกของนักท่องเที่ยวจีน รายงานจาก The Standard ระบุว่า 50% ของนักท่องเที่ยวจีนมองว่าประเทศไทยไม่ปลอดภัย ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 38% ในปี 2567 [6] โดยมีสาเหตุหลักมาจากข่าวการลักพาตัวนักแสดงชาวจีน, ปัญหาอาชญากรรม รวมถึงข่าวธุรกิจสีเทาที่สร้างความกังวล
  2. สถานการณ์เศรษฐกิจในจีน: ปัญหาภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศจีน ทำให้กำลังซื้อและค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวต่างประเทศลดลง [7]
  3. การหันมาท่องเที่ยวในประเทศของชาวจีน: รัฐบาลจีนได้ส่งเสริมให้ประชาชนท่องเที่ยวภายในประเทศมากขึ้น [6] ทำให้สถานที่ท่องเที่ยวในจีนได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น
  4. คู่แข่งทางการท่องเที่ยวในภูมิภาค: ประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน เช่น เวียดนาม มาเลเซีย และสิงคโปร์ กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวจีน เนื่องจากเป็นประเทศที่เดินทางสะดวก, ค่าใช้จ่ายถูกกว่า และมีภาพลักษณ์ด้านความปลอดภัยที่ดีกว่า [8] โดยเฉพาะเวียดนามที่รายงานว่าในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2568 มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางไปแล้วกว่า 3.5 ล้านคน เพิ่มขึ้นถึง 44% และสามารถแซงหน้าไทยขึ้นเป็นอันดับหนึ่งในใจนักท่องเที่ยวจีนได้อย่างสมบูรณ์ [9]

การหดตัวของตลาดนักท่องเที่ยวจีนและการเพิ่มขึ้นของตลาดอื่น ๆ บ่งชี้ว่าโครงสร้างการท่องเที่ยวของไทยกำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ และการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมจำเป็นต้องพึ่งพาการกระจายความเสี่ยงไปยังตลาดอื่น ๆ มากขึ้น


การท่องเที่ยวไทยปี 2568 หดตัวจริงหรือไม่?

 

ในภาพรวม การท่องเที่ยวของไทยในปี 2568 ยังคงเติบโต ไม่ได้หดตัว แต่เป็นการเติบโตในอัตราที่ช้าลงกว่าที่คาดการณ์ไว้ และต้องเผชิญกับความท้าทายหลายประการ

  • ภาพรวมการเติบโต: แม้ตลาดจีนจะฟื้นตัวไม่เร็วเท่าที่ควร แต่ตลาดท่องเที่ยวอื่นๆ เช่น ตะวันออกกลาง อินเดีย และรัสเซีย ยังคงมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติรวมเดินทางมาไทยในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2568 เกิน 15 ล้านคน ซึ่งสูงกว่าช่วงเดียวกันของปี 2567 [10]
  • รายได้และเป้าหมาย: รัฐบาลได้ปรับลดเป้าหมายรายได้จากการท่องเที่ยวรวมในปี 2568 ลงเล็กน้อย จากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ประมาณ 3.5 ล้านล้านบาท เหลือประมาณ 3 ล้านล้านบาท เนื่องจากสถานการณ์ตลาดจีนที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ และปัจจัยทางเศรษฐกิจโลก [11]
  • การหดตัวของตลาดจีน: แม้ภาพรวมจะเติบโต แต่ตลาดจีนซึ่งเคยเป็นตลาดหลักอันดับหนึ่งของไทยก่อนเกิดโรคระบาด กำลังเผชิญกับปัญหาที่ทำให้การฟื้นตัวเป็นไปอย่างช้าๆ ส่งผลให้ธุรกิจที่พึ่งพานักท่องเที่ยวจีนโดยตรง เช่น ร้านอาหาร โรงแรม และธุรกิจนำเที่ยว ต้องเผชิญกับภาวะชะลอตัว

 

สรุปและมุมมองสำหรับนักธุรกิจ

 

ประเด็นข่าวที่น่าสนใจสำหรับการนำไปเผยแพร่ คือ “การฟรีวีซ่าไม่ได้เป็นยาวิเศษที่สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้อย่างรวดเร็ว” และชี้ให้เห็นว่าการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวไทยต้องพึ่งพาปัจจัยที่ซับซ้อนกว่าการยกเลิกวีซ่าเพียงอย่างเดียว เช่น ปัจจัยทางเศรษฐกิจโลก กำลังซื้อของนักท่องเที่ยว และความสามารถในการรองรับของสายการบินและโครงสร้างพื้นฐาน

การที่รัฐบาลจีนยังคงดำเนินนโยบายการควบคุมเศรษฐกิจและปัญหาความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการตัดสินใจเดินทางไปต่างประเทศของชาวจีน รวมถึงการที่ชาวจีนหันมาเดินทางท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้นเนื่องจากการสนับสนุนจากรัฐบาล

 

แหล่งที่มา

  • [1]: กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, รายงานสรุปสถานการณ์การท่องเที่ยวประจำเดือนมิถุนายน 2568.
  • [2]: Bangkok Post, Thai tourism still short of targets despite China visa waiver, https://www.bangkokpost.com/business/2763212/thai-tourism-still-short-of-targets-despite-china-visa-waiver
  • [3]: ศูนย์วิจัยกสิกรไทย, KResearch ชี้ต่างชาติเที่ยวไทยปี 2568 เสี่ยงหดตัว 9% เหตุตลาดหลักยังไม่ฟื้น, https://today.line.me/th/v3/article/LXrMQvl
  • [4]: กรุงเทพธุรกิจ, เปิดสถิติ ต่างชาติเที่ยวไทย 8 เดือนแรกปี 68 สะสม 21.88 ล้านคน ติดลบ 7%, https://www.bangkokbiznews.com/business/business/1197548
  • [5]: Amarin TV, 6 เดือน นทท.จีนเที่ยวไทยลดลงกว่า 34% เปิดอินไซต์เที่ยวไทยจาก Agoda, https://www.amarintv.com/spotlight/economy/519870
  • [6]: The Standard, ทำไม ‘คนจีน’ ถึงไม่กลับมาเที่ยวไทยแล้ว?, https://thestandard.co/why-chinese-tourists-no-longer-come-to-thailand/
  • [7]: Pantip, สรุปเหตุผลที่ “นักท่องเที่ยวจีนวูบหาย” อาจไม่ใช่ชั่วคราว แต่ จะหายไปตลอด, https://pantip.com/topic/43526022
  • [8]: Youtube, นักท่องเที่ยวจีนไม่มาไทย ไปเวียดนามแทน ถูกกว่า-เดินทางสะดวก, https://www.youtube.com/watch?v=u9niOhKAwq0
  • [9]: BTimes | LINE TODAY, เวียดนามยืนอันดับ 1 ตราตรึงใจทัวร์จีน คว่ำไทยหลุดหมุดหมายปลายทางท่องเที่ยวของคนจีนสมบูรณ์แบบ, https://today.line.me/th/v3/article/aGQv7e8
  • [10]: กรมการท่องเที่ยว, สรุปจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย ระหว่าง 1 มกราคม – 30 มิถุนายน 2568.
  • [11]: สำนักข่าวอินโฟเควสท์, รัฐบาลปรับลดเป้าหมายรายได้การท่องเที่ยวปี 68 เหลือ 3 ล้านล้านบาท หลังนักท่องเที่ยวจีนฟื้นตัวช้ากว่าคาด, https://www.infoquest.co.th/2025/08/25/71787

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Scroll to Top